วันศุกร์ที่ 30 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[FIC] B E T W E E N - หยางเฟิง : CASE 1



TITLE : B E T W E E N
CHAPTER :   CASE  1
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG
TALK :: เรื่องใหม่ค่า อาจจะยังดูงง ๆ ไม่เข้าร่องรอยบ้างแต่ก็ฝากด้วยน้า






-----------------------------------------------------------------------------------------------------------------







บรรยากาศในห้องนี้อาจจะดูเย็นเยือกผิดปกติ.... เหล่าบรรดาลูกน้องในทีมที่ต่างพานั่งเกร็งกันจนไม่ขยับตัว แต่ยังคงส่งกระแสประสาทสาดใส่ฝั่งตรงข้าม...ก็เหมือนกับหัวหน้าของพวกเขาที่กำลังทำอยาตอนนี้




“ว่าไง ผู้กองหยาง คุณจะถอนตัวรึเปล่า”
“คุณผู้กองผู้เถรตรงหลี่อี้เฟิงครับ  งานใหญ่งานสนุกมาสเนอตรงหน้า คุณจะให้ผมถอนตัวไปหรือ ก็โง่น่ะซี่”





ไอ้หมาบ้านี่มันกวนประสาท....



อี้เฟิงมองฝั่งตรงข้ามที่นั่งกับเขาไม่เกินหนึ่งช่วงโ ท้าวแขนมองเขาอย่างนึกสนุก เพราะการทะเลาะกันของทั้งสองฝ่าย นั่นเอง ทำให้บังเกิดเรื่องที่ไม่ควรจะเกิดเสียแล้ว อี้เฟิงก็คิดพลางว่าตัวเองไปพลาง ไม่น่าหลุดปากไปเถียงกับไอ้หมาป่าบ้าเลือดคนนี้ เขาไม่ชอบสไตล์ทำงาน บุคลิคกวนประสาท ไหนจะปากดีกวนโอ๊ยนั่นอีก ทำงานกับคนพรรค์นี้มีแต่งานจะเสีย แต่พูดอะไรมากก็คงลำบากแล้ว



ยังไงตอนนี้เขาทั้งสองทีมก็ต้องทำงานด้วยกัน

















กลับไปตอนที่อี้เฟิงกับหยางหยาง ยังคงยืนส่งรายงานล่าสุดกับงานที่ไปทำมา หลังจากรายงานความสำเร็จของงาน ก็โดนด่าไปตามระเบียบสำหรับผู้กองหยางหยาง ที่ทำงานนอกลู่นอกทางเช่นเคยแต่งานประสบความสำเร็จได้อย่างไม่น่าเชื่อ จับคนร้ายในทั้งหมดและไม่มีคนไหนหนีรอด หลักฐานครบครัน เป้นคดีไม่ใหญ่ไม่เล็กให้คนหนุ่มไฟแรงและมีความสามารถ แถมบ้าเลือดอย่างทีมของหยางหยางเป็นผู้ลงมือ  ซึ่งเป็นปฏิบัติการที่ทางทีมของหยางหยางได้กระทำกันเองโดยไม่แทบไม่ขอกำลังเสริมมจากกองไหนเลย มีพวกเขาแค่สี่คนก็สามารถดักจับพวกค้ายาในมุมเมืองมใหญ่ได้ เรียกว่าพวกเขาอาจจะมีสายนอกที่เป็นกองหนุนอยู่แล้ว


ส่วนงานของผู้กองหลี่ไม่ใช่งานที่ด้อยไปกว่ากัน เป็นการบุกทะลายบ่อนผิดกฎหมาย ซึ่งได้วางแผนมาอย่างรอบคอบและรัดกุมอย่างยิ่ง การดำเนินการตามแผน ปิดล้อมทุกทางเพื่อกันหลบหนี ซึ่งทั้งหมดทำให้ทุกอย่างเป็นไปได้ด้วยดี ทุกทีมไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหนักแม้จะมีเหตุปะทะกันบ้าง แต่ทุกอย่างทั้งผู้ต้องหา หลักฐานเก็บได้ครบ ไม่มีที่ติ จนเรียกได้ว่างานสมบูรณ์แบบ




“พวกคุณทำงานได้ดี แต่ให้ระวัง แม้จะเก่ง ฉลาดแค่ไหน ประสบการณ์ก็จำเป็น ถามกันบ้างก็ได้ หรือว่าจะไปศึกษาจากที่อื่นมา อันนี้เข้าใจกันนะ”





ทั้งสองคนพยักหน้ารับคำผู้บังคับบัญชา และก่อนจะออกจากห้องไปก็ยังมีส่งกระแสประสาทใส่กันไม่ลดละ ที่จริงแล้วเรื่องการไม่ถูกกันของทั้งสองคนนี้เป้นที่รู้ดีกันทั้งกรม เจอกันเป็นต้องมีปะทะฝีปาก เกือบหลายครั้งที่จะใช้กำลังกันหากไม่มีใครมาห้ามไว้ แต่อย่างน้อยสองคนก็ยังพอมีสติยับยั้งไว้ว่า ที่นี่คือสถานที่ราชการ และแน่นอน ทั้งสองคนไม่มีทางจะไปพบกันด้านนอกอยู่แล้ว ให้เรียกได้ว่าถ้าผู้กองหลี่ซ้าย ผู้กองหยางจะไปขวา แบบไม่ยอมกันไม่มีทางไปเดินทางเดียวกัน ไม่ยุ่งวุ่นวาย เรียกได้ว่าเกลียดขี้หน้ากันอย่างสมบูณณ์แบบ เพราะแตกต่างกันทุกอย่างทั้งบุคลิค ไลฟ์สไตล์ การทำงาน ทัศนคติ และทุกอย่างที่ไม่เอ่ยถึง แทบเรียกได้ว่าเป็นคู่ที่ต่างกันสุดขั้ว






“ผมรู้มาว่าพวกคุณสองคนไม่ถูกกัน ท่าทางข่าวลือนั่นจะจริงสินะ”






ผู้กองตัวแสบทั้งคู่ เงยหน้ามองผู้บังคับบัญชาอย่างกลืนไม่เข้าคายไม่ออก ก่อนหันมองหน้ากันด่ากันทางสายตาว่าใครมันเอาเรื่องนี้ไปบอก ด่ากันเองทั้งสองฝ่ายโดยไม่มีเสียง กระแสประสาทหนักข้อขึ้น จนผู้บังคับบัญชายิ้มขำกับเด็กในบังคับบัญชาของตัวเอง

“ไม่ต้องด่ากันเอง ไม่มีใครบอกทั้งนั้นล่ะหน่า ผมเป็นหัวหน้าพวกคุณถึงจะไม่ค่อยได้อยู่กับที่ ไม่ได้ไปทำงานกับพวกคุณ แต่ข่าวคราวผมก็รู้หมดทั้งนะ ผู้กองหลี่ ผู้กองหยาง “






ทั้งสองเหมือนเห็นเค้าลางที่มาจ่ออยู่ตรงหน้า เหมือนพายุฝนที่รอสาดลงพื้นดดิน แม้จะมาทำงานได้ไม่นาน พวกเขาก็ทราบดีว่า การที่ลูกน้องในบังคับบัญชาสองคนไม่ถูกกัน หัวหน้าของพวกเขาคงไม่ชอบใจ อี้เฟิงคิดพลางไปว่า แม้เขาจะเลี่ยงการทะเลาะกับผู้กองหมาบ้าคนนี้แล้วบางทีก็อดไม่ได้ที่จะว่าออกไป เพราะความหมั่นไส้ส่วนหนนึ่งและความกวนประสาทจากอีกคนส่วนหนึ่งประกอบกัน บางทีก็มีปะทะคารมกันบ้าง ส่วนหยางหยางเองก็คิดว่าแม้จะไปกวนประสาทผู้กองลูกแมวที่ชอบทำหน้าตาหน้าเอ็นดู ใคร ๆ ก็บอกว่าหลี่อี้เฟิงเป็นเสือผุ้เยือกเย็น แต่หยางหยางเห็นคนคนนี้เป้นแมวน้อยเสียมากกว่า ทำอะไรก็ชักช้า เป็นขั้นตอนน่าเบื่อ ขี้กลัวไปหมด เป็นตำรวจมันก็ต้องเสี่ยงบ้าง บางทีหยางหยางก็แอบไปจิกกัดคุณผู้กองลูกแมวจนเป็นเรื่องให้ต้องเถียงกัน แต่ก็ไม่คิดว่าผู้ใหญ่ข้างบนจะลงมาสนใจเรื่องเล็ก ๆ น้อย ๆนี้ด้วย

และเรื่องที่ทั้งสองกลัวก็เป็นจริง

“ที่จริงก็มีงานที่เหมาะกับพวกคุณสองคนอยู่นะ แต่ต้องใช้คนเยอะ จะใช้พวกคุณแค่ทีมใดทีมหนึ่งก็ไม่น่าจะครอบคลุม เผื่อสัมพันธ์ภาพจะดีขึ้น ไปทำงานด้วยกันหน่อยมั้ยล่ะ ผู้กองหลี่ ผู้กองหยาง”



















จนสองคนทีมก็ต้องมานั่งแกร่วกันอยู่ในห้องประชุม และไม่ตอบโต้อะไรกันไปมากกว่าสายตาที่สาดใส่กันมา จนผู้กองที่เป็นหัวหน้าทีมแต่ละทีมเอ่ยปาก



“ว่าไง ผู้กองหยาง คุณจะถอนตัวรึเปล่า”
“คุณผู้กองผู้เถรตรงหลี่อี้เฟิงครับ  งานใหญ่งานสนุกมาสเนอตรงหน้า คุณจะให้ผมถอนตัวไปหรือ ก็โง่น่ะซี่”






บอกให้เขาถอนตัว ตัวเองจะเอาหน้ารึไง ไอ้ผู้กองลูกแมวเอ๊ย.... เข้ามาก็เส้นพ่อ ถึงจะบอกว่าไต้มาตามลำดับขั้นแต่ก็ขึ้นไวพรวดๆ แบบนั้น ใครจะเชื่อวะ


หยางหยางปรามาสผู้กองอีกคนในใจ เขาท้าวคางรับใบหน้าหล่อเหลาได้รูปมองผู้กองหลี่ คู่อริของเขาที่นั่งอยู่ตรงข้ามและทำท่าเดียวกันส่งสายตาดุดันมาหาเช่นกัน หยางหยางจึงส่งสายตาล้อเลียนกลับไป


หมั่นไส้ชะมัด .... หยางหยางเอ่ยในใจ   พอเขาส่งสายตาล้อเลียนไปให้ อีกฝ่ายก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่พ่นลมออกจมูก หยางหยางร้องโอโหอุทานในใจ เขาคิดว่าเขากำลังโดนผู้กองหลี่คนนั้นค้อนใส่  ผู้กองหมาป่าใช้สายตาคมกริบมองอีกฝ่าย ก็เห็นมีข่าวลือว่าผู้กองคนนี้หน้าตาน่ารักเหมือนไอดอลสมัยนิยม แต่ก็ไม่ได้คิดจะไปสนใจอะไร เห็นหน้าแค่แว้บเดียวก็ไม่อยากมองต่อเพราะเดี๋ยวจะมวยกันเสียเปล่า ๆ แต่ตอนนี้ได้นั่งพินิจพิจารณาใกล้ ๆก็จริงอย่างที่สาว ๆเขาเม้าท์กัน หน้าตาไม่น่ามาเป็นตำรวจให้เสียดายเลย  ที่จริงผู้กองหลี่คนนี้ไปเป็นไอดอลเสียจะดีกว่า อีกอย่างจะได้ไม่มาขวางทางเขาด้วย


“ผู้กองหลี่...ถ้าคุณจะตั้งแง่ให้ผมถอนตัวจากคดีนี้ ก็ฝันไปเลย ทีมผมพร้อมกับงานเสี่ยง ๆ แบบนี้อยู่แล้ว ก็มีทีมของคุณนั่นล่ะ ลงพื้นที่บ่อยกว่าผมหรือ ? ถึคงจะแม่นทฤษฏี เก่งกันทุกด้าน แต่ว่านะผู้ร้ายน่ะมันไปได้เล่นตามแผนคุณไปเสียทุกเรื่อวงหรอกนะ ผู้กองหลี่ คิดดี ๆ คนที่จะต้องถอนตัวจริง ๆ น่ะใคร คุณหรือผม”



ไอหมาบ้านี่ จะดูถูกกันเกินไปแล้ว....อี้เฟิงกรนด่าผู้กองหน้าหล่อทางสายตาให้หายแค้น กอ่นพ่นลมใส่จมูกแล้วสะบัดหน้าไปทางอื่น ไม่มองใบหน้ากวนโอ๊ยนั่นอีกครั้ง ทำไมผู้มใหญ่จะต้องมาสนใจเรื่องราวอะไรเล็กน้อยกับเรื่องความสัมพันธ์ของลุกน้องด้วย ปล่อยผ่านไปเลยก็ได้ แต่เพราะเป็นคำสั่ง อี้เฟิงก็เสนอให้อีกฝ่ายถอนตัวจะได้ไม่ต้องมาเบียดขาเบียดเข้งทำงานแต่อีกฝ่ายดันอยากเล่นคดีนี้ด้วย


“ผมไม่มีทางถอนตัว แต่ผู้กองหยาง คุณมั่นใจหรือว่า วิธีบ้าดีเดือดของคุณจะใช้ได้กับทุกอย่างน่ะ”
“แน่นอน บ้าดีเดือด แต่มันก็เป็นไปตามแบบของมัน ก็แล้วแต่ เราจะแยกกันทำก็ได้ แบ่งส่วนกันไปเลยก็ได้ ยังไงโกดังอาวุธเถื่อนก็ใหญ่โต เราแบ่งพื้นที่กันเคลียร์  แต่ถ้าพลาด ผมไม่ไปช่วยด้วยหน่าคุณผู้กองหลี่ “



คุณผู้กองหน้าตาน่ารักที่ถูกสบประมาทกัดฟันกรอดก่อนกระแทกแก้วกาแฟที่ยกมาดื่มก่อนหน้านี้ตรงโต๊ะด้านหน้าตัวเอง อี้เฟิงข่มอารมณ์ไม่ให้ออกปากด่าใส่ผู้กองคู่อริ 


เขาเข้าใจว่าอีกฝ่ายคลุกคลีกับเรื่องชั่ว ๆ..เอ่อ ไม่ดีมาเยอะ แต่ไม่เห็นต้องมาสบประมาทกันแบบนี้ เขารู้ประวัติของผู้กองหยางหยางนั่นก็ไม่น้อย เป็นผู้ร้ายมาก่อนจะกลายเป็นคนบ้าในกองสืบสวน เขาเคยต้องโทษคดีหนัก แต่เพราะใช้ความรู้ ข้อมูลจากที่เคยทำงานให้องค์กรนั้นและมาช่วยงานสืบสวนของกรมตำรวจ จนได้ดิบได้ดี ขึ้นมาเป็นถึงผู้กองในกองสืบสวน 


อี้เฟิงไม่เคยมั่นใจในความภักดีต่อความดีของผู้กองหมาบ้านี่  ไม่แน่ซักวัน เขาอาจจะกลับไปเป็นคนร้ายอีกก็ได้ และนั่นล่ะ เขา ผู้กองหลี่อี้เฟิงคนนี้จะจับไอ้บ้านี่ด้วยตัวเขาเองแน่ ถ้าหากเขาจะกลับไปในหนทางนี่อีก ประกาศกันไปเลยว่า คนชั่วก็เป็นคนชั่วอยู่วันยังค่ำ และเขาเป้นคนที่จับความชั่วนี่ได้



และไอ้คดีหนักที่หยางหยางเคยข้องเกี่ยวจนถูกจับต้องโทษก็เกี่ยวกับเรื่องวงจรอุบาทว์ของพวกมาเฟียในเมืองใหญ่ของจีนที่สุดท้ายแล้ว หยางหยางก็สามารถให้ข้อมูลกลับใจมาเป็นคนดี(ก็อย่างที่เขาว่า) และกำจัดมาเฟียกลุ่ม ถอนรากถอนโคนจนสิ้นซาก


งานแฟ้มใหม่นี้ ที่ทั้งเขาและหยางหยาไงด้รับก็คือการไปเก็บกวาด พันธมิตรมาเฟียอีกกลุ่มของพวกมาเฟียกลุ่มนั้นให้หมดไปจากแผ่นดิน



“ก็ได้ แบ่งส่วนพื้นที่กันไป ใช้วิธีทำงานกันคนละแบบ คุณเองก็อย่ามายุ่มย่ามในวิธีของผมก็แล้วกัน ในเขตพื้นที่ก็อย่ามาล้ำเส้น ผมไม่รับคำสั่งของใครหากมีผมเป็นหัวหน้าปฏิบัตการ”
“ก็ไม่ว่ากัน คุณต่างหาก อย่ามาเจ้ากี้เจ้าการ แบ่งพื้นที่กันแล้วก็แยกกัน วิธีของผมมันอาจจะทำให้งานเสร็จก่อน ทีมลูกแมวของคุณก็ได้นะ”




ในช่วงขณะที่พูดไปเรื่อย ๆหยางหยางก็คว้าแฟ้มคดีและเดินถอยหลังออกจากก้าวไป ลุกน้องของเขาออกไปก่อนแล้ว จนจบคำสุดท้าย แก้วกาแฟก็ลอยกระแทกปังเข้าประตูที่สนิทไล่หลังหยางหยางไปเพียงไม่กี่วินาที  เพราะล้อคุณผู้กองหลี่ว่าทีมลูกแมว  จนเขาโกรธ แก้วกาแฟที่เปล่าไร้เครื่องดื่มแล้วจึงลอยลิ่วไป ผู้กองหลี่หมายจะให้ปะทะหน้าหล่อ ๆ กวนประสาทของหยางหยางซักทีและมันพลาดไปไม่กี่วินาที เขาแสนแค้นใจที่ถูกไอหมาบ้านั่นล้อไม่เลิก



“เดี๋ยวก็รู้กัน ไอหมาบ้าเอ๊ย”






ออกจากห้องประชุมมา ทั้งผู้กองหยางหยางตัวแสบ ทั้งลูกน้องในทีมทั้งสามคน อี้ฝาน เสี่ยวอิง  เฉินเสียง ก็พลางหัวเราะร่อต่อกระซิกกับหัวหน้าของตัวเองที่แสบสันต์ล้อผู้กองที่ได้ชื่อว่าเอาแต่ใจสุด ๆ ในกองสืบสวนนี้แล้ว



“หัวหน้าก็ไปล้อเขาแบบนั้นนะคะ”
“ก็สนุกดี พวกนายก็สนุกนี่ ไม่ใช่รึไง”


เสี่ยวอิงหนึ่งในทีมของหยางหยางเอ่ยขำ ๆ แกมแซหัวหน้าตัวเอง หยางหยางตอบเธออย่างสนุกในใจ เห็นอีกคนได้โมโหแบบนั้นก็ยิ่งสนุก ขอให้โมโหจนอกแตกตายไปเลยยิ่งดี จะได้ไม่ต้องมาข้องเกี่ยกกันอีก




จะให้ทำงานร่วมกันหรอ? กลัวจะขัดขากันเสียมากกว่า ก็ขอให้ผู้กองหลี่คนนั้นอย่ามาวุ่นวายกับวิธีของทีมเขาแล้วกัน  กลัวว่าเดี๋ยวจะหัวใจวายเพราะทีมนี้ทำงานกันผาดโผนไม่ไม่คำนึงถึงกฏเกณฑ์อะไร แบบที่ทีมของผู้กองหลี่เขาทำกัน เดี๋ยวแหกกฎมากเข้า คุณผู้กองลูกแมวนั่นจะประสาทเสียเอาเปล่า












-------------------------------------------------------------------------------------------tbc case 2

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น