TITLE : [Fic] THIS MAN
CHAPTER : 1 'คนคนนี้ กำลังทำอะไร'
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG -15
TELL: ยิ้มก่อนอ่าน ตาหวานก่อนเปิด อ่านจบแล้วไปด่าได้ที่เมนชั่ยผมหรือเมนท์ข้างล่าง
************************************************************************
“ออกไป พอใจแล้วก็ออกไป”
"เอะอะก็ไล่คนอื่นอย่างกับอะไร ตัวเองก็ทำหน้าตาเหมือนร้องขอแบบนั้น.... คุณรุ่นพี่ครับ... เกรงว่าคุณรุ่นพี่น่ะล่ะ จะรั้งผมไว้เสียเอง"
THIS MAN 'คนคนนี้ กำลังทำอะไร'
คนหยาบคาย......
คนรู้หน้าไม่รู้ใจ......
คนเอาแต่ใจ....แถมให้ด้วยอีกอย่างเย็นชา
และใจร้าย
คนแบบนี้
ที่จริงฉันควรอยู่ไกลให้มากไม่ใช่หรือไง!
อี้เฟิงเงยหน้าไปสบตาคนที่กล่าวประโยคนั้นด้วยน้ำเสียงแหบพร่า
ก่อนหน้านี้ที่อี้เฟิงคิดว่าจะรอดพ้น และไปให้ไกล ๆ คนนิสัยพันนี้ อี้เฟิงไม่ชอบคน
ๆ นี้ ทุกอย่างที่เป็นเขา
เกลียด
"นายหยางหยาง...ถอยไปให้ห่าง...
จากฉัน"
"แน่ใจนะว่าอยากให้ผมทำแบบนั้น"
"ออกไป!"
"ก็ได้
แต่ถ้าอยากให้ช่วยอีกก็บอกนะครับ คุณรุ่นพี่"
ใบหน้าหล่อเหลาร้ายกาจละออกไปแต่ไม่วายจะขโมยกลิ่นหอมจากอี้เฟิงที่แก้มเนียนใสที่ขึ้นสีระเรื่อ
เพราะความเหนื่อยหอบจากเหตุการณ์ที่เพิ่งผ่านมาไม่นาน
ก่อนหน้านี้
อี้เฟิงและหยางหยางที่กำลังถ่ายละครซีนสำคัญและเเล้วเสร็จเรียบร้อย เป็นซีนที่ต้องลงไปถ่ายในน้ำกันทั้งหมดทุกคน
นักแสดงต่างเปียกปอนและหนาวสั่นไปตามกัน อี้เฟิงรีบถลาหาผ้าขนหนูยกใหญ่ และเอาเสื้อผ้ามาเปลี่ยนในห้องน้ำ
ซึ่งที่นี่เป็นห้องน้้ำรวม แต่ก็ยังแบ่งชายหญิง
จะเป็นใครทั้งทีมงานและนักแสดงก็ใช้ที่เดียวกัน
"หนาวชะมัด"
ร่างกายของอี้เฟิงทั้งเหนียวเหนอะเพราะเหงื่อและหนาวสะท้านเพราะความเย็นเฉียบของน้ำในบ่อเล็ก
ที่ไว้เพื่อถ่ายทำละคร เขารีบเปลี่ยนเสื้อผ้า
ถอดทุกส่วนที่เปียกปอนออกให้หมดและใส่เสื้อผ้าเซตใหม่จนแล้วเสร็จก็ออกมาจากห้องน้ำเล็ก
ๆ ที่แบ่งไว้หลายห้องเผื่อให้ทุกคนได้ใช้พร้อมกัน
และตอนนี้เขาไม่ได้อยู่ในห้องน้ำนี่คนเดียว
หยางหยาง....
เจ้ารุ่นน้องร่วมเรื่องที่เขาไม่ค่อยชอบขี้หน้าเท่าไหร่
อี้เฟิงอธิบายไม่ถูกเหมือนกันว่าทำไมแต่รวมแล้วขออยู่ห่าง
ๆ ไว้
อี้เฟิงเป็นคนมีสัญชาตญาณดีเยี่ยมเป็นที่สุด และมันบอกว่า อย่าเข้าใกล้บุคคลผู้นี้
สายตากลมโตมองผ่านรุ่นน้องคนนั้นไปและตรงไปยังอ่างล้างหน้าและเปิดน้ำเพื่อล้างหน้าเสียหน่อยเพื่อให้สดชื่น
อีกฝ่ายก็กำลังทำเช่นนี้อยู่เหมือนกัน
ระหว่างทั้งคู่มีแต่ความเงียบงัน ไม่มีการทักทายใด ๆ อี้เฟิงไม่อยากคุย
และอีกฝ่ายเขาก็ไม่ทักอะไรมา
จนอี้เฟิงเเล้วเสร็จกิจกรรมที่จะทำในห้องน้ำ
"เอ้อ.."
เสียงหวานอุทาน เพราะเขาเพิ่งนึกออกว่าลืมนาฬิกาไว้ในห้องสุขาเล็กตอนที่เปลี่ยนเสื้อ
ทันทีที่นึกออก
อี้เฟิงจึงรีบเดินกลับไปดูในห้องน้ำและคิดว่ารีบไปเก็บมันคืนมาและรีบออกจากห้องน้ำนี่ไปซะ
เขาไม่ชอบบรรยากาศในระหว่างที่จะต้องอยู่กับรุ่นน้องคนนี้เพียงลำพัง
"เห้ย
"
แต่ไม่ทันไรที่อี้เฟิงหันหลังกลับเข้ามาเก็บนาฬิกาเรือนโปรดของตัวเองบนที่วางของหลังโถสุขา
ประตูห้องสุขานี้ก็ปิดลง พร้อมกับผู้มาใหม่
"ออกไปนะ
นายจะเข้ามาทำบ้าอะไรในนี้หยางหยาง"
"ก็เห็นเดินเข้ามา"
"แล้วนายมายุ่งอะไรด้วย"
หยางหยางที่เดินตามอี้เฟิงเข้ามาด้วย
คนเป็นรุ่นพี่ไม่เข้าใจว่าเขากำลังจะทำอะไรกันแน่ ที่แน่ ๆ คือ
อี้เฟิงกำลังระแวงและหวาดหวั่นหยางหยางเหลือเกิน จะหนีไปไหนก็ไม่ได้
ทางออกคือประตูที่อยู่หลังหมอนั่น และห้องน้ำก็เเคบกางเเขนได้แทบไม่สุดแขนด้วยซ้ำ
"ให้ผมช่วยหามั้ย"
"ออกไปให้พ้น"
"ทำไมต้องทำหน้าตาเหมือนเกลียดกันนักหนา"
"อย่ามาว่าแค่ฉัน
คนที่ทำแบบนั้น มันก็นายด้วย"
"อ้อ...
ผมก็ไม่ยักกะรู้ตัวว่าทำหน้าตาเกลียดรุ่นพี่สุดโด่งดังและน่าเคารพแบบนั้นไปด้วย"
เกลียดสีหน้าที่ชอบเย้ยหยัน
ประชดประชันเก่งนัก ยิ้มของหยางหยางมันทำให้เขาระแวง รู้สึกไม่ดี...อาจจะคิดว่าอี้เฟิงกำลังกลัวอยู่ก็ได้
สัญชาตญาณของเขาบอกอยู่ในใจโต้ง ๆ ว่า ทำอย่างไรก็ได้ที่จะต้องอยู่ห่างคน ๆ นี้
ไม่รู้จะโดนเขาทำอะไร และไม่รู้ว่าเขากำลังคิดอะไร
"ขอสั่งให้นายถอยไป"
"มีสิทธิ์อะไรมาสั่งผม"
"ไม่มีหรอก
แต่ฉันจะออกจากที่นี่"
"อย่ามาเอาแต่ใจ
ผมไม่ให้ออกไปก็อยู่ในนี้มันนี่ล่ะ ไม่มีคิวถ่ายแล้วด้วย"
"อะไรของนาย
จะมาไม้ไหนอีก ทุก ๆ วันที่นายคอยมาทำให้ฉันประสาทเสียนี่ยังไม่สาแก่ใจนายอีกหรือไง"
หยางหยางไม่ตอบต่อประโยคแต่แค่คลี่ยิ้มมุมปากออกมา
มองดูแล้วนั่นทำให้อี้เฟิงรู้สึกหวาดหวั่นในใจอีกเป็นสองเท่า
มือของอี้เฟิงผลักอกของหยางหยางให้ชนประตูด้านหลังของเขาเองแต่
หยางหยางก็ดันตัวเองขึ้นมาได้ และดันให้อี้เฟิงนั่งลงกับโถสุขภัณฑ์ด้านหลังที่ปิดมิดชิดคล้ายป็นเก้าอี้
..หยางหยางห็นว่ามันสามารถทำให้เขาทำอะไรกับรุ่นพี่คนนี้สนุกและสะดวกขึ้น
"หาอะไรฆ่าเวลากันดีกว่า
คุณรุ่นพี่หลี่อี้เฟิง"
"ถอยออกไป"
"คุณไล่ผมกี่รอบแล้ว"
"ก็แล้วทำไมนายไม่ออกไปห่าง
ๆ ฉันซักทีเล่า"
รุ่นน้องหล่อเหลาทำหน้าตาไม่สบตาอารมณ์สุดหัวใจ
เขาใช้มือแข็งแกร่งกดที่ไหล่ของอี้เฟิงให้นั่งลงอีกครั้งเพราะอีกฝ่ายขัดขืนและยืนขึ้นมาใหม่
ร่างกายนั้นโน้มตัวลงไป และไม่ปล่อยให้เวลาล่วงเลยไปนาน
เขาจูบที่ริมฝีปากสีระเรื่อที่ดูน่ารักอย่างหนักหน่วงตามแรงอารมณ์
มือข้างที่กดไหล่น้อย ๆ นั่นเมื่อครู่
หยางหยางใช้มันประคองให้ท้ายทอยของอี้เฟิงรับกับจูบที่บ้าคลั่งนี้
อี้เฟิงประท้วงขอลมหายใจแต่อีกฝ่ายไม่ได้สนใจ
มืออีกข้างของหยางหยางกำลังทำสิ่งที่ไม่ควร และอันตรายอย่างยิ่งกับอี้เฟิง
เพราะมือข้างนั้นเข้าจู่โขม แตะต้องเนื้อตัวอี้เฟิงใต้ร่มผ้าไปทั่ว
ปลายนิ้วสัมผัสลูบผิวที่เนียนลื่นมือของคนใต้ร่าง หยางหยางไม่คิดว่ารุ่นพี่คนนี้จะมีของดี
ทั้งริมฝีปากน่าลิ้มลอง ทั้งผิวเนียนสวยเช่นผู้หญิง ใบหน้าที่น่ารักน่าชังน่ารังแก
ฝีปากก็กล้าไม่ใช่น้อย
ฮึ..เทพบุตรแห่งชาติบ้าบออะไรกัน
ก็แค่ผู้ชายที่ไร้ความสามารถ และทำตัวออดอ้อนด้วยนิสัยของตัวเองไปวัน ๆ
หยางหยางไม่เคยรู้สึกเคารพหรือนับถืออะไรรุ่นพี่ตามที่เคยให้สัมภาษณ์ไปกับช่องทีวี
หรือหนังสืออะไรนั่นเลยซักนิด ตอบตามสคริปส์ที่ทางทีมงานจัดหาไว้ให้ หน้าตายิ้มแย้มหรือความเป็นสุภาพบุรุษต่อหน้าทุกคนเมื่ออยู่กับคนที่เขาเรียกซ้ำ
ๆ ว่ารุ่นพี่
สร้างเอาและโกหกเอาทั้งเพ
ไม่มีอะไรเป็นความจริงเสียซักอย่าง
ทุกอย่างที่อยู่ในตัวหยางหยาง เมื่ออยู่กับหลี่อี้เฟิงคนนี้
คนตีสองหน้า
คนช่างประจบประแจง
ทำเหมือตัวเองเป็นที่รักใคร่ของใคร ๆ หนักหนา
คนที่ชอบทำเหมือนตัวเองเป็นจุดศูนย์กลางของโลกใบนี้
นั่นล่ะ
หลี่อี้เฟิง เขาเลย
คนแบบนี้ที่หยางหยางอยากหลีกหนีให้พ้นที่สุด
แต่ตอนนี้เขากำลังอยู่ใกล้คนแบบนี้ที่เขานิยามเพียงแค่ลมหายใจเบาบางกั้นและกำลังสบตาคู่นั้นของหลี่อี้เฟิงอยู่
ใช่..ใช่เลยรุ่นพี่
แววตาแบบนั้น
คุณเกลียดผม
เช่นกันครับ ผมก็เกลียดคุณ
“แววตาคุณตอนนี้กำลังดีเลย”
“อ๋อ ..ฮึ
แน่นอน ฉันกำลังบอกว่าฉันเกลียดนายยังไงล่ะ”
“อยากรู้ความรู้สึกของผมด้วยมั้ยว่าผมรู้สึกอย่างไร”
อี้เฟิงสะบัดหน้าออกจากมือแกร่งที่เชยคางอี้เฟิงไว้
เขาเกลียดมือคู่นั้น หลังจากหยางหยางจูบเขาจนแทบขาดลมหายใจตาย
ริมฝีปากบวมเห่อทั้งแดงและปวดช้ำไปหมด รุ่นพี่สบตาและมองอีกฝ่ายตรง ๆ
กลบความหวาดหวั่นที่มีอยู่ในใจ
“ไม่ต้องถามก็รู้
นายก็ไม่ได้ชอบหน้าฉัน----“
“เกลียด”
หยางหยางไม่ปล่อยให้รุ่นพี่เสวนาให้จบบทด้วยซ้ำ
เขาโน้มตัวลงต่ำอีกนิดและกระซิบคำพยางค์เดียวชัด ๆให้อีกฝ่ายได้ยิน
อี้เฟิงไม่ได้คิดผิดต่างไปจากนี้
เพราะมันก็เป็นคำเพียงคำเดียวที่เขารู้ว่าหยางหยางจะต้องพูดให้เขาได้ยินซักวัน
ขอบคุณมาก
นายช่างเป็นรุ่นน้องที่แสนดี พูดอะไรที่ตรงไปตรงมาเสมอ
“ออกไป พอใจแล้วก็ออกไป”
"เอะอะก็ไล่คนอื่นอย่างกับอะไร
ตัวเองก็ทำหน้าตาเหมือนร้องขอแบบนั้น.... คุณรุ่นพี่ครับ...
เกรงว่าคุณรุ่นพี่น่ะล่ะ จะรั้งผมไว้เสียเอง"
อี้เฟิงอยากลุกขึ้นชกหน้าไอ้หมอนี่
รุ่นน้องจอมกวนประสาทนี่ให้เข็ดแต่ติดที่ตอนนี้เขาตกอยู่ในสถานการณ์เป็นรองอยู่ค่อนข้างหลายขุม
มือข้างนั้นของหยางหยางที่เข้ารุกล้ำร่างกายของอี้เฟิงยังไม่ละออกไป ไม่ใช่แค่ใต้ร่มผ้าส่วนบนเท่านั้นแต่หยางหยางยังลงมือเริ่มปลดกระดุมกางเกงยืนส์ที่อี้เฟิงเพิ่งจัดการสวมใส่มันเมื่อไม่กี่นาทีที่ผ่านมา
“อ๊ะ..”
เสียงหวานครางอุทานออกมาอย่างไม่ทันระวัง
เผลอร้องออกมา เพราะรุ่นน้องที่อี้เฟิงสวดด่าในใจกำลังทำอะไรบ้า ๆ
เขาสวดด่ารุ่นน้อง ว่านายมันบ้าไปแล้วหรอ แต่ก็แค่คิดอยู่ในหัว พูดออกมาก็รังแต่จะกลายเป็นเสียงแบบเมื่อครู่นี้
และตอนนี้คนตรงหน้ากำลังใช้มือรุกล้ำและปลุกความต้องการของอี้เฟิงขึ้นมา
ไม่เข้าใจว่าจะทำให้อับอาย แกล้งกันให้เกลียดกันไปถึงไหน
“อะ..นาย
ปล่อยมือออกกไปนะ”
“แน่ใจหรือครับว่าให้ปล่อย
ผมเห็นแต่แววตาร้องขอจากคุณ อย่าปฏิเสธเลยหน่า มันรู้สึกดี คุณก็บอก—“
อี้เฟิงยกเอามืออีกข้างที่พ้นขอบเขตการพันธนาการของหยางหยางฟาดเข้าที่ใบหน้าหล่อเหลานั้นจนเป็นรอยมือแดงบนแก้ม
คนเป็นรุ่นน้องที่ไม่ทันระวังเบิกตาพลันตกใจ เขาโมโห
จึงเอาความโมโหนั้นไปลงกับจังหวะการเร่งเร้าความต้องการของอี้เฟิงภายใต้กางเกงยีนส์เนื้อสวยนั่น
ร่างเพรียวของรุ่นพี่กลั้นความรู้สึกเอาไว้ บิดตัวเบี่ยงหลบมือข้างนั้นที่กำลังกระทำการรังแกอย่างเป็นที่สุดต่อหลี่อี้เฟิงคนนี้
แต่ทานแรงไม่ไหว ความต้องการที่ถูกปลุกเร้าไม่ใช่อะไรที่ต่อต้านได้ง่าย ๆ
สำหรับผู้ชาย
“อ๊ะ...— นาย
มัน อ๊ะ---ชั่วร้าย..คนเลว--- อ๊ะ ปล่อยมือ ไสหัวไปให้พ้น –“
“จะไล่ผมก็ยังหลุดเสียงครางออกมา
นี่คุณแน่ใจหรอว่าไล่ผมจริง ๆ “
คนชั่วร้าย
คนเลวของอี้เฟิงทำต่อไปไม่สนใจคำว่ากล่าวรุนแรง ไม่ยี่หระมันด้วยซ้ำ
มือแกร่งคู่นั้นปลุกเร้าอี้เฟิงจะแทบทำให้คนโดนกระทำมอดไหม้ด้วยความเร่าร้อน
หยางหยางเห็นสีหน้าของรุ่นพี่อดไม่ได้ที่จะมอบความรุนแรงอีกทาง ใบหน้าหล่อเหลาจูบหน่วงหนักที่ริมฝีปากนุ่มนิ่มนั่นอีกครั้งอย่างหยาบคาย
อีกฝ่ายไม่มีแรงต้านทานอะไรแล้วทั้งนั้น
แต่แค่นั้นคนใจร้ายเป็นซาตานตรงหน้าอี้เฟิงก็ยังไม่พอใจ เขาใช้ฟันขบริมฝีปากที่ใคร
ๆ ก็ต่างชมว่าน่ารักน่าชังจนเป็นแผลเลือดซิบ
“อ๊ะ..เจ็บ”
ใบหน้ารูปหล่อแต่ใจร้ายราวกับซาตานบนดิน
เผยยิ้มน่ากลัวออกมา อี้เฟิงไม่อยากทนในสภาพน่าอับอาย และกล้ำกลืน
แบบนี้แต่เขาขัดขืนได้ยากลำบากเหลือเกิน บิด เบี่ยง จะดิ้นเร่าแค่ไหนก็ละออกจากตัวหมอนี่ไม่ได้
“ว้า..หมดเวลาแกล้งแมวซะแล้ว”
หยางหยางละและหยุดมือข้างนั้นที่เร่งเร้าอารมณ์ของอี้เฟิงไว้
แม้มีของเหลวสีคุ้นเคยตาสำหรับผู้ชายออกมาแล้วนิดหน่อย ติดปลายนิ้วของหยางหยาง
เขาจัดการมันโดยแตะที่ริมฝีปากน่ารักน่าชังนั้นของอี้เฟิง
“เอาของของตัวเองกลับไปด้วย
คุณรุ่นพี่ ผมไม่ชอบเอาของใครติดมา”
แน่นอน อี้เฟิงไม่มีทางทำตามอย่างที่เจ้ารุ่นน้องใจร้ายนี่บอกอยู่
แถมยังถ่มน้ำลายใส่อย่างไม่เกรงกลัวอะไรอีก ต่อให้โดนสัตว์ร้ายอย่างคนนี้กินเข้าไปก็ไม่กลัวแล้ว
“เร็วเข้า!”
อีกคนเร่งเสียงดัง
ใบหน้าน่ารักเบี่ยงหน้าออกให้พ้นนิ้วของอีกคนที่จ่อที่ริมฝีปาก แต่รุ่นน้องไม่ยอมแพ้
ใช้มืออีกข้างคว้าหมับที่คางของใบหน้าน่ารักที่เริ่มมีน้ำโหบ้างแล้ว
“อ๋อ
โกรธขึ้นมาแล้วสิ นึกว่าจะทำหน้าเคลิ้มเหมือนอย่างตะกี้”
“นายมันหยาบคาย
ไอ้คนต่ำทราม”
“ด่าได้แค่นั้นหรือคุณเทพบุตรแห่งชาติ
แค่นั้นผมไม่ได้รู้สึกรู้สาอะไรเลย”
สุดท้ายของเหลวที่ติดปลายนิ้วของหยางหยางก็ถูกป้ายลงที่ริมฝีปากน่ารักที่มีรอยช้ำและแผลเลือดซิบที่ปากจนได้
อี้เฟิงเผลอรับรสมันอย่างอับอาย เขาอับอาย และรู้สึกโกรธ โมโหและแค้นเคืองสุดจะทน
เขาเกลียดคนคนนี้จริง
ๆ
“ผมไปล่ะนะ
เชิญคุณรุ่นพี่จัดการมันต่อแล้วกัน”
“ไปตายซะไป”
“ผมก็อยากพูดประโยคเดียวกับคุณเหมือนกัน
แต่ติดที่ผมมีความเป็นสุภาพบุรุษเหลือเกิน
เหมือนที่ผมเคยทำออกหน้ากล้องตอนอยู่กับคุณไง”
“นายมันคนหลอกลวง
โกหกตอแหลคนอื่นทั้งเพ”
“แล้วคุณไม่ได้ทำแบบนั้นอยู่รึไง
ที่ประจบประแจงคนทั้งโลก เอาแต่ใจทำอย่างกับว่าตัวเองเป็นศูนย์กลางของโลกให้คนมาเอาใจ
นั่นคิดว่าเขาจะชอบงั้นหรือ”
“นายมันชั่ว”
“คุณก็ร้ายพอกัน
อย่าเอามาเปรียบเทียบกันเลยครับ เดี๋ยวจะสูสีกัน
แล้วจะทนความร้ายกาจของตัวเองไม่ได้นะหลี่อี้เฟิง”
“นี่นาย---“
“พอแล้วคุณรุ่นพี่
ผมไม่อยากให้ใครมาเห็นเรา...เอ่อ ..ดูสนิทสนมกันแบบนี้ ว่ามั้ยล่ะ
ดูสนิทกันเกินไป..ด้วยซิ”
หยางหยางโน้มตัวมากระซิบในประโยคสุดท้ายความสนิทที่นี้
หยางหยางหมายถึง การที่หยางหยางยืนโท่อยู่ตรงหน้า
มือไม้ไม่เป็นที่และหลี่อี้เฟิงที่อยู่สภาพน่าอายและเสื้อผ้าหลุดรุ่ย
“ไป”
“ไม่ต้องไล่
ผมก็ไม่ได้อยากอยู่ใกล้คุณนักหรอก ขอบคุณสำหรับความสนุกในวันนี้นะครับ
คุณเทพบุตรแห่งชาติ”
เจ้าของใบหน้าหล่อเหลาผู้เป็นขวัญใจสาว
ๆ ส่งยิ้มทิ้งท้ายด้วยใบหน้าอารมณ์ที่แสนร้ายกาจตามที่อี้เฟิงเห็น
เปิดประตูห้องสุขาและออกไปจากห้องน้ำ อี้เฟิงขว้างนาฬิกาเรือนโปรดที่เขาคิดจะกลับมาเอาแต่มันกลับสร้างเรื่องราวให้เขาโดนเอาเปรียบ
หลี่อี้เฟิงปิดประตูล็อคห้องสุขาไว้ กอดเข่ากอดร่างตัวเองฟุบหน้าลงไป
อยากตะโกนด่าแต่สรรหาคำพูดจะที่เหมาะสมกับคนบ้าคลั่งตรงหน้าไม่ได้ ใจร้ายเกินไป
เลวทรามเกินไปแล้ว
ความต้องการที่หยางหยางปลุกเร้าไว้เมื่อครู่ลดลงแล้ว
แต่ยังคงรู้สึกได้จนอี้เฟิงจะต้องข่มมันไว้ ถ้าทำต่อ
มันก็จะทำให้ตัวเขารู้สึกอับอายจนแทบแทรกแผ่นดิน
ถึงจะแค้นจนน้ำตาจวนจะไหลออกมาแต่หลี่อี้เฟิงเก็บมันไว้
ไปร้องไห้กับอะไรอื่น ยังดีกว่ามาร้องไห้เพราะคนพรรค์นี้
“สนุกบนความทุกข์ของคนอื่น
... ไอ้การกระทำแบบนี้ก็สมกับนายแล้ว หยางหยาง
แต่ฉันก็ไม่ได้ยอมให้นายกระทำอยู่ฝ่ายเดียวหรอก..อยากจะสนุกนักใช่มั้ย...”
หลี่อี้เฟิงไม่ได้เห็นหยางหยางเป็นเพื่อนร่วมงานอีกต่อไป
เขาไม่อยากเรียกชื่อด้วยซ้ำ
แค่คนคนนี้
ก็มากพอแล้ว
******************************************************************************TBC 1
TALK :: ด่าใครก็ด่าแต่ห้ามด่าเฟิงเฟิงนะ!
แอบชอบบรรยากาศฟิคเรื่องนี้ตรงที่ 2 คนไม่ชอบหน้ากัน
ตอบลบปกติไม่ค่อยได้อ่านหยางเฟิงแบบนี้เท่าไหร่(แต่ที่จริงเราก็อ่านแค่ฟิคคุณเวย์ Orz)
เลยเหมือนเปลี่ยนบรรยากาศ แต่เห็นคุณเวย์บ่นว่าคนคงมองคุณเวย์เปลี่ยนไป
เราว่าไม่หรอก...เก่งซะอีกแต่งได้หลายแนวแบบเน้ล่ะคือเรื่องนี้แบบว่าาโอ้ยยยยยยยย
เราไม่ค่อยถนัดอ่านเอนซีเท่าไหร่เพราะแบบชอบเขิน เรื่องนี้จริงๆ แล้วหยางก็ดูรุนแรง
ดูแกล้ง แบบจะเอาให้สาแก่ใจ ล่ะชอบตรงเฟิงก็ไม่ยอมกัน ถ้าเทียบนี่ฟีลน้ำกับน้ำมันมาก
มันไม่มีทางเข้ากันได้เลยอะ ชอบตอนพูดว่าเกลียดต่อหน้าอีกคนโดยไม่ต้องรักษาน้ำใจ
คือมันรับรู้ได้เลยว่าเกลียดมากขนาดไหน แล้วคือเราหมั่นไส้หยาง 555
หมั่นระดับสิบตอนพูดยั่วเขาแต่คือแบบ..มือแกทำอยู่ปะหยาง คือทำไมร้ายกาจขนาดนี้
ขอบคุณสำหรับฟิคค่า