วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

[Fic] for a long time - หยางเฟิง / Chapter 1




TITLE : [Fic] for a long time

CHAPTER : 1
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG - 13 

TELL: คุณแวมไพร์คัมแบค



***********************************************************************************************************************


"เหนื่อยซะจนหมดแรงเลยเรา"



ร่างเพรียวในชุดกาวน์สีสะอาดก้าวไปเรื่อยๆ ทอดอารมณ์หลังจากเพิ่งรักษาคนไข้เสร็จไปได้ไม่นาน หลี่อี้เฟิง คุณหมอรูปหล่อขวัญใจสาว ๆ โรงพยาบาลในแถบชนบทที่มาบรรจุใหม่

"คุณหมอน้อย สวัสดีค่ะ"
"ครับ"


คุณหมอน้อยเป็นฉษยาที่เป็นของหลี่อี้เฟิงตั้งแต่มาทำงาน เพราะทั้งโรงพยาลบาลนับรุ่นนับอายุกันแล้ว เขาก็แทบจะอ่อนที่สุดในนี้ และบวกกับหน้าตาน่ารัก น่าเอ็นดู ฉายานี้ก็เลนยเป็ยเป็นชื่อเรียกประจำของเขาไปแล้ว 



"ตรงนี้ละกัน"


ตอนนี้เป็นช่วงพักมีเวลาแค่ครูห่นึ่ง เมื่อคุณหมอน้อยเจอที่ดี ๆ จึงทรุดนั่งที่ม้านั่งสีครึมใต้ต้นไม่้ใหญ่ บิดขี้เกียจ ก่อนเอนตัวลงกับผนักพิงที่ม้านั่ง อย่างสบายใจ และนาทีต่อมา คุณหมอผู้ใสบริสุทธิ์ก็หลับไปอย่างไม่รู้ตัวเพราะความเหน็ดเหนื่อยที่มี










และนาทีต่อจากนั้น ก็มีลมสัมผัสผ่านแผ่วเบาแตะลงที่เเก้มใสแต่เริ่มเย็นของตนเอง 


"หือ?"
"ขอโทษที่ทำให้ตื่น.."
"ใคร..น่ะ"


คนที่สนทนาด้วยไม่ตอบกลับแล้ว อี้เฟิงถามเสียงค่อย นี่คืออะไร ฝันหรือความจริง อี้เฟิงไม่แน่ใจ จึงพยายมลืมตาให้มองได้ชัดขึ้น แต่ร่างกายไม่สามารถฝืนได้
"ใคร ใครน่ะ ขยับเข้ามาใกล้ ๆสิ"

ร่างนั้นขยับเข้ามา ใกล้ในระยะที่ตากลมโตสดใสแต่เเสนง่วง สามารถมองเห็นได้ แต่เพราะความเหนื่อย


"นอนเสียเถิด ข้าไม่อยากทำให้ท่านตกใจ"


เสียงทุ้มนั้นกล่าวกับคนที่หลับไปอีกครั้ง ว่าที่คุณหมอเเสนง่วงและสะลืมสะลือ ไม่สามารถตื่นได้ครบถ้วน หลับตาตามคำบอก เจ้าของเสียงทุ้มน่าฟังยกยิ้มมุมปาก หากใครเห็นอาจจะต้องมนต์นั้น

ร่างนั้นพยายามอีกครั้งจากก่อนหน้าที่ได้ทำไปแล้วครั้งหนึ่ง เขาเอื้อมอยากจะสัมผัสใบหน้างดงามที่พิงหลับกับผนักพิงที่ม้านั่ง แต่พอสุดท้าย เขาหยุดมือไว้ ได้สัมผัสแค่สายลมที่คั่นระหว่างเขาและใบหน้านั้น




ไม่กล้าสัมผัส แม้ปลายเส้นผม แต่อยากอยู่ใกล้ให้ได้ยินเสียงหายใจ



จะแปดเปื้อนเสีย หากเมื่อแตะต้อง







"หืม" อี้เฟิงหลับไป..คิดว่าน่าจะนาน ตื่นมาอีกที เกือบเย็นย่ำ มองไปท้องฟ้าก็เริ่มครึม และมีเมฆดำหนาปกคลุม



"อืม.."

แถมยังรู้สึกแปลก 
อา..เขาไม่แน่ใจว่าอะไร
แต่เหมือนจะ

"ฝัน??.."


หรือจะฝันไป ไม่ค่อยแน่ใจหรอก 
แต่รับรู้ได้ความอบอุ่นจาง ๆ 



"ข้องใจเป็นบ้า นั่นฝันรึเปล่า หมอนั่นใคร"

แต่สุดท้ายก็ไม่ได้ติดใจอะไร อาจจะเพราะตนเหนื่อยเกินไป ตากลมโตเงยหน้ามองฟ้าแล้ว ว่าที่คุณหมอรีบสาวเท้าเดินเข้าตึกเก็บของ วันนี้เขาไม่มีงานอะไรอีก อาจารย์ก็เลื่อนนัดเขาเพราะมีงานด่วน วันนี้เป็นวันว่างที่ควรเก้บเอาไว้ก่อนที่จะไม่ว่างไปเสียอีก













"ฟ้าครึ้มมืดขนาดนี้ ฝนจะตกหนักขนาดไหนกัน"






หลังจากนั้นไม่นาน ธรรมชาติก็ตอบคำถามว่าที่คุณหมอรูปหล่อ ฝนเทลงมาอย่างหนักจนเดินแทบมองไม่เห็นทาง เขาลืมดูพยกรณ์อากาศมาเมื่อเช้านี้ อี้เฟิงเคาะหัวตัวเองสองสามที ลงโทษที่ไม่ยอมดูทีวีตอนเช้า เล่นเอามาติดเเหง็กที่หน้าร้านข้าวเจ้าประจำ ทางผ่านอพาร์ทเม้นท์ของตัวเอง 



"ตกหนักขนาดเดินกางร่มก็ยังเปียกไปทั้งตัว" อี้เฟิงเอียงตัวมองคนในสายฝนที่พยายามฝ่าไปด้วยร่ม อย่างไรเสียแล้วก็เปียก



"เห้อ เอาไงดี"





หลังพูดประโยคนั้น อี้เฟิงก็ยืนกดเกมส์ในมือถือเล่นจนเเบตมือถือเหลือไม่มาก เก็บไว้ยามฉุกเฉินแล้วกัน ว่าที่คุณหมอคิด เเละพอเงยหน้ามองดูฝน ก็คิดว่าพอฝ่าไปได้ เสื้อสเวตเตอร์ตัวโปรดสีครีมกับยีนส์คู่ใจก็ไว้ซักอบเเห้งที่ร้านใต้อาพาร์ทเม้นท์แล้วกัน



แก้มใสเริ่มเปื้อนฝนหยดใส ทำให้รู้สึกเย็นเจ้าของเเก้มจึงพองลมที่เเก้มขัดใจ อี้เฟิงตกลงกับตัวเองวิ่งฝ่าฝนไป เปียกก็ค่อยกินยาเอา เพราะอยากกลับบ้านไปดู เเมชใหญ่ NBA ที่ห้องจะแย่อยู่เเล้ว




"เห้ย เดี๋ยวอย่าตกหนักไปกว่านี้!" 



อี้เฟิงวิ่งสาวเท้ากลับเข้าที่ร่มบังฝนอีกครั้ง ริมฝีปากบางสบถเบา ๆด่าฟ้า ยกมือมองนาฬิกาใกล้เวลาที่แมชที่อยากดูจะออกอากาศแล้ว 


"ต้องดูย้อนหลังอีกเเล้ว"


ร่างเพรียวไหวไหล่ ถอนหายใจก็ปลงเสียแล้ว ก็พลาดทุกแมช แต่นั่นเพราะงานก็ช่างเถอะ เขาคิดพลางหมุนตัวไป ๆมา ๆ หาอะไรทำแก้เซ็งก็ไม่ได้ แบตมือถือหมดเสียแล้ว


"น้องชาย ดูมีเงินนี่ ส่งมาให้ใช้บ้างสิ"


ยืนไปได้ซักพักก็สัมผัสได้ว่าที่นี่มันค่อนข้างเปลี่ยวและมืด ยิ่งในวันฝนตกอีกด้วย อี้เฟิงไม่ทันตั้งตัวก็เจอสามคนมารุม ดูท่าดุดัน ไม่น่าไว่้ใจในระดับที่ไม่ควรอยุ่ใกล้เกินกว่า 1 เมตร เขาถอยร่นเข้าไปข้างในเรื่อย อี้เฟิงจำได้ว่าตัวเองยืนอยู่หน้าร้านขายของเล็ก ๆ 


ใกล้ทางกลับห้องแล้วแท้ ๆทำไมต้องเจออะไรแบบนี้ด้วยนะ

คุณหมอคิดโทษตัวเอง แล้วไพล่กระเป๋าจากข้างหลังมากอดไว้


"ไม่มีอะไรให้ทั้งนั้น"
"แน่ใจนะ นาฬิกานั่นสวยดีนี่"


อี้เฟิงยกมือแตะนาฬิกาของรักของหวง เรือนนี้เป้นสิ่งที่คุณแม่เขาซื้อให้ก่อนมาทำงานนอกเมืองใหญ่ จากบ้านมาไกล นี่ก็เป็นสิ่งที่ยึกเหนี่ยวจิตใจ ให้รู้ได้ว่าเขาไม่เคยเห่างกับครอบครัว


"ไม่ได้นะ"


โจรทั้งสามพุ่งเข้าหาอี้เฟิงอย่างเร็วตามความถนัดของพวกเขา อี้เฟิงพยายามหลบแต่ก็ไม่สำเร็จ สุดท้ายโดนมัดด้วยมือของคนหนึ่ง อีกคนหนึ่งคว้ากระเป๋าของเขาได้ และอีกคนก็กำลังจะค้นหาของมีค่า รวมถึงนาฬิากาที่เเขน


"ไม่นะ ไม่ได้นะ"

"หุบปาก"


คนหนึงที่ว่างจากการควานหาของมีค่าจากกระเป๋าของอี้เฟิง ยกมีดจ่อคอจนแทบโดนคมมีดบาด อี้เฟิงไม่รู้จะทำอย่างไร เพราะเขาไม่เคยเจอเหตุการณืแบบนี้มาก่อน เคยเห็นแค่ในทีวี 

"ค้นให้หมด มีอะไรก็เอามา ขายได้ทุกอย่าง"

เสียงหนึ่งบอก เหมือนจะหัวหน้าในสามคนนี้ อี้เฟิงเห็นคน ๆนั้นละมือที่ถือมีดจ่อคอเขาไว้ซักครู่ จึงเริ่มคิดอะไรได้


"เห้ย!"

อี้เฟิงสะบัดหลุดจากพันธนาการของโจรที่ยืดร่างและไพล่มือเขาไว้ข้างหลัง เขารีบวิ่งอออกจากที่นั่น แม้จะเปียกฝนก็ไม่กลัวแล้ว 


แม้ว่าจะไม่เคยเจอเหตุการณ์แบบนี้ แต่คุณหมออี้เฟิงก็โชคดีที่ตนป้องกันเสมอ โทรศัพท์มือถือของเขาอยู่ในกระเป๋าหลัง นาฬิกายังไม่ทันโดนถอดไป และกระเป๋าเงิน..เขาไม่พกอยุ่แล้ว ช่วงนี้ขัดสนนิดหน่อย แล้วที่โรงพยาบาลก็มีของเลี้ยงให้กินฟรีประจำ จึงเป็นช่วงโปรโมชั่น ไม่พกกระเป๋าของเขา 


อี้เฟิงรีบสาวเท้าวิ่งสุดพลังของตน นึกคิดว่าตัวเองเพราะไม่ค่อยออกกำลัง วิ่งไปไม่เท่าไหร่ก็เหนื่อยแล้ว 

"ทางมืดไปหมด วันนี้ทำไมถึงมืดนะ"


เพราะวันฝนตกหนัก อาจจะทำให้ไฟฟ้าตรงทางเดินเกิดปัญหาไฟตามข้างทางที่มีอยู่บ้างกลับไม่ฉายสว่างเลยซักดวง อี้เฟิงเดินไปตามทางมืด เอาโทรศัพท์เปิดจอส่องทางเอา เพราะมองไม่เห็นจริง ๆ 


ฟ้าปิด ไม่มีแสงจันทร์ แม้กระทั่งดาวซักดวงง

"เห้ย มันอยู่นั่น"
"ที่ตัวมันมีของมีค่า ไปเอามา"


อี้เฟิงหันหลังไปตามเสียง เขาโดนตามทัน ยิ่งกระตุ้นให้ตนหาที่หลบซ่อน มองซ้ายขวาไปเหมือนจะมาทางอื่นที่ไม่ใช่ทางคุ้นเคยเสียแล้ว


"ให้ตาย"


เขาสบถกับตัวเอง ฝนก็ยิ่งตกหนัก เขาดฃเดาเอาว่าพายุที่พัดเข้ามาน่าจะลูกใหญ่มาก 




สาวเท้ามาไกลมาพอสมควร ก็พบว่าไม่มีใครวิ่งตามแล้ว น่าจะหลงกันไปแล้วใช่มั้ย อี้เฟิงลองเลี้ยวกลับมาหนึ่งบล๊อคถนน


"เจอตัวแล้ว"

โจรคนเดิมที่เป็นคนจับตัวเขา เมื่อโดนเจอตัว จึงพาตัวเองหนี แต่ไม่มีทางทัน การเคลื่อนไหวมันผิดกัน อี้เฟิงถูกโจรคนเดิมจับได้ อีกสองคนรีบตามมา 


แต่วิ่งไม่ทันจะถึงตัวเองเขา กลับสลบเหมืดไปกองที่พื้นเสียอย่างนั้น


อี่้เฟิงมองซ้ายขวา ไม่เห็นใคร ทั้งยังทัศนวิสัยแย่ เพราะเม็ดฝนกระหน่ำ เขาไม่เห็นใคร ใครทำอะไรพวกนั้น

"เห้ย" โจรคนสุดท้ายที่ล่้อคตัวร่างเขาไว้ตกใจที่เห็นเพื่อนเป้นเเบบนั้น แต่ก็ยังเอามีดมาป้วนเปี้ยนเเถว ๆคอของเขาอยู่ ทำไมไม่ไปดูเพื่อนล่ะเว้ย อี้เฟิงสบถในใจ คุณหมอจึงลองมีฤทธิ์เดช ดูบ้างเมื่อโจรคนนี้ทำอะไรไม่ถูก อี้เฟิงจึงเบี่ยงหลบระยะมีดแบบที่ในหนังเขาทำกันแล้วเหยียบเท้าโจรคนนั้นที่ล้อคตัวเขาไว้ ไม่คิดว่าจะได้ผล คุณหมอประเมินความเสี่ยงไว้แล้วหากบาดเจ็บแต่เพราะฝนตกอาจจะทำให้โจรที่ช่ำชองอาจเพลี่ยงพล้ำ

"แกน่ะจะไปไหน"


โจรคนนั้นเห็นเหยื่อหลุด จึงพุ่งมาพร้อมมีด หวืดผ่านสายฝน



อี้เฟิงคิดว่าเขามิอาจหลบคมมีดได้ทัน





"อ๊ะ"


ร่างเพรียวที่เปียกปอนฝน ถูกวงแขนเเกร่งคว้าเอาตัวไป หลบคมมีดที่พุ่งเขาหาตัวเขา แต่เจ้าของวงแขนนั้นกลับถูกคมมีดนั้นบาดลึกเป็นแผลเสียเเทน




อี้เฟิงไม่ทันเห็นว่าโจรคนสุดท้ายถูกทำให้สลบไปแล้ว ด้วยวิธีไหนและเมื่อไกร่้ไม่ทราบ แต่ตอนนี้ เขามาอยู่ในอ้อมกอดของใครที่ไม่รู้จัก


เป็นอ้อมกอดที่ดี อืม.. มันทำให้เขาอบอุ่นได้ แม้ว่าจะอยู่ท่ามกลางฝนกระหน่ำจากพายุ 


คนนี้ น่าจะสูงพอๆ กับเขา แต่เเข็งแรงกว่ามาก คิดเอาตามที่สัมผัสได้ ใบหน้าหวานที่ก้มลงจนเหมือนซบเข้าที่ไหล่ของเจ้าของอ้อมกอด เมื่อรู้สึกตัวว่าไม่เหมาะจึงเงยหน้าช้า ๆเพราะหยดฝนที่กระเด็นเข้าตา อี้เฟิงต้องหรี่ตาเล็กน้อยเพื่อมองชายหนุ่มตรงหน้า  ซึ่งเขาเป้นผู้มีพระคุณที่เพิ่งช่วยชีวิตเขาไว้



อีกคนมองเขาอยู่แล้ว อี้เฟิงเงยหน้าไปก็สบดวงตาคู่นั้นพอดี ดูเย็นชาเหลือเกิน แต่ยัง..มันมีความรู้สึกอยู่ในนั้น อธิบายไม่ถูกแต่เขาไม่อยากคิดอะไรแปลกไปมากกว่านั้น เขาจึงไม่นิยาม



"คุณ..."


ไม่รู้จะพูดอะไร อี้เฟิงอ้ำอึ้ง อีกคนที่ไพล่มือไว้ตรงเอวของเขาทั้งซ้ายขวา เหมือนกำลังกอดไว้กลาย ๆ ส่วนมือของเขาเองกำไว้แนบอก เพราะคิดว่าคน ๆนี้จะทำร้ายเขา จจึงเป็นสัญชาตญาณปกป้องตนเอง


"ข้าไม่ทำอะไรท่านหรอก"


สรรพนามแปลกหูที่ไม่มีใครพูดแล้วออกจากปากอีกฝ่าย ใบหน้าหล่อเหลาจนอี้เฟิงมองยังนึกหลงไหลไปชั่วครู่ งดงามราวรูปสลัก ดูสมบูรณ์แบบจนไม่น่าจะมีเป็นตัวตนจริง ๆอยู่บนโลก


อี้เฟิงไม่กล้าสบตาอีกฝ่าย เขาไม่ได้อ่อนต่อโลก แต่ไม่อยากเข้าใจความรู้สึกจากดวงตาคู่เมื่อครู่นี้ที่ประสานกันกับเขา ก้มหลบ เสใบหน้าไปทางอื่น


"ท่านไม่บาดเจ็บใช่มั้ย"
"คำถามนั้น ผมน่าจะถามคุณมากกว่า"


อี้เฟิงเห็นตรงส่วนแขนที่เต็มไปมัดกล้ามสวยงามมีบาดเเผลจากมีดคมที่หวืดผ่านสายฝนมา คๆ นี้ช่วยเขาจากโจรเมื่อครู่จึงได้รับบาดเจ็บ


"เจ็บมากมั้ย.."


อี้เฟิงรู้สึกว่าคุณหมอแบบเขาทำไมถึงถามอะไรแบบนี้ มีบาดเเผลย่อมเจ็บเป็นทำไม แต่เขาไม่รู้จะก่อสนทนาอะไรนอกจากสิ่งที่เกิดขึ้นร่วมกันของเขาและอีกฝ่าย เมื่อครู่



"ไม่เป็นไร.."


มือเรียวสวยยกเเตะบาดเเผลที่เลือดปะปนไปกับฝนช้า ๆ สำรวจดูว่าบาดเเผลเป็นเช่นไร เวลาช่างเดินผ่านไปช้า หรือเขาเคลื่อนไหวช้าเอง แถมมือยังสั่นไม่รู้เพราะหนาวหรืออย่างไร


หรือความรู้สึกที่ตนไม่รุ้



ตากลมใสเสมองขึ้นไป อีกฝ่ายมองไม่วางตา ตนไม่รู้จะทำไง เลยเคาะอกอีกฝ่ายเป็นสัญญาณให้ปล่อยเอวและอนุญาตให้ร่างกายของเขาหลุดจากพันธนาการแข็งแรงนี้ได้แล้ว


"หนาว ผมหนาว คุณไม่หนาวรึไง"


อีกฝ่ายเพียงแค่ยกยิ้มและปล่อยมือจากเอวทั้งสองข้าง อี้เฟิงคิดอยู่ว่าทำไมเราจะต้องมากอดใครไม่รู้ท่ามกลางสายฝน หนาวแสนหนาว ..แถมอีกฝ่ายเป็นผู้ชาย หล่อ..มาก หล่อมาก ๆ เสียด้วย ยิ่งทำใจลำบาก ใครเห็นเข้ามีหวังโดนพูดไปทั้งโรงพยาบาล


"ผมจะทำเเผลให้คุณ"


อี้เฟิงไม่พูดอะไรต่อ คว้ามือ กึ่งลากอีกคนมา


เย็นชะมัด..อี้เฟิงคิด แต่ก็ไม่ปล่อย กุมมือคนที่เพิ่งช่วยชีวิตเขาเมื่อครู่ ตรงไปยังอพาร์มเมนที่พัก 



ฝนเริ่มซาลงบ้างแล้ว มองเห็นทาง ไฟฟ้าข้างทางก็เริ่มติดเป็นบางดวง



เหมือนจะเป็นใจให้เลย คิดเองเออเองเสร็จสรรพ คุณหมอก็หันกลับไปดูอีกคนที่ถูกเขาลากมา


"คุณ..ยิ้ม.. ยิ้มอยู่รึเปล่า"



อีกคนก้มหน้าไม่ตอบอะไร เพราะสายฝนที่เบาบางลง อี้เฟิงเลยสังเกตเห็น

แล้วทำไมเขาต้องสนใจ นี่ก็ถามเขาไปแปลก ๆ 



อี้เฟิงเลิกมองอีกฝ่าย และไม่คาดคั้น เร่งฝ่าเท้า อีกมือพลางสำรวจตัวเอง มือถือมีรอยบุบเล็ก ๆ กระเป๋าเงินไม่มีอยู่ก็ไม่คิดอะไร นาฬิกาก็อยู่ดี เขาโล่งใจ

วันนี้อี้เฟิงโชคไม่ดีที่เจอเหตุการณืที่น่าตกใจแต่ก็มีโชคดีอยู่บ้างเมื่อเจอพลเมืองดีผ่านมาช่วย หน้าตาหล่อเกินเขาอยู่สองสามขุม มองแล้วก็เผลอตกตะลึงจริง ๆจะหล่ออะไรขนาดนั้น พ่อแม่ต้องหน้าตาดีไม่น้อย



"ท่านไม่ต้อง.."
"ไม่ต้องอะไร จะปฏิเสธไม่ทำเเผลรึไง"

พูดอย่างรู้ทัน เพราะอีกคนเริ่มมีปฏิกิริยา เขาหยุดเดิน คนรูปหล่อคนนั้นขยับมือเป็นสัญญาณให้ปล่อย


"ไม่ได้หรอก เเผลท่าทางลึก โดนน้ำฝน ต้องทำแผล"
"ไม่เป็นไร ข้าไม่ได้เจ็บปวดมากมาย.."


อี้เฟิงเดินเข้าไปหาระยะครึ่งช่วงแขน ท้าวเอวบอก

"ไม่ได้ บาดเจ็บก็ทำเเผล ไม่ต้องห่วงผมเป็นหมอ ไม่เป็นไรแน่"


แล้วก็คว้ามืออีกคนลากมาอีกครั้ง

"ท่านไม่ต้องลำบาก"
"ไม่ซักนิด คุณบาดเจ็บเพราะผม"
"นั่นมันสมควร"

อี้เฟิงหยุดเดินเองแล้วหันไปหาเอียงคอถามอย่างสงสัย ตากลมโตว่องไวสังเกตเห็นว่าอีกคนใส่สูทมาเสียเกือบเต็มยศ เหลืแค่เนคไทด์ที่ไม่ผูก แต่แค่นี้ก็ดูดีเกินจะบรรยาย

"สมควรอะไรกัน"



คนรุปหล่อยกยิ้มมุมปากตามนิสัย 

"ท่านไม่เป็นอะไร ก็ดีแล้ว"


ไม่เข้าใจ 



อี้เฟิงคิดพลางขมวดคิ้วเข้าหากัน พูดจาอะไรไม่เข้าใจ สรรพนามแปลกหูนั่นอีก



แต่อย่างไรก็ต้องให่้เป็นทำแผลด้วยอยู่ดี


"คุณ..น่ะคุณณ..เอ่อ.. ชื่ออะไร"
"หยางหยาง"



มีความคิดแล่นผ่าน จริง ๆแล้วก็ไม่แน่ใจว่านั่นคือความคิด หรืออะไรซักอย่างในหัวเขส อี้เฟิงไม่เข้าใจอีกครั้ง แต่ชื่อนี้คุ้นมากเหลือเกิน


คุ้มจนมีความรู้สึกมากมายกับชื่อนี้

พอยิ่งมองหน้าคนรูปหล่ออีกฝ่ายก็ยิ่งมีความรู้้สึก

โอ๊ยบ้า นี่เขาเป็นผู้ชายและอีกฝ่าย ถึงหล่อมาก็ผุ้ชาย


บ้ากันไปหมด


"คุณหยางหยาง โอเค เราไปทำแผล อย่าขัดผมเลย ผมกลัววว่าคุณจะเป็นอะไรมาก ฝนหยดใสๆแบบนี้ก็มีเชื้อโรค"



"ท่านยังเหมือนเดิม.."
"เอ๋?"


ประโยคแปลก ๆ อีกแล้ว อี้เฟิงคิด พลางถอนหายใจ อีกฝ่ายมองกลับมาด้วยสายตาที่ทำให้ต้องคิดต่อ แต่พอคิดต่อก็เหมือนจะยิ่งหลงทางง อะไรกันนะ คุณหมอคิดแล้วยิ่งปวดหัว เลยหันหลังกลับดุึงให้อีกคนเดินตามมา หยางหยางไม่คิดจะขัดใจอีกจึงเดินตามไป แต่คุณหมอกลัวคุณหยางหยางนี่จะดื้อไม่ยอมทำแผลเสียอีก จึงกระชับแน่นกว่าครั้งก่อน 






สองมือที่กอบกุมกันช่างอบอุ่นท่ามกลางสายฝนที่ยังตกกระหน่ำที่คล้ายว่าจะไม่มีวันหยุด












*****************************************TBC 2





TALK :: เป็นเรื่องเก่าที่เอามาลงใหม่ในบล็อคนะคะ เป็นฟิคยาว และจะมาต่อในเร็ว ๆ นี้ ...

1 ความคิดเห็น:

  1. งือออออ นี่แหละที่รอคอยยย
    ชอบอ่านแนวแวมไพร์มากค่ะ
    แต่เรื่องนี้คุณแวมไพร์ใจดีจัง
    คงจะมีความหลังระหว่างกันสินะคะ
    แต่แวมไพร์ยังไงก็คือแวมไพร์ รออ่านฉากดูดเลือดค่ะ 5555555555
    แวมไพร์หยางกยางอดกลั้นสัญชาตญาณไม่ไหว เห็นคอขาวๆแล้วอยากกัดงี้ ฮื้ออออออออออ #จิกหมอน >///<

    ตอบลบ