[SFic] accidentally
Pairing :: หยางหยาง x หลี่อี้เฟิง
Rating :: PG- 13
**********************************************************************************************
“หยุดนะ! “
เสียงใสหวานร้องดังขึ้นมา
เช้านี้มีอะไรที่ประธานนักเรียนสุดเนี๊ยบจอมเฮียบต้องจัดการอีกแล้ว
สาว ๆ
ที่มัวแต่มากริ๊ดคนหล่อแบดบอยประจำโรงเรียนอยุ่ริมข้างทางเดินเปลี่ยนห้องในโรงเรียน
กิดอาการเขม่นกันนิดหน่อย แต่ดันมาหลายคู่จนคุณประธานนักเรียนจอมเนี๊ยบที่ได้ชื่อว่าโหดที่สุดและไม่มีใครก็กล้าหือด้วย
อย่างหลี่อี้ฟิงออกโรงเดินออกมาจากห้องสภาพนักเรียนมาห้ามเองแบบนี้
“กลับไปเรียนได้แล้ว
ก่อนที่จะฉันจะเช็คความประพฤติของพวกเธอแล้วตัดคะแนน”
นักเรียนสาวทุกคนก้กลับไปยังห้องตามที่ประธานนักเรียนเสียงใสแต่ดุประกาศ
ใครจะกล้าหือกันนอกจากจะดุ โหดขนาดนี้แล้ว เรื่องวิชาการป้องกันตัวก็ไม่แพ้ใคร
แต่จะแพ้ก็คนรูปหล่อแบดบอยประจำโรงเรียนที่ทำให้สาว ๆ มีเรื่องเขม่นกับตาขยิบ
และยืนมองคุณประธานนักเรียนอยู่ก่อนแล้ว เขาไมได้สะทกสะท้านอะไรนักกับประธานนักเรีนยคนนี้
เสียงดุโหด ๆ นั้นก็เหมือนเสียงแมวร้อง เขากลัวเสียทีไหน
คุณประธานคนนี้เรียนเก่ง
แต่แบดบอยฮอตประจำโรงเรียนก็เอาชนะในเรื่องกีฬา
คุณประธานคนเก่งคนนั้นก็ไม่ได้เก่งทุกเรื่อง
“หยางหยาง แล้วนายน่ะเมื่อจะกลับเข้าไปเรียน”
“ก็รอไปพร้อมคุณประธานนักเรียนไง”
ท่าทางกวนประสาทขั้นสุดของหยางหยางทำให้อี้เฟิงจะต้องเบนหน้าหนีและไม่อยากคุยด้วยนานนัก
เขาแค่มาปรามพวกนักเรียนสาวและก็จะไปเรียนบ้าง ไม่อยากเจอหน้าและต่อปากให้มากความ
อี้เฟิงเดินกลับหลังออกมาจากที่นั่น
“คุณประธานนักเรียน”
“ถ้าจะกรุณาให้เรียกชื่อก็ดี”
“คุณอี้เฟิง วันนี้ที่ชมรมเทควันโด้ก็มีเทสย่อยนะ
หวังว่าคุณจะไม่แพ้ผมอีก”
อี้เฟิงเม้มปากแล้วเดินต่อไปไม่หันกลับมาต่อปากเป็นครั้งที่สอง
เขาเกลียดการข่มกันแบบนี้ที่สุด เขาพยายามชนะนายหยางหยางคนนี้
ดีที่เรื่องเรียนเขาพยายามจนชนะ มาเป็นที่หนึ่งได้ แม้เลือดตากระเด็น
แต่ก็กลับมาแพ้เขาเรื่องกีฬา เรื่องความป๊อบปูล่า ก็ยิ่งสู้ไม่ได้
เพราะสาวโรงเรียนนี้ก็ดันชอบพวกแบดบอยมากกว่าหนุ่มเนี๊ยบเท่มากกว่าเสียนี่
และอี้เฟิงก็เบื่อการเจอหน้าหมอนี่เป็นประจำทุกวัน
เพราะหมอนี่อยู่ถัดไปไม่กี่หลัง แม้จะเป็นบ้านที่เช่าเอาไว้เพราะครอบครัวย้ายมาจากที่อื่น
แต่ทำไมจะต้องมาอยู่ใกล้บ้านอี้เฟิง เขาจะต้องเจอหมอนี่พูดจากวนประสาททุกวัน
“โธ่เอ๊ย”
วันนี้อี้เฟิงหนีกลับบ้านให้เร็วที่สุด เทสย่อยในวันสอบวันนี้ที่ชมรม
คะแนนของอี้เฟิงแพ้หยางหยางไปอย่างฉิวเฉียด ไม่กี่แต้ม
แต่อี้เฟิงก็จะไม่อยู่ให้อีกฝ่ายมาซ้ำเติมความพ่ายแพ้ เขาจึงตรงกลับบ้านทันที
รีบเดินมาทางลัดอีกทางที่สามารถกลับบ้านได้เหมือนกัน
แต่คนนนั้นก็รู้อยู่ดีนั่นล่ะว่ามันมีทางนี้อยู่แต่ก็เสี่ยวดวงเอาว่า
หมอนั่นจะไม่กลับมาทางนี้ด้วย
“ฉันจะต้องซ้อมให้มากกว่านี้”
นี่คือสิ่งที่อี้เฟิงคิด เดินกลับบ้านเขาก็ทวนวิธีเรียน
การฝึกซ้อมตามที่ได้เรียนมา หลักฐานทุกอย่าง
มีบางครั้งที่ออกท่าทางในขณะเดินไปด้วย
เมี๊ยว
แต่อี้เฟิงก็ต้องหยุดเดิน
เพราได้ยินเสียงหนึ่งที่ทะลุโสตประสาทการได้ยิน เสียงแมวน้อยจากที่ไหนซักแห่ง
และพบว่ามันอยู่ตรงปลายเท้าของอี้เฟิง
“แกหลงมาจากไหน ?”
ลูกแมวน้อยตัวเล็กที่ดูหิวโซ จากการเดินที่เซไปเซมา
อี้เฟิงโอบอุ้มลุกแมวน้อยมาไว้กับอก เขาชอบแมว
จึงไม่นึกรังเกียจแม้ว่ามันจะคลุกโคลนมาตัวดำขนเปื้อนเสียแล้ว อี้เฟิงมองเห็นว่ามันมีปลอกคอด้วย
อี้เฟิงไม่อยากให้มันโดนใครทำร้ายหรือเป็นอันตราย ฉะนัน้ตอนนี้ต้องเอากลับไปไว้ที่บ้านก่อนที่จะมีอันตราย จากท้องถนน
อี้เฟิงเอาแมวน้อยมาที่โรงเรียนด้วย
เพราะที่บ้านมีแค่เขาคนเดียวที่เอาเจ้าแมวน้อยจอมซนนี่อยู่
แถมยังติดเขามาเป้นเขาเป็นแม่แมวของเจ้านี่เสียอย่างนั้น
เขาจึงต้องเอาใส่ตะกร้าที่มีอยู่ที่บ้านมาไว้ที่โรงเรียนไม่ให้เหงา
แต่ที่โรงเรียนมีข้อห้ามว่าไม่ให้เอาสัตว์เลี้ยงมา
อี้เฟิงแอบฝ่าฝืนเสียเองเล็กน้อย แต่เขาก็นำมันไปฝากไว้ที่โรงเพาะชำหลังโรงเรียน
เพราะมีคนที่ดูแลเป็นคนที่อี้เฟิงสนิทอยู่ในโรงเรือนนั้น
แถมโรงเรือนนั้นก็มีทั้งการปลุกผัก และเลี้ยงสัตว์ไว้ให้ในชั่วโมงเกษตร
เอาแมวไปฝากไว้ก็ถือว่าได้หนักหนา แอบอิงกับวิชาเกษตรก็ไม่น่าจะเป็นอะไร
“อยู่ที่นี่กับคุณลุงไปก่อนนะ “
โชคดีหน่อยที่โรงเพาะชำนี้อยู่นอกกำแพงโรงเรียน
อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องถูกเหมาว่าทำผิดกฎโรงเรียน
แม้จะแอบหิ้วลูกแมวน้อยเข้าโรงเรียนมาแป๊บหนึ่งก็เถอะ
“เอ๊ะ อะไรนะครับ”
อี้เฟิงกลับมาช่วงบ่าย
คลาสวันนี้อาจารย์ทำการสรุปเนื้อหาและปล่อยให้มีชั่วโมงการเรียนรู้ อี้เฟิงจึงแอบเดินมายังเรือนเพาะชำแต่ระหว่างทางเดิน
ก็พบกับคุณลุงใจดีที่ได้ฝากแมวน้อยไว้
คุณลุงกล่าวเสียงตื่นและรู้สึกผิดที่ปล่อยให้มันหายไป
“หายไปทั้งกล่องเลยหนูอี้เฟิง ลุงแค่ไปหยิบถุงปุ๋ย
กะจะเอาไปโปรยดินให้ผักเสียหน่อย แต่แว้บมาอีกทีก็หายไปทั้งตระก้าแล้ว”
ใครกันที่ทำแบบนี้
อี้เฟิงมองหาตะกร้าที่เขาใส่แมวน้อยมาเมื่อเช้า
มันอาจจะหิว อาจจะเหนื่อย หรือร้องหาอยู่ตรงไหนซักแห่ง
อี้เฟิงเดินไปดูทั่วโรงเพาะฃำ ออกไปยังภายนอก จนไปในโรงเรียนแม้คิดว่าไม่น่าจะมี
แต่ก็ไปดูเสียหน่อย
จนไม่มีที่ใดที่อี้เฟิงคิดว่าจะหาเจอ เขาฝากให้คุณลุงช่วยหา
เพราะมีงานโรงเรียนที่สะสางให้เสร็จในบ่ายนี้ที่ห้องสภานักเรียน
“นาย...”
เมื่ออี้เฟิงเปิดประตูห้องสภานักเรียนออกมาก็เจอกับหยางหยางและตะกร้าที่เขาคุ้นตา
เป้นมแวน้อยที่เขาที่เขาออกตามหา ทำไมมาอยู่ที่คนคนนี้
“ทำไม..นาย....”
“คุณประธานนักเรียนทำผิดกฎนี่ครับ”
“ฉันเอาฝากที่หลังโรงเรียน”
“แต่ก็หอบเข้าโรงเรียน ?”
หยางหยางต่อปากต่อคำกับคุณประธานนักเรียน อี้เฟิงเดินสามขุมเข้าไป
เอื้อมหมายจะคว้าตะกร้านั่นให้ได้ในนั้นมีแมวน้อยที่หวาดกลัวอยุ่
ไม่รู้หยางหยางได้ให้อาหารมันมั้ย หรือไปทำอะไรมันหรือเปล่า
เขาโมโหที่คนนนี้จะเอาเรื่องนี้มาสู้กับเขา แถมยังให้สัตว์ตัวเล็ก ๆ
เดือดร้อนอีก
“เอาคืนมา”
“มาตกลงกันมั้ยคุณประธาน”
“ไม่ตกลงกับคนนิสัยไม่ดีแบบนาย เอาคืนมา”
เขาไม่เถียงกับหยางหยางให้มากความ เขาไม่อยากญาติดีด้วยเสีนยด้วยซ้ำ
เป็นคู่แข่งกับเขาทุกอย่างตั้งแต่เรื่องเรียน กีฬา กิจกรรม
แถมยังมีหน้ามาเป็นหนึ่งในสภานักเรียน แม้อี้เฟิงจะเป็นประธานเพราะเสียงโหวตแต่บางทีหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมอย่างหยางหยางก็มีสิทธิ์เสียงพอ ๆ กับเขา
เรื่องอื่น ๆ ด้วย แถมการต่อปากต่อคำยังเป็นที่หนึ่ง ไม่เคยพูดดีกันด้วยกันซักครั้ง เหมือนตั้งจะเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่ชาติไหน
คนแบบนี้ทำไมอี้เฟิงต้องทำดี พูดดีด้วย
คนนิสัยไม่ดี
ไม่เอาด้วยหรอก
“หลี่อี้เฟิง คุณไม่มีทางเลือกนะ”
“ฉันเลือกได้ และฉันจะให้นายออกไปจากห้องนี้ หยางหยาง
นายก็อย่าลืมนะว่าฉันก็มีพาวเวอร์ในโรงเรียนนี้”
“นั่นผมก็ไม่ได้กลัว แต่คุณนี่น้า...เป้นประธานแต่ทำผิดเสียเอง
เอาแมวน้อยมาด้วยทำไมกัน ผมบอกคุณแล้วว่าผมจะทำให้คุณแพ้
มีช่องไหนผมก็ดักให้คุณล้ม
จำไมได้หรือที่เราเคยพูดกันก่อนจะแข่งเควันโด้ระดับภาคแล้วยังไงน้า
สุดท้ายคุณแพ้ผม”
คุณประธนานักเรียนตีหน้าดุยิ่งกว่าเดิม พยายามจะคว้าตะกร้าที่มีแมวน้อยที่หวาดหกลัวอยู่
หยางหยางหอบมันหลบเลี่ยงอี้เฟิงไปซ้ายทีขวาที จนเขาเหนื่อยจะตามไล่
อี้เฟิงใช้ทีเผลอที่หยางย่ามใจหยุด คว้าชิงตะกร้า
มือเรียวสวยคว้าเอาฝาด้านบนได้แต่มันเกิดมีอุบัติเหตุ
หยางหยางนั้นกระชากตะกร้าคืนกลับมาทางเขา ฝาตะกร้าเปิด
“แมวน้อย!”
อี้เฟิงปล่อยหยางหยางทิ้งให้เสียหลักไปแต่เขาตั้งหลักได้
อี้เฟิงถลาไปรับแมวน้อยที่จะร่วงลงพื้น และเขาก็รับคว้าไว้ทัน
แมวน้อยไม่เจ็บไม่กระแทกอะไร คุณประธานนักเรียนลืมตัว เผลอถอนหานใจและโล่งใจ
ที่แมวน้อยไม่เป็นไร
...หยางหยางไม่พูดอะไรเพียงมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
"โล่งไปที แกไม่เป็นไรเเล้วนะ"
เขาไม่เคยเห็นยิ้มของคุณประธานนักเรียนเลยเมื่ออยู่ต่อหน้ากัน
“นายจะมองฉันอีกนานมั้ย และออกไปจากห้องซะ ฉันได้แมวน้อยคืนมาแล้ว
และฉันจะไม่พูดเรื่องนี้ไม่คิดถึง ไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นปัญหากับนาย....”
หยางหยางที่ยังตกตะลึงกับรอยยิ้มของหลี่อี้เฟิง
ที่เขานึกตั้งตัวเป็นคู่แช่งคู่แค้นกันมาตลอด
เหมือนหัวใจหวั่นไหวกระตุกวูบราวกับมีใครมาดึงกระชากไป
“หลังจากนี้เราก็อย่ามาข้องเกี่ยวกกันอีก “
คุณประธานนักเรียนลุกขึ้นยืน เนื้อตัวมอมแมมเล็กน้อย
เพราะเพิ่งลงไปคลุกฝุ่นที่พื้น ในอ้อมกอดมีแมวน้อยที่ตัวสั่นแต่คาดว่าคงหวาดกลัวน้อยลงเพราะได้รับการปลอบโยนจากอ้อมกอดที่อบอุ่นของคุณประธานแล้ว
หยางหยางมองแมวน้อยในอ้อมกอดนั้น เกิดนึกอิจฉา เขาก็ยังแปลกใจ
จึงตบความคิดนั้นออกจากหัวไปเสีย
“ออกไป ฉันขอสั่งในฐานะประธานนักเรียน
ออกไปแล้วถ้าหากเรากลับเข้ามาใหม่ก็ขอให้เกี่ยวข้องกันแค่เรื่องานก็พอ”
หยางหยางไปตามคำสั่งของอี้เฟิง รู้สึกเหมือนตัวเองลอย ๆ
หนึ่งคือเขายังโดนจับหัวใจด้วยรอยยิ้มของหลี่อี้เฟิงคนนั้น
สองคือคำพุดเจ็บปวดที่เขาบอกว่าจะไม่ให้เจอกัน ไม่พูด
ไม่เกี่ยวข้องกันไปมากกว่าเรื่องงาน
สามคือหัวใจของหยางหยางที่ถูกรอยยิ้มนั่นจับไว้ ปวดหน่วง วูบไหว ผิดจังหวะ
รอยยิ้มของหลี่อี้เฟิงนั้นเป็นอย่างไร
หัวใจที่แห้งแล้งเปรียบเหมือนไม้ขาดน้ำ
ชุ่มฉ่ำขึ้นมาเพราะรอยยิ้มงดงามน่ารักเหมือนฝนในฤดูกาลใหม่
เขาอาจจะเปลี่ยนตั้งแต่ตอนนั้น
หลังจากวันนั้น หยางหยางมองหลี่อี้เฟิง คุณประธานนักเรียนจอมเฮี๊ยบเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็น
เขามีความรู้สึกบางอย่างแทรกมาตรงที่เก่าที่เขาเคยวางอารมณ์ระหว่างเขากับหลี่อี้เฟิงไว้
หยางหยางยังรู้สึกตัวเองได้เลยว่าแววตาเขาเปลี่ยนไป
มีความรู้สึกอื่นแล้ว
แต่ก็หลังจากนั้นอีกเหมือนกันที่หลี่อี้เฟิง ออกห่างจากเขามากขึ้น ไม่ยอมมาต่อปากด้วยกันแบบเมื่อก่อนที่เคยทำ
เขาน่าจะโกรธมากจริง ๆ นอกจากงานที่จะต้องติดต่อกันในงานสภานักเรียน อื่น ๆ นั้นอี้เฟิงแทบไม่คุยไม่เอ่ย
ไม่มองหน้าด้วยซ้ำ ในชมรมที่แม้จะเจอกันก็เลี่ยงที่คุย หยางหยางเคย หาโอกาสคุย แต่ก็ไม่สำเร็จเขาต้องเลี่ยงหยางหยางทุกครั้งไป
จำได้ว่าเคยได้ยินใครซักคนบอกว่าหลี่อี้เฟิงคนนี้ชอบแมวเอามาก ๆ และนั่นอาจจะเป็นหนึ่งในเหตุ
แลต่เหตุหลัก ๆ ก็คืออี้เฟิงไม่เคยชอบหน้าเขาอยู่แล้ว
คิดไปก็ปวดหน่วงในหัวใจ ไม่รู้เขาเองจะทำอย่างไรเหมือนกัน
วันนี้เลยทำได้แค่บอกอาจารย์ไม่สบายและโดดเรียนไปนั่ง ๆ นอน ๆ ที่ดาดฟ้า
ไตร่ตรองซักหน่อยว่าเขาทำอย่างไรกับสถานการณ์อันเงียบงันนี้ว่า
เขาควรจะปล่อยให้มันเป็นไป หรือทำอะไรซักอย่างหรือไม่กับเหตุการณ์นี้
เพราะปวดหัวใจเหลือเกิน จึงต้องคิดให้หนัก
สุดท้ายหยางหยางก็คิดออกกับสถานการณ์ชวนปวดหัวปวดใจของตัวเอง
แม้จะยังไม่มากนัก แต่ความรู้สึกของหยางหยางต่อหลี่อี้เฟิงเปลี่ยนไป
แต่เขาก็อยากจะทดสอบดูอีกหน่อยว่า มันมากน้อยแค่ไหน
เขาจึงตรงไปยังเรือนเพาะชำ
เพราะหากว่าเอาแมวน้อยเข้ารั้วโรงเรียนไม่ได้ ผู้ที่เคร่งกฎระเบียบบอย่างคุณประธานนักเรยนก็ต้องเอาเจ้าแมวน้อยไปที่นั่น
แม้จะมีแค่แว้บเดียวที่คุณประธานเคยเอาแมวน้อยลอบเข้ามาเพราะเขาต้องมาเก็บกระเป๋าในตอนเช้า
แต่นั่นมันครั้งก่อน เช้าตรู่วันนั้น เขาเห็นคุณประธานมาลับ
ๆล่อๆแต่เช้าตรู่เพราะเขาเพิ่งกลับจากวิ่งออกกำลังผ่านทางโรงเรียนก็เห็นคนเก่งคนนั้นวิ่งแอบ
ๆ ถือตะกร้าใบสวยเข้าโรงเรียนไปเก็บของก่อน ไปเรือนเพาะชำ วันนั้นเขาก็เลยคิดแผนจะแกล้งอีกคนได้
แต่ไม่คิดว่าจะทำความสัมพันธ์มันแย่ลงกว่าที่เป็น
เมี๊ยว~
พบเพียงลูกแมวน้อยผู้โชคร้ายตัวนั้น วันนั้นที่เขาคว้าเอาตะกร้ามา
ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นอันตราย เขาก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น แต่ไม่ปฏิเสธว่าแกล้งมันนิดหน่อย
แต่เขาก็ให้อาหารให้น้ำมันครบมื้อ แม้จะแอบลักพาตัวมาจากโรงเพาะชำก็เถอะ
“แม่แมวไปไหนซะล่ะ แม่แกไปไหน เจ้าตัวน้อย”
หยางหยางยกยิ้มถามลูกแมวน้อยที่กลิ้งกะเท่เร่เล่นกับของเล่นแมวอยู่ในห้อง คนรูปหล่อเฝ้ามองมันแล้วคิดถึงอีกคนว่าก็น่ารักไม่น้อย เวลาคุณประธานโมโหแยกเขี้ยวทีไร ก็น่ามองไม่น้อย
หยางหยางยกยิ้มถามลูกแมวน้อยที่กลิ้งกะเท่เร่เล่นกับของเล่นแมวอยู่ในห้อง คนรูปหล่อเฝ้ามองมันแล้วคิดถึงอีกคนว่าก็น่ารักไม่น้อย เวลาคุณประธานโมโหแยกเขี้ยวทีไร ก็น่ามองไม่น้อย
เอ๊ะ?
“ว่าแล้ว...บ้าจริง”
หยางหยางก็เพิ่งได้สัมผัสกับอะไรที่มากกว่านั้น
เขาคิดว่าเขาคงตกหลุมรักคุณประธานนักเรียนอี้เฟิงก่อนหน้าที่จะพบรอยยิ้มน่ารักนั่นแล้วล่ะมั้ง
เขาชอบมองเวลาอี้เฟิงแยกเขี้ยว คอยดุคนนั้นนี้ ตีหน้าโหดใส่คนอื่น เชาชอบไปแหย่คนคนนี้เล่นพอเบื่อ
ๆ แต่ที่แข่งกับเขาก็เพราะอีกฝ่ายตั้งตัวเป็นคู่แข่งกับเขา จะไม่แข่งด้วย
เดี๋ยวอีกคนที่จะเสียแรงตั้งใจและมันสนุกดี
สรุปว่า เขามีหลี่อี้เฟิงในสายตามาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว
ก็ถามไล่เรียงความไป เขาก้ไม่เคยมองใครคนไหนเลย ตั้งแต่พบหลี่อี้เฟิง
“เอ้า หายไปไหนแล้ว”
หยางหยางคิดเรื่องแม่แมวของเจ้าตัวน้อยเพลนิ ถึงแม้มือจะคอยกลิ้งของเล่นแมวให้
แต่เจ้าตัวน้อยเลิกสนใจเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้วิ่งหนีหายไปอีกแล้ว
“เจ้าแมวน้อย แกไปไหนน่ะ”
ร่างกายแข็งแกร่ง สาวเท้าเดินดูรอบห้องแต่ก็ไม่พบ เขาจึงคิดว่า
เพราะเขาไมได้ปิดประตูเรือนเพาะชำให้สนิทเจ้าแมวจอมซนจึงหนีหายไป
ข้างนอกฝนตกหนักเสียด้วย เจ้านั่นจะต้องเปียกฝนอีกแน่
“เจ้าแมวน้อย”
หยางหยางรีบถลาไปคว้าแมวน้อยให้พ้นทาง มีรถมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งขับผ่านมา
เรือนเพาะชำเป็นสถานที่ติดถนนหลังโรงเรียน พอเปิดประตูออกไปไม่กี่ก้าวลงจากฟุตบาทก็เป็นถนนแล้ว
และยิ่งในช่วงฝนตกเช่นนี้รถราก็ขับกันเร็วเหมือนรีบกันทุกคน
“เจ้านี่ซนจริง ๆ เลย”
ร่างแข็งแรงที่ไปคว้าแมวน้อยมาไว้ในอ้อมอกเขาอุ้มมันไว้
เจ้าตัวน้อยเปียกและหนาวสั่น คล้ายยังกลัวอยู่ หยางหยากก้มมองแมวน้อยที่สั่นหนาวอยุ่แนบอก
เนื้อตัวมอมแมมไปหมด แต่เขาก็ไม่ได้สังเกตตัวเองเหมือนกันว่า
ตอนที่ถลาไปรับเจ้าแมวมา ตรงแขนและข้อศอกตัวเองมีแผลและบาดเจ็บด้วย
“แกไม่เป็นไรแล้ว “
คนรูปหล่อทรุดนั่งชันเข่าอยู่กับพื้นถนนตรงนั้น
เหมือนเขาก็เริ่มรู้สึกเจ็บตรงเข่าไปกระแทกที่พื้นถนนตอนรีบเข้าไปช่วยเจ้านี่อีกตำแหน่ง
เลยลงนั่งครู่หนึ่งเพื่อพัก แต่นี้ทั้งเขาทั้งแมวน้อยก็เปียกปอนพอกัน แต่เจ้าแมวในอกตัวเล็กและน่าจะป่วยง่าย
หยางหยางจึงปลดกระดุมท้าย ๆ ของเสื้อนักเรียนเลิกมันและบังฝนไว้ไม่ให้มันโดนน้ำหยดเย็น
ๆ จากฟ้าไปมากกว่านี้
แต่ซักครู่ หยางหยางรู้สึกเหมือนมีใครมาบังฝนไว้ให้อีกต่อหนึ่งเช่นกัน
แม่แมวของเจ้าแมวน้อย มือหนึ่งถือร่มบังเขาไว้ตรงท่อนแขนเล็กเรียวห้อยด้วยถุงเล็ก
ๆ ที่บรรจุนมสดอยู่สองสามกล่อง
อี้เฟิงมองเขาด้วยความประหลาดใจว่ามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร
ทั้งคนทั้งแมว พอเดินกลับมาจากซื้อนมสดเพราะในห้องเพาะชำเสบียงหมดเสียแล้ว แต่ก่อนจะเข้าเรือนเพาะชำก็เจอสองชีวิตนั่งตากฝน
เนื้อตัวมอมแมมทั้งคู่ แถมฝั่งคนยังมีบาดแผลด้วย
หยางหยางเหลือบมองเขาอยู่ครู่หนึ่งและก้มกลับลงไปอีกครั้ง
เพื่อมองอาการแมวน้อยในการดูแลชั่วคราวของเขา อี้เฟิงก็ยังคงยืนมองเขาด้วยสายตาและท่าทางเดิม
คนรูปหล่อยืนขึ้นช้า ๆ และคอยประคองแมวในมือ อี้เฟิงที่ก้มมองเหตุการณืตรงหน้านิ่วคิ้มขมวด
และจนเมื่อคนที่โอบแมวน้อยลุกขึ้นยืนถึงในระดับที่พอจะทำอะไรได้
หยางหยางเอียงคอให้ได้ระดับ และมุมที่พอดี เขาประจงจูบอี้เฟิงอย่างแผ่วเบา เป็นจูบบาง ๆ
ที่ไม่ได้รุกล้ำพื้นที่อะไรของอี้เฟิงเลย นอกจากริมฝีปากที่นุ่มนิ่มและชุ่มชื้นเพราะอากาศ
และยังสั่นไหว เพราะอากาศตรงนี้เริ่มหนาว ตอนจูบคนขี้ขโมยจูบคนนี้หลับตาและจูบอี้เฟิง
ทำให้อี้เฟิงต้องหลับไปด้วยอย่างนึกเผลอตัว หยางหยางค้างจูบนี้ไว้นานครู่หนึ่ง จนเมื่อถอนจูบละออกไปอย่างเชื่องช้า
และยืนเต็มความสูงแล้ว เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบอีกคนที่ยืนตะลึงที่โดนขโมยจูบไป จนเขาต้องบอกใบ้ด้วยสายตาว่าให้รับเจ้าแมวน้อยไป
โชคดีที่อี้เฟิงไมได้มือไม้อ่อนขนาดนั้น ร่มยังอยู่ดีไม่เอียงกระเท่เร่
และก็ทำตามที่หยางหยางบอกใบ้ผ่านสายตา
จนเมื่อส่งแมวน้อยสู่อกแม่แมวแล้ว หยางหยางคอยสบตาอยู่
อี้เฟิงหันมาทันทีเขาจะเลิกรอ
และทั้งคู่ก็ส่งความรู้สึกผ่านสายตากันอยู่เนิ่นนานใต้ร่มท่ามกลางฝนตก
“ขอโทษ..ทุกอย่างเลย”
หยางหยางพูดประโยคสั้น และหันหลังจากไป ทั้งที่ยังฝนตกแบบนั้น
อีกฝ่ายที่เปียกปอนอยู่แล้วกลับเปียกมายิ่งขึ้นกว่าเดิม
อี้เฟิงจะรั้งเขาไว้ก็ไม่ทัน คิดช้าและเอื้อมมือออกไปช้าเกินไป
เขาหันหลังและเดินไปแล้ว ทิ้งความสับสนในใจ และส่งแมวน้อยให้คืนกับเขา
เหมือนแมวน้อยจะซนจนอีกฝ่ายต้องวิ่งมาช่วย
ทำไมต้องจูบ....หยางหยางคนนั้นจูบเขาทำไม
และอีกอย่างคืออี้เฟิงไม่ขัดขืนอะไร ก็เพราะสายตาที่มองกัน
เขาส่งความรู้สึกมากมายมา จึงใจอ่อนปล่อยให้เขาทำ
ต้องถามให้รู้เรื่อง
หลังจากที่อี้เฟิงส่งให้เจ้าแมวน้อยกลับเข้าที่ ป้อนข้าวป้อนน้ำ
ทำให้ตัวแห้ง หลังจากพากลับบ้านแล้ว เขาฝากคนที่บ้านช่วยดูแลมันซักครู่ อี้เฟิงจึงเดินไป ตามหาหยางหยาง
อยากรู้จึงต้องถามเดี๋ยวนี้ และเป็นห่วงอีกฝ่ายที่ทั้งเปียกฝนและมีแผลบาดเจ็บ อี้เฟิงรู้เพียงแค่ว่าซอยถัดไปแต่ไม่รู้ว่าอยู่จุดไหนกันแน่
เขาเดินช้า ๆ คอยดูทุกบ้าน
โชคดีที่ซอยนี้ไม่ได้ยาวเกินไป จึงคอยชะเง้อมองทุกบ้านที่ผ่าน
“บ้านไหนล่ะเนี่ย”
ฝนที่ยังตกไม่หยุดแต่ซาความแรงลงบ้างแล้ว
อี้เฟิงยังเดินตามทางไปเรื่อยเพื่อตามหาบ้านอีกคน
“หยางหยาง!”
เจ้าของชื่อที่เหมือนเพิ่งจะกลับจากที่ไหนซักแห่ง ในมือมีถุงสีขาวทึบ
เขียนทับด้วยชื่อร้านยาที่อยู่ในละแวกนี้ อี้เฟิงรีบเดินรุดเข้าไปหา
อีกฝ่ายที่ตกใจเพราะเพิ่งจากกันไม่นาน แต่มาเจออี้เฟิงเดินป้วนเปี้ยนเป็นแมวหลงแถวหน้าบ้าน
มาหาเขางั้นหรือ ?
หยางหยางมองใบหน้าอีกคนอย่างสงสัยแต่เขาไม่พูดอะไร
พอจะเดาใจออกว่าอีกฝ่ายจะมาถามอะไร เขารีบเดินอ้อมผ่านอี้เฟิงไปแต่ครั้งนี้อี้เฟิงไม่ยอมให้ยางหยางผ่านไปได้ง่าย
ๆอีกแล้ว
“หยางหยาง”
เสียงหวานเรียกหยางหยางเบาลงแต่ยังได้ยิน เขาที่ไม่มีร่ม
จึงเปียกปอนไปทั้งตัว มีน้ำฝนหยดจากเสื้อผ้า เส้นผมลู่ลงเพราะเปียกน้ำ อี้เฟิงยื่นร่มมากางอีกครั้งบังฝนให้
“มาทำไม”
“ทำไมนายเปียกไปหมดแบบนี้”
“ช่างฉันเถอะหน่า”
หยางหยางสลัดการพันธนาการของอี้เฟิงออก เขารีบจ้ำออกมาจากใค้ร่ม
และตรงไปอีกไม่กี่เมตรก็ถึงบ้านของเขาและ ปิดประตูบังเข้าบ้านไป
อี้เฟิงวิ่งอย่างรีบเร่งแต่ไม่ทัน ก็ไปเคาะประตูบ้านหยางหยาง
เสียงดังจนเหมือนแทบพัง ทำไมหยางหยางต้องออกมาเปิดให้อย่างเสียไมได้
“คุณจะบ้าอะไร หลี่อี้เฟิง”
“จะทำแผลให้”
“ไม่ต้อง”
“ถ้านายไม่ให้ฉันเข้าบ้าน ฉันก็จะยืนอยู่ตรงนี้ล่ะ”
หยางหยางถอนหายใจสีหน้าของอีกคนไม่ยอมลงเลยและเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายมีทิฐิมากแค่ไหน
หลี่อี้เฟิงจะทำแบบนั้นจริง ๆ และสุดท้ายก็ต้องยอมให้แม่แมวเข้ามาในบ้าน
ก่อนที่เมฆดำจะเทฝนหนักใหญ่ครั้งใหม่ลงมา
“นั่งลง”
“นี่มันบ้านผมนะ”
อี้เฟิงสั่งให้หยางหยางนั่งลงหลังจากผลักให้อีกฝ่าย บังคับ
ให้หยางหยางไปเปลี่ยนเสื้อทำให้ตัวแห้งทันทีที่เขาได้เข้าไปในบ้านหยางหยาง
สั่งโน่นนี่จนหยางหยางงงว่านี่มันบ้านใครและรวมถึงตอนนี้ด้วย
“จะนั่งมั้ย”
“จะสู้กันรึไง ไม่อยากสุ้ด้วยหรอก ไม่มีอารมณ์”
“จะทำแผลให้ นั่งลงดี ๆ ได้มั้ย”
“กลับไปได้แล้ว”
อีเฟิงถอนหายใจคนดื้อดึงที่ไม่ยอมให้เขาทำแผลดี ๆ
ทำตัวเหมือนคนกลัวยากลัวหมอไปได้ คุณประธานนักเรียนจึงต้องละความดุออกจากเสียงและท่าทาง
เปลี่ยนเป็นอีกแบบ
“หยางหยางนั่งลง อี้เฟิงจะทำแผลให้”
ไม่ทันสามวินาที หยางหยางนั่งลงทันทีที่สิ้นเสียงหวานแถมสรรพนามยังหวานลื่นหูจนหยางหยางใจเต้นระส่ำ แต่พอนั่งลง
หยางหยางก็แทบถอยหนีไปห่าง ๆอีกครั้ง เพราะจะต้องเจอใบหน้าคุณประธานนักเรียนอยู่ในระยะใกล้เหลือเกิน
ดวงตากลมโต จมูกเชิดรั้น ริมฝีปากที่ดูนุ่มนิ่ม แก้มเนียนใสที่ติดค่อนข้างซีดนิดหน่อยในตอนนี้เพราอากาศหนาว
ทั้งหมดนี้ล่ะที่ทำให้หยางหยางต้องทำ.....ขโมยจูบอี้เฟิงไปก่อนหน้านี้
เพราะความน่ารักของเจ้าตัวเองที่ทำให้หยางหยางเผลอทำอะไรแบบนั้นออกไป
“นั่งนิ่ง ๆ นะจะเริ่มทำแผลแล้ว”
อี้เฟิงจัดการหยิบเอาน้ำยาล้างแผลและสำลีแตะที่บาดแผลแต่ละแห่ง
ทั้งข้อศอก แขนแกร่ง และเขารู้ว่มีที่หัวเข่าด้วยจึงสั่งให้หยางหยางเลิกขากางเกงขึ้นและทำแผลตรงนั้นให้ด้วย
หลังจากนั้นคุณพยาบาลจำเป้นก็สำรวจว่ามีแผลตรงไหนอีกมั้ย
“มีตรงไหนเจ็บอีกมั้ย”
“ไม่มี พอแล้ว ขอบคุณ”
ตลอดการทำแผล หยางหยางมองไปทุกการกระทำ ทุกการเคลื่อนไหวของอี้เฟิง
มือสั่นไหวเล็กน้อยพร้อมอาการประหม่า คุณประธานนักเรียนก็ไมได้เป็นคุณพยาบาลที่ดีนักแต่ก็ทำได้ไม่เลว
เขารู้ว่าตัวเองลอบยิ้มเมื่ออีกฝ่ายอยู่ใบหน้าลงเพราะไม่มั่นใจว่าหยางหยางจะเจ็บมากหรือน้อยตอนถูกยาแตะทีแผล
เมื่อแล้วเสร็จอี้เฟิงจัดการเก็บอุปกรณ์ทำแผลนั้น หันมาตีหน้าดุใส่
“ขอบคุณที่ช่วยเจ้าแมวน้อยนะ แต่ทีหลังก็อย่าทำอันตรายแบบนั้นอีก”
“รู้แล้วหน่า นี่มันบ้านผมนะนอกโรงเรียนด้วย
เลิกทำตัวเป็นประธานนักเรียนซักที”
“ก็ฉันเป็นห่วงนี่ แล้วก็กินยาพักผ่อนซักด้วย นายตากฝนนานเกินไป
จะไม่สบายเอา”
หยางหยางประหลาดใจตั้งแต่คำแรกที่อี้เฟิงเอ่ยมาตั้งแต่ต้นประโยค
เป็นห่วงเขางั้นหรือ ? คุณประธานนักเรียนไมได้แสร้างเหมือนลืมตัวพูดด้วย
“เป็นห่วงจริง ๆ .... ไม่ได้เผลอพูดไปหรอกนะ”
อี้เฟิงเห็นท่าทีของอีกฝ่ายที่แปลกใจก็คงเป็นความห่วงใยที่อี้เฟิงมอบให้
จึงบอกให้ทราบความจริงและเขายังถามต่อ
“นายจูบฉันทำไม”
อี้เฟิงถามกลับไป หยางหยางทำได้แค่นิ่วหน้าและเสหันไปอีกทาง
เขาสองคนนั่งอยู่ห่างกันไม่แค่กี่คืบ แต่เหมือนดูห่างเหินกัน มือเรียวสวยจึงแตะที่แก้มของหยางหยางทั้งแก้มทั้งมือของทั้งคู่ก็เย็นเยียบพอกับเพราะฤทิธิ์ฝน
หยางหยางหันมาหาเจ้าของมือ
"เพราะนายไม่ยอมตอบเองนะ"
ไม่นานก็มีจูบทาบทามลงมาที่ริมฝีปากของเขา
หยางหยางตกใจแต่ไม่ได้ผลักออกไป เขาโดนขโมยจูบคืนและก็เหมือนกันอี้เฟิงไมได้ทำอะไรไปมากกว่าแตะริมฝีปากที่อ่อนนุ่มที่ริมฝีปากของเขา
และถอนออกไปหลังจากนั้นไม่นาน
“คือ...ถือว่าขอบคุณที่ช่วยเรื่องเจ้าแมวน้อย”
ไม่ทิ้งให้อี้เฟิงพูดมากไปกว่านี้
หยางหยางโถมน้ำหนักไปหาอีกฝ่าย จนทั้งคู่ล้มตัวลงนอน โชคดีที่โซฟาที่บ้านของหยางหยางใหญ่พอจะรับคนสองคนไว้ได้
อี้เฟิงที่นอนลงแผ่นหลังแนบกับโซฟาตกใจที่หยางหยางทำแบบนี้
“หยางหยาง..นาย”
“อย่าลืมนะอี้เฟิง ที่นี่บ้านผม”
“อย่าคิดทำอะไรบ้า ๆ เชียว”
“คิดไปแล้ว”
อี้เฟิงกำมือเคาะที่หน้าผากหยางหยางทีหนึ่งให้อีกคนได้สติและรู้สึกเจ็บ
คนถูกเคาะหน้าผากนิ่งหน้าเจ็บจริง ๆเพราะแรงที่ใส่มาก็ไมได้น้อยเลย
ร่างใต้หยางหยางผลักอกขขึ้นไป ที่จริงแล้วหยางหยางแค่หยอกแม่แมวของเจ้าแมวตัวน้อยเล่นเท่านั้นแต่ถ้าได้อย่างที่คิดจริงก็ไม่ปฏิเสธแน่นอนแต่เขาดูไม่ได้ยอมหยางหยางง่ายขนาดนั้นน่ะสิ
“รอให้ฝนซาก่อนแล้วจะไปส่ง คุณประธานนักเรียน”
“เรียกอี้เฟิงได้มั้ย
มีชื่อนะ”
คนรูปหล่อยกยิ้ม ปล่อยออร่าความที่สาว ๆชื่นชอบออกมา
หันไปหาอี้เฟิงแล้วเข้าใกล้หลังจากที่ถูกผลักออกไป กระซิบข้างหู
“อี้เฟิง ...คุณถามผมว่าผมจูบคุณทำไม
คำตอบมีแค่ข้อเดียว ผมแค่อยากจูบคุณ “
“หา ?”
ละจากการกระซิบข้างหูไป อี้เฟิงก็ร้องอุทาตกใจ จะมาอยากจูบอะไรกันเล่า
มือเรียวตกตีอกอีกคนแก้เขิน แล้วย้ำคำถามอีก ไม่เห็นจะเข้าใจเลยซักนิด
“ขี้โมยนี่”
“ก็ขโมยไปแล้ว แล้วคุณขโมยผมคืน ถึงจะบอกว่าเป็นการตอบแทนเรื่องเจ้าแมวน้อยก็เถอะ”
“ก็มัน...”
อีเฟิงแก้ตัวไปไม่ถูก เรื่องแบบนี้อี้เฟิงไม่ประสีประสาจริง
ๆหยางหยางยกมือยีหัว จนผมอี้เฟิงฟูและดูยุ่งเหยิง ก่อนจะลุกไปจากโซฟา
ก่อนไปก็ส่งยิ้มเท่ ๆ ให้อีเฟิงเบ้ปากหมั่นไส้เสียซักครั้ง
“แม่แมวหิวหรือเปล่า ? จะไปหาอะไรให้กิน”
“เรียกชื่อสิ อี้เฟิง หลี่อี้เฟิง อย่าเรียกแบบนั้นได้มั้ย”
“น่ารักดีออก ลูกแมวนั่นติดคุณมากอย่างกับแม่ ผมเรียกแบบนี้แล้วกัน”
“งั้นนายมาเป็นพ่อแมวมั้ยล่ะ”
อี้เฟิงตอบกลับไป แต่อันนี้เผลอจริง
ๆพอรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปก็เอามือปิดปากตะครุบแทบไม่ทัน
แก้มเนียนใสก็เริ่มแดงขึ้นแล้ว หยางหยางหัวเราะร่วมออกมาในขณะที่เดินไปในครัว
เพื่อหาอะไรให้แม่แมวที่รักของเขากิน
“ได้สิ เจ้าแมวน้อยจะได้ไม่เหงา ไว้ไปตั้งชื่อกันนะ”
“เออ!”
แน่นอนตำแหน่งพ่อแมวน่ะ เขาอยากได้อยู่แล้ว จะให้ใครเป็นไมได้ด้วย
ว่าไปก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่นดีนะ เจ้าแมวน้อยมีทั้งพ่อแมวอยู่ครบเลย
จะได้ไม่เหงาอีก
“แม่แมว อยากได้ลูกเพิ่มมั้ย ?”
“ไอบ้า!”
ระหว่างทางเดินไปห้องครัว หยางหยางหันมาหาอี้เฟิงเรื่อย ๆ
อีกฝ่ายก็ยังคงมองอยู่ ทีนี้เหมือนจะเข้าใจกันแล้วว่า ต่างฝ่ายต่างคิดอะไรอยู่ในใจ
รู้ความจริงกันแล้ว อาจจะเป็นเพราะจูบของกันและกันและสายตาที่บอกความรู้สึก
ท่าทางคุณประธานจะไม่ค่อยชอบยิ้ม ยิ้มทีนึงแอคแทคกระจายเลยทีเดียว
ตอบลบไม่รู้จะพูดอะไรดี บรรยากาศดีเหลือเกิน
คุณเวย์บอกชอบเรื่องนี้มาก ที่จริงเราก็ชอบมากเช่นเดียวกันค่ะ
ตอบลบบอกล่ะว่าแพ้ฝน อยากให้ฝนตกทุกวันค่ะ คิดว่าคุณเวย์คงแต่งได้อีกวันละเรื่องงี้ /โดนเตะ
เรื่องนี้มันน่ารักตรงที่คุณหยางเขาตกหลุมรักไม่รู้ตัวแล้วก็เนียนไปหาคุณประธานเฟิงค่ะ
กรี๊สสสส ทำไมตอนเรียนมัธยมไม่เห็นมีโมเมนต์งี้เลย 555555555555
แอบสะอึกตอนหยางบอกว่าขอโทษทุกอย่างเลย เราแบบเอ้าๆๆๆทำไมพี่ป๊อดกะทันกัน
ไม่นะคะ อย่ามาป๊อดอะไรตอนนี้แล้วกลายเป็นหลบเขาเอง เอ้าหยาง ไมทำงี้ 555
แล้วก็มากรี๊สประสาทแดกตอนเขาแทนตัวว่า อี้เฟิง /เก็บศพด้วยข่ะ
เป็นฟิคที่แบบบรรยากาศโคตรดีเลยค่ะ ชอบมาก TvT ขอบคุณมากๆนะคะ
เขิลลลลล
ตอบลบ