[Sfic] ห้องสมุดและเค้กส้ม
Pairing :: Yangyang x Liyifeng
RATE : PG-13 โครตใส
TELL :: หิวอีกแล้ว เลยแต่ง อาจจะคล้ายเรื่องที่แล้ว
HAPPY BIRTHDAY ย้อนหลังน้องหยางหยางด้วย
รักน้องมาก ๆ แต่น้อยกว่าเกอนิดหนึง อย่าน้อยใจ
สู้ๆ กันการทำงานนะหนุนะ!
**************************************************************************
“ฝนตกอีกแล้ว”
เสียงทุ้มนั้นเอ่ยออกมาเบา ๆ เขาบ่นกับตัวเอง เวลาเย็นเช่นนี้
เลิกเรียนที่คิดจะกลับบ้านไปนอนให้สบาย แต่กลับต้องติดฝน
และไม่มีอุปกรณ์กันฝนเลยซักชิ้น แต่อย่างไรแล้ว เขาก็ไม่ได้รีบกลับ
“วันนี้ก็ห้องสมุดอีกแล้วกัน”
เป็นปกติที่หยางหยางจะมาห้องสมุด ในช่วงเวลาเย็น หากไม่รีบกลับ
และ..อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างฝนตก แบบนี้ ตัวเลือกที่ดีในความคิดหยางก็จะเป็นที่นี่
“สวัสดีหยางหยาง”
“อ่าฮะ”
สาวน้อยเพื่อนห้องเดียวกันที่เป็นพนักงานประจำห้องสมุดส่งเสียงทักทายอย่างเป็นมิตร
เธอคนนี้และเพื่อนอีกหลายคนทั้งชายหญิงแต่ชินกับความหล่อเหลาเกินมนุษย์ของหยางหยางเป็นเสียแล้ว
เพราะอย่างไรก็เป็นเพื่อนห้องเดียวกันมาสามปี จะไม่เหมือนสาว ๆ อีกมุม
อีกมุมและอีกมุม หลายมุมในห้องสมุดที่มารอกริ๊ดหยางหยาง เพราะความหล่อร้ายกาจของเขา
เพื่อน ๆ ของหยางหยางก็ได้แค่ส่งยิ้มขำ ๆ บอกเพื่อนว่า เอ็งป๊อบมาก
และปล่อยตามเลยไป
หยางหยางก็ชินเสียแล้ว ไม่ใช่เพราะเขาหลงตัวเอง
แต่เหตุการณ์มันเกิดซ้ำ ๆ จนเขาไม่รู้จะทำอย่างไร
ในห้องสมุดเป็นที่ที่ทุกคนจะไม่ส่งเสียงกริ๊ดกร๊าดเขาแบบข้างนอก อย่างน้อยที่นี่ก็สงบ
แม้แค่ไม่นาน เขาก็ขออยู่กับความสงบอย่างนี้บ้าง
“เอาล่ะ”
หยางหยางทรุดลงนั่งมุมหนึ่งตรงพื้นที่ห้องสมุด วันนี้ต้องเปลี่ยนพิกัด
เพราะล็อคเดิมเป็นล็อคชั้นวางหนังสือประเภทสารานุกรมเยาวชนหลากหลายเรื่อง
วันนั้นที่หยางหยางมานั่งพักรอฝนซา เขาก็แทบเป็นศาตราจารย์เพราะเบื่อ
ๆก็นั่งอ่านสามารนุกรมพวกนั้น กับนั่งฟังเพลงเบา ๆ ไปด้วย เผลอตัวอีกที
ก็ห้องสมุดจะปิดทำการเสียแล้ว
วันนี้ก็คงเหมือนวันอื่น ๆ .... ล่ะมั้ง
“เอ่ มันน่าจะมีนะ”
เมื่อนั่งได้ซักครู่ใหญ่ นั่งฟังเพลงสบาย ๆ
ทอดอารมณืในเวลาฝนตกหนักเรื่อย ๆ หยางหยางได้ยินเสียงในตกเนือง ๆ
เล็ดลอดผ่านขอบหน้าต่างเข้ามาถึงในหูฟังของเขา ตกหนักไม่ใช่น้อย อาจจะต้องนั่งยาว
ไปอีกซักพัก
แต่ก็มีเสียงเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาในช่วงเวลาปกติเหมือนทุก ๆ วันของเขา
หยางหยางหันไปตามเสียง เจอร่างหนึ่งกำลังก้ม ๆเงย ๆ
หาหนังสือในชั้นวางชั้นล่างสุดของชั้นหนังสือที่เขานั่งชิดติด ในอีกด้านหนึ่ง
หืม...
สายตาคมกริบลองลอบมองผ่านช่องว่างระหว่างหนังสือ เขาเห็นเพียงแค่เรือนผมสีน้ำตาลและแก้มเนียนใสเพียงแค่นั้น
หยางหยางเบิกตาเล็กน้อย เมื่อร่างนั้น กำลังจะหันเคลื่อนและ
ใบหน้าที่ลอบมองอยู่กำลังจะหันมาทางตน
หยางหยางเสหลบทัน กลับไปตั้งท่าอ่านหนังสืออะไรซักอย่างอย่างตั้งใจ
เขาหยิบติดมือมาด้วย เมื่อไม่นาน
เหมือนอีกฝ่ายจะรู้แล้วว่ามีเขาอยู่อีกฝั่งของชั้นหนังสือ
ร่างนั้นเคลื่อนไหวช้า และพยายามทำให้มีเสียงดังจากตัวเขาน้อยที่สุด
รื้อค้นหนังสืออย่างเบามือ หยางหยางรู้สึกขอบคุณกับความสุภาพของอีกฝ่าย
“ขอบคุณครับ”
“ขอโทษด้วยนะฮะที่รบกวน แต่ผมแค่มาหาหนังสือที่แอบไว้น่ะ”
ร่างนั้นบอกจุดประสงค์ที่มาในห้องสมุดและก้มๆ เงยๆ
ตรงชั้นหนังสือล็อคนี้
หยางหยางเพิ่งได้สังเกตอย่างจริงจังว่า
นี่เป็นชั้นวางหนังสือประเภทการทำอาหาร หรือสอนทำขนม หรือการเข้าครัวแบบอื่น ๆ
อย่างที่เขาไม่ค่อยถนัดนัก
หยางหยางพลันคิดอะไรออก
เขาก็ไม่ได้รีบไปไหน และว่างอยู่
สุดท้ายแล้ว เขารู้สึกสนใจ เจ้าของเรือนผมสีสวยและแก้มใส ๆ นั่นแล้ว
“ให้ผมช่วยหามั้ย”
“ไม่เป็นไรครับ เกรงใจคุณจัง”
“ผมว่างอยู่”
“แต่เมื่อกี้ดูเหมือน..ผมเห็นคุณตั้งใจอ่านหนังสือมาก
แอบเห็นผ่านช่องระหว่างหนังสือนี่ล่ะ”
“ที่จริงอ่านไม่เข้าใจเลยล่ะ มันเป็นหนังสือสอนทำขนม
อ่านไปก็งง ไม่มีเซนส์เลย”
“อ๋อ”
อีกคำรับคำเสียงใสแต่แผ่วเบาหน่อยเพราะอยู่ในห้องสมุด
หยางหยางเปลี่ยนท่านั่งจากหันหลังพิงผนังที่ชิดติด มาเป็นนั่งขัดสมาธิหันหน้าไปทางชั้นหนังสือ
ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะนั่งตรงกันข้ามกับร่างเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลคนนั้นพอดี
“ผมกำลังหาหนังสือทำขนมเค้กและพาย ชื่อหรามาก
ที่จริงมันหาง่ายแต่คุณบรรณารักษ์คงเปลี่ยนวางที่ผมแอบไปเสียแล้ว”
“ชื่อนั้นใช่มั้ย งั้นผมจะช่วยหา”
หยางหยางลงมือช่วยอีกคน
ปลายนิ้วเรียวของเขาแตะที่สันหนังสือและสะกิดมันข้ามไปอีกข้างหากมันไม่ใช่เล่มที่ต้องการ
ระหว่างนั้นเขาใช้สายตาลอบมองอีกฝ่ายตรงกันข้ามไปด้วย
และบังเอิญได้เห็นและสบสายตากับดวงตาคู่นั้น
โดยเจ้าของเป็นคนเดียวกับเรือนผมสีน้ำตาลและแก้มเนียนใส
เป็นดวงตาคู่หนึ่งที่น่ารักที่สุด ซุกซน ดู..ขี้เล่น
และกลับมาตรงคำว่าน่ารักอีกครั้ง
“สวัสดี ขอบคุณอีกครั้งนะฮะที่ช่วย”
“ก็บอกแล้วว่าผมว่าง”
หยางหยางรับคำทักทายและบอกไปตามเดิมว่าว่าง
และหลบสายตาอีกฝ่ายไปหาหนังสืออย่างตั้งใจอีกครั้ง
เขารู้สึกเขินขึ้นมาเมื่อต้องสบตากับดวงตาน่ารักซุกซนแบบนั้นเกินสามวินาที ภายหลังที่ได้สบตา
ก็ทันได้พิจารณาส่วนอื่น อย่างเช่น จมุกโด่งรั้น ก็น่ารักอีก
แต่เขาก็เห็นเพียงแค่นั้น เพราะส่วนที่เหลือโดนหนังสือบนชั้นบังเอาไว้
อยากเห็นใบหน้าชัด ๆ ของอีกฝ่าย ..หย่างจึงตระเตรียมสถานการณ์เล็กน้อย
“อืม..หายากแบบนี้ ถามคุณบรรณารักษ์มั้ย”
“ก็ดีนะ คุณจะได้ไม่เสียเวลา”
“ย้ำอีกครั้ง ว่าผมว่าง”
“โอเค รู้แล้ว รู้แล้วครับ”
เสียงใสกลั้วหัวเราะ เพราะหยางหยางย้ำถึงสามครั้ง
แต่ไม่ทันที่จะไปถามคุรบรรณารักษ์ หยางหยางก็แสร้งทำเป็นว่าคุณบรรณารักษ์ไม่อยู่ คุณบรรณารักษ์นั่นก็เพื่อนเขา เขาไล่เพื่อนออกไปนอกห้องสมุด
กดข้อความไปหาพวกนั้นบอกว่าไปข้างนอกซักพักจะดูห้องสมุดให้
เพื่อนเขางงว่าอะไรที่จะทำให้เขามาทำแบบนั้น
หยางหยางบอกว่าวันนี้จะขอเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดซักวัน
เพราะวันนี้เขาอารมณ์ดี
เพื่อน ๆของหยางหยางก็ทำตามที่หยางหยางขอร้องออกไปนอกสมุดครู่หนึ่ง
ซึ่งเขาติดสินบนเป็นไอศกรีมเซตใหญ่ที่จะเลี้ยงภายหลัง พ้นจากนั้น
หยางหยางก็กลับมาที่ล็อคชั้นวางหนังสือเดิม
“คุณครับ คุณบรรณารักษ์ไปซะแล้วล่ะ “
“อ้าว แย่แฮะ
แบบนี้ก็ผมก็ต้องหาจนเจอให้ได้ด้วยตัวเอง..และมีคุณช่วยหาด้วย”
“แบบนั้นก็ไม่เลวนะครับ”
หยางหยางนั่งลงตรงที่เดิมและใช้นิ้วแหวก สะกิดสันหนังสือ
ไล่ดูหนังสือไปทีละเล่มเช่นเดิม แต่เขาทำอย่างเชื่องช้า
และใช้โอกาสระหว่างช่องว่างของหนังสือ ลอบมองอีกฝ่ายอีกครั้ง
ดวงตาคู่นั้นก็ได้สบตาแล้ว แก้มใสก็ได้มอง
จมูกโด่งรั้นนั่นก็ได้พิจารณาแล้ว เรือนผมสีสวยก็ได้เห็นชัด อยากเห็นส่วนริมฝีปาก
เพราะจะได้ครบเกือบทุกส่นของใบหน้าอีกคน
นั่นไง...อย่างที่คิด
และเขาได้เห็น...หยางหยางคิดใจร้ายตรงที่ว่าเมื่อเห็นริมฝีปากน่ารักนั้นเข้า
ก็คิดอยากจูบให้ปากน่ารักนั่นบวมซักสามสี่นาที หยางหยางลอบยิ้มกับตัวเอง เขาตีหัวตัวเองให้หายบ้า
และช่วยเขาหาหนังสือต่อไป
“เฮ้อ มีคนหยิบไปแล้วแน่เลยอ่ะ”
“แย่เลย หนังสือนั่นสำคัญมากเลยหรอ”
อีกคนหยุดคิดไปพักหนึ่งก็ตอบกลับมาเสียงแผ่วลงกว่าเดิม
“จะเอาไปใช้เป็นไกด์ทำเค้กเเยมส้ม จะให้คนที่ชอบน่ะ
ได้ข่าวว่าคนคนนั้นชอบกินส้ม”
หยางหยางรู้สึกหน่วงในใจไปครู่หนึ่งที่อีกฝ่ายบอกว่ามีคนที่ชอบ
และแถมยังจะหาหนังสือเล่มนี้ที่เขาช่วยไปทำเค้กให้เขาอีก ก็เกิดรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาดื้อ
ๆ
“งั้น ผมไปตามคุณบรรณารักษ์ให้อีกที”
เขารู้สึกหน่วงใจมาก จนไม่อยากยืดยื้อเวลาแล้ว
เขาจึงขยับตัวลุกขึ้นจากที่นั่งเดิม อีกฝ่ายไม่ได้ห้ามอะไร
เอ๊ะ?
เขาใช้สายตาคมกริบนั่นลอบมองอีกฝ่ายอีกครั้ง
หนังสือที่อยากได้ ดันอยู่บนตักของอีกฝ่ายแล้ว ...แล้วมันยังไงกันล่ะเนี่ย
“เอ่อ...นี่คุณ...”
“ฮะ?”
หยางหยางไม่รู้จะถามอย่างไรดี เขาทรุดนั่งลงที่เดิม
และแหวกหนังสือให้กว้างหน่อยเป็นช่องว่างให้พอได้เห็นหน้าคุยกันได้ กับอีกฝ่าย
น่ารักเป็นบ้า...
ดวงตากลมโตน่ารักและดูซุกซน ริมฝีปากน่ารักน่าจูบ จมูกโด่งรั้น แก้มใส
ๆ รวมกันทุกอย่างอยู่บนใบหน้านี้ น่ารักสุดยอด
หยางหยางอึ้งไปชั่วครู่หนึ่ง
อีกฝ่ายก็ยอมยื่นใบหน้ามาให้เขาเห็นเต็มตาเสียที
อีกฝ่ายก็ดูอึ้งที่หยางหยางทำแบบนี้ แต่อีกฝ่ายอมยิ้มแก้มตุ่ย
ดูขัดเขินที่เห็นหน้าเขา
“เห็นแล้วล่ะสิ”
ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะยังตื่นตะลึงกับความน่ารักของคนตรงหน้าในระยะใกล้มากอยู่
ชั้นวางหนังสือนี้ไม่ได้กว้างเท่าไหร่เลย อีกคนใช้แขนท้าวคาง
ทำแบบนี้ยิ่งน่ารักกันเข้าไปใหญ่ หยางหยางกลายเป็นคนเขินอีกฝ่ายเสียเอง
“ได้ข่าวว่าคุณชอบส้ม ก็เลยมาหาวิธีเอาชนะใจคนกินส้มเก่งแบบคุณดู
คุณชอบกินส้ม งั้นเป็นเค้กแยมส้มดีมั้ยฮะ”
โดนถามตรง ๆด้วยน้ำเสียงและท่าทางน่ารัก และใบหน้าน่ารักของอีกฝ่าย
เขาพอจะนึกออกแล้วว่าอีกคนเป็นใคร
หลี่อี้เฟิง คนน่ารักของชมรมคหกรรมที่เลื่องลือ
หยางหยางยังไม่เคยเห็นหน้าแต่เคยกินขนมของคน่ารักคนนี้ที่เพื่อนเอามาให้ชิมอยู่บ่อยครั้งและก็ชอบใจอยู่ไม่น้อยกับขนมของอีกฝ่ายแต่จริงๆ
แล้ว หยางหยางไม่ค่อยชอบกินของหวานเท่าไหร่
แต่ตอนนี้คงเปลี่ยนใจเป็นตลอดกาลเลย
“ส้มชอบนานแล้วครับ กินบ่อยเลย แต่ตอนนี้อาจจะชอบมากขึ้นไปอีก
เค้กแยมส้มก็ไม่เลวนะ “
หยางหยางให้คำตอบกับคนน่ารักที่ยังท้าวคางมองหน้าเขา
คนน่ารักคนนี้คิดว่าเขาคงอยู่รู้จักอีกฝ่ายอยู่แล้ว เลยไม่พยายามจะแนะนำตัวอะไร
แต่เอาแต่ยิ้มสวยหวานส่งมาให้หยางหยางหัวใจจะวายตายอยู่แล้ว
“คนทำขนมหวานเขายิ้มหวานเหมือนขนมทุกคนมั้ย”
“ไม่รู้หรอก แต่ถ้าถามถึงแค่ผมคนเดียวก็คงต้องถามคุณล่ะ ว่าเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า”
อีกฝ่ายก็ต้องรู้จักหยางหยางอย่างแน่นอน เจ้าเล่ห์แสนกลนัก
ให้หากันอยู่ตั้งนาน แต่ที่จริงคนน่ารักมีมันอยู่บนตักแล้วต่างหาก
เป็นทริคที่น่ารักน่าหยอกไม่น้อย และกล้าเขาหาเขา ในขณะที่คนอื่นได้แค่มอง โดนรุกหนักขนาดนี้หยางหยางจึงยิ่งรู้สึกสนใจคนคนนี้ไม่น้อย แต่ไม่คิดเหมือนกันว่าคนที่เลื่องลือขนาดนั้นจะมาชอบเขา รู้สึกเป็นแจ็คพอตในระดับนึงเลยทีเดียว
“ผมมั่นใจว่าคุณจะชอบของหวานมากขึ้นแน่นอน”
อีกฝ่ายตอบกลับมา ท่าทางข้อมูลจะแน่นมาก หยางหยางคิดว่าอีกฝ่ายคงจะรู้เรื่องที่เขาไม่ชอบของหวานด้วย
แต่ก็ยังจะทำเค้กมาให้
เเละแบบนั้นคงรู้ว่าเขาชอบใจขนมของอีกฝ่าย
เพราะหยางหยางเคยเอ่ยชมและเคยบอกให้เอาคำชมนี้ไปฝากคนทำด้วย
“คุณหยางหยาง”
“ครับ”
“ไว้จะเอาเค้กฝากไปให้อีกนะ ตอนแรกไม่รู้ว่าคุณไม่ชอบของหวานแต่คุณกินขนมของผมก็เริ่มชอบใช่มั้ยล่ะ”
“ก็ถูกครับ”
“ผมจะทำให้คุณตกหลุมรักเลยล่ะ”
หยางหยางยิ้มกับประโยคน่ารักนั่น ช่างพูดเหลือเกิน ริมฝีปากนั่นยังคงส่งยิ้มให้อยู่
ตอนนี้ใส่ความซุกซนทางแววตามาอีกนิดหน่อย
หยางหยางต้องตายแน่ ๆ
“ตกหลุมรักนี่? ผมจะตกหลุมรักขนมหรือคุณ”
“ก็ต้องทั้งสองอย่างเลย”
ยิ้มส่งให้อีกแล้ว หยางหยางยอมแพ้ เขาก้มหลบสายตาซุกซนนั้นด้วย
ยกมือบอกยอมอีกคนเสียงเบา อีกฝ่ายยิ้มสดใสน่ารักกว่าเดิม
“คุณหยางหยาง~~~~”
“ยอมแล้ว หยุดยิ้มแบบนั้นก่อน ผมจะตายเอา”
อี้เฟิงหัวเราะร่าแต่เสียงดังในระดับได้ยินกันแค่สองคนที่นั่งกันข้ามชั้นหนังสือ
ทำให้คุณหยางหยางที่แอบชอบมานานยกธงขาวได้แล้ว ที่จริงอี้เฟิงคนนี้แอบฃอบเขาอยู่นานสองนาน
แต่ถ้าจะเข้าจีบก็ต้องใช้ความเป็นตัวเองน่าจะดีและถนัดที่สุด
แม้ไม่หวังว่าจะสำเร็จแค่ได้ทำ แต่ผลที่ได้ดีไม่น้อย
ที่จริงไอ้เรื่องยิ้มสวยๆหวานๆ นี่ก็ให้เพื่อนช่วยฝึกให้นั่นล่ะ
จะจีบหนุ่มฮ่ตก็ต้องมีทริคนิดหน่อย
รวมทั้งเรื่องบังเอิญหาหนังสือไม่เจอนนี่ด้วย
ผลที่ได้ ยอดเยี่ยม ร้อยเปอร์เซนต์
“เอาของหวานทั้งโลกมาส่งให้ผมเลย ถ้าเป็นคุณทำผมจะกินทุกอย่าง
คุณหลี่อี้เฟิง”
หยางหยางยกธงยอมแพ้ ของหวานทั้งโลกต้องส่งตรงมาที่เขาแน่นอน
หลี่อี้เฟิงยิ้มส่งให้ไป ท่าทางดูดีใจที่ชนะใจได้
โอเค ยอมแพ้ ใครจะทนความน่ารักที่หวานกว่าขนมหวานที่เขาทำได้ล่ะ
“พรุ่งนี้เป็นเค้กส้มนะ”
“ครับ ๆ ได้”
“พรุ่งนี้ก็คุกกี้นม”
“ก็ได้อีก”
“อีกวัน..อืม ค่อยว่ากันแต่จะส่งไปให้ตลอดเลย”
“แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องมาเองนะคุณอี้เฟิง”
มือของอีกฝายยื่นมาใกล้ใบหน้าของหยางหยาง
ดูเหมือนช่างใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจิ้มที่แก้มหยางหยางอย่างนึกสนุก
“กินแล้วแปรงฟันด้วยนะ คุณหยางหยาง เดี๋ยวฟันผุ
เพราะขนมที่ผมทำและไปส่งเองจะหวานกว่าปกติล้านเท่าเลย”
และเสียงหัวเราะก็ดังกว่าปกติ เพราะเป็นเสียงประสานของทั้งสองคน
อาจารย์บรรณารักษ์เข้ามาได้ยินพอดี พวกเขาโดนดุเสียอย่างนั้น ก่อนหันมายิ้มให้กัน
หยางหยางชอบห้องสมุดวันนี้มากเลย
ฝนตกก็ไม่ได้เลวร้าย มีเรื่องดี ๆ
ได้กินขนมฟรี แถมได้คนให้จีบด้วย..ที่จริงต้องเรียกว่าที่แฟน
“สวัสดีครับ อย่างเป็นทางการ ผม...หยางหยาง”
“ยินดีที่ได้คุยกันใกล้ขนาดนี้เช่นกัน คุณหยางหยาง ผม...หลี่อี้เฟิง”
หยางหยางมองใบหน้าน่ารักและคิดพร้อม ยิ้มเขาหวานกว่าเค้กส้มอีกล่ะมั้ง
*********************************************************
ไม่ทนกับความน่ารักนี้ จับฟัดแทนได้ไหม :D
ตอบลบเนื้อเรื่องอิ่มมากในตอนเดียว อ่านแล้วอยากกินเค้กส้มด้วยเลย
ชอบตอนเรียกชื่อหยางหยางมากๆ เขินแทนหยางเลยบอกตรงๆ