วันศุกร์ที่ 2 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[Fic] THISMAN - หยางเฟิง CHAPTER : 9 'คนคนนี้แสนทรมาน'


TITLE : THISMAN
CHAPTER : 9 'คนคนนี้แสนทรมาน'
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG – 15


********************************************************************************


ผม...รักคุณ
“----นาย...





แม้ไม่ได้ทวนคำ แต่ที่อุทานเสียงเบาครางต่ำออกไป อี้เฟิงได้ยินเต็มสองหู แต่แค่อยากให้อีกฝ่ายยืนยันคำที่เขาพุดอีกครั้ง เขาไม่เชื่อว่าจะได้ยินคำคำนี้ออกจากคนที่ได้ถูกเขาตีหน้าไว้ว่าเป็นคนที่ใจร้ายและเลวที่สุดในชีวิตของหลี่อี้เฟิง





ผม....
ฉันให้นาย.....พูดใหม่อีกครั้ง ...




หยางหยางไม่พูด  เหมือนเขาพูดออกไปอย่างเผลอตัวและไม่เชื่อตัวเองเหมือนกัน อี้เฟิงเปิดโอกาสให้






“..ถ้าฉันฟังผิดไป ก็ดี แต่ถ้าเป็นคำคำนั้นจริง ๆ นายไม่ควรพูดออกมาส่งเดช คำคำนั้นไม่ใช่คำที่นายควรจะมาพูดให้ฉันได้ยิน*---





ผมรักคุณ




หยางหยางสวนทะลุกลางประโยคขึ้นมา อี้เฟิงจากที่ก้มหน้าอยู่ตลอด น้ำตานองอาบแกมนิ่มนวลที่เป็นรอยช้ำ น้ำตาที่ไหลซ้ำหยาดลงตามความเร็วของน้ำหนักหยดน้ำตามความโน้มถ่วง ไหลซ้ำและทับคราบน้ำตาเดิมที่แห้งไป ในช่วงเวลา..ในเหตุการณ์หนักอึ้งหัวใจตอนนี้ อี้เฟิงร้องไห้เวลา..ต่อหน้าหยางหยางที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขา




นายต้องการให้--.. ฉันรู้สึกยังไง
คุณได้ยินสิ่งที่ผมบอกคุณไป...เมื่อครู่ใช่มั้ย...




หยางหยางพูดคำถามช้า ๆ  นั่นกลั่นออกมาจากใจเขาโดยตรง  เขาไม่มีอะไรที่จะต้องเสแสร้งแกล้งทำอีกต่อไป เมื่อความรู้สึกที่แท้จริงนั้นได้ปรากฏด้วยคำพูดของเขาถึงหลี่อี้เฟิงแล้ว




หยางหยางรักหลี่อี้เฟิง






ในที่สุดหยางหยางก็ยอมรับความรู้สึกรักนี้ที่แผ่วงกว้างและตอนนี้ทับทามความรู้สึกเกลียดในแรกเริ่มไปแล้วจนหมดสิ้น ทับวงความเกลียดจนไม่เหลือร่องรอย




เขารักหลี่อี้เฟิงหมดหัวใจแล้ว มารู้ตัวตอนนี้ เขาก็ไม่สามารถถอนทั้งตัวและหัวใจได้ทัน





เขาพ่ายแพ้ต่อความรักและหัวใจตนเอง  หัวใจของหยางหยางเป็นของหลี่อี้เฟิงแล้ว






ฮึ....สะอิดสะเอียน
คุณ.....เกลียดคำว่ารัก....ของผมหรือ
นายกล้าพูดออกมา...ได้ยังไง
ผม..ผมแค่บอกความจริงแก่คุณว่าผม---
ห้ามพูดซ้ำออกมาให้ฉันได้ยินนะ!





อี้เฟิงตวาดลั่นห้องใส่หน้าหยางหยางทั้งน้ำตาอาบแก้ม เสียงหวานสั่นเครือไปด้วยความเจ็บช้ำและไม่อยากรับฟังความจริงอะไรของเขาทั้งนั้น หยางหยางได้สัมผัสจากเสียงนั้น และอยากสัมผัสอีกคนให้ถึงหัวใจ แต่ดูเหมือนตั้งแต่เขาบอกว่ารักให้อี้เฟิงได้ยินออกไป ก็เหมือนอีกฝ่ายยกกำแพงใหญ่ที่สูงเสียดสวรรค์ปิดหัวใจแล้ว





ห้าม....พูดออกมาแล้ว”  ก้อนสะอึกจุกลำคอ อี้เฟิงพูดแล้วติดขัด หยางหยางสบตาอีกคนให้มากกว่าเดิม พบว่าน้ำตาที่ไหลยังไม่หยุด นองใบหน้าเปียกปอนด้วยน้ำตา แต่แค่เพียงเขายกมือจะเกลี่ยหยดน้ำใสใบแก้ม ร่างที่สั่นเทิ้มเพราะการร้องไห้ก็เอียงหลบเบี่ยงออกไป เพียงแค่นั้นเขาก็รู้แล้วว่าไม่ทางอีก




นายมัน...---
ผมแค่อยากจะพูด
แล้วคิดว่ายังไง ฉันจะทนฟังได้อย่างนั้นหรอ นายมันหน้าด้าน กล้าดียังไงถึงได้กล้าพูดคำคำนั้นออกมา




พอจัดการกับการร้องไห้ของตัวเองได้ แม้จะไม่สนิทดี แต่อี้เฟิงร่ายยาวให้อีกคนได้ยินอย่างชัดเจน หยางหยางยังคงหยุดสายตาที่ใบหน้าหวานตรงหน้า เขารู้สึกว่าการพูดว่ารักกันหลังจากที่ทำให้อีกคนเจ็บปวด  มันเป็นอะไรที่ยากลำบากที่อีกคนจะเชื่อและยอมฟัง แต่น้ำตาของอี้เฟิงเหมือนเป็นตัวกระตุ้นใจของเขาจากก้นบึ้ง หลังจากที่หนีความจริงมานาน แค่น้ำตาเพียงไม่กี่หยดก็ทำเขาใจร้าวรานยิ่งกว่าการทำร้ายใด ๆ ทั้งหมด หัวใจเจ็บปวด ทำให้แม้แต่ร่างกายที่แข็งแรงก็ทรุดฮวบเพราะความเจ็บปวดทางใจ





ผมทำ ทำให้ร่างกายคุณเจ็บปวด....ใจก็ด้วย ใจคุณก็เจ็บ... ผมขอโทษ
ขอโทษหรอ ? ...ไอสารเลว





อี้เฟิงตบฝ่ามือที่มีแรงเพียงน้อยนิดเข้าที่ใบหน้าหล่อของคนที่นั่งตรงหน้า แน่นอนว่ามันไม่เจ็บเท่าไหร่ รอยมือที่ฟาดบนใบหน้านั้นแทบไม่ลงแรงอะไรมาก แต่ความเจ็บปวดทางใจต่อหยางหยางเป็นหนึ่งร้อยเปอร์เซนต์ แม้ขนาดไม่มีแรงก็ยังอยากทำให้เขาเจ็บปวด แค่สายตาที่มองก็มากพอที่หยางหยางจะรู้ว่าอีกคนเกลียดเขาจากก้นบึ้งมากแค่ไหน  อย่างน้อยก็ขอบคุณที่ทำให้เขารู้เสียทีว่าเขาทำอะไรลงไปกันแน่




ทำร้ายเขามากมาย สุดท้ายก็มาตกหลุมเสียเอง พ่ายแพ้หมดรูป
ซาตานที่สุดท้ายก็ย่อมพ่ายแพ้ต่อเทพบุตร ความดีความชั่ว ความมืดแสงสว่าง ขาวกับดำ
เขาอยู่ตรงกันข้ามกับอี้เฟิงทุกอย่าง
และเขาแพ้หมดทุกทาง





การหลงรักอีกฝ่ายคือความพ่ายแพ้






เขาแพ้แล้ว






แต่หยางหยางยอมแพ้เอง ถ้ายื้อรั้งจะเอาชนะสุดท้าย
เขาอาจจะไมได้แม้แต่ฝันถึง
ความรักของเขา






ซาตานที่หลงรักเทพบุตรอย่างสุดหัวใจ อย่างไรก็พ่ายแพ้





ผมแพ้แล้ว






หยางหยางหลุดเข้าห้วงความคิดเงียบหายไปซักครู่ และพูดคำนี้ออกมาลอย ๆ อี้เฟิงได้ยินก็เบิกตากว้าง  เมื่อดวงตาสีดำขลับของหยางหยางสบตา อีกฝ่ายรับรู้ได้ว่าเขายอมแพ้จากใจจริง ๆ จึงแสดงอาการเช่นนั้นออกมา



แพ้แล้ว?....ฉันชนะแล้วฉันได้อะไร ความเจ็บปวดนี้หรือ? หรือหัวใจนาย  ? ไม่เลยฉันไม่อยากได้ซักอย่าง
ถ้าเช่นนั้นขอหัวใจของคุณ ให้ผมรักษาแผลที่ผมทำกับคุณได้ไหม ในฐานะที่ผมแพ้ .... เขาทิ้งเสียงท้ายประโยคให้เบาลง เป็นเชิงถามเผื่ออีกคนจะเห็นใจ




แต่...เมื่อจบประโยคอี้เฟิงนั่งค้างนิ่งตะลึงในคำพูดของอีกฝ่าย  ทั้งที่ยังเบิกตากว้างตกใจ และครู่หนึ่งน้ำตาก็เอ่อล้นอีกครั้ง ใบหน้าหวานเหยเก อาการสะอื้นที่เกิดจากการร้องไห้ ควบคุมไม่อยู่ อี้เฟิงร้องไห้ออกมาอย่างเหลืออดเหลือทนอีกครั้ง หยางหยางนั่งมองทั้งหมดด้วยความสงบแต่ไม่เชื่อสายตา ว่าเขาจะทำให้อีกคนเจ็บปวดจนต้องระเบิดออกมามากมาย แม้กระทั่งคนที่เรียกว่าเกลียดกันสุดหัวใจแบบเขา ก็ยังแสดงออกมาต่อหน้า ใบหน้าหล่อเหลาเริ่มโศกเศร้าตาม เขาอ้าปากค้างอยากจะพูดแต่ไม่มีอะไรที่พูดแล้วอีกฝ่ายไม่เจ็บปวด ไม่มีอะไรเลย เขาคิดว่าแม้แค่เสียงของเขาอาจจะทำร้ายอี้เฟิงได้  ตอนนี้หยางหยางจะทำอะไรได้อีก อีกคนร้องไห้ออกมาสุดเสียง เสียงหวานสะอื้นจนหยางหยางอยากกอดปลอบแต่ทำไม่ได้ มือเขาที่ทำร้ายจะกอดปลอบเขาได้อย่างและเมื่ออี้เฟิงหยุดสะอื้นไห้ อีกครู่ใหญ่ที่เงียบลง




เขาก็พูดประโยคที่ทำให้หยางหยางแทบใจสลายออกมา




นายยังกล้าพูดอีกหรือว่านายรักฉัน ? นายอยากได้หัวใจของใครซักคนนายทำกับคนคนนั้นอย่างนี้หรือ? หัวใจคือของรางวัลของคนที่รักกัน แต่นายเกลียดฉัน และฉันก็เกลียดนายเหมือนกัน นายก็ยังกล้าขอหัวใจกับฉัน คนที่นายคอยทำร้ายหัวใจ กล้าดียังไงกัน..."



อี้เฟิงพูดจบประโยคด้วยความยากลำบาก เพราะก้อนสะอื้นจากการร่ำไห้ จากเพียงแค่หลั่งน้ำตา กลายเป็นสะอื้นร้องจนกลั้นไม่อยู่  เสียงหวานที่ได้ยินพูดไปสลับกับการสะอึกสะอื้น แม้หยางหยางจะก้มหน้าไม่มองแล้ว เพราะไม่อยากเห็นใบหน้าของคนที่เขาเพิ่งยอมรับว่ารักหมดหัวใจ แต่หากได้ยินเสียงสะอื้นใกล้ ๆ แบบนี้ก็ปวดร้าวไม่แพ้กัน





“....นายยังกล้ามาพูดคำว่ารักยังกล้าพูดว่าขอหัวใจฉัน นายกล้าดียังไง หยางหยาง กล้าพูดได้ยังไง...




ฟังที่อีกฝ่ายพูดจนจบ หยางหยางไม่กล้าพูดไม่กล้าอย่างที่อีกฝ่ายว่าอีกแล้ว ผิดทุกประตู และไม่มีวิธีไหนที่จะสามารถฟื้นความรู้สึกกันขึ้นมาได้ มันติดลบไปทุกทาง จะหาอะไรช่วยได้ ก็เพียงแค่เขาต้องไปให้พ้นเสีย แต่เขายังอยากมองหน้าด้วยสายตาตรง ๆ แบบนี้ มองหลี่อี้เฟิงแบบนี้ไปอีก





ออกไป
ขอโอกาสให้ผมได้ไหม
โอกาสของนาย ฮึ นายขออะไรที่มันเป็นไปไมได้ และจากนี้ไม่มีอะไรที่นายจะได้จากฉันไปอีกแล้ว มีแค่เพียงความเกลียดเท่านั้น และฉันขอให้นายออกไปจากห้องของฉันซะ






แม้อยากจะมองใบหน้านี้ให้นานแต่เพียงวินาทีเดียวเขาก็ไม่มีโอกาสอีกแล้ว






สิ้นเสียงสุดท้ายหยางหยางทำตามที่อีกฝ่ายพูดและไล่ด้วยสายตา เขาลุกขึ้นจากเตียงนอนหนานุ่มช้า ๆ สายตายังคงมองอีกฝ่าย แม้อยากเอื้อมมือไปสัมผัสแต่สายตานั้นสั่งห้ามเอาไว้แล้ว อยากจะทำทุกอย่างที่จะให้น้ำตาของอี้เฟิงหายไป แต่ตอนนี้หยางหยางที่เพียงแค่มองเขาก็ผิด และถูกห้ามทำแล้ว อี้เฟิงก้มหน้านิ่ง และเมื่อหยางหยางเดินออกไป เกือบถึงประตูห้องนอน เขาขอทิ้งท้ายย้ำให้หยางหยางฟังอีกรอบ




ออกไป อย่ามาเจอกันอีก แม้หากเจอกัน ก็ห้ามแตะเนื้อต้องตัวฉัน ใกล้แค่ไหนก็ห้ามสัมผัส ฉันเกลียดนายเต็มทนจนระเบิดออกมา ..นายน่าจะพอใจแล้ว น้ำตาของฉัน ถึงนายจะบอกว่าแพ้ แต่ฉันมีน้ำตา นั่นไม่ใช่ชัยชนะอะไรเลย ฉันรุ้สึกเจ็บปวดมากกว่าคนที่อ้างว่าแพ้แบบนายเสียอีก








แล้วคุณรู้หรือ ว่าผมเจ็บปวดมากขนาดไหน?”
ไม่รู้ แต่ฉันไม่ได้รู้สึกว่านายเจ็บปวดอะไรเลย เพราะนายกระทำฉันมาตลอด ..ที่ผ่านมา ฮึ นายก็เห็นผลงานของนายนี่ สาแก่ใจนายแล้ว ก็พอซักที นายจะยอมรับความแพ้ เพราะนายอ้างว่ารักฉันก็เรื่องของนาย แต่ฉันรู้สึกแพ้และเจ็บปวดยิ่งกว่า ....อย่ามาอ้างว่าตัวเองแพ้และเจ็บปวด มันน่าสะอิดสะเอียน





อี้เฟิงเงยหน้าจากที่ก้มมองดูตักตัวเองอยู่นาน แต่ไมได้มองหน้าหยางหยาง เขามองไปยังจุดอื่น พ้นหน้าต่างที่มีกระจกบานใสเผยเห็นทิวทัศน์ด้านนอกในบรรยากาศยามนี้  เขาแค่อยากพักสายตาหลังจากที่ร้องไห้ไปนาน





พอกันซักที






หยางหยางอยู่ฟังจนจบ และคิดว่า แม้จะย้ำว่ารักให้หมดเสียงหลี่อี้เฟิงคนนี้ก็ไม่มีวันจะเชื่อคำว่ารักของเขา






แต่แม้ไม่อยากฟัง หยางหยางก็จะพูดซ้ำ




หลี่อี้เฟิง ผมรักคุณ...นั่นคือความจริงที่ผมอยากจะบอก






เสียงนั้นจบและไม่นาน เขาก็พ้นออกประตูคอนโดและออกจากห้องพักของอี้เฟิงไปจริง ๆ เสียที








อี้เฟิงทรุดลงกับเตียงนอนอย่างหมดแรง ไม่มีเรี่ยวแรงทำอะไรอีกแล้ว ทั้งการกระทำป่าเถื่อนนั้น ทั้งร้องไห้จะเป็นจะตาย 











ไปตายซะ ไอสารเลว.. ฮึก ไปตายซะ

เขาพูดกับตัวเอง แม้น้ำตาจะไหลอาบแก้ม แต่ทุกอย่างมันสำเร็จลุล่วง อี้เฟิงระเบิดเสียงร้องไห้อีกครั้ง ความรู้สึกปะปนกันไปหมด ทั้งเหลืออดเหลือทน ดีใจที่พ้นเงื้อมมือซาตาน สะใจที่แผนการที่วางไว้มันสำเร็จทุกขั้นตอน เขาร้องไห้ด้วยความรู้สึกทั้งหมดนี้ปะปนกัน ในที่สุดเขาจะไม่ต้องมานั่งระแวงกันอีก กลัวอยู่ตลอดว่าจะถูกทำร้าย หรือทำอะไรต่าง ๆนานาเท่าที่หยางหยางคนนั้นจะคิดได้



แผนการที่คิดว่าคือการล่อลวงให้ซาตานตกหลุม
ในที่สุดมันก็ใช้ได้ผล



ร่างบอบบางไร้เรี่ยวแรงยังคงทรุดนอนไปกับเตียงแต่เพลาเสียงร้องไห้สะอื้นลงเหลือเพียงน้ำตาที่ไหลอย่างเงียบ ๆอาบแก้มทั้งสองข้าง โล่งใจเหลือเกิน เขาเอ่ยอยู่ในใจ และคิดต่อถึงเรืองราวที่ผ่านมา




อี้เฟิงที่ถูกหยางหยางทำร้ายทั้งกายทั้งใจมาโดยตลอดแม้จะเอาคืนเขาได้บ้างตามความสามารถที่มี แต่สุดท้ายก็โดนกระทำหยาบช้าชนิดที่อี้เฟิงไม่สามารถให้อภัยได้ กระทำทั้งกายทั้งใจ หยาบย่ำคนคนนี้ให้เหมือนตายทั้งเป็น เหมือนที่เขาทำ..ทุกอย่างทั้งบังคับขืนใจกี่ครั้งต่อกี่ครั้ง อี้เฟิงอยากจะลบสัมผัสนั้นออกให้หมด ทั้งที่มีหลักฐานเก็บไว้ คำพูดถามถางน้ำใจ หรือสายตาที่มอบให้ด้วยความเกลียดชัง




นั่นทำร้ายกันไม่ใช่หรือ  แล้วทำไมถึงมาบอกรัก





ในก่อนหน้านี้ อี้เฟิงสัมผัสความรู้สึกของหยางหยางได้บางอย่าง เขาคิดว่ามีบางอย่างในช่วงหลังที่คิดว่าดูแปลกไปเมื่อเขาเจอหยางหยาง ในตอนแรกที่คิดเอาเอง แต่ครั้งหลังที่กองถ่ายที่มีสัมพันธ์กัน เขาสัมพันธ์ในแววตาของหยางหยาง  เมื่อเขาเดินย้อนกลับมา เขาเหมือนจะทำอะไรซักอย่าง แต่ที่พบคือในตอนนั้นสายตาของเขาเปลี่ยนไป มันไม่ใช่ความรู้สึกเหมือนเมื่อก่อนในครั้งที่ซาตานกระทำหยาบช้า แต่อี้เฟิงอ่านไม่ออกแค่เพียงคาดการณ์เอาไว้ แต่มาชัดเจนมากขึ้น ๆ ในตอนที่เขาแสร้งทำเป็นไม่สบายเป็นลมไปกลางป่ากลางเขา หายตัวไปจากกองถ่าย อันนั้นอี้เฟิงเพียงสร้างสถานการณ์ ทำให้ตัวเองบาดเจ็บ  ถ้าเขาตกผาหรือลื่นไถลมาจริง มันจะต้องมีบาดแผลมากกว่านั้นแน่ แต่ความป่วยและอ่อนเพลียนั้นเป็นของจริง เพราะฤทธิ์ยาปลุกที่หยางหยางให้เขากิน ในตอนนั้นอี้เฟิงคิดเอาในครั้งสุดท้ายว่า



ไหน ๆ ก็บาดเจ็บเสียทุกส่วนแล้ว กับแค่แสร้งตกเขาไปอีกนิดคงไม่ตาย



อี้เฟิงแกล้งเดินสะดุดให้หกล้มลงไป  แต่ก็ยังกะระยะไม่ให้เป็นอะไรมากเท่าที่ทำได้ อี้เฟิงรู้ดีว่าวันนั้นฝนจะตก เพราะฟังพยากรณ์และบรรยากาศก่อนหน้าไม่ค่อยดีอยู่แล้ว เขาพกขวดน้ำหอมเล็ก ๆ ติดตัวไปด้วย ถ้าแสร้งตกและจะทำให้คนอื่นหาไม่เจอ เพราะอี้เฟิงคาดไว้ว่าจะหลบจนคนอื่นหายไป เลิกตามหา และมั่นใจว่าหยางหยางคนนี้จะต้องจำทุกอย่างของเขาได้ เพราะไหน ๆ ก็จับต้องทุกส่วนของเขา แม้ไม่มั่นใจแต่ก็ลองให้น้ำหอมกลิ่นนี้นำพาเขามา และได้ผล ถ้าไม่ได้ผลเขาก็มีวิธีอื่นรองรับ เมื่อหยางหยางมา เขาแสร้งสลบไม่ได้สติ แกล้งส่งยิ้มให้ พูดประโยคหวานลอย ๆขึ้นมา คนคนนั้นมีปฏิกิริยา และสลบไปกับอกเขา คนคนนี้ทั้งโอบกอด ทั้งขโมยจูบ ซึ่งมีความอบอุ่นที่ไม่คิดว่าจะได้รับแม้ฝนจะกระหน่ำก็ยังรู้สึกว่าจูบนี้นิ่มนวลกว่าครั้งไหน 




ครั้งที่เขากลับมาเยี่ยมไข้ที่เต้นท์ครั้งหลัง หยางหยางนั่งมองอี้เฟิงที่แกล้งหลับ แกล้งคว้ารั้งเสื้อเขาไว้ แกล้งพูดประโยคนั้นลองใจ ปฏิกิริยาต่อเนื่อง เขาเป็นมันอีกครั้ง และแม้จะหันหลังกับไปเขายังกลับมาจูบที่หน้าผาก ชัดเจนไปอีกระดับว่าคนคนนี้มีความรู้สึกหนึ่งเพิ่มเข้ามาแล้ว และแม้ว่าจะแน่ใจว่าใช่ ช่วงวันที่ถ่ายฉากสุดท้าย ความรู้สึกของหยางหยางต่อเขา บรรยากาศรอบตัวหมอนั่นเปลี่ยนไป แต่เขายังไม่อยากฟันธง แม้จะยิ้มกระย่องอยู่ในใจ



และอี้เฟิงก็ทดลองอีกครั้งด้วยการให้เฉินเหว่ยถิงรุ่นพี่ของเขาลองนัดกลุ่มมาดื่มกัน เขาพูดให้รุ่นพี่ลองชวนคนที่รู้จักกันมา รุ่นพี่รู้จักหยางหยางและสนิทกันมาก เขาไม่ลืมเพื่อนรุ่นน้องคนนี้แน่หากนัดหมายกัน และอี้เฟิงก็พูดรบเร้าว่าอยากดื่ม อยากสังสรรค์แม้ไมได้เอ่ยมามาตามตรงแต่รุ่นพี่เขาของรำคาญใจจึงตามใจอย่างเสียไม่ได้ วันนั้นอี้เฟิงเตรียมใจไว้ว่าอาจจะได้รับการกระทำรุนแรง เพราะรู้แล้วว่าเขานั้นมีอิทธิพลต่อหยางหยางมากในระดับหนึ่ง วันนั้นอี้เฟิงเตรียมการมาด้วยตัวเองทั้งหมด ทั้งการลองใจ แสร้งแกล้งทำ ยั่วยวนสารพัด พิถีพิถันการแต่งตัวให้ดูน่ารักกว่าทุกวัน ยิ่งเขาเพิ่มความชิดใกล้และสนิทสนมกับรุ่นพี่ หยางหยางยิ่งโมโห จนเขารู้สึกถึงสายตาที่ส่งมา แม้เรื่องที่ถูกรุ่นพี่ปล้ำจูบจะเกินไปหน่อย แต่ก็ประจวบเหมาะที่หยางหยางเดินออกมา




และบนเตียงเมื่อคืนอี้เฟิงก็ได้รู้ว่าหยางหยางพ่ายแพ้อย่างแท้จริง
ซาตานที่ตกหลุมรักเทพบุตรนั่นก็ถือว่าพ่ายแพ้แล้ว




แม้จะเจ็บกายเจ็บใจที่โดนข่มเหงซ้ำ แต่นี่จะเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะทำให้อี้เฟิงทรมาณและต่อไป คนที่จะมรมาณทั้งกายทั้งใจยิ่งกว่าอี้เฟิง



ก็คือ หยางหยางคนนั้น
ไม่มีวัน ไม่มีทาง หัวใจมันมีไว้ให้เพื่อคนที่รัก
แต่เขาเกลียดคนคนนี้มากกว่าใคร



แม้จะมีครั้งหนึ่งแรกเจอที่เกือบจะส่งให้ใจเขาไป
อี้เฟิงรู้สึกแปลกประหลาดกับใจตัวเองเมื่อแรกเจอกับหยางหยางเมื่อนานมาแล้ว แต่หลังจากนั้นไม่นานเขาก็ได้รู้ว่าคนคนนี้ร้ายกาขและคิดเกลียดเขามากขนาดไหนและมากขึ้นเรื่อย ยิ่งเมื่อเจอกัน
ความรู้สึกเหมือนผีเสื้อโบยบินในท้องน้อยของอี้เฟิงต่อหยางหยางนั้นหายไป
แต่กลับเป็นซาตานคนนี้ที่ตกหลุมรักอี้เฟิงเสียเอง



สลับกันให้นายเจ็บปวดบ้าง แต่ครั้งนี้นายอาจจะเจ็บปวดมากและยาวนานกว่าฉัน เพราะที่เจ็บมันคือหัวใจ




อี้เฟิงยิ้มเบาบาง แม้แค่น้อยนิดแต่ก็สาแก่ใจเขา




นายจะต้องตายทั้งเป็น



เสียงหวานที่แหบพร่าเพราะอาการไม่สบายตัว และร้องไห้จนแทบหมดเสียงหมดแรง เปล่งออกมาให้เหมือนกับการระบายอารมณ์ อี้เฟิงคิดถึงการเจ็บปวดในครั้งแรกของเขา เพรามีความรู้สึกที่ดีให้แต่เขาทำให้อี้เฟิงเจ็บ จากแค่ระดับหนึ่งกลายเป็นติดลบจนเยือกแข็ง  ไม่มีวันแล้วที่อี้เฟิงจะมอบความรู้ที่ดีให้


,


มันคงไม่มีอะไรที่จะทำให้อี้เฟิงรู้สึกรักเขา



ซาตานคนนั้นจิตใจไม่มั่นคงและไขว้เขวต่อการกระทำของตนเอง คนคนนี้เสพย์ติดร่างกายและสัมผัสของอี้เฟิง ทำไมจะไม่รู้ เพราะเขาทำทุกอย่างบนร่างกายเขานี่ ฉะนั้นคนที่รู้ดีที่สุดก็คือเขาเป็นแน่



หลังจากนี้แม้แต่ปลายนิ้วก็ไม่มีวันจะได้สัมผัส แค่มองตากันก็จะไม่มีโอกาส ยิ่งหัวใจนั้นยิ่งยาก เขาไม่มีวันยกให้



ซาตาก็จงไร้หัวใจต่อไป หัวใจที่ให้มา เทพบุตรก็จะเหยียบย่ำให้แตกสลายและหัวใจของเทพบุตรคนนี้ก็จะไม่มีวันให้ไปเช่นกัน




มือสวยเอื้อมไปสุดตัวอย่างอ่อนแรง คว้าโทรศัพท์ที่วางอยู่บนโต๊ะ โชคดีที่คนคนนี้ก็ยังใจดีคว้ามาคืน อี้เฟิงนึกถึงหลักฐานที่หยางหยางมี อี้เฟิงมั่นใจว่ามันจะไม่มีวันได้ออกไปสู่สายตาใคร หยางหยางที่พ่ายแพ้จนแทบใจสลายที่นั่งอยู่ตรงหน้าเขาเมื่อครู่นี้จะไม่มีวันทำ





เขามองออก ว่าคนคนนี้รักเขาอย่างที่พูดจริง ๆ อี้เฟิงแสร้งทำเป็นไม่ยอมรับ แต่ในใจสะใจที่เหตุการณ์กลับเป็นเช่นนี้ สาแก่ใจที่อีกคนหลงรักเขาหมดใจ ดูจากสายตาแล้ว คำพูดทั้งหมด ที่เขาพูดว่ารักนั้นคือความจริง ไม่คิดว่าน้ำตาของอี้เฟิงจะเป็นอาวุธลับ แต่ไม่ผิดจากอี้เฟิงคาดการณ์ไว้ เพราะคนคนนี้ตกหลุมรักอี้เฟิงมาก่อนหน้า น้ำตาของอี้เฟิงถือว่าเป็นจุดสำคัญ อาจจะเป็นเพราะคนที่เกลียดกันมักไม่แสดงด้านอ่อนแอ อี้เฟิงเป็นคนแบบนั้น หยางหยางที่ดูทิฐิแรงกล้าก็เช่นกัน แต่เมื่ออี้เฟิงเสแสร้งทำก็เป็นไปตามที่คาด แต่ไม่คิดเหมือนกันว่าอีกคนจะพูดคำว่ารักออกมาไวขนาดนี้



แต่ที่ร้องไห้ไปมากมายเมื่อครู่นี้ก็ไม่ใช่การแสร้งทำทั้งหมด ก็บางส่วนที่มาจากใจจริง มันจบสิ้นกันแล้ว เขาหวังว่าหยางหยางจะไม่มาทำร้ายอะไรเขาอีกต่อไป



แต่ตอนนี้เขายังบาดเจ็บ ยังเจ็บปวดเหลือเกิน




ทำไมฉันยังไม่หยุดร้องไห้อีก....





มือที่ยังคว้าโทรศัพท์ค้างไว้ กดเบอร์ผู้จัดการคนสนิทค้างไว้และโทรออก

พี่ครับ หลังจากนี้อย่าให้หยางหยางเขาใกล้ผมอีก เป็นอันขาด


ปลายสายที่สงสัยถึงความเกลียดชังต่อกันของอี้เฟิงและหยางหยางถามกลับมาว่ามีเหตุอะไรที่จะต้องให้เป็นมากถึงขนาดต้องกันไม่ให้เจอ อี้เฟิงตอบกลับไปเพียงว่า





แค่เกลียดกัน....ก็เหมือนเดิมล่ะครับแต่แค่ไม่อยากเจอกันอีกแล้วต่อจากนี้ ถ้าเป็นไปได้





THISMAN





หลังจากนั้นหยางหยางก็ไม่ได้พบหน้าอี้เฟิงอีก ทิ้งช่วงห่างนานอีกครั้ง นานมากกว่าเดิม จนเขาแทบเป็นบ้า และทรมาณไปถึงขั้วหัวใจ เพราะบอกรักเขาไปแล้ว ยิ่งทำให้หัวใจย่ำแย่ลงไปอีก อี้เฟิงไม่แม้แต่แสดงปฏิกิริยาตอบสนองในคำว่ารักของเขาในตอนนั้น ไม่สนใจมันด้วยซ้ำ และไล่เขาให้ไปไกล ๆ ถ้าหากมีเหตุที่เลี่ยงไม่ได้ด้วยงาน มาเจอกันหยางหยางคงขาดใจด้วยอีกคำสั่งที่บอกว่าใกล้แค่ไหนก็ห้ามสัมผัส




ไหวนะ หยางหยาง




เพื่อนสนิทคนเดิมที่บาร์เอ่ยอย่างเป็นห่วง เพื่อนหนุ่มดาราสุดหล่อของสาว ๆตอนนี้แทบเหมือนเป็นคนบ้า ดูจมกับความผิดและเสียใจของตัวเองยิ่งนาน ยิ่งดิ่งลงไปเรื่อย ๆ นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่หยางหยางมาเมาหยำแปแบบนี้ เป็นเดือนแล้วที่เขาเห็นเพื่อนสุดหล่อมาเมาที่บาร์ นั่งงเงียบบ้าง โวยวายเสียงดัง บางครั้งหลุดชื่อบางคนที่อยู่ในใจที่ทำให้เจ็บปวดออกมา โชคดีที่เมื่อหยางหยางพุดชื่อ หลี่อี้เฟิง ออกมา เขาก็อยู่ในห้องพิเศษที่มีแค่หยางหยางคนเดียวที่เมามาย บ้างบางครั้งนั่งนิ่งน้ำตาไหล จนเขาสงสารเพื่อนจับใจ  แต่เพราะเหตุการณ์ทั้งครั้งที่หยางหยางหอบเอาสาวหนุ่มขึ้นห้อง รวมทั้งล่าสุดและอาจจะเป็นครั้งสุดท้ายเมื่อหยางหยางพบคนที่รักจริง ๆ อย่างหลี่อี้เฟิง เขาเห็นทุกอย่าง ครั้งของหลี่อี้เฟิงนี่ถึงขั้นได้ยินเสียง ทั้งเถียงกันเป็นไฟ ทั้งแว่วครางหวานของอี้เฟิงและเสียงทุ้มที่สมใจกับความต้องการหลุดออกมาจากห้อง เขาที่เดินไปดูสถานการณ์หลังจากที่เห็นเพื่อนลากดาราหนุ่มคนนั้นผ่านสายตาไป เขาห้ามไม่ทันเพราะติดลูกค้า พอไปดุเหตุการณ์ก็อย่างที่เกิดขึ้น




ทำกับเขาเสียขนาดนั้น  เขาจะมอบหัวใจให้ก็คงจะบ้าเต็มที




หยางหยาง โอเคนะ
ไม่เป็นไร ฉันไม่เป็นไร ให้มันสมกับที่ทำไว้กับเขาเถอะ คิดดูแล้วก็มากเหลือเกินจริง ๆ จะเป็นแบบนี้ก็ไม่แปลกหรอก



พูดจบด้วยเสียงแหมแห้ง น้ำตาหน่วงคลอที่เบาตาก็เริ่มเอ่ออีกครั้ง เขาไม่เคยเห็นเพื่อนคนหล่อเป็นขนาดนี้ ไม่รู้จะสงสารอย่างไรแล้วจึงทำได้แค่เลี้ยงเหล้าทั้งบาร์ จนกว่าเพื่อนของเขาจะทำใจได้



เฉินเสียง ขอบใจ ทุกอย่าง
เป็นเพื่อนก็ต้องช่วยเพื่อน



หยางหยางเอ่ยชื่อเพื่อนและขอบคุณอย่างจริงใจ แม้ตัวเองปวดจวนเจียนจะตาย แต่เพื่อนก็ต้องรักษาน้ำใจ เฉินเสียงเป็นเพื่อนรักที่ดูแลน้ำใจกันมานาน เป็นเพื่อนที่ดีคนหนึ่งในกลุ่มเพื่อนของหยางหยาง




วันนี้จะเข้าไม่ห้องพิเศษหรอ?”
วันนี้ของเจอคนเยอะ ๆ บ้าง อยู่ในห้องนั้นคนเดียวจะฟุ้งซ่าน เป็นบ้าเอา
ก็ดี แต่นายอย่าละเมอหลุดชื่อเขาคนนั้นออกมาอีกแล้วกัน



หยางหยางยิ้มเบาบาง เฉินเสียงตบบ่าเพื่อนรัก เพื่อนรูปหล่อของเขาซูบผอมลงไปเยอะ ใบหน้าตอบลงและโทรมอย่างเห็นได้ชัด พิษรักทำร้ายเพื่อนของเขาขนาดนี้ แต่นั่นก็เพราะเขาไม่เคยรักใครจริงจัง และเมื่อมีความรักเข้าก็ดันไปทำร้ายความรักนั้นอีก




ก็ต้องปล่อยให้ชดใช้จนหลาบจำด้วยตัวเอง










อืม


เฉินเสียงละจากเขาไปดูแลลูกค้าด้านอื่น ๆหลังจากที่ต้องมาดุแลอาการเพื่อนไม่เอาไหนอย่างเขานานสองนาน หยางหยางจิบเหล้าแรงรสบาดคออีกอึกใหญ่และวางแก้วลงบาร์ และฟุบใบหน้าลงกับขอบบาร์อย่างหมดแรง  เมื่อไหร่เขาจะหยุดเศร้าและร้องไห้เสียที




เขามองไปที่มือของตัวเอง มันดูผอมลงอย่างเห็นได้ชัด หยางหยางได้ได้สังเกตและดูแลตัวเองเท่าที่ควรเหมือนเมื่อก่อน มือคู่นี้ที่เคยสัมผัส  เขานึกถึงเสียงหวานที่เคยได้ิยน แม้เวลาไหนก็ตามแต่เขาคิดถึงมัน  ใบหน้าหวานที่เคยได้มองด้วยสายตาคู่นี้ตรง ๆ แววตาที่มีแค่หลี่อี้เฟิงแล้ว จากที่เมื่อก่อนนั้นคิดว่าเพราะเป็นคู่แข่งคู่แค้นถึงจะต้องให้อยู่ในสายตา แต่ต่อมาก็กลับตกหลุมรัก  รอยยิ้มที่แม้อีกฝ่ายเผลอพลั้งมอบให้อย่างไม่ตั้งใจนั่นก็ทำให้หยางหยางเก็บไปเพ้อได้นานเท่าานาน แต่ที่ติดตรึงในใจเหมือนมันถูกย้ำและบันทึกไว้ตลอดกาล คือเสียงสะอื้นให้เและใบหน้าที่เปรอะเปื้อนหยดน้ำตา  อี้เฟิงร้องไห้เพราะเขานั่นเป็นเรื่องจริง  คนที่หยิ่งทนงค์ในตัวเองกลับร้องไห้ให้กับคนที่ตราหน้าว่าเป็นคนที่เกลียดกันสุดหัวใจได้เห็น  คนที่พังทลายคือหยางหยาง  มันสิ้นสุดแล้วความเกลียดชังที่เขามีให้คนคนนี้ แต่เหมือนมันถูกโอนถ่ายไปอยู่ที่อีก เหมือนเท่าทวี อี้เฟิงเกลียดเขาและย้ำลึกว่าเกลียดซ้ำ ๆ  แม้แต่เศษเสี้ยวหัวใจหยางหยางก็ไม่หวังอะไรอีกต่อไปแล้ว หลังจากนี้เขาอาจจะต้องทรมาณกับสิ่งทีทำลงไป และทนทรมาณกับการที่รักใครซักคนหนึ่งแต่สัมผัสเขาไมไ่ด้อีกต่อไปแล้ว




แต่เขาก็จะย้ำกับตัวเองว่า เขาจะรักหลี่อี้เฟิงคนนั้นต่อไป จนกว่าหัวใจจะแหลกสลายกันไปข้างหนึ่ง








สวัสดี


เสียงหวานแหลมเอ่ยเบาอยู่ข้าง ๆ ใบหู หยางหยางไม่คุ้นเสียงนี้แต่ไม่หันไปตามเสียง แต่เขารู้ว่าเป็นเสียงหญิงสาว และหญิงสาวคนนั้นไม่พอใจเป็นอย่างมากที่เขาไม่สนใจเธอ จึงคว้าเชยคางหยางหยางที่ฟุบอยู่กับบาร์มองมองเธอ

จำกันไมได้หรือ

เขาก็ยังนึกคุ้นหน้าแต่คิดไม่ออกว่าเคยเจอกันที่ไหน หญิงสาวเขม่นโกรธจนตากระตุก เธอมั่นใจในความสวยของเธอว่าชนะขาดหญิงสาวทั้งบาร์ แม้วันนั้นในชุดแดงก็ด้วย แต่ก็ไม่ได้ทำให้เขาจดจำ


นายมัน..
เธอ....?”


หยางหยางสะบัดหลุดจากมือของเธอ แต่เธอไม่ยอมให้หยางหยางออกจากการรบกวนนี้ไปง่าย ๆ เธอรั้งให้ร่างของหยางหยางมาชิดใกล้และจูบเขา เธอจูบและบดขยี้ริมฝีปากบางฉาบด้วยลิปสติกสีสวยของเธอ ดูดดึงให้หยางหยางมีอารมณ์ร่วม เขาตอบรับและจูบตอบ แต่ดูเหมือนไร้สติมากกว่าที่จะรู้ว่าเขากำลังจูบกับใครที่ไหน แต่เมื่อมีมาให้จึงตอบสนองเสียหน่อยหลังจากที่ห่างมือกับเรื่องเช่นนี้ไปนาน


อืม...


จูบยังคงเร่าร้อนเมื่อเขายกร่างหญิงสาวนั่งบนตักและโอบรัดร่างสะโอดสองค์นั้น เล้าโลมทุกส่วนด้วยมือแกร่ง

อื้อ...ตรงนั้น


หยางหยางไล้ไปทีละจุด เรื่อย ๆจนถึงจุดพิเศษที่หญิงสาวปกป้อง เขาสอดมือเข้าไปใต้กระโปรง..ทั้งที่ยังจูบเธออยู่ มือก็ดำเนินการไปด้วย แต่ยังไม่ทันจะแตะจนถึงที่ ....



อี้เฟิง..ไม่..ไม่ใช่




ห๊ะ


หญิงสาวร้องอุทานดัง คนทั้งร้านที่สนใจเหตุการณ์อยู่แล้วก็พลันตกใจตามหญิงสาวไปด้วย เธออุทานลั่นร้านอย่างตกใจ กำลังเข้าถึงอารมณ์แต่ชายหนุ่มที่เธอหมายปองไว้นานแสนนาน ฮุ่ยเหวินที่เข้าวงการมาเพราะหลงรักหยางหยาง เธอติดตามงานสารพัด ใช้เส้นสายเข้ามาในวงการเพื่อให้ได้มาพบเจอ แม้จะที่ไหน ฐานะไหนเธอก็ยอม แต่สุดท้ายเธอไม่สามารถแทนคนที่หยางหยางเอ่ยทุกครั้ง เอ่ยออกมาจากปากให้ได้ยิน



เธอสงสัยในชื่ออี้เฟิงนี้เหลือเกิน แม้ขนาดร่วมรักกับเธอ เขายังนึกถึง  ทำไมคนคนนั้นถึงมีอิทธิพลกับใจของหยางหยางมากนัก ทำไมกัน ทั้งที่เธอเสนอให้ตัวเธอไปมอบความสุขกับกับเขาแล้วแท้ ๆ


อี้เฟิง..ฮึ ชื่อนั้นอีกแล้ว


เธอไม่สบอารมณ์เดินเข้าไปผลักอกหยางหยางจนเขาแทบล้มเซไปกับพื้นร้าน แต่เขาคว้าขอบบาร์ไว้ทัน หยางหยางจึงผลักไหล่เธอออกไปบ้าง หวังให้เธออย่ามารบกวนอีก


ออกไป
นายมัน..ไอ้บ้าเอ๊ย!


เธอตวาดเสียงแหลมใส่และเดินจากไปจริง ๆ  เขาจึงได้หลุดจากการรบกวนนี้เสียที ไม่อยากให้เธอจะต้องมาวุ่นวายอะไร ตอนนี้เขาทั้งอารมณ์ไม่ดี และเศร้าใจ เธอละจากเขาไป อย่างก็ดีกับตัวเธอเองด้วย




หลังจากไล่เธอไป หยางหยางก็ขอนั่งอย่างสงบ ปล่อยรังสีที่ใครก็ตามก็ไม่กล้าเดินเฉียด แม้อยากจะลิ้มลองซาตานหนุ่มหล่ออย่างไรก็ตาม





ดาราคนนั้น ? ไอ้ไอดอลอะไรนั่นน่ะหรอ


มีกลุ่มชายหนุ่มที่เมามายไม่ต่างจากเขาแต่ไม่ได้สติกว่านั่งออกไปไม่ห่างจากเค้าทเตอร์บาร์ที่หยางหยางนั่งอยู่มากเท่าไหร่นัก เหมือนหัวข้อสนทนาจะใกล้ตัวหยางหยาง เกี่ยวกับคนในวงการ ไอดอล แต่เขาไม่สนใจมัน ต่อให้จะมีบทสนทนาถึงเขา จะว่าจะด่า เขาก็ไม่สนใจ


หลี่อี้เฟิง ? โอ๊ยอะไรกัน กูล่ะเบื่อแฟน กริ๊ดกร๊าดกับไอ้หน้าหงิมนี่ ไม่รู้จะอะไรหนักหนา
เห็นอยู่เต็มบ้านเต็มเมือง เบื่อจะตายห่าอยู่แล้ว ไอบอกว่าหล่อก็ไม่ได้ยี่หระอะไร แต่แฟกูนี่ซื้อโน่นซื้อนี่พาลจะเกลียดขี้หน้าแล้วเนี่ย
หน้าหวานหยั่งกะผู้หญิง เป็นอะไรแบบนั้นรึเปล่าวะ---
เห้ย!


จนในที่สุดก็วงสนทนาคนเมาก็เงียบลงเพราะมีแก้วใบสวยลอยข้ามฝั่งมาตกแตกกลางวง นั่นมาจากหยางหยางนั่นเอง เขาทนฟังอยู่นาน แต่ซักพักที่มีชื่ออี้เฟิงขึ้นมา เขาไม่สามารถทนฟังได้จนมือต้องขว้างแก้วให้ไปตกแตกกลลาวงวง ให้พวกนั้นเงียบและหยุดว่าคนที่เขารักซักที จะไม่ว่าเหตุผลไหนก็ตาม จะเรื่องอะไร ห้ามใครแตะต้องคนคนนี้



อะไรวะมึง หาเรื่องหรอวะ


ชายหนุ่มที่เห็นตัวต้นเหตุที่ทำให้พวกเขาต้องโดนแก้วบาดเพราะมีแก้วที่ลอยข้ามหัวตกแตกกลางวง พอหันหาก็เจอหยางหยางที่นั่งรอรับสถานการณ์อยู่แล้ว เมื่อเห็นชายหนุ่มที่ว่าอี้เฟิงให้เขาได้ยินเดินก้าวออกมา  


หยุดพูดจาว่าร้ายคนอื่นได้แล้ว พวกมึงน่ะ
แล้วมึงเดือดร้อนอะไรด้วยล่ะวะ คู่ขามันรึไง



ชายหนุ่มคนที่ก้าวออกมาพูดจบก็กลั้วหัวเราะใส่หน้าหยางหยาง ซ้ำยังหันไปหาเพื่อน ๆ และคุยกันประเด็นเดิมอย่างสนุกปาก  และเขาไม่มีวันที่จะทนได้ ทั้งพูดจาว่าร้ายคนที่เขารัก ซ้ำยังทำกิริยาหยาบคาย

มึง!


หมัดลุ่น ๆ ออกจากหยางหยางไป และพุ่งเข้าใบหน้าชายหนุ่มตรงหน้าหยางหยางอย่างแรง เขาไม่สามารถระงับอารมณ์ได้ ยิ่งได้ยินแบบนั้นยิ่งไม่ชอบใจ เขาเองที่มีเรื่องทุกข์ใจกับอี้เฟิงอยู่แล้ว ยิ่งมาได้ยินอะไรไม่สบหู ยิ่งมีน้ำโห พอหมัดนั้นเข้าใบหน้าชายหนุ่มคนนั้น เขาก็ไมได้รีรอ และการต่อสู้กันกลาย ๆของชายหนุ่มสองคนก็เริ่มขึ้น จนได้แผลกันไปทั้งคู่ หยางหยางหัวแตกและเลือดไหลมุมปาก ใบหน้าชกช้ำ แขนขาก็มีร่องรอยการต่อสู้ เพื่อนของหยางหยางแจ้งตำรวจและมาแยกได้ทัน แต่ก่อนนั้นที่ชายหนุ่มกลุ่มนี้จะจากไป ก็ยังส่งผรุสวาทคำต่าง ๆนานามาไม่หยุด



อ๋อ แก หยางหยาง เคยเห็นหน้า อ๋อ นี่คู่ขากันสินะ สมแล้ว หน้าตาแม่งก็เหมือนพวกเกย์เหมือนกัน



ชายหนุ่มหนึ่งคนในกลุ่มนั้นยังทิ้งท้ายด้วยความคับแค้น เพราะโดนหยางหยางที่เชิงมากกว่าต่อยได้แผลมากเยอะ แม้หยางหยางจะเจ็บตัวแต่อีกคนก็หนักกว่าเพราะหยางหยางมีวิชาติดตัว ในขณะที่อีกคนไม่มีอะไร


หยางหยาง เดี๋ยวนายจะถูกเพ่งเล็งนะ มีเรื่องแบบนี้ แล้วไหนหน้านายอีก
ช่างมันเถอะเฉินเสียง ได้ยินแล้วไม่ชอบใจแล้วก็เหมือนได้ระบายอารมณ์ด้วย





หลังจากเหตุการณ์นั้น เมื่อทำแผลเรียบร้อยโดยได้เฉินเสียงช่วย หยางหยางยังคงนั่งอยู่ที่บาร์ซักพัก ให้สร่างเมา เขาบอกเพื่อนว่าจะกลับบ้านเอง เพราะไมได้เมามายอะไรแบบนั้นแล้ว แต่ขอฝากรถส่วนตัวไว้ก่อน แล้วจะมาเอาทีหลัง หยางหยางเลือกที่จะใช้บริการแท็กซี่



ขอบใจเฉินเสียง
กลับดี ๆ ล่ะ



เขาบอกลาเพื่อนและเดินออกมาจากร้าน ดาราหนุ่มไมได้พกอะไรมาก แค่กระเป๋าเงินและมือถือเครื่องสวย เขาเก็บมันเข้ากระเป๋ากางเกง ก่อนเดินออกมาไกลจากร้านของเพื่อน เขาหันมองกลับไปที่ร้านอีกที วันนั้นเขาข่มเหงน้ำใจอี้เฟิงที่นี่ แม้รู้สึกไม่ดีที่เป้นร้านของเพื่อน แต่เขาทำลงไปแล้ว หลังจากนี้อาจจะมาไม่บ่อยนัก เพราะพอนั่งลงที่นั่น ก็ทำให้นึกถึงวันที่อี้เฟิงกรีดร้องร่ำไห้ขอร้องให้เขาพอ วันนั้นเขาทำรุนแรงมากจนอีกฝ่ายมีเลือดมีช้ำ  ซ้ำยังเจ็บที่ใจ และนั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่เขาจะได้สัมผัสอี้เฟิง ครั้งสุดท้ายกับการได้มีความสุขกับเรือนร่างนั้น




ให้ตาย




แต่ตอนนี้เขาไม่ได้คิดถึงเพียงแค่ความสุขเมื่อได้ร่วมรักกับคนคนนี้แต่คิดถึงความรักแล้ว เขารักอี้เฟิงอย่างหมดหัวใจ




ทำเขาเจ็บปวดขนาดนั้น ก็สมควรแล้ว หยางหยาง แกมันสมควรแล้ว











ให้หลังหยางหยางไปไม่นาน  หญิงสาวคนเดิมที่ยังไม่ออกจากบาร์ไป เธอได้ยินและได้เห็นทุกอย่าง

อี้เฟิง..อ๋อ อี้เฟิงคนนี้นี่เองสินะ


เมื่อเธอรู้ว่าเป็นอี้เฟิงคนไหน เป็นคนเดียวกันที่เธอรู้จัก เพียงคนเดียวเท่านั้น แต่อี้เฟิงคนนี้ คือ หลี่อี้เฟิง ซุปเปอร์สตารืดังระดับชาติ หากเธอเข้าไปยุ่งย่ามมากเข้า ก็อาจจะทำให้โลกที่สวยงามในวงการที่อุตส่าห์พยายามพังทลายเพราะเขาเป็นถึงเทพบุตรแห่งชาติ หูตาไวคนรักมากมาย และสืบสาวถึงตัวเธอแน่หากเขาจะทำ ฉะนั้นก็ต้องเนหยางหยาง เขามีชื่อเสียงไม่ดีนักในพักหลังๆ ในเมื่อปฏิเสธเธออย่างไร้เยื่อใยเช่นนี้ก็ ก็ต้องเอาคืนกันบ้าง หากเธอเล่นหยางหยางแค่เพียงคนเดียว อาจจะได้ และสะใจสมกับที่เธออยากทำ

ก็ลองเป็นข่าวตัวย่อแบบเมื่อครั้งก่อนที่มีคนปล่อยข่าวแล้วกัน ก็ไม่เลว มากกว่านั้นคงไม่ดีไม่งั้นฉันจะแย่ไปด้วยน่ะซี~~







THISMAN






จอดที่นี่ครับ



หยางหยางบอกให้แท็กซี่จอดที่หนึ่ง ไม่ไกลจากบาร์มากนัก แต่ก็ยังไม่ถึงคอนโดส่วนของเขา ยังไม่อยากกลับ หยางหยางคิดแบบนั้น แต่ก็ไม่อยากนั่งอยู่ในบาร์เพราะเหตุการณ์วันนั้นก็มักจะวนเวียนในรบกวนใจ เขาจึงออกมาพักผ่อนสมองตรงริมแม่น้ำและพ่วงด้วยเบียร์ขวดหนึ่งจากตู้กดน้ำแถวนั้นมานั่งดื่มให้ลืมเรื่องราว



หลี่อี้เฟิงและรอยยิ้มที่เคยได้รับยังติดตาตรึงใจ
แต่หยางหยางกลับมีน้ำตาคลอหน่วง
เขาคิดถึงเหลือเกิน







เพล้ง...


เสียงแก้วแตกสนั่นไปรอบบริเวณ หยางหยางถูกลอบทำร้าย เขาที่นั่งคิดถึงใครคนหนึ่งอยู่ กลับถูกวัตถุบางอย่างฟาดเข้าที่ศีรษะ จนเขาล้มลงไปกับพื้น แต่ยังมีสติ เมื่อหันกลับมาก็พบกับชายหนุ่มกลุ่มเดิมที่ทะเลาะกับเขาที่บาร์ของเฉินเสียง



ลอบทำร้ายแบบนี้.... หยางหยางคิด เขาอาจจะต้องหนีเสียก่อน เพราะเสียเปรียบทั้งจำนวนและร่างกายที่บาดเจ็บ คนพวกนี้ตามเขามาอาจจะเพราะแค้นเคืองและฤทธิ์แอลกอฮอล์ที่ทำให้อารมณ์ครุกกรุ่มมากกว่าปกติ


มึงนั่งคนเดียวทีนี้หมาที่ไหนก็มาช่วยไมได้แล้ว



หยางหยางถูกรุมล้อมด้วยชายหนุ่มสี่คน และเริ่มโรมรันกัน ในช่วงแรกที่หยางหยางยังมีแรงสู้ เขาล้มให้สองคนสลบได้ด้วยไม่กี่หมัด ไม่กี่เตะต่อย แต่อีกสองคนที่มีวิชาอยู่บ้าง กลับไม่เป็นเช่นนั้นแต่ก็ได้รับบาดเจ็บจากฝีมือของหยางหยาง


ตายซะมึง กวนตีนกูนัก



อีกฝ่ายพูดหยาบคายและเข้าปะทะหน้ากับหยางหยางตรง ๆ  ดาราหนุ่มหลบหลีกได้ แต่หากก็เสียเชิง เพราะมีอีกคนเข้ามาคว้าด้านหลังไว้ และชายหนุ่มที่หยางหยางซัดจนสลบ ก็กลับฟื้นมารั้งตัวและให้เพื่อนอีกคนได้ซ้อมเขาจนหายแค้นใจ และสุดท้ายอีกคนที่มีเรื่องกับหยางหยางในเริ่มแรก คว้าอาวุธออกมาเป็นมีดสั้นปลายแหลม


เป็นคนหน้าหล่อที่น่ารำคาญ พวกกูเนี่ยรำคาญไอดอลอย่างพวกมึง ไม่มีซักคนก็ไม่เป็นไรมั้ง ว่ามั้ยพวกเรา





ชายหนุ่มคนนั้นหาเสียงสนับสนุนจากเพื่อนที่ยืนล้อมวง และอีกคนที่รั้งตัวหยางหยางไว้ พร้อมให้อีกคนทำร้าย





ดวงตาคมแข็งกร้าว มองฉายตรงไปยังศัตรู  ชายหนุ่มอีกคนต่อยหมัดหนึ่งลงที่ใบหน้าจนเป็นแผลเลือดซิบเพราะไม่ชอบสายตานั้นของหยางหยาง





มึงมองกูแบบนั้น ? แม่งเกลียดสายตา กูขอซักหมัดด้วยแล้วกัน หมั่นไส้หน้าหล่อ ๆนี่ชิบหาย




และอีกคนก็ทำตามกัน จนคนถือมีดบอกให้พอ ชายคนนั้นหันมามองหยางหยางด้วยแววตาที่มีชัยชนะได้ทีที่หยางหยางบาดเจ็บหนัก คนพวกนี้รุมคน ๆเดียว ซึ่งเขาสู้ไมได้ ในบาร์นั้นยังเป็นตัวต่อตัว แต่หากเป็นรุมกันแบบนี้ ด้วยร่างกายที่ไม่แข็งแรงหยางหยางเพลี้ยงพล้ำจนในที่สุด






เวลาเกิดวิกฤต คนเรามักจะนึกถึงสิ่งสำคัญ สิ่งที่รัก
ของหยางหยางคือ ครอบครัว ทีมงานที่ผูกพัน และล่าสุดที่สำคัญกับหัวใจ คือ
หลี่อี้เฟิง







คนถือมีดที่ยืนตรงหน้า เดินเข้ามาหาหยางหยางที่ยังถูกพันธนาการไว้ด้วยชายอีกคน ร่างกายของหยางหยางบอบช้ำทุกส่วน ใบหน้ามีแผลช้ำหลายที่ เลือดเปรอะเสื้อผ้าหรู



คนที่เดินตรงเข้ามายิ้มเหี้ยมและมองหยางหยางด้วยความเค่องแค้นที่ทำให้เขาอับอายและพ่ายแพ้ในก่อนหน้านี้




มีดสั้นที่ดูน่ากลัวนั้นจ่อตรงมาทางหยางหยาง เมื่อถึงระยะที่เหมาะ คน ๆนั้นพูดกับหยางยางด้วยเสียงดังแต่ติดเมามาย





เอาล่ะ ถึงตากูแล้ว







*************************************************************************************TBC 10


TALK :: พระเอกคะ!
















ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น