วันอังคารที่ 13 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[Sfic] LOOP - หยางเฟิง









หือ....






หยาดฝนโปรยปรายลงมา ..อากาศที่เซี่ยงไฮ้ไม่ค่อยดีเท่าไหร่เลย เดี๋ยวร้อนเดี๋ยวหนาว






อี้เฟิงมานั่งรอใครคนหนึ่งฆ่าเวลา ก็เพราะนัดกันไว้ แต่เขามีคิวละครยาวกว่าอี้เฟิง ถ่ายต่อกันจนดึก ก็เพราะสภาพอากาศวันนี้กองของอี้เฟิงยกเลิกไปกลางคันแต่ของอีกคนเขาถ่ายในร่มถึงไม่มีปัญหาอะไร





นานอยู่เหมือนกัน เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว...แต่ก็ไม่เป็นไร






ก็เพราะอยากเจอล่ะนะ....ยอมรอหน่อยแล้วกัน








แต่วันนี้หนาวนิดหน่อยแฮะ







วันนี้แม้ว่าอี้เฟิงจะแต่งตัวด้วยแจ็คเกตดำ กางเกงขายาวสีดำ แม้ตอนค่ำเขาก็ยังต้องใส่แว่นกันแดดปิดบังใบหน้าของตัวเองเพราะเขาเป้นคนของประชาชนที่มานั่งทำอะไรก็ไม่รู้ที่ริมทางเท้า ทางเดินระหว่างโรงแรมที่เขาพักกับโรงแรมของอีกคนที่อยู่ในถนนใหญ่สายเดียวกัน อุตสาห์ให้พี่ผู้จัดการขับมาส่งตรงนี้ แอบมากัน และเตี๊ยมเวลานัดรับส่งกันแล้ว  ไม่อยากเจอจริง ๆ จะไม่ทำอะไรลับ ๆ ล่อ ๆให้เสี่ยงปาปารัซซี่เลยเชียว






แต่เจ้านั่นทำให้อี้เฟิงรอนานเกินไปแล้ว


















หือ.....



อี้เฟิงร้องอุทานในใจอีกที พร้อมเบิกตากว้างนิดหน่อย เพราะตกใจ เขานั่งเฉย มองท้องฟ้ายามค่ำคืนไปพร้อมกับร้องทำนองฮัมฮือ ๆ ไม่รู้ว่าเพลงอะไรที่ติดหูมา แต่ซักครู่หนึ่งมีอะไรซักอย่างมาสอดไว้ที่หู มีทำนองเพลงคลอมา จนรู้สึกตัวก็รู้ว่ามันคือหูฟังเสียงดีของยี่ห้อไหนซักยี่ห้อ พร้อมเพลงเพลงหนึ่ง ซึ่งคนที่มาใส่หูฟังให้ก็ใจตรงกันกับอี้เฟิง  เพราะมันคือเพลงเดียวกันกับที่เขาฮัมอยู่เลย






รู้อยู่แล้วว่าใคร








“ช้านะ”
“คิวงานผมเยอะ ผมดังแล้วนะเดี๋ยวนี้น่ะ”
“จ้า พ่อพระเอกคนหล่อ”






อีกฝ่ายที่มาใหม่ทรุดนั่งข้าง ๆ เขา  ไม่ได้ใกล้กันขนาดนั้น แค่สายหูฟังเชื่อมกันถึง เมื่อนั่งลงข้าง ๆ อี้เฟิงหันไปหาอีกฝ่าย





แต่งตัวมา...เหมือนกันเด๊ะ....





แว่นดำยี่ห้อเดียวกัน รองเท้าไนกี้ จำได้นี่เขาซื้อหลังเจ้านี่เลยโดนแซวว่าแอบซื้อตาม  เสื้อแจ็คเกตยี่ห้อเดียวกัน ลายคล้ายกันมาก กางเกงสีดำกัน ทรงผม โครงหน้า ก็คล้ายกันอยู่แล้ว






“เดี๋ยวก็ถูกว่าว่าเป็นแฝดกันหรอก หยางหยาง”
“นี่ผมตั้งใจแต่งมาให้เหมือนกัน โรแมนติคดีออก แล้วก็ถ้าปาปารัซซี่มาเจอ พอวิ่งหนีเขาก็ไม่รู้หรอกว่าใครคนไหนเป็นใคร พี่หรือผม”





หยางหยางพูดจบก็กลั้วหัวเราะ กลบเสียงเพลงนิดหน่อย อี้เฟิงก็ขำเหมือนกัน มันก็จริงแบบนั้นดูบันเทิงดีไม่น้อย ดาราหนุ่มสองคนวิ่งหนีแต่ปาปารัซซี่ตามจับมาถ่ายรูปไม่ได้ เพราะไม่รู้ใครคนไหนเป็นใครกันแน่ หน้าตา โครงหน้า แต่งตัวก็เหมือนกันยันปลายเท้า หยางหยางก็ช่างคิดดี 





“แล้วนี่ต้องตื่นเช้าไปถ่ายอีกมั้ย”
“ก็เหมือนพี่นั่นล่ะ เริ่มกองเวลาใกล้ๆ กัน”
“ไว้จะเมลไปบอกว่าแต่งอะไรไปทำงาน”
“จะให้เป็นแฝดกันอีกหรอ เดี๋ยวก็ถูกจับคู่หรอก โดนดุอีกนะ”
“สนุกดี เป็นแฝดกับแฟนตัวเองมันไม่ดีตรงไหน”





คราวนี้ถึงครั้งที่หยางหยางเขินมาบ้าง หลังจากที่อี้เฟิงแอบเขินจนใจเต้นนิดหน่อยกับโมเม้นท์เสียบหูฟังส่งเพลงหวานที่เขาก็ฮัมติดปากอยู่ 





ใช่..เป็นแฟนกัน แต่งตัวเหมือนกันไม่ดีหรอ ? สนุกเสียอีก ?ไม่มีใครรู้ความสัมพันธ์ของเราเท่าเราสองคน
แต่ไม่รู้เด็กนี่จะเข้าใจมั้ยว่าเราทำอะไรกันอยู่



“เข้าใจว่าพี่สนุก แต่ว่าพี่จะโดนดุ”
“เป็นห่วงฉันด้วยแล้วก็ความรู้สึกตัวนายด้วยสินะ”
“ก็ทั้งสองอย่าง  บางทีผมก็อยากเปิดเผยหรอกนะ”
“ได้ที่ไหนเล่า เจ้าเด็กนี่”



อี้เฟิงขยับเข้าไปใกล้หยางหยางอีกนืดหน่อย รู้สึกถึงผิวสัมผัสที่ต้องกันที่มืออบอุ่นของอีกฝ่าย แต่ไม่มีใครคว้ามือใครจับไว้  รู้สึกว่า...ไว้แค่นี้ก่อนดีกว่า




ต่างคนก็ต่างเป็นห่วงกัน เอาเป็นว่าแค่หูฟังที่ฟังเพลงกันคนละข้าง เชื่อมเราสองคน อันนี้ก็ถือว่าโรแมนติคมากแล้วสำหรับความรักของผุ้ชายเกรียนๆ สองคน



เพราะยังไงก็เป็นผู้ชายทั้งคู่ จะให้มีนั่งโรแมนติคกันก็ไม่ไหว พาลจะเป็นบ้าตายเอา แต่จะให้ห่างเหินกันจนเกินไปก็ไม่ดี มันไม่ได้สัมผัสถึงหัวใจของอีกฝ่าย





แค่นี้ก็ดีแล้ว







“เพลงนี้เพราะดีเนอะพี่”
“อือ ฟังในรถทุกวันแต่ไม่ยักจำได้ว่าเพลงใครแต่เพราะ ฮัมจนติดปาก”
“ว่าไปเราก็ชอบอะไรเหมือนกัน เยอะนะเนี่ย”
“เพราะนั่นน่ะเเหละ ไม่อย่างนั้นเราจะมารักกันหรือ หยางหยาง”





อีกครั้งที่คนพี่ทำให้หยางหยางยิ้ม เพราะอี้เฟิงเป็นคนเปิดเผยมากเรื่องความรู้สึกหากอีกฝ่ายคิดเหมือนกัน  ใบหน้าหล่อเหลาหันไปหาอีกคน คนข้าง ๆ ใบหน้าของเทพบุตรแห่งชาติแฟนของเขาแดงไปหมดทั้งแก้มแดงหูแดงไปแล้ว ไม่รู้เพราะอากาศหนาว หรือเขินมากกว่ากัน  เพราะคำพูดน่ารัก ๆของตัวเองแท้ ๆ แต่นั่นทำให้หยางหยางใจเต้นระส่ำไม่หยุด ..  






เขายกมือแตะปลายจมูกแดง ๆ ของรุ่นพี่คนรักคนน่ารัก และแซวหยอกล้อไปว่า จมูกแดงเป็นกวางเรนเดียร์ อีกฝ่ายปัดป้องมือออกและส่งค้อนมาให้ตามนิสัยคนปากไม่ตรงกับใจ






“เพลงนี้จบแล้วจะกลับละนะ”
“เอ๋ ผมเพิ่งมานะ”
“ส่งเครื่องเล่นเพลงมาซิ”





หยางหยางส่งไปให้ตามที่แฟนขอ อี้เฟิงกดเข้าเมนู  กดฟังก์ชั่นให้เพลงเพลงนี้เล่นซ้ำไปมา






พอหยางหยางเห็นว่าอีกฝ่ายทำอะไรก็ยิ้มออก






เมื่อเสร็จสรรพอี้เฟิงก็ส่งเครื่องเล่นเพลงคืนเจ้าของ พร้อมขยับให้ร่างของตัวเองชิดกับหยางหยาง และก็นั่งเอามือล้วงกระเป๋ามองฟ้ามองดาวไปเรื่อย ๆ ฮัมเพลงในหูที่เป็นเพลงโปรดไปเสียแล้ว หยางหยางเห็นอีกคนปล่อยอารมณ์สบายใจเช่นนั้น เขาก็เริ่มฮัมเพลงคลอไปกับอี้เฟิงด้วย ทั้งคู่จุดรอยยิ้มปรากฏยามค่ำคืน ใต้ท้องฟ้าที่เริ่มโผล่พ้นดาวให้เห็นบ้างแล้ว






“หนาวอ่ะพี่ กอดหน่อยได้มั้ยอ่ะ”
“โน่น ต้นไป ไปกอดซะ”
“ไม่เอาอ่ะ พี่น่าจะอุ่นช่วงนี้เริ่มอ้วน”
“ไอ้เด็กนี่หนิ!





เพลงหวานเพลงเดิมวนซ้ำไปมา ไม่จบเสียที พอทิ้งไว้ไม่กิวินานทีก็วนเริ่มหนึ่งจังหวะเข้าเพลงใหม่





จนกว่าแบตเครื่องเล่นเพลงหมดลง..ทั้งคู่คงได้มอบความอบอุ่นใจให้กันและกันจนหัวใจละลาย







------------------------------------------------------------------------------ END LOOP ----------------------------------





ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น