TITLE : [Fic] THIS MAN
CHAPTER : 2 คนคนนี้ กำลังสนุก’
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG -13
TELL: ยิ้มก่อนอ่าน ตาหวานก่อนเปิด
อ่านจบแล้วไปด่าได้ที่เมนชั่นผมหรือเมนท์ข้างล่าง
ไม่เลวเลย....
สีหน้าของรุ่นพี่คนนี้ กับสิ่งที่เขาทำลงไป
ถึงจะบอกว่าเป็นแค่อารมณ์ชั่ววูบที่ลงมือทำกับคนที่เกลียด
แต่เขารู้สึกสนุกและสะใจเป็นบ้า
ตอนนั้นที่แกล้งคนคนนี้ในห้องน้ำ
ก็ไม่ได้คิดจะไปถึงขั้นให้เกิดอารมณืขนาดนั้น แต่เห็นหน้าที่เอาแต่ใจ
และหยิ่งผยองเหมือนตัวเองตกลงมาจากสวรรค์แบบนั้น เห็นแล้วก็อยากทำให้ร้องไห้ซักที
แต่เสียดายที่ดันมาคนมาเสียก่อน และหยางหยางก็ไม่ปฏิเสธว่า
ใบหน้าที่คอยจ้องจะมอบความเกลียดนั่นกระตุกอารมณ์เขาไม่ใช่น้อย แต่เสียดายที่ตอนนั้นจำเป็นต้องละออกไปเพราะมีเสียงคนที่เข้าใกล้ห้องน้ำ
และเขาว่าที่นั่นก็ยังไม่เหมาะ และนั่นน่ะมันก็แค่อินโทรอะไรสนุก ๆ
ที่เขาจะทำกับหลี่อี้เฟิงเท่านั้น
แค่คิดก็สนุกแล้วที่จะต้องทำให้คนคนนี้ยอมรับความพ่ายแพ้ ทิ้งความหยิ่งผยองและอวดดีออกไป
และที่สุดคืออยากให้คนคนนี้มาคุกเข่าบอกยอมแพ้กับหยางหยาง
ทำให้คนที่เกลียด ยอมแพ้ได้ ความสะใจนั้นสุดคณานับ
เขาอาจจะดีใจจนฉลองยันเช้าที่ผับบาร์ที่ไหนกับสาว ๆสวยๆ หลังจากทำมิชชั่นนี้สำหรับ
ถือว่าเป็นของขวัฐสำหรับการทำงาน ที่จริงเป็นไปได้
ก็อยากให้คนคนนี้ทำงานลำบากและยากขึ้น ออกไปให้พ้นทางเขาเลยก็ดี
มีวิธีไม่น้อยที่หยางหยางคนนี้ทำได้
“คงสนุกไม่น้อยเลย”
ไว้เรามาเล่นสนุกกันคุณรุ่นพี่
หยางหยางยิ้มมุมปากออกมาในขณะที่เขาใช้ความคิด
เขาไม่เคยบอกว่าเขาเป็นเทพบุตรเป็นเจ้าชายที่ไหน
ภาพลักษณ์ที่ทุกคนมอบให้เขาเป็นมายาที่ถูกกำหนดในวงการบันเทิงทั้งนั้น
ที่จริงเขาก็เป็นผู้ชายคนหนึ่ง รักสนุก และมองหาความรื่นเริงแบบผู้ชายทั่วไป
ไหน ๆ ก็ต้องทำงานที่กองนี้ไปอีกนาน ความสนุกที่จะได้ทำสงครรามกับคนที่เกลียดอยู่ตรงหน้าเขา
จะช้าอยู่ทำไม ก่อนหน้านี้
ทีมงานของเขาให้หยางหยางเลี่ยงรุ่นพี่จอมลวงโลกนี่อยู่ตั้งนานสองนาน ก็เพราะความไม่ถูกกันของพวกเขานี่ล่ะ
พวกเขากลัวว่ามันจะปะทุ มีเรื่องกันใหญ่โต ชกต่อย ? หรือทำร้ายร่างกาย ?
อะไรง่าย ๆ แบบนั้น ไม่ทำหรอกหน่า
มันยังทำให้คนคนนี้ อับอายไม่พอเสียหน่อย
มือเรียวสวยของหยางหยางยกท้าวคางอย่างไว้เชิง
เขาใช้นิ้วเรียวลูบไปที่สันกราม อย่างช้า ๆ เพื่อใช้ความคิด
และทอดมองสิ่งใหม่หลังจากที่เหม่อมองสิ่งอื่นอยู่ก่อนหน้า
หลี่อี้เฟิงที่นั่งประจบประแจงทีมงาน ดาราคนอืน เห็นแล้วสะอิดสะเอียน
ว่าไปไอ้แผลที่ปากยังอยู่ ที่จริงเขาควรทำให้เป็นแผลใหญ่กว่านี้
ไอ้ปากที่ช่างสอพลอจะได้หยุดลงเสียบ้าง
“หยางหยาง มานั่งด้วยกัน “
หน้าด้าน หยางหยางเบิกตาขึ้นเล็กน้อย
ที่จริงเขาแปลกใจที่คนคนนี้ยังกล้าเรียกเขาด้วยสำเนียงและท่าทางแบบนั้น
คนคนนี้ที่หยางหยางส่งสายตาเกลียดชังอย่างสุดชีวิตแต่อีกฝ่ายไม่ได้ยี่หระแถมยังร้องเรียกเขาเหมือนสนิทซักชาติ
แถมส่งยิ้มโบกมือให้เหมือนเราทักทายกันแบบนี้อยู่เป็นประจำ
เขาทนไม่ไหวจนต้องเบี่ยงหน้าหนี ทนความลองโลกทั้งที่เกลียดกันขนาดนี้
คนอะไร
หยางหยางเดินไปตามที่อี้เฟิงเรียก
ทางฝั่งนั้นก็ส่งสายตาใสซื่อมาในแบบที่หยางหยางเห็นแล้วแทบทนมองไม่ได้
ทำไมถึงได้ลวงโลกเก่งนักนะ หน้าตาแบบนี้นี่เอง
ความสามารถในการสวมหน้ากากหลอกคนอื่นของคนคนี้มันระดับปีศาจต้องอาย
เทพพบุตรแห่งชาติอะไรกัน นี่มันไอ้คนลวงโลก
แต่ยังไงก็สู้เขาไม่ได้หรอก
เขาจะทำให้คนคนนี้พ่ายแพ้
ย้ำอีกครั้งว่า หยางหยางจะทำให้คนคนนี้มาร้องไห้ต่อหน้า คุกเข่า
และร้องขอให้เขาเลิกสงครามนี้
เขาพอดูออกว่าหลี่อี้เฟิงเป็นคนรักศักดิ์ศรี เกียรติ
และหยิ่งทนงค์ในตัวเองขนาดไหน
ทั้งหมดนั้นของหลี่อี้เฟิงจะต้องพังลง ด้วยฝีมือของเขา
นั่นคงเป็นความสนุกในชีวิตอีกอย่างหนึ่งของหยางหยางที่จะต้องบันทึกเก็บไว้นานเท่านานเลย
“สวัสดีครับ เฟิงเกอ ผมกำลังทำอารมณ์กับบทอยู่เชียว”
“สมเป็นเสี่ยวเกอจริง ๆ “
“ก็เพราะมีอู๋เสียที่น่ารักแบบเกอไง”
อี้เฟิงหันขวับมาทันทีที่หยางหยางพูดจบ
หลังจากที่ร่งรุ่นน้องนั่งลงข้าง ๆ เขา อี้เฟิงขยับร่นที่นั่งให้ร่งนั้นและ แสร้งทำเป้นคุยกันอย่งสนิทสนม
แต่ประโยคเมื่อกี้มันทำให้อี้เฟิงรู้สึกสะอิดสะเอียน
คนคนนี้จะทำอะไร สร้างกระแสหรือ
บริษัทของเขาเคร่งเรื่องการเป็นข่าวมาก
ยิ่งกระแสคู่จิ้นที่มีมากมายบนโซเชียลยิ่งเป็นอะไรที่ห้ามให้เกิดขึ้น
เพราะนั่นจะกระทบถึงสาบงายทั้งปวงของอี้เฟิง
และภาพลักษณ์ที่ได้สร้างมากับมือตลอดที่อยู่วงการ
เทพบุตรแห่งชาติ เขายังอยากรักษาฉายานี้ไว้
อี้เฟิงหันไปมองหน้าคนคนนี้ที่พูดประโยคที่อี้เฟิงไม่ลื่นหูเอาซะเลยอีกครั้ง
หยางหยางแสร้งยิ้มให้ คนนอกคงเห็นว่าเขาทั้งคู่เป็นพี่น้องในวงการที่รักกันดี
แต่ไอบ้าสารเลวนี้น่ะ มันซาตานบนดิน
เทพบุตรแบบเขาไม่ควรมานั่งใกล้ให้แปดเปื้อนความเลวทรามของคนคนคนเลยด้วยซ้ำ
รุ่นพี่มองอีกฝ่ายอย่างประมาณการ
และยื่นมือไปตบหลังหยางหยางอย่างสนิทสนม
สร้างความเป็นกันเองต่อหน้าทุกคนที่อยู่ใกล้ ๆในวงสนทนานี้ โดนแซวกันไปต่างๆ นานา
“พวกนายนี่สนิทกันดีนะ”
“ก็นิดหน่อย รุ่นน้องผมนะเนี่ย”
“เดี๋ยวโดนจจับคู่ด้วยกันแน่”
“ก็นิยายมันมาแบบนั้นนี่ จะโดนจับคู่กันก็ไม่แปลกหรอก”
“ถ้าแบบนั้น...เรามาลองดูกันมั้ยเฟิงเกอ”
หยางหยางหันมาพูดกับเขา แล้วยังคว้ามือเขาไปจับ
อี้เฟิงแทบอยากสะบัดหนีให้พ้นจากการพันธนาการนี้ รอบวงส่งสายตาล้อเลียนให้เห็น
ไอ้บ้าข้าง ๆ ไม่มีแก้ต่างอะไรทั้งสิ้น
“โหยพวกพี่ก็ เจ้าหยางหยางนี่ก็ล้อเล่นไปเรื่อยเลย
เดี่ยวก็โดนจับคู่ขึ้นมาจริงๆ กระแสติดลมบนขึ้นมา เดี๋ยวจะหาว่าไม่เตือน”
“หรอครับ ผมว่าก็ดีนะ พี่ว่าไม่ดีหรอ เราก็ดูสนิทกันนี่ น่าสนุกอออก”
อี้เฟิงแทบอยากเอากล่องข้าวตรงหน้าขว้างใส่ใบหน้าหล่อแต่ร้ายกาจของหยางหยาง
คนอะไรแบบนี้ คิดอะไรตื้นเขิน ที่เอาชื่อเสียงมาลงแลกกับการจับคู่จิ้นแบบนี้
เขาไม่เอาด้วยหรอก ถึงจะเป็นคู่จิ้นจริง ๆ ก็เป็นพี่เหว่ยถิงยังจะดีกว่าเป็นคนคนนี้
สะอิดสะเอียน เข้าขั้นอยากจะอ้วกใส่หน้าเลยด้วยซ้ำไป
และเจ้าซาตานบนดินคนนี้ ก็คิดแต่เรื่องสนุก
ที่มีที่ตั้งบนความทุกข์ของคนอื่น หลี่อี้เฟิงไม่ชอบการทำอะไรแบบนี้
แต่ถ้าเปลี่ยนเป็นความทุกข์ของคนคนนี้ ก็อาจจะทำได้
แต่อี้เฟิงในตอนนี้สถานการณ์ก็เป็นรองและยังเอาคืนไม่ได้
เขาต้องทำอะไรซักอย่าง
“ก็ได้ ไว้เรามาทำอะไรสนุก ๆ กัน “
อี้เฟิงตอบกลับรุ่นน้องดูทีเล่นทีจริง
เขาแสดงท่าทีน่ารักตามที่ชอบทำออกไปด้วย ดูอีกคนจะอึ้งไปเล็กน้อยไม่คิดว่าเขาจะแสดงท่าทีน่ารัก
ดูออดอ้อนเสียหน่อยใส่เจ้าตัว แน่นอนถ้าเป็นการอยู่ตามลำพังแค่สองคน
เขาจะมีทางแสดงท่าทีแบบนี้ แต่นี่เพราะอยากให้อีกฝ่ายหลุดท่าที
การเสแสร้างที่ดูไม่มั่นคง มีสายตาวูบวาบสลับไปมา หยางหยางยังเก็บอารมณ์
และปิดบังความรู้สึกและความคิดที่แท้จริงแบบคนที่มีประสบการณ์แบบอี้เฟิงไม่ได้
จะทำให้นายรู้สึกเกลียดฉันมาขึ้นดีมั้ย ? นายไม่ชอบฉัน ?
ยิ่งฉันทำให้นายรู้สึกเกลียด สะอิดสะเอียน ทำตัวสนิทสนม มากเท่าไหร่
นายก็คงอยากเกลียดฉันมากเท่านั้น และนายต้องปล่อยตัวจริงที่เลวทรามของนายออกมาต่อหน้าโลกทุกคนที่มองจ้องนายอยู่จนได้
คนที่เป็นศัตรูกับเทพบุตรได้ก็มีแต่ซาตานที่ชั่วช้าแบบนาย
โดนคนเขาเกลียดเอาทั้งแผ่นดินไม่รู้ด้วยนะ
หยางหยาง
หลังจากนั้น หลี่อี้เฟิงก็เกาะติด ไปเล่นโน่น ทำนี่
แม้จะไปห้องแต่งตัวก็ตามติดไปด้วย แต่อี้เฟิงเซฟตัวเองด้วยการมีทีมงานของเขาเองติดไปด้วย
ไม่เช่นนั้นก็คงจะโดนกระทำแบบในห้องน้ำอีกครั้ง นั่นทำให้เขารู้สึกแปดเปื้อนมือซาตานนี่เหลือเกิน
“สนิทกันเกินไปแล้ว อู๋เฟิง หยางฉี่หลิง”
“ไม่หรอกหน่า พี่น้องกัน”
พี่สาวในทีมงานสามสี่คนดูท่าทางเป็นแฟนนิยายเรื่องนี้
เห็นเขาทั้งสองที่ดูคุยกันสนิทสนม ต่างพากันแซว รุ่นพี่ที่อยู่ในกองเองก็ด้วย
เดี๋ยวก็มาบอกว่าอินนิยายเกินไป เดี๋ยวก็มาบอกน่ารัก เคมีเข้ากันดี
เหอะ..ที่จริง หลี่อี้เฟิงไม่ได้อยากแตะต้อง หรือพูดคุย แค่สบตาก็ไม่
เกลียดมาด้วยซ้ำ
แต่รอให้อีกฝ่ายประทุความเกลียดต่อเขาออกมา เพราะทนความเสเสร้งจากเขาไม่ไหว
ซาตานอย่างเขาทนได้ไม่เท่าไหร่เดี๋ยวก็ระเบิด
ก็บอกว่า เกลียดเทพบุตรอย่างเขาคนนี้ อย่างไรก็มีแต่เสียกับเสีย
แค่รอให้คนคนนี้เสียไพ่ รอให้พลาด
ความเกลียดที่สะสมล้นออกมาจากสายตาที่กักความรู้สึกไว้
พอระเบิดออกมา หลี่อี้เฟิงผู้เป็นเทพบุตรของทุกคน
มั่นใจว่าร้อยทั้งร้อยโลกจะต้องให้มาหนุนเขา
ไม่ใช่ปีศาจอย่างคนคนนี้
ข่วยไม่ได้ภาพลักษณ์ของหมอนี่มันดูร้ายกาจเกินไป นั่นผิดที่เขาเอง
ก็สมกับหมอนี่ดีแล้ว
THISMAN
“เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ซักที หลี่อี้เฟิง”
ว้า...น่าเสียดาย.การทดลองในครั้งแรกผลไม่ดีเท่าไหร่ คนคนนี้โมโหออกมาก็จริงแต่ก็ดันเป็นตอนที่ทีมงานออกไปคุยงานด้านนอก
“อะไรกันเล่า รุ่นน้องสุดที่รัก”
“ทำตัวแบบนี้ คิดว่ามันสนุกมากสิท่า”
“สำหรับฉันน่ะสนุกแน่ ว้า...
แต่ฉันยั่วโมโหนายไม่ได้ตามที่คิด แต่ไม่เป็นไร โอกาสที่จะให้นาย แสดงด้านชั่ว ๆ
ออกมามีอีกเยอะแยะ”
อี้เฟิงยิ้มหวานราวมีดอาบน้ำผึ้งส่งไปให้หยางหยางก่อนจะเตะเท้าอย่างวางท่าและก้าวออกจากที่ยืนเดิม
เขาควรออกไปก่อนที่จะนานเกินไปที่หยางหยางจะทำอะไรเขาได้ เรื่องแรงเขาสู้ไม่ได้
ต้องเอาคนหมู่มากเป็นด่านไว้เสียก่อน
“อ๊ะ!”
แต่อี้เฟิงก็ดันเสียท่ารอบสอง เขาคิดออกและก้าวเท้าช้าเกินไป
หยางหยางไม่ได้ปล่อยให้อี้เฟิงได้ดิ้นรนสู้อะไรเลย
คนคนนี้แข็งแรงมากเพราะเขาทั้งเข้ายิมและฝึกกล้ามเนื้อและทุกอย่างเพื่อละครมาอย่างดี
อย่างที่อี้เฟิงไม่เคยทำ นี่นับเป็นข้อเสียเปรียบอย่างมากของอี้เฟิง
เขาจึงต้องคิดอยู่เสมอว่าตัวเองจะต้องอยู่ท่ามกลางคนหมู่มากไว้
เพื่อปกป้องตัวเองจากไอคนพรรค์นี้
แต่ช้า..หลี่อี้เฟิงช้าไป
“ช้าไปแค่ก้าวเดียว..คุณเทพบุตร”
ไอ้เวรเอ๊ย....
ซาตานอย่างนายก็ทำอะไรชั่ว ๆ แบบนี้ได้ คิดได้แค่นั้นล่ะ
อี้เฟิงคิดประโยคนี้หลังจาก หยางหยางกระทำการหยาบคายกับตัวเขา
ร่างแข็งแรงนั้นคว้าแขนอี้เฟิงที่เดินก้าวช้ากว่าอีกคนไม่กี่วินาที
เหวี่ยงอย่างแรงลงเบาะโซฟาในห้องแต่งตัวที่อยู่ใกล้ที่สุด ร่างเพรียวของอี้เฟิงพยายามดิ้นเร่าให้หลุดจากพันธการนี้อย่างสุดกำลังแต่ยากเหลือเกิน
ตัวเขาเจ็บไปหมด อีกคนมือแข็งเช่นคีมคีบ ล็อคทั้งแขนและส่วนเอวไว้แน่น
และยังไม่ทันที่เสียงหวานจะได้เอ่ยปากห้ามและก่นด่าอะไร
ใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจนั่นโน้มลงมาจูบอี้เฟิงไม่ยั้งที่เดิมตรงที่เขาคนนี้ทำให้เป็นแผล
อี้เฟิงร้องโอดเจ็บ แผลเปิดและเลือดไหลอีกครั้ง
“หยุดนะ... ไอ้บ้า “
“เมื่อกี้ยังปากดีอยู่เลย”
หยางหยางละออกมาต่อปากต่อคำด้วยแต่ก็แค่ไม่ทันนับวินาทีได้
เขาโน้มลงไปหาอี้เฟิงอีกครั้งทีนี้เขาเปลี่ยนจุดหมายเป็นลำคอระหงส์ผิวลื่นเนียนของเทพบุตรแห่งชาติแทน
และทันความคิด หยางหยางทำอะไรอย่างย่ามใจบางอย่างตรงนั้น ย้ำจูบซ้ำ ๆ อยู่นาน
จนอี้เฟิงต้องร้องเสียงหลง ครางออกมาตามสัญชาติญาณและอารมณที่มี จนสุดท้ายก็อ่อนกำลัง
พอใจแล้ว รุ่นน้องยิ้มเยาะใส่รุ่นพี่ที่นอนหอบรวยรินที่โซฟาก่อนจากไป
THISMAN
“ตายจริงอี้เฟิง ..นี่มันรอยอะไรคะ”
“เอ่อ...ผม”
พี่สาวทีมงานที่เป็นสไตลิสมาช่วยอี้เฟิงจัดเตรียมชุดและเปลี่ยนเสื้อผ้าเพระมีมีอุปกรณ์หลายอย่างที่อี้เฟิงจะต้องใช้ในละครฉากต่อไป
แต่พี่สาวเหล่านั้นเห็นบางอย่างที่คนคนนั้นฝากไว้ที่ต้นคอ..ไม่สิ
เมื่ออี้เฟิงส่องกระจกพบว่ามันไม่ใช่แค่จุดนั้นแต่ลามไปจนถึงใกล้ใบหู
ไอ้บ้า..ไอ้เวรนั่น ไอ้คนหยาบคาย
“อี้เฟิงคะ จะทำอะไร อย่างน้อยก็ให้อยู่ในร่มผ้านะ
แหมวัยรุ่นสมัยนี้เกินไปจริงๆ เชียว ไม่เอานะ รอบหลัง พีสาวจะให้มีรอย...เอ่อ...แบบนี้โผล่พ้นเสื้อไม่ได้หรอกนคะ
มันปกปิดยากนะรอยนี้น่ะ แล้ว ยังไม่สนิทอีกตังหาก เฮ้อ เข้าใจมั้ยอี้เฟิง
ฟังอยู่นะ”
อี้เฟิงโดนย้ำชื่ออีกหลายครั้งเพื่อเตือนให้เขาระวังมากกว่านี้ คนถูกดุแบบเขาไม่สบอารมณ์ ไอ้คนที่ควรโดนมากที่สุดคือไอ้เวรที่ยืนแอบฟังยิ้มเยาะอยู่นอกธรณีประตูโน่น
ตากลมโตของอี้เฟิงเบิกกว้างและมีอารมณ์ปะทุขึ้นมาบ้างแล้ว แต่เขาต้องกลบมันไว้
เพื่อไม่ให้อีกคนได้ใจว่าเขาเองต่างหากที่ใกล้เป็นบ้าเพราะสงครามนี้
ตราบาปอีกอย่างหนึ่งจากซาตานบนร่างกายอันขาวสะอาดเทพบุตรคือ
รอยคิสมาร์คอันแสนน่ารังเกียจ
***************************************************************************************************TBC 2
TALK :: ยิ่งเพิ่มตอน ยิ่งคิดว่าตัวเองแต่งอะไรมาก็ไม่รู้.....
คือเอาเข้าจริงเราว่าหยางร้ายกาจจากตอนที่แล้ว แต่ที่จริงแล้ว 2 คนนี้เขาไม่ยอมกันดี
ตอบลบมันเหมือนเขาเล่นเกมกันอยู่อะคะ ใครจะแพ้ใครจะชนะวัดกันที่ความร้ายใส่อีกฝ่าย
แล้วคือสงสารเฟิง (ไม่เคยจะสงสารหยาง 55555555) คือเพราะตัวเล็ก
ล่ะไม่คิดนะ ออกมาว่าเขาตรงที่ไม่มีคน นี่จะสู้แรงหยางได้ไหม 5555555555
แล้วแบบหยางงงงงงงงงงงงงงงง เธอทำคิสมาร์กกกกกกกกกกกกกอะะะะะ
บนรอยขาวๆ ต้นคออะะะะะะะะะะะะะะะะะ กรี๊ส เจ้าซาตานร้าย!