วันเสาร์ที่ 12 กันยายน พ.ศ. 2558
[Fic] THISMAN - หยางเฟิง CHAPTER :3 'คนคนนี้กำลังคิดแก้เเค้น'
TITLE : [Fic] THIS MAN
CHAPTER : 3 คนคนนี้กำลังคิดแก้เเค้น
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : NC-17
TELL: ยิ้มก่อนอ่าน ตาหวานก่อนเปิด อ่านจบแล้วไปด่า(หยาง ห้ามด่าเกอนะ)ได้ที่เแทก #THISMAN หรือเมนท์ข้างล่าง หรือจะเมนชั่นก็ได้
*******************************************************************************
รอยยังไม่จางหาย...
อี้เฟิงยกมือแตะสัมผัสที่รอยคิสมาร์คบ้าบอที่เขาได้จากไอ้คนใจร้าย คนคนนั้นที่เขาไม่อยากเข้าใกล้
หยางหยาง
เพราะเป็นแบบนี้ อี้เฟิงจึงถูกสไตลิสว่าเขาซักไปซ้ำมา เพราะว่าเขาดันทำให้มีรอยน่าอายนี้ขึ้นมา พี่สไตลิสคิดว่าเขาไปทำอะไรแบบนั้นกับผู้หญิงที่ไหน หรืออะไรก็ตามแต่ที่พี่เขาจะคิดได้ แต่พี่ไสตลิสก็ไม่รู้ว่าหรอกกองถ่ายละครกองนี้มีหมาป่าใจร้ายใจดำซ่อนอยู่ โดยแอบอยู่ใต้ขนเเกะที่ดูซื่อ ๆ และไม่มีพิษภัย
ใครจะรู้ว่าหมอนั่นมันเป็นจะเป็นบ้าได้ถึงขนาดนั้น
อี้เฟิงก็พอรู้ว่าสู้แรงเขาไม่ได้ แต่ทำอย่างไรก็เลี่ยงไม่พ้น ไม่อยากใกล้ก็ยิ่งต้องเจอ ไม่อยากเจอก็ยิ่งหลบไม่พ้น หลบไม่ได้ ฉะนั้นเขาอาจจะต้องมีวิธีปกป้องตัวเอง และอาจจะต้องสวนกลับไปแบบเจ็บปวดให้คนคนนี้รู้สึกจดจำและเข็ดเสียบ้าง
ใบหน้าหวานยู่หน้าลง พลางใช้สมองหาวิธี ใช้ความคิดค้นหาว่า เขาจะทำอย่างไรดีที่จะให้คนคนนี้ ออกไปไกล ๆ อย่างน้อย ถอยห่างเขาออกไปได้ก้าวเดียวก็ยังดี
คิดไม่ตกจริง ๆ หลี่อี้เฟิงไม่ใช่คนเจ้าเล่ห์แบบนั้น จะไปสู้คนเจ้าเล่ห์เพทุบายเช่นหมาป่าได้อย่างไร
"พี่ครับ หยางหยาง..ไม่อยู่หรอ"
"ไม่เห็นแฮะ แล้วไม่ได้อยู่กับนายเหรอ ช่วงนี้ก็เห็นสนิทกับนายอยู่นี่"
อี้เฟิงเอ่ยถามพี่ตากล้องคนหนึ่งที่อยู่ใกล้ ๆ เมื่อเขาถ่ายฉากที่เล่นคนเดียวเสร็จและกลับไม่เห็นคนคนนั้นอยู่ในกองถ่ายใกล้ ๆ ตา เสียดายที่หลี่อี้เฟิงนึกอยากจะเอาคืน แต่ดันไม่อยู่ในเเก้เเค้น พอถามเอาความก็ไม่มีคนเห็น
แต่ถ้าไปตามหาก็เหมือนเข้าไปรอความตายจากซาตาน...
ไม่เอา เขาควรอยู่รออยู่ให้เจอเขา ในท่ามกลางคนหมู่มากดีกว่า และควรจะใช้ช่วงเวลาแบบนั้น แก้เเค้นให้คนคนนี้เเสดงด้านไม่ดีออกมาให้ได้ ให้ทุกคนได้เห็นว่า จริง ๆ แล้ว แกะที่น่ารัก็คือหมาป่าชั่วร้ายดี ๆ นี่เอง
อี้เฟิงสอดส่องสายตาไปทั่ว พื้นที่กลับไม่พบหยางหยางเลย แม้ว่าเขาจะรอ เเล้วรอเล่า แต่ก็ไม่เห็นคนคนนี้
"อี้เฟิง!"
เจ้าของชื่อสะดุ้งสุดตัว ตกใจว่าเป็นใครที่มาเงียบเขาตอนที่กำลังใช้ความคิด เมื่อหันไปพบว่าเป็นหลิวเทียนจั่ว พี่ชายใจดีร่างท้วมของกองถ่าย ยืนยิ้มร่าเริงให้น้องชายแบบเขา พี่ชายร่างท้วมกอดคออี้เฟิง เขย่าเสียสองสามทีเป็นการแกล้งแบบที่เขาทำประจำ
"ไงเรา วันนี้เหงาล่ะซี่ เจ้าหยางหยางไม่อยู่น่ะ"
"เอ๋ ?"
"เอ้า นายไม่รู้รึ วันนี้หยางหยางมีหนังอีกกองที่ซ้อน เลยขอไปจัดการตรงโน้นเรียบร้อยเสียก่อน"
"ก็..เขาก็ไม่ได้บอกอะไร แล้วผมก็ไม่ได้สนิทกับคนคนนี้...ขนาดนั้น"
อี้เฟิงพูดตอบพี่ชายใจดี พลางใช้ความคิดต่อ นึกเสียดายที่เจ้าคนใจร้ายคนนั้นไม่อยู่กองถ่าย ไม่งั้นเขาอาจจะลงมืออะไรซักอย่างให้หายแค้นเรื่องคิสมาร์คบนคอที่ยังไม่จางหายดี
"พี่จั่ว แล้วหยางหยางไปกองไหน ? "
"หนังใหม่เขาไง"
พอบอกเช่นนั้น เขาใช้สมองประมวลซักครู่ อี้เฟิงก็นึกออกว่าเป็นกองถ่ายหนังที่เขารู้จักกับทีมงานและมีเด็ก ๆ ในกองที่เคยทำงานด้วยกัน ถึงแม้จะไม่สนิทกันมากขนาดนั้น
งั้นอี้เฟิงก็พอจะนึกอะไรบางอย่างออก
"ฮัลโหล จำกันได้ใช่มั้ย มีอะไรให้ช่วยหน่อย"
เมื่อคิดอะไรออก อี้เฟิงก็ทำดังที่คิด เขาพอมีวิธีทำให้เจ้าหมาป่านั่นบาดเจ็บหนักได้เเล้ว
THISMAN
หยางหยางที่นั่งอ่านบทอยุ่ในมุมของตัวเอง รู้สึกถึงบรรยากาศแปลก ๆ ที่รอบอยุ่ตัวเขา ทีมงานในกองนี้แม้ไม่สนิทกันมากมาย แต่ก็ไม่ใช่ว่าจะมาทำตัวลับล่อ ๆและคอยนินทาเขาแบบนี้ เมื่อครู่ก็ใช่ว่าจะไม่ได้ยินที่พูดคุยกัน แต่หากว่ามันใช่เรื่องจริงไม่ เขาตอบได้ว่าไม่มีทางจริงอย่างแน่นอน
กระแสข่าวลือเรื่องผู้หญิงของเขา
ที่จริงหยางหยางเจอเรื่องแบบนี้บ่อยจนแทบเรียกว่าชิน แต่นี่ดูเหมือนจะมาระลอกใหม่อีกเเล้ว อหลังจากที่ทีมงานของเขาจัดการข่าวเก่าไปได้ ใบหน้าหล่อนิ่วหน้าเบื่อหน่ายจนไม่อยากอ่านบทต่อ และไม่สามารถเข้าใจบทหนังนี่ได้เเล้ว หยางหยางจึงลุกจากที่นั่งอยุ่เดิมและตรงไปหาคุณผู้กำกับ แต่ก็ยิ่งทำให้หงุดหงิดยิ่งกว่าเดิม เพราะยังได้ยินเสียงซุบซิบนินทาเเบบนี้อยู่ตลอดทางที่เขาเดินไปหาคุณผู้กำกับที่ห้องพัก
"ข่าวนายมาอีกแล้วหยางหยาง.."
"ครับ ขอโทษที่ทำให้ลำบากนะครับ"
ผู้กำกับมีเเววตาและท่าทีที่เปลี่ยนไปเพราะอารมณ์ดี ทั้งที่เขารับบทเป็นนักแสดงนำของเรื่องแต่มีข่าวลือเสีย ๆ หาย ๆ แบบนี้ มันจึงไม่ใช่เรืองเล่น ๆ กับการที่จะเปิดตัวหนังโดยมีนักแสดงนำที่มีข่าวฉาวไปทั่วประเทศแบบนี้
"ที่จริง ทำอะไรนายน่าจะระวังบ้าง"
"ครับ ผมจะระวังให้มากกว่านี้"
เขาไม่ได้แก้ตัวอะไรเพราะก็อย่างว่า เขามีชงักติดหลังอยู่เหมือนกัน และท้ายที่สุดหยางหยางกับผู้กำกับก็ไม่แทบได้คุยอะไรกันเรื่องบทหนัง แถมเขายังโดนสวดยับจากคุณผุ้กำกับ และให้พักกองถ่ายเพื่อให้หยางหยางปรับอารมณ์ซักครู่ใหญ่ ทุกคนก็พอเข้าใจ แต่ก็ยังไปจับกลุ่มนินทากันอีก
"หยางหยาง นายโอเคนะ"
ผู้จัดการสาวของหยางหยางเอ่ยทักขึ้นหลังจากที่เธอต้องรับโทรศัพท์จากประธานบริษัทใหญ่ ซึ่งโทรมาต่อว่าเธอที่เธอดูแลเด็กในปกครองไม่ดี และให้มีข่าวฉาวมาเรื่อย ๆ โดยที่ไมไ่ด้ควบคุมความประพฤติของนักแสดงในขอบข่ายสังกัดของตัวเอง
"อือ ผมโอเค แต่ฟังจากเสียงพี่ ผมคงโดนอะไรจากข้างบนมาอีกแล้วสินะ"
"ก็ใช่ ช่วงนี้นายมีแต่เรื่อง นี่ก็เรื่องผู้หญิงอีก นายไมไ่ด้ไปไหนแล้วแท้ ๆ จะว่าเรื่องเมื่อก่อนขุดมาก็ไม่ใช่ อันนี้ใครปล่อยก็ไม่รู้ ฉันล่ะอยากรู้จริง ๆ"
หยางหยางใช่่้ความคิด แต่ก็คิดไม่ตก เขาเริ่มมีความโกรธมากขึ้น
"หยางหยาง นายอย่าไปลงกับข้าวของสิ!"
ผู้จัดการสาวของหยางหยางรั้งทันก่อนที่หยางหยางจะขว้างปาอะไรไปมากกว่านี้ ก่อนที่โทรศัพท์ราคาเเพงเครื่องสวยของเขาจะพังไปอีกอย่าง มือแกร่งขวา้งสมุดตารางงาน บทหนัง กระเป๋า และอุปกรณ์ที่อยู่ใกล้ ๆมือ เพื่อระบายอารมณ์ ผู้จัดการสาวของเขาก็เจอเหตุการณ์นี้ หยางหยาง เด็กในสังกัดของเธอ ที่เธอดูแลแม้จะเลข 20เเล้วแต่ก็ยังมีความเป็นเด็กอยู่และควบคุมตัวเองได้ไม่ดีพอ แถมยังต้องเจอเรื่องอะไรที่ตัวเองแก้ไม่ตกก็จะต้องมีการระบายอารมณ์วิธีใดวิธีหนึ่ง ก่อนหน้านี้หยางหยางก็เอาอารมณ์โกรธไปลงกับร้านเหล้า ผับบาร์และยังคว้าเอาสาวสวยที่ไหนเข้าห้องมาด้วย นั่นทำให้หยางหยางตเ้องโดนเทศนาและถูกพักงานซ้ำยังโดนกักบริเวณ หลังจากนั้นหยางหยางก็ทำตัวให้ดีขึ้น เหตุการณ์แบบนั้นลดลง ก็กลายเป็นว่าการระบายอารมณ์ของหยางหยางก็คือการลงกับข้าวของใกล้ตัวพวกนี้
"หยางหยาง ใจเย็นๆ หน่า นายแค่ปล่อยผ่านมันไป ถ้านายยิ่งโมโหมันก็ยิ่งเป็นผลเสียกับนายนะ คนทั้งกองมองนายกันหมดแล้ว หยุดบ้าซักที"
สุดท้ายหยางหยางก็ทำได้เพียงแค่นั้น ในกองถ่ายหนังนี้ก็เริ่มมีเสียงกระซิบกระซาบกันอีกครั้ง เขามองเห็นคนเหล่านั้น ...วงการนี้ช่างน่่ารังเกียจ....
ใบหน้าหล่อนิ่วหน้าและเครียดมากยิ่งขึ้น เขาหลบเข้ามาอยู่ในห้องพักสวนตัวและไม่พบใครอีกเลย ใช้ความคิด เขาเปิดดูข่าวลือล่าสุดที่เขาโดนกล่าวอ้าง บอกว่าเขาไปเที่ยวและคว้าผู้หญิงเข้าโรงแรม และยังบรรยากาศความเป็นเอสเอ็มของเขาเสียเหมือนตัวเองเคยอยู่บนเตียงกับเขา แถมท่อนสุดท้ายในบรรทัดที่สาม เป็นคำภาษาอังกฤษ ว่า he is very bad on bed
พร้อมทั้งแนบรูปรอยคิสมาร์กระยะใกล้จนเห็นเป็นรอยจาง ๆ แต่ไม่สามารถเห็นใบหน้าและอะไรอื่นนอกจากรอยคิสมาร์คตรงตำเเหน่งทีต้นคอนั้น เท่านั้น
เขาคิดไม่ตกว่าผู้หญิงคนไหนที่เคยควงด้วย กล้าทำกับเขาถึงเพียงและต้องการอะไร เขาเคยทำอะไรเอาไว้ให้ มีใครเเอบถ่ายไว้ด้วยหรือ เขาไม่เคยพลาดหากจะไปทำอะไรแบบนั้น ไม่เคยให้หลุดรอดไป
"บ้าเอ๊ย"
ยิ่งเหตุการณ์เกิดขึ้นเพราะเขาเป็นตัวการ ทางบริษัทจะไม่ช่วยเหลือหยางหยางใด ๆ ทั้งสิ้นและยังปล่อยลอยแพหยางหยาง ..เขาคิดว่าเขาคงไม่มีงานนอกจากละครและหนังเรื่องนี้ไปอีกพักใหญ่มาก
"หยางหยาง ... คุณโอเคนะ"
ทีมงานผู้ใหญ่คนนึงมาทักทายเขา แต่เพียงแค่เคาะประตูและส่งเสียงเข้ามา พระเอกหนุ่มไปเปิดประตูตามมารยาทอย่างน้อยเขาก็ไม่ควรทำตัวปั้นปึ่งใส่ใครในกองให้ถูกนินทาอีก
"โอเคครับ ขอบคุณมาก"
"ดีแล้ว ผมก็เป็นห่วงอยู่ เดี๋ยวจะทำการทำงานไม่ได้กัน ทีหลังก็ระวังบ้างนะ แต่ผมก็เข้าใจ ว่าคนหนุ่มก็มีบ้างที่คึกคะนอง "
ทีมงานผู้ใหญ่นี้เข้ามาเทศนาอย่างที่เขาคิด หยางหยางยอมรับฟัง เพราะนั่นอาจจะเหตุการณ์ที่ดูตึงเครียดในกองลดหายลงไปบ้างเพราะนั่นมันมาจากตัวเขาเอง
"ขอบคุณที่เป็นห่วงครับ"
"ไม่เป็นห่วงได้ไงก็เป็นนักแสดงในกองเรานี่ เห็นสาวๆ ข้างนอกเม้าท์กันอยู่ ว่าพี่ร่วมค่ายของคุณก็เป็นห่วง เขาเคยทำงานกับผมมาก่อน กับคุณผู้กำกับก็รู้จักกัน เขาโทรมาหาเมื่อกี้บอกว่าคุณ..อาจจะกำลังไม่โอเค ก็เลยเดินมาดูซักหน่อย"
ดูท่าทางคุณทีมงานคนนี้คงจะรู้เรื่องเหตุการณ์ทีเขาทำลายข้าวของก่อนหน้านี้แล้ว ทีมงานผู้ใหญ่ท่านนี้ให้กำลังใจเขาอีกครู่และตักเตือนหยางหยางในเรื่องที่จำเป็นและบอกให้เขาเข้าไปพักผ่อนทำอารมณ์ให้คงที่เสียก่อน
แต่...
พี่ร่วมค่ายโทรมาหา...
หยางหยางเบิกตาขึ้นมาเหมือนนึกอะไรที่คาดไม่ถึงออก อารมณ์โกรธมีมากยิ่งกว่าเมื่อครู่นี้เป็นเท่าทวี
ไอดีในแอคเค้าท์นั้น แม้จะเป็นไอดีที่ส้ร้างใหม่ และหาตัวกันลำบาก แต่ทางทีมงานของโซเชี่ยลนั้นก็ได้ทำการลบข่าวลือในแอคเค้าท์บ้าบอนั่นไปเเล้ว
ฮึ
มิน่าล่ะ.... รอยคิสมาร์คถึงคุ้นตาเหลือเกิน...
THISMAN
"เอ๊ะ..."
อี้เฟิงที่วันนี้ต้องนอนกองถ่ายลืมตาขึ้นเพราะมีเสียงประหลาดจากข้างตัวเขา แต่เมื่อพบว่าไม่มีอะไรเขาก็ละสายตาจากตำเเหน่งที่เสียงส่งมา คงไม่มีอะไร
"เฮ้อ ก็รู้สึกดีล่ะนะ"
วันนี้เขานอนที่ห้องพักคนเดียวส่วนทีมงานนอนที่เต้นท์ข้าง ๆ เพราะเขาบอกว่าอยากทำอารมณ์เพื่อเข้าฉากใหม่ที่จะถ่ายเช้านี้
เขาโกหก.... ที่จริง ก็อยากจะมีเวลาอยู่คนเดียว เพื่อยิ้มเยาะสะใจกับเรื่องที่ได้แก้เเค้นไปนั่นล่ะ
ไม่ได้ง่ายขนาดนั้นที่จะคิดวิธีแก้เกมส์กลับ แต่ก็ไม่ยากกที่จะคิดออกมา ไม่ยากที่จะทำ หลี่อี้เฟิงคนนี้มีเงินและพรรคพวกมากมาย เพราะเขาเข้าวงการมานานกว่าเจ้าซาตานนั่น เเละเรื่องนี้เขาเป็นต่อกว่ามาก
ทั้งข่าวที่เมคขึ้น ทั้งคำนินทากระซิบกระซาบทั้งหมดเพราะพลังในวงการ ความสัมพันธ์ที่อี้เฟิงได้สะสมไว้จากการเข้าวงการมาตลอด 8 ปี
... นายจะได้บาดเจ็บก้คราวนี้ล่ะ
"นาย..ช้าไปก้าวเดียวเองนะ หยางหยาง"
ใบหน้าหวานที่เป็นที่รักของทุกคน หน้าหวานที่ช่างออดอ้อน เปลี่ยนเป็นเอาอารมณ์โกรธและความรู้สึกมีชัยชนะเข้าไปแทนที่ความน่ารัก ตอนนี้หลี่อี้เฟิงอาจจะดูน่ากลัว ถ้าหากมีใครมาพบเข้า
คนคนนี้..หยางหยางทำให้เขาต้องร้ายขึ้น
อยู่ไกลแบบนี้ก็ดี จะไม่ไปพะวงว่าจะโดนทำร้ายเมื่อไหร่ สู้ทางกายไม่ได้ก็ต้องทางนี้ล่ะ หลี่อี้เฟิงเป็นต่อและชนะแน่นอน
"กระอักเลือดแทบตายไปแล้วมั้ง"
ใบหน้าหวานยกยิ้มขำ อี้เฟิงทอดกายที่เตียงสนามที่ปรับให้เอนยาว เพื่อให้คนหนึ่งคนนอนได้อย่างเต็มที่ เขาไม่นอนที่โซฟาเพราะมันไม่สบายเท่าที่เตียงแม้ความนุ่มจะฟองน้ำจะน้อยกว่า ร่างเพรียวยืดแขนบิดซ้ายขวา และถอนหายใจอย่างรู้สึกผ่อนคลาย
ที่จริงเพราะโซฟานั่นมีความทรงจำที่ไม่ดีอยู่...ก็เรื่องเมื่อวันนั้น ไม่อยากจะนั่งเลยด้วยซ้ำ
"หืม.."
อีกครั้งที่อี้เฟิงได้ยินเสียงประหลาดแบบเมื่อครู่ก่อนหน้านี้ เขาหันไปดูที่ต้นเสียง จนแล้วจนรอดก็ทนความอยากรู้อยากเห็นไมไ่ด้ ก็ต้องลุกจากเตียงสนามออกไปดู อี้เฟิงดันหลังให้ตัวเองลุกขึ้น เขาไม่ใส่รองเท้าและเดินก้าวไปไม่กี่ก้าว ตอนนี้เเสงน้อย เขาไม่ได้เปิดไฟไว้ เพราะกำลังจะนอน มีเพียงแสงที่เล็ดลอดจากภายนอกเข้ามาในเต้นท์ที่พักเพียงเท่านั้น
"เสียงอะไรกันนักหนา"
ไม่ช้าอี้เฟิงก็กลับรู้สึกเหมือนโลกหมุน
ร่างของเขาถูกโอบอุ้ม และฉุดกระชากอย่างไม่ปรานี แขนรู้สึกปวดเพราะแรงบีบ อี้เฟิงถูกเหวี่ยงลงที่โซฟาที่เขานึกปฏิเสธที่จะใช้มันเมื่อครู่นี้ เพราะมันเป็นที่ที่ทำให้อี้เฟิงต้องเสียเปรียบเจ้าซาตาน เจ้าคนใจร้ายคนนี้ที่อี้เฟิงนึกเกลียดอยู่ทุกครั้งที่เขาผ่านเข้ามาในความคิด ตอนนี้ร่างเพรียวพยายามดิ้นให้หลุดจากพันธนาการ คนที่กระทำไม่พูดไม่มีเสียงจากเขาเล็ดหลุดให้ได้ยินเลย เขาจึงไม่รู้ว่าคนคนนี้เป็นใคร แถมยังมืดสนิทไปแล้ว เพราะคนคนนี้ปิดทาง ปิดช่องที่เเสงจะเข้ามาได้หมด ตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
"ปล่อยนะ!"
ฝ่ายนั้นไม่มีเสียงอะไรตอบมาซักคำ แม้อี้เฟิงจะดิ้นแรงให้ตาย ใช้มือฟาดไปทั่วร่างของเขา แม้ใช้เท้าถีบยันไม่ใช่ร่างเขาเข้ามาใกล้ แต่ก็สู้แรงไมไ่ด้ ไม่เข้าใจว่าคนคนนี้ต้องการอะไร
"อยากได้อะไรเงินทอง หรือข้อความ ข่าวหรืออะไร บอกมาจะให้"
ไม่มีเสียงหรือความต้องการใด ๆ จากคนคนนี้ จากการคาดเดาอี้เฟิงรู้ว่าเขาเป็นผู้ชาย เพียงแค่นั้น จมูกอี้เฟิงสัมผัสกลิ่นอะไรไม่ได้ เขาเหมือนรู้ว่าต้องมาทำอะไรแบบนี้จึงปิดบังกลิ่นหรือน้ำหอมก็ไม่มีแม้แต่นิดเดียวที่อี้เฟิงจะจับจุดว่าคนคนนี้เป็นใคร และเขาก็ลงมือทำบางอย่าง
"..ยะ..หยุด"
คนคนนี้กำลังกระทำอย่างย่ามใจ ผิดมหันต์ที่อี้เฟิงไม่ส่งเสียงร้องออกไปเมื่อครู่เพราะกองคนทั้งกองแตกตื่น และไม่นานอี้เฟิงก็ถูกปิดปากด้วยจูบเร่าร้อนและรุนแรงจนทำให้เเผลที่ยังไม่ทันหายดีจากที่โดนเจ้าคนใจร้ายนั่นกระทำ มันเปิดฉีกเป็นเเผลใหม่อีกครั้ง จนเลือดซิบมุมปาก อี้เฟิงเบี่ยงใบหน้าให้พ้นแต่ก็ยังถูกซ้ำจูบไม่หยุด มือของอีกฝ่ายไล่สะเปะสะปะไปทั่วร่างจนทำให้อี้เฟิงต้องส่งเสียงประหลาดแบบที่ไม่อยากทำ
คนคนนี้..เหมือนเขากำลังเป็นบ้า
อี้เฟิงใช้เท้าพยายามยันถีบเขาออกไป แต่อีกคนคล่องตัวและหลบได้ เขาโน้มทั้งตัวลงมาทำให้อี้เฟิงไม่สามารถขัดขืนได้อีก เขาใช้ขาขัดและทับไม่ให้ขาอี้เฟิงเป็นอิสระทำร้าย อีกข้างกั้นระหว่างขาทั้งสองข้างของอี้เฟิง ให้ขาสองข้างของอี้เฟิงกางแยกออกจากกัน อีกฝ่ายยังจูบต่อเนื่องจนทำเอาอี้เฟิงแทบขาดอากาศหายใจ มือข้างหนึ่งกระทำอย่างชำนาญเหมือรเคยผ่านเรื่องแบบนี้มาแล้ว เขาปลดเปลื้องเสื้อผ้าเบาบางที่เป็นชุดนอนของอี้เฟิง เป็นแค่กางเกงขาสามส่วนและเสื้อกล้ามสีขาวเพียงตัวเดียว ชั้นในตรงส่วนล่างอีกตัว ไม่นาน อี้เฟิงก็ไม่เหลืออะไรที่ปกปิดร่างกายอีกเเล้ว ร่างกายนั้นสะท้านเพราะอากาศเล็กน้อย แต่หวาดหวั่นกับคนคนนี้ที่ไม่รู้จะทำอะไรต่อไปมากกว่า
แต่เขาก็พอรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้น
การกระทำหยางโลนแบบนี้ อี้เฟิงเกลียดมันมากที่สุด ต่อให้เขาจะต้องไปมีอะไรกับสาวที่ไหนก็จะไม่ทำอะไรหยาบช้าแบบนี้เด็ดขาด คนคนนี้กำลังปลุกปล้ำ จะใช้คำว่าข่มขืน..ก็ดูเหมือนคำนี้จะกรีดแทงใจอี้เฟิงเอง เขาถูกทำให้หมดแรงโดยจูบที่เหมือนกำลังวิญญาณอี้เฟิงจะออกจากร่างแม้ไม่อยากคล้อยตามแต่แรงของเขาหมดเอาเสียดื้อ ๆ มือของคนคนนี้จัดการส่วนอ่อนไหวของอี้เฟิงเสียจนตั้งรับกับความแปลกใหม่หลังจากนี้ ของเหลวสีขุ่นออกมาจากส่วนอ่อนไหวที่สุดในร่างกายของอี้เฟิง ถูกรีดเค้นครั้งแล้วครั้งเล่าด้วยมือจนหน้าท้องและคาดว่ามือและเสื้อผ้าของอีกฝ่ายคงจะเปียกชื้นไปด้วของเหลวนี้เช่นกัน เเละอีกฝ่ายเหมือนจะทนไม่ไหว จัดการปลดเปลื้องความต้องการของตัวเองบ้าง จนสึกได้รับรู้ว่ามีของเหลวของเขาเริ่มกระเด็นมาปะปนและเปื้อนอี้เฟิงด้วย ใบหน้าหวานเเหยเก ไม่ชอบใจ มองไปที่ร่างตรงกันข้ามเป็นแค่เงาก็รู้ว่าเขากำลังปลดเปลื้องแค่เสื้อผ้าท่อนล่างแต่ยังถอดไม่หมด คว้าเอาส่วนที่ตั้งชันจากความต้องการที่พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ แน่นอนอี้เฟิงรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นต่อไป แต่ร่างคนคนนี้ไวกว่า คว้าอี้เฟิงที่กำลังจะหนีออกจากโซฟาที่เกิดเหตุตรงนี้ไว้ได้ โอบเอวอี้เฟิงไว้แน่น อีกฝ่ายจับอี้เฟิงมานั่งบนตัก แต่ยังไม่เอาความต้องการของตัวเองสอดเข้ากับร่างกายเบื้องล่างของอี้เฟิง เมื่อไปนั่งตักเขาอี้เฟิงจึงรับรู้ความเต็มเปี่ยมของอารมณ์จากความชูชันของสิ่งนั้นใบหน้าของอี้เฟิงจึงรุ้สึกร้อนขึ้นมาอย่างเสียไมได้
ขนาดเวลาแบบนี้ยังไม่มีเสียงหลุดรอดออกมา เป็นใครกันแน่นะ ไอ้คนบ้ากามคนนี้
ไม่ทันได้คิดอะไรต่อไป จูบซ้ำ ๆ จากริมฝีปากที่ร้อนเป็นไฟก็ระดมจูบไปทั่วร่างอี้เฟิงอย่างไม่ทันได้ตั้งตัว ร่างเพรียวบิดเร่าบนตักของคนคนนี้ไปพร้อมจูบที่ไล่ย้ำไปทั่วทุกตารางนิ้ว เขาคนนี้ดูเหมือนจะเน้นตรงคอเป็นพิเศษ มันอาจจะซ้ำรอยเดิมของเจ้าคนใจร้ายหยางหยางนั่น แต่ยังไงจะรอยของใครก็ไม่ได้ทั้งนั้น อี้เฟิงกลั้นใจไม่ร้องไห้ให้มีน้ำตาแม้จะแค้นมากก็ตาม ตอนนี้เป็นเบี้ยล่างและทำอะไรไมได้ นอกจากรับจูบและสิ่งต่อไปที่กำลังจะเข้ามาสำรวจร่างกายของอี้เฟิง
คนคนนี้ใช้มือแกร่งบังคับให้ใบหน้าหวานของอี้เฟิงที่ยังไม่ทันได้นึกถึงความหวาดกลัวต่อไปเสียด้วยซ้ำ ให้หันมารับจูบร้อนกว่าเดิมเท่าตัว ปากของอี้เฟิงบวมและฉ่ำไปด้วยเลือดแล้ว จากการจูบนับครั้งไม่ถ้วน และในที่สุด
"อ๊ะ..อะ..โอ๊ย ..."
เป็นคำร้องอุทานที่น่าอายและไม่เป็นภาษา ฟังดูน่าเกลียดที่สุด
สิ้นสุดความคิดของอี้เฟิง...เเละต่อจากนั้นเป็นความรู้สึกที่ถ่าโถม แม้ไม่อยากคล้อยตามแต่เพราะถูกเล้าโลมมากเข้านานเข้า หลี่อี้เฟิงที่เป็นผู้ชายมักเกิดอารมณ์ทางเพศง่ายดายกว่าผู้หญิง เขาจึงแทบหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับคนคนนี้ ที่แม้จะกระทำกับหยาบช้ากับอี้เฟิงก็ตาม แต่ไม่สามารถต้านทานความต้องการอะไรได้อีกต่อไป ...ในส่วนก้นบึ้งของจิตใจ เมื่อถูกปลุกเร้าถึงขนาดนี้ อี้เฟิงไม่อยากยอมรับ แต่ว่าอยากได้..คนคนนี้เหลือเกิน
บ้า..บ้าเอ๊ย
คนคนนี้เป็นชายที่หยาบคายที่สุด อี้เฟิงคิด เขาใช้ทั้งเล็บข่วนทั้งมือทุบตี แต่เขาก็ไม่หยุดหยาบคาย ใส่ส่วนของร่างกายที่ไว้เพื่อสำรวจร่างกายของอี้เฟิงเข้ามาไม่ยั้ง ทั้งคับเเน่นแบะอึดอัด แต่อี้เฟิงไม่ปฏิเสธถึงความรู้สึกที่เหมือนไปท่องเที่ยวสวรรค์มา เสียงร้องครางดังทั่วเต้นท์ ดีที่ช่องทุกช่องที่สามารถทำให้เสียงหลุดรอดไปได้ ถูกปิดหมดแล้ว
"อะ..อ๊ะ เดี๋ยว..เจ็บ เจ็บเหลือเกิน อะ..อ๊ะ... พอ..พอก่อนได้มั้ย"
แม้จะดูเหมือนไม่นานแต่อี้เฟิงคิดว่าน่าจะเป็นเวลาเกือบชั่วโมงแล้วที่คนคนนี้ร่วมรักแบบขืนใจ..อี้เฟิงอยากพอเสียที คนคนนี้ในช่วงแรกนั้นเร่งเร้าจังหวะเร็วบ้างช้าบ้าง จนอี้เฟิงแทบคลั่ง มือของอี้เฟิงจึงข่วนซ้ำที่หลังเขา ตรงคอหรือที่อื่น ๆที่คว้าได้ หลังจากที่อีกฝ่ายทนความเร่าร้อนไม่ไหวจนต้องถอดเสื้อออกมา อี้เฟิงทุบซ้ำ ๆ เมื่ออีกฝ่ายใส่จังหวะรุนแรงจนส่วนนั้นของอีกฝ่ายเข้าไปลึกเกินไปจนเจ็บปวดกระทบไปทุกส่วนของร่างกาย พอเห็นว่าร่างกายของอี้เฟิงมีปฏิกิริยาตอบสนองเช่นนี้ คนคนนี้ก็ไม่ปรานีใด ๆ เร่งเร้าจังหวะไปจนถึงจุดสุดยอด พาขึ้นลงสวรรค์เป็นว่าเล่น ทำให้ของเหลวสีขุ่นเลอะไปทั่วไปร่าง ไม่ใช่แค่หนึ่งหรือสองแต่น่าจะมากกว่าสี่ ร่างกายอี้เฟิงเหนื่อยล้าเหลือเกิน เวลานี้มันควรจะเป็นเวลาแห่งการพักผ่อนไม่ใช่การทำอะไรน่าอายแบบนี้
"ปล่อยได้แล้ว..ไม่..อ๊ะ..พอ! ไม่มี..อ๊า...แรงแล้ว"
เสียงหวานขู่แต่อ่อยและค่อยเสียงจนเหมือนออดอ้อนให้ฟังเหลือเกิน แต่กระนั้นคนคนนี้ก็ไม่ยอมหลุดเสียงอะไรออกมาเลย แม้ตอนที่มีความสุขกันบนสวรรค์นี้ก็เเทบไม่ได้ยินอะไรเลย..หรือเพราะอ่ี้เฟิงแทบไม่สามาถรับรู้อะไรได้อีกก็ไม่แน่ใจ
แต่เหมือนอีกฝ่ายยังไม่สาเเก่ใจที่ได้รังแก เขาใส่ส่วนอ่อนไหวเข้ามาในร่างกายอีกครั้ง คราวนี้คนคนนี้กระทำนุ่มนวลกว่าก่อนหน้าที่ผ่านมา จนอี้เฟิงเคลิบเคลิ้มไปช่วงหนึ่งแต่ก็ตัดสติของตัวเองกลับมาได้ว่านี่ตัวเองไม่รู้ด้วยซ้ำกำลังทำบ้า ๆแบบนี้กับใครที่ไหนอยู่
แต่ฉัน...ไม่ร้องไห้ ไม่แน่ ๆ
อี้เฟิงคิดแบบนั้น เขาพยายามแข็งใจทุบตีอีกฝ่าย เขาได้ยินเสียงแล้วแต่เป็นแค่เสียงถอนหายใจ จนอีกฝ่ายต้องใช้ส่วนอ่อนไหวกระแทกเข้าไปในร่างกายอี้เฟิงให้หยุดดิ้นเสียที จนเขาจัดการความต้องการและปลดปล่อยมันในตัวอี้เฟิง ของเหลวนั้นมีมากเท่าความต้องการของเขา จนล้นช่องทางนั้นออกมาด้านนอก อี้เฟิงยิ่งรู้สึกอ่อนไหวร่างกายสั่นสะท้านเพราะความต้องการนี้ และอับอายไปพร้อมกัน
บ้าที่สุด.....
THISMAN
"เช้าแล้ว..."
เมื่อตื่นขึ้น ดีที่เขาสะดุ้งตื่นเสียก่อน เพราะเกิดนอนดิ้นทำของข้างตัวซักอย่างหล่น ซึ่งก็คือโทรศัพท์มือถือของอี้เฟิงที่ลืมทิ้งไว้บนโต๊ะข้างโซฟา และนี่ก็ยังเป้นเช้าตรู่ที่ยังไม่มีใครตื่นมา มีเเสงสว่างเล็ดรอดให้ได้เห็นทุกอย่างรอบตัว
น่าอาย.....ชะมัด
ร่างกายของเขาแทบขยับไม่ได้ ปวดระบมไปทุกส่วน มองแค่ส่วนล่างรอยคิสมาร์คมีไปจนถึงขาอ่อน ส่วนนั้นของเขาถูกคลุมปิดไว้ด้วยผ้าห่มที่พาดบนโซฟาอยู่แล้วก่อนหน้าเมื่อคืนนี้ บนตัวของอี้เฟิงเขาได้รับสัมผัสทั้งจมุกและมือ ของเหลวสีคุ้นตาที่ชายหนุ่มรู้จักดีเปราะเปื้อนไปทั่วตัว บนโซฟา และยังคั่งค้างภายใน
"โอ๊ย บ้าเอ๊ย"
ไม่รู้วิธีจัดการภายในแต่เขาก็ต้องจัดการภายนอกให้เสร็จ อี้เฟิงหาผ้าและทิชชู่แทบหมดกองมาทำความสะอาดที่เกิดเหตุแม้จะร่างกายของตัวเองจะปวดร้าวขนาดไหน จนเมื่อสะอาดทันก็รีบไปจัดการตัวเองในห้องน้ำ
ไอ้ของเหลวของอีกฝ่ายที่ยังคั่งค้างภายในอี้เฟิงไม่รู้วิธีจัดการกับมัน และมันก็ทำอี้เฟิงรู้สึกไม่สบายตัวเอามาก ๆ
"อี้เฟิง อาบน้ำอยุูหรือ"
พี่ผู้จัดการของอี้เฟิงมาตาม วันนี้แม้จะเป็นจะตาย คิวถ่ายก็ต้องดำเนินเพราะไม่สามาราถเลื่อนได้อีกเเล้ว เขาจึงกัดปาก จัดการเท่าที่ทำได้ และเมื่ออาบน้ำเสร็จก็กินยาแก้ปวดเพื่อระงับอาการไประหว่างวัน
และข่มความรู้สึกอับอายมากที่สุดในชีวิตไปทำงานในวันนี้
"วันนี้หยางหยางมากองแฮะ นายมีคิวเหรอ"
รุ่นน้องที่รักและอาฆาตของอี้เฟิงปรากฏตัวในวันที่ไม่มีคิวถ่าย เขาส่งเสียงร่าเริงว่าที่จริงแล้วมาทักทายรุ่นพี่เเละทีมงานคนอื่น ๆ เขาบอกว่าเพราะกองโน้นก็ไม่มีอะไรต้องทำเท่าไหร่แล้ว และพี่ ๆทุกคนก็ให้กำลัใจเขาในเรื่องข่าวที่ผ่าานมาไม่นาน
อีกฝ่ายหันมาพบกับสายตาอี้เฟิงที่มองอยู่ก่อน อีกฝ่ายิ้มส่งมาให้อย่างตั้งใจทำให้เขาโมโห มันเป็นรอยยิ้มที่ดูหลอกลวงสิ้นดี่
แต่สายตาพลันไปทันเห็นตรงคอของหยางหยาง เขาเห็นร่องรอยอะไรบางอย่าง..
รอยเล็บข่วน..
อี้เฟิงหวังไว้ว่าความเลวร้ายที่สุดในชีวิตจะไม่เลวร้ายกว่านี้ ..หวังว่าจะไม่ใช่ซาตานในคราวเทวดา..ไม่ใช่หยางหยาง
*/************************************************************TBC 4
TALK : เปลี่ยนลำดับตอนนิดหน่อย คิดว่า อินโทรมันไม่น่าจะดูเหมือนอินโทร มันควรเป็น 1 ไปเลย 555
นี่ก็เป็นตอน 3 แล้วเนอะ สาเเก่ใจท่านมั้ยคะ 5555555555555555555 /หลบ
ขอบคุณที่อ่านข่าว ถ้ามีท่อนไหนส่วนไหนของฟิคนี้แปลกๆไปก็ขอโทษด้วยนะค ไม่ถนัดสำหรับแนวนี้แต่แค่อยากระบาย อยากทำร้ายแมวน้อยเนอะว์
สมัครสมาชิก:
ส่งความคิดเห็น (Atom)
อันนี้คือพลิกมาบทคุณเทพบุตรในคราบซาตานมั่ง คือเราว่าอี้เฟิงเป็นคนเก่งในการแก้แค้น
ตอบลบของหยางจะออกแนวตรงๆแมนๆทำต่อหน้า อี้เฟิงคือซับซ้อนล่ะใช้เส้นสายอะ
คือดูมีอำนาจมากในการใช้คนมาก ตอนบรรยายที่หยางไปลงกับของนี่รับรู้ได้ถึงพายุโมโห
ต้องแค้นมากต้องโมโหและเกลียดมากอะ แล้วตอนจำได้ว่ารอบคิสมาร์สคุ้นนี่แบบ แก๊!
สัมผัสได้ถึงลางร้ายและความแค้นของหยาง................
ล่ะเฟิงก็ร้ายจริงๆนะตอนที่อยู่คนเดียวแล้วแบบอยากยิ้มสะใจได้ไม่ต้อปิดบังใคร
รู้สึกแบบเฮ้ย...คนนี้เขาก็ไม่ธรรมดานะ จริงๆแล้วเขาก็แค้นในแบบของเขา
แล้วเขาก็แก้แค้นในแบบเทพบุตรของเขาอะแหละ แต่ว่านะ............
เราสงสารเฟิงงงงงง แง่งงงงงง ยิ่งตอนที่แบบไม่ร้องไห้แน่ๆ คือต้องอดทนขนาดไหนอะ
แง่งงงงง รู้สึกเจ็บแทน /เดี๋ยวนะ ขอบคุณสำหรับฟิคเหมือนเดิมค่ะ