วันพฤหัสบดีที่ 3 กันยายน พ.ศ. 2558

[Fic] THISMAN - หยางเฟิง CHAPTER 2'คนคนนี้ กำลังสนุก'






TITLE : [Fic] THIS MAN
CHAPTER : 2 คนคนนี้ กำลังสนุก
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG -13

TELL: ยิ้มก่อนอ่าน ตาหวานก่อนเปิด อ่านจบแล้วไปด่าได้ที่เมนชั่นผมหรือเมนท์ข้างล่าง




**************************************************************






ไม่เลวเลย....



สีหน้าของรุ่นพี่คนนี้ กับสิ่งที่เขาทำลงไป




ถึงจะบอกว่าเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบที่ลงมือทำกับคนที่เกลียด แต่เขารู้สึกสนุกและสะใจเป็นบ้า




ตอนนั้นที่แกล้งคนคนนี้ในห้องน้ำ ก็ไม่ได้คิดจะไปถึงขั้นให้เกิดอารมณืขนาดนั้น แต่เห็นหน้าที่เอาแต่ใจ และหยิ่งผยองเหมือนตัวเองตกลงมาจากสวรรค์แบบนั้น เห็นแล้วก็อยากทำให้ร้องไห้ซักที แต่เสียดายที่ดันมาคนมาเสียก่อน และหยางหยางก็ไม่ปฏิเสธว่า ใบหน้าที่คอยจ้องจะมอบความเกลียดนั่นกระตุกอารมณ์เขาไม่ใช่น้อย แต่เสียดายที่ตอนนั้นจำเป็นต้องละออกไปเพราะมีเสียงคนที่เข้าใกล้ห้องน้ำ และเขาว่าที่นั่นก็ยังไม่เหมาะ และนั่นน่ะมันก็แค่อินโทรอะไรสนุก ๆ ที่เขาจะทำกับหลี่อี้เฟิงเท่านั้น



แค่คิดก็สนุกแล้วที่จะต้องทำให้คนคนนี้ยอมรับความพ่ายแพ้ ทิ้งความหยิ่งผยองและอวดดีออกไป และที่สุดคืออยากให้คนคนนี้มาคุกเข่าบอกยอมแพ้กับหยางหยาง




ทำให้คนที่เกลียด ยอมแพ้ได้ ความสะใจนั้นสุดคณานับ เขาอาจจะดีใจจนฉลองยันเช้าที่ผับบาร์ที่ไหนกับสาว ๆสวยๆ หลังจากทำมิชชั่นนี้สำหรับ

ถือว่าเป็นของขวัฐสำหรับการทำงาน ที่จริงเป็นไปได้ ก็อยากให้คนคนนี้ทำงานลำบากและยากขึ้น ออกไปให้พ้นทางเขาเลยก็ดี มีวิธีไม่น้อยที่หยางหยางคนนี้ทำได้



“คงสนุกไม่น้อยเลย”




ไว้เรามาเล่นสนุกกันคุณรุ่นพี่





หยางหยางยิ้มมุมปากออกมาในขณะที่เขาใช้ความคิด






เขาไม่เคยบอกว่าเขาเป็นเทพบุตรเป็นเจ้าชายที่ไหน ภาพลักษณ์ที่ทุกคนมอบให้เขาเป็นมายาที่ถูกกำหนดในวงการบันเทิงทั้งนั้น ที่จริงเขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง รักสนุก และมองหาความรื่นเริงแบบผู้ชายทั่วไป


ไหน ๆ ก็ต้องทำงานที่กองนี้ไปอีกนาน ความสนุกที่จะได้ทำสงครรามกับคนที่เกลียดอยู่ตรงหน้าเขา จะช้าอยู่ทำไม ก่อนหน้านี้ ทีมงานของเขาให้หยางหยางเลี่ยงรุ่นพี่จอมลวงโลกนี่อยู่ตั้งนานสองนาน ก็เพราะความไม่ถูกกันของพวกเขานี่ล่ะ พวกเขากลัวว่ามันจะปะทุ มีเรื่องกันใหญ่โต ชกต่อย ? หรือทำร้ายร่างกาย ?




อะไรง่าย ๆ แบบนั้น ไม่ทำหรอกหน่า




มันยังทำให้คนคนนี้ อับอายไม่พอเสียหน่อย




มือเรียวสวยของหยางหยางยกท้าวคางอย่างไว้เชิง เขาใช้นิ้วเรียวลูบไปที่สันกราม อย่างช้า ๆ เพื่อใช้ความคิด และทอดมองสิ่งใหม่หลังจากที่เหม่อมองสิ่งอื่นอยู่ก่อนหน้า




หลี่อี้เฟิงที่นั่งประจบประแจงทีมงาน ดาราคนอืน เห็นแล้วสะอิดสะเอียน






ว่าไปไอ้แผลที่ปากยังอยู่ ที่จริงเขาควรทำให้เป็นแผลใหญ่กว่านี้ ไอ้ปากที่ช่างสอพลอจะได้หยุดลงเสียบ้าง 





“หยางหยาง มานั่งด้วยกัน “



หน้าด้าน  หยางหยางเบิกตาขึ้นเล็กน้อย ที่จริงเขาแปลกใจที่คนคนนี้ยังกล้าเรียกเขาด้วยสำเนียงและท่าทางแบบนั้น




คนคนนี้ที่หยางหยางส่งสายตาเกลียดชังอย่างสุดชีวิตแต่อีกฝ่ายไม่ได้ยี่หระแถมยังร้องเรียกเขาเหมือนสนิทซักชาติ แถมส่งยิ้มโบกมือให้เหมือนเราทักทายกันแบบนี้อยู่เป็นประจำ


เขาทนไม่ไหวจนต้องเบี่ยงหน้าหนี ทนความลองโลกทั้งที่เกลียดกันขนาดนี้





คนอะไร







หยางหยางเดินไปตามที่อี้เฟิงเรียก ทางฝั่งนั้นก็ส่งสายตาใสซื่อมาในแบบที่หยางหยางเห็นแล้วแทบทนมองไม่ได้ ทำไมถึงได้ลวงโลกเก่งนักนะ หน้าตาแบบนี้นี่เอง ความสามารถในการสวมหน้ากากหลอกคนอื่นของคนคนี้มันระดับปีศาจต้องอาย






เทพพบุตรแห่งชาติอะไรกัน นี่มันไอ้คนลวงโลก
แต่ยังไงก็สู้เขาไม่ได้หรอก
เขาจะทำให้คนคนนี้พ่ายแพ้
ย้ำอีกครั้งว่า หยางหยางจะทำให้คนคนนี้มาร้องไห้ต่อหน้า คุกเข่า และร้องขอให้เขาเลิกสงครามนี้
เขาพอดูออกว่าหลี่อี้เฟิงเป็นคนรักศักดิ์ศรี เกียรติ และหยิ่งทนงค์ในตัวเองขนาดไหน
ทั้งหมดนั้นของหลี่อี้เฟิงจะต้องพังลง ด้วยฝีมือของเขา
นั่นคงเป็นความสนุกในชีวิตอีกอย่างหนึ่งของหยางหยางที่จะต้องบันทึกเก็บไว้นานเท่านานเลย






“สวัสดีครับ เฟิงเกอ ผมกำลังทำอารมณ์กับบทอยู่เชียว”
“สมเป็นเสี่ยวเกอจริง ๆ “
“ก็เพราะมีอู๋เสียที่น่ารักแบบเกอไง”


อี้เฟิงหันขวับมาทันทีที่หยางหยางพูดจบ หลังจากที่ร่งรุ่นน้องนั่งลงข้าง ๆ เขา อี้เฟิงขยับร่นที่นั่งให้ร่งนั้นและ แสร้งทำเป้นคุยกันอย่งสนิทสนม แต่ประโยคเมื่อกี้มันทำให้อี้เฟิงรู้สึกสะอิดสะเอียน



คนคนนี้จะทำอะไร สร้างกระแสหรือ




บริษัทของเขาเคร่งเรื่องการเป็นข่าวมาก ยิ่งกระแสคู่จิ้นที่มีมากมายบนโซเชียลยิ่งเป็นอะไรที่ห้ามให้เกิดขึ้น เพราะนั่นจะกระทบถึงสาบงายทั้งปวงของอี้เฟิง และภาพลักษณ์ที่ได้สร้างมากับมือตลอดที่อยู่วงการ



เทพบุตรแห่งชาติ เขายังอยากรักษาฉายานี้ไว้



อี้เฟิงหันไปมองหน้าคนคนนี้ที่พูดประโยคที่อี้เฟิงไม่ลื่นหูเอาซะเลยอีกครั้ง หยางหยางแสร้งยิ้มให้ คนนอกคงเห็นว่าเขาทั้งคู่เป็นพี่น้องในวงการที่รักกันดี


แต่ไอบ้าสารเลวนี้น่ะ มันซาตานบนดิน


เทพบุตรแบบเขาไม่ควรมานั่งใกล้ให้แปดเปื้อนความเลวทรามของคนคนคนเลยด้วยซ้ำ



รุ่นพี่มองอีกฝ่ายอย่างประมาณการ และยื่นมือไปตบหลังหยางหยางอย่างสนิทสนม สร้างความเป็นกันเองต่อหน้าทุกคนที่อยู่ใกล้ ๆในวงสนทนานี้ โดนแซวกันไปต่างๆ นานา




“พวกนายนี่สนิทกันดีนะ”
“ก็นิดหน่อย รุ่นน้องผมนะเนี่ย”
“เดี๋ยวโดนจจับคู่ด้วยกันแน่”
“ก็นิยายมันมาแบบนั้นนี่ จะโดนจับคู่กันก็ไม่แปลกหรอก”
“ถ้าแบบนั้น...เรามาลองดูกันมั้ยเฟิงเกอ”


หยางหยางหันมาพูดกับเขา แล้วยังคว้ามือเขาไปจับ อี้เฟิงแทบอยากสะบัดหนีให้พ้นจากการพันธนาการนี้ รอบวงส่งสายตาล้อเลียนให้เห็น ไอ้บ้าข้าง ๆ ไม่มีแก้ต่างอะไรทั้งสิ้น




“โหยพวกพี่ก็ เจ้าหยางหยางนี่ก็ล้อเล่นไปเรื่อยเลย เดี่ยวก็โดนจับคู่ขึ้นมาจริงๆ กระแสติดลมบนขึ้นมา เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน”
“หรอครับ ผมว่าก็ดีนะ พี่ว่าไม่ดีหรอ เราก็ดูสนิทกันนี่ น่าสนุกอออก”





อี้เฟิงแทบอยากเอากล่องข้าวตรงหน้าขว้างใส่ใบหน้าหล่อแต่ร้ายกาจของหยางหยาง คนอะไรแบบนี้ คิดอะไรตื้นเขิน ที่เอาชื่อเสียงมาลงแลกกับการจับคู่จิ้นแบบนี้ เขาไม่เอาด้วยหรอก ถึงจะเป็นคู่จิ้นจริง ๆ ก็เป็นพี่เหว่ยถิงยังจะดีกว่าเป็นคนคนนี้





สะอิดสะเอียน เข้าขั้นอยากจะอ้วกใส่หน้าเลยด้วยซ้ำไป







และเจ้าซาตานบนดินคนนี้ ก็คิดแต่เรื่องสนุก ที่มีที่ตั้งบนความทุกข์ของคนอื่น หลี่อี้เฟิงไม่ชอบการทำอะไรแบบนี้
แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นความทุกข์ของคนคนนี้ ก็อาจจะทำได้
แต่อี้เฟิงในตอนนี้สถานการณ์ก็เป็นรองและยังเอาคืนไม่ได้




เขาต้องทำอะไรซักอย่าง




“ก็ได้ ไว้เรามาทำอะไรสนุก ๆ กัน “


อี้เฟิงตอบกลับรุ่นน้องดูทีเล่นทีจริง เขาแสดงท่าทีน่ารักตามที่ชอบทำออกไปด้วย ดูอีกคนจะอึ้งไปเล็กน้อยไม่คิดว่าเขาจะแสดงท่าทีน่ารัก ดูออดอ้อนเสียหน่อยใส่เจ้าตัว แน่นอนถ้าเป็นการอยู่ตามลำพังแค่สองคน เขาจะมีทางแสดงท่าทีแบบนี้ แต่นี่เพราะอยากให้อีกฝ่ายหลุดท่าที การเสแสร้างที่ดูไม่มั่นคง มีสายตาวูบวาบสลับไปมา หยางหยางยังเก็บอารมณ์ และปิดบังความรู้สึกและความคิดที่แท้จริงแบบคนที่มีประสบการณ์แบบอี้เฟิงไม่ได้




จะทำให้นายรู้สึกเกลียดฉันมาขึ้นดีมั้ย ? นายไม่ชอบฉัน ? ยิ่งฉันทำให้นายรู้สึกเกลียด สะอิดสะเอียน ทำตัวสนิทสนม มากเท่าไหร่ นายก็คงอยากเกลียดฉันมากเท่านั้น และนายต้องปล่อยตัวจริงที่เลวทรามของนายออกมาต่อหน้าโลกทุกคนที่มองจ้องนายอยู่จนได้






คนที่เป็นศัตรูกับเทพบุตรได้ก็มีแต่ซาตานที่ชั่วช้าแบบนาย
โดนคนเขาเกลียดเอาทั้งแผ่นดินไม่รู้ด้วยนะ
หยางหยาง





หลังจากนั้น หลี่อี้เฟิงก็เกาะติด ไปเล่นโน่น ทำนี่ แม้จะไปห้องแต่งตัวก็ตามติดไปด้วย แต่อี้เฟิงเซฟตัวเองด้วยการมีทีมงานของเขาเองติดไปด้วย ไม่เช่นนั้นก็คงจะโดนกระทำแบบในห้องน้ำอีกครั้ง นั่นทำให้เขารู้สึกแปดเปื้อนมือซาตานนี่เหลือเกิน



“สนิทกันเกินไปแล้ว อู๋เฟิง หยางฉี่หลิง”
“ไม่หรอกหน่า พี่น้องกัน”






พี่สาวในทีมงานสามสี่คนดูท่าทางเป็นแฟนนิยายเรื่องนี้ เห็นเขาทั้งสองที่ดูคุยกันสนิทสนม ต่างพากันแซว รุ่นพี่ที่อยู่ในกองเองก็ด้วย เดี๋ยวก็มาบอกว่าอินนิยายเกินไป เดี๋ยวก็มาบอกน่ารัก เคมีเข้ากันดี





เหอะ..ที่จริง หลี่อี้เฟิงไม่ได้อยากแตะต้อง หรือพูดคุย แค่สบตาก็ไม่ เกลียดมาด้วยซ้ำ
แต่รอให้อีกฝ่ายประทุความเกลียดต่อเขาออกมา เพราะทนความเสเสร้งจากเขาไม่ไหว
ซาตานอย่างเขาทนได้ไม่เท่าไหร่เดี๋ยวก็ระเบิด
ก็บอกว่า เกลียดเทพบุตรอย่างเขาคนนี้ อย่างไรก็มีแต่เสียกับเสีย





แค่รอให้คนคนนี้เสียไพ่ รอให้พลาด ความเกลียดที่สะสมล้นออกมาจากสายตาที่กักความรู้สึกไว้
พอระเบิดออกมา หลี่อี้เฟิงผู้เป็นเทพบุตรของทุกคน มั่นใจว่าร้อยทั้งร้อยโลกจะต้องให้มาหนุนเขา
ไม่ใช่ปีศาจอย่างคนคนนี้
ข่วยไม่ได้ภาพลักษณ์ของหมอนี่มันดูร้ายกาจเกินไป นั่นผิดที่เขาเอง
ก็สมกับหมอนี่ดีแล้ว








THISMAN













“เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ซักที หลี่อี้เฟิง”





ว้า...น่าเสียดาย.การทดลองในครั้งแรกผลไม่ดีเท่าไหร่ คนคนนี้โมโหออกมาก็จริงแต่ก็ดันเป็นตอนที่ทีมงานออกไปคุยงานด้านนอก






“อะไรกันเล่า รุ่นน้องสุดที่รัก”
“ทำตัวแบบนี้ คิดว่ามันสนุกมากสิท่า”
“สำหรับฉันน่ะสนุกแน่  ว้า... แต่ฉันยั่วโมโหนายไม่ได้ตามที่คิด แต่ไม่เป็นไร โอกาสที่จะให้นาย แสดงด้านชั่ว ๆ ออกมามีอีกเยอะแยะ”


อี้เฟิงยิ้มหวานราวมีดอาบน้ำผึ้งส่งไปให้หยางหยางก่อนจะเตะเท้าอย่างวางท่าและก้าวออกจากที่ยืนเดิม เขาควรออกไปก่อนที่จะนานเกินไปที่หยางหยางจะทำอะไรเขาได้ เรื่องแรงเขาสู้ไม่ได้ ต้องเอาคนหมู่มากเป็นด่านไว้เสียก่อน



“อ๊ะ!




แต่อี้เฟิงก็ดันเสียท่ารอบสอง เขาคิดออกและก้าวเท้าช้าเกินไป




หยางหยางไม่ได้ปล่อยให้อี้เฟิงได้ดิ้นรนสู้อะไรเลย คนคนนี้แข็งแรงมากเพราะเขาทั้งเข้ายิมและฝึกกล้ามเนื้อและทุกอย่างเพื่อละครมาอย่างดี อย่างที่อี้เฟิงไม่เคยทำ นี่นับเป็นข้อเสียเปรียบอย่างมากของอี้เฟิง เขาจึงต้องคิดอยู่เสมอว่าตัวเองจะต้องอยู่ท่ามกลางคนหมู่มากไว้ เพื่อปกป้องตัวเองจากไอคนพรรค์นี้


แต่ช้า..หลี่อี้เฟิงช้าไป




“ช้าไปแค่ก้าวเดียว..คุณเทพบุตร”



ไอ้เวรเอ๊ย....

ซาตานอย่างนายก็ทำอะไรชั่ว ๆ แบบนี้ได้ คิดได้แค่นั้นล่ะ






อี้เฟิงคิดประโยคนี้หลังจาก หยางหยางกระทำการหยาบคายกับตัวเขา ร่างแข็งแรงนั้นคว้าแขนอี้เฟิงที่เดินก้าวช้ากว่าอีกคนไม่กี่วินาที เหวี่ยงอย่างแรงลงเบาะโซฟาในห้องแต่งตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด ร่างเพรียวของอี้เฟิงพยายามดิ้นเร่าให้หลุดจากพันธการนี้อย่างสุดกำลังแต่ยากเหลือเกิน ตัวเขาเจ็บไปหมด อีกคนมือแข็งเช่นคีมคีบ ล็อคทั้งแขนและส่วนเอวไว้แน่น


และยังไม่ทันที่เสียงหวานจะได้เอ่ยปากห้ามและก่นด่าอะไร ใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจนั่นโน้มลงมาจูบอี้เฟิงไม่ยั้งที่เดิมตรงที่เขาคนนี้ทำให้เป็นแผล อี้เฟิงร้องโอดเจ็บ แผลเปิดและเลือดไหลอีกครั้ง

“หยุดนะ... ไอ้บ้า “
“เมื่อกี้ยังปากดีอยู่เลย”




หยางหยางละออกมาต่อปากต่อคำด้วยแต่ก็แค่ไม่ทันนับวินาทีได้ เขาโน้มลงไปหาอี้เฟิงอีกครั้งทีนี้เขาเปลี่ยนจุดหมายเป็นลำคอระหงส์ผิวลื่นเนียนของเทพบุตรแห่งชาติแทน และทันความคิด หยางหยางทำอะไรอย่างย่ามใจบางอย่างตรงนั้น ย้ำจูบซ้ำ ๆ อยู่นาน จนอี้เฟิงต้องร้องเสียงหลง ครางออกมาตามสัญชาติญาณและอารมณที่มี จนสุดท้ายก็อ่อนกำลัง





พอใจแล้ว รุ่นน้องยิ้มเยาะใส่รุ่นพี่ที่นอนหอบรวยรินที่โซฟาก่อนจากไป








THISMAN










“ตายจริงอี้เฟิง ..นี่มันรอยอะไรคะ”
“เอ่อ...ผม”



พี่สาวทีมงานที่เป็นสไตลิสมาช่วยอี้เฟิงจัดเตรียมชุดและเปลี่ยนเสื้อผ้าเพระมีมีอุปกรณ์หลายอย่างที่อี้เฟิงจะต้องใช้ในละครฉากต่อไป แต่พี่สาวเหล่านั้นเห็นบางอย่างที่คนคนนั้นฝากไว้ที่ต้นคอ..ไม่สิ เมื่ออี้เฟิงส่องกระจกพบว่ามันไม่ใช่แค่จุดนั้นแต่ลามไปจนถึงใกล้ใบหู




ไอ้บ้า..ไอ้เวรนั่น ไอ้คนหยาบคาย




“อี้เฟิงคะ จะทำอะไร อย่างน้อยก็ให้อยู่ในร่มผ้านะ แหมวัยรุ่นสมัยนี้เกินไปจริงๆ เชียว ไม่เอานะ รอบหลัง พีสาวจะให้มีรอย...เอ่อ...แบบนี้โผล่พ้นเสื้อไม่ได้หรอกนคะ มันปกปิดยากนะรอยนี้น่ะ แล้ว ยังไม่สนิทอีกตังหาก เฮ้อ เข้าใจมั้ยอี้เฟิง ฟังอยู่นะ”




อี้เฟิงโดนย้ำชื่ออีกหลายครั้งเพื่อเตือนให้เขาระวังมากกว่านี้ คนถูกดุแบบเขาไม่สบอารมณ์    ไอ้คนที่ควรโดนมากที่สุดคือไอ้เวรที่ยืนแอบฟังยิ้มเยาะอยู่นอกธรณีประตูโน่น  

ตากลมโตของอี้เฟิงเบิกกว้างและมีอารมณ์ปะทุขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เขาต้องกลบมันไว้ เพื่อไม่ให้อีกคนได้ใจว่าเขาเองต่างหากที่ใกล้เป็นบ้าเพราะสงครามนี้














ตราบาปอีกอย่างหนึ่งจากซาตานบนร่างกายอันขาวสะอาดเทพบุตรคือ รอยคิสมาร์คอันแสนน่ารังเกียจ














***************************************************************************************************TBC 2











TALK :: ยิ่งเพิ่มตอน  ยิ่งคิดว่าตัวเองแต่งอะไรมาก็ไม่รู้.....

1 ความคิดเห็น:

  1. คือเอาเข้าจริงเราว่าหยางร้ายกาจจากตอนที่แล้ว แต่ที่จริงแล้ว 2 คนนี้เขาไม่ยอมกันดี
    มันเหมือนเขาเล่นเกมกันอยู่อะคะ ใครจะแพ้ใครจะชนะวัดกันที่ความร้ายใส่อีกฝ่าย
    แล้วคือสงสารเฟิง (ไม่เคยจะสงสารหยาง 55555555) คือเพราะตัวเล็ก
    ล่ะไม่คิดนะ ออกมาว่าเขาตรงที่ไม่มีคน นี่จะสู้แรงหยางได้ไหม 5555555555
    แล้วแบบหยางงงงงงงงงงงงงงงง เธอทำคิสมาร์กกกกกกกกกกกกกอะะะะะ
    บนรอยขาวๆ ต้นคออะะะะะะะะะะะะะะะะะ กรี๊ส เจ้าซาตานร้าย!

    ตอบลบ