วันศุกร์ที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2558

[Fic] for a long time - หยางเฟิง / Chapter 3





TITLE : [Fic] for a long time
CHAPTER : 3
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG - 13 


TELL: คุณแวมไพร์ช่างอบอุ่น

*******************************************************************************************************






"ไปแล้วหรอกหรือ"





คุณหมอหนุ่มตื่นเช้าขึ้นมา พบกับความว่างเปล่าอีกฝั่งห้อง เขา..ผู้ชายที่มีพระคุณผู้เป็นที่ช่วยเขาจากกลุ่มโจรผู้ร้ายเมื่อคืนที่เเล้ว


เขาผลัดสื้อผ้าของอี้เฟิงและพาดเก็บไว้..เปลี่ยนเสื้อผ้าของตัวเองและจากไป






"หวังว่าจะได้ตอบแทนซักครั้งนะ คุณหยางหยาง"






  




หลังจากนั้นอี้เฟิงก็ขยับตัวและเตรียมไปทำงานบ้าง แต่ก็ยังรู้สึกกลัวหน่อย ๆ หากจะเดินผ่านทางนั้น แต่มันไม่มีทางอื่นแล้วที่จะทำให้เขาไปเข้าเวรเช้าทัน ไม่งั้นก็จะโดนคุณพยาบาลจอมเฮี๊ยยบเจ้าแม่ประจำโรงพยาบบาลดุเสียอีก





"สวัสดีค่ะคุณหมออี้เฟิง"
"ครับ"
"วันนี้ดูหน้าซีดเซียวไม่สบายหรือเปล่าคะคุณหมอ"
"โอเคฮะ สภาพโอเคไม่เป็นไร ขอบคุณมากฮะ"





หลังจากนั้นคุณพยาบาลจอมเฮียบที่อี้เฟิงกล่าวก็ให้ขนมมาเต็มไม้เต็มมือ ถึงจะเฮี๊ยบก็เธอก็พยาบาลที่ใจดีสมกับชุดขาวที่เธอใส่ รวมทั้งพี่พยาบาลสาวคนอื่น ๆ ที่คอยดูแลเหมือนอี้เฟิงเป้นน้องชายน้อยของโรงพยาาบาลนี้ เพราะโรงพยาบาลที่เขาประจำเป็นโรงพยาบาลชานเมืองไมไ่ด้ใหญ่โตอะไร ไม่ได้กว้างขวางมากขนาดจะไม่มีใครที่ไม่เคยสวนทางกัน อี้เฟิงจึงรู้สึกผูกพันธ์กับโรงพยาบาลนี้







ผูกพัน...







พูดถึงคำนี้หัวใจอี้เฟิงกระตุกวูบขึ้นมา ไม่ค่อยแน่ใจเท่าไหร่นักว่าเป็นเพราะกาแฟหนัก ๆ ที่ดื่มไปเมื่อเช้า หรือเพราะอะไร ความวูบไหวในใจ .จนซักพักก็ปรากฏใบหน้าหล่อเหลาพิฆาตสายตาคนของชายหนุ่มลึกลับผู้มีพระคุณของอี้เฟิง






คุณหยางหยาง







คุณคนนั้นเหมือนจะรู้จัก... เขาจะพูดอย่างไรดี แต่เหมือนรู้จักกันมานาน ฝั่งโน้นเขาแสดงท่าทีเช่นั้น อี้เฟิงเองที่ครั้นเมื่อสบสายตาเยือกเย็นของชายหนุ่มผู้นั้นเป้นคัร้งแรก็รู้สึกถึงความคุ้นเคยเหมือนไม่มช่คนแปลกหน้า และยังมีความอบอุ่นในใจเกิดขึ้นมา เขามองหาอยู่นานว่าเกิดขึ้นเพราะอะไร ก็สุดท้ายก็พบว่าเป็นเพราะคุณหยางหยางคนนี้ ความอบอุ่นนี้ทำให้อี้เฟิงรู้สึกปลอดภัย แต่คุณหมอหนุ่มก็ยังแปลกใจทั้งที่เพียงเจอกันคัร้งแรก...







ครั้งแรก...? ครั้งแรกหรือ ?






ชายหนุ่มลึกลับคนนั้น พูดกับเขา จะว่าอย่างไร...รู้สึกเหมือนเขามอบความสนิทชิดใกล้กับอี้เฟิง และความเป็นกันเองอย่างสุภาพบุรุษ มีหยอกเย้าบ้างตามประสา







ไม่ใช่ครั้งแรก ? หรืออาจจะเป็นครั้งแรก?






คิดหมุนไปหมุนอยู่นาน เขาก็ต้องไปทำงาน เคสแรกของวันเข้ามาแล้ว วันนี้คุณหมอจะต้องทำงานหนักเสียหน่อยเพระาเป็นเคสที่ดูอันตราย แต่ก็ไม่ได้ขนาดว่าถึงชีวิต คุณหมอหนุ่มลงมือด้วยความสามารถที่มีอย่างสุดกำลัง และการรักษานี้ก็ผ่านไปได้ด้วยดี คุณหมอรุ่นพีุ่ึงกับตบบ่าเอ่ยชม และคุณพยาบาลจอมเฮี๊ยบหันมาจับมือขอบคุณ เพราะเคสนี้ก็ต้องอาศัยความใจเย็นและมีสมาธิของทีมทั้งหมด มันผ่านไปได้ด้วยดีอย่างที่ว่า เพราะทุกคนและหมอหลักในทีมอย่างอี้เฟิง







"คุณหมอ วันนี้ก็ทั้งวันแล้ว กลับไปพักซะด้วยล่ะ"






หลังจากเคสหนักหน่วง และเคสเล้กที่มาเป็นการนั่งตรวจคนไข้ที่มารักษาอย่างไม่ขาดสาย ด้วยคุณหมอหลี่อี้เฟงเป็นคนที่มีออร่าใจดีและใบหน้าน่ารักนั้นส่งยิ้มที่น่ารักพอกับใบหน้าหวาน ทำให้คนไข้รู้สึกสดชื่อและมีกำลังใจมากขึ้น อย่างน้อยอี้เฟิงก็ดีใจที่มีคนไข้หลายคนเอ่ยชมเรื่องรอยยิ้มของเขา




"คุณหมอยิ้มสวยจังค่ะ"
"หนูน้อยก็เหมือนกันนะ"








คนล่าสุดที่เอ่ยชมเขาเรื่องรอยยิ้ม ก็คือหนูน้อยวัยใสที่มารักษาอาการไข้หวัด คุณแม่ของหนูน้อยดูกังวลนิดหน่อย แต่พอเห็นหนูน้อยพูดหยอกล้อกับคุณหมอเสียงใสแม้จะไอค่อกแค่กไปด้วย แต่เธอก็เห็นแล้วว่าลูกสาวที่น่ารักของเธอสดใสขึ้น





"คุณหมอยิ้มสวยจริง ๆ นั่นล่ะค่ะ"





แม้แต่คุณแม่ของหนูน้อยก็ยังเอ่ยชม อี้เฟิงรับคำชมไว้ด้วยใจ และแจกใบจ่ายยาส่งคุณหนุน้อยและคุณแม่เธอที่หน้าประตุห้อง นี่เป็นคนไข้คนสุดท้ายของเวรวันี้ของอี้เฟิง หลังจากทำงานหนักมาทั้งวัน จนค่อนค่ำ







"กลับก่อนนะครับ"








วันนี้อี้เฟิงได้กลับเร็วกว่าปกติ 1 ชั่วโมง จึงมีเวลาเดินเตร็ดเตร่ แต่คุณหมอน้อยก็ไม่รู้จะไปเที่ยวเล่นที่ไหนก็เลยวนไปดูคนไข้ในความดูแลที่ยังคงพักรักษาตัวที่โรงพยาบาลเข้าไปทักทายแต่ละห้องอย่างเป็นมิตรและส่งยิ้มให้แม้จะดูเป็นยิ้มที่เหนื่อยมาจากการทำงาน แต่เพราะยิ้มน่ารักของคุณหมอน้อย ก็เลยกลายเป็นของประจำตัวที่อี้เฟิงจะต้องพกไปหาคนไข้ และดีใจที่คนไข้ก็ชอบรอยยิ้มของเขา





ก็ถือว่าเป็นอไรที่น่าภูมิใจล่ะนะ







"หืม ? "





อี้เฟิงเดินผ่านห้องเก็บเครื่องมือ ซึ่งเป็นห้องที่อยู่ท้ายสุดของตึก คุณหมอน้อยเดินเข้าไปใกล้ เพราะมีเสียงแปลก ๆ ตะกุกตะกักดังมาจากห้องเก็บของนั่น ทั้งที่ตอนนี้เป้นเวลาเลิกงานของเจ้าหน้าที่เเล้ว โรงพยาบาลตอนนี้ก็มีพนักงานเข้าเวร ห้องทำความสะอาด ห้องเก็บของนี้ไม่น่าจะมีใคร หรือจะเป็นขโมย ?






"กลิ่นหอมลอยมาใกล้ขนาดนี้.... นายท่าน ข้าเจอเเล้ว หัวใจ 'ซาตาน' ผู้นั้น"






ใบหน้าหวานที่มีรอยยิ้มอยู่เสมอ ขมวดคิ้วครุ่นคิด ประโยคนั้นมีความหมายสื่อถึงอะไร ไม่มีคำไหนในประโยคนั้นที่คุณหมอน้อยเข้าใจเลยแม้แต่คำเดียว ขายาวสาวเท้าเข้าไปใกล้ แม้รู้สึกกลัวอยู่นิดหน่อย เพราะตัวเองก็เพิ่งพบพานเหตุการณ์น่าระทึกขวัญมา แต่ความอยากรู้ชนะมัน








"เห้ย"








อี้เฟิงร้องอุทานดัง เพราะมีบางสิ่งจากในห้องนั้นพุ่งทยานมาทางเขา และผลักให้ตัวเขาล้มลงไป มือเเข็งแรงที่หยาบกร้านบีบคอเขาจนแทบหายใจไม่ออก มือของคุณหมอพยายามแกะแงะมือที่เเกร่งเช่นคีมคีบนั่นออก และดิ้นรนต่อสู้เท่าที่ทำได้





"เอาไปฝากนายท่าน เห็นทีจะได้รางวัลใหญ่"








เจ้าของมือแกร่งที่ทำร้ายอี้เฟิงพูดเหมือนเอ่ยกับตนเอง ใบหน้าของเขาถูกปกคลุมด้วยผ้าคาดสีดำ ที่มีโผล่พันมาเพียงแค่แววตาดุดันและน่ากลัว แต่มันดูเหมือนคนไร้ชีวิตชีวา อี้เฟิงมองไปเท่าที่สายตาจะสำรวจได้ คนคนนี้แต่งตัวมอซอ เสื้อผ้าเก่าขาด สีทะมึน และมีกลิ่นตัวค่อนข้างแรง แต่เรื่องกำลังที่มากมายนั้นอี้เฟิงไม่นึกเถียงในใจ





"ปะ..ปล่อย"





อี้เฟิงฝืนพูดให้คนคนนี้ได้นึกถึงเขาที่กำลังจะขาดใจ ขาของอี้เฟิงแตะ ถีบ พยายามทำให้อีกคนปล่ยอให้เขาเป็นอิสระ แต่แววตาดุดันนั้นกลับดูเหมือนดีใจที่เขาดิ้นรนแม้ไม่ใบหน้าเขาดูเหมือนยิ่มกระย่องอยู่





"ยิ่งดิ้นยิ่งดี คนแบบเจ้าไม่ได้มีมาให้ถึงมือข้าได้ง่าย ๆ หัวใจ'ซาตาน' อยู่ตรงนี้ จะให้ปล่อยหรือ ทำเสียให้โง่"








อี้เฟิงฟังคนคนนี้พูดจาไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่องและไม่น่าฟังอีต่างหาก แต่เขาไม่มีเวลาแล้วต้องคิดหาวิธี เพราะตอนนี้อี้เฟิงกัำลังจะหมดสติ เพราะขาดอากาศ











ผลั่ก









เสียงอะไรซักอย่างที่อี้เฟิงไม่ทันได้มองเห็นเหตุการณื เกิดขึ้นเร็วมาก ไม่สามารถมองตามทัน เผลอตัวรู้สึกอีกที คนที่บีบคอเขาจนแทบขาดหายใจตาย กระเด็นไปอยู่อีกฝั่ง หลังของเขาชนผนังอย่างจังและเหมือนกับบาดเจ็บหนัก





มีคนมาช่วยหรือ ?








อี้เฟิงหันไปอีกทาง ข้างตัว






"คุณหยางหยาง?"










ชายหนุ่มลึกลับคนนี้มาทันเวลาช่วยเขาเป็นครั้งที่สอง แต่คราวนี้เขาเปลี่ยนชุดไม่ใช่สูทราคาแพงหรูหราเช่เนดิม แต่เป็นเชิ้ตขาว กางเกงสเเลชสีดำ และคลุมส่วนบนด้วยผ้าคลุมสีดำมืดทำให้เขานิงดูลึกลับ



อี้เฟิงเเหงนมองใบหน้าที่อยุ่ใต้ผ้าคลุม แม้ไม่ชัดนัก แต่เขากำลังโกรธ......








เขารู้สึกกลัวคนคนนี้..แต่ไม่ใช่หวาดผวาจนถึงขนาดต้องถอยหนี แต่อยากทำให้เขาสงบลงเสียมากกว่า







"ไม่ต้องกลัวท่านหมอ ข้ามาเพียงเพื่อช่วยท่าน"
"ขอ..ขอบคุณ"







และหลังจากนั้น คุณหยางหยาง ชายหนุ่มผู้ลึกลับ เดินก้าวเข้ามาหาคุณหมอน้อย ที่นั่งอยู่กับพื้นยังไม่ลุกไปไหนเพราะยังรู้สึกไม่ดีและกำลังอยู่ในช่วงตั้งสติ คุณชายหนุ่มลึกลับจุดยิ้มดูอบอุ่นส่งให้คุณหมอ เเตะสัมผัสใบหน้าหวานด้วยปลายนิ้วมือเพียงแค่สองนิ้วและลากไล้ตามโครงหน้าสวยงามไดรูป





"ท่านไม่เป็นอะไรก็ดีเเล้ว...."






อี้เฟิงรู้สึกมึน และกำลังจะหมดสติ แต่ไม่ใช่เพราะเหตุการณที่ถูกทำร้ายแต่เป็นเพราะกลิ่นหอมเช่นสมุนไหรที่ลอยฟุ้งมาจากกลิ่นอ่อน ๆเป็นกลิ่นเตะจมูก อี้เฟิงสูดกลิ่นเหล่านั้น คิดว่าเป็นเพราะมันที่ทำให้สติสัมปะชัญญะเริ่มเลือน





แต่อี้เฟิงยังรับรู้ประโยคสุดก่อน จะเข้าสู่นิทรา






"หัวใจของข้า"









for a long time















“ท่านหมอ”




อี้เฟิงลืมตาฟื้นขึ้นมา เข้าใจว่าน่าจะหลับไปนาน แต่ก็ยังรู้สึกเวียนหัวอยู่ ที่ลำคอยังรู้สึกเจ็บเพราะการบีบรัดอย่างรุนแรงของชายที่มาทำร้ายเขา อี้เฟิงเอียงหัวไปมา คิดว่าคงต้องไปทำบุญเสียบ้าง เพราะโดนทำร้ายมาติด ๆกันถึงสองครั้ง





และตื่นมาก็พบกับชายหนุ่มที่เรียกเขาได้สรรพนามประหลาดก่อนหน้า ที่นี่ห้องพักของอี้เฟิงเอง และไม่อยากสงสัยให้มากความกับคนที่ช่วยหรอก แต่เข้าห้องนี่มาได้อย่างไร... แต่คิดไปเพราะอี้เฟิงพกกุญแจไว้ในกระเป๋ากางเกง แค่แตะล้วงไปมาก็เจอ




“ขอบคุณที่ช่วย...อีกครั้งหนึ่ง”
“จะกี่ครั้งข้าก็ช่วยท่าน”



คุณหมอน้อยถอนหายใจกับสรรพยามโบราณและจุดประสงค์แรงกล้าของคนคนนี้ ไม่เห็นอธิบายอะไรซักอย่าง อี้เฟิงจึงจนใจจะถาม หากเจ้าตัวไม่นึกจะบอกออะไร เขาผลักร่างตัวเองดันให้ลุกขึ้นนั่ง คุณหยางหยางมาช่วยพยุงด้วย จนนั่งในท่านั่งปกติได้ เริ่มมีแรงึ้นมา คุณชายหนุ่มผู้ลึกลับส่งน้ำหวานให้ดื่มจิบ เพื่อเรียกำลัง



“คุณไปทำธุระที่โรงพยาบาลพอดีหรือ?”
“ก็..ถ้าท่านคิดว่าเช่นนั้นก็ตามดั่งที่ท่านคิดเห็น”




ใบหน้าหวานเม้มปาก เริ่มไม่พอใจอยุ่เนือง ๆ ไม่เห็นบอกอะไรให้กระจ่าง คุณหมอน้อยใช้มือที่อยู่มใกล้เขา ตีแปะไปไหล่แขนแกร่งที่คอยพยุงเขา เป็นสัญญาณบอกว่าไม่พอใจกับคำตอบ และ ปล่ยอได้แล้ว



“ตอบอะไรไม่เคยกระจ่าง ผมไม่เข้าใจคุณ คำโบราณ ๆที่ใช้เรียก็ด้วย”
“ถึงเวลาซักวันท่านจะเข้าใจ แต่ไม่ใช่ในตอนนี้”



จนมุมแล้ว คุณหมอน้อยถอนหายใจหน่าย ส่ายหัว ไว้วันหลังจะตะล่อมถามใหม่ คุณหยางหยางผู้ลึกลับคนนี้ตอบอะไรวกไปวนมาไม่ยอมเปิดช่องทางอะไร


“ก็ได้ ไม่ถามอะไรแล้ว คุณต้องมีอะไรเกี่ยวกับตัวผมแน่ ๆ เอาเป็นว่า พร้อมแล้วก็บอก “




คุณหยางหยางคนนั้นยิ้มส่งมาให้...เหมือนยิ้มกระมังเพราะเขายกมุมปาก แต่กระนั้นเขาก็หล่อมากอยู่ดี  พอมองดูให้ชัดเจน เขาถอดผ้าคลุมสีดำที่ยาวถึงเอวออกแล้ว เหลือเพียงเชิ้ตขาวที่พับแขนขึ้นมาจนถึงข้อสอกและสแลชสีดำ




“คุณนี่น่าจะมาเป็นบอดี้การ์ดให้ผมจริงเชียว” อี้เฟิงนึกแซวหลังจากที่เขาพยุงตัวเองให้ยืนขึ้นและพอจะเดินตรง ๆ ได้แล้ว เขาตรงไปที่หน้าต่างเปิดรับลมเสียหน่อย รู้สึกดีขึ้นแต่..




“ท่านยังไม่ฟื้นดี อย่าเพิ่งเดินเหินก่อนเสียดีกว่า นอนหลับให้สบาย....ข้าจะเป็นองครักษ์ปกป้องอย่างที่ท่านว่า”



รู้สึกดีขึ้น แต่ยังไม่พอที่จะเดินเหิน เพราะตอนที่โดนทำร้ายเขาถูกบีบคอ แรงนั้นทำเอาสำลักและแทบขาดอากาศ ซึ่งอาการนั้นยังคงต่อเนื่องมาจนถึงตอนนี้ แถมยังโดนผลักให้ล้มลงอย่างแรง อี้เฟิงยังรู้สึกปวดไปทั่วร่างเพราะแรงกระแทกล้มนั่น ร่างกายจึงยังไม่ตามใจอี้เฟิงมากนัก




เมื่อครู่นี้เขาเซล้มแต่ หยางหยางมารับไว้ทัน มือแกร่งโอบรอบเอว ร่างนุ่มนิ่มที่เซพิงอกแกร่ง ตอนนี้เหมือนถูกชายหนุ่มลึกลับหยางหยางกอดจากด้านหลังไว้ ใบหน้ารูปหล่อพิฆาตสายตายื่นมาชิดใกล้ใบหน้าของคุณหมอน้อย ริมฝีปากได้รุปนั้นจรดใกล้ใบหูอยู่ เสียงลมหายใจได้ยินชัดเจนห่างเพียงแค่อึดใจ ร่างคุณหมอน้อยสั่นไหวเพียงเล้กน้อยคุณหยางหยางก็รู้สึก



“ท่านกลัวข้า..อยุ่หรือ”
“ไม่..ไม่เชิง แต่...”





อี้เฟิงบอกไม่ถูกว่าทำไมถึงอยากแสดงความอ่อนแอให้เขาได้รับรู้ แต่ปากเขาไม่อยากเอ่ยออกไป รู้สึกเหมือนบ้าเกินไปที่อยู่ ๆ ไปขอความเข้มแข็งจากคนที่เพิ่งพบหน้าแม้จะรู้สึกคุ้นเคยกันมาแสนนาน แต่มันก็แปลกในหัวใจอยู่ดี




“ไม่เป็นไร ท่านไม่รู้แต่ข้าก็จะโอบกอดท่านไว้”




วงแขนแกร่งและอบอุ่นโอบรัดพาดเอวให้แน่นยิ่งขึ้น เป็นการกอดที่อบอุ่น จนทำให้คุณหมอน้อยมีน้ำตาเอ่อล้น เขาเหมือนจะร้องไห้ แต่น้ำตาไม่ได้ทันหยดไหล มือข้างหนึ่งที่ละจะการโอบกอด เอื้อมปาดเช็ดหยดน้ำตาทิ้งไป



“ข้าอยู่นี่แลว ท่านหมอ หยางหยางของท่านอยู่นี่แล้ว”




อี้เฟิงได้ฟังคำหวานก็ยิ่งสั่นไหว ร่างกายไม่เป็นไปตามใจ อาจจะเป็นเพราะทั้งหมด ที่ผ่านมาทุกเหตุการณ์มันรู้สึกอัดอั้นและอดกลั้นความกลัวไม่แสดงออกมา เขาตีหน้านิ่งอยู่ตลอด อันที่จริงแล้ว เหตุการณ์ที่ถูกลอบทำร้ายนั้นเกือบทำให้ถึงชีวิตทั้งสองเหตุการณ์



เขารักษาชีวิตคนอื่นแต่เมื่อจะถูกคนอื่นเอาชีวิตบ้าง มนุษย์เราจะหวาดกลัวก็เป็นเรื่องธรรมดา



แต่สำหรับอี้เฟิงในตอนนี้ อาจจะไม่ธรรมดาก็ตรงที่อยากให้เขากอดแบบนี้ไปนาน ๆ




“นิ่งเสียเถิด หัวใจของข้า “




เสียงทุ้มนุ่มเอ่ยปลอบพลางโยกตัวคนในอ้อมกอดเบา ๆ อี้เฟิงรับกอดนั้นอย่างคุ้นเคยแสนนาน หลับตาพริ้มลง สัมผัสความอบอุ่นทั้งหัวใจ แม้เนื้อตัวคนที่กอดเขาจะเย็นเยียบแต่หัวใจอบอุ่นยิ่งนัก คุณหมอน้อยใช้มือข้างหนึ่งคว้าจับแขนเขาไว้อีกหนึ่ง







หัวใจของข้า....เขาพูดแบบนั้นอีกแล้







*********************************************************TBC 4



TALK :::: ฮิ้วว แต่งเรื่องนี้แล้วคึกมากค่ะะะะะะ

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น