[FIC] OURSONG ~我們的歌~
เพลงที่ : 9
Pairing :: หยางหยาง x หลี่อี้เฟิง
Rating :: PG-15
Pairing :: หยางหยาง x หลี่อี้เฟิง
Rating :: PG-15
TELL :: อีกตอนเดียวเเล้วน้า~~~~~~~
เพลงที่อยากให้ฟังตอนอ่าน :: IU(아이유) _ Friday(금요일에 만나요) (Feat. Jang
Yi-jeong(장이정) of HISTORY(히스토리))
“อาเยี่ยน...ยัยคนนี้แสบจริง
ๆ ขอโทษแทนเธอด้วย อี้เฟิง ไว้เกอจะไปเอาคืนกับยัยจอมแสบนั่นแล้วกัน”
หลังจากสิ้นเสียงอุทานของสองหนุ่มตรงริมแม่น้ำ
ถังเยี่ยนก็ทำในสิ่งที่เธอคิด บอกว่าแอบหมั่นไส้มานานขอจัดการเสียซักที
ถังเยี่ยนรู้อยู่แล้วว่าหยางหยางว่ายน้เป็น
อี้เฟิงเธอไม่รู้แต่หยางหยางก็ต้องช่วยคนรัก แถมริมน้ำตรงนั้นมันเป็นน้ำตื้น
สูงแค่ไม่ทันพ้นความสูงของสองหนุ่ม
เธอจึงขอส่งความหมั่นไส้แก้มหยิกหยอกแบบที่เธออยากทำไป
ถังเยี่ยนผลักทั้งคู่ลงน้ำไป จนทั้งหยางหยางอี้เฟิงเปียกไปหมดทั้งคู่
“อาเยี่ยน
ทำบ้าอะไรของเธอเนี่ย”
“ก็บอกแล้วว่าหมั่นไส้อะ!”
“ผลักฉันคนเดียวก็พอแล้ว
ผลักน้องอี้เฟิงทำไมเล่า”
“ก็หมั่นไส้น้องเขาเหมือนรักนี่!”
ถังเยี่ยนพูดไป
คำพูดเหมือนดูโกรธกันแต่หน้าสวยหวานของเธอแสดงความสะใจขั้นสุด
เธอหัวเราะเสีรยงดังจนเพื่อนสนิทในน้ำที่กำลังลอยคำและหาทางขึ้นฝั่งหลังจากที่ส่งอี้เฟิงไปขึ้นฝั่งไปก่อนแล้ว
หยางหยางตะโกนว่าเธอ เธอก็ตะโกนกลับอย่างไม่ลดละ เถียงกันคอแทบขาด
อี้เฟิงที่กำลังงงจากเหตุการณ์ที่โดนแกล้งก่อนหน้านี้แม้ก็ยังงอยู่ดีแต่อี้เฟิงก็หลุดขำออกมาอย่างกลั้นไม่อยู่
ทั้งหยางหยางและถังเยี่ยนตกใจกับเสียงหัวเราะใส ๆ ของอี้เฟิง
ทั้งในตอนแรกที่ยังงงว่าขำพวกเขาหรือแต่พอเห็นความสดใสจากเสียงหัวเราะนั้นที่ดูบริสุทธิ์ไม่ได้ประดิษฐ์อะไรเลย
ทั้งหยางหยางและถังเยี่ยนก็เข้ามาหยอกล้อกับอี้เฟิงต่อลั่นสวนสาธารณะตรงนั้น
อี้เฟิงก็เล่นไปกับเขาด้วย
อี้เฟิงเข้าใจ
ทั้งสองคนเป็นเพื่อนที่สนิทกันจากใจจริง
และเขาก็เข้าใจอารมณ์ความรู้สึกของถังเยี่ยน พี่สาวคนสวยคนนี้ดี
เธอยอมปล่อยมือรุ่นพี่หยางหยาง
ยอมเปิดทางให้ เพราะเธอบอกว่าหัวใจของหยางหยางมีแค่หลี่อี้เฟิงเท่านั้น
และเธอเป็นได้แค่เพื่อนที่ดีที่สุดคว้าได้แค่มือแต่หัวใจไม่ได้
นั่นล่ะเป็นเหตุผลที่ดีที่สุดที่อี้เฟิงจะไม่ปล่อยมือคนคนนี้ไปไหนอีกแล้ว
แน่นอนหัวใจด้วย
“อี้เฟิง
ยังหนาวอยู่มั้ย”
“ก็นิดหน่อยครับ”
หลังจากขึ้นมาจากน้ำแถมยังอยู่วิ่งเล่นในสวนกันจนดึก
จนยามพื้นที่มาไล่กับกันทุกคน ถังเยี่ยนโทรให้ทางบ้านของเธอมารับ
และไม่นานว่าที่สามีของเธอก็โทรดุเธอที่เธอบินกลับจีนโดยไม่บอกล่วงหน้า
ทราบได้ว่าเธอกำลังงอนว่าที่สามีของเธออยู่ เป็นเรื่องเกี่ยวกับสถานที่ฮันนีมูน
และอื่น ๆ จิปาถะตามประสาสาวสวยสไตล์หวานแบบเธอ
หยางหยางส่งถังเยี่ยนและกอดเธออย่างแนบแน่นส่งเพื่อนที่รัก แต่ถังเยี่ยนรีบผลักออก
ไม่ใช่เธอกลัวอี้เฟิงจะเข้าใจผิดแต่เธอถลาไปกอดอี้เฟิง แถมยังหอมแก้มซ้ายขวา
แตะตรงนั้นตรงนี้
จนหยางหยางต้องมาแยกถังเยี่ยนที่ใกล้คำว่าลวนลามอี้เฟิงเข้าไปทุกทีและไล่เธอกลับไปได้แล้ว
“อาเยี่ยนนี่ก็เหลือเกินจริง
ๆ “
“พี่สาวเขาก็น่ารักดีออกนะครับ”
“ชอบยัยนั่นแล้วรึไง”
“หยางเกอหึงผมหรอ
?”
“เปล่าซะหน่อย
นั่นเพื่อนเกอนะแต่อยากให้ระวังอาเยี่ยนไว้ก็ดี ยัยนี่ร้ายจริง ๆ”
“คร๊าบ ๆ”
อี้เฟิงพูดล้ออีกฝ่ายที่นั่งอยู่บนโซฟาข้าง
ๆ กัน ทั้งคู่มีน้ำผลไม้กับกาแฟคนละแก้วอยู่ตรงหน้า พร้อมขนมอีกและน้อย
ตอนนี้อี้เฟิงอยู่ห้องหยางหยาง หลังจากที่กลับไปเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำเรียบร้อย
คนน่ารักรุ่นน้องทนคิดถึงอีกฝ่ายไม่ไหวก็ขอมาวุ่นวายในห้องรุ่นพี่สุดหล่อเสียหน่อย
เพราะปัญหาทุกอย่างเคลียร์ไปหมดแล้ว
อี้เฟิงไม่มีอะไรที่ค้างคาในใจ
ก็ขอทำตามใจ ขออยู่ใกล้
ๆ หยางเกอของเขาแบบนี้ซักครู่หนึ่งแล้วกัน
“อี้เฟิง เรา...
ตัวสั่นแบบนี้ ไม่สบายแล้วรึเปล่า หืม ?”
หยางหยางที่คอยมองดูคนน่ารักที่จะกลายเป้นคนรู้ใจของเขาในอนาคต
อี้เฟิงที่ดูผอมลงเล้กน้อย ตาคล้ำลงไปนิดหน่อยแต่ก็ยังน่ารักอยู่ดี
แต่เมื่อสังเกตและรู้ว่าอีกฝ่ายกำลังตัวสั่นน้อย ๆ
เขาคิดว่าน้องจะเป็นไข้จึงรีบหันตัวเข้าหา หมายจะวัดไข้ แต่อี้เฟิงเด้งตัวถอยหนี
จะให้ถึงตัวได้ยังไง
พี่เขา...จะให้รู้ไม่ได้ว่าตอนนี้หลี่อี้เฟิงประหม่าขนาดไหน ในตอนนี้
หยางเกอของเขามีมุมเซ็กซี่ขนาดนี้เลยหรือ......
ตากลมโตของอี้เฟิงของมองรุ่นพี่ที่คิดถึงมาตลอด
ที่จริงเสื้อผ้าบนตัวพี่เขาก็ครบทุกชิ้น ทั้งบนล่าง
แต่เพราะการเคลื่อนของหยางหยางดูสวยงามไปหมดทุกจังหวะ
อี้เฟิงสังเกตเป็นพิเศษตอนที่หยางหยางเอียงคอใช่ผาขนหนูเช็คผม
ทั้งไหปลาร้า ลำคอ นิ้วมือ พอสังเกตไป เรื่อย ๆ อี้เฟิงจมลึกในความคิดซักครู่
เขาก็เคยบอกแล้วว่าไม่ใช่คนที่ไร้เดียงสาไม่คิดอะไรเลยซะหน่อย
พอได้อยู่ใกล้รุ่นพี่มากขนาดนี้ และในระยะเวลานานขนาดนี้
แถมยังเป็นช่วงหลังที่ไมได้เจอกันนาน ความคิดถึงมีมากเป็นเท่าทวี
อยากกอดจะแย่...
อี้เฟิงคิดในใจ
“ไม่เป็นไร
หยางเกอ ผมโอเค..สบายดี สบายดีมาก”
หยางหยางเลิกคิ้วแม้ยังสงสัยแต่ก็ยอมน้องเขาโดยดี
เหมือนอี้เฟิงไม่อยากให้เขาแตะเนื้อต้องตัวเท่าไรนัก ไม่แน่ใจว่าเพราะอะไร
แต่เอาเป็นว่ามีน้องเขาอยู่ใกล้ตาแบบนี้ หยางหยางก็พอใจมากแล้ว
แม้ในหัวของจะตีกันยุ่งเหยิงไปหมด
ที่จริง
ถ้าหากหยางหยางได้แตะต้องตัวอี้เฟิง ได้สัมผัสผิวเนียนลื่นมือ
หรือได้จ้องตากลมโตน่ารักนั่นเสียแค่ไม่กี่วินาที เส้นศีลธรรมที่หยางหยางอุตส่าห์อดทนไว้นานมันอาจจะขาดผึงเอา
เขาสัญญากับตัวเองแล้วว่าจะไม่ทำอะไรแบบนั้นกับน้องเขาจนกว่าอี้เฟิงจะบอกพร้อมและตกลงใจด้วยกันว่าเราจะพัฒนาความสัมพันธ์ไปถึงขั้นต่อไป
แต่ตอนนี้หยางหยางยังไม่กล้าเอ่ย ไม่กล้าขอเขาเป็นแฟนเลย แค่จะเอ่ยพูดก็ประหม่า
ตากลมโตนั้นฉายแววสดใสเสียเขาตาพร่า ประหม่าทุกครั้งที่อยู่ใกล้คนน่ารักคนนี้
แต่ตอนนี้โอกาสมันดีที่สุดเลย
ที่ทั้งน้องอี้เฟิงอยู่ใกล้ ๆ บรรยากาศเงียบสงบ อยู่กันแค่สองคน
ถ้าน้องเขาหิวก็มีของกินดักไว้เผื่อกันน้องหนีไปเขินเสียก่อน
ลองดูหน่อยแล้วกัน
“อี้เฟิง”
“หะ... ฮะ ?”
อี้เฟิงสะดุ้งเพราะกำลังตกอยู่ในภวังค์ความคิดของตัวเองอยู่เช่นกัน
เขาหันมาเต็มตัวอยู่กลายเป็นนั่งอยู่ตรงหน้า
หยางหยางขยับเข้ามาอีกนิดหน่อยให้ใกล้กัน
อยากให้เขาได้ยินคำบอกรักกับคำขอต่อจากนั้นให้ชัดเจน
“อี้เฟิง
...เอ่อ... หยางเกออยากให้ตั้งใจฟังสิ่งที่เกอจะพูดต่อไปนี้”
“อะ..อื้อ”
หยางหยางไม่เคยประหม่าอะไรขนาดนี้มาก่อน
ขนาดการแข่งขันใหญ่เขาก็ยังไม่ประหม่ามากมายขนาดนี้
ใบหน้าหล่อเหลาสู้สายตาตากลมโตที่มองมา จ้องแล้วกระมัง
เพราะตากล้มโตเหมือนแทบไม่กระพริบเสียด้วยซ้ำ เหมือนรอคำพูดจากเขา
มือไม้แข็งแร่งไม่มีที่วาง ก็เลยเอาทั้งสองข้างมาเลื่อนกุมมืออี้เฟิงไว้
เขากลั้นใจแล้วก็รวบรวมความกล้า
“ผมรักหยางเกอ
เป็นแฟนกับผมนะ!”
... เจ้าเด็กคนนี้
“อี้เฟิง!”
“อะไรเล่า
ก็เห็นไม่พูดซักที อี้เฟิงก็ชิงพูดเสียก่อนไง บรรยากาศเป็นใจแล้วอ่ะ!”
หยางหยางยิ้มขำ
ถอนหายใจอย่างยอมแพ้ เขาไม่เคยทำอะไรทันใจน้องเขาสินะ ที่อุตส่าห์กลั้นใจไม่พุด
เวลาให้เท่ที่สุดแล้วก็ค่อยพูดช้า
ๆ ชัด ๆ ให้เขาเข้าใจและฟังทุกประโยคด้วยความเขิน แต่ตอนนี้กลายเป็นเขาเขินเสียเอง
อี้เฟิงชิงบรรยากาศนั้น เป้นแมวขี้ขโมยอฃอีกรอบ เขาน่าจะต้องทำโทษเด็กคนนี้เสียหน่อย
“ทำหยางเกอหมดความมั่นใจเลย”
“เอาหน่าเกอ
พยายามใหม่นะ แพ้ผมอีกแล้ว”
น้องคนนี้ทำตัวน่ารัก
น่าหยิดแถมน่าตี ทำให้เขาหมดความมั่นใจ ที่ตั้งใจจะบอกรักเขาก็หายวับไปกับตา
ประโยคขอเป็นแฟนก็ถูกขโมย ไปแล้ว ตอนนี้แมวน้อยน่าตีนั่งยิ้มกว้างยิงฟันใส่เขา
แถมกินขนมกรุบกรอบ เคี้ยวไปยิ้มล้อเลียนเขาเป็น
“ดีใจอะไร
หยางเกอยังไม่ได้ตกลงเลย”
“ห๊ะ ? หยางเกอจะไม่ตกลงเหรอ ?”
อีเฟิงเริ่มใจเสีย
น้องเอาก็เพิ่งรู้ตัวว่าแกล้งแรงเกินไปแต่นั่นก็เป็นประโยคที่อี้เฟิงก็อยากจะพูดให้รุ่นพี่ฟังเหมือนกัน
เพราะหยางหยางตั้งท่าจะพูดอยู่เกือบสิบนาที เขารู้อยู่แล้วว่ารุ่นพี่จะพุดอะไร
แต่อีเฟิงทนเขินไม่ไหวอีกต่อไปขอชิงมาพูดเอง
...ถ้าหยางเกอของเขาจะไม่รับรักก็คงเพราะทำตัวเอาแต่ใจ...อี้เฟิงเอ๊ย
“อี้เฟิงขอโทษ
หยางเกอ อี้เฟิงจะรอหยางเกอพูดก็ได้ แต่อย่ทำอี้เฟิงใจเสียแบบนี้”
น้ำเสียงและสรรพนามแทนตัวน่ารักขึ้นเป้นเท่าตัว
เพราะต้องการอ้อนให้หยางหยางใจอ่อน
มือแมวรุกไปเกาะแขนที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อของรุ่นพี่อย่างออดอ้อนเอาใจ
ใบหน้าหวานแอบอิงซบที่ไหล่ ตอนนี้อี้เฟิงกลายเป็นแมวน้อยไปจริง ๆ เสียแล้ว
“งั้นลงโทษเสียหน่อยดีมั้ย
แมวขี้ขโมย”
อี้เฟิงเงยหน้าช้อนตามองรุ่นพี่
ขึ้นมานั่งตัวตรง สงสัยว่าพี่เขาจะทำอย่างไรที่บอกว่าจะลงโทษ
แต่อี้เฟิงก็ยังไม่ทันคิดเดาเอาต่อ ยังนั่งตัวตรงได้ไม่นานเก็กลายเป็นโดนผลักให้นอนแผ่นหลังแนบโซฟาเสียแล้ว
“ดะ..เดี๋ยว
หยางเกอ”
“แบบนี้ต้องทำโทษกันหน่อย”
หยางหยางกลายเป็นหมาป่าแล้ว...
จำได้ในช่วงแรกที่เจอกัน
หยางหยางเคยแสดงมุมหนึ่งของตัวเองที่เป็นหมาป่านักล่าในอีเฟิงได้
เห็นตอนนี้มุมนั้นกลับมาอีกครั้ง เร้าใจก็จริงแต่ก็กลัวไปด้วย อี้เฟิงยกมือดันรุ่นพี่คนหล่อไว้
ไม่ให้ใกล้กันไปกมากกว่าที่เป็นอยู่
เพราถ้าอีกซักเซนติเมตรเดียวก็จะจูบกันได้อยู่แล้ว
“อี้เฟิง”
“อื้อ”
ริมฝีปากจรดตรงใบหูที่แดงก่ำเพราะความเขิน
ร่างของหยางหยางทาบทาม อยู่เหนือร่างที่กำลังสั่นไหวเพราะความประหม่า
มือข้างหนึ่งที่ว่างจากการพันธนาการกุมมือนุ่มนิ่มนั้นไว้อย่างห่วงแหน
ยกมือนั้นมาจูบไล่ไปตั้งแต่ข้อมนิ้วจนถึงข้อมือ หลังมือ และฝ่ามือที่ชุ่มเหงื่อ อี้เฟิงมองตามอย่างตกใจ
ความเขินถึงระดับสูงสุดเท่าที่จะเขินได้ ใบหน้า ใบหูแดงเหมือนสีลูกเบอร์รี่
“หยางเกอ....”
“อี้เฟิง
หยางเกอรักอี้เฟิงมาก รู้ใช่มั้ย”
หยางหยางไถ่ถามด้วยน้ำเสียงทุ้มแต่เหมือนเปลี่ยนโทน
เริ่มแหบพร่า ทำให้ดูมีเสน่ห์เซ็กซี่ขึ้นเป็นกอง
อี้เฟิงกำมืออีกข้างที่พี่เขาปล่อยให้เป็นอิสระระบายอารมณ์เขิน
จิกเล็บตัวเองลงกับมือ ไม่รู้จะทำอย่างไร
เพราะที่จริงก็ยอมพี่เขาไปตั้งแต่พบสายตาคมกริบที่มองเขาอยู่ก่อนแล้ว
เหมือนดูดพลังจนทำให้อี้เฟิงเหมือนจะละลายเป็นไอศครีม
“ว่าไงครับ...”
“รู้”
“รู้ใช่มั้ยว่าหยางเกออยากอยู่ใกล้อี้เฟิงมากขนาดไหน”
“อื้อ “
“เรามาเป็นแฟนกันนะ”
ประโยคคล้าย ๆ
กันแต่แกมบังคับมากกว่าของอี้เฟิง ใบหน้าหวานพยักหน้าตอบไปแทบจะทันที
เผื่อพี่เขาจะได้ปล่ยอให้อี้เฟิงเป็นอิสระแล้วก็ขอวิ่งไปเตะหมอนที่ห้องระบายอารมณ์เขินตอนนี้หน่อยเถอะ
แต่ไม่ใช่...หยางหยางไม่ได้ปล่อยให้เขาไปไหน แถมรัดกอดไว้แน่น เหมือนจะไม่ใหไปไหนได้แล้วชาตินี้
“หยางเกอ
อี้เฟิงตอบตกลงแล้ว ปล่อยก่อน”
“แล้วเราจะไปไหน”
“จะกลับห้องสิ”
“ห้องนี้ก็ได้
ที่นอนก็เหมือนกัน มีคนนอนด้วยอีกต่างหาก”
“หยางเกอ..อย่าแกล้งกันแบบนี้
ปล่อยผมเหอะ “
หยางหยางรู้ว่าน้องเขินจนตัวจะระเบิด
แต่มาอยู่ใต้ร่างเขา อยู่ใกล้มากและทำตัวน่ารักสุด ๆ ขนาดนี้
เขานึกขอโทษน้องคนน่ารักในใจ
อนุญาตอี้เฟิงในใจไว้ก่อนเเล้วกัน ตอนนี้เขาไม่สามารถอดทนอะไรได้เเล้ว
“เกอ ‘ขอ’ นะ..”
อี้เฟิงไม่ทันจะถามว่าจะเอาอะไร ขออะไรกันป่านนี้
หยางหยางทาบทามตัวเองลงมา
แต่ไม่ทิ้งน้ำหนัก จูบครั้งใหม่หลังจากที่คิดถึงกันมานานหลายวัน
แม้ที่สวนสาธารณะจะมีจูบกันเล็กน้อย แต่นั่นไม่ได้ถึงอารมณ์
ไม่สุดความคิดถึงของหยางหยางเลย
เขาประทับริมฝีปากของตัวเองลงที่ปากนุ่มนิ่มของอี้เฟิง ดูดดึอย่างเอาแต่ใจ จูบย้ำอยู่แบบนั้น
เหมือนจะปลุกตัวตนของอี้เฟิงเองด้วย เพราะตัวตนของหยางหยางเองตื่นขึ้นมาแล้ว
ตัวนุ่มนิ่มมีกลิ่นหอมใหม่ ๆ จากสบู่ ลำคอขาวระหงส์
ไปถึงดวงตากลมโตน่ารักที่ดูน่าดึงดูด เขาอยากสัมผัสน้องอี้เฟิงของเขามากกว่านี้
“หยางเกอ..หยาง..เกอ
อื้ม”
มีช่วงเวลาให้อี้เฟิงเว้นพักหายใจก็ร้องเรียกชื่อรุ่นพี่ไม่หนุด
อี้เฟิงตั้งใจจะปลุกสติของหยางหยางแต่รุ่นพี่เห็นมันเป็นการปลุกอารมณ์อย่างอื่นเสียมากกว่า
จูบถูกทาบทามอีกครั้งอย่างย่ามใจ ทีนี้หยางหยางเปลี่ยนจูบเร้าร้อนบ้าง
ร้อนเกินไปจนอี้เฟิงแทบละลายคาอก ปล่อยให้พี่เขาเข้าไปเก็บความหวานหวามของตัวเองจนได้
หลังจากที่เขินและปิดกั้นตัวเองไว้ตั้งนาน
หยางหยางตวัดเก้บเกี่ยวความหวานไม่รู้จักพอ จากหวานน้อย หวานพอดี เป็นหวานมาก
หวานจนเลี่ยนและกลับไปวนอย่างแรกใหม่ เป็นจูบที่ยาวนานจนแทบลืมหายใจ
พอละริมฝีปากได้หน่อยก็หอบโยนกันทั้งคู่ น้ำหวานยังติดคาที่ริมฝีปากของอี้เฟิง
หยางหยางจึงจัดเก็บเศษส่วนเหล่านั้นไปด้วยความหวงแหน
ใบหน้าหวานลามแดงอีกครั้งเพราะความตะกละตะกรามของหมาป่าตัวนี้เชียว
แถมยังส่งยิ้มละลายหัวใจมาให้อีก อี้เฟิงทนไม่ไหวส่ายหัวไปมา
แก้เขินจนอีกฝ่ายที่อยู่ด้านบนยิ้มให้กับความเอ็นดู
และจูบเบาๆที่หน้าผากให้อีกคนผ่อนคลาย
“ไม่ต้องกลัวหยางเกอนะ”
“หยางเกอน่ากลัว~~~”
เสียงอ่อนออดอ้อนกลายเป็นสิ่งที่ย้อนเข้าหาตัวเอง
อี้เฟิงคิดว่าไม่น่พูดอ้อนกับหมาป่าที่หิวโหย เพราะเขากำลังตกเป็นเบี้ยล่าง
หยางหยางกลับมาเก้บความหวานอีกครั้ง เพิ่มความดุดันให้เร้าใจถึงนิดหน่อย
จูบครั้งนี้มีเสียงให้เล็ดลอดมาให้ทั้งคู่ได้ยินชัดเจน
เขินจนไม่มีเวลาให้ได้ประมวลผลแล้ว หยางหยางจึงอยากทำให้อีกฝ่ายชินกับจูบหวาน ๆ
แบบนี้ โดยการเพิ่มความจริงใจให้ เขาละริมฝีปากของเขาเองออกจากปากนุ่มนิ่มที่บวม
และเห่อแดง พร่ำบอกรักอีกฝ่ายข้างหูและจูบขมับให้อี้เฟิงมั่นใจ และกับไปวนอยู่ใกล้
ๆปากและมอบจูบซ้ำอีกครั้ง
ความหวานของอี้เฟิงทำให้หยางหยางเตลิดตัวตนไปไกลแล้ว
มือแกร่งที่วางไม่เป็นที่
ตอนนี้ไล่เรียงแตะต้องพื้นที่ส่วนตัวของอี้เฟิงไปทั่วแทบทุกจุด ซึ่งไม่จำเป็นต้องไล่เรียงบอกเป็นที่ที่เลย
เพราะอี้เฟิงไม่ทันจำได้แล้วว่ามีที่ไหนที่หยางเกอของเขายังไม่แตะบ้าง
แม้กระทั่งในร่มผ้าก็ไม่พ้นมือ
“อี้เฟิง...คือมันอาจจะดูเร็วไป
แต่...”
หยางหยางละริมฝีปากจะการจูบที่เริ่มกลายเป็นดุดัน
แต่ไม่ใช่ที่ปากเป็นที่ลำคอ หัวไหล่และไล่ไปเรื่อย ๆแต่ก่อนจะลงไปต่ำกว่านั้น
อี้เฟิงที่กลั้นเสียงที่พึงพอใจของตัวเองไม่ให้หลุดมาเพราะอายมองรุ่นพี่ที่หยุดทำอย่างประหลาดใจ
และเสียดายจากจิตใต้สำนึก พอเห็นรุ่นพี่ละริมฝีปากมาอ้ำอึ้ง ๆ แล้วก็ขัดใจ
“หยางเกอ
รีบพูดเถอะ ถ้าปล่อยไว้ อี้เฟิงจะเขินมากแล้วก็จะหนีไปนะ “
“จะหนีหรอ?
“
“อือ
อีกวินาทีเดียว ถ้าหยางเกอช้า อี้เฟิงจะหนี”
ตามบัญชาแมวน้อยที่รัก
หยางหยางไม่ทำให้เสียเวลาอีกหลังจากนั้น การจูบเริ่มตั้งแต่ตรงช่วงหน้าอก
มือแกร่งลากเร้นพาดผ่านทุกที่ที่ทำให้กระตุ้น ทำให้คนใต้ร่างมีอารมณ์ร่วม
และเขาก็ทำสำเร็จ อี้เฟิงบิดเร่าอย่างสุดตัว กำมือไว้แน่น
หยางหยางเห็นอีกคนมีรอยเล็บอยู่ที่ฝ่ามือ อาจจะเพราะกัดกลั้นอารมณ์เอาไว้
เขาคว้ามือนั่นมาแล้วจับให้กอดไว้กับตัวเอง
“กอดเกอไว้แล้วจะพาไปด้วยกัน”
“อย่า...ทิ้งกันนะ”
“สัญญาครับว่าจะอยู่ด้วยกัน
...."
หยางหยางก้มกระซิบให้เเนบชิดที่สุด
ประโยคสุดท้ายจะต้องกุมหัวใจน้องอี้เฟิงให้ได้อยู่หมัด
"เเละทุกวันจะเป็นวันของเรา
ทุกวัน..”
พูดจบเขาก็จูบย้ำที่ขมับอีกครั้ง
เขายืนยันด้วยเสียงทุ้มแสนเสน่ห์
และหลังจากนั้นหยางหยางก็เริ่มบรรเลงเพลงรักที่มีแค่เขาสองคนเท่านั้นที่รู้ทำนองและเนื้อหา
อี้เิฟิงล่องลอยตามการนำพาของหยางหยางไป เขาสองคนเท่านั้นที่รู้ว่าเพลงเพลงนี้
หวานมากแค่ไหน
OURSONG ~我們的歌~
“อี้เฟิงมาเรียนแล้วว้อย
มีหนุ่มหล่อมาส่งด้วย ฮิ้วววว “
เพื่อนที่รักของอี้เฟิงทั้งชมรมมส่งเสียงโห่ร้องหยอกล้อให้เพื่อนได้อายมุดแผ่นดิน
หยางหยาางเดินมาส่งกันถึงหน้าห้องเรียนของคณะอี้เฟิง
ที่มีแต่คนในเอกของอี้เฟิงเรียน ซึ่งกำลังรออาจารย์อยู่ จนวันนี้
ถ้าอี้เฟิงขาดอีกครั้งก็จะโดนดุแล้ว เขาจึงฝืนมาเรียน ก่อนไปมีบอกให้เจ้าเพื่อนรักเพื่อนร้ายสี่คนดูแลอี้เฟิงให้ดี
ๆ แล้วก็ส่งยิ้มหล่อๆเท่ๆก่อนหันหลังกลับไปเรียนบ้าง อี้เฟิงเขินแทบเป็นน้บา
ยิ่งมาอยู่ในท่ามกลางเพื่อนรักที่น่ารักทุกคนยิ่งประสาทเสีย
ทั้งที่เมื่อคืนก็รับศึกกับหมาป่าแท้
ๆ เชียว......
อี้เฟิงรู้สึกปวดเมื่อยไปหมดแต่ไม่เชิงกับว่าจะทำอะไรไมได้ไปทั้งวัน
หยางเกอนุ่มนวลและถนอมเขายิ่งกว่าใคร รู้สึกเหมือนเขาเป็นผู้หญิง
ทั้งที่บอกหยางเกอว่าไม่ต้องถึงขนาดนั้นแต่เขาก็บอกด้วยเสียงทุ้มหวานแถมความเซ็กซี่ในขณะที่ทำอะไรมากมายด้วยกัน
“เกอแค่อยากทนุถนอมแฟนไว้
ยิ่งนุ่มนวลเท่าไหร่ก็จะทำ “
แค่นั้น
อี้เฟิงก็ไม่พูดอะอะไรอีก จะถนอมเท่าไหร่ ให้พี่เขาทำไป
แค่พาอี้เฟิงไปให้ตลอดและจับมือกันไว้ก็พอ
“อี้เฟิงหน้าแดงอะ
ฮิ้ววววววววววว”
“หยุดล้อซักทีสิวะ”
“เอ็งหน้าแดงมากอ่ะ
อี้เฟิง ยังไงเนี่ย”
“รุ่นพี่มาส่งถึงที่เลยด้วยอ่ะ”
“สาว ๆ
อิจฉาทั่วม.แล้วมั้ง หนุ่ม ๆใจสลาย ตาย ๆ”
“โอย
อี้เฟิงแกทนความหล่อพี่เขาได้ยังไง”
“อี้เฟิง
หน้าแดงไปถึงหูแล้ว เอ้าช่วยล้อมันกันอีกให้มันระเบิดเป้นบ้าไปเลย”
เพื่อนทุกคนที่น่ารักของอี้เฟิงในห้อง
ไม่ใช่แค่เฉพาะองครักษ์ทั้งสี่แต่เป็นทั้งเอก มากกว่า 30 คน
ร่วมกันล้ออี้เฟิงกันอย่างสนุกสนาน แต่ทุกคนล้วนเป็นห่วงและรักเพื่อน
แพราะร่วมเรียนร่วมตกร่วมผ่านกันมาเป็นปี ๆ อี้เฟิงรักเพื่อนพวกนี้
และเช่นกันกับเพื่อนทุกคน เรื่องของเพื่อนก็เหมือนเรื่องของเรา
ทุกคนมีนิยามเช่นนั้น
“อี้เฟิง
พี่เขาขอเป็นแฟนยัง”
“แล้วพี่เขาพูดว่าไงถ้าขอแล้ว”
“มีของให้มั้ยวะอี้เฟิง”
“จูบกันยังอ่ะๆๆ
“
“พี่เขาหล่อมากขนาดนั้นแต่ว่าจูบเก่งป่ะวะ”
“ห้องพี่เขาเข้าไปยัง
เชาอยู่หอเดียวกันกับแกนิอี้เฟิง”
หลังจากที่อี้เฟิงพยายามจะลุกขึ้นหนีแต่สุดท้ายเพื่อนก็ยังยิงคำถามกันมาหาอี้เฟิงจนเหนื่อยหัวใจ
เพราะรุ่นพี่หยางหยางเป็นถึงหนุ่มฮอตแห่งมหาวิทยาลัย
แถมยังฮอตเป็นบ้าในระดับประเทสเพราเป้นหถึงนักเทควันโดฝีมือดี
มีแฟนเป็นตัวตนแบบนี้เพื่อน ๆก็อยากรู้เป็นธรรมดาโดยเฉพาะสาว ๆ
แต่ก็อุบกันไว้แค่วงนี้ อย่างน้อยก็แค่เพือ่นหยอกล้อกันและเป้นห่วงเสียมากกว่า
เรื่องของสองคนก็ปล่ยอให้เขาเปิดเผยกันมาทีละนิดเองแล้วกัน
“เออ ยอมแล้ว ๆ
จะนั่งเล่าให้ฟังหลังคาบเรียน โอย ทำงานอาจารย์ยังไม่มาอีกเนี่ย”
พอนั่งลงทุกคนก็มารุมล้อมอี้เฟิง
ทั้งกรุ๊ป 30 คนกว่านั้น 4
องครักษ์ที่ร่ำลือของอีเฟิงนั่งใกล้ชิดอี้เฟิงอยากฟังบ้าง
อย่างน้อยเพื่อนเขาไม่ร้องไห้แถมยิ้มหวานแก้มแดงมาขนาดนี้ก็น่าจะเคลียร์กันลงตัวแล้ว
พวกเขารอให้อี้เฟิงเล่าให้ฟังเอง
หืม ? จิ้งฝูที่เดินอ้อมมากะจะโอบคออี้เฟิงแกล้งเพื่อน
แต่กลับเห็นอะไรบางอย่างแปลกตาที่อยู่ลบนลำคอสวยของเพื่อน
ไอ้นี่มัน.....
รอยนี่มัน
จิ้งฝูใช้สายตาเรียกอีกคน
หวินหลงเดินอ้อมหลังมาหาอย่างสงสัยแล้วก็เจอตอที่ว่านั่น
พวกเขายังไม่แน่ใจจึงส่งซิกเรียกเทียนห้าวและดาซุนมาด้วย มาร่วมพิจารณากันอย่างลับด้านหลังอี้เฟิง
แต่มันก็เป็นที่สังเกตได้อยู่ดี
“พวกนายทำอะไรกันตรงหลังฉันเนี่ย”
ทั้งสี่คนหันมาตามเสียงของอี้เฟิงที่เรียกอยู่
อี้เฟิงหน้าอยู่ตรงหน้าเพื่อน ๆ ที่เหลือแต่สี่คนนี้แยกมา
และทั้งสี่ก็เดินสามขุมย่างเข้ามาหาอี้เฟิงเงียบ ๆ แต่ในมือเหวินหลงมีโทรศัพท์อยู่
เหมือนมือกำลังกดโทรออกหาใครคนหนึ่ง เขามองเพื่อนอย่างอี้เฟิงครั้งหนึ่ง
และแยกตัวเองไป มีอีกสามที่เดินมาหาอี้เฟิง สามคนลงนั่งข้าง ๆ
และมองรอบวงไปยังเพื่อนคนอื่นที่มองอยู่
ที่จริงเอกนี้ของคณะที่อี้เฟิงเรียนทุกคนสามสิบกว่าชีวิตล้วนสนิทกันมากเพราะมีชีวิตร่วมกันมากกว่าคนในครอบครัวเสียอีกในบางวัน
จึงเป็นเพื่อนที่รู้เรื่องราวและรักเพื่อนกันเองทุกคนอย่างจริงใจ ทุกข์สุขต่าง
ๆก็ผ่านมาด้วยกัน และอี้เฟิงที่เป็นหนึ่งในกลุ่มนี้ แถมยังเป็นคนที่เพื่อน ๆ
ทุกคนมอบฉายาว่าลูกชายให้เสียอีก
“อี้เฟิง
ลองเล่าเรื่องนายกับพี่เขาหน่อย อาจารย์จะไม่เข้าสอนแล้ววันนี้“ จิ้งฝูเรียกเพื่อนเสียงเรียบและรู้สึกว่าในน้ำเสียงมีความรู้สึกบางอย่าง
อย่างที่อี้เฟิงสัมผัสได้แต่ไม่เข้าใจว่าทำไมเพื่อนของเขาจึงเป็นเช่นนั้น
จิ้งฝู หันไปหาเพื่อน ๆ
คนอื่นรอบวง
ให้เพื่อนรักที่ทุกคนแสนหวงได้เล่าเรื่องความรักครั้งแรกของตัวเองกับรุ่นพี่คนดังหน่อย
“ก็คร่าว ๆ
ประมาณนี้ เออ บอกหมดแล้ว ไม่มีอะไรแล้วว้อย พวกแกทุกคนกังวลไปเอง
ฉันกับหยางเกอคืนดีกันแล้ว ขอบคุณที่เป็นห่วงกันนะ”
อี้เฟิงบอกเพื่อนเสียงใส
ไม่อยากให้เพื่อน ๆ ที่รักเขาเป็นห่วง
เขารู้ว่าพวกนี้ถึงเวลาใครมีคนอื่นมาจีบหรือผ่านเข้ามาทำให้คนหนึ่งคนใดใจเต้นก็จะคอยมองดูและเป็นหูเป้นตาให้
แต่เพื่อนเป็นอี้เฟิง
อาจจะเป้นห่วงเป็นพิเศษเพื่อนทุกคนลงความเห็นกันว่าอี้เฟิงหัวอ่อน หวั่นไหวง่าย
เซนสิทีฟและติสท์เป็นบ้า
นี่แหละน่าเป็นห่วงที่สุด
อี้เฟิงมันสุดโต่งในบางครั้งอีกด้วย
เหมือนจะรู้กันแล้วว่าเมื่อฟังเรื่องราวความรักของอี้เฟิงกับหยางหยางรุ่นพี่คนดังแล้วพวกเขาควรทำอย่างไร
“อี้เฟิง
เลิกยุ่งกับพี่เขาซะ”
**************************************************************************************TBC 10 FINAL SONG
TALK : เข็นกันมาจนใกล้จยเเล้ว ดีใจที่มีเพื่อนร่วมกริีดไป ร่วมทางกันแบบนี้นะคะ
รอเล่มกันน้า~~
ใจเย็นนะเพื่อนๆ ว่าละคนน่ารักเหล่านี้รักอี้เฟิงมากๆ จริงๆ ด้วย
ตอบลบขอข้ามมาจุดนึงก่อน เรื่องคำผิดคิดว่าคุณเวย์น่าจะเห็นแต่ไม่ทันได้แก้แน่ๆ เลย ตกไปพวกเล็กน้อยเอง ไม้โทเยอะพอสมควร แล้วก็สะกดตกไปบ้าง กับพิมพ์เกินมาบ้างตกไปบ้างเหมือนเวลากดแป้นเกิน กดไวไป อย่างคำว่า เหมือนกัน เสียงดังที่น่าจะกดไว มีที่พิมพ์สระอูเป็นสระอุตัวนึงมั้ง
คืนมาเรื่องเนื้อหาไม่ถูกเลย สำนวนอ่านเคลิ้มตลอดเลย
รอดูว่าทั้งคู่จะทำยังไงต่อละ