TITLE : [Fic] THIS MAN
CHAPTER : 4 ‘ คนคนนี้แปดเปื้อน’
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG -15
TELL: ยิ้มก่อนอ่าน ตาหวานก่อนเปิด
อ่านจบแล้วไปด่า(หยาง ห้ามด่าเกอนะ)ได้ที่เแทก #ดิสแมน
หรือเมนท์ข้างล่าง หรือจะเมนชั่นก็ได้
********************************************************************************************************
“อา..”
อย่าว่าแต่รสจูบเลย
แม้แต่กลิ่นหอมแบบแป้งเด็กที่แม้อ่อนจางแต่ก็ยังอบอวลจนจดจำได้
สัมผัสเขามาทุกส่วน
ผิวลื่นมือจนไม่สามารถละการสัมผัสออกจากความหฤหรรษ์นี้
เสียงหวานที่ครางกระเส่าใต้ร่างไม่หยุด ยังคงวนเวียนในหัว จำแม้กระทั้งเสียงหอบได้ด้วยซ้ำ
ทำไมช่างสนุกเช่นนี้....
หยางหยางจำทุกอย่างคืนที่น่าตื่นเต้นนั้นได้ดี
เมื่อคืนนั้นเขาต้องกลั้นใจไม่เปล่งเสียงออกมาซักคำให้อีกรู้ แต่มันสะใจมากจริง ๆ
เขายกมือแกร่งพลิกไปพลิกมา
มันเป็นหนึ่งในตัวช่วยที่ทำให้ผลงานของเขาเป็นที่น่าพอใจ
มือคู่นี้จัดการส่งความต้องการที่รุนแรงไปยังร่างบอบบางอ่อนแอและน่ารังเกียจนั้น
มันมีความต้องการหลายอย่าง ทั้งหมดต้องการอย่างว่า ต้องการแก้แค้น ต้องการเอาคืน
ยังเลย..นั่นยังไม่สาสมแก่ใจหยางหยาง
ข่าวที่คนคนนี้ปล่อยออกไปไม่ใช่แค่สร้างความเสียหายแก่ชื่อเสียงเขาแต่นั่นเป็นเพราะหลี่อี้เฟิงคนนั้นมีพรรคพวกในวงการไม่น้อย
อยู่ข้างเขาก็เยอะ เรื่องของหยางหยางจึงกระจายออกไปรวดเร็วเช่นไฟลามทุ่ง
คนเรามันทำมาหากินในวงการบันเทิง
ข่าวเป็นปัจจัยสำคัญที่ทำในเราสามารถคงอยู่และมีที่ยืนในวงการ
แต่เจ้าคนอ่อนแอ
น่ารังเกียจ เขาเกลียดคนคนนี้ เพราะหลี่อี้เฟิงมีที่ยืนอยู่ตรงนั้นอยู่แล้ว..เทพบุตรแห่งชาติ
หยางหยางอดที่จะคับแค้นใจในความด้อยของตัวเองในจุดนี้ไม่ได้ที่ทำอย่างไรก็แข่งไล่ตามขึ้นไปไม่ทันและไปยืนอยู่ในระดับเดียวกับกับคนคนนี้ไม่ได้เสียที
เหตุผลแรกก็ทั่วไปคือการที่เขาเข้าวงการมาหลังหลายปี สองคือคนคนนี้และทีมงานของเขาน่ะตัวดี
..ก็อย่างที่เห็นได้ชัด ปล่อยข่าวให้เขาเสียหาย
พอไปเอาคืนบ้างก็ต้องให้สาสม
“รูปนี้ไม่เลวเลย
คุณเทพบุตรแห่งชาติ..หลี่อี้เฟิง..ใบหน้าที่หลับใหล
พร้อมร่องรอยการร่วมรักที่เต็มไปหมดทั้งตัว..ฮึ ไม่รู้ว่าหญิงหรือชายมอบให้
เป็นหัวข้อข่าวที่ดี..อืม ดีไม่เลวเลย”
แต่หยางหยางยังไม่เอามันไปลงที่ไหนหรอก
รูปนี้ที่เขาแอบถ่ยภายหลังเสร็จกิจกรรมดังกล่าวที่หยางหยางลงมือกับอี้เฟิงทั้งคืน
เขาไม่ได้นอน อี้เฟิงก็อ่อนเพลียจนแทบป่วยไข้ แต่แบบนั้นคงไมได้
เดี่ยวจะทำงานไมได้พาลลำบากคนอื่นเสียเปล่า ๆ ก็เลยปล่อยร่างนั้นไว้แบบนั้น หาอะไรคลุมกันอุจาดเสียหน่อย
และเขาไม่ลืมที่จะถ่ายรูปเก็บไว้อยู่แล้ว
หลังจากนั้นหยางหยางก็ใช้มือถือของตัวเองโทรเข้าโทรศัพท์เครื่องสวยของอี้เฟิงก่อนส่งรูปอันน่าอับอายสำหรับอี้เฟิงแก่เจ้าตัวไป
...
อกแทบแตกตายแล้วมั้ง
..ใบหน้าหล่อยกยิ้มมุมปาก..ไม่ว่าอย่างไรยิ้มเช่นนี้ก็เสมือนมาจากซาตาน..
หยางหยางเองก็รุ้ดีว่าอีกฝ่ายก็คงมองเขาเช่นั้นในเมื่อตัวหลี่อี้เฟิงเองคิดว่าตัวเองเป็นเทพบุตรผู้ใสซื่อของทุกคน
ก็ดี.....หยางหยางก็ไมได้อยากเป็นเทพบุตรอะไรนั่น...ก็ยืนกันตรงกันข้าม...เอาให้พ่ายแพ้กันไปข้างหนึ่งเลยแล้วกัน
THISMAN
อี้เฟิงรู้สึกไม่ค่อยสบายตัว
และปวดเมื่อยไปหมดตามตัว
ทีมงานสังเกตเห็นตั้งแต่เช้าที่ทำงานและช่วงถ่ายทำที่รอยยิ้มของเทพบุรแห่งชาติของคนทั้งกองไม่ร่าเริงเหมือนทุกวัน
ทุกคนจะให้อี้เฟิงกลับมาพักผ่อนเสีย อย่างไรฉากที่ถ่ายวันนี้ก็มากพอแล้ว
และไม่ต้องแก้อะไรเลย เพราะเล่นดีและเข้าตาผู้กำกับ
อี้เฟิงยิ้มกับคำชมอย่างอ่อนแรง เขารู้สึกเหมือนจะหมดแรงและทรุดลงซะให้ได้
และก็เกือบเป็นจริง ๆครั้งหนึ่ง
เมื่อรู้สึกถึงของเหลวบางอย่างที่คุ้นเคยเมื่อคืนนั้นยังคั่งค้างภายใน
อี้เฟิงไม่รู้วิธีที่จะเอามันออกมา ไม่เข้าใจว่าทำไมล้างออกด้วยวิธีง่าย
ๆมันถึงออกไม่หมดเสียที
เขาจึงตัดสินใจมาอาบน้ำอีกรอบและลองจัดการกับของเหลวของไอบ้ากามคนนั้นอีกครั้ง...
กลับไปคิดถึงเช้าวันนี้ที่เขาเจอหยางหยางที่กองถ่าย
รอยข่วนนั่น..อี้เฟิงหวังว่ามันจะเป็นสิ่งที่หยางหยางไปโดนคนอื่นทำมาหรือเป็นรอยที่เขาทำตัวเอง
..ไม่ใช่ร่องรอยจากมือของอี้เฟิง
แค่ที่ถูกเนื้อต้องตัวกันในฉากละครก็สิดสะเอียนมาเกินจะทน
ยิ่งถ้าให้คิดว่าเมื่อคืนนี้..ถ้าเป็นหมอนั่น
อี้เฟิงคงจะอกแตกตายเข้าไปจริง ๆ
“เห้อ มีแต่เรื่องให้คิด ปวดหัวชะมัด”
ร่างเพรียวจัดการปลดเปลื้งเสื้อผ้าออกทีละชิ้นหลังจากคว้าผ้าขนหนุและมือถือคู่ใจเข้าห้องน้ำส่วนตัวในเต้นท์พักชั่วคราวในกอง
โชคดีที่เขาออดอ้อนผู้จัดการให้ขอทีมงานมา
ความเป็นส่วนตัวของนักแสดงในกองไม่ใช่ใครจะขอก็ขอได้
อย่างน้อยเพราะความดังของเขาและการกระทำที่อี้เฟิงแสดงออกไป
มันก็ช่วยให้อี้เฟิงเรียกร้องอะไรได้หลายอย่าง
อี้เฟิงมักจะเผลอวูบคิดไปถึงเรื่องเมื่อคืนนั้นที่เขาถูกใครคนหนึ่งที่บ้ากามเอามาก
ๆ กระทำเอา ไม่รู้ว่าเป็นใครมาจากไหน คนในกองถ่ายหรือ ? หรือเป็นใครจากด้านนอก เขามีความดึงดูดทางเพศกับผู้ชายมากถึงเพียงนี้เชียว?
แต่มันเป็นเรื่องที่อี้เฟิงรู้สึกอับอายมากจนไม่กล้าไปพูดหรือปรึกษากับใคร
และเขาเลือกจะเก็บมันไว้ในใจคนเดียว..หลี่อี้เฟิงที่เป็นผู้ชาย..อย่างน้อยก็ไม่ได้เสียหายไปมากกว่านี้ได้แล้ว
มือเรียวสวยละจากการชะล้างร่างกาย
เขาปล่อยสายน้ำที่ไหลออกจากฝักบัวที่เขาเปิดทิ้งไว้ให้น้ำไหลผ่านนชะล้างร่างกายไปเรื่อย
ๆ และคว้าโทรศัพท์มากดดูอะไรบางอย่าง เขาอยากลองดูข่าวที่เขาสร้างขึ้นมา
ประเด็นเรื่องผู้หญิงของหยางหยางเมื่อคืนนี้
อี้เฟิงก็ไม่ปฏิเสธว่าสะใจไม่น้อยกับกระแสอันรุนแรงทันที่ที่ปล่อยข่าวออกไปแต่นั่นล่ะ
..สาสมแล้ว
“หืม?”
มีข้อความใหม่จากบุคคลปริศนา
อี้เฟิงไม่มีเบอร์นี้เซฟติดไว้ในเครื่อง
อี้เฟิงกดเปิดให้ข้อความเหล่านั้นโหลดขึ้นมาจนครบ
“นะ...นี่มัน”
บางอย่างที่อี้เฟิงพบเจอมันในบนข้อความใหม่ที่ส่งเข้ามือถือของตัวเอง
ตากลมโตเบิกกว้างตกตะลึงกับภาพในจอมือถือ
ดูมันให้ชัดกันตาอีกครั้งว่านี่มันเป็นภาพบ้าอะไร
“ไอ...ไอ้เลวนี่ ไอ้สารเลว!”
ใบหน้าหวานเหยเกไม่เหลือความเป็นเทพบุตรอะไร
เมื่อเขายิ่งสบถคำที่จะว่าให้ไอ้คนที่ส่งเจ็บปวดได้ถ้าหากเขามาได้ยิน
อี้เฟิงทรุดตัวนั่งกับพื้น เขาไม่ได้ร้องไห้แต่อ่อนแรงและไม่รู้จะทำเช่นไร
มันช่างเป็นรูปที่น่าอับอาย
ร่องรอยบนตัวทั้งหมด..เหตุการณ์เมื่อคืนนี้
ไอ้คนที่กระทำหยาบช้ากับเขาแอบถ่ายเอาไว้และนี่จงใจจะใช้มันเพื่อแบล็คเมลอี้เฟิง
มันมาพร้อมกับข้อความที่ช่างเย้ยหยันจนน่ารังเกียจ
‘คุณเทพบุตรแห่งชาติ..หลี่อี้เฟิง..ใบหน้าที่หลบไหล
พร้อมร่องรอยการร่วมรักที่เต็มไปหมดทั้งตัว..ฮึ ไม่รู้ว่าหญิงหรือชายมอบให้’
น่ารังเกียจ
น่าสะอิดสะเอียด
อี้เฟิงทรุดตัวลงนั่งกับพื้นห้องน้ำ
หมดแรงแล้วจริง ๆ ไม่รู้ว่าคนที่ส่งมาต้องการอะไรกันแน่ แท้จริงแล้วเขาเป็นใคร
หยางหยาง....
แม้ว่าเหตุการณ์เมื่อคืนที่เกิดขึ้น
เขาจะขอมโนภาพเอาว่าคนที่ทำร้ายร่างกายและจิตใจของเขาไม่ใช่คนใจร้ายคนนี้แต่มันทำให้อดคิดไม่ได้ว่า
คนที่จะคิดทำร้ายและเกลียดเขามากถึงเพียงนี้
จนต้องกระทำเรื่องหยาบช้าเลวทรามจะมีใครได้อีก
และยิ่งเมื่อได้เห็นร่องรอยเล็บบนหลังคอของหยางหยางแล้ว
อี้เฟิงยิ่งต้องหลับตากลั้นใจไม่ให้ตัวเองน้ำตารินไหลเพราะความคับแค้น
เทพบุตรแห่งชาติสบถเบา ๆออกมาหลายคำด่าหยางหยางล่วงหน้าไป
มือเรียวยกทุบกระจกที่กั้นห้องอาบน้ำและห้องสุขาไว้แรงเสียจนกระจกแผ่นนั้นสะเทือนดัง
สายน้ำจากฝักบัวยังไม่หยุดไหล อี้เฟิงไม่คิดจะปิดมัน
อย่างน้อยก็ปล่อยให้มันไหลดับความแค้นเหมือนสุมไฟในอกนี้ของอี้เฟิงบ้าง
“ไอสารเลว...นายมันซาตานกลับชาติมาเกิดแท้
ๆ หยางหยาง”
ยิ่งคิดอี้เฟิงยิ่งมั่นใจ
แม้ไม่อยากให้เป็นไปตามที่คิดแต่ไม่มีใครอีกแล้ว
THISMAN
“หยางหยาง...นายคิดจะทำอะไรกันแน่...”
ผุ้จัดการสาวคนสนิทของหยางหยางเดินเข้ามาใกล้เมื่อเธอแอบได้ยินประโยคที่หยางหยางกล่าวกับตัวเองเมื่อครู่นี้
เธอแหยเกใบหน้าอย่างคาดไม่ถึง..เด็กของเธอร้ายกาจได้ถึงเพียงนี้กับเพื่อนร่วมวงการได้มากถึงเพียงนี้
“นายจะเกลียดเขาให้มันได้อะไรขึ้นมา”
“พี่ก็รู้อยู่แล้วว่าผมเกลียดเขามากขนาดไหน
เหตุผลน่ะช่างเถอะ ก็แค่เกลียด”
“หยางหยางเลิกคิดบ้า ๆ
แล้วจัดการกับอะไรบ้าๆที่นายมี ทิ้งไปซะ ทำแบบนั้นไม่ดีทั้งเขาและนาย
เขาจะรู้ว่าเป็นนาย..นายจะลำบาก”
“ปล่อยออกไปเขาน่ะสิที่ลำบาก”
“แต่นายคิดว่าข้างบนจะไม่ลงดาบนายรึไง..สถานะนายตอนนี้เป็นรองอี้เฟิงมากนะ
อย่าคิดสั้นแบบนั้น”
ผู้จัดการสาวล่วงรู้ว่าหยางหยางต้องมีอะไรในมือถือนั่น
แม้เธอมองเห็นไม่ชัดแต่เธอก็คาดเดาได้ว่าไม่ใช่เรื่องที่ดีแน่
เธอแนะนำน้องชายคนเก่งที่เธอรักเป็นเหมือนครอบครัวเพราะทำงานและปลุกปั้นกันมากับมือ
เธอไม่อยากให้เด็กของเธอร้ายกาจถึงเพียงนั้น
และเม็ดเงินของเธอเองก็จะหายไปกับการคิดสั้นเสมือนฆ่าตัวตายของหยางหยาง
“นายคิดว่าจะไม่มีคนรู้หรือว่านายปล่อยมา
หลี่อี้เฟิงต้องหาทางซะอย่างที่จะทำให้นายล้มไปพร้อมกับเขา
และเขารู้ว่าว่าเมื่อเขาล้มเขามีที่พอสำหรับให้ล้มอย่างนิ่มนวลแต่นายไม่..นายไม่เหมือนเขา
ยอมรับสถานะซักที”
หยางหยางแสยะยิ้มร้ายออกมาอย่างไม่ปิดบัง
พ่นลมหายใจออกจมุกแรงตามอารมณ์ ผู้จัดการสาวมองหยางหยางอย่างไม่เข้าใจ
เธอเบิกตากว้างมาอย่างตกใจที่เด็กคนนี้ของเธอจงเกลียดจงชังพี่ร่วมค่ายมาขนาดนี้
เธอไม่รู้ว่าอะไรทีทำให้หยางหยางคิดเกลียดอีกฝ่ายขนาดนั้น
ใบหน้าหล่อเหลาที่ชอบยิ้มส่งให้แฟนคลับและสาวน้อยใหญ่ในวงการให้พากันหัวใจสั่นไหวเล่น..นั่นเป็นยิ้มปีศาจหรอกหรือ
เธอย่างเข้าไปใกล้เด็กในสังกัดของเธอและจัดการคว้ามือถือเครื่องนั้นขึ้นมา
เธอขว้างมันลงพื้นจนแตกกระจาย
“พี่! ทำอะไรน่ะ”
เธอไม่อยากให้น้องชายของเธอกลายเป็นปีศาจซาตานไปจริง
ๆ
หรืออย่างน้อยถ้าเป็นไปแล้วก็ขอให้อยู่อย่างเงียบ
ๆเก็บตัวไปเถอะ
ร่างแข็งแรงเข้ามาเขย่าร่างผู้จัดการสาวอย่างโมโห
เขาลงไปดูซากโทรสัพท์ที่แตกละเอียดนั่น เขามองมันอย่างนึกเสียดาย
“ทำไมพี่ทำแบบนี้”
ผู้จัดการสาวจัดแรงลงที่มือขวาของเธอและตบเข้าที่ใบหน้าของหยางหยางอย่างแรงให้อีกฝ่ายได้สำนึกและตื่นจากความร้ายกาจที่บังตาของให้มืดมิด
"นายคิดว่านายมีสิ่งนี้แล้วจะทำอะไรได้?
และนายจะมีที่ยืนต่อไปหรือไงในวงการหรือ? คนที่จะไม่มีที่ยืนคือนาย...หยางหยาง
เพราะนายไปทำร้ายเทพบุตรของพวกเขา
..นายจะกลายเป็นปีศาจ..ไม่สิซาตาน..เลือกเอาว่านายจะยอมให้คนอื่นมาทำลายนายและนายจะไม่มีตัวตนอีกตลอดกาล..หรือนายจะเก็บความคับแค้นและไปสู้กับเขาบนเส้นทางทำมาหากิน"
หลังจากถูกตบหน้าและพูดเตือนให้คิดอยู่หลายที
ที่หยางหยางไม่ยอมลงให้ซักทีก็เพราะทิฐิของตน...อย่างน้อยหยางหยางก็รู้สึกว่าเธอ
ผู้จัดการสาวคนนี้ก็เป้นพี่สาวที่ดีและไม่เคยคิดทำร้าย
“ผม..ขอโทษ”
“ดีแล้ววนายเลิกคิดทำบ้า ๆ แบบนี้ซะ
และฉันจะบอกอะไรให้นะ ข้างบนรู้แล้วว่าข่าวของนายมันไม่จริงฉันไปพูดให้นายแทบตาย
กรุณา..อย่า! ทำให้ฉันต้องเหน็ดเหนื่อยไปมากกว่านี้ ขอร้อง”
เธอบอกด้วยน้ำเสียงที่ดังกว่าปกติ
หยางหยางยืนนิ่งเหมือนได้สติกลับมา เขาบอกว่าจะไม่คิดอะไรแบบนี้อีก..
ผู้จัดการสาวตบไหล่หยางหยาง
เธอเปลี่ยนมาให้กำลังใจแทน..ที่จริงความจริงอย่างหนึ่งที่เธอละไว้คือ
ต้นข่าวเรื่องฉาวของหยางหยางล่าสุดนั้น..มาจากหลี่อี้เฟิง
แต่เรื่องรูปคิสมาร์กเธอก็ไม่รู้ว่าอี้เฟิงไปเอามาจากไหน
แต่แค่รู้ว่าอี้เฟิงเป็นคนทำมันก็พอรู้แล้วสองฝ่ายเกลียดกันมากเพียงใด
และร้ายพอกันทั้งคู่ เธอเลือกไม่พูดความจริงข้อนี้
เพื่อให้เธอและหยางหยางมีที่ยืนในวงการต่อไป
เพราะหลี่อี้เฟิงมาก่อนและยิ่งใหญ่กว่า เธอยังอยากทำงาน
เลือกที่จะสู้กันลับหลังแบบนี้ดีกว่า ต่อหน้าหยางหยางยังมีลู่ทางไปได้
“นายเข้าใจที่ฉันเตือนนะ”
“ครับ”
เธอพูดจบ....ทิ้งอะไรไว้ให้น้องชาย
และออกไป ปล่อยให้หยางหยางใช้ความเพียงลำพัง...
ช้อยส์แรกที่จะปลอ่ยให้โลกรู้..เขาทำไม่ได้
ตัดออกไป
ถ้าเช่นนั้นออกจากเป็นช้อยส์ที่สอง....เขาทำได้..แต่แค่เพียงหลี่อี้เฟิง
“ไปเล่นเกมส์กับแมวน้อยหน่อยแล้วกัน”
THISMAN
อี้เฟิงที่เริ่มได้สติกลับมา
เขายังพยายามคิดอยู่รูปบ้า ๆ ที่ส่งมานี่ต้องไม่ใช่จากเจ้าซาตานสารเลวนี้แน่ ๆ
แต่ความคิดก็ตีกันยุ่งไปหมด
“อะ..โอ๊ย”
เขาอยากพิสูจน์ความจริง
ก็เขาให้ชัดไปเลยคือตรงไปหาหมอนั่นและกระชากมือถือของหมอนั่นมาดูซะ
แต่ตอนนี้ร่างกายอี้เฟิงไม่สามารถสั่งการได้ดังใจเพราะอ่อนเพลียจากกิจกรรมร่วมรักนั้นอยู่ยังไม่หายดี
ของเหลวนั่นก็ยังคงคั่งค้างจะใช้นิ้วกวาดก็ไม่หมดแถมถ้าใช้นิ้วกวาดในช่องทางนั้นของตนก็ดันทำให้มีอารมณ์ต้องการขึ้นมา
ยิ่งจัดการลำบาก บวกกับความเจ็บปวดจนต้องนิ่วหน้าหนี
อี้เฟิงต้องล้มเลิกก่อนให้หายดีและปวดน้อยกว่านี้
ร่างเพรียวจึงคว้าผ้าขนหนูพันตัวเเละออกมาจากห้องน้ำ มีอีกผืนหนึ่งพาดไว้ตรงที่คอ
เดินออกจากห้องน้ำด้วยสีหน้าโรยแรง
“น่า.....สงสาร”
ตากลมโตเบิกกว้าง
เสียงทุ้มที่สาว ๆที่ไหนก็คงจะพากันเคลิบเคลิ้ม
แต่นี่ไม่ใช่เสียงที่เขาอยากได้ยินแน่ ๆและยิ่งไปในเต้นท์ห้องพักของเขา
“นาย...ทำไม...ไป...ออกไปให้พ้น” อี้เฟิงไม่เอ่ยชื่อของอีกฝ่ายด้วยซ้ำ แม้รู้จักกันดี
เขาออกไปไล่ทันทีที่เห็นใบหน้าที่เขารังเกียจ
ก่อนจะเดินหลบเข้าไปอีกฝั่งในห้องแต่งตัว
เพราะอี้เฟิงกลัวว่าถ้าถอยกลับไปในห้องน้ำจะเกิดเหตุการณ์ซ้ำรอบอย่างเช่นวันนั้นอีก
“จะหลบไปไหนเล่า
ไม่มาเล่นกันบนโซฟาหน่อยหรือแมวน้อย”
อีกฝ่ายพูดประโยคแปลกประหลาดแต่อี้เฟิงเข้าใจในทันทีว่ามันแปลว่าอะไร
“รูปนั่นแสงสีสวยดีเนอะ ถ่ายตอนเช้าน่ะ
พระอาทิตย์กำลังส่องแสงสวยเชียวล่ะ”
ไม่ปิดบังความชั่วร้ายของตัวเองเลย
ไอ้คนหยาบช้า ..ร้ายยิ่งกว่าซาตานเสียอีกกระมัง
“...ถึงฉันจะไม่อยากให้เป็นนาย..แต่มันไม่มีใครที่จะคิดชั่วช้ากับฉันได้เท่านายอีกแล้ว”
“แหม
ขอบคุณนะครับที่คุณเทพบุตรแห่งชาติที่อุตส่าห์นึกถึงกัน”
น้ำเสียงเย้ยหยันอย่างที่อี้เฟิงยินทำเอาอี้เฟิงนึกหมั่นไส้
ก่อนที่เขาจะพ้นประตูเข้าห้องแต่งตัวไป
เข้าขง้างไม้แขวนเสื้อใส่หยางหยางอย่างไม่นึกสงสารหากจะพลาดโดนใบหน้าหล่อเหลานั่น
หยางหยางเองก็ไม้ได้นั่งรอให้อี้เฟิงขว้างปาใส่ แต่เขาก็รุกหน้าเดินเข้าไปหาอี้เฟิงอย่างรวดเร็วและทันคว้าข้อมืออี้เฟิงไว้
เขาจัดการร่างเพรียวนั่น
ดันเข้าไปในห้องแต่งตัว ห้องนี้เป็นห้องเล็ก ๆ ขนาดไม่กว้างไปกว่าคนสี่ห้าคนยืนได้
และปิดล็อคประตูเสีย
“ของที่ผมฝากเอาไว้เอาออกไปหมดหรือยังแต่โดนทำแบบนั้นครั้งแรคงยังไม่หมดสินะ”
“เลิกพูดทุเรศแบบนั้นซักที ไอ้คนเลว”
“ด่าแค่นั้นจะไปเจ็บอะไรคุณ
มีคำด่าที่เจ็บกว่านี้มั้ย”
“..ไอ้ปีศาจ”
หยางหยางเผยยิ้มออกมา
ดุเหมือนปีศาจอย่างที่อี้เฟิงว่า
อีกฝ่ายที่ว่าเขาไปจึงนึกกลัวขึ้นมาอย่างไม่รู้ตัว
ร่างที่มีแค่ผ้าขนหนูแค่สองผืนบนตัวกำลังเดินถอยหนีให้ห่างจากอีกฝ่ายที่กำลังใช้สายตาโลมเลียไล่มองไปทุกส่วนจนเจ้าของร่างต้องอาย
เพราะร่องรอยรักยังไม่มีที่ใดจางหายไปเสียซักที่เดียว
ร่างเพรียวผิวขาวนวลของอี้เฟิงแต้มด้วยร่องรอยสีกุหลาบเป็นแห่งทั่วตัว
“ฝีมือผมก็ไม่เลวเหมือนกันนะ”
“แกมันสารเลว”
“ก็สมกับที่คุณว่าผมเป็นปีศาจนี่”
อี้เฟิงเม้มปากแน่น
จนเปลี่ยนไปกัดริมฝีปากตัวเองอย่างแค้นเคืองจนห้อเลือด
เขาไม่สามารถถอยหนีและถ้าจะวิ่งไปทางประตูห้องแต่งตัวก็เสียเปรียบไปก็เท่านั้น
ไม่มีทางออกเลย
“ยอมรับ ดีนี่
ปีศาจนั่นมันเหมาะกับนายแล้ว เหมาะกับการกระทำชั่ว ๆ ของนาย”
“ก็ดีอีก..คุณเป็นเทพบุตรนี่
กับปีศาจซาตานแบบผม เราไม่ฝ่ายใดก็ฝ่ายหนึ่งก็ล้มลงไปก่อนแน่ “
“อย่ามาแทนด้วยคำว่าเรา
แค่นั้นก็สะอิดสะเอียนมากพอแล้ว นายเป็นปีศาจของแท้ และฉันจะไม่มีวันยอมแพ้นาย
สุดท้ายนายก็ต้องพ่ายแพ้กับสิ่งที่นายทำ"
“แล้วคุณมันดีนักรึไง
ผมว่าเรื่องข่าวของผมคุณก็สะใจ..”
“ก็แน่นอนก็นั่นเป็นผลงานฉันนี่”
อี้เฟิงเปิดเผยให้อีกฝ่ายเจ็บแค้นบ้าง
ไหน ๆ เขาก็บอกอี้เฟิงออกมา
แฉความชั่วร้ายของตัวเองมาหมดแปลกแล้วว่ารูปน่าเกลียดนั่นเป็นฝีมือเขา
อี้เฟิงจึงบอกบ้างว่าเขาก็ทำอะไรได้เหมือนกัน
“นายอย่าคิดว่าฉันจะหยุดแค่นี้..ฉันทำอะไรได้อีกมาก”
อี้เฟิงหยุดคำพูดไว้แค่นั้น
เพราะหยางหยางย่างสามขุมมาอย่างรวดเร็ว หน้าตาของเขากลายเป็นปีศาจจริง ๆ
อย่างที่อี้เฟิงกลัว
บางทีอี้เฟิงก็ไม่ควรพูดเรื่องนั้นออกไปแต่เพราะแค่อยากให้รู้ว่าเขาก็ทำอะไรได้
อี้เฟิงไม่เคยทันและทำเรื่องแบบนี้ได้ดีเลย เรื่องร้ายกาจแบบนี้...
“โอ๊ย “
ร่างเพรียวถูกยกลอยขึ้นไปนั่งบนบาร์เค้าท์เตอร์หน้ากระจก
เขาถูกจับยกให้นั่งคุกเข่าบนพื้นที่เล็กพอแค่คนคนเดียวนั่งและหันหน้าไปหากระจกให้สะท้อนเห็นทั้งตัวเองที่กำลังมีสีหน้าหวาดหวั่นอย่างที่สุดและหยางหยางที่แสดงด้านที่น่ากลัวของตัวเองออกมาผ่านใบหน้าหล่อเหลานั้น
มือแกร่งดึงผ้าขนหนูท่อนล่างที่พันรอบเอวไว้ปิดบังส่วนอ่อนไหวของอี้เฟิง
มืออีกข้างของหยางหยางกระทำอย่างชำนิชำนาญ
ลากไล้สัมผัสให้อี้เฟิงสะท้านและร้องครางอย่างพึงพอใจอย่างไม่รู้ตัว
เหมือนว่ากิจกรรมหนักหน่วงเมื่อคืนนั้นจะทำให้ร่างกายของอี้เฟิงจำสัมผัสนี้ได้ดีกว่าใคร
“ร่างกายคุณ..ไม่เลวเลย
แค่ทำแบบนั้นกันแค่คืนเดียว
อืม..เป็นคืนที่ยาวนานไปหน่อยแต่รับสัมผัสผมได้ขนาดนี้..”
อี้เฟิงเบี่ยงหน้าหลบประโยคนั้นจากริมฝีปากที่คลอเคลีอยู่ตรงใบหูของอี้เฟิง
เมื่อเขาพูดจบ มือแกร่งที่ว่างก็สอดเข้าไปในช่องทางปลดปล่อยความต้องการด้วยแรงมากมายจนอี้เฟิงร้องครางเจ็บปวด
และมีน้ำตาซึมหางตา
“นายมันเลว.....”
“คุณมันก็.....พอกัน...
..แถมให้อีกอย่างคือ ง่าย แค่คืนเดียวก็ตอบสนองดีขนาดนี้..ง่าย!”
ใบหน้าหวานเบี่ยงหลบและพยายามกอบโกยแรงที่มีดิ้นหนีเจ้าซาตานคนนี้แต่ไม่มีทางที่อี้เฟิงจะทำได้
เขาดักทางไว้หมด
มือข้างที่คว้าเอวอี้เฟิงเอาไว้แล้วพลิกให้ร่างเพรียวผิวเนียนลื่นมือกลับมาอยู่ในท่าทางที่เขาต้องการ
มืนั้นลากไล้ไปทุกส่วนที่ต้องการสัมผัส ร่างที่ถูกกระทำ
แม้ไม่อยากรับแต่ใจเขาสั่งไมได้ ร่างกายตอบสนองไปแล้ว
“ยังมีอยู่ในนี้อยู่เลย ผมเอาออกให้
วันนี้ผมใจดี จะช่วยให้เป็นกรณีพิเศษ”
มือแกร่งแข็งแรงสอดลึกเข้าไปทำเอาความต้องการของอี้เฟิงพุ่งสูงขึ้นไปอีกจนต้องแปล่งเสียงออกมาอย่างสมใจ
ไม่ทันอดกลั้นเอาไว้ทัน หยางหยางยิ้มเยาะให้เห็นในกระจก ภาพสะท้อนนั้นอี้เฟิงเห็นหมดทุกอย่าง
ขั้นตอน..วิธีทำ ทำอย่างไร หยางหยางทำอะไรกับร่างกายอี้เฟิงอยู่ตอนนี้
มือนั้นเร่งจังหวะเข้าออกให้อี้เฟิงเตลิดด้วยอารมณ์วาบหววามอีกครั้งจนไม่สามารถทันคิดอะไรได้
อี้เฟิงหลับตาพยายามไม่มองภาพที่สุดแสนอับอายและรอยยิ้มปีศาจ
“อ๊ะ..ไม่..พอ หยุด ..อ๊ะ”
“แต่ร่างกายคุณเหมือนไม่อยากให้หยุดเลย
เอาล่ะทีนี้ผมจะเอาของนั่นออกล่ะนะ ระวังเจ็บ”
“ไอ้..เลว.ไอ้.. อ๊ะ โอ๊ย ไม่นะ
..มัน..อ๊ะเจ็บ”
เมื่อมือแกร่งแข็งแรงนั้นทำอย่างชำนาญและเข้าถูกจังหวะ
ไม่ได้ใจดีอย่างที่ปากเอ่ย ซ้ำยังแรงกว่าที่คิด เขากวาดไปมาตรงช่องทางนั้น ลากเร้น
สอดลึกเข้าไปสุดปลายนิ้วมือ ริดเร้นของเหลวของเขาออกมา
อี้เฟิงบิดเร่าเป็นขี้ผึ้งลนไฟ เพราะทั้งความต้องการพุ่งทยานไปถึงปลายทางจนมีของเหลวของตัวเองหยาดออกมาจากส่วนอ่อนไหวอีกไหนจะทั้งของเหลวที่ไหลหยดออกมาจากช่องทางที่หยางหยางเคยฝากของของเขาไว้
พร้อมกันทั้งสองทาง
ร่างกายของอี้เฟิงที่รับอะไรพร้อมกัน เขาหมดแรงจริง ๆ
“ฮึ...”
หยางหยางที่เห็นผลงานของตัวเอง..เขารู้สึกว่าเขาเป็นต่อกับร่างกายนี้
แค่แตะต้องไม่เท่าไหร่ก็รับสัมผัส ตอบสนองตัวโยน
เขาสนุกไม่น้อยที่ได้แกล้งคนตรงหน้า ใช้มือแกร่งลากผ่านตรงจุดอ่อนไหวตรงนั้นตรงนี้
อีกฝ่ายหลับตาปี๋ไม่มองตัวเองที่นั่งคุกเข่าบนพื้นที่น้อย
ๆของเค้าเตอร์แต่งหน้าตรงหน้ากระจกเลย ปากบอกไม่ ๆ แต่ร่างกายตอบสนองทุกจุด
เขาเลยบอกตัวเองว่านี่มันสะใจเป็นบ้า
“ลืมตา”
“ไม่”
“จะลืมตาดี ๆหรือต้องให้บังคับ”
ตากลมโตที่ซ่อนหลังเปลือกตาเบิกตาโพลงทันทีไม่ใช่เพราะนึกกลัวอีกฝ่ายแต่ต้องการตอบโต้หยางหยางด้วยสายตา
ให้มันรู้ไปเลยว่าเขาก็แค้นมากแต่ตอนนี้เรี่ยวแรงสลายไปแทบหมดแล้ว
อี้เฟิงมองเห็นภาพน่าอับอายของตัวเอง
ร่างกายที่มีร่องรอยสีกุหลาบทั่วไปแทบทุกตารางนิ้ว
ส่วนอ่อนไหวมี่มีของเหลวหยาดเยิ้มและช่องทางหลังที่มีของเหลว..ที่อี้เฟิงนึกรังเกียจหยดหยาดทีละน้อย...
ก็ดี....ให้มันออกไป
สกปรก....ร่างกายของเทพบุตรแบบเขาสกปรก เพราะคนคนนี้
“เจ็บใช่มั้ยล่ะ”
“ไม่เลย ตอนนี้ไม่รู้สึก....”
เป็นประโยคตอบโต้ที่สาสมกับความรู้สึกของทั้งสองคน
ต่างคนต่างฟาดฟันด้วยคำพูดและสายตาอี้เฟิงทรุดนั่งติดเค้าท์เตอร์แต่งหน้าและคว้าผ้าขนหนูของตัวเองมาพันท่อนล่างไว้
หยางหยางเห็นผ้าอีกผืนใกล้
ๆเขาใช้มันเช็ดของเหลวของตัวเองที่ฝากไว้ในร่างกายอี้เฟิงออก
“ผมมาเอาออกให้แต่ไม่เอาคืน
มันไปอยู่ในร่างกายคุณ..... ก็สกปรกสำหรับผม
ที่จริงผมอยากจะบอกคุณไว้ว่าผมไม่ได้พิศวาสคุณ กลิ่นเทพบุตร..ไม่ค่อยถูกกับจมูกปีศาจแบบผมด้วยสิ
แต่สาแก่ใจที่ได้ยินเสียงคุณตอนบอกพอ มันเหมือนคุณยอมแพ้ผม อ้อ
ส่วนรูปผมจะเก็บไว้ก่อนแล้วกัน คุณก็มีนี่นะ แบ่งกันไว้แล้วกัน
แต่ถ้าผมเผลอทำตกที่ไหน..ก็อย่าว่ากันล่ะ คุณเทพบุตรแห่งชาติ”
ประโยคเจ็บแสบที่อีกฝ่ายทิ้งไว้ให้พร้อมกับความคับแค้นในใจอี้เฟิง
ร่างของเขาสั่นเพราะความโกรธและเหนื่อยสะท้านเพราะกิจกรรมเมื่อครู่นี้
“ปีศาจอย่างนาย.....คนอย่างนาย..”
อี้เฟิงพูดอะไรไม่ออก
เขาก้มซุกใบหน้าไว้กับฝ่ามือตัวเอง เขาต้องคิดหาวิธี....วิธีที่ดีกว่าและเหนือกว่า
แต่อี้เฟิงมีรูปน่าอับอายเป็นตัวประกัน
เขาต้องคิดแก้แค้นอย่างรอบคอบ
ทำให้เจ็บที่กายไม่ได้.....ก็ต้องเลือกที่อื่น
****************************************************************************************************
TBC 5
ไม่รู้ว่าเม้นตรงนี้ได้เลยไหม แต่ตรงนี้ก็สะดวกดี
ตอบลบว่าเลยสองคนนี้ทำตัวเองสุดๆ รู้นะว่าที่ทำมันกระทบตัวเองก็ยังโต้กันสนุกเชียว หมั่นแท้หนอ
เข้มข้นสนุกดีปกติเห็นหยางสุภาพยอมเอาๆ ตลอด แบบนี้ดูเรียลแปลกๆ
แรงไปแรงมาเอาสะใจไงก็เหอะ สุดท้ายรักกันมาหลงกันจริงพอนึกถึงตอนที่เล่นงานกันมันก็ต้องสะอึกบ้างล่ะ ไม่อินเลย ไม่อินเล้ย
คืออ่านไปอ่านมาไม่รู้ว่าหยางโรคจิตหรือเราคิดไปเอง กร๊ากกก
ตอบลบซีนแบบที่มานั่งคิดแล้วต้องกลั้นเสียงไม่คราวแล้วเขาก็บอกตัวเองว่าสนุก
เราแบบแกกกกกกกกกกกกกกกก เขาโรคจิตชัดๆเว้ย /หันไปเขย่าเพื่อน
แถมยังถ่ายรูปไรงี้เก็บไวอีก จะเอาไปทำคอลเลคชั่นเทพบุตรแห่งชาติขายหรอหยาง!
คืออ่านล่ะสงสารเฟิงมาก ;-; อยากถามเหมือนผจก.ถามอะคะว่าจะเกลียดอะไรนักหนา
แต่แบบทำไมตอนอ่านที่หยางพูดว่า ไปเล่นกะแมวน้อย เราแบบ..เออน่ารัก /เอ้ามึง 5555
ตอนโผล่ไปในห้องน้ำที่แบบหยางงงงงงงงง เธอมันร้ายกาจจจจจจจจ
แต่ฉันก็เขินมากไม่รู้ทำไมเวลาเขาเข้าด้ายเข้าเข็มกันแล้วบรรยายถึงความเกลียด
คือก็เกลียดอะ แต่ก็ห้ามร่างกายไม่ได้ แต่ก็คือคล้อยตาม โอ้ยเมนต์จะ 18+ ไหม
แต่ชอบซีนเวลาเขาต่อปากต่อคำกันจริงๆนะคะ 555 อ่านไปก็เออเหมือนจะฟิน
(นอกเหนือจากหยางจะโรคจิตล่ะก็คนอ่านนี่ล่ะคะ ....................)
แล้วก็ฉากหน้ากระจก ฟงสกด่ฟาหกสด่้กสฟห่ด โอง้ยยยยยยยยย บ้าเลอออ
ก็คิดว่าจะมีแหละค่ะตอนอ่าน แต่ไม่คิดว่าจะแซ่บใส่พริกทั้งสวนแบบเน้
มาอ่านอีกรอบเพื่อเมนต์ก็ยังเขินอีก 555555555555555555