TITLE :
[Fic] THIS MAN
CHAPTER : 5 ‘คนคนนี้ต้องตอบโต้’
CHAPTER : 5 ‘คนคนนี้ต้องตอบโต้’
PAIRING
: YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG -15
TELL: ยิ้มก่อนอ่าน ตาหวานก่อนเปิด อ่านจบแล้วไปด่า(หยาง ห้ามด่าเกอนะ)ได้ที่เแทก #ดิสแมน หรือเมนท์ข้างล่าง หรือจะเมนชั่นก็ได้ @deathberryxxx
RATE : PG -15
TELL: ยิ้มก่อนอ่าน ตาหวานก่อนเปิด อ่านจบแล้วไปด่า(หยาง ห้ามด่าเกอนะ)ได้ที่เแทก #ดิสแมน หรือเมนท์ข้างล่าง หรือจะเมนชั่นก็ได้ @deathberryxxx
**************************************************************************
“เอาล่ะทุกคน พักครู่หนึ่ง แยกย้ายได้!”
วันนี้เป็นวันถ่ายทำอีกวันที่หนักหน่วง
เพราะทั้งต้องเดินในป่า เข้าหลุม ลงดิน เนื้อตัวมอมแมมกันมาทุกคน
อี้เฟิงที่ยังคงปวดระบมไปทั้งตัว แถมยังโดนซ้ำ'ทำแบบนั้น' อีกครั้งเมื่อจากวันนั้น ด้วยกิจกรรมที่แม้ใจเขาไม่อยากรับเลยแต่ก็ถูกประทานให้จากซาตาน...
"อะ..โอ๊ย"
นั่นปะไร...ซาตาน..ไอ้สารเลว...หยางหยางนั่น
พอลับหลังตาคน
หมอนั่นก็จะกลายเป็นคนที่ทุกคนเข้าไม่ถึงแต่อี้เฟิงรู้ว่าคนคนนี้ร้ายกาจแค่นั้น
เลวทรามต่ำช้าแค่ไหน
คนที่เกลียดกันก็มักจะรู้เข้าใจว่าอีกฝ่ายเกลียด
และเขาก็เกลียดคนคนนี้ไม่ต่างกันหรอก
หยางหยางต่อหน้าเป็นน้องชายน้อย..แสร้งทำตัวเองให้เข้ากับทุกคน
และยิ่งก่อนหน้านี้ที่เขามีข่าวฉาว และด้วยความอ่อนวัยกว่าคน ๆ อื่น
นั่นทำให้เขาได้รับคำปลอบใจจากหลายคนในกองนี้ คนในกองไม่รู้ซะด้วยซ้ำว่านั่นกำลังพูดกับคนผิดคนแท้
ๆ คนที่โดนปลอบที่จริงมันควรเป็นอี้เฟิง แต่ครั้งนี้จะพูดอะไรมากไม่ได้
นั่นเพราะหากความจริงถูกเปิดเผยว่าเรื่องราวที่แท้จริงมันเป็นอย่าง
ความเลวร้ายที่จะเกิดขึ้น อาจกลับตาลปัตรมาทางเขา สายตาทุกคนจะเปลี่ยนไป แน่นอน
ปีศาจคนนี้ไม่กลัวสายตาแบบนั้น เขารู้แต่เขาที่เป็นคนละฝ่ายจะแปดเปื้อนไม่ได้
คนที่เป็นเทพบุตรจะชินชากับความชั่วร้ายได้อย่างไรกัน
แต่เขาก็จำยอมเเกล้งทำ ต้องมานั่งปลอบเจ้าคนเลวนั่นจากข่าวฉาวที่อี้เฟิงสร้างขึ้นเองกับคนอื่น เพราะจำเป็นต้องสร้างภาพลักษณ์ที่ดี แน่นอนอีกฝ่ายก็ทำเป็นยิ้มรับ
ทำตัวเป็นน้องชายน้อยแต่สายตาที่ส่งมาทางอี้เฟิง มีความเกลียดเต็มเปี่ยมถูกส่งมาให้
ฮึ
..
ฉันไม่ได้สะท้านอะไรหรอกนะ ถูกปีศาจอย่างนายเกลียดมันก็ถูกต้องตามกฏของธรรมชาติ
เทพบุตรอย่างฉันก็ไม่ได้พิศวาสนายเหมือนกัน
หยางหยางเสหันไปมองอีกคนที่ทำตัวมาปลอบใจเขากับเรื่องราวที่เกิดขึ้น
เห็นแล้วอยากจับโยนลงหลุมดินตรงนั้นแล้วฝังคุณเทพบุตรไว้เสียจริง
ๆ
ใบหน้าหล่อเหลาฝืนยิ้มให้เจ้าคนหลอกลวงนี้
พร้อมทั้งยกมือโอบคอเสียด้วย ให้ยิ่งดูเหมือนว่าสนิทกัน อย่างน้อยก็ต้องสร้างภาพเป็นคู่ที่น่ารักพี่น้องที่สนิทสนมต่อหน้าคนในกอง
เพราะอย่างไร นี่หลี่อี้เฟิงก็เป็นคนร่วมค่ายและเบื้องบนก็บอกว่า ต้องสนิท
และจำเป็นมาก เพื่อชื่อเสียงของเขา จะดีหรือไม่ดีก็จำเป็นต้องให้มีข่าวคู่กับหลี่อี้เฟิงไว้
เพื่อปั่นกระแสของหยางหยางเอง
สะอิดสะเอียด..จะบอกว่าให้เขายืมชื่อเสียงเจ้าคนหลอกลวงนี่น่ะหรือ
แต่เขาก็อดทนและยอมรับความจริงข้อนี้ไว้..เขามาก่อนในวงการและมีที่ยืนมากกว่า
พื้นที่คนหลอกลวง เสแสร้งนี่มีมากกว่า
อย่างไรหยางหยางก็พอมีแผนการที่จะจัดการความเกลียดชังให้ลงกับอีกฝ่ายได้จดจำอยู่แล้ว
เขายังมีรูปนั้นอยู่ในมือ
..แม้มือถือเครื่องนั้นพังไปแล้ว แต่เขามีรูปสำรองอยู่ในมือถือที่ซ่อนไว้อีกเครื่อง
มันเป็นแผนการเผื่อสำรอง
และสุดท้ายเขาก็ได้ใช้มันจริง ๆ
เหตุการณ์ไม่คาดฝันที่พี่สาวผู้จัดการของเขามาพบเข้า เขาคงไม่ปลออยมันออกไปหรอก
ดูหนทางแล้ว เขาก็น่าจะเสียหายกว่า เลยเก็บมันไว้และเล่นเกมส์กับคนในรูปนั้น
เทพบุตรหรือ?.... หยางหยางจะดึงลงให้ตกจากสวรรค์ อยากลองแปดเปื้อนซักหน่อยมั้ย ?
“อี้เฟิงนี่มันน่าเอ็นดูจริง ๆน่ะล่ะ หมั่นเขี้ยวมันจริง ๆ “
“พี่ก็พูดไปหน่า”
“แหน่ะ ยิ้ม ฉันรู้นะแกชอบให้คนอื่นชม”
“รู้อีกอ่ะ”
“ใช่มั้ยหยางหยาง รุ่นพี่แกน่ะ มันร้าย น่ารักเกินไป
ทั้งกองหลงจนจะเป็นแม่ยกแกทั้งกองแล้วอี้เฟิง สู้กับหยางหยางเลยนะ หน้าหล่อ
ๆกับหน้าอ้อนๆของแกใครจะกวาดแม่ยกไปมากกว่ากันล่ะ อี้เฟิง หยางหยาง”
หยางหยางหันไปมองรุ่นพี่ทุกคนในทีมนักแสดงด้วยกันต่างพูดคุยเฮฮา
กับคนคนนี้และเอ็นดูรักใคร่าเพราะการออดอ้อนเอาใจ พูดจาเสแสร้ง
สร้างภาพพจน์สวยงามให้กับตัวเอง เห็นแล้วเขาก็แทบเบือนหน้าหนี
แต่จำต้องยิ้มและเอ่ยชมตามคนอื่นไปด้วย
เขาแทบกลืนคำนั้นลงคอไปเมื่อคิดว่าตัวเองเกลียดคนคนี้แค่ไหนแต่ก็ต้องพูดดออกมา
“เฟิงเกอนี่เป็นคนน่ารักสดใสดีนะครับ ผมแพ้เขาแน่ ๆ ถึงผมจะหล่อก็เถอะ”
“แน่นอน!”
หยางหยางพูดพร้อมกลั้วหัวเราะไปด้วย
แสร้งเอาใจทุกคนในวงสนทนา
อี้เฟิงฝ่ายแสดงกิริยาน่ารักน่าชังจนรุ่นพี่และทีมงานเอ่ยชม และแสดงว่าความเอ็นดูกันขึ้นมาเป็นอีกเท่าทวี
คอยดูแลกันมากยิ่งขึ้นไปอีก แถมยังมาบอกว่า
เพราะบทของหยางหยางส่งให้ต้องดูแลหลี่อี้เฟิงคนนี้
ไม่อยากเข้าใกล้ด้วยซ้ำแต่ต้องดูเเล เขาแทบไม่อยากคิดถึงหลังจากนี้ ต้องเข้าฉาก และแตะต้องเนื้อตัวกันมากมาย
หยางหยางก็เบื่อเต็มที แต่ก็อาจจะใช้โอกาสนี้คอยแกล้งอีกฝ่ายให้สนุกได้
ให้นึกถึงตอนที่เขามีกิจกรรมสนุก ๆ กับหลี่อี้เฟิงคนนี้มาสามครั้ง
สนุกไม่น้อยทีเดียว
“ครับ ๆ ในเรื่องผมก็เหมือนบอดี้การ์ดเฟิงเกอนี่ นอกเรื่องก็จะช่วยดูแล
ก็ไม่หนักหนาอะไร”
“ต้องงั้นซี่ พวกแกจะได้มีเพื่อนในวงการกันบ้าง ทำงานกันแทบตาย
มีเพื่อนไว้เล่นสนุก คอยไปพูดคุยกันบ้างก็ดี อย่าให้เหมือนพวกรุ่นพี่เลย
แก่งแย่งชิงดีกันจนบางคนแทบเข้าหน้ากันไมได้แต่ต้องเจียดยิ้มให้เพราะไม่อยากเป็นข่าวเสีย”
ทั้งหยางหยางและอี้เฟิง
ยิ้มเยียดออกมาพร้อมกันกกลางวงสนทนา
เหมือนรุ่นพี่นักแสดงคนนี้พูดตรงใจพวกเขาสองคนเหลือเกิน
เสียดแทงใจของแต่ละคนจนแทบสำลักกันทั้งคู่
อี้เฟิงไหวไหล่
ก่อนเสหน้าหวานและยิ้มเพียงเบาบาง หันไปมองทางอื่น หยางหยางก้มหน้ายิ้มแบบเเค่น ๆ แกน ๆ ออกมาเช่นกัน
ต่างคนต่างบอกกับใจตัวเองว่านั่นล่ะพวกเขา
เกลียดกันจนอยากหนีแต่สุดท้ายก็ต้องมาเจอกัน ไม่เว้นแม้ในแรงกิ้งชาร์ตต่าง ๆ
ชื่อของพวกเขายังอยู่ใกล้กัน เป็นข่าวกอสสิบเรื่องความสัมพันธ์
สุดท้ายก็ต้องแสร้งว่าไม่มีอะไรมากไม่เคยทะเลาะกัน เป็นเพื่อนทีดีต่อกัน
ถ้าทำได้ก็อยากเป็นเส้นขนานไม่อยากจะมาบรรจบกันเลยด้วยซ้ำ
แต่นี่เส้นกลับมาผูกพันกันจนทับไปทับมา แก้เงื่อนที่พิฆาตอยู่นี่ออกไม่ได้
“นี่ก็น้องผมหน่า ผมก็ต้องดูแลน้อง”
“ขอบคุณครับเฟิงเกอ ผมเองก็ดูแลพีได้หน่า จะห่วงอะไร”
ต่างคนต่างพูดดีใส่ต่อหน้า
เจียดยิ้มที่คิดว่าสวยงามและดูดีที่สุดส่งให้ไป อี้เฟิงคิดอยากสาดน้ำในแก้วใส่หน้ากับการปั้นหน้าของหยางหยางยิ้มนี้มันซาตานกว่าที่คิดไว้มาก
น่ารังเกียจ หยางหยางเองก็ไม่ยอมกันในความคิด
เห็นแล้วเขาอยากจะรอยยิ้มหวานของจอมหลอกลวงคนนี้แหยเกกลายเป็นใบหน้าที่หวาดกลัวเขา
นึกถึงตอนที่มีกิจกรรมร่วมกันมา
ทั้งงกิจกรรมที่สร้างความเจ็บปวดให้อีกฝ่ายที่ส่งผ่านสายตาและการสื่อสารทุกทางมายังหยางหยางโดยหลี่อี้เฟิง
ความเกลียดชังที่หยางหยางสัมผัสได้
เขาไมได้อยากถูกใครเกลียดแต่ถ้ามาจากหลี่อี้เฟิง ยิ่งมากก็ยิ่งดี
นั่นทำให้เขาลงมือทำร้ายอีกฝ่ายให้เจ็บปวดได้ง่ายขึ้น อีกฝ่ายก็จ้องจะหาหนทางกำจัดเขาออกไปเหมือนกัน
มันก็พอกัน
อี้เฟิงมองเห็นแววตา...มันมีบางอย่างที่อี้เฟิงรู้สึกว่า
ซาตานถูกความมืดครอบงำอีกครั้งหลังจากพายุเพิ่งสงบไปได้ไม่นาน
ความเจ็บปวดที่เขาได้รับยังไม่คลายด้วยซ้ำ
อี้เฟิงจะทำอย่างไรหากมีอะไรแบบนั้นเกิดขึ้นอีก
เขาเกลียดการวิ่งหนี
แต่เขาที่บางทีก็โต้ตอบคนคนนี้ได้ไม่เท่ากับความเกลียดที่มี
จนตอนนี้เขายังคิดหาวิธีไม่ออกด้วยซ้ำ
นี่จะมีการต่อสุ้รอบใหม่อีกแล้วหรือนี่
ความชั่วร้ายเกิดขึ้นได้ง่ายจริง
ๆ
THISMAN
“อี้เฟิง นายดูกังวลนะ”
เจ้าของชื่อหันไปตามเสียงร้องทักที่เป็นของรุ่นพี่
เขากังวลฉากนี้เล้กน้อย ต้องลงดิน และปีนป่ายที่สูง
เขาเองก็ไม่ค่อยถูกกับของแบบนี้นัก
และกังวลแววตาที่เยี่ยงปีสาจอขงหยางที่พร้อมจะโจมตีเขาตลอดเวลา
กลายเป็นคนขี้ระแวงไปแล้ว อี้เฟิง
“ไม่เป็นไรหยางหยางอยู่ในซีนนั้นด้วย นายปลอดภัยอยู่แล้ว”
อี้เฟิงหันไปหาคนที่พูด เขายิ้มแกน ๆ รับ หมอนั่นน่ากลัวกว่าความสูงของหน้าผานี่เสียอีก
จนในที่สุดเขาก็ได้เขาฉากถ่ายฉากนี้กับหยางหยาง
เขาต้องตกลงจากหน้าผาจำลอง และอีกฝ่ายลงมารับ อี้เฟิงลองทำใจอยู่ซักพัก
ผู้กำกับส่งเสียงมาบอกว่า พร้อมแล้วก็ให้เขาเริ่มได้เลย
เขาหันมองอีกคนคนนี้
ที่ยืนอยู่ด้วยกันไม่ไกล เขาต้องถอดเสื้อผ้า โชว์ส่วนบนของร่างกาย
อี้เฟิงยังเห็นรอยเล็บของเขาบนหลังคนคนนี้จาง ๆ
เมื่อได้คิดว่ามันเกิดขึ้นตอนไหนก็พลันหน้าแดงขึ้นมาจนต้องเสหลบไป
หยางหยางที่เห็นเขาอยู่ก่อนหน้าก็เผยยิ้มย่ามใจ อี้เฟิงรู้ว่าอีกฝ่ายคิดบ้าบออะไรอีแต่อี้เฟิงไม่สนใจ
แถมยิ่งหมั่นไส้ยิ่งขึ้นไปอีก
เกลียดนักไอ้ยิ้มแบบนั้น
อี้เฟิงคิด และเขาอยากทำให้คนคนนี้เจ็บบ้าง
...อาการเจ็บหนึบตรงสะโพกของอี้เฟิงไม่ได้จางหายไปจนสนิท
ยังหาทางทำให้เจ็บด้วยวิธีอื่นไมได้
งั้นจะทำให้เจ็บทางกายก่อนแล้วกัน
“อี้เฟิง โอเคนะ เอ้าเริ่ม “
ผุ้กำกับสั่งแอคชั่น
อี้เฟิงเอนตัวเองตกจนผาจำลอง ซึ่งตามบทคือหยางหยางต้องโหนสลิงค์ลงมาคว้าตัวเขาไว้
อี้เฟิงคิดอะไรรายกาจขึ้นมา
ถ้าไม่ใช่หยางหยางเขาจะไม่มีวันคิดอะไรร้ายกาจกับผู้อื่นแบบนี้
“เห้ย หยางหยาง เป็นยังบ้าง ไปดูอาการน้องมันหน่อย ๆ อี้เฟิงด้วย
เป็นยังไงบ้าง”
ทีมงานรี่ตรงไปหาหยางหยาง
หลี่อี้เฟิงที่เสแสร้งทำเป็นผิดจังหวะตกใจ และสะดุดตรงริมหน้าผาจำลอง
และทำให้มาพลาดพลั้งผลักหยางหยางให้พลาดร่วงตกลงมาตรงขอบหน้าผาจำลองนั้น ตอนนี้เขาเกาะขอบหน้าผาไว้
กันไม่ให้ตัวเองร่วงหล่นลงสู่พื้น
“อ๊ะ หยางหยางขอโทษ ยื่นอีกมือมาเดี่ยวเกอช่วย”
แสร้งทำเป็นพูดดีทั้งที่ลงมีทำร้ายกาจแบบนี้เอง
หยางหยางโชคดีที่เป็นคนร่างกายแข็งแรงและมีศิลปะป้องกันตัวที่พอถูไถทำให้คล่องตัวและคว้าอะไรได้ทัน
แต่ผานี้ก็ลื่นและมือของเขาก็ชุ่มเหงื่อไปหมดแม้อากาศในที่ถ่ายทำจะหนาว
เพราะความเหน็ดเหนื่อยจนเหงื่อออกชุ่มกาย
หลี่อี้เฟิงที่แกล้งทำคุกเข่าตรงหน้าเขา
ปากบอกห่วงแต่ยิ้มนั้นที่ส่งมา ทำเอาเขาอยากคว้าให้อีกคนร่วงหล่นลงมาด้วย
แต่ไม่ทัน
เขาร่วงหล่นลงไปก่อน
ไปพร้อมกับภาพสุดท้ายที่เห็นรอยยิ้มจากใบหน้าที่เย้ยหยัน หลี่อี้เฟิงสาสมและสะใจกับการกระทำของตัวเอง
"หยางหยาง!"
หยางหยางหล่นลงไปตรงพื้นด้านล่าง
เขาเจ็บพอตัวแต่ไม่เยอะนักเพราะทรงตัวไว้ได้
ต้องขอบคุณสลิงค์อันแข็งแรงของกองนี้ที่ทำให้เขาไม่เจ็บตัวมากไปกว่านี้ หลี่อี้เฟิงร้องตะโกนถามหยางหยาง ตีสองหน้าขอโทษขอโพยที่ทำให้เขาต้องตกลงมา
ทีมงานบอกว่า เขาเข้าใจอี้เฟิงไม่ค่อยสบาย
และอุตส่าห์มาถ่ายทำให้ได้ก็ขอบคุณมากแล้ว
“หยางหยางเป็นอะไรมั้ย”
“ไม่ครับ ผมโอเค”
“พี่ว่านายไปพักก่อนดีกว่า "
ทีมงานต้องจัดการปลดตะขอสลิงค์และดูแลมันให้ถี่ถ้วนอีกครั้ง
นั่นจึงทำให้เป็นเวลาพักของคนทั้งกองที่เริ่มถ่ายงานมาอย่างเหน็ดเหนื่อยอีกรอบ
หยางหยางเข้าไปทำแผลในห้องพักผ่อนรวมของกองโดยมีทีมงานของตัวเองช่วย
“นายโอเคนะหยางหยาง”
“ครับ ไม่เป็นไร”
“อบัติเหตุหน่า นายอย่ากลัวล่ะ ถ้าหากต้องเข้าฉากต่อไป”
พี่สาวของเธอ
มองใบหน้าไม่สบอารมณ์ของหยางหยางที่แสดงออกมา
เธอรู้ว่าน้องชาของเธอไม่พอใจที่หลี่อี้เฟิง เขาคนนนั้นอยู่ในเหตุการณ์พลาดพลั้งของหยางหยางครั้งด้วย
แต่เธอไม่รู้ความจริงอีกอย่างว่าที่จริงแล้วเจ้าคนหลอกลวงนี่ล่ะเป็นคนแกล้งเขาแต่หยางหยางไม่อยากบอก
เพราะไม่มีหลักฐานมายืนยันก็จะกลายเป็นว่าเขาพาลทำตัวเกลียดรุ่นพี่ที่ควรเคารพไปเสียอีก
แม้เธอจะรู้ว่าเขาและคนคนนี้เกลียดกันมาแค่ไหน
“เดี๋ยวพี่ไปบอกทีมงานก่อน ว่านายโอเคแล้ว จะได้เตรียมซีนต่อไป”
เธอบอกแค่นั้น
พลางตบบ่าหยางหยางให้กำลังใจและเดินออกไปพร้อมมือถือและสมุดตารางงาน
เธอพี่สาวที่ใจดีของหยางหยางเสมออย่างไรหยางหยางก็ไม่อยากเอาเรื่องหนักใจมากกว่านี้ไปให้เธอ
และหยางหยางยังอยากอยู่ในวงการนี้แข่งกับคนคนนี้ทุกทาง เพื่อเอาชนะให้ได้
“ให้ตายสิ ทำกันขนาดนี้ “
หยางหยางพ่นลมออจมูกและกดให้อารมณ์โมโหหายไป
เขาไม่อยากเอาอารมณ์แบบนี้มาแทรกการทำงานของเขาแบบใจจะอยากจัดการกับเทพบุตรนั่นใจจะขาด
หยางหยางพลันคิดถึงครั้งที่เขาได้ทำอะไร
ๆ กับคนคนนี้ กิจกรรมที่เขาใช้เป็นเครื่องระบายความแค้นไปด้วยผลพลอยคือการระบายความต้องการของเขาไปด้วย
ใบหน้าตอนอีกคนส่งเสียงบอกพอแล้ว
เจ็บแล้วนะ เสียงครางยังติดวนอยู่ในโสตประสาทของหยางหยาง ชนิดที่กำจัดออกไปได้ยาก
..อืม...จะว่าไปแล้ว หลี่อี้เฟิงคนนั้นเสียงหวานไม่น้อย .....
ที่จริงหยางหยางคิดว่าเขาคิดเกมส์ออกอีกหนึ่งเกมส์
ไว้เพื่อเล่นกับแมวน้อยที่แสร้งทำตัวหยิ่งยโส
และคิดว่าตัวเองงดงามและบริสุทธิ์ที่สุดในโลก
และความจริงคือ..เขาอยากให้ทำให้คนคนนี้คิดว่า
ความเป็นเทพบุตรของเขามันหลอกลวง เพราะคนคนนี้ก็มืดดำไม่ต่างกับเขาที่ว่ากันว่า
ว่ามาต่าง ๆ นานาว่าเป็นปีศาจ
THISMAN
“เราแกล้งแรงไปรึเปล่านะ? แต่สลิงค์ก็มี ฮึ
ต่อให้เป็นฉันก้ไม่มีทางเจ็บตัวแบบนั้น “ อี้เฟิงพูดกับตัวเอง
ในขณะที่นั่งทอดอารมณ์สะใจกับเหตุการณืเมื่อครู่
เขารู้สมมรถภาพร่างกายของหยางหยางดีและรู้ว่าคนคนนี้มีวิชาพอตัว
เขาแกล้งแค่นั้นไม่มีทางเป็นอะไรมากไปกว่าแผลสามสี่บนตัว ซึ่งก็จริง
พอร่วงลงไปก็มีแผลแค่นั้น
แต่ก็รู้สึกว่าถ้าใครรู้ว่าเขาเป็นเหตุที่ทำให้หยางหยางต้องเซล้มลงก้คงไม่ดี
แต่เจ้าปีศาจนั่นไม่มีทางบอกใคร..ไม่สิ บอกใครก็ไม่เชื่อ เทพบุตรผู้ซื่อตรงแบบเขาจะทำใครแบบนั้นได้
ไม่ทำใครอยู่แล้วแต่นั่นยกเว้นหยางหยางไว้
... เพราะอีกฝ่ายมอบความเจ็บปวดที่อับอายให้เขา นั่นน้อยไปด้วยซ้ำ
อี้เฟิงยิ้มเยาะสะใจกับตัวเองจนพอใจจึงก้าวออกไปด้านนอก
ตรงไปยังเต้ท์ของผู้กำกับ
ตั้งใจจะเข้าไปเตรียมตัวกับทีมงานแต่ไม่ทันไรร่างก็ถูกลากเข้าไปมุมหลังเต้นท์เก็บของเต้นท์ใหญ่ประจำกองถ่ายนี้
เต้นท์นี้ไม่มีใครแน่นอนอยู่แล้ว เพราะเป็นเต้นท์ที่ไว้แค่เก็บของซึ่งเป็นทางผ่านของอี้เฟิงเป็นทางลัดไปยังเต้นท์ผู้กำกับซึ่งอี้เฟิงสงวนไว้หากมีแฟนคลับมาดักรอบถ่ายรูปเขา
ก็จะเดินผ่านทางนี้เพราะคนน้อย
ไม่ต้องพูดมากความ
เขารุ้ว่าใครลากตัวเขามา แต่อี้เฟิงก็นึกแปลกใจตัวเองที่รู้ว่าเป็นเขา
“หยางหยาง...ปล่อยฉัน”
คนคนนี้ก็ไม่พูดอะไร
แต่ทำอะไรตามใจกับร่างกายของอี้เฟิง
มือเปล่าแข็งแรงที่ถอดถุงมือประจำกายออกไปที่ได้มาจากเซตคอสตูมของละคร
ล้วงลึกได้ร่วมผ้าเข้าไปถึงส่วนอ่อนไหวของอี้เฟิง
อีกมือเขากำแน่นเหมือนถืออะไรไว้เสียซักอย่าง อี้เฟิงมองไม่ทัน จังหวะมือรูดรั้งทำให้ความต้องการอี้เฟิงถูกเรียกกลับมาโดยคนคนนี้คนเดิมอีกครั้ง
“อ๊ะ...อา..นาย... ปล่อย อื้อ... ไม่เอา ปล่อย..อ๊ะ ”
อี้เฟิงดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ
ครั้งนี้อีกครั้ง..เขาเผลอปล่อยเสียงออกไปอีกแล้วแต่ก็ดิ้นหลุดออกมาจนได้
เพราะอีกฝ่ายไมได้รัดกอดเขาไว้แน่นจนแทบหายใจไม่ออก
หยาดของเหลวสีคุ้นเคยตาหยาดติดปลายมือของอีกฝ่าย
อี้เฟิงเดินถอยหลังหนีหลังจากสะบัดวงแขนนั้นหลุด แต่ก็ถูกอีกฝ่ายรั้งไว้ด้วยมือข้างที่ถนัดซึ่งกำของบางอย่างในมือไว้แน่นแต่ก็ยังใช้ทำอย่างอื่นได้ หยางหยางฝากจูบไว้อีกครั้งที่ริมฝีปากแถมจูบวันนี้เผ็ดร้อน
หยางหยางขบริมฝีปากของอี้เฟิงจนห้อเลือด
และนิ้วมือเรียวของหยางหยางที่หลายคนเอ่ยชมซึ่งปลายนิ้วมีหยาดหยดของตัวอี้เฟิงอยู่
เขาเเตะของเหลวหยดนั้นที่ริมฝีปากของอี้เฟิง ให้ได้ลิ้มรสชาติของตัวเอง
เมื่อพอใจไอ้คนใจร้ายของอี้เฟิงก็ละจังหวะ ผลักอี้เฟิงออกจากอก อี้เฟิงที่เป็นอิสระก็หันมาจัดการกับความเรียบร้อยของตัวเอง
เขาสังเกต...มือข้างหนึ่งหยางหยางกำอะไรไว้แน่นก็ไม่รู้
แต่เขาไม่พูดอะไรเลย แค่ยิ้มและจากไป
อะไร?
แต่ก่อนจะเดินจากไปไกล
มือข้างนั้นที่ไม่ว่างเอาเสียเลยก่อนหน้านี้
โชว์บางอย่างจากมือแข็งแรงของหยางหยางให้ได้รู้ว่าเขาพกอะไรมาด้วย เจ้าปีศาจนั่นส่งยิ้มเยาะให้อี้เฟิง
ใบหน้าหล่อเหลาไม่ได้ช่วยให้อี้เฟิงรู้สึกยิ้มนั้นดูน่ามองและเป็นมิตรขึ้นเลย
มันเป็นเครื่องเล่นเพลงเครื่องสวยราคาแพง
สายตาของอี้เฟิงไมได้แย่นัก...เฃตากลมโตมองเห็นว่าหน้าจอนั้น ตั้งหมวดอัดเสียงไว้
มิน่า
เจ้าสารเลวนั่นถึงไม่พูดอะไรเลยซักคำ
เสียงร้องครางหวานฉ่ำจากการรูดรั้งความต้องการถูกบันทึกไว้ในเครื่องเล่นเพลงสีสวยราคาแพงนั่น
แม้ไม่กี่วินาที แต่ถ้าให้ใครได้ยินก็ต้องรู้กันทั่วว่านั่นเป็นเสียงของหลี่อี้เฟิง
“ไอปีศาจ ..ไอคนสารเลว”
มีไม่กี่คำที่อี้เฟิงจำมอบให้ได้
อี้เฟิงยกมือปิดปากตัวแองที่ไม่เคยรั้ง กลั้นเสียงความต้องการนั้นได้เลย
เขาพลาดไปแล้ว....
เขาต้องมานั่งกังวลกับหลักฐานชิ้นที่สองรุปถ่ายและเสียงของเขา...
ให้ตาย เขาเป็นรองลงไปอีกขั้น
อี้เฟิงจำต้องเร่งหาวิธีให้เร็วที่สุดเพื่อจัดการกับเจ้าปีศาจใจร้ายที่กระทำกับเขาไม่เว้นวรรค
แต่จะทำอย่างไร
ร่างกายเจ็บแล้วก็หายไว
ไอเลวนั่นไม่เป็นอะไร..แถมยังกลับมาแก้แค้นเขาได้ทันท่วงที
อะไรที่จะทำให้คนคนนี้รวดร้าวได้ถึงที่สุดบ้าง
********************************************************************
TBC 6
TALK :: ครึ่งแรกของเรื่องจบแล้วค่า
ครึ่งหลังจากเป็นอีกรสชาติหนึ่งแล้วนะคะ
รอเก็บกันดี ๆ
แม่แมว
คืออิชั้นยอมใจหยางค่ะ 5555555555555 คือมือถือพังแต่ยังมีรูปนั้นในมื
ตอบลบแบบแก... /มองแรง นี่จะแค้นเขาไปไหน แกได้กำไรไปตั้งกี่ทีหาาาาาาาาา
โอ้ยแต่ชอบที่บอกว่าจะดึงให้ตกสวรรค์ เลยเติมเอาว่า ... มาลงนรกกับหยางดีกว่า??
คืออี้เฟิงไม่ได้มองผิดอะคะ เราว่าหยางเหมือนทะเลมาก
คือไม่รู้เลย เดาไม่ได้ด้วยว่ามรสุมหรือคลื่นยักษ์จะมาอีกตอนไหน มองไปก็เอ๊ะนิ่งสงบดี
ว้อยยยยยยยย หยางหยางเรื่องนี้ได้กำไรจนอยากพริ้นท์รูปมานั่งว่าอะคะ 5555
แต่เฟิงก็คือร้ายอะ ทำร้ายร่างกายหยางแบบนั้นได้ยังง๊ายยยย
แต่เราว่าตอนเฟิงเอาคืนคือไม่เท่าตอนหยางทำอะ หยางนี่ทำเฟิงเจียนตายมาก
นี่เสียใจไม่เท่าไหร่นะ คือเสียตัวด้วย คืออะไร ได้กำไรทั้งขึ้นทั้งร่องเลยปะพระเอกฟิค /หมั่น
ปล. หยางจะขายคอลเลคชั่นรูปภาพกะเสียงเฟิงไหมคะคือจะพรีออเดอร์ /ผิดว้อย