วันอาทิตย์ที่ 4 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[Fic] THISMAN - หยางเฟิง CHAPTER : SPECIAL ‘This Time’



TITLE : THISMAN
CHAPTER : SPECAIL  ‘This Time’
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG – 13


*****************************************************************************


อี้เฟิง







เสียงทุ้มเอ่ยเรียกคนในอ้อมกอด ร่างบอบบางตัวชุ่มไปด้วยเหงื่อซึมผ่านเสื้อผ้าจนรู้สึกและสั่นเทิ้มด้วยความกลัว ผมเผ้ายุ่งเหยิง ใบหน้าหวานซุกอยู่กับหน้าอกแกร่งไม่ยอมเงยขึ้นมาเพราะรู้สึกกลัวเกินไปที่จะเงยหน้าออกมามองอะไร และอยากได้ความอบอุ่น ไม่ว่าคนคนนี้นั้นจะเป็นคนที่ทำร้ายเขาจนใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี  ซาตานในร่างมนุษย์






หยางหยาง...





เมื่อได้ยินเสียงหวานเอ่ยเรียก เขาทำได้แค่โอบให้มอบความอบอุ่นและปลอดภัย อย่างน้อยก็แค่เวลานี้ เขามีหน้าที่แค่ปกป้องคนคนนี้เท่านั้น   






หยางหยางอยู่นี่ ผมอยู่นี่แล้ว



หลังจากที่เอื้อมคว้าร่างที่วิ่งหนีมาอย่างเหน็ดเหนื่อย อี้เฟิงไม่ทันได้มองว่าเขายืนอยู่ตรงหน้า แต่เขามองเห็นอีกฝ่ายอยู่ก่อนแล้ว และมั่นใจว่าจะโอบกอดและปกป้องได้ทัน เขาสาวเท้าอย่างเร็ว อี้เฟิงทันเข้ามาอยู่ในอ้อมกอดของหยางหยางโดยคว้าเอวให้รั้งร่างนั้นมาซุกอกไว้ ในมืออีกข้างหยางหยางทันคว้าไม้หน้าสามท่อนหนึ่งที่ตกอยู่ข้างทาง เอามาเป็นอาวุธปกป้องทั้งเขาและคนในกอด  เขาสบถลั่นใส่พวกคนร้ายนั่น และเขาไม่เกรงกลัวอะไร เขามีฝีมือพอที่จะปกป้องคนคนนี้และ และยังมีเผื่อพลาดพลั้งอีกแผน เพราะเขาอยู่ใกล้ป้องตำรวจ และสุดท้ายคนพวกนั้นก็ล่าถอยออกไป






หยางหยางถอนหายใจ ทิ้งไม้ในมือและโอบอี้เฟิงไว้ทั้งสองแขน ด้วยอารมณ์แสนคิดถึง




ไม่เป็นไรแล้ว
อือ





ได้ยินคำตอบรับก็รู้สึกเบาใจที่อีกคนไม่ตกใจกลัวอีก อี้เฟิงเปลี่ยนองศาใบหน้าที่ซุกอยู่ที่อกเขาเหมือนหาความอบอุ่มอบเพิ่มเติม เขาปล่อยให้แมวน้อยทำตามใจ ละจากกอดออกมามือแกร่งลูบและก้มโน้มจูบที่กลุ่มผมนุ่มที่มีกลิ่นแชมพูดอกไม้อ่อนจนมีกลิ่นติดปลายจมูกมา อี้เฟิงเอ่ยเรียกชื่อของหยางหยางไปซ้ำมา แต่เสียงเบาจนเขาแทบต้องเงี่ยหูฟัง ร่างทั้งสองยืนนิ่งและกอดตระกรองกันอยู่  หยางหยางจะไม่ยอมปล่อยอี้เฟิงไปแน่นอน เพราะหลังจากนี้เขาอาจจะไมได้กอดคนคนนี้อีกตลอดไป อย่างน้อยก็เวลานี้





ทำไมนายมาอยู่ที่นี่
มาตามหาคุณ





อี้เฟิงพ่นลมออกจมูก แต่ใบหน้ายังคงซบที่อกของหยางหยาง เมื่อทำเช่นนั้นหยางหยางก็ย่อมรู้สึกว่าอีกคนทำอะไร เขายิ้มบางเพราะคนในอ้อมกอด และเปลี่ยนมาเป็นกระชับให้วงแขนให้แนบแน่นยิ่งขึ้น กอดให้แน่นขึ้น






ถ้าคุณหายไป ผมจะตามหาคุณให้เจอ เห็นมั้ยครั้งนี้ผมก็หาคุณเจอเป็นคนแรกอีกแล้ว
จะบอกว่าตัวเองเก่งงั้นสิ





เสียงกระเง้ากระงอดพูดอู้อี้ให้ได้ยิน หยางหยางโอบรัดตัวนุ่มนิ่มในอ้อมกอดให้ดี และโยกให้ร่างนั้นไปซ้ายทีขวาทีเหมือนหยอกเล่นกัน จนอีกคนยิ้มออก และหัวเราะเสียงเบาออกมา อี้เฟิงหายกลัวแล้ว





เปล่า เพราะเป็นคุณ แค่คุณ ผมถึงหาเจอ






หยางหยางถอนหายใจอีกครั้ง เขาหวังว่าจะไม่เกิดเหตุการณ์อันตรายกับอี้เฟิงอีก เขาน่ะไม่เป็นไร แต่อี้เฟิงถูกปกป้องจนเคยชิน เขาต้องมีคนคอยดูแล แม้จะเป็นเขาไม่ได้ แต่รอบข้างมีคนพร้อมที่จะดูแลเขามากมาย



หนหลังนายคงไม่มาช่วยฉันอีกแล้ว ฉันก็จะให้คนรอบ ๆ ตัว ดูแล้วกัน
แบบนั้นก็ดีแล้ว ระวังตัวเองบ้าง ออกมาดึก ๆ มันอันตราย




เหตุการณ์แบบนี้อี้เฟิงคงไม่อยากให้มีขึ้นอีก ใบหน้าหวานง้ำงอและพ่นลมออกจมุกถอนหายใจตามคนที่กอดตัวเองไปด้วย





รู้แล้วล่ะหน่า



เขาพูดให้อีกฝ่ายเข้าใจ  ยังคงซุกใบหน้าหวานหาความอบอุ่นอยู่ให้หายกลัวและพลางนึกถึงเหตุการณ์ก่อนหน้านี้










หยางหยางที่ออกตามหาอีกคนอย่างไม่ลดละ  เขาหาวิธีทีจะมาเจออี้เฟิงให้ได้ แม้ว่าจะต้องแลกกับการทำงานหนักไม่ได้พักเป็นเดือน แลกกับวันว่างแค่วันเดียวและเงื่อนไขที่จะมาเจออี้เฟิงที่โรงแรมที่เขาพักอยู่ในระหว่างช่วงการถ่ายทำละครเรื่องใหม่  หยางหยางให้ผู้จัดการคนสวยสืบเรื่องราวมาให้พร้อมกับอนุญาตให้เขาไปหาอี้เฟิง ด้วยเหตุผลเพียงอย่างเดียวที่ผู้จัดการฟังอย่างไรก็ไม่มีทางที่จะอนุญาตให้เขาไปได้




นายไปหลงรักคน ๆ นั้นได้ยังไงกันน่ะ
ผม...ไม่รู้



หยางหยางตอบเสียงเบากลับไปให้ผุ้จัดการและรอให้เธอต่อว่า เขาคิดว่าเธอคงหงุดหงิด เพราะจากที่เกลียดกันมาตั้งแต่แรก ตั้งแต่ไหนแต่ไร แต่เขากลับเป็นคนที่มาบอกรักกลับคำเสียง่ายได้ ราวกับว่าคำว่าเกลียดนั้น ถูกทิ้งไว้ในสายลม





ทำไมพี่ไม่ว่าผมล่ะ
เพราะฉันรู้ดีไงว่าความรักมันเป็นเรื่องของหัวใจ ไม่เข้าใครออกใคร และไม่แน่ใจ หัวใจของนาย นายจะไปมอบให้ใครก็ได้ แต่ระวังนายจะเจ็บมาก เพราะหลี่อี้เฟิงจะไม่มีวันมอบหัวใจให้นายแน่นอน นายรู้ดีอยู่แล้วนี่
ผมรู้แล้ว..เรื่องนั้น รู้ดีเลยล่ะ



หยางหยางถอนหายใจหลังจากนั้น และสุดท้ายเขาก็ได้รับอนุญาตให้ไปหาหลี่อี้เฟิงได้แต่มีข้อแม้ว่าห้ามให้เขาเห็นหน้า และถ้ามีเหตุให้เจอกันจัง ๆ ก็ต้องไม่ให้ใครรู้เห็น เพราะจะเป็นเรื่องราวใหญ่โตได้ ในทั้งทีมงานฝั่งอี้เฟิงเอง แม้จะรู้ว่าหยางหยางจะไปหา แต่ก็ตั้งด่านกันหยางหยางมากมาย เพราะอี้เฟิงสั่งไว้ แถมยังมี  ปาปารัซซี่ที่จ้องจะจับผิดและเขียนข่าวไม่ดีของพวกเขาทุกทางอยู่แล้ว ไหนจะแฟนคลับที่อาจจะเข้าใจผิดไปต่าง ๆ นานา และพูดกันไปทั่ว อาจจะต้องทำให้เรื่องเงียบที่สุด





แต่เมื่อมาหา เขาก็หายไป






อี้เฟิงหายไปซักพักแล้ว ออกจากห้องไปไหนก็ไม่รู้



หยางหยางอาสาออกตามหาอีกคน เพราะอี้เฟิงอาจจะเดินเตร่อยู่แถว ๆ โรงแรม อาจจะเบื่อหรือเหนื่อยกับงาน อยากหาที่เงียบ ๆ สูดอากาศพักผ่อน ผุ้จัดการบอกหยางหยางเพิ่มว่า อี้เฟิงเป็นคนเอาแต่ใจ และนึกอยากจะไปไหนก็ไป ทำอะไรก็ทำ หยางหยางพอรู้ข้อนั้น ด้วยการทำงานด้วยกันมาหลายเดือนในกองละคร



ไปไหนของเขานะ




หยางหยางออกเดินตามหาไปทั่วบริเวณโรงแรม โดยปิดบังใบหน้าด้วยหน้ากากอนามัยและหมวกแกปใบเท่ เขาเดินไปตามซอยเล็ก ๆด้วยเผื่อจะเจออี้เฟิงอยู่ แต่ก็ไม่มี ตอนนี้เวลาเกือบตีสองแล้ว หยางหยางนึกไม่เข้าใจอี้เฟิงว่าทำไมต้องอออกมาทั้ง ๆที่มันดึกดื่นขนาดนี้ แต่ก็อยากเจอเขาเร็ว ๆเพราะกลัวอีกคนเป็นอันตราย  กลัวจะเหมือนวันนั้นในป่าที่อี้เฟิงหายตัวไป  เขาใจแทบสลาย เมื่อเห็นร่างของอีกคนนอนสลบไสลยู่ตรงพุ่มไม้นั่น วันนี้อีกครั้งที่เขาต้องออกตามหา ความรู้สึกวันนั้นกลับมาและเพิ่มเท่าทวี เพราะเขารู้จักหัวใจแล้วว่ารักอี้เฟิงมาก มันยิ่งทำให้ความเป็นห่วงยิ่งสูงขึ้น



หยางหยางยกมือถอดหน้ากากอนามัยออก เพราะเริ่มรุ้สึกร้อนอึดอัด ในเวลานี้ไม่ค่อยมีคนแล้ว คิดว่าคงไม่มีใครรู้ว่าเป็นเขา แต่ยังคงเอาหมวกแกปบังใบหน้าส่วนใหญ่ไว้ เขามองหาและส่ายสามตาสอดส่องทั่วบริเวณ คิดว่าอี้เฟิงไม่น่าจะไปไหนไกล

























THISMAN   CHAPTER : SPECIAL  ‘This Time’


























อย่าหนีนะ







ยิ่งเดินเร็ว คนพวกนั้นก็ยิ่งตามเขามา  คิดไว้แล้วว่าน่าจะไม่ดี และก้เป็นตามนั้น



อี้เฟิงที่นึกอยากออกมาสูดอากาศหาอะไรดื่มแก้เซ็ง เพราะเขาทำงานทุกวันจนดึกดื่น แทบไมได้ผ่อนคลายอะไร และเรื่องราวมากมายก็ไหลวนเข้าสมองให้คิดอยู่ร่ำไป  ส่วนหนึ่งที่ทำให้เขาต้องสับสนในใจ คิดมากก็เป็นเรื่องหยางหยาง และนั่นทำให้เขาต้องออกมาจากห้องสี่เหลี่ยมเจอบรรยากาศนอกห้องบ้าง เผื่อสมองจะปลอดโปร่ง และเลิกคิดเรื่องเขา


เลิกคิดถึงเขาซักที




แม้จะสะใจที่ได้ยินคนพ่ายแพ้บอกรัก คำนั้นที่อี้เฟิงคิดว่าจะไม่ใส่ใจ แต่สุดท้าย เสียงทุ้มติดเศร้าที่บอกรักเขายังวนอยู่ในประสาททุกส่วนของอี้เฟิง จนทำให้บางทีอี้เฟิงนึกหงุดหงิดตัวเอง



หรือที่จริงเขาแพ้กันแน่ก็ไม่รู้




อี้เฟิงที่ออกมาเดินให้สมองเลิกคิดถึงซาตานบ้านั่นซักที  เขากลับไปคิดถึงเรื่องราวที่ผ่านมา ที่ใช้วิธีที่ทำให้เขาตกหลุมรักตัวเอง แต่สุดท้ายแล้ว เขาเองก็พลอยไขว้เขวไปด้วยหรือเปล่า ตอนนี้ก็ยังสับสน




แต่เดินอยู่คนเดียว ทอดน่องไปเรื่อย ๆ ซักพัก อี้เฟิงที่ลืมคิดถึงความอันตรายในโลกยามค่ำคืน เพราะปกติที่ไปไหนมาไหนจะมีบอดี้การ์ด ปลอดภัยจนเคยตัว  ในตอนแรกที่ไม่คิดกล้าจะออกมา แต่ก็คิดว่าถ้าหากออกมาก็โทรตามคุณการ์ดได้ทัน แต่ที่ไหนได้




ตอนนี้อี้เฟิงกำลังวิ่งหนี





เขาเห็นกลุ่มคนพวกนหนึ่งที่ไม่ชอบมาพากล เดินตามเขามาพักใหญ่แล้ว เพราะอี้เฟิงอาจจะถิอของมีค่ามาด้วย เช่นโทรศัพท์ มีนาฬิกาเรือนสวยราคาแพง เสื้อผ้ารองเท้าก็สามารถเอาไปขายต่อได้  อี้เฟิงคิดไม่ถึงว่า ความอันตรายยามค่ำคืนก็มี และแม้เขาเป้นผู้ชาย แต่เพราะได้รับการดูแลที่ดีเกินจนเคยตัว  ป้องกันตัวเองได้ก็แค่เพียงเล็กน้อย  อี้เฟิงเหลือบไปมองพวกนั้น พวกเขาที่ตอนแรกแค่เดินตาม เมื่ออี้เฟิงรู้ตัวก็ยิ่งเร่งฝีเท้า ตอนนี้เขาวิ่งหนี คนเหล่านั้นมีอาวุธ อี้เฟิงก็ยิ่งรู้สึกลัวขึ้นมา 



เขาเร่งฝีเท้าให้เร็วขึ้นกว่าเดิม





ไม่พ้น..อี้เฟิงยังวิ่งไม่พ้น กลุ่มคนพวกนั้นคงจะตั้งใจไว้แล้ว ทำไมเขาถึวงรู้ตัวช้านักนะ  อี้เฟิงรู้ตัวเองดีว่าเป็นคนไม่ค่อยระมัดระวังตัวเองเท่าไหร่ เคยชินที่มีคนดูแลใกล้ ๆ และไม่เคยได้รับอันตรายอะไรเลย ยกเว้นในกองถ่ายที่อย่างไรก็มีคนดูแลประคบประหงมอย่างดี



ให้ตาย




ตอนนี้เขาจะต้องเอาตัวรอด อย่างน้อยก็ให้รอดพ้นคนพวกนี้ไป สมองอี้เฟิงคิดอะไรไม่ทัน ไม่มีเวลาจะยกมือถือกดโทรหาใครด้วยซ้ำ  ฝีเท้าเร่งให้เร็วเพื่อให้ถึงที่ปลอดภัย ซึ่งเขาก็ไม่รู้ว่าที่ไหน



ทำอย่างไรดี




ใครที่จะทำให้อี้เฟิงรู้สึกปลอดภัยเมื่ออยู่กับเขา





นอกจากบอดี้การ์ดของเขาแล้ว แม้ปลอดภัยแต่ตอนนี้อี้เฟิงรู้สึกลัวด้วย






เขาต้องการความรู้สึกมากกกว่านั้น







อบอุ่น... ความอบอุ่น
หยางหยาง.....








หมอนั่นเข้ามาในความคิดของอี้เฟิง พลันความคิดของอี้เฟิงลัดเลาะไปตามร่องความทรงจำและพลันให้นึกถึงวันนั้นที่หยางหยางไปช่วยเขา






แต่จะเป็นไปได้อย่างไรที่คนคนนี้จะมาช่วยเขาอีกครั้ง เพราะอีกคนอยู่กันคนละฟากฝั่งประเทศ
และเป้นไปได้อย่างไรที่เขาคิดถึงซาตานที่ทำร้ายตัวเองทั้งร่างกายและจิตใจ
ทั้งที่เกลียดกันแท้ ๆ ก็กลับคิดถึงเขาเมื่อมีอันตราย






เขาว่ากันว่าเวลามีวิกฤตหรือมีอันตรายเราจะคิดถึงสิ่งที่สำคัญ
ครอบครัว งานและทุกคน
แต่อี้เฟิงแปลกใจที่ครู่หนึ่งในความคิดและในคำถามนี้มีหยางหยางเข้ามาวนเวียนด้วย
เขาผลักหยางหยางออกไป ไม่มีทาง คนคนนี้อยู่ในหลุมดำของความทรงจำของเขาด้วยซ้ำ





อี้เฟิงไม่มีทางให้เขาคนนี้มาเป้นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตหลี่อี้เฟิงมีความสุขหรอก







คิดอะไรไปไกล อี้เฟิงก็พบว่าคนพวกนั้นวิ่งใกล้เข้ามามากกว่าเดิม อี้เฟิงรู้สึกว่าตัวเองเหนื่อยหอบเต็มที่และวิ่งได้ช้าลง  ไม่นานจะต้องเสียท่า เขาต้องทำอย่างไรกับเหตุการณ์นี้ วิ่งหนีต่อไปคงไม่ดี เขาพยายามมองหาสถานตำรวจ ป้อมจำรวจ หรือเจ้าหน้าที่ที่ไหนก็ได้







หรือใครซักคน






แต่ความคิดนี้พาลทำให้เขาคิดถึงหยางหยางอีกแล้ว












อ๊ะ






เสียงหวานอุทานเบา เมื่อรู้สึกถึงแรงเหวี่ยงจากบางคน มือของคนคนนั้นโอบส่วนเอวเขาไว้แล้วกดศีรษะอี้เฟิงลง ให้ใบหน้าของเขาแนบกับอก อีกฝ่าย









อุ่น......อบอุ่น







อีกมือหนึ่งเขาเอาไปทำอะไรซักอย่าง  น่าจะถือไม้หรือวัตถุอะไรอยู่ อี้เฟิงไม่ทันมอง เอาแต่ซบอกเขาไป เพราะรู้สึกกลัว จนได้ยินเสียงคนที่กอดอี้เฟิงไว้สบถใส่คนพวกนั้นลั่นจนอี้เฟิงก็ตกใจไปด้วย มือที่โอบอี้เฟิงไว้ กระชับให้แน่นอีกครั้งคล้ายกับจะปลอบใจ  พวกคนร้ายที่วิ่งไล่หลังอี้เฟิงมา เหมือนล่าถอยไปแล้ว  อี้เฟิงลอบมองบริเวณรอบ ๆ พบว่ามีป้อมตำรวจ ซึ่งคิดว่าพวกนั้นคงไม่กล้าทำอะไรเพราะมีตำรวจอยู่ใกล้ ๆและสามารถทำอะไรได้ทันทีทันใดหากเกิดเหตุร้าย และคนคนนี้ที่กอดเขาก็ดุไม่ใช่เล่น  คงตีหน้าโหด สบถเสียงดังจนเขาเองตกใจ  คงทำอะไรพวกนั้นได้ไม่น้อย







แน่นอนอี้เฟิงรู้อยู่แล้วว่าใครที่กอดเขาอยู่ตอนนี้รับรู้ตั้งแต่ความอบอุ่นแรกเริ่มแล้ว





อี้เฟิง





เสียงทุ้มเอ่ยเรียกเจ้าของชื่อในอ้อมกอด  คนที่เป็นแมวน้อยในอกไอฃด้ยินชื่อแล้วแต่เขาไม่เงยหน้าขึ้นไป เพราะทั้งกลัวอยู่ไม่คลาย และทั้งรู้สึกเขินอายขึ้นมา





เกลียดกันมากแท้ ๆแต่กลับให้เขากอดเสียแน่น แถมหลงใหลในความอบอุ่นนี้จนไม่อยากให้เขาปล่อยกอดเลย ไม่ว่าคนคนนี้นั้นจะเป็นคนที่ทำร้ายเขาจนใจแตกสลายไม่มีชิ้นดี  ซาตานในร่างมนุษย์






แม้ไม่อยากคิดว่ามันย้อนแย่งกับความรู้สึกที่ย้ำบอกตัวเองทุกวันว่าเกลียดเขา และทำร้ายของคืนไปจนเขาเจ็บช้ำสาแก่ใจแล้ว ไม่อยากพบอีก แต่เมื่อมาอยู่ในอ้อมกอดเขาแล้ว





สุดท้ายความรู้สึกที่ไม่อยากจะเชื่ออย่างหนึ่งก็ปรากฏในใจ






ช่วงนี้เป็นเวลาดึกดื่น ในตอนนี้ก็มีเราและ รอบข้างที่แทบไร้ผู้คน







แค่เวลานี้แล้วกัน ที่อี้เฟิงจะปล่อยใจทำตามที่อยาก








อี้เฟิงคิดถึงอ้อมกอดนี้เหลือเกิน

ใบหน้าหวานขยับเปลี่ยนองศาอีกรอบ ซุกหาความอุ่นเพิ่มก่อนเอ่ยปากเรียกเขาเสียงค่อย เพราะใจเผลอ










หยางหยาง...











*-***************************************************END THISMAN SPECAIL  ‘This Time’




TALK :: โร แมน ติค!



1 ความคิดเห็น:

  1. เยี่ยม ตอนสเปเชียลนี่ของดีของจริง ดูไม่เล่นละครตั้งแง่วางท่าใส่กันสักนิด แต่ชอบที่ไม่แสดงออกมาตรงๆ ชอบที่วางตัวกันแบบนี้มากกว่าเปิดเผยความรู้สึกในใจออกมามากกว่านี้ คนหนึ่งปัดตลอด ไม่ใช่ไม่รู้สึกนั่นนี่ อีกคนยอมรับแต่สิ่งที่ทำก็กดทับอยู่แบบนั้น
    ฟีลแบบนี้ดี๊ดี

    ตอบลบ