วันพฤหัสบดีที่ 10 กันยายน พ.ศ. 2558

ห้องสมุดและเค้กส้ม - หยางเฟิง



[Sfic]  ห้องสมุดและเค้กส้ม 
Pairing :: Yangyang x Liyifeng
RATE : PG-13 โครตใส
TELL :: หิวอีกแล้ว เลยแต่ง อาจจะคล้ายเรื่องที่แล้ว

HAPPY BIRTHDAY ย้อนหลังน้องหยางหยางด้วย
รักน้องมาก ๆ แต่น้อยกว่าเกอนิดหนึง อย่าน้อยใจ
สู้ๆ กันการทำงานนะหนุนะ!





**************************************************************************



“ฝนตกอีกแล้ว”



เสียงทุ้มนั้นเอ่ยออกมาเบา ๆ เขาบ่นกับตัวเอง เวลาเย็นเช่นนี้ เลิกเรียนที่คิดจะกลับบ้านไปนอนให้สบาย แต่กลับต้องติดฝน และไม่มีอุปกรณ์กันฝนเลยซักชิ้น แต่อย่างไรแล้ว เขาก็ไม่ได้รีบกลับ



“วันนี้ก็ห้องสมุดอีกแล้วกัน”




เป็นปกติที่หยางหยางจะมาห้องสมุด ในช่วงเวลาเย็น หากไม่รีบกลับ และ..อากาศเปลี่ยนแปลงอย่างฝนตก แบบนี้ ตัวเลือกที่ดีในความคิดหยางก็จะเป็นที่นี่




“สวัสดีหยางหยาง”
“อ่าฮะ”



สาวน้อยเพื่อนห้องเดียวกันที่เป็นพนักงานประจำห้องสมุดส่งเสียงทักทายอย่างเป็นมิตร เธอคนนี้และเพื่อนอีกหลายคนทั้งชายหญิงแต่ชินกับความหล่อเหลาเกินมนุษย์ของหยางหยางเป็นเสียแล้ว เพราะอย่างไรก็เป็นเพื่อนห้องเดียวกันมาสามปี จะไม่เหมือนสาว ๆ อีกมุม อีกมุมและอีกมุม หลายมุมในห้องสมุดที่มารอกริ๊ดหยางหยาง เพราะความหล่อร้ายกาจของเขา เพื่อน ๆ ของหยางหยางก็ได้แค่ส่งยิ้มขำ ๆ บอกเพื่อนว่า เอ็งป๊อบมาก และปล่อยตามเลยไป




หยางหยางก็ชินเสียแล้ว ไม่ใช่เพราะเขาหลงตัวเอง แต่เหตุการณ์มันเกิดซ้ำ ๆ จนเขาไม่รู้จะทำอย่างไร ในห้องสมุดเป็นที่ที่ทุกคนจะไม่ส่งเสียงกริ๊ดกร๊าดเขาแบบข้างนอก อย่างน้อยที่นี่ก็สงบ แม้แค่ไม่นาน เขาก็ขออยู่กับความสงบอย่างนี้บ้าง




“เอาล่ะ”




หยางหยางทรุดลงนั่งมุมหนึ่งตรงพื้นที่ห้องสมุด วันนี้ต้องเปลี่ยนพิกัด เพราะล็อคเดิมเป็นล็อคชั้นวางหนังสือประเภทสารานุกรมเยาวชนหลากหลายเรื่อง วันนั้นที่หยางหยางมานั่งพักรอฝนซา เขาก็แทบเป็นศาตราจารย์เพราะเบื่อ ๆก็นั่งอ่านสามารนุกรมพวกนั้น กับนั่งฟังเพลงเบา ๆ ไปด้วย เผลอตัวอีกที ก็ห้องสมุดจะปิดทำการเสียแล้ว



วันนี้ก็คงเหมือนวันอื่น ๆ .... ล่ะมั้ง









“เอ่ มันน่าจะมีนะ”




เมื่อนั่งได้ซักครู่ใหญ่ นั่งฟังเพลงสบาย ๆ ทอดอารมณืในเวลาฝนตกหนักเรื่อย ๆ หยางหยางได้ยินเสียงในตกเนือง ๆ เล็ดลอดผ่านขอบหน้าต่างเข้ามาถึงในหูฟังของเขา ตกหนักไม่ใช่น้อย อาจจะต้องนั่งยาว ไปอีกซักพัก



แต่ก็มีเสียงเสียงหนึ่งแทรกเข้ามาในช่วงเวลาปกติเหมือนทุก ๆ วันของเขา หยางหยางหันไปตามเสียง เจอร่างหนึ่งกำลังก้ม ๆเงย ๆ หาหนังสือในชั้นวางชั้นล่างสุดของชั้นหนังสือที่เขานั่งชิดติด ในอีกด้านหนึ่ง



หืม...


สายตาคมกริบลองลอบมองผ่านช่องว่างระหว่างหนังสือ เขาเห็นเพียงแค่เรือนผมสีน้ำตาลและแก้มเนียนใสเพียงแค่นั้น หยางหยางเบิกตาเล็กน้อย เมื่อร่างนั้น กำลังจะหันเคลื่อนและ ใบหน้าที่ลอบมองอยู่กำลังจะหันมาทางตน



หยางหยางเสหลบทัน กลับไปตั้งท่าอ่านหนังสืออะไรซักอย่างอย่างตั้งใจ เขาหยิบติดมือมาด้วย เมื่อไม่นาน





เหมือนอีกฝ่ายจะรู้แล้วว่ามีเขาอยู่อีกฝั่งของชั้นหนังสือ





ร่างนั้นเคลื่อนไหวช้า และพยายามทำให้มีเสียงดังจากตัวเขาน้อยที่สุด รื้อค้นหนังสืออย่างเบามือ หยางหยางรู้สึกขอบคุณกับความสุภาพของอีกฝ่าย





“ขอบคุณครับ”
“ขอโทษด้วยนะฮะที่รบกวน แต่ผมแค่มาหาหนังสือที่แอบไว้น่ะ”






ร่างนั้นบอกจุดประสงค์ที่มาในห้องสมุดและก้มๆ เงยๆ ตรงชั้นหนังสือล็อคนี้  หยางหยางเพิ่งได้สังเกตอย่างจริงจังว่า นี่เป็นชั้นวางหนังสือประเภทการทำอาหาร หรือสอนทำขนม หรือการเข้าครัวแบบอื่น ๆ อย่างที่เขาไม่ค่อยถนัดนัก






หยางหยางพลันคิดอะไรออก

เขาก็ไม่ได้รีบไปไหน และว่างอยู่

สุดท้ายแล้ว เขารู้สึกสนใจ เจ้าของเรือนผมสีสวยและแก้มใส ๆ นั่นแล้ว





“ให้ผมช่วยหามั้ย”
“ไม่เป็นไรครับ เกรงใจคุณจัง”
“ผมว่างอยู่”
“แต่เมื่อกี้ดูเหมือน..ผมเห็นคุณตั้งใจอ่านหนังสือมาก แอบเห็นผ่านช่องระหว่างหนังสือนี่ล่ะ”
“ที่จริงอ่านไม่เข้าใจเลยล่ะ มันเป็นหนังสือสอนทำขนม อ่านไปก็งง ไม่มีเซนส์เลย”
“อ๋อ”


อีกคำรับคำเสียงใสแต่แผ่วเบาหน่อยเพราะอยู่ในห้องสมุด หยางหยางเปลี่ยนท่านั่งจากหันหลังพิงผนังที่ชิดติด มาเป็นนั่งขัดสมาธิหันหน้าไปทางชั้นหนังสือ ซึ่งดูเหมือนว่าเขาจะนั่งตรงกันข้ามกับร่างเจ้าของเรือนผมสีน้ำตาลคนนั้นพอดี



“ผมกำลังหาหนังสือทำขนมเค้กและพาย ชื่อหรามาก ที่จริงมันหาง่ายแต่คุณบรรณารักษ์คงเปลี่ยนวางที่ผมแอบไปเสียแล้ว”
“ชื่อนั้นใช่มั้ย งั้นผมจะช่วยหา”


หยางหยางลงมือช่วยอีกคน ปลายนิ้วเรียวของเขาแตะที่สันหนังสือและสะกิดมันข้ามไปอีกข้างหากมันไม่ใช่เล่มที่ต้องการ ระหว่างนั้นเขาใช้สายตาลอบมองอีกฝ่ายตรงกันข้ามไปด้วย


และบังเอิญได้เห็นและสบสายตากับดวงตาคู่นั้น โดยเจ้าของเป็นคนเดียวกับเรือนผมสีน้ำตาลและแก้มเนียนใส



เป็นดวงตาคู่หนึ่งที่น่ารักที่สุด ซุกซน ดู..ขี้เล่น และกลับมาตรงคำว่าน่ารักอีกครั้ง



“สวัสดี ขอบคุณอีกครั้งนะฮะที่ช่วย”
“ก็บอกแล้วว่าผมว่าง”


หยางหยางรับคำทักทายและบอกไปตามเดิมว่าว่าง และหลบสายตาอีกฝ่ายไปหาหนังสืออย่างตั้งใจอีกครั้ง เขารู้สึกเขินขึ้นมาเมื่อต้องสบตากับดวงตาน่ารักซุกซนแบบนั้นเกินสามวินาที  ภายหลังที่ได้สบตา ก็ทันได้พิจารณาส่วนอื่น อย่างเช่น จมุกโด่งรั้น ก็น่ารักอีก แต่เขาก็เห็นเพียงแค่นั้น เพราะส่วนที่เหลือโดนหนังสือบนชั้นบังเอาไว้



อยากเห็นใบหน้าชัด ๆ ของอีกฝ่าย ..หย่างจึงตระเตรียมสถานการณ์เล็กน้อย




“อืม..หายากแบบนี้ ถามคุณบรรณารักษ์มั้ย”
“ก็ดีนะ คุณจะได้ไม่เสียเวลา”
“ย้ำอีกครั้ง ว่าผมว่าง”
“โอเค รู้แล้ว รู้แล้วครับ”


เสียงใสกลั้วหัวเราะ เพราะหยางหยางย้ำถึงสามครั้ง แต่ไม่ทันที่จะไปถามคุรบรรณารักษ์ หยางหยางก็แสร้งทำเป็นว่าคุณบรรณารักษ์ไม่อยู่ คุณบรรณารักษ์นั่นก็เพื่อนเขา เขาไล่เพื่อนออกไปนอกห้องสมุด กดข้อความไปหาพวกนั้นบอกว่าไปข้างนอกซักพักจะดูห้องสมุดให้ เพื่อนเขางงว่าอะไรที่จะทำให้เขามาทำแบบนั้น




หยางหยางบอกว่าวันนี้จะขอเป็นบรรณารักษ์ห้องสมุดซักวัน เพราะวันนี้เขาอารมณ์ดี






เพื่อน ๆของหยางหยางก็ทำตามที่หยางหยางขอร้องออกไปนอกสมุดครู่หนึ่ง ซึ่งเขาติดสินบนเป็นไอศกรีมเซตใหญ่ที่จะเลี้ยงภายหลัง พ้นจากนั้น หยางหยางก็กลับมาที่ล็อคชั้นวางหนังสือเดิม




“คุณครับ คุณบรรณารักษ์ไปซะแล้วล่ะ “
“อ้าว แย่แฮะ แบบนี้ก็ผมก็ต้องหาจนเจอให้ได้ด้วยตัวเอง..และมีคุณช่วยหาด้วย”
“แบบนั้นก็ไม่เลวนะครับ”





หยางหยางนั่งลงตรงที่เดิมและใช้นิ้วแหวก สะกิดสันหนังสือ ไล่ดูหนังสือไปทีละเล่มเช่นเดิม แต่เขาทำอย่างเชื่องช้า และใช้โอกาสระหว่างช่องว่างของหนังสือ ลอบมองอีกฝ่ายอีกครั้ง





ดวงตาคู่นั้นก็ได้สบตาแล้ว แก้มใสก็ได้มอง จมูกโด่งรั้นนั่นก็ได้พิจารณาแล้ว เรือนผมสีสวยก็ได้เห็นชัด อยากเห็นส่วนริมฝีปาก เพราะจะได้ครบเกือบทุกส่นของใบหน้าอีกคน




นั่นไง...อย่างที่คิด





และเขาได้เห็น...หยางหยางคิดใจร้ายตรงที่ว่าเมื่อเห็นริมฝีปากน่ารักนั้นเข้า ก็คิดอยากจูบให้ปากน่ารักนั่นบวมซักสามสี่นาที หยางหยางลอบยิ้มกับตัวเอง เขาตีหัวตัวเองให้หายบ้า และช่วยเขาหาหนังสือต่อไป





“เฮ้อ มีคนหยิบไปแล้วแน่เลยอ่ะ”
“แย่เลย หนังสือนั่นสำคัญมากเลยหรอ”






อีกคนหยุดคิดไปพักหนึ่งก็ตอบกลับมาเสียงแผ่วลงกว่าเดิม



“จะเอาไปใช้เป็นไกด์ทำเค้กเเยมส้ม จะให้คนที่ชอบน่ะ ได้ข่าวว่าคนคนนั้นชอบกินส้ม”




หยางหยางรู้สึกหน่วงในใจไปครู่หนึ่งที่อีกฝ่ายบอกว่ามีคนที่ชอบ และแถมยังจะหาหนังสือเล่มนี้ที่เขาช่วยไปทำเค้กให้เขาอีก ก็เกิดรู้สึกไม่สบอารมณ์ขึ้นมาดื้อ ๆ





“งั้น ผมไปตามคุณบรรณารักษ์ให้อีกที”





เขารู้สึกหน่วงใจมาก  จนไม่อยากยืดยื้อเวลาแล้ว เขาจึงขยับตัวลุกขึ้นจากที่นั่งเดิม อีกฝ่ายไม่ได้ห้ามอะไร















เอ๊ะ?






เขาใช้สายตาคมกริบนั่นลอบมองอีกฝ่ายอีกครั้ง







หนังสือที่อยากได้ ดันอยู่บนตักของอีกฝ่ายแล้ว ...แล้วมันยังไงกันล่ะเนี่ย









“เอ่อ...นี่คุณ...”
“ฮะ?”






หยางหยางไม่รู้จะถามอย่างไรดี เขาทรุดนั่งลงที่เดิม และแหวกหนังสือให้กว้างหน่อยเป็นช่องว่างให้พอได้เห็นหน้าคุยกันได้ กับอีกฝ่าย






น่ารักเป็นบ้า...








ดวงตากลมโตน่ารักและดูซุกซน ริมฝีปากน่ารักน่าจูบ จมูกโด่งรั้น แก้มใส ๆ รวมกันทุกอย่างอยู่บนใบหน้านี้ น่ารักสุดยอด





หยางหยางอึ้งไปชั่วครู่หนึ่ง อีกฝ่ายก็ยอมยื่นใบหน้ามาให้เขาเห็นเต็มตาเสียที อีกฝ่ายก็ดูอึ้งที่หยางหยางทำแบบนี้ แต่อีกฝ่ายอมยิ้มแก้มตุ่ย ดูขัดเขินที่เห็นหน้าเขา






“เห็นแล้วล่ะสิ”







ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป เพราะยังตื่นตะลึงกับความน่ารักของคนตรงหน้าในระยะใกล้มากอยู่ ชั้นวางหนังสือนี้ไม่ได้กว้างเท่าไหร่เลย อีกคนใช้แขนท้าวคาง ทำแบบนี้ยิ่งน่ารักกันเข้าไปใหญ่ หยางหยางกลายเป็นคนเขินอีกฝ่ายเสียเอง







“ได้ข่าวว่าคุณชอบส้ม ก็เลยมาหาวิธีเอาชนะใจคนกินส้มเก่งแบบคุณดู คุณชอบกินส้ม งั้นเป็นเค้กแยมส้มดีมั้ยฮะ”



โดนถามตรง ๆด้วยน้ำเสียงและท่าทางน่ารัก และใบหน้าน่ารักของอีกฝ่าย เขาพอจะนึกออกแล้วว่าอีกคนเป็นใคร







หลี่อี้เฟิง คนน่ารักของชมรมคหกรรมที่เลื่องลือ 








หยางหยางยังไม่เคยเห็นหน้าแต่เคยกินขนมของคน่ารักคนนี้ที่เพื่อนเอามาให้ชิมอยู่บ่อยครั้งและก็ชอบใจอยู่ไม่น้อยกับขนมของอีกฝ่ายแต่จริงๆ แล้ว หยางหยางไม่ค่อยชอบกินของหวานเท่าไหร่



แต่ตอนนี้คงเปลี่ยนใจเป็นตลอดกาลเลย



“ส้มชอบนานแล้วครับ กินบ่อยเลย แต่ตอนนี้อาจจะชอบมากขึ้นไปอีก เค้กแยมส้มก็ไม่เลวนะ “





หยางหยางให้คำตอบกับคนน่ารักที่ยังท้าวคางมองหน้าเขา คนน่ารักคนนี้คิดว่าเขาคงอยู่รู้จักอีกฝ่ายอยู่แล้ว เลยไม่พยายามจะแนะนำตัวอะไร แต่เอาแต่ยิ้มสวยหวานส่งมาให้หยางหยางหัวใจจะวายตายอยู่แล้ว




“คนทำขนมหวานเขายิ้มหวานเหมือนขนมทุกคนมั้ย”
“ไม่รู้หรอก แต่ถ้าถามถึงแค่ผมคนเดียวก็คงต้องถามคุณล่ะ ว่าเป็นอย่างนั้นหรือเปล่า”




อีกฝ่ายก็ต้องรู้จักหยางหยางอย่างแน่นอน เจ้าเล่ห์แสนกลนัก ให้หากันอยู่ตั้งนาน แต่ที่จริงคนน่ารักมีมันอยู่บนตักแล้วต่างหาก เป็นทริคที่น่ารักน่าหยอกไม่น้อย และกล้าเขาหาเขา ในขณะที่คนอื่นได้แค่มอง โดนรุกหนักขนาดนี้หยางหยางจึงยิ่งรู้สึกสนใจคนคนนี้ไม่น้อย แต่ไม่คิดเหมือนกันว่าคนที่เลื่องลือขนาดนั้นจะมาชอบเขา รู้สึกเป็นแจ็คพอตในระดับนึงเลยทีเดียว





“ผมมั่นใจว่าคุณจะชอบของหวานมากขึ้นแน่นอน”





อีกฝ่ายตอบกลับมา ท่าทางข้อมูลจะแน่นมาก หยางหยางคิดว่าอีกฝ่ายคงจะรู้เรื่องที่เขาไม่ชอบของหวานด้วย แต่ก็ยังจะทำเค้กมาให้
เเละแบบนั้นคงรู้ว่าเขาชอบใจขนมของอีกฝ่าย เพราะหยางหยางเคยเอ่ยชมและเคยบอกให้เอาคำชมนี้ไปฝากคนทำด้วย





“คุณหยางหยาง”
“ครับ”
“ไว้จะเอาเค้กฝากไปให้อีกนะ  ตอนแรกไม่รู้ว่าคุณไม่ชอบของหวานแต่คุณกินขนมของผมก็เริ่มชอบใช่มั้ยล่ะ”
“ก็ถูกครับ”
“ผมจะทำให้คุณตกหลุมรักเลยล่ะ”






หยางหยางยิ้มกับประโยคน่ารักนั่น ช่างพูดเหลือเกิน ริมฝีปากนั่นยังคงส่งยิ้มให้อยู่ ตอนนี้ใส่ความซุกซนทางแววตามาอีกนิดหน่อย





หยางหยางต้องตายแน่ ๆ





“ตกหลุมรักนี่? ผมจะตกหลุมรักขนมหรือคุณ”
“ก็ต้องทั้งสองอย่างเลย”





ยิ้มส่งให้อีกแล้ว หยางหยางยอมแพ้ เขาก้มหลบสายตาซุกซนนั้นด้วย ยกมือบอกยอมอีกคนเสียงเบา อีกฝ่ายยิ้มสดใสน่ารักกว่าเดิม




“คุณหยางหยาง~~~~
“ยอมแล้ว หยุดยิ้มแบบนั้นก่อน ผมจะตายเอา”





อี้เฟิงหัวเราะร่าแต่เสียงดังในระดับได้ยินกันแค่สองคนที่นั่งกันข้ามชั้นหนังสือ

ทำให้คุณหยางหยางที่แอบชอบมานานยกธงขาวได้แล้ว ที่จริงอี้เฟิงคนนี้แอบฃอบเขาอยู่นานสองนาน แต่ถ้าจะเข้าจีบก็ต้องใช้ความเป็นตัวเองน่าจะดีและถนัดที่สุด





แม้ไม่หวังว่าจะสำเร็จแค่ได้ทำ แต่ผลที่ได้ดีไม่น้อย




ที่จริงไอ้เรื่องยิ้มสวยๆหวานๆ นี่ก็ให้เพื่อนช่วยฝึกให้นั่นล่ะ


จะจีบหนุ่มฮ่ตก็ต้องมีทริคนิดหน่อย


รวมทั้งเรื่องบังเอิญหาหนังสือไม่เจอนนี่ด้วย


ผลที่ได้ ยอดเยี่ยม ร้อยเปอร์เซนต์






“เอาของหวานทั้งโลกมาส่งให้ผมเลย ถ้าเป็นคุณทำผมจะกินทุกอย่าง คุณหลี่อี้เฟิง”






หยางหยางยกธงยอมแพ้ ของหวานทั้งโลกต้องส่งตรงมาที่เขาแน่นอน
หลี่อี้เฟิงยิ้มส่งให้ไป ท่าทางดูดีใจที่ชนะใจได้






โอเค ยอมแพ้ ใครจะทนความน่ารักที่หวานกว่าขนมหวานที่เขาทำได้ล่ะ


“พรุ่งนี้เป็นเค้กส้มนะ”
“ครับ ๆ ได้”
“พรุ่งนี้ก็คุกกี้นม”
“ก็ได้อีก”
“อีกวัน..อืม ค่อยว่ากันแต่จะส่งไปให้ตลอดเลย”
“แต่มีข้อแม้ว่าคุณต้องมาเองนะคุณอี้เฟิง”





มือของอีกฝายยื่นมาใกล้ใบหน้าของหยางหยาง ดูเหมือนช่างใจอยู่ครู่หนึ่งก่อนจิ้มที่แก้มหยางหยางอย่างนึกสนุก





“กินแล้วแปรงฟันด้วยนะ คุณหยางหยาง เดี๋ยวฟันผุ เพราะขนมที่ผมทำและไปส่งเองจะหวานกว่าปกติล้านเท่าเลย”





และเสียงหัวเราะก็ดังกว่าปกติ เพราะเป็นเสียงประสานของทั้งสองคน อาจารย์บรรณารักษ์เข้ามาได้ยินพอดี พวกเขาโดนดุเสียอย่างนั้น ก่อนหันมายิ้มให้กัน





หยางหยางชอบห้องสมุดวันนี้มากเลย
ฝนตกก็ไม่ได้เลวร้าย มีเรื่องดี ๆ
ได้กินขนมฟรี แถมได้คนให้จีบด้วย..ที่จริงต้องเรียกว่าที่แฟน





“สวัสดีครับ อย่างเป็นทางการ ผม...หยางหยาง”
“ยินดีที่ได้คุยกันใกล้ขนาดนี้เช่นกัน คุณหยางหยาง ผม...หลี่อี้เฟิง”









หยางหยางมองใบหน้าน่ารักและคิดพร้อม ยิ้มเขาหวานกว่าเค้กส้มอีกล่ะมั้ง






*********************************************************


1 ความคิดเห็น:

  1. ไม่ทนกับความน่ารักนี้ จับฟัดแทนได้ไหม :D
    เนื้อเรื่องอิ่มมากในตอนเดียว อ่านแล้วอยากกินเค้กส้มด้วยเลย
    ชอบตอนเรียกชื่อหยางหยางมากๆ เขินแทนหยางเลยบอกตรงๆ

    ตอบลบ