[Sfic] PRIVATE
SPACE
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : NC-17 ที่เกือบจะเป็น X อยู่เเล้ว....
*************************************************************************
“หยางหยาง ฉันชอบนาย! “
ไม่...ไม่กล้าบอกเขา...
“โอ๊ย แบบนี้หยางหยางก็ถูกคนอื่นแย่งไปพอดี
อี้เฟิงเอ๊ย แกมันงี่เง่า”
อี้เฟิงยกมือกลุ่มผมตัวเอง พูดว่าตัวเองอยู่นาน
ใบหน้าหวานง้ำงอจนเหมือนไปโกรธใครที่ไหน
ที่จริงเขาก็โกรธตัวเองนี้ล่ะ นั่งซ้อมบอกชอบเขาอยู่นาน ทำทุกแบบ แต่ไม่ได้ดั่งใจ อี้เฟิงคิดเอาว่าทั้งหมดที่ซ้อมไปดูใช้ได้แข็งบ้าง
ยั่วยวนเกินไปบ้าง หรือดูไม่น่าฟังแบบเมื่อครู่นี้บ้าง
ทั้งที่เขาเป็นรูมเมทของหยางหยางแท้ ๆ มีโอกาสมากกว่าใคร
ๆ แต่เพราะไม่เคยเปิดเผยความรู้สึกที่เก็บอยู่ในใจนานนับปี
“หยางหยางจะตอบตกลงผู้หญิงคนนั้นไปรึเปล่านะ”
วันนี้ทั้งมหาวิทยาลัยลือกันในทั่วไปหมดว่า
เดือนมหาวิทยาลัยปี2 กับดาวคนสวยปี2 แสนโด่งดังจากคณะวิศวกรรม
และคณะบริหารมีนัดกันหลังเลิกเรียนตอนเย็น
ฝ่ายหญิงเป็นคนนัดไป ดาวคนสวยคนนั้นเป็นตัวทอปของมหาวิทยาลัยด้วย
ถ้าหยางหยางตอบตกลงเป็นแฟนกับเธอ เพราะชอบกัน
อี้เฟิงคงไม่มีปัญญาทนนั่งดูหน้าเขาตอนที่อยู่ด้วยกันในห้องเล็ก ๆ
ของหอพักนักศึกษาแบบนี้หรอก มันปวดใจเปล่า
อี้เฟิงอาจจะหลบไปอยู่ห้องเพื่อนซักชาตินึง ให้ทำใจได้สียก่อน
แต่ตอนนี้เขายังไม่กลับ ที่จริงก็ไม่ได้ค่ำมืดดึกดื่นอะไร
แต่อี้เฟิงเร่งเวลาอยากให้เขากลับต่างหาก
“เห้ย ข้อความ!”
อี้เฟิงจำได้ว่าในกรุ๊ปไลน์แชทของเอกที่อี้เฟิงเรียนในคณะมนุษยศาสตร์
มียัยเพื่อนกลุ่นหนึ่ง
ที่บอกว่าวันนี้จะติดตามรายงานสดข่าวการสารภพารักของดาวบริหารกับหยางหยางเดือนสุดหล่อสามโลกของวิศวะ
วันนี้ ซึ่งก็มียิงไลน์ข้อความกันมาจนมือถือของอี้เฟิงแบตแทบหมด แต่ซักพัก็เงียบไป
ไม่รู้สถานการณ์เป็นอย่างไรบ้าง
"ไม่สำเร็จ หยางหยางไม่รับรักเธอ”
“เยส!”
อี้เฟิงยกกำปั้นเหนืออากาศร้องดีใจ
อย่างน้อยก็กำจัดเดือนคนสวยคนนั้นไปได้อีกหนึ่ง แต่หลังจากนั้น ข้อความที่เพื่อนสาวส่งมาก็พาใจกระตุกวูบอีก
ดีใจได้ไม่ทันไรก็ต้องหนักใจอีกซะแล้ว
“หยางหยางมีคนที่ชอบแล้ว”
เพื่อนสาวส่งแชทมาบอกในกรุ๊ปเอก
ทุกคนส่งอีโมติค่อนตกใจกันมาเต็มไปหมด อี้เฟิงก็ด้วย
แถมรัวสติ๊กเกอร์ใบหน้าตกใจทุกรูปแบบส่งไปจนเพื่อนบอกว่าเขาคลั่งไปแล้ว
และบอกให้อี้เฟิงใจเย็น ๆ แน่นอนเพื่อน ๆ
ในคิดว่าเขาก็คลั่งหยางหยางแบบที่สาวน้อยหนุ่มน้อยในมหาวิทยาลัยคลั่งกัน
แถมเป็นเมทกันอีกกอาจจะกรีดร้องในใจเป็นพิเศษ
ไม่เลยมันไม่ใช่ความรู้สึกตื้นเขินขนาดนั้น อี้เฟิงรักเขาหมดหัวใจเลยต่างหาก ยิ่งอยู่ใกล้ยิ่งอันตราย
ชอบเขามาตั้งแต่ทำสันทนาการปี 1 เป็นปีแล้วที่มีความรู้สึกนี้ผลิบานในใจ
ไม่อยากให้มันเหี่ยวเฉาไป และไม่มีทางเป้นแบบนั้นแน่
เพราะยิ่งอยู่ใกล้หยางหยางทุกวันแบบนี้ เขายิ่งมีความหวัง
แต่พอได้เห็นประโยคเมื่อกี้ ก็ทำเอาเขาเฉาไปเหมือนกัน
"ทำยังไง ฉันอยากบอกรักนายจะตาย
แต่ไม่กล้าทุกที เห็นหน้าก็เอ่ยปากไม่ออก คิดว่าถ้าหากตีตัวออกห่างไปตอนฉันบอกชอบ
โอยยิ่งคิดยิ่งปวดหัว”
รักเขามาเป็นปีแต่ไม่เคยมีโอกาสมีเลิฟซีนอะไรกับเขา
ทั้งที่อยู่ใกล้กันขนาดนี้ พักด้วยกันเป็นปีมีใกล้ที่สุดก็คือนั่งเอาหัวชนกันตอนหยางหยางติวเลขพื้นฐานที่ไม่ถนัดให้เพราะต้องใช้สอบ
หลังจากนั้นเขากับหยางหยางที่แทบไม่ค่อยได้เจอกัน
เนื่องจากเวลาเรียนและกิจกรรมของคณะตัวเอง เรียนกันคนละสายคนละแบบ
ไม่มีโอกาสพบกันมากเท่าไหร่ แม้วันหยุดก็มีเพียงไม่กี่ครั้งที่หยางหยางจะอยู่ห้องพักทั้งวัน
แต่แม้ว่าจะมีโอกาสแบบนั้น อี้เฟิงก็ทำตัวเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ดี
ไม่มีบทหวานอะไร ไม่มีสถานการณ์ชวนเต้นใจในระดับขีดสุด
มีแค่ในระดับเกือบไปแล้ว อย่างเดินชนกันในห้อง
หรือแม้กระทั่งเวลาที่หยางหยางอาบน้ำและออกมาทั้งที่พันผ้าขนหนูผืนเดียว
หุ่นหยางหยางสมส่วนดูดีอย่างไม่น่าเชื่อจนอี้เฟิงจะต้องเบนหน้าหนีไปเขินนอกห้อง
พอหยางหยางเขาเห็นก็จะสงสัย หรือเป็นอีกช่วงตอนอี้เฟิงไม่สบาย
ไม่มีแรงจะหวานแหววกับเขาแต่หยางหยางก็ทำตัวเป็นเพื่อนร่วมห้องที่ดี ดูแล หาข้าวหาน้ำมาให้กินและอี้เฟิงก็สลบไสลไปทั้งวันเพราะพิษไข้
จะหวานกับอะไร
และก็วนเป็นอะไรทำนองนี้ เจอกันทักทาย
พูดคุยกันอย่างสนิทในระดับเพื่อนเมท ปรึกษาการเรียนบ้าง
คุยเล่นหรือไปเดินเที่ยวที่ใกล้ ๆ บางทีหากสะดวกแต่ก็แค่นั้น
น้อยครั้งจริง ๆ โดยรวมแล้วไม่มีอะไรน่าประทับใจและบรรยากาศที่อยู่ด้วยกันเฉย
ๆ สุด ๆ อี้เฟิงไม่เห็นลู่ทางสว่าง หยางหยางไม่น่าจะใจอ่อนทำให้เขาตกหลุมรักตัวเองได้
อี้เฟิงไม่มีไม้เด็ดอะไรแบบนั้นด้วย ที่เสียหายคือหัวใจของอี้เฟิงเองต่างหาก
ตกหลุมรัก รักเขาชอบเขาซ้ำเล่าซ้ำเล่า จนหัวใจรู้สึกบอบช้ำแล้ว
“ แย่จังอี้เฟิงเอ๊ย แกชอบเขาขนาดนี้ “
พูดกับตัวเองจบก็ฟุบใบหน้าลงที่เค้าท์หน้าโต๊ะเครื่องแป้งอันเป้นทรัพย์สินของหอพัก
อี้เฟิงเหนื่อยกับเรื่องหัวใจของตัวเอง
เพราะดันไปหลงรักหนุ่มฮอตของมหาวทิยาลัยแบบนี้ ที่จริงนอกมหาลัยก็ป๊อบไม่แพ้กัน
คู่แข่งเต็มไปหมดทั้งสวยทั้งน่ารัก คงจะมีซักคนหลังจากที่ถูกใจหยางหยางและไปคบกัน
คิดแค่นั้นอี้เฟิงก็รู้สึกบีบหัวใจแล้ว
“หยางหยาง ฉันชอบนาย! ---- เห้ย!”
อี้เฟิงทดลองหน้ากระจกซ้อมอีกครั้งแต่ก็เหมือนมีเสียงไขกุญแจนอกห้อง
กำลังจะเปิดประตูเข้าห้องมา แน่นอน เจ้าของห้องอีกคนอยู่แล้ว
หยางหยางอยู่หน้าประตู ตากลมโตเบิกตากว้าง
อาการเลิกลั่นเพราะไม่รู้ว่าไอ้ที่พูดไปจะได้ยินมั้ย เพราะเสียงก็ดังน้อง
ๆตะโกนกันเลยทีเดียว หวังแต่เขาจะไม่สนใจ เพราะผนังห้องก็หนาพอสมควร
ประตูก็ไม่ได้บางขนาดนั้น หวังว่าเขาจะไม่ได้ยิน
“อ้าวอี้เฟิง วันนี้กลับเร็วแฮะ “
คนรูปหล่อเปิดประตูห้องมาเจอรูมเมทหน้าตาจิ้มลิ้มนั่งจุ้มปุกอยู่หน้าโต๊ะเครื่องแป้ง
ใบหน้านั้นเยเกนิดหน่อย เหมือนตกใจที่เขาเข้ามา
“นี่ผมมาขัดจังหวะคุณอ่านหนังสือสอบอยู่มั้ย"
“เห้ย ๆ ไม่ ๆ นี่ก็ห้องนายจะมาเกรงใจอะไร”
อี้เฟิงปฏิเสธพัลวันโบกมือตามยืนยันอีกคำ
คนรูปหล่อเดือนมหาวิทยาลัย เดินเข้ามาในห้อง
วางกระเป๋ากับอุปกรณ์การเรียนของตัวเอง ดูท่าทางเหนื่อยนิดหน่อย
แต่ก็ไมได้มาถึงขนาดจะฟุบสลบคาเตียงไปเลย
อี้เฟิงหลบไปนั่งที่โต๊ะเครื่องเขียนของเขาแล้ว
ห้องนี้แบ่งเป็นสองโซน สำหรับสองคน อุปกรณ์มีครบครัน
สำหรับเด็กหออย่างละสองชิ้นในห้อง
แต่เพราะพื้นที่นั้นจำกัดสร้างไว้เพื่อให้นักศึกษาอยู่กันหลายห้อง
ขนาดห้องนี้ก็ไม่ได้กว้างมากขนาดนั้น แค่ชายหนุ่มตัวสูง 180
แบบอี้เฟิงกับหยางหยางเดินกาวห้าหกก้าวใหญ่ ๆ ก็สุดมุมห้องแล้ว ห้องน้ำมีห้องเดียวแต่แยกโซนส่วนเพื่ออาบน้ำและอ่างล้างหน้า
มีพื้นที่ตรงกลางนิดหน่อยให้สองคนในห้องมีปฏิสัมพันธ์ที่ดี มีโต๊ะกลมกลางห้อง
เผื่อรูมมเทอยากจะกินข้าวหรือติวหนังสือหรืออะไรก็แล้วแต่ร่วมกัน
ไอ้ที่อ่านหนังสือหัวชนกันกับหยางหยางของอี้เฟิงก็โต๊ะตัวนี้ อี้เฟิงนึกขอบคุณมันเสมอ
เพราะหากจะได้ใกล้หยางหยางโต๊ะตัวนี้กับเก้าอี้ชุดสองตัวช่วยเขาได้เสมอ
เพราะอี้เฟิงไม่กล้าล้ำไปอีกฝั่งห้องแม้ไม่ไกลกันแต่นั่นก็ฝั่งส่วนตัวของหยางหยาง
หยางหยางเองก็ไม่ค่อยเข้ามาโซนของอี้เฟิง
หากไม่มีเหตุจำเป็นอย่างเช่นอี้เฟิงเคยไหว้วานให้หยางหยางกำจัดจิ้งจกบนหัวเตียงเขาบ้างบางครั้ง
อี้เฟิงไม่ชอบมันเอาซะเลย
ถึงเป็นรูมเมทกันอี้เฟิงก็มีระยะให้เพื่อนร่วมห้องของตัวเองมีพื้นที่ส่วนตัว
แต่อี้เฟิงก็ยังไหวหวั่นกับตัวเองทุกที
เพราะยิ่งชอบก็ยิ่งอยากไปอยู่ในพื้นที่ของเขา อยากเป็นคนส่วนตัวของเขาด้วย
แต่อี้เฟิงไม่กล้าเปิดเครื่องเดินหน้าล้ำไปในพื้นทีนั้น เพราะถ้าไม่สำเร็จ
การเป็นรูมเมทที่ดีของอี้เฟิงจะเป็นศูนย์ทันที
อี้เฟิงจะขอเปลี่ยนห้องแน่นอนในปีหน้า
“อี้เฟิง คุณเป็นอะไรรึเปล่าน่ะ ดูเครียด ๆ”
“เปล่า ๆ ไม่เป็นอะไร “
อี้เฟิงส่ายหัวเป็นพัลวัน
เขาถามอย่างนึกเป็นห่วง หลังจากที่เขาวางของจัดทุกอย่างเข้าที่
พลางเปลี่ยนเสื้อผ้าไปด้วย อี้เฟิงไม่ทันเขินเขาก็เปลี่ยนเสร็จพอดี
ร่างสมส่วนที่น่าสนใจนั้นผ่านตาอี้เฟิงบ่อยครั้งแต่ก็ใจเต้นทุกครั้งเหมือนกัน
พอเผลออีกทีก็พบว่าเพื่อนเมทรูปหล่อมองหน้าเขาอยู่
“ไม่เป็นแน่นะ มีเรื่องเครียดรึเปล่า?”
ก็เครียดเรื่องเอ็งนั่นล่ะว้อย
อี้เฟิงโอคครวญในใจแต่แสดงสีหน้าปกติ
หันไปสบตาเพื่อนร่วมห้องสุดหล่อในใจก็ไหวหวั่นเหลือเกินแต่แสดงออกอะไรไมได้
หยางหยางเดินข้ามมาหา ใบหน้าวหานเลิกคิ้วแปลกใจ และมือแกร่งนั้นก็แตะที่หน้าผากของอี้เฟิงเหมือนตั้งใจจะวัดอุณหภูมิร่างกาย
ร้อนสิวะครับ... อี้เฟิงครวญต่อในใจ
พอเพื่อนรูมเมทสุดหล่อละมือออกไป ก็นิ่วหน้า และเริ่มร่ายยาว ๆ ว่าเขาไม่สบาย
ที่จริงหยางหยางมีมุมขี้บ่นเป็นคุณพ่อเหมือนกัน เพราะเขาเป็นคนจิตใจดีเป็นห่วงอี้เฟิงเสมอ
ไอ้ที่วัดไข้ก็ไม่ใช่ครั้งแรก เขาทำตัวใจดีให้อี้เฟิงหลงรักบ่อย
ๆนี่ก็เป็นสาเหตุที่อี้เฟิงชอบเขามาจนทุกวันนี้
“อี้เฟิง นี่ยา
แล้วข้าวจะโทรสั่งร้านข้างมหาลัยให้เอามาส่งให้ เอาอย่างเดิมที่นายชอบกินโอเคนะ
ดูแลตัวเองหน่อยสิ” เพื่อนเมทแปลงร่างเป็นคุณพ่อขี้บ่น
พลางยกโทรศัพท์กดโทรออกหาร้านข้าวที่บอก
บ่นจบก็สั่งข้าวให้อี้เฟิงวางสายไปก็ไปจัดแจงยาให้วางไว้บนโต๊ะทำงานของเอนเมทหน้าหวานก่อนจะหันเก้าอี้มานั่งตรงกันข้ามกับอี้เฟิง
ที่นั่งอยู่ที่เก้าอี้ของตัวเองอยู่ก่อนแล้ว แต่ร่างนุ่มนิ่มนั่งโดยหันหน้าเข้าหันผนักพิงขัดสมาธิขาตัวเองบนเก้าอี้ไว้
“อะไรเล่า”
"คุณมีเรื่องเครียด”
“ก็นิดหน่อย”
“เล่ามาจะฟัง เผื่อได้ช่วยกัน”
จะบอกได้รึไงว่า เครียดเรื่องนายนั่นล่ะ
อี้เฟิงบ่นต่อในใจอีกแล้ว
ใครมันจะไปบอกได้ว่าเครียดเรื่องหัวใจและเพราะเอ้.....ด้วยที่ทำให้เป็น
ปากเรียวอุบอิบไม่บอกให้เต็มปาก แต่แค่บอกว่าเป็นเรื่องหนักใจอยู่พอควร
ใบหน้าหวานแนบลงกับผนักพิง หลบสายตาคาดคั้นจากหยางหยาง
หล่ออยู่แล้วยังมาจ้องตากันแบบนี้จะให้หลงไปถึงไหน
ว้า อี้เฟิงบ่นต่อไป
“เฮ้อ ไม่มีก็ไม่มี แต่ถ้าอยากบอก
ผมต้องได้ยินจากคุณเป็นคนแรกโอเคนะ”
“เออรู้แล้ว พ่อเดือนมหาลัย”
“อี้เฟิง อย่าเรียกแบบนั้นสิ”
“ก็นายเป็นไม่ใช่รึไง”
“ก็ไมได้อยากเป็นซักหน่อย แต่ผมหล่อนี่”
อี้เฟิงยิ้มให้กับความหลงตัวเอง
ไอ้มุมขี้เล่นแบบนี้ของหยางหยางมีแต่เขาที่ได้เห็น อยู่นอกห้องไปหยางหยางจะขรึมและค่อนข้างเงียบ
เป็นบุคลิคประจำตัวอยู่แล้วจะขี้เล่นกับคนที่สนิท
และอี้เฟิงก็มั่นใจล่ะว่าตัวเองสนิทกับหยางหยางในระดับหนึ่ง
ถึงได้คิดมากเพราะความรักของเขาแทบเป็นไปได้ลำบาก
เส้นเพื่อนคั่นความรักของเขาหนักมาก จะฝ่าไปอย่างไร
“เห็นว่าวันนี้มีดาวคนสวยไปสารภาพรักกับนาย
?” อี้เฟิงเอ่ยถามเรื่องที่รู้อยู่แล้ว บอกต่อว่ารู้มาจากเพื่อนสาวๆ เขาเมาท์กัน หลังจากคิดอยู่ซักพัก
ดีที่หยางหยางสร้างบรรยากาศการสนทนามาก่อน
เขาเลยมีลู่ทางพูดเรื่องนี้อย่างน้อยเขาก็อยากเห็นปฏิกิริยาของหยางหยาง
“อือ แต่ผมปฏิเสธ ก็มีคนที่ชอบแล้วนี่ “
หยางหยางบอกเขาดังนั้น
ตอนนี้อี้เฟิงเงยหน้ากลับมามองเพือนเมทรูปหล่อดังเดิม
แต่แววตาของฝ่ายตรงกันข้ามของอี้เฟิงมองอย่างมีความหมาย
หยางหยางสบตาเขาด้วยสายตาที่มีอะไรซักอย่างอยากจะบอก ไม่ค่อยแน่ใจ ไม่รู้เลยดีกว่า
อี้เฟิงนิ่วหน้าใส่ คนรูปหล่อจึงเผยยิ้มแสนเท่ให้กระตุกใจแมวน้อย
“ถามได้มั้ยเนี่ยว่าใคร”
“อยากรู้จริง ๆ ใช่มั้ย ?”
“ไม่อยากรู้แล้วก็ได้”
อี้เฟิงหลบตาเพื่อนเมท
เขามองอี้เฟิงแบบนั้นจนทำให้เขินขึ้นมาจริง ๆ
หยางหยางเห็นปฏิกิริยาเพื่อนเมทของเขาแบบนั้น เขาเผยยิ้มออกมาโดยที่อี้เฟิงไม่เห็น
แมวน้อยคนนี้ไม่สู้สบตาเขา ก็เพราะหยางหยางตั้งใจทำให้เขาเขิน
ก็เพราะบอกชอบทางสายตาไปแล้ว
แต่อี้เฟิงดูเหมือนอ่านไม่ออก ไม่เป็นไร
เขาได้ยินคำบอกรักของอี้เฟิงที่ตะโกนอยู่คนเดียวในห้องจากนหน้าประตูแล้ว
นั่นก็ทำให้หยางหยางมั่นใจในตัวเองยิ่งขึ้นไปอีกว่าเขาจะทำสำเร็จ
คว้าหัวใจเพื่อนรูมเมท
ทำให้เพื่อนคนน่ารักให้กลายมาเป็นแฟนเขาให้ได้
คนอะไรน่ารักชะมัด...หยางหยางพูดกับตัวเองในใจ
อี้เฟิงเป็นคนน่ารักที่มัดหัวใจหยางหยางได้ตั้งแต่แรกเจอ
เขาลอบมองอี้เฟิงก่อนที่อี้เฟิงจะมาพบกับเขาเสียอีก ช่วงแรกเข้ามหาวิทยาลัย ที่ปี
1 ทุกคนจะต้องมารวมกันเพื่อเข้าพิธีเปิดภาคเรียน
เขาหันไปพบกับคนน่ารักที่ยิ้มสดใสท่ามกลางเพื่อนของเขา
นั่นก็ทำให้หยางหยางรู้แล้วว่า สี่ปีเป็นต้นไปนี้เขาควรจะทำอะไรดี
และโชคดีไปอีกที่มีโอกาสเป็นรูมเมทกับหลี่อี้เฟิงคนนี้
โอกาสทองของเขาที่จะขโมยหัวใจแมวน้อยมา ทั้งที่อยู่ในห้องพักเดียวกันแต่โซนความเป็นเพื่อนมันกว้างมาก
แต่เขาก็พยายามที่จะทำลายมัน หากแต่ไม่สบโอกาส การได้อยู่ใกล้ๆ คอยดูแลไปเรื่อย ๆ
อย่างน้อยก็เยียวยาใจหยางหยางได้
เขาก็ทำสำเร็จแต่ก็นานอยู่เป็นปี อีกฝ่ายชอบเขาเหมือนกัน
แม้ดูไม่แฟร์ที่อี้เฟิงขโมยใจเขาไปก่อนแต่นี่ก็ดีมากเหลือเกินแล้วที่อี้เฟิงรักเขาเหมือนกัน
ใบหน้าหล่อหันตามไล่ไป
อี้เฟิงหันเบี่ยงหลบแล้วหลบอีก เพราะหยางหยางส่งสายตาประหลาดมาให้
จนสุดท้ายต้องเอามือยันหน้าหล่อ ๆของหยางหยางให้กลับไปอยู่ที่เดิมซะ
หยางหยางเลิกแกล้งเสียที แ
“อี้เฟิง..รู้ได้แล้ว ผมมองคุณด้วยสายตาแบบนี้
คุณเขิน คุณเข้าใจแล้วใช่มั้ยว่า ผมคิดอะไรกับคุณอยู่”
อี้เฟิงไม่ตอบอะไรได้แต่ฟุบใบหน้าลงกับผนักพิงของเก้าอี้
"ไม่เห็นจะรู้ด้วยเลย"
"รู้เถอะ คุณนั่นล่ะ คุณ..หลี่อี้เฟิง
ที่นั่งเขินอยู่ตรงหน้านี่ไง"
โอย พอเเล้ว รู้แล้วตั้งแต่สายตานั่นเเล้วไม่ต้องย้ำ
ขอเขินซักประเดี๋ยวได้มั้ยวะ!
อี้เฟิงพูดสบถในใจ เขาไม่เข้าใจหยางหยางในสายตาแรก เพราะเป็นเพื่อนกันอยู่นานจึงเข้าใจและกั้นเส้นในแค่พื้นที่เพื่อน
แต่หยางหยางยังส่งสายตาผ่านถึงอี้เฟิงต่อมา อย่างชนิดที่เส้นเฟรนโซนกั้นความรักสะบั้นกระจาย
ทั้งหวานทั้งรุ่มร้อนหัวใจอี้เฟิงนัก เเถมคำพูดบอกรักก็น่ารักน่าหยิกเหลือเกินน
รู้แล้วว้อย!
อี้เฟิงสบถอีกครั้ง เขาดีใจจนทำอะไรไม่ถูก แต่ไม่อยากแสดงอาการมาก
เจ้าหมอนี่เจ้าหน้าหล่อนี่แสดงความรู้สึกทางสายตาเก่งมาก หลัง
ๆมาที่สนิทกันก็กลายเป็นมองตากันก็เข้าใจความหมายที่อีกฝ่ายจะสื่อแล้ว
แต่เรื่องนี้เหนือความคาดหมายโครต ๆ จากที่อี้เฟิงคิด
ไม่คิดว่าหยางหยางจะบอกรักเขาผ่านสายตานั้น
แววตาที่เคยจ้องมองสบตากันอยู่ทุกวัน ปิดบังความรู้สึกเก่งชะมัด
“นายชอบฉัน ?”
“ไม่เลยอี้เฟิง รักเลย ผมรักคุณ”
“โอ๊ย พอก่อนหยางหยาง ฉันดีใจจนตัวจะลอย”
อี้เฟิงพูดติดตลก ใบหน้าหวานขึ้นสีแล้ว
เขาเงยหน้าจากผนักพิงเก้าอี้ช้อนตามองหยางหยางที่อยู่ตรงข้ามแต่ใกล้กันมไม่กี่คืบ
อีกฝ่ายส่งสายตาไหวหวั่นมาให้
“คุณก็ชอบผมเหมือนกันใช่มั้ย? ได้ยินที่ตะโกนจากหน้าห้อง”
“เห้ย ได้ยินเหรอ น่าอายชะมัด”
หยางหยางหัวเราะออกมา เพราะอี้เฟิงทำหน้าตาเลิกลั่ก
เผลอทำตัวเอง ซ้อมบอกรักอยู่หน้ากระจก แต่พอตัวเจริงมาก็ไม่กล้าพูด
มือแกร่งยกลูบกลุ่มมผมนุ่มนิ่มเบา ๆ แล้วทำตามใจอยาก
“ลุกขึ้นหน่อยสิอี้เฟิง
ทีนี้ผมจะพาคุณเข้าพื้นที่ส่วนตัวผมแล้ว ในหัวใจผม ไม่สิ
ที่จริงคุณเข้ามาตั้งนานแล้ว แต่นี่ถือเป็นการเปิดตัวอย่างเป็นทางการ”
คนน่ารักทำตามที่เพื่อนรูมเมทที่จะกลายเป็นแฟนบอก
เดินตามเขาไปที่โซนของหยางหยาง อีกฝ่ายคว้ามืออี้เฟิงไปด้วย
พร้อมให้อี้เฟิงนั่งลงที่ขอบเตียง
“เห้ย! “
ไม่ทันไรหมาป่าก็ออกลาย
หยางหยางผลักไหล่ให้อี้เฟิงนอนราบกับเตียงลงไป
ใบหน้าหวานตกใจเลิกลั่นตามสไตล์อีกแล้ว หยางหยางยิ่งชอบใจไปใหญ่
“เปิดตัวอย่างเป็นทางการ ว่าวันนี้คุณเข้ามาในพื้นที่ส่วนตัวของหัวใจผมเรียบร้อย
หลังจาก.นี้...ก็ถือเป็นงานเลี้ยงหลังเปิดตัว”
“เดี่ยวหยางหยาง เดี๋ยวสิ...อะ ..อื้อ”
ไม่ทันได้ห้ามอะไร หยางหยางประกบจูบเร่าร้อนให้
คิดว่าเขาเป็นคนทนทานต่อความน่ารักมากหรืออย่างไรกัน ?
หยางหยางห้ามใจตัวเองไม่ให้จับเพื่อนรูมเททคนน่ารักเกินพิกัดปล้ำทุก
ๆ วัน เขาต้องห้ามใจตัวเองแบบนี้ไป เพื่อไม่ให้คนน่ารักของคนตกใจ
มุมมืดของหยางหยางก็น่ากลัวใช้ได้
เพราะบางทีที่อี้เฟิงไม่อยู่ของก็แอบล้ำไปพื้นที่ฝั่งอี้เฟิง
เข้าไปนั่งอยู่พื้นที่ของเขา หวังจะเป็นคนในพื้นที่ส่วนตัวของเขาบ้าง
แต่ไม่คิดว่าจะได้เป็นจริง ๆ หยางหยางดีใจจนตัวแทบลอย เมื่อได้ยินอี้เฟิงตะโกนออกมาจากในห้อง แต่ก็ต้องแสร้งทำเป็นขรึมเก๊กเท่ไว้ก่อน
“อะ..อื้ม ขอหายใจก่อน”
“แป๊บเดียวนะ”
หยางหยางให้เวลาว่าที่แฟนร่วมห้องได้หายใจ
เขาประกบจูบคนน่ารักเพราะดีใจ นานเท่าที่เขาจะทำได้และคนใตร่างในประท้วงขออากาศ
หยางหยางรุกลิ้นร้อนสอดเข้าโพรงปากที่ฉ่ำไปด้วยน้ำหวาน
และอี้เฟิงก็ไม่ใช่คนจูบเก่ง
จึงเป็นผู้ตามที่ดีถูกหยางหยางพาขึ้นลงสวรรค์เพียงแค่จูบ
ตากลมโตฉ่ำไปด้วยอารมณ์แล้ว เขารู้ว่านั่นเป็นอารมณ์แบบไหน
แน่นอนว่าเขาเองก็คงไม่แพ้กัน ก้มมองดวงตานั้นใกล้ ๆ
และประกบจูบอีกทีอย่างกระหายความหวาน ลิ้นร้อนแทรกพ้นเกี่ยวให้อีกคนตามเขามาติด
มือไม้ของอี้เฟิงเกาะกดที่ไหล่ของหยางหยางไว้จนเขาเจ็บแต่ไม่ได้สนใจอะไรไปมากกว่าความหอมหวานจนติดใจของอี้เฟิง
มือไม้ของหยางหยางต่างหากที่อยู่ไม่เป็นที่
ไล้ลูบส่วนที่อี้เฟิงจะวาบหวาม ให้พร้อมทำสำหรับงานเลี้ยงอย่างที่เขาบอก
“หยางหยาง..เดี๋ยวสิ”
“หืม ? ว่าไงครับ ?”
อี้เฟิงเม้มปากกลั้นอารมณ์ เพราะจู่
ๆ ก็ได้ยินหยางหยางพูดเพราะเสียงทุ้มแสนเสน่ห์นั้นทำให้เขาหลงใหล
และไม่ไหว อี้เฟิงกลั้นยิ้มไม่อยู่เขาเขินออกมาอย่างเปิดเผย
“บอกรักให้ฟังอีกครั้งได้มั้ย
แต่แฟร์ ๆ กันนะ จะบอกคืนเหมือนกัน”
ใบหน้าหล่อยิ้มรับ และทำอย่างทีอีกฝ่ายร้องขอ
“ผมรักคุณ หลี่อี้เฟิง รักคุณ ..”
อี้เฟิงส่งเสียงหัวเราะขวยเขินที่ได้ยิน
หยางหยางจูบเข้าที่ขมับครั้งหนึ่งเตือนให้อีกฝ่ายไม่เบี้ยวนัด
ใบหน้าหวานส่ายหน้าไปมา เขินจนถึงที่สุดแล้ว สีแดงระเรือบนใบหน้านั้นบอกได้ดี
"รัก..ฉันรักหยางหยางที่สุดเลย”
พอจบคำก็มีจูบที่สามเกิดขึ้น
ครั้งนี้เป็นจูบที่ปลุกเร้าอารมณ์ต้องการแล้ว
มือของอี้เฟิงเลื่อนจากไหล่เป็นโอบรอบคอของหยางหยาง
มือไม้ของหยางหยางก็ไล้ลงไปส่วนล่างเริ่มปลดเปลื้องสื้อผ้าคนใต้ร่างให้ว่องไวตามความอยากของอารมณ์
“อี้เฟิง..ถอดเสื้อให้หน่อย”
พอถถอนจูบร้อนออกมา
คำร้องขอที่อี้เฟิงรู้สึกเขินแล่นปราดมาแดงระเรื่อที่ใบหน้า
หยางหยางลุกขึ้นนั่งเต็มตัว อี้เฟิงก็ตามมา
แต่เขาเพิ่งสังเกตว่าท่อนล่างของเขาเปลือยเปล่าเสียแล้ว
ตากลมโตสำรวจพบว่าเสื้อผ้าส่วนไปกองที่พื้นตั้งแต่เมื่อไหร่ก็ไม่รู้
มือเล็กจึงตีแขนแกร่งนั้นทีหนึ่งให้หายเขิน
เปลือยแบบนี้แถมเบื้องล่างยังโชว์ส่วนสัดทั้งหมดอีกส่วนนั้นของอี้เฟิงเริ่มนูนรั้นขึ้นมา
ปลายยอดเริ่มฉ่ำน้ำของตัวเอง เพราะแค่จูบดูดวิญญาณของหยางหยางสามจูบเมื่อครู่นี้
“ไอบ้าเอ๊ย”
“อี้เฟิง..”
“รู้แล้ว ๆ จะทำเดี๋ยวนี้ล่ะ”
มือนุ่มนิ่มนั้นสั่นเล็กน้อยเป็นการบอกอารมณ์ในใจตอนนี้อย่างดี
เขาประหม่าและกลัว ช่วงที่อี้เฟิงกำลังถอดเสื้อให้
เสื้อของหยางหยางเป็นเชิ้ตสีขาวจึงต้องแกะกระดุมทีละเม็ดอย่างยากเย็น
มือสั่นแล้วสั่นอีก แต่ก็พยายามแกะกระดุมให้ครบและเผยร่างสมส่วนชวนหัวใจหวั่นไหวออกมาแก่สายตาอี้เฟิง
หยางหยางถอเสื้อออกเหลือเพียงท่อนล่าง
ก่อนนั้นหยางหยางจูบที่ปากเรียวสวยนั่นอีกครั้ง
และบุ้ยใบ้ให้คนน่ารักช่วยเขาเรื่องกางเกงด้วย
“ทำเองซี่”
“หน่า..นะ ช่วยผมหน่อยคนเก่ง”
พอได้ยินเสียงอ้อนนั่นก็อดใจอ่อนไม่ได้ อี้เฟิงก็ทำตามที่เขาบอก
มือยิ่งสั่นเรื่อย ๆ ตามอาการประหม่าที่มากขึ้น มือเล็กปลดกระดุมกางเกงของหยางหยาง และรูดซิบกางเกงลงช้า ๆ
ถึงใต้กางเกงนั้นยังมาชั้นในสีสะอาดคั่นบางอย่างที่ตื่นตัวแล้วของคนรูปหล่ออยู่
อี้เฟิงเขินอายอย่างไม่เคยเป็นมาก่อน แต่อยากรู้ว่าบางอย่างนั้นของหยางหยางจะมากมายขนาดไหน
ทำตัวเหมือนแมวน้อยได้ของเล่นใหม่
..ได้จะให้แมวน้อยได้เล่น.....หยางหยางคิดจบก็คว้าเอวให้อีกฝ่ายขยับชิดมาใกล้เขาจนอยู่ในระดับลืมหายใจ
ตอนนี้เฟิงเหลือเพียงเสื้อผ้าท่อนบน หยางหยางไม่ได้ถอดมันออก
ครั้งแรกอี้เฟิงอาจจะเขินอาย คงไว้ก่อนแล้วค่อย
ๆถอดออกหลังจากนี้ก็ไมได้เสียหายอะไร
“ผมรักคุณ หยางหยางรักอี้เฟิงมาก รู้มั้ย”
“อือ “
เรือนร่างบอบบางของอี้เฟิงร้อนรุ่มขึ้นเรื่อย ๆ
หยางหยางจูบซ้ำอีกครั้ง ให้อีกคนเริ่มติดตามเขาไปสวรรค์แล้ว
ลิ้นร้อนตวัดเก็บความหวานอีกครั้ง จูบครั้งนี้ร้อนแรงจนเสียงดังให้ได้ยิน
ฟังดูวาบหวามในใจ พอถอนจูบ หยางหยางเห็นแมวน้อยในอ้อมกอดหน้าแดงไปหมด
สายตาคมกริบพานไปพบส่วนล่างของคนน่ารักที่เริ่มเชิดรั้น
มีหยาดน้ำสีขาวขุ่นออกมาเรื่อย ๆ
“อี้เฟิง... ช่วยผมหน่อย”
อ้อนให้อีกฝ่ายฟังอีกครั้ง จนอี้เฟิงอ่อนใจ
คว่ำปากลงอย่างถอนใจและยอมแพ้ เจอคนหล่ออ้อนกันแบบนี้เขาทนไม่ไหวริง
ๆจึงรับคำขออันตื่นเต้นของเขา แล้วก็จัดการบางอย่าง
สิ่งที่ใส่ครอบส่วนนุั้นของตัวเอง..หยางหยางไม่เข้าใจว่าจะยื่นไปให้เขาทำไม
เพราะสุดท้ายแล้ว เขาอยากให้อีกคนลิ้มชิมรสหยาดหยดจากเขามามากกว่าและอยากสัมผัสเรือนร่างนี้ให้มากที่สุด
จึงรู้สึกขอโทษอี้เฟิงที่ครั้งแรกอาจจะต้องถึงใจเสียหน่อย
พอมือแกร่งเลื่อนมาจับส่วนนั้นของตัวเอง
ใบหน้าหล่อยิ้มส่งให้หล่อถึงใจอี้เฟิงจนแทบละลลาย
ก่อนหยางหยางจะบอกใบ้ให้อีกครั้ง โดยจัดการรั้งชั้นในของตัวเองลงต่ำลงไป
เผยให้เห็นของบางอย่างของตนเองสุ้สายตแมวน้อย
แววตากังวลนิดหน่อยแต่ก็ตื่นเต้นไม่แพ้กัน ร่างนั้นเผลอใจอย่างลืมตัว
โน้มก้มลงมาครอบครองส่วนั้นของหยางหยางจนเจ้าของต้องร้องครางให้ได้ยินว่าพึงพอใจขนาดนไหน
“ดี..อี้เฟิง..อา..”
เสียงครางอือในคอของอี้เฟิงดังมาจากเบื้องล่าง
หยางหยางนั่งพิงหัวเตียงให้อีกฝ่ายเล่นของเล่นใหม่ของเขาได้ตามใจ
ปากเรียวสวยรูดรั้งความต้องการของหยางหยางขึ้นลงเป็นจังหวะที่ไม่สม่ำเสมอนัก
อาจจะเพราะไม่เคยทำมาก่อน หยางหยางไม่ได้นึกโทษอะไร
เขาให้แมวน้อยเล่นตามใจอยากทำอะไรให้สมใจอยากแต่ช่วยเขาให้ไปถึงสวรรค์ก็พอ
“อา...อี้เฟิง...เร็วอีกนิดได้มั้ยครับ”
ดังตามที่ขอตอนนี้แมวน้อยเชื่อฟังเต็มที่รูดรั้งให้เร็วขึ้นตามีที่บอก
ปากเรียวสวยคาส่วนนั้นของหยางหยางไว้ สอดมันเข้าออกโพรงปากอย่างนึกสนุก
แมวน้อยเริ่มสนุกแล้ว จึงแกล้งเจ้าของโดยเร่งความเร็วให้ดังตามที่ขอแต่ชะลอให้ช้าลงจนอีกฝ่ายแทบคลั่งจนต้องยกมือแกร่งมากดหัวให้แมวน้อยช่วยจัดการให้เขาไปถึงฝั่งที
อี้เฟิงก็ยังสนุกไม่หาย จึงใช้ฟันซีเล็กครูดไปตามเนื้อของส่วนนั้นของหยางหยางเบา ๆ
ตอนถอนความเร็วขาออก เจ้าของแทบเป็นบ้าตาย
เหมือนโดนแมวน้อยแกล้งซ้ำ ซ้ำยังตวัดลิ้นเลียตรงปลายยอดให้วาบหวาม
จนในที่สุดเขาก็ปลดปล่อยของเหลวครั้งแรกออกมาให้แมวน้อยได้ชิมรสชาติ ปากเรียวเล้กที่ยังค้างคาอยู่ตรงปลายยอดใช้ลิ้นเลียตวัดเก็บน้ำขุ่นขาวนั้นของหยางหยางไปด้วย
ใบหน้าหวานนิ่วหน้าเมื่อได้รับรสชาติแปลกใหม่ และจุดยิ้มสวยยั่วยวนเป็นแมวน้อยทีเริ่มมีอารมณ์สนุก...อืม..ให้เรียกแมวยั่วสวาทก็ได้แล้ว
และเมื่อเสร็จตรงนี้
หยางหยางชายตาไปมองเบื้องล่างของอี้เฟิงที่เริ่มปลดปล่อยหยาดเล็ก ๆ
ออกมาต่อเนื่องแล้วเหมือนกัน กลัวแมวน้อยจะอึดอัด เขาก็อยากจะช่วย จึงต้องรีบ
“เร็ว...เร็วเข้าสิ...ไม่งั้นจะไม่ให้ทำนะ”
“ครับ ตามบัญชาเลย”
หยางหยางจุดยิ้มหล่อเหลาพร้อมรับคำสั่งก็เริ่มต่อจากนั้น
ร่างสมส่วนของหยางหยางทาบลงไปโน้มให้อี้เฟิงนอนราบไปบนเตียง
แตะมือที่ขาเรียวสวยเบา ๆ เป็นสัญญาณในเปิดทางให้หน่อย
อี้เฟิงจึงกางองศาขาให้กว้างขึ้น สะดวกมากขึ้น
มือข้างหนึ่งคว้าขวดเจลเปิดมันออกด้วยมือเดียวและใช้นิ้วมือสอดตวัดออกมาเล็กน้อย
และจัดการให้มันไปอยู่ตรงที่ที่ควรอยู่ นิ้วมือเรียวยาวปาดแตะมันที่ทางเข้า
ช่องทางที่เข้าจะมีความสุขด้วยกันบนเรือนร่างของอี้เฟิง
ความรู้สึกวาบหวามท่วมท้นจนอี้เฟิงจะต้องจิกเล็บบนหลังหยางหยางบอกความรุ้สึกได้เป็นอย่างดี
“อื้อ....อื้ม... “
พอได้จัดการทางเข้า
นิ้วเรียวยาวสอดเข้าสู่ช่องทางนั้นอย่างย่ามใจ เข้าออกอย่างมีจังหวะ
จากสองนิ้วเพิ่มเป็นสามนิ้วแถมยังเพิ่มจังหวะเข้าออกให้เร็วขึ้นด้วย
หยางหยางเร่งให้อีกฝ่ายเริ่มไปถึงสวรรค์ชั้นแรกด้วยกันก่อนจะไปต่อ
ในที่สุดดการปลดปล่อยครั้งแรกของอี้เฟิงก็ออกมา
น้ำรักถูกปลดปล่อยเต็มหน้าท้องของทั้งสองฝ่าย เนื่องจากไม่เคยทำอะไรแบบนี้
ของเหลวนี้จึงถูกปลดปล่อยออกมามากเป็นพิเศษ
หยางหยางก้มลงต่ำตวัดชิมรสความหวานของอีกฝ่าย ก่อนเงยหน้าไปสบตาคนที่กำลังลิ้มชิมรสของตัวเองอยู่อย่างตกตะลึง
“นายกลืนเข้าไปหรอ...?”
“อี้เฟิงหวานไปทั้งตัว”
คำพูดหวานชวนหน้าแดงที่ผ่านเข้าหูมา
อี้เฟิงยกมือปิดหน้าทนไม่ไหวอีกแล้ว หยางหยางเลื่อนหน้าใบหน้าหล่อเหลาไปหา
มือแกร่งคว้ามือนุ่มนิ่มมาทั้งจูบทั้งหอมให้เกิดอารมณ์และผ่อนคลายไปด้วย
แต้มจูบที่หน้าผากซักหน่อยเพื่อยืนยันว่าจะถนอมอย่างสุดหัวใจ
ส่งสายตาผ่านไปบอกความรู้สึกอีกครั้ง ว่าให้มั่นใจในตัวเขา
“ขอบคุณที่อี้เฟิงยอมให้ทำแบบนี้”
“ก็รักไปแล้วก็เลยยอมให้ทำ”
“ขอบคุณจริง ๆ ที่รักผมด้วย
คิดว่าจะไม่สมหวังซะแล้ว”
“ผิดแล้ว
ฉันต่างหากที่ต้องขอบคุณที่คนแบบนายมารักฉัน และมองหาฉันเจอ”
หยางหยางประทับจูบแผ่วเบาให้อี้เฟิงรู้สึกเขิน
มันหวานกว่าจูบไหน ๆ เขายิ้มหล่อเท่ให้อีกเพิ่มระดับการสั่นไหวของหัวใจ
“อี้เฟิง..ผมมีคุณในสายตาตลอดเวลา
ไม่เคยต้องหาเลย”
ยิ้มส่งให้กันทั้งสองฝ่าย
หลังจากนั้นทั้งสองก็เริ่มบรรเลงบทรักในพื้นที่ส่วนตัวของกันและกัน
หยางหยางจัดการส่งส่วนนั้นเข้าทางรักที่ต้องการเข้าไปตามต้องการ
แม้จะแคบแน่นและทำให้อี้เฟิงร้องเจ็บบ้าง เขาใช้มือเปิดขวดเจลเพื่อลดความเจ็บให้อี้เฟิง
หยางหยางพร่ำบอกขอโทษและบอกรัก สลับกับจูบพรมไปทั่วลำคอ ใบหน้า
สร้างรอยสีสวยให้เรือนร่างขาวเนียนนี้
ช่องทางของอี้เฟิงรัดแน่นช่วงแรกนั้นขยับยากเสียหน่อยแต่พอมีเจลหล่อลื่นบวกกับน้ำรักที่ไหลเยิ้มผ่านมาเข้าสู่ช่องทาง
มือของหยางหยางจัดการเอาของเหลวนั้นมาปาดป้ายเพิ่มด้วย
จงฃึงทำให้ขยับได้ง่ายขึ้น เพิ่มจังหวะเข้าออกและทำให้วูบวาบ
เร็วบ้างช้าบ้างให้ตื่นเต้น
“อ๊ะ..อ๊ะ... อื้อ... เร็วหน่อย.....อ๊ะ”
“อา...ได้ แต่ถ้าเจ็บอี้เฟิงต้องบอกนะ”
“นาย..อื้อ..อ๊ะ หยุด..ฮึก...หรอ”
“เปล่า..แต่ผมจะทำให้นิ่มนวลกว่านี้”
“อะ..อื้อ”
บอกกล่าวจบบทสนทนาสั้น ๆ หยางหยางก็ขยับสะโพกให้เร็วขึ้น
เขาเองก็เริ่มมีความต้องการพุ่งทยานแล้วเช่นกัน
ยิ่งขยับคนใต้ร่างยิ่งร้องครางอย่างสมใจ
อารมณ์วาบหวามเพิ่มขึ้นเป็นเท่าทวี
ของเหลวที่ถูกปลดปล่อยออกมาต่อเนื่องจากหยด.หยดเล็ก ๆ ตอนนี้เริ่มปลดปล่อยออกมาไม่ขาดสาย
มือเล็กของอี้เฟิงข้างหนึ่งจิกที่หลังของหยางหยาง
มีข่วนบ้างเมื่อโดนแกล้งให้ค้างอารมณ์
อีกมือหนึ่งรูดรั้งส่วนอ่อนไหวของตัวเองให้ตามไปด้วย
ส่วนนั้นของหยางหยางก็ชันตั้งขึ้นยังไม่ลดความต้องการแม้จะส่งของเหลวออกมาแล้ว
ปลดปล่อยมันภายในช่องทางของอี้เฟิง ทำให้อี้เฟิงเสียวซ่านไปทั้งตัว
“อ๊ะ...อื้ม...ฮ๊า..หยางหยาง...มันร้อนจังเลย..ของนายก็ใหญ่จนอึดอัด”
“จะนิ่มนวลกว่านี้อย่ากลัวนะคนเก่ง”
หลังจากปลดปล่อยภายในไปรอบหนึ่ง
หยางหยางก็ส่งตัวเองเข้าไปใหม่รอบนี้อี้เฟิงเริ่มต้นด้วยอาการวาบหวามเพราะการสอดจังหวะเข้าออกของหยางหยางนุ่มนวลขึ้น
แต่เพราะว่าอี้เฟิงไม่ถึงใจเลย ไปถึงได้ช้า
และไม่เข้าใจอารมณ์ เขาต้องการมากกว่านี้
“ให้แรงกว่านี้...อ๊ะ
..ได้มั้ย...ไม่ต้องกลัวฉัน..อ๊า...เจ็บแล้ว เข้ามา..ให้สุดทาง”
คนรูปหล่อเงยหน้าไปมองคนนี้รอสบตาอยู่ก่อนแล้ว
ร้อนแรงอย่างไม่น่าเชื่อ...แววตากลมโตที่สบตามองกันเป็นประจำ
ดูหวานน่ารักและน่าทนุถนอม แต่ตอนนี้ร้อนแรงชนิดทีไฟก็ต้องแพ้พ่าย
เขาติดใจอี้เฟิงแบบนี้เสียแล้วสิ เซ็กซี่เป็นบ้า
“ได้สิ”
รับคำสั่งมาอีกครั้ง ทีนี้หยางหยางก็ใส่แรงอย่างเต็มที่
แต่มีเน้นจังหวะให้เกิดความสุดยอดในการร่วมรัก
ส่งส่วนนั้นของตัวเองที่ทั้งใหญ่และคับพื้นที่ช่องทางให้ถึงส่วนที่แตะต้องอารมณ์อี้เฟิงได้ถึงที่สุด
“อ๊ะ...ฮ๊า โอ๊ย..”
“ไหวมั้ยครับ”
“ได้ ไม่เป็นไร ใส่มาเหอะ
แบบนี้มัน..อ๊ะ....อ๊า โอ๊ย ฉันชอบแบบนี้มากกว่า”
ใบหน้าหล่อเหลายิ้ม แกมหัวเราะ
พออีกฝ่ายได้ยินใบหน้าหวานค้อนวงใหญ่ใส่ ทั้งที่ยังร้องครางสมอารมณ์
มือเล็กตีอีกคนใส่แรงจนเป็นรอยมือบนหลังของหยางหยาง เพราะเหมือนหัวเราะล้อกัน
เล็บจิกครูดบนหลังของหยางหยางจนเป็นรอยเล็บตอนนี้ทั่วหลังของเขามีแต่รอยแมวข่วน
แต่ไม่แพ้กัน ทั่วลำคอ ไหล่
ก็มีแต่รอยสีสวยที่ทำโดยหยางหยางและเขาจะทำเพิ่มหลังจากนี้อีก
“อื้อ...อื้ม..อ๊า...ตรงนั้นล่ะ “
“เอาแต่ใจจริง”
“แล้ว..อ๊ะ...ทำไม”
“ไม่มีอะไร รักครับ รักที่สุด”
ได้ยินคำบอกรัก็ยิ้มหวานออกมา อี้เฟิงจึงขอบคุณด้วยการข่วนเล็บลงที่หลังอีกทีหนึ่ง
ละตบหลังหยางหยางเป็นสัญญาณให้พักครู่หนึ่ง แต่ยั้งไม่ให้หยางหยางถอนกายออกไป
อี้เฟิงพลิกตัวเองกลับมาเป็นผู้เหนือกว่า ผลักอกให้หยางหยางพิงหัวเตียง
และเขานั่งคร่อมบนตัก ส่งสายตาหวานเยิ้มไม่แพ้รอยยิ้มชวนละลายหัวใจนั้น
เสื้อผ้าส่วนบนของอี้เฟิง ยังค้างคาบนร่าง หยางหยางจึงจัดการมันไปเสีย
และสร้างร่องรอยแต่งแต้มบนเรือนร่างขาวเนียนให้สวยงาม
“อือ..อื้ม...”
พอได้รับจูบวาบหวาม อี้เฟิงก็เริ่มขยับขึ้นลง
ให้กายของหยางหยางเข้าถูกทาง กดร่างนุ่มนิ่มมือลงตามแรงที่มี เสียงผิวเนื้อกระทบกันดังชัดเจนกว่าเดิม
แท้อี้เฟิงได้ยินก็ทำเป็นหูฝาดไป แม้หน้าแดงตามไปแล้ว หยางหยางให้กำลังใจคนคร่อมตักโดยจูบที่ปากเรียวเล็กที่แดงบวมเสียแล้ว
แต่กัดที่ริมฝีปากอย่างนึกสนุก
“อ๊ะ..นายนี่..แกล้งกันนี่”
“ขอโทษ..แมวน้อย”
เสียงหยอกล้อแกมเจ้าเล่ห์กระซิบข้างหู
อี้เฟิงหวาบหวิวในใจมากขึ้นกระแทกร่างลงแรงจนหยางหยางครางสมอารมณ์ขึ้นมาบ้าง
มือเล็กที่พาดอยู่ข้างหนึ่งบนลำคอของหยางหยาง
และอีกมือที่ว่างนั้นเสยผมที่ปรกในหน้าหวานของตัวเองออกไป หยางหยางมองภาพตรงนี้
เห็นชัดเจนเพราะอยู่ใกล้ตา
เซ็กซี่โครต...หยางหยางพูดในใจ
แบบนี้ไม่ไหว
หยางหยางรอให้อีกฝ่ายจัดการให้ตัวเองเป็นผู้เหนือกว่าจนเสร็จขั้นตอน
ของก็ปลดปล่อยอีกครั้ง และอี้เฟิงก็มาพร้อมกับ ของเหลวขาวขุ่นเปรอะเปื้อนเพิ่มขึ้น
มือเล้กละจากกอดคอหยางหยางมาแตะลิ้มเลียของเหลวที่ปาดขึ้นมาจากปลายยอดของตัวเองตวัดลิ้นเลียจนหมด
แบบนี้ไม่ไหว....
หยางหยางจับร่างของอี้เฟิงพลิกกลับให้เขาเป็นผู้นำอีกครั้ง
อี้เฟิงตกใจกับเหตุการณ์ที่พลิกเร็วเหลือเกิน
กายที่ยังค้างคาอยู่ในช่องทางเรือนร่างของตัวเอง
ปลดปล่อยของเหลวอัดแน่นภายใน เขาไม่ถอนกายออก อี้เฟิงก็เอาของเหลวนั่นออกไมได้
อึดอัด แต่ให้บอกความรู้สึกจริง ๆคือรู้สึกดีเป็นบ้า
หยางหยางก็ร้อนแรงและบ้าพลังไม่แพ้กัน
แถมเป็นพวกซาดิสซะด้วย
แต่ว่าเขาไมได้อี้เฟิงก็มาโซคิสเหมือนกันล่ะมั้ง..พอแรงเข้าหน่อยก็รู้สึกชอบใจ
เป็นบ้าพอกัน
“อี้เฟิง ผมรักคุณนะ”
“ได้ยินแล้วจ้า~~”
“บอกรักผมคืนสิ แฟร์ ๆกัน”
“ได้ ๆ "
เล่นกันแฟร ์ ใบหน้าหวานก้มกระซิบเสียงกระเส่า
ให้ได้ยิน "ฉันก็รักนาย หยางหยาง”
อี้เฟิงบอกรักต่อเขา
พร้อมรวบวงแขนให้แคบลงโอบกอดร่างที่โน้มลงมาจะใส่แรงอีกครั้ง อี้เฟิงยิ้มกับตัวเอง
รู้เลยว่ายิ้มนี้เป็นยิ้มที่แสดงตัวตนภายในที่ลึกที่สุดของเขาตัวเองที่เพิ่งหาเจอบนเตียงเมื่อครู่
ชนะแล้ว...ใครที่อยากได้หัวใจหยางหยางไป..แต่ฉันได้เขามาตั้งแต่ร่างกายและหัวใจ
ชนะ
ยิ้มที่ใครมองดูแล้วอาจจะเห็นว่าร้ายกาจเผยบนใบหน้าหวานของอี้เฟิง
เขารู้สึกแบบนี้จริง ๆแต่ก็เพียงชั่วอึดใจ ไม่ได้สะใจอะไรขนาดนั้น
แต่รู้สึกว่าที่ต่อสู้กับคนที่แอบชอบหยางหยางมากมาย เขาชนะเลิศในการแข่งขันนี้แล้ว
“อ๊ะ โอ๊ย หยางหยาง แรงไปนะ!”
“ก็ชอบนี่ ผมรักคุณนะ”
“รู้จ้าว่ารักแต่ถนอมกันนิดไม่ได้ทำแบบนี้กันครั้งแล้วตายไปนะ
อย่ามาตายคาอกฉันล่ะ”
ก็ถ้าคุณร้อนแรงแบบนี้เซ็กซี่ขนาดนี้
ผมก็ไมแน่ใจเหมือนกันว่าจะไม่ตายคาอกคุณเนี่ย”
เป็นเรื่องราวหยอกล้อกันบนเตียง ที่จริงพอเริ่มทำอะไร ๆ
กันไปก้เริมรู้รสนิยมของอีกฝ่าย ช่างเข้าเสียนี่กระไร
“อ๊ะ..ตรงนั้น เข้าไป..โอ๊ย อ๊ะ อื้อ..หยางหยาง”
“อี้เฟิง..อา..เจ็บมากเกินไปก็อย่าทน..บอกผมนะ”
“อ๊ะ..อื้อ”
คนบนร่างยังมีแรงทำอะไร ๆ ได้อีกเยอะ
ใส่แรงกับการขยับจังหวะเข้าไปเรื่อย ๆ ถูกส่วนตรงนั้นตรงนี้ของอี้เฟิงให้เสียวซ่านหลัง
ๆ นี้อี้เฟิงเริ่มร้องไม่เป็นภาษาแล้ว ครางปนกันมั่วไปหมด ยิ่งแรงยิ่เร็วว
ยิ่งสติกระเจิงกันทั้งคู่ จนกี่ครั้งกันแล้วไม่รู้ที่ต่างคนต่างปลดปล่อยออกมา
น้ำขาวขุ่นเปราะเต็มร่าง หยาดหยดเปื้อนไปหมด ซึมไปเตียงของหยางหยางแล้วด้วย แต่เขาไมได้นึกกังวลอะไรหรอก
หยางหยางเพิ่งสังเกตเห็นว่าตัวเองยังถอดเสื้อผ้าไม่ครบดี
เขาจัดการมันออกให้หมด เหลือแค่ร่างเปลือยเปล่าและความเร่าร้อนบนเตียง
อืม...เขาเบื่อบนเตียงเสียแล้ว
“โต๊ะก็ไม่เลวนะอี้เฟิง”
“อุ้มไหวก็อุ้มไป”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
หยางหยางพูดจบก็โอบร่างอี้เฟิงให้ขึ้นนั่งกอดร่างไว้แน่น
อุ้มลุกขึ้นจากเตียงย้ายที่ไปบนโต๊ะ แกนกายของเขายังไม่ถอนออกจากตัวอี้เฟิงเลยด้วยซ้ำ
อีกฝ่ายก็ไม่ได้ร้องให้ถอนออกแต่อย่างใด ระหว่างทางมีน้ำขาวขุ่นไหลหยดไปตามทาง
พออุ้มเรือยร่างขาวที่มีรอยแต่งแต้มมานั่ง ของเหลวเหล่านั้นก็หยาดหยดเปื้อนบนโต๊ะ
เพราะการเคลื่อนไหว ของเหลวที่คั่งค้างภายในร่างของอี้เฟิงไหลหยดออกมา
ปริมาณเยอะไม่น้อยก็สมกับความต้องการของหยางหยางที่ปลดปล่อยใส่อี้เฟิง
“ยิ้มอะไรเล่า”
“คนมีความสุขไม่ให้ยิ้มรึไงครับ”
“หมั่นไส้พ่อคนหล่อ”
มือเล็กยกบีบจมูกอย่างหมั่นเขี้ยว และเมื่อละมือออก
หยางหยางที่ยืนอยู่ค้างท่าเดิม ประกบจูบอี้เฟิง
จมูกสันเป็นคมชนแก้มนุ่มนิ่มทำให้รู้สึกจั๊กจี้ ยิ่งจูบไปเรื่อย
ๆเปลี่ยนองศาก็เหมือจมูกสันเป็นคมนั้นจะลากไล้ทำให้อี้เฟิงรู้สึกดีเป็นพิเศษ
หยางหยางที่เรียนกหนักจนไม่มีเวลาจัดการหนวดเคราบนใบหน้า
มันไม่ได้มีเยอะจนสังเกตเห็นแต่เมื่อจูบกันไร้หนวดเครานั้นเสียดสีแถว ๆ จมูก
บนรีมฝีปากของอี้เฟิง ก็ทำให้รู้สึกแปลกใหม่ดี
เขาชอบทุกอย่างที่เป็นของหยางหยางอยู่แล้ว ทุกส่วนเลย
“คุณก็ยิ้มอยู่นี่”
“อื้อ ก็มีความสุข”
ใบหน้าหวานยิ้มสวยให้อีกฝ่ายละลาย หยางหยางพรมจูบอีกครั้ง
ครั้งแล้วครั้งเล่าไม่เพียงพอต่อความรักที่เขามี ให้กอดร่างนี้ทั้งวันเขาก็ทำได้
ทั้งรักทั้งหลงหลี่อี้เฟิง
“เอาล่ะนะ”
“ไม่เห็นต้องบอกกันเลย..อ๊ะ—“
“เบา ๆ หน่อยคนน่ารัก เดี๋ยวข้างห้อสงสัยนะ”
หลังจากสิ้นเสียงเตือนนั้น เหมือนอี้เฟิงจะไม่ฟัง
เสียงครางอย่างสมใจสมอารมณ์ดังไปทั่วห้อง
อีกทั้งยังมีเสียงกลั้วหัวเราะเมื่อหยอกล้อกัน
พูดคุยสลับกับเสียงผิวเนื้อไปด้วย วนสลับไปสลับมาจนเช้า
PRIVATE SPACE
“อี้เฟิง...นี่แกเป็นอะไร
เหมือนคนกำลังจะตาย”
ร่างกายอี้เฟิงทั้งปวดทั้งร้าวระบมไปหมด
เรี่ยวแรงแทบหมดเพราะกิจกรรมเมื่อคืน รีดเร้นเอาทุกอย่างไป
ต่างคนต่างไม่มีใครเตือนให้พอกันเลย หยางหยางก็คงจะเหนื่อยน่าดู
เพราะเปลี่ยนกันหลายที่เหลือเกิน ห้องพักของพวกเขากลายเป็นรังรักของคนสองไปแล้ว
แถมสถานที่เกิดเหตุทุกจุดยังไมได้จัดการอะไรด้วยซ้ำ ร่องรอย
ของเหลวที่เปรอะยังคงที่เดิม กะว่าจะไปจัดการหลังเรียนเสร็จ
หลัวงพบว่าทั้งคู่มีเรียนแปดโมงเช้าทั้งคู่ ของเหลวในตัวอี้เฟิงยังออกไม่หมด
อีกฝ่ายจะช่วยแต่คิดว่าแบบนั้นคงไม่ได้มาเรียนกันเป็นแน่
แต่คิดถึงเหตุการณ์เมื่อคืนยันเช้าแล้วก็เขินมากเหมือนกัน...หยางหยางของเขาร้อนแรงที่สุด
อี้เฟิงไม่อยากให้ใครเห็นมุมนั้นของหยางหยาง
และแน่นอนไม่มีทางได้เห็น ตนอนั้นเขาทั้งหล่อทั้งมีเสน่ห์ที่สุดแล้ว
เขาจะไปทำอะไรแบบนี้กับคนอื่นไม่มีทางเสียหรอก
“หยางหยางแกไหวมั้ยเนี่ย”
“เออ พอไหว”
“เป็นไง หลี่อี้เฟิง คนน่ารักของแก ที่ทำให้สาวทั้งหนุ่มทั้งมหาลัยอกหัก”
เพื่อนกลุ่มของหยางหยางรู้อยู่แล้วว่าเขาแอบชอบรูมเมทของตัวเองมาเป็นปีๆก็ช่วยสืบช่วยเป็นหูเป็นตาให้กับหยางหยางมาตลอด
คอยดูไม่ให้มีใครมาจีบอี้เฟิง โชคดีที่มนุษยศาสตร์ที่อี้เฟิงเรียนอยู่ส่วนมากจะมีแต่ผู้หญิงหรือเป็นผู้ชายที่เป็นเพศที่ไม่น่าเป็นห่วง
ส่วนผู้ชายนั้นเพื่อนของหยางหยางจัดการต้นทางให้หมด\ เขาหวงรูมเมทคนน่ารักคนนี้ยิ่งกว่าใคร
ของของใครก็หวงห้ามแตะ
“ว่าไงหยางหยาง กระซิบกันซักคำสิเพื่อน”
อืม....
ที่จริงเหมือนทั้งคู่อดกลั้นความรู้สึกกันไว้นาน
อาจจะเป็นความต้องการด้วย พอได้มาบอกความรู้สึกกันตรง ๆ แบบนั้น
จึงไม่แปลกที่เขาทั้งสองคนเข้าหากับเหมือนแม่เหล็กดูดกัน..ก็เป็นแบบนั้นทั้งคืนยันเช้า
เขาไม่อยากพูดถึงเรื่องของเขาสองคนแต่เพื่อนที่มีพระคุณเหล่านี้ชข่วยหยางหยางมาตลอดจนได้หัวใจอี้เฟิงมา
จึงกระซิบบอกกันซักคำ
“หลงใครมากกว่านี้ไมได้แล้ว”
หยางหยางจบคำแค่นั้นก็ยิ้มมุมปากกันไว้ก่อนที่จะยิ้มกว้างอวดแฟนไปมากกว่านี้
อี้เฟิงน่ะหรือ ?
เรียกแมวยั่วสวาทยังน้อยไปเลย
*******************************************************************************END PRIVATE
SPACE
เละ...เละทั้งห้อง ตายๆๆ ซาดิสกับมาโซมาเจอกัน =___= ไหนว่าขอเตียงธรรมดาๆไงล่ะแม่แมวว นี่เรียกไม่ธรรมดาล่ะ ฮ่าๆๆๆ
ตอบลบ