วันอาทิตย์ที่ 20 กันยายน พ.ศ. 2558

[SFic] accidentally - หยางเฟิง




[SFic]   accidentally
Pairing :: หยางหยาง x หลี่อี้เฟิง
Rating :: PG- 13




**********************************************************************************************




“หยุดนะ!




เสียงใสหวานร้องดังขึ้นมา เช้านี้มีอะไรที่ประธานนักเรียนสุดเนี๊ยบจอมเฮียบต้องจัดการอีกแล้ว



สาว ๆ ที่มัวแต่มากริ๊ดคนหล่อแบดบอยประจำโรงเรียนอยุ่ริมข้างทางเดินเปลี่ยนห้องในโรงเรียน กิดอาการเขม่นกันนิดหน่อย แต่ดันมาหลายคู่จนคุณประธานนักเรียนจอมเนี๊ยบที่ได้ชื่อว่าโหดที่สุดและไม่มีใครก็กล้าหือด้วย อย่างหลี่อี้ฟิงออกโรงเดินออกมาจากห้องสภาพนักเรียนมาห้ามเองแบบนี้


“กลับไปเรียนได้แล้ว ก่อนที่จะฉันจะเช็คความประพฤติของพวกเธอแล้วตัดคะแนน”


นักเรียนสาวทุกคนก้กลับไปยังห้องตามที่ประธานนักเรียนเสียงใสแต่ดุประกาศ ใครจะกล้าหือกันนอกจากจะดุ โหดขนาดนี้แล้ว เรื่องวิชาการป้องกันตัวก็ไม่แพ้ใคร แต่จะแพ้ก็คนรูปหล่อแบดบอยประจำโรงเรียนที่ทำให้สาว ๆ มีเรื่องเขม่นกับตาขยิบ และยืนมองคุณประธานนักเรียนอยู่ก่อนแล้ว เขาไมได้สะทกสะท้านอะไรนักกับประธานนักเรีนยคนนี้ เสียงดุโหด ๆ นั้นก็เหมือนเสียงแมวร้อง เขากลัวเสียทีไหน



คุณประธานคนนี้เรียนเก่ง แต่แบดบอยฮอตประจำโรงเรียนก็เอาชนะในเรื่องกีฬา คุณประธานคนเก่งคนนั้นก็ไม่ได้เก่งทุกเรื่อง


“หยางหยาง แล้วนายน่ะเมื่อจะกลับเข้าไปเรียน”
“ก็รอไปพร้อมคุณประธานนักเรียนไง”




ท่าทางกวนประสาทขั้นสุดของหยางหยางทำให้อี้เฟิงจะต้องเบนหน้าหนีและไม่อยากคุยด้วยนานนัก เขาแค่มาปรามพวกนักเรียนสาวและก็จะไปเรียนบ้าง ไม่อยากเจอหน้าและต่อปากให้มากความ อี้เฟิงเดินกลับหลังออกมาจากที่นั่น




“คุณประธานนักเรียน”
“ถ้าจะกรุณาให้เรียกชื่อก็ดี”
“คุณอี้เฟิง วันนี้ที่ชมรมเทควันโด้ก็มีเทสย่อยนะ หวังว่าคุณจะไม่แพ้ผมอีก”




อี้เฟิงเม้มปากแล้วเดินต่อไปไม่หันกลับมาต่อปากเป็นครั้งที่สอง เขาเกลียดการข่มกันแบบนี้ที่สุด เขาพยายามชนะนายหยางหยางคนนี้ ดีที่เรื่องเรียนเขาพยายามจนชนะ มาเป็นที่หนึ่งได้ แม้เลือดตากระเด็น แต่ก็กลับมาแพ้เขาเรื่องกีฬา เรื่องความป๊อบปูล่า ก็ยิ่งสู้ไม่ได้ เพราะสาวโรงเรียนนี้ก็ดันชอบพวกแบดบอยมากกว่าหนุ่มเนี๊ยบเท่มากกว่าเสียนี่




และอี้เฟิงก็เบื่อการเจอหน้าหมอนี่เป็นประจำทุกวัน เพราะหมอนี่อยู่ถัดไปไม่กี่หลัง แม้จะเป็นบ้านที่เช่าเอาไว้เพราะครอบครัวย้ายมาจากที่อื่น แต่ทำไมจะต้องมาอยู่ใกล้บ้านอี้เฟิง เขาจะต้องเจอหมอนี่พูดจากวนประสาททุกวัน





accidentally 








“โธ่เอ๊ย”




วันนี้อี้เฟิงหนีกลับบ้านให้เร็วที่สุด เทสย่อยในวันสอบวันนี้ที่ชมรม คะแนนของอี้เฟิงแพ้หยางหยางไปอย่างฉิวเฉียด ไม่กี่แต้ม แต่อี้เฟิงก็จะไม่อยู่ให้อีกฝ่ายมาซ้ำเติมความพ่ายแพ้ เขาจึงตรงกลับบ้านทันที รีบเดินมาทางลัดอีกทางที่สามารถกลับบ้านได้เหมือนกัน แต่คนนนั้นก็รู้อยู่ดีนั่นล่ะว่ามันมีทางนี้อยู่แต่ก็เสี่ยวดวงเอาว่า หมอนั่นจะไม่กลับมาทางนี้ด้วย




“ฉันจะต้องซ้อมให้มากกว่านี้”




นี่คือสิ่งที่อี้เฟิงคิด เดินกลับบ้านเขาก็ทวนวิธีเรียน การฝึกซ้อมตามที่ได้เรียนมา หลักฐานทุกอย่าง มีบางครั้งที่ออกท่าทางในขณะเดินไปด้วย




เมี๊ยว




แต่อี้เฟิงก็ต้องหยุดเดิน เพราได้ยินเสียงหนึ่งที่ทะลุโสตประสาทการได้ยิน เสียงแมวน้อยจากที่ไหนซักแห่ง และพบว่ามันอยู่ตรงปลายเท้าของอี้เฟิง




“แกหลงมาจากไหน ?”


ลูกแมวน้อยตัวเล็กที่ดูหิวโซ จากการเดินที่เซไปเซมา อี้เฟิงโอบอุ้มลุกแมวน้อยมาไว้กับอก เขาชอบแมว จึงไม่นึกรังเกียจแม้ว่ามันจะคลุกโคลนมาตัวดำขนเปื้อนเสียแล้ว อี้เฟิงมองเห็นว่ามันมีปลอกคอด้วย อี้เฟิงไม่อยากให้มันโดนใครทำร้ายหรือเป็นอันตราย ฉะนัน้ตอนนี้ต้องเอากลับไปไว้ที่บ้านก่อนที่จะมีอันตราย จากท้องถนน















อี้เฟิงเอาแมวน้อยมาที่โรงเรียนด้วย เพราะที่บ้านมีแค่เขาคนเดียวที่เอาเจ้าแมวน้อยจอมซนนี่อยู่ แถมยังติดเขามาเป้นเขาเป็นแม่แมวของเจ้านี่เสียอย่างนั้น เขาจึงต้องเอาใส่ตะกร้าที่มีอยู่ที่บ้านมาไว้ที่โรงเรียนไม่ให้เหงา แต่ที่โรงเรียนมีข้อห้ามว่าไม่ให้เอาสัตว์เลี้ยงมา อี้เฟิงแอบฝ่าฝืนเสียเองเล็กน้อย แต่เขาก็นำมันไปฝากไว้ที่โรงเพาะชำหลังโรงเรียน เพราะมีคนที่ดูแลเป็นคนที่อี้เฟิงสนิทอยู่ในโรงเรือนนั้น แถมโรงเรือนนั้นก็มีทั้งการปลุกผัก และเลี้ยงสัตว์ไว้ให้ในชั่วโมงเกษตร เอาแมวไปฝากไว้ก็ถือว่าได้หนักหนา แอบอิงกับวิชาเกษตรก็ไม่น่าจะเป็นอะไร






“อยู่ที่นี่กับคุณลุงไปก่อนนะ “





โชคดีหน่อยที่โรงเพาะชำนี้อยู่นอกกำแพงโรงเรียน อย่างน้อยเขาก็ไม่ต้องถูกเหมาว่าทำผิดกฎโรงเรียน แม้จะแอบหิ้วลูกแมวน้อยเข้าโรงเรียนมาแป๊บหนึ่งก็เถอะ






“เอ๊ะ อะไรนะครับ”





อี้เฟิงกลับมาช่วงบ่าย คลาสวันนี้อาจารย์ทำการสรุปเนื้อหาและปล่อยให้มีชั่วโมงการเรียนรู้ อี้เฟิงจึงแอบเดินมายังเรือนเพาะชำแต่ระหว่างทางเดิน ก็พบกับคุณลุงใจดีที่ได้ฝากแมวน้อยไว้ คุณลุงกล่าวเสียงตื่นและรู้สึกผิดที่ปล่อยให้มันหายไป




“หายไปทั้งกล่องเลยหนูอี้เฟิง ลุงแค่ไปหยิบถุงปุ๋ย กะจะเอาไปโปรยดินให้ผักเสียหน่อย แต่แว้บมาอีกทีก็หายไปทั้งตระก้าแล้ว”





ใครกันที่ทำแบบนี้





 อี้เฟิงมองหาตะกร้าที่เขาใส่แมวน้อยมาเมื่อเช้า มันอาจจะหิว อาจจะเหนื่อย หรือร้องหาอยู่ตรงไหนซักแห่ง อี้เฟิงเดินไปดูทั่วโรงเพาะฃำ ออกไปยังภายนอก จนไปในโรงเรียนแม้คิดว่าไม่น่าจะมี แต่ก็ไปดูเสียหน่อย




จนไม่มีที่ใดที่อี้เฟิงคิดว่าจะหาเจอ เขาฝากให้คุณลุงช่วยหา เพราะมีงานโรงเรียนที่สะสางให้เสร็จในบ่ายนี้ที่ห้องสภานักเรียน




“นาย...”




เมื่ออี้เฟิงเปิดประตูห้องสภานักเรียนออกมาก็เจอกับหยางหยางและตะกร้าที่เขาคุ้นตา เป้นมแวน้อยที่เขาที่เขาออกตามหา ทำไมมาอยู่ที่คนคนนี้





“ทำไม..นาย....”
“คุณประธานนักเรียนทำผิดกฎนี่ครับ”
“ฉันเอาฝากที่หลังโรงเรียน”
“แต่ก็หอบเข้าโรงเรียน ?”



หยางหยางต่อปากต่อคำกับคุณประธานนักเรียน อี้เฟิงเดินสามขุมเข้าไป เอื้อมหมายจะคว้าตะกร้านั่นให้ได้ในนั้นมีแมวน้อยที่หวาดกลัวอยุ่ ไม่รู้หยางหยางได้ให้อาหารมันมั้ย หรือไปทำอะไรมันหรือเปล่า เขาโมโหที่คนนนี้จะเอาเรื่องนี้มาสู้กับเขา แถมยังให้สัตว์ตัวเล็ก ๆ เดือดร้อนอีก 



“เอาคืนมา”
“มาตกลงกันมั้ยคุณประธาน”
“ไม่ตกลงกับคนนิสัยไม่ดีแบบนาย เอาคืนมา”



เขาไม่เถียงกับหยางหยางให้มากความ เขาไม่อยากญาติดีด้วยเสีนยด้วยซ้ำ เป็นคู่แข่งกับเขาทุกอย่างตั้งแต่เรื่องเรียน กีฬา กิจกรรม แถมยังมีหน้ามาเป็นหนึ่งในสภานักเรียน แม้อี้เฟิงจะเป็นประธานเพราะเสียงโหวตแต่บางทีหัวหน้าฝ่ายกิจกรรมอย่างหยางหยางก็มีสิทธิ์เสียงพอ ๆ กับเขา เรื่องอื่น ๆ ด้วย แถมการต่อปากต่อคำยังเป็นที่หนึ่ง ไม่เคยพูดดีกันด้วยกันซักครั้ง เหมือนตั้งจะเป็นศัตรูกันมาตั้งแต่ชาติไหน




คนแบบนี้ทำไมอี้เฟิงต้องทำดี พูดดีด้วย
คนนิสัยไม่ดี
ไม่เอาด้วยหรอก




“หลี่อี้เฟิง คุณไม่มีทางเลือกนะ”
“ฉันเลือกได้ และฉันจะให้นายออกไปจากห้องนี้ หยางหยาง นายก็อย่าลืมนะว่าฉันก็มีพาวเวอร์ในโรงเรียนนี้”
“นั่นผมก็ไม่ได้กลัว แต่คุณนี่น้า...เป้นประธานแต่ทำผิดเสียเอง เอาแมวน้อยมาด้วยทำไมกัน ผมบอกคุณแล้วว่าผมจะทำให้คุณแพ้ มีช่องไหนผมก็ดักให้คุณล้ม จำไมได้หรือที่เราเคยพูดกันก่อนจะแข่งเควันโด้ระดับภาคแล้วยังไงน้า สุดท้ายคุณแพ้ผม”




คุณประธนานักเรียนตีหน้าดุยิ่งกว่าเดิม พยายามจะคว้าตะกร้าที่มีแมวน้อยที่หวาดหกลัวอยู่ หยางหยางหอบมันหลบเลี่ยงอี้เฟิงไปซ้ายทีขวาที จนเขาเหนื่อยจะตามไล่ อี้เฟิงใช้ทีเผลอที่หยางย่ามใจหยุด คว้าชิงตะกร้า มือเรียวสวยคว้าเอาฝาด้านบนได้แต่มันเกิดมีอุบัติเหตุ หยางหยางนั้นกระชากตะกร้าคืนกลับมาทางเขา ฝาตะกร้าเปิด




“แมวน้อย!



อี้เฟิงปล่อยหยางหยางทิ้งให้เสียหลักไปแต่เขาตั้งหลักได้ อี้เฟิงถลาไปรับแมวน้อยที่จะร่วงลงพื้น และเขาก็รับคว้าไว้ทัน แมวน้อยไม่เจ็บไม่กระแทกอะไร คุณประธานนักเรียนลืมตัว เผลอถอนหานใจและโล่งใจ ที่แมวน้อยไม่เป็นไร





...หยางหยางไม่พูดอะไรเพียงมองดูเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น





"โล่งไปที แกไม่เป็นไรเเล้วนะ"






เขาไม่เคยเห็นยิ้มของคุณประธานนักเรียนเลยเมื่ออยู่ต่อหน้ากัน






“นายจะมองฉันอีกนานมั้ย และออกไปจากห้องซะ ฉันได้แมวน้อยคืนมาแล้ว และฉันจะไม่พูดเรื่องนี้ไม่คิดถึง ไม่เอาเรื่องนี้มาเป็นปัญหากับนาย....”





หยางหยางที่ยังตกตะลึงกับรอยยิ้มของหลี่อี้เฟิง ที่เขานึกตั้งตัวเป็นคู่แช่งคู่แค้นกันมาตลอด เหมือนหัวใจหวั่นไหวกระตุกวูบราวกับมีใครมาดึงกระชากไป




“หลังจากนี้เราก็อย่ามาข้องเกี่ยวกกันอีก “





คุณประธานนักเรียนลุกขึ้นยืน เนื้อตัวมอมแมมเล็กน้อย เพราะเพิ่งลงไปคลุกฝุ่นที่พื้น ในอ้อมกอดมีแมวน้อยที่ตัวสั่นแต่คาดว่าคงหวาดกลัวน้อยลงเพราะได้รับการปลอบโยนจากอ้อมกอดที่อบอุ่นของคุณประธานแล้ว





หยางหยางมองแมวน้อยในอ้อมกอดนั้น เกิดนึกอิจฉา เขาก็ยังแปลกใจ จึงตบความคิดนั้นออกจากหัวไปเสีย




“ออกไป ฉันขอสั่งในฐานะประธานนักเรียน ออกไปแล้วถ้าหากเรากลับเข้ามาใหม่ก็ขอให้เกี่ยวข้องกันแค่เรื่องานก็พอ”






หยางหยางไปตามคำสั่งของอี้เฟิง รู้สึกเหมือนตัวเองลอย ๆ หนึ่งคือเขายังโดนจับหัวใจด้วยรอยยิ้มของหลี่อี้เฟิงคนนั้น สองคือคำพุดเจ็บปวดที่เขาบอกว่าจะไม่ให้เจอกัน ไม่พูด ไม่เกี่ยวข้องกันไปมากกว่าเรื่องงาน สามคือหัวใจของหยางหยางที่ถูกรอยยิ้มนั่นจับไว้ ปวดหน่วง วูบไหว ผิดจังหวะ




รอยยิ้มของหลี่อี้เฟิงนั้นเป็นอย่างไร




หัวใจที่แห้งแล้งเปรียบเหมือนไม้ขาดน้ำ ชุ่มฉ่ำขึ้นมาเพราะรอยยิ้มงดงามน่ารักเหมือนฝนในฤดูกาลใหม่





เขาอาจจะเปลี่ยนตั้งแต่ตอนนั้น








accidentally 







หลังจากวันนั้น หยางหยางมองหลี่อี้เฟิง คุณประธานนักเรียนจอมเฮี๊ยบเปลี่ยนไปจากที่เคยเป็น เขามีความรู้สึกบางอย่างแทรกมาตรงที่เก่าที่เขาเคยวางอารมณ์ระหว่างเขากับหลี่อี้เฟิงไว้




หยางหยางยังรู้สึกตัวเองได้เลยว่าแววตาเขาเปลี่ยนไป มีความรู้สึกอื่นแล้ว






แต่ก็หลังจากนั้นอีกเหมือนกันที่หลี่อี้เฟิง ออกห่างจากเขามากขึ้น ไม่ยอมมาต่อปากด้วยกันแบบเมื่อก่อนที่เคยทำ เขาน่าจะโกรธมากจริง ๆ  นอกจากงานที่จะต้องติดต่อกันในงานสภานักเรียน  อื่น ๆ นั้นอี้เฟิงแทบไม่คุยไม่เอ่ย ไม่มองหน้าด้วยซ้ำ ในชมรมที่แม้จะเจอกันก็เลี่ยงที่คุย หยางหยางเคย หาโอกาสคุย แต่ก็ไม่สำเร็จเขาต้องเลี่ยงหยางหยางทุกครั้งไป จำได้ว่าเคยได้ยินใครซักคนบอกว่าหลี่อี้เฟิงคนนี้ชอบแมวเอามาก ๆ และนั่นอาจจะเป็นหนึ่งในเหตุ แลต่เหตุหลัก ๆ ก็คืออี้เฟิงไม่เคยชอบหน้าเขาอยู่แล้ว





คิดไปก็ปวดหน่วงในหัวใจ ไม่รู้เขาเองจะทำอย่างไรเหมือนกัน วันนี้เลยทำได้แค่บอกอาจารย์ไม่สบายและโดดเรียนไปนั่ง ๆ นอน ๆ ที่ดาดฟ้า




ไตร่ตรองซักหน่อยว่าเขาทำอย่างไรกับสถานการณ์อันเงียบงันนี้ว่า เขาควรจะปล่อยให้มันเป็นไป หรือทำอะไรซักอย่างหรือไม่กับเหตุการณ์นี้



เพราะปวดหัวใจเหลือเกิน จึงต้องคิดให้หนัก














สุดท้ายหยางหยางก็คิดออกกับสถานการณ์ชวนปวดหัวปวดใจของตัวเอง แม้จะยังไม่มากนัก แต่ความรู้สึกของหยางหยางต่อหลี่อี้เฟิงเปลี่ยนไป แต่เขาก็อยากจะทดสอบดูอีกหน่อยว่า มันมากน้อยแค่ไหน



เขาจึงตรงไปยังเรือนเพาะชำ เพราะหากว่าเอาแมวน้อยเข้ารั้วโรงเรียนไม่ได้ ผู้ที่เคร่งกฎระเบียบบอย่างคุณประธานนักเรยนก็ต้องเอาเจ้าแมวน้อยไปที่นั่น แม้จะมีแค่แว้บเดียวที่คุณประธานเคยเอาแมวน้อยลอบเข้ามาเพราะเขาต้องมาเก็บกระเป๋าในตอนเช้า แต่นั่นมันครั้งก่อน  เช้าตรู่วันนั้น เขาเห็นคุณประธานมาลับ ๆล่อๆแต่เช้าตรู่เพราะเขาเพิ่งกลับจากวิ่งออกกำลังผ่านทางโรงเรียนก็เห็นคนเก่งคนนั้นวิ่งแอบ ๆ ถือตะกร้าใบสวยเข้าโรงเรียนไปเก็บของก่อน ไปเรือนเพาะชำ วันนั้นเขาก็เลยคิดแผนจะแกล้งอีกคนได้ แต่ไม่คิดว่าจะทำความสัมพันธ์มันแย่ลงกว่าที่เป็น





เมี๊ยว~





พบเพียงลูกแมวน้อยผู้โชคร้ายตัวนั้น วันนั้นที่เขาคว้าเอาตะกร้ามา ไม่ได้ตั้งใจจะให้มันเป็นอันตราย เขาก็ไม่ได้ใจร้ายขนาดนั้น แต่ไม่ปฏิเสธว่าแกล้งมันนิดหน่อย แต่เขาก็ให้อาหารให้น้ำมันครบมื้อ แม้จะแอบลักพาตัวมาจากโรงเพาะชำก็เถอะ






“แม่แมวไปไหนซะล่ะ แม่แกไปไหน เจ้าตัวน้อย” 
หยางหยางยกยิ้มถามลูกแมวน้อยที่กลิ้งกะเท่เร่เล่นกับของเล่นแมวอยู่ในห้อง คนรูปหล่อเฝ้ามองมันแล้วคิดถึงอีกคนว่าก็น่ารักไม่น้อย เวลาคุณประธานโมโหแยกเขี้ยวทีไร ก็น่ามองไม่น้อย







เอ๊ะ?





“ว่าแล้ว...บ้าจริง”






หยางหยางก็เพิ่งได้สัมผัสกับอะไรที่มากกว่านั้น เขาคิดว่าเขาคงตกหลุมรักคุณประธานนักเรียนอี้เฟิงก่อนหน้าที่จะพบรอยยิ้มน่ารักนั่นแล้วล่ะมั้ง






เขาชอบมองเวลาอี้เฟิงแยกเขี้ยว คอยดุคนนั้นนี้  ตีหน้าโหดใส่คนอื่น เชาชอบไปแหย่คนคนนี้เล่นพอเบื่อ ๆ แต่ที่แข่งกับเขาก็เพราะอีกฝ่ายตั้งตัวเป็นคู่แข่งกับเขา จะไม่แข่งด้วย เดี๋ยวอีกคนที่จะเสียแรงตั้งใจและมันสนุกดี






สรุปว่า เขามีหลี่อี้เฟิงในสายตามาตั้งแต่แรกอยู่แล้ว ก็ถามไล่เรียงความไป เขาก้ไม่เคยมองใครคนไหนเลย ตั้งแต่พบหลี่อี้เฟิง






“เอ้า หายไปไหนแล้ว”



หยางหยางคิดเรื่องแม่แมวของเจ้าตัวน้อยเพลนิ ถึงแม้มือจะคอยกลิ้งของเล่นแมวให้ แต่เจ้าตัวน้อยเลิกสนใจเขาไปตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้วิ่งหนีหายไปอีกแล้ว



“เจ้าแมวน้อย แกไปไหนน่ะ”




ร่างกายแข็งแกร่ง สาวเท้าเดินดูรอบห้องแต่ก็ไม่พบ เขาจึงคิดว่า เพราะเขาไมได้ปิดประตูเรือนเพาะชำให้สนิทเจ้าแมวจอมซนจึงหนีหายไป ข้างนอกฝนตกหนักเสียด้วย เจ้านั่นจะต้องเปียกฝนอีกแน่



“เจ้าแมวน้อย”



หยางหยางรีบถลาไปคว้าแมวน้อยให้พ้นทาง  มีรถมอเตอร์ไซด์คันหนึ่งขับผ่านมา เรือนเพาะชำเป็นสถานที่ติดถนนหลังโรงเรียน พอเปิดประตูออกไปไม่กี่ก้าวลงจากฟุตบาทก็เป็นถนนแล้ว และยิ่งในช่วงฝนตกเช่นนี้รถราก็ขับกันเร็วเหมือนรีบกันทุกคน




“เจ้านี่ซนจริง ๆ เลย”




ร่างแข็งแรงที่ไปคว้าแมวน้อยมาไว้ในอ้อมอกเขาอุ้มมันไว้ เจ้าตัวน้อยเปียกและหนาวสั่น คล้ายยังกลัวอยู่ หยางหยากก้มมองแมวน้อยที่สั่นหนาวอยุ่แนบอก เนื้อตัวมอมแมมไปหมด แต่เขาก็ไม่ได้สังเกตตัวเองเหมือนกันว่า ตอนที่ถลาไปรับเจ้าแมวมา ตรงแขนและข้อศอกตัวเองมีแผลและบาดเจ็บด้วย


“แกไม่เป็นไรแล้ว “



คนรูปหล่อทรุดนั่งชันเข่าอยู่กับพื้นถนนตรงนั้น เหมือนเขาก็เริ่มรู้สึกเจ็บตรงเข่าไปกระแทกที่พื้นถนนตอนรีบเข้าไปช่วยเจ้านี่อีกตำแหน่ง เลยลงนั่งครู่หนึ่งเพื่อพัก แต่นี้ทั้งเขาทั้งแมวน้อยก็เปียกปอนพอกัน  แต่เจ้าแมวในอกตัวเล็กและน่าจะป่วยง่าย หยางหยางจึงปลดกระดุมท้าย ๆ ของเสื้อนักเรียนเลิกมันและบังฝนไว้ไม่ให้มันโดนน้ำหยดเย็น ๆ จากฟ้าไปมากกว่านี้









แต่ซักครู่  หยางหยางรู้สึกเหมือนมีใครมาบังฝนไว้ให้อีกต่อหนึ่งเช่นกัน







แม่แมวของเจ้าแมวน้อย มือหนึ่งถือร่มบังเขาไว้ตรงท่อนแขนเล็กเรียวห้อยด้วยถุงเล็ก ๆ ที่บรรจุนมสดอยู่สองสามกล่อง







อี้เฟิงมองเขาด้วยความประหลาดใจว่ามาอยู่ตรงนี้ได้อย่างไร ทั้งคนทั้งแมว พอเดินกลับมาจากซื้อนมสดเพราะในห้องเพาะชำเสบียงหมดเสียแล้ว แต่ก่อนจะเข้าเรือนเพาะชำก็เจอสองชีวิตนั่งตากฝน เนื้อตัวมอมแมมทั้งคู่ แถมฝั่งคนยังมีบาดแผลด้วย





หยางหยางเหลือบมองเขาอยู่ครู่หนึ่งและก้มกลับลงไปอีกครั้ง เพื่อมองอาการแมวน้อยในการดูแลชั่วคราวของเขา อี้เฟิงก็ยังคงยืนมองเขาด้วยสายตาและท่าทางเดิม คนรูปหล่อยืนขึ้นช้า ๆ และคอยประคองแมวในมือ อี้เฟิงที่ก้มมองเหตุการณืตรงหน้านิ่วคิ้มขมวด






และจนเมื่อคนที่โอบแมวน้อยลุกขึ้นยืนถึงในระดับที่พอจะทำอะไรได้







หยางหยางเอียงคอให้ได้ระดับ และมุมที่พอดี  เขาประจงจูบอี้เฟิงอย่างแผ่วเบา เป็นจูบบาง ๆ ที่ไม่ได้รุกล้ำพื้นที่อะไรของอี้เฟิงเลย นอกจากริมฝีปากที่นุ่มนิ่มและชุ่มชื้นเพราะอากาศ และยังสั่นไหว เพราะอากาศตรงนี้เริ่มหนาว ตอนจูบคนขี้ขโมยจูบคนนี้หลับตาและจูบอี้เฟิง ทำให้อี้เฟิงต้องหลับไปด้วยอย่างนึกเผลอตัว  หยางหยางค้างจูบนี้ไว้นานครู่หนึ่ง จนเมื่อถอนจูบละออกไปอย่างเชื่องช้า และยืนเต็มความสูงแล้ว เมื่อลืมตาขึ้นมาก็พบอีกคนที่ยืนตะลึงที่โดนขโมยจูบไป จนเขาต้องบอกใบ้ด้วยสายตาว่าให้รับเจ้าแมวน้อยไป โชคดีที่อี้เฟิงไมได้มือไม้อ่อนขนาดนั้น ร่มยังอยู่ดีไม่เอียงกระเท่เร่ และก็ทำตามที่หยางหยางบอกใบ้ผ่านสายตา





จนเมื่อส่งแมวน้อยสู่อกแม่แมวแล้ว หยางหยางคอยสบตาอยู่ อี้เฟิงหันมาทันทีเขาจะเลิกรอ และทั้งคู่ก็ส่งความรู้สึกผ่านสายตากันอยู่เนิ่นนานใต้ร่มท่ามกลางฝนตก



“ขอโทษ..ทุกอย่างเลย”




หยางหยางพูดประโยคสั้น และหันหลังจากไป ทั้งที่ยังฝนตกแบบนั้น อีกฝ่ายที่เปียกปอนอยู่แล้วกลับเปียกมายิ่งขึ้นกว่าเดิม อี้เฟิงจะรั้งเขาไว้ก็ไม่ทัน คิดช้าและเอื้อมมือออกไปช้าเกินไป







เขาหันหลังและเดินไปแล้ว ทิ้งความสับสนในใจ และส่งแมวน้อยให้คืนกับเขา เหมือนแมวน้อยจะซนจนอีกฝ่ายต้องวิ่งมาช่วย






ทำไมต้องจูบ....หยางหยางคนนั้นจูบเขาทำไม และอีกอย่างคืออี้เฟิงไม่ขัดขืนอะไร ก็เพราะสายตาที่มองกัน เขาส่งความรู้สึกมากมายมา จึงใจอ่อนปล่อยให้เขาทำ






ต้องถามให้รู้เรื่อง

















หลังจากที่อี้เฟิงส่งให้เจ้าแมวน้อยกลับเข้าที่ ป้อนข้าวป้อนน้ำ ทำให้ตัวแห้ง หลังจากพากลับบ้านแล้ว เขาฝากคนที่บ้านช่วยดูแลมันซักครู่ อี้เฟิงจึงเดินไป ตามหาหยางหยาง อยากรู้จึงต้องถามเดี๋ยวนี้ และเป็นห่วงอีกฝ่ายที่ทั้งเปียกฝนและมีแผลบาดเจ็บ  อี้เฟิงรู้เพียงแค่ว่าซอยถัดไปแต่ไม่รู้ว่าอยู่จุดไหนกันแน่ เขาเดินช้า ๆ คอยดูทุกบ้าน  โชคดีที่ซอยนี้ไม่ได้ยาวเกินไป จึงคอยชะเง้อมองทุกบ้านที่ผ่าน



“บ้านไหนล่ะเนี่ย”




ฝนที่ยังตกไม่หยุดแต่ซาความแรงลงบ้างแล้ว อี้เฟิงยังเดินตามทางไปเรื่อยเพื่อตามหาบ้านอีกคน 





“หยางหยาง!”  เจ้าของชื่อที่เหมือนเพิ่งจะกลับจากที่ไหนซักแห่ง ในมือมีถุงสีขาวทึบ เขียนทับด้วยชื่อร้านยาที่อยู่ในละแวกนี้ อี้เฟิงรีบเดินรุดเข้าไปหา อีกฝ่ายที่ตกใจเพราะเพิ่งจากกันไม่นาน แต่มาเจออี้เฟิงเดินป้วนเปี้ยนเป็นแมวหลงแถวหน้าบ้าน




มาหาเขางั้นหรือ ?





หยางหยางมองใบหน้าอีกคนอย่างสงสัยแต่เขาไม่พูดอะไร พอจะเดาใจออกว่าอีกฝ่ายจะมาถามอะไร เขารีบเดินอ้อมผ่านอี้เฟิงไปแต่ครั้งนี้อี้เฟิงไม่ยอมให้ยางหยางผ่านไปได้ง่าย ๆอีกแล้ว





“หยางหยาง”


เสียงหวานเรียกหยางหยางเบาลงแต่ยังได้ยิน เขาที่ไม่มีร่ม จึงเปียกปอนไปทั้งตัว มีน้ำฝนหยดจากเสื้อผ้า เส้นผมลู่ลงเพราะเปียกน้ำ  อี้เฟิงยื่นร่มมากางอีกครั้งบังฝนให้




“มาทำไม”
“ทำไมนายเปียกไปหมดแบบนี้”
“ช่างฉันเถอะหน่า”



หยางหยางสลัดการพันธนาการของอี้เฟิงออก เขารีบจ้ำออกมาจากใค้ร่ม และตรงไปอีกไม่กี่เมตรก็ถึงบ้านของเขาและ ปิดประตูบังเข้าบ้านไป อี้เฟิงวิ่งอย่างรีบเร่งแต่ไม่ทัน ก็ไปเคาะประตูบ้านหยางหยาง เสียงดังจนเหมือนแทบพัง ทำไมหยางหยางต้องออกมาเปิดให้อย่างเสียไมได้



“คุณจะบ้าอะไร หลี่อี้เฟิง”
“จะทำแผลให้”
“ไม่ต้อง”
“ถ้านายไม่ให้ฉันเข้าบ้าน ฉันก็จะยืนอยู่ตรงนี้ล่ะ”




หยางหยางถอนหายใจสีหน้าของอีกคนไม่ยอมลงเลยและเขารู้ดีว่าอีกฝ่ายมีทิฐิมากแค่ไหน หลี่อี้เฟิงจะทำแบบนั้นจริง ๆ และสุดท้ายก็ต้องยอมให้แม่แมวเข้ามาในบ้าน ก่อนที่เมฆดำจะเทฝนหนักใหญ่ครั้งใหม่ลงมา







“นั่งลง”
“นี่มันบ้านผมนะ”




อี้เฟิงสั่งให้หยางหยางนั่งลงหลังจากผลักให้อีกฝ่าย บังคับ ให้หยางหยางไปเปลี่ยนเสื้อทำให้ตัวแห้งทันทีที่เขาได้เข้าไปในบ้านหยางหยาง สั่งโน่นนี่จนหยางหยางงงว่านี่มันบ้านใครและรวมถึงตอนนี้ด้วย




“จะนั่งมั้ย”
“จะสู้กันรึไง ไม่อยากสุ้ด้วยหรอก ไม่มีอารมณ์”
“จะทำแผลให้ นั่งลงดี ๆ ได้มั้ย”
“กลับไปได้แล้ว”




อีเฟิงถอนหายใจคนดื้อดึงที่ไม่ยอมให้เขาทำแผลดี ๆ ทำตัวเหมือนคนกลัวยากลัวหมอไปได้ คุณประธานนักเรียนจึงต้องละความดุออกจากเสียงและท่าทาง เปลี่ยนเป็นอีกแบบ




“หยางหยางนั่งลง อี้เฟิงจะทำแผลให้”



ไม่ทันสามวินาที หยางหยางนั่งลงทันทีที่สิ้นเสียงหวานแถมสรรพนามยังหวานลื่นหูจนหยางหยางใจเต้นระส่ำ แต่พอนั่งลง หยางหยางก็แทบถอยหนีไปห่าง ๆอีกครั้ง เพราะจะต้องเจอใบหน้าคุณประธานนักเรียนอยู่ในระยะใกล้เหลือเกิน




ดวงตากลมโต จมูกเชิดรั้น ริมฝีปากที่ดูนุ่มนิ่ม แก้มเนียนใสที่ติดค่อนข้างซีดนิดหน่อยในตอนนี้เพราอากาศหนาว ทั้งหมดนี้ล่ะที่ทำให้หยางหยางต้องทำ.....ขโมยจูบอี้เฟิงไปก่อนหน้านี้ เพราะความน่ารักของเจ้าตัวเองที่ทำให้หยางหยางเผลอทำอะไรแบบนั้นออกไป



“นั่งนิ่ง ๆ นะจะเริ่มทำแผลแล้ว”




อี้เฟิงจัดการหยิบเอาน้ำยาล้างแผลและสำลีแตะที่บาดแผลแต่ละแห่ง ทั้งข้อศอก แขนแกร่ง และเขารู้ว่มีที่หัวเข่าด้วยจึงสั่งให้หยางหยางเลิกขากางเกงขึ้นและทำแผลตรงนั้นให้ด้วย หลังจากนั้นคุณพยาบาลจำเป้นก็สำรวจว่ามีแผลตรงไหนอีกมั้ย




“มีตรงไหนเจ็บอีกมั้ย”
“ไม่มี พอแล้ว ขอบคุณ”




ตลอดการทำแผล หยางหยางมองไปทุกการกระทำ ทุกการเคลื่อนไหวของอี้เฟิง มือสั่นไหวเล็กน้อยพร้อมอาการประหม่า คุณประธานนักเรียนก็ไมได้เป็นคุณพยาบาลที่ดีนักแต่ก็ทำได้ไม่เลว เขารู้ว่าตัวเองลอบยิ้มเมื่ออีกฝ่ายอยู่ใบหน้าลงเพราะไม่มั่นใจว่าหยางหยางจะเจ็บมากหรือน้อยตอนถูกยาแตะทีแผล เมื่อแล้วเสร็จอี้เฟิงจัดการเก็บอุปกรณ์ทำแผลนั้น หันมาตีหน้าดุใส่




“ขอบคุณที่ช่วยเจ้าแมวน้อยนะ แต่ทีหลังก็อย่าทำอันตรายแบบนั้นอีก”
“รู้แล้วหน่า นี่มันบ้านผมนะนอกโรงเรียนด้วย เลิกทำตัวเป็นประธานนักเรียนซักที”
“ก็ฉันเป็นห่วงนี่ แล้วก็กินยาพักผ่อนซักด้วย นายตากฝนนานเกินไป จะไม่สบายเอา”



หยางหยางประหลาดใจตั้งแต่คำแรกที่อี้เฟิงเอ่ยมาตั้งแต่ต้นประโยค เป็นห่วงเขางั้นหรือ ? คุณประธานนักเรียนไมได้แสร้างเหมือนลืมตัวพูดด้วย



“เป็นห่วงจริง ๆ .... ไม่ได้เผลอพูดไปหรอกนะ”




อี้เฟิงเห็นท่าทีของอีกฝ่ายที่แปลกใจก็คงเป็นความห่วงใยที่อี้เฟิงมอบให้ จึงบอกให้ทราบความจริงและเขายังถามต่อ




“นายจูบฉันทำไม”





อี้เฟิงถามกลับไป หยางหยางทำได้แค่นิ่วหน้าและเสหันไปอีกทาง เขาสองคนนั่งอยู่ห่างกันไม่แค่กี่คืบ แต่เหมือนดูห่างเหินกัน มือเรียวสวยจึงแตะที่แก้มของหยางหยางทั้งแก้มทั้งมือของทั้งคู่ก็เย็นเยียบพอกับเพราะฤทิธิ์ฝน หยางหยางหันมาหาเจ้าของมือ




"เพราะนายไม่ยอมตอบเองนะ"


ไม่นานก็มีจูบทาบทามลงมาที่ริมฝีปากของเขา หยางหยางตกใจแต่ไม่ได้ผลักออกไป เขาโดนขโมยจูบคืนและก็เหมือนกันอี้เฟิงไมได้ทำอะไรไปมากกว่าแตะริมฝีปากที่อ่อนนุ่มที่ริมฝีปากของเขา และถอนออกไปหลังจากนั้นไม่นาน






“คือ...ถือว่าขอบคุณที่ช่วยเรื่องเจ้าแมวน้อย”





ไม่ทิ้งให้อี้เฟิงพูดมากไปกว่านี้  หยางหยางโถมน้ำหนักไปหาอีกฝ่าย จนทั้งคู่ล้มตัวลงนอน โชคดีที่โซฟาที่บ้านของหยางหยางใหญ่พอจะรับคนสองคนไว้ได้ อี้เฟิงที่นอนลงแผ่นหลังแนบกับโซฟาตกใจที่หยางหยางทำแบบนี้




“หยางหยาง..นาย”
“อย่าลืมนะอี้เฟิง ที่นี่บ้านผม”
“อย่าคิดทำอะไรบ้า ๆ เชียว”
“คิดไปแล้ว”



อี้เฟิงกำมือเคาะที่หน้าผากหยางหยางทีหนึ่งให้อีกคนได้สติและรู้สึกเจ็บ คนถูกเคาะหน้าผากนิ่งหน้าเจ็บจริง ๆเพราะแรงที่ใส่มาก็ไมได้น้อยเลย ร่างใต้หยางหยางผลักอกขขึ้นไป ที่จริงแล้วหยางหยางแค่หยอกแม่แมวของเจ้าแมวตัวน้อยเล่นเท่านั้นแต่ถ้าได้อย่างที่คิดจริงก็ไม่ปฏิเสธแน่นอนแต่เขาดูไม่ได้ยอมหยางหยางง่ายขนาดนั้นน่ะสิ




“รอให้ฝนซาก่อนแล้วจะไปส่ง คุณประธานนักเรียน”
 “เรียกอี้เฟิงได้มั้ย มีชื่อนะ”



คนรูปหล่อยกยิ้ม ปล่อยออร่าความที่สาว ๆชื่นชอบออกมา หันไปหาอี้เฟิงแล้วเข้าใกล้หลังจากที่ถูกผลักออกไป กระซิบข้างหู




“อี้เฟิง ...คุณถามผมว่าผมจูบคุณทำไม  คำตอบมีแค่ข้อเดียว ผมแค่อยากจูบคุณ “
“หา ?”



ละจากการกระซิบข้างหูไป อี้เฟิงก็ร้องอุทาตกใจ จะมาอยากจูบอะไรกันเล่า มือเรียวตกตีอกอีกคนแก้เขิน แล้วย้ำคำถามอีก ไม่เห็นจะเข้าใจเลยซักนิด




“ขี้โมยนี่”
“ก็ขโมยไปแล้ว แล้วคุณขโมยผมคืน ถึงจะบอกว่าเป็นการตอบแทนเรื่องเจ้าแมวน้อยก็เถอะ”
“ก็มัน...”


อีเฟิงแก้ตัวไปไม่ถูก เรื่องแบบนี้อี้เฟิงไม่ประสีประสาจริง ๆหยางหยางยกมือยีหัว จนผมอี้เฟิงฟูและดูยุ่งเหยิง ก่อนจะลุกไปจากโซฟา ก่อนไปก็ส่งยิ้มเท่ ๆ ให้อีเฟิงเบ้ปากหมั่นไส้เสียซักครั้ง




“แม่แมวหิวหรือเปล่า ? จะไปหาอะไรให้กิน”
“เรียกชื่อสิ อี้เฟิง หลี่อี้เฟิง อย่าเรียกแบบนั้นได้มั้ย”
“น่ารักดีออก ลูกแมวนั่นติดคุณมากอย่างกับแม่ ผมเรียกแบบนี้แล้วกัน”
“งั้นนายมาเป็นพ่อแมวมั้ยล่ะ”




อี้เฟิงตอบกลับไป แต่อันนี้เผลอจริง ๆพอรู้ตัวว่าพูดอะไรออกไปก็เอามือปิดปากตะครุบแทบไม่ทัน แก้มเนียนใสก็เริ่มแดงขึ้นแล้ว หยางหยางหัวเราะร่วมออกมาในขณะที่เดินไปในครัว เพื่อหาอะไรให้แม่แมวที่รักของเขากิน




“ได้สิ เจ้าแมวน้อยจะได้ไม่เหงา ไว้ไปตั้งชื่อกันนะ”
“เออ!




แน่นอนตำแหน่งพ่อแมวน่ะ เขาอยากได้อยู่แล้ว จะให้ใครเป็นไมได้ด้วย

ว่าไปก็เป็นครอบครัวที่อบอุ่นดีนะ เจ้าแมวน้อยมีทั้งพ่อแมวอยู่ครบเลย จะได้ไม่เหงาอีก





“แม่แมว อยากได้ลูกเพิ่มมั้ย ?”
“ไอบ้า!






ระหว่างทางเดินไปห้องครัว หยางหยางหันมาหาอี้เฟิงเรื่อย ๆ อีกฝ่ายก็ยังคงมองอยู่ ทีนี้เหมือนจะเข้าใจกันแล้วว่า ต่างฝ่ายต่างคิดอะไรอยู่ในใจ รู้ความจริงกันแล้ว อาจจะเป็นเพราะจูบของกันและกันและสายตาที่บอกความรู้สึก








 **********************************************************END accidentally 



 TALK :: ชอบเรื่องนี้มากกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกกก





3 ความคิดเห็น:

  1. ท่าทางคุณประธานจะไม่ค่อยชอบยิ้ม ยิ้มทีนึงแอคแทคกระจายเลยทีเดียว
    ไม่รู้จะพูดอะไรดี บรรยากาศดีเหลือเกิน

    ตอบลบ
  2. คุณเวย์บอกชอบเรื่องนี้มาก ที่จริงเราก็ชอบมากเช่นเดียวกันค่ะ
    บอกล่ะว่าแพ้ฝน อยากให้ฝนตกทุกวันค่ะ คิดว่าคุณเวย์คงแต่งได้อีกวันละเรื่องงี้ /โดนเตะ
    เรื่องนี้มันน่ารักตรงที่คุณหยางเขาตกหลุมรักไม่รู้ตัวแล้วก็เนียนไปหาคุณประธานเฟิงค่ะ
    กรี๊สสสส ทำไมตอนเรียนมัธยมไม่เห็นมีโมเมนต์งี้เลย 555555555555
    แอบสะอึกตอนหยางบอกว่าขอโทษทุกอย่างเลย เราแบบเอ้าๆๆๆทำไมพี่ป๊อดกะทันกัน
    ไม่นะคะ อย่ามาป๊อดอะไรตอนนี้แล้วกลายเป็นหลบเขาเอง เอ้าหยาง ไมทำงี้ 555
    แล้วก็มากรี๊สประสาทแดกตอนเขาแทนตัวว่า อี้เฟิง /เก็บศพด้วยข่ะ
    เป็นฟิคที่แบบบรรยากาศโคตรดีเลยค่ะ ชอบมาก TvT ขอบคุณมากๆนะคะ

    ตอบลบ