TITLE : กิจการหลังบ้าน
ออเดอร์ที่ 1
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG
RATE : PG
TELL :: เรื่องใหม่ที่บอกไว้ก่อนหน้า
------------------------------------------------------------------------------------------------------------
“วันนี้ใครตายมาอีกหรอครับบบ “
ถ้าเป็นคนอื่นที่เอ่ยทักทายกับคนแปลกหน้ามาแบบนี้ ผมรับรองได้เลยว่า
จะต้องโดนเอาอะไรฟาดกบาลจนแตกไม่ตายก็เลี้ยงไม่โตไปข้างหนึ่ง
แต่เพราะว่ากิจการที่ผมดูแลน่ะ มันพูดอะไรทีเล่นทีจริงแบบนี้ได้น่ะสิ
“ดูมันพูดเข้าไอ้เด็กนี่ เสี่ยวปัว แกดูแฝดพี่แกสิ
ปากเสียกับลูกค้าอย่างนี้เชียว เดี๋ยวลูกค้าก็หายหมด “
“จ้า เตี่ย เฟิงเกอทำไมพูดแบบนั้นกับลูกค้าเดี๋ยวเหอะ!”
พ่อผมตะโกนด่ามาแต่ไกลยัยน้องสาวแฝดน้องของผมปัวปัวเล่นผสมโรงไปด้วย
พอหันมองหน้ายัยนี่ที่หน้าเหมือนผมอย่างกับก๊อปปี้มาจากท้องหม่าม๊าที่เสียไปแล้ว
ยิ่งตีหน้าเก๊กดุแบบนี้อีก
ผมหัวเราะก๊ากในใจพร้อมกับสมเพศตัวเองนิดนึงที่เผลอนึกหน้าตัวเองตอนใส่วิก
ซึ่งยังก็เหมือนมันเด๊ะ จะยังไง ก็เหอะ หน้าหล่อ ๆ
ของผมกับสินค้าเอกของร้านที่ตั้งตระหง่านตรงหน้ามันก็พอใช้นห้าตาผมเอาไว้หากินได้
แอบเห็นยัยหมวยสองคนนั้นชำเลืองมองความหล่อผมไม่ห่าง
ผมเป็นใครกันเล่า หลี่อี้เฟิงสุดหล่อประจำซอยสี่เลยนะ
ซอยนี้กิจการมั่นเป็นล่ำเป็นสัน(มั้ง) ทั้งซอยนี้เขาก็รู้กันหมดว่า บ้านพวกเรา
ตระกูลหลี่ ที่เหลือกันอยู่สามคนนี่ ประกอบกิจการอลังการล้านแปดขนาดไหน
แม้ว่าผมจะไม่อยากทำก็ตาม ความฝันคือการเป็นจิตรกรเอกเชียว
เห็นพูดจากกากเกรียนแบบนี้ ฝีมือวาดรูปผมก็ชนะระดับมหาวิทยาลัยมาแล้วนะ
แต่ยังก็ถูกไปให้ไปเรียนบริหารมาจนได้ เพราะคุณเตี่ยที่เคารพรัก
อยากจะให้ผมมาช่วยกิจการนี้
“เฟิงเกอ ลูกค้ามา มานั่งเหม่ออะไรเล่า ไปดูดิ๊”
“แกก็ไปดูดิ่ เนี่ยเห็นมั้ย บัญชีคามือ ไป๊ยัย ปัวปัว ไปทำงาน”
น้องสาวฝาแฝดของผมจิ๊ปากเดินไกลไปโน่นพร้อมส่งหมัดมาให้ด้วย
เห็นแล้วเสียววาบ อ่อ
ยัยนี่เป้นนักมวยชมรมไทยของชมรมที่มหาวิทยาลัยที่เราสองคนเรียนด้วยกัน
แม้เราสองคนจะเรียนคณะเดียวกัน สาขาเดียวกันแต่กิจกรรมหลังเลิกเรียนแตกต่างกันมาก
โดยสิ้นเชิง แบบว่าคนละขั้ว แต่ยัยปัวปัว น่ะ อยากเรียนบริหารเองแต่ผมน่ะ
โดนเตี่ยบังคับแต่จริง ๆ ผมเองก็สงสารเตี่ยเหมือนกัน เขาเองก็สุขภาพไม่ค่อยดี
ดูเลกิจการใหญ่ ๆ ไม่ไหว
ก็ทั้งหน้าบ้านหลังบ้าน เรามีกิจการกันหมดเลยนี่หน่า
ว่าถึงหน้าบ้านเรากันก่อน
“วันนี้บ้านป้ามีใครตายจ๊ะ”
ดูมัน.... ที่ได้ยินข้างบนน่ะ เสียงปัวปัวนะครับ มันเพิ่งจะด่าผมไปหยก
ๆ ว่าพูดแบบนี้เหมือนไล่แขก แต่เอออ มันดันพูดเสียเอง แต่คำถามมันก็ตรงประเด็นนะ
กับกิจการบ้านเราน่ะ
ก็หน้าบ้านพวกเราขายโลงศพนี่หน่า
กิจการหน้าบ้านสุดอลังการเป็นอาคารพาณิชย์สามคูหาทำเลสวย ๆ
ติดถนนสุดซอยตันของซอยสี่ ของตำบลในเมืองใหญ่ของจีนนี้
ในแถบนี้กิจการของเราผูกขาดเรื่องความตายของชาวบ้านครับ จะโลงแบบไหน จำปา ไม้สัก
ฉลุลายจากโลกหลังโลกหน้า เราสามารถทำได้หมด พิธีศพ นั้นอาเตี่ยของผมก็พอทำได้
ซึ่งก่อนหน้านี้ อากงที่เสียไป
เป็นคนจัดการเมื่อก่อนกิจการหน้าบ้านของเราครบวงจรกว่านี้
เพราะอากงเป็นผู้จัดการทุกอย่างเอง แต่เพราะอากงบอกว่า
กิจการนี้จะต้องมองความเศร้าของทุกคนที่มาใช้บริการ มาซื้อของของเรา
เลยอยากให้ลูกหลานเปลี่ยนกิจการบ้าง แต่อากงน่ะ พูดด้วยสีหน้าอาวรณ์อาชีพที่รักสุด
ๆ ใครจะไปทิ้งลงล่ะครับคุณ สุดท้ายอาเตี่ยของผมก็รักเตี่ยของตัวเองมาก รับมาทำต่อ
ลาออกจากการเป็นตำรวจมาเป็นเจ้าของกิจการ หลังจากอากงเสียไปได้ไม่นาน
“เอ้า เฟิงเฟิง รายชื่อของเข้าวันนี้”
“โอเค”
เตี่ยส่งบัญชีรายการของที่มีสั่งเข้าร้าน
ก็เป็นพวกโลงไม้ที่ประกอบใหม่ และโลงที่เราต้องมาต่อเอง ของงานศพต่าง ๆ
ก็อย่างที่บอกว่า พวเราในยุคหลังกิจการที่เคยใหญ่โตมาก็เริ่มเล็กลง คู่แข่งเยอะ
ประกอบกับการที่เราสามคนพ่อลูก ไม่มีใครประกอบพิธีศพแบบจีนอย่างชำนิชำนาญ
หรือเป็นกูรูรู้เรื่องงานศพแต่อย่างใด ก็เพราะอากงไม่ค่อยทิ้งอะไรไว้ให้ และลูกค้าเองก็เคี้ยว
เพราะรู้ว่าการจ้างร้านอย่างเราทำพิธี ราคาก็จะสูงขึ้น
เขาก็ไม่จ้างเราแต่มีผู้ที่เรียนรู้เองได้ ประกอบพิธีเองก็มี บางเจ้าก็จ้างเรา
แต่เราก็ทำให้เป็นแบบเรียบง่าย เจี่ยเองก็ยังเก้กัง ๆ บางที
ปัวปัวเป็นผู้หญิงก็ลำบาก ไอ้ผมนี่ยิ่งแล้วใหญ่ ไม่ค่อยเข้างานศพอะไรกับเขา
นอกจากญาติตาย ล่าสุดคือหม่าม๊า เป็นพิธีศพที่เศร้าที่สุด เราทุกคนรักหม่าม๊ามาก
และเมื่อหม่าม๊าป่วยตาย คุณเตี่ยก็ทำศพให้ทั้งหมด และก็หลบไปเสียใจจนแทบบ้า
เกือบตายลงโลงไปพร้อมหม่าม๊าแล้ว
หลังจากนั้นเตี่ยกลับบมาก็ถือว่าปกติแต่เราสองคนลูก
ๆก็รู้ว่าเรื่องหม่าม๊าเป็นเรื่องที่ป๊าเศร้าที่สุดในชีวิตที่เคยเกิดมา
ป๊าก็ไม่ค่อยอยากทำศพให้ใครอีกเว้นคนที่เป้นลูกค้าเก่าแก่และตื้อมาก เพราะไม่อยากเจอความเศร้าอะไรที่ไหนอีกแล้ว
และเมื่อมีโอกาสก็มีบอกเราสองคนว่า
ขายแค่โลงก็พอ เป็นไปได้ก็อย่าเข้าไปในพิธี
ที่จริงป๊าอยาจกะเลิกแล้วด้วยซ้ำ ถ้าไม่ติดว่า
อากงของแกเป็นผู้สร้างและมีลูกค้าเก่าที่รั้งจะเป็นลูกค้าเรา
แต่ถ้าต้องการจริง ๆก็จะเป็นนายหน้าหาคนทำพิธีศพจีนให้ลูกค้าที่มาซื้อโลงศพจากบ้านเราไปแทนแบบนั้นก็ยังไม่เป็นการไล่ลูกค้าจนเกินไปล่ะนะ
แกว่ามาอย่างนั้น ผมบอกแล้ว
ผมก็รู้เอาเบื้องต้นทั้งนั้น เรียนรู้ไปเรื่อย ๆ
เตี่ยเองก็มีคนจ้างบ้างไม่จ้างบ้างก็ลืม ๆ ไป แต่ช่วงขั้นตอนบรรจุศพ
ก็ต้องทำอยู่นะ ผมไม่กล้าเข้าไปอยู่หรอก
เตี่ยก็บอว่าถ้ากลัวก็ไม่ต้องเข้าไป ผมฝังใจกับเรื่องผี ๆ ศพ ๆ
แม้จะทำกิจการหลังความตายก็เถอะ แต่ปัวปัวไม่เป็น แถมไปช่วยเตี่ยอยู่ได้เป็นวัน ๆ
ยัยนั่นมันปีศาจจะไปกลัวอะไรกับเรื่องผี ๆ กัน
คร่าว ๆ กับกิจการหน้าร้าน
ที่บอกว่าเรามีหลังร้าน...อืม... จะว่ายังไงดีล่ะ
ผมเรียกว่า เป็นการปัดเป่าเรื่องราวไม่ดี ออกไปแล้วกัน
เรื่องนี้ก็เป็นเรื่องของเตี่ยกับปัวปัวอีกนั่นล่ะ
ผมแค่เป็นพวกหาของอะไรไปให้
สองคนนั้นสื่อสารสิ่งที่อยู่หลังความตายได้
ไม่ใช่ไล่ผีหรืออะไรทำนองนั้นนะ แต่เป็นการสอบถาม พูดคุย
เราไม่ได้ไล่ผี ไม่เป็นมือปราบอะไรแบบนั้น พวกเราบ้านหลี่เป็นมนุษย์
ตายไปก็เหมือนกับพวกเขา แต่ญาณแรง ๆ แบบนี้ สองคนเตี่ยกับปัวปัวมี
ผมน่ะได้รับแค่บ้างบางครั้ง กลิ่น เสียง แต่ตายังไม่เคยเห็น ไม่คิดจะเห็น ‘อีกแล้ว’
ด้วย
เพราะมันน่ากลัวมากกว่าที่ใครจะอยากเห็นมันซ้ำอีกครั้ง
“เฟิงเกอ อันนี้เงินของลูกค้าที่ซื้อของจากเรา อ่ะ นี่ นับดี ๆ
เจ้านี้เล่นจ่ายสด ปัวปัวนับซะเมื่อยมือ เล่นซื้อของแพงด้วยอีก”
เพิ่งเห็นป้าที่ปัวปัวทักว่ามีใครตายตะกี้ สั่งโลงศพตัวทอปของร้านไปที่สั่งทำมาโดยช่างที่เราสนิทกันเป็นสิบ
ๆ ปี ตั้งแต่รุ่นอากง ป้าเขาน่าจะเป็นพวกกค้าขายพืชผักการเกษตรอะไรทำนองนั้น
ได้ยินว่าเพิ่งไปส่งของให้ลูกค้าที่ตลาด ปีนี้คงกำไรหนาเป็นฟ่อน ๆ
เลยส่งเงินมาซื้อโลงศพเป็นฟ่อน ๆ ถึงมือบ้านผมได้ ปัวปัวส่งเงินให้ผมเสร็จ เธอตีหน้ายุ่ง
บอกว่าให้ผมบัญชีดี ๆ แล้วก็ทำงานต่อไป ยัยน้องสาวนี่ เกิดหลังผมแท้ ๆ
ถึงจะแค่สามนาที แต่ก็เป็นน้องนะ ไม่เคารพบ้างเลย
มาว่ากิจการหลังร้านอีกนิด
ก็อารมณ์คล้ายกับการที่จะให้เราไปคุยกับคนหลังความตาย
บางทีเขาตายไปอยากจะสื่อสาร หรือ คนในโลกก่อนความตายอยากจะบอกอะไร
พวกเราจะเป็นตัวสื่อ แต่ไม่ใช่จะทำได้กับทุกท่านที่มาใช้บริการนะ
จะมีกฎกันไม่กี่ข้อ หนึ่งในนั้นคือ ต้องห้ามบังคับให้เขามา ต้องสมัครและอยากคุย
และอีกอย่าง ห้ามทำให้วิญญาณเหล่านั้นโกรธ
บังเกิดความซวยถึงร้านพวกเราจะเจ๊งกันไปหมด
เราก็ใช้ทั้งกิจการหน้าร้าน หลังร้านนี่ล่ะ เป็นตัวสร้างเงินให้
หน้าร้านเราเป็นพ่อค้าธุรการความตาย โลงศพ อุปกรณ์จัดพิธีครบครัน
มีรับพิธีด้วยหากสามารถทำได้
และหลังบ้านเรา..ก็เป็นแบบนั้นล่ะ รับจ้างสื่อสารกับคนหลังความตาย
เราไม่ไล่วิญญาณ เพราะเขาก็เคยเป็นแบบเรา เราไม่ด่าว่า หรือสาปแช่ง จับเขาขัง
เขาก็มีจิตใจแบบเราทเท่าที่เคยมีความเป็นคน
เราไม่ดึงดันเข้าล้ำไปดินแดนของกันและกัน หากคนหลังความตายผู้ใดตกลงกันไมได้
เราจะปิดกั้นทั้งหมดทุกทาง
บ้านหลี่มีวิธีแบบที่บ้านหลี่ทำ และไม่เหมือนใคร ไม่มีใครเหมือน
มีอุปกรณ์ที่สืบทอดกันมา แม้บ้านอื่น ๆ ที่ทำอาชีพคล้ายกันจะด่าว่ากันมาอย่างไร
ก็แล้วแต่เขา นี่มันบ้านหลี่ เตี่ยใหญ่บ้านหลี่ หลี่อี้เฟิง หลี่ปัวปัว
เท่านั้นที่จะสามารถทำได้
แม้ว่าผมจะไม่เข้าไปคลุกวงใน เรื่องน่ากลัวพวกนี้
แต่ใครมาว่าเราก็ของขึ้นล่ะนะ
อีกอย่างที่สำคัญ ผมเกือบลืม เราจะไม่ใช้วิธี วิชาที่เรามีการฝึกฝน
มาทำร้ายกันเอง เราจะใช้มันได้เฉพาะด้านขาว เท่านั้น
แม้เราจะมีศาสตร์มืด(ที่ไม่ใช่อย่างแบบในหนังสือวรรณกรรมเยาวชนเรื่องดังที่มีพ่อมดแว่นกลม)
แต่เราก็จะไม่ใช่มันทำร้ายอันตรายอะไรใคร
นอกจากเขาจะมาทำเราก่อน
แต่เท่าที่รู้แม้จากรุ่นอากงมาก็ไม่มีใครทำอะไรกันและ ไม่มีสงครามระหว่างบ้านไหน ๆ
เราก็มีวิชากันแตกต่างหลากหลายมีถิ่นกิจการเป็นของตัวเอง ไม่ทับที่กัน
แต่เอาจริง ๆ
การทำกิจการหลังบ้านอันนี้ ทำเอาทั้งปัวปัว ทั้งเตี่ยหมดแรงไปเยอะ จนบางทีร่างกายทรุดโทรม
เพราะทั้งต้องใช้แรงกาย แรงใจ พลังในตัว ธาตุต่าง ๆ ตีกันมั่วในร่าง
ของไม่ดีจากวิญญาณบางดวง และอีกมากมายที่เหมือนเรียกกันเข้ามา
พอพวกเราเริ่มทำอะไรแบบนี้ เตี่ยจะเป้นคนรับไว้ทั้งหมด เราเปิดจิตเมื่อไหร่
รับจิตใครอีกคน สื่อสารกันกับสิ่งที่คนบนโลกส่วนมากที่มองไม่เห็นแต่เราเห็น
ต้องใช้พลังมากกว่าใคร
นั่นล่ะที่ทำให้เราเหนื่อยกันมาจนบางทีกิจการหน้าร้านต้องปิดทำการไปหลายวันก็มี
เพราะแม้แต่ผมก็ถูกผลที่ได้รับจากทั้งคู่ไปด้วย
วิญญาณบางตนแช่งทีก็เล่นเหมาเอาทั้งตระกูล ใครอยู่ก้เหมาหมด ผมที่เป็นคนในบ้าน
แม้ไม่เห็นแต่มีเซนต์ก็ยังโดน
นี่แค่เบาะ ๆ นะ ผมก็กลัวแล้วนะ
ดีที่บ้านผมเขาไม่บังคับให้ฝืนทำเรื่องนี้ เอาจริง ๆ ว่าถึงชีวิต
อย่างน้อยตอนเขาไปหลังร้าน ผมก็ทำหน้าร้านได้
หากใครสนใจ เอาแค่พอเป็นสังเขป ถ้าอยากจะติดต่อกิจการบ้านหลี่
หน้าร้าน ก็เดินเข้ามาเลย ผมก็จะถามคุณว่า “ที่บ้านมีใครตายครับบบบบบบ
“ แบบนี้ แล้วรายละเอียดก็ตามมานะ อยากได้อะไรรีเควสผ่านเตี่ยไป
ได้ทุกอย่างมาจ่ายตังค์ที่ผมที่เป็นบัญชี
ส่วนหลังร้าน
ต้องเข้าทางหลังร้าน
หลังจากที่หน้าร้านปิดทำการเวลาหลังพระอาทิตย์ตกแล้วเท่านั้น
มีจุดประสงค์ให้บอกมาตรง ค่าจ้างที่ให้ทำพิธี และให้เตรียมของที่เจ้าของงานยึดเหนี่ยวไว้
ป้องกันหากเขาเห็นหรือพบอภินิหารย์อะไรก็ยังมีอะไรเกาะได้ จะพระจีน ไทย ที่ไหน
ไม้กางเขนก็ว่าไป ขนมาได้
บ้านเราก็จะดำเนินการให้ ในตามแบบฉบับ ‘บ้านหลี่’ เท่านั้น
บ้านอื่นเขาก็มีแบบเฉพาะไปนะ เราก็มี ก็ว่ากันไป
ชอบไม่ชอบแล้วแต่ศรัทธาไปใช้บริการที่อื่นได้หากไม่โอเค
แต่ไม่เอาแบบจ้างเราให้ถามหวย นี่ไม่รับ เราก็อยากรวยยังไม่เคยถามได้เลย
คร่าว ๆ ก็ประมาณนี้ หากคุณจะจ้างเรา ขั้นตอนมันไม่ยากเลยใช่มั้ยล่ะ
แต่หลังร้านก็อย่าจ้างบ่อยนักล่ะ เจ้าของกิจการเองก็แก่แล้ว
เตี่ยผมอายุเยอะ เรี่ยวแรงหมดเอาง่าย ๆ ปัวปัวเองก็วิชายังไม่แก่กล้าพอ
ผมนี่ยิ่งกากใหญ่ ช่วยได้แค่บัญชีหรือของทั่ว ๆ ไป
“เฟิงเกอ ปิดหน้าร้านได้แล้ว นั่งเหม่ออะไร”
ยัยปัวปัว นี่แกเป็นน้องหรือพี่กันแน่ ยัยเด็กเกิดหลังสามนาที! สุดท้ายแล้ว
ผมหันไปดูเตี่ยที่หลับตายไปแล้ว และปัวปัวที่เดินไปกดช่องไอดอลดู
นั่งกริ๊ดดาราชายหน้าตาดีคนหนึ่ง อยู่อะไรนะ...ฉายาเทพบุตรแห่งชาติ
คนอะไรฉายาโครตเสี่ยว เออช่างเขาเหอะ ผมต้องปิดร้าน
แกร๊ก
หน้าบ้านผมก็เป็นประตูเหล็กเลื่อน ก็ต้องใช้ไม้เหล็กแท่งยากเขี่ย ๆ
ให้ประตูลงมาในระยะที่คว้าได้ แล้วจึงดึงมันลงมาปิดหน้าร้านให้เรียบร้อย
ล็อคประตูกระจกที่ซ้อนกันอีกที
วันนี้หน้าร้านเราก็ปิดตามเวลาเช่นเคย หลังพระอาทิตย์ตกดิน
ลูกค้าวันนี้มาเรื่อย ๆ ไม่ได้ตายกันเป็นเทศกาลขนาดนั้น
ปัง ๆ
เสียงหลังร้านมาแล้ว
วันนี้ลูกค้าหลังร้านเรามาเร็วกว่าเวลาที่เราตั้งใจจะเปิด หลังร้านเราไม่เปิดประตูหราไว้หรออก แต่จะรอลูกค้ามาเอง ซึ่งก็จะเป้นลูกค้าที่รู้ๆ กันว่าเราทำอะไร มันไม่ไ้ดเป็นกิจการที่เราไปป่าวประกาศกันโต้ง ๆ แบบหน้าร้าน อันนี้ต้องแอบทำกันหน่อย เดี๋ยวมันจะกลายเป้นว่าเราถูกจับกันไปเพราะทำให้มนุษย์โลกงมงายกัน แต่จะบอก ของงี้มันมีจริงเฟ้ย
"มาไวเกิ๊น"
เพราะเราปิดหป้ายไว้เล็ก ๆ ว่าหลังร้านจะเปิดสองทุ่ม
เพราะความอินดี้ของเตี่ยที่อยากดูละครหลังข่าวพร้อมปัวปัว ที่ไปยุให้เตี่ยติดและนั่งดูจนเป็นบ้ากันไปทั้งสองคน
ผมส่ายหัวเล็กน้อย สองคนไล่กลายๆ ทำหน้าตาเบื่อ ๆ ให้ผมเป็นด่านแรกรับออเดอร์ลูกค้าก่อน
ดูซิวันนี้จะเป็นออเดอร์อะไร
“ทำไมต้องเป็นที่นี่ เราจะสืบคดีกัน โดยใช้ร้านนี้ช่วยเราหรือ?”
เสียงหนุ่ม ๆ ?
ลูกค้าของเราปกติส่วนมากมีอายุหน่อย เคสทั่วไป
อยากคุยกับใครคนนหนึ่งที่คิดถึง หรือถามเรื่องราวที่ค้างคา
หากเขายังอยู่และเราสามารถติดต่อได้ เขายังไม่ไปไหนไกล หรือไปเกิดเสียแล้ว
แต่วันนี้เป็นคนหนุ่ม น่าจะมีเพื่อนมาด้วย
“เอาหน่า หยางหยาง ท่านสารวัตรมาแนะนำให้เองแบบนี้
ต้องมีอะไรที่ใช้การได้บ้าง เข้าไปไม่เสียหายนะ”
อีกคนเหมือนกำลังเกลี้ยกล่อมให้เพื่อนอีกคนยอมมาใช้บริการกิจการหลังร้านบ้านหลี่
เออ แล้วแต่เอ็ง ไม่อยากก็กลับไป เราลูกค้าเยอะแล้ว
แต่สุดท้าย เขาก็เปิดประตูเข้ามา .. จากหลังร้านของเรา
ประตูสีขาวของบ้านหลี่ถูกเปิดออกด้วยลูกค้ารายใหม่
“จากกรมสืบสวนครับ ผมหมวดเฉินเสียง..และนี่ข้าง ๆ ผม ผู้กองหยางหยาง
วันนี้ขอรบกวนกิจการหลังบ้านของบ้านนี้หน่อยนะครับ”
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น