วันพฤหัสบดีที่ 29 ตุลาคม พ.ศ. 2558

[Sfic] so bored - หยางเฟิง








เมื่อไหร่ที่สายตาของเขาถูกดึงดูดให้มองเพียงแค่คนคนเดียว

















"หยางหยาง...เอ่อ.... "
"ครับ ?"









วันนี้เป็นวันว่าง ๆ เขานักศึกษาสองคนที่ไม่มีงานรีบร้อน หรือ กิจกรรมสำคัญอะไร ที่จริงแล้วไม่ได้รวมอี้เฟิงที่เรียนในคณะเหนื่อยยากอย่างแพทยศาสตร์ แต่เพราะเป็นอีกคนที่เขาอยากเจอมากจนแทบวิ่งฝ่าฝนด้วยเสื้อกาวน์มาหาเลยด้วยซ้ำ ไม่ใช่ครั้งแรกที่จู่ ๆ หยางหยาง เพิ่งจะโทรนัดเขา แต่เพราะโทรมาตลอดหนึ่งเดือนเต็ม ๆ และอี้เฟิงไม่มีแววว่าจะมีเวลาว่างให้เลยซักครั้ง






วันนี้เลยฉวยโอกาสว่าง ๆ จากเวรฝากเพื่อนรักเพื่อนสนิทไว้ และก็อย่างที่บอก แทบลืมทุกอย่างแม้กระทั่งกาวน์ที่สวมใส่อยู่บนตัว







"หยางหยาง นายจะมานั่งจ้องฉันแบบนี้ไม่ได้นะ"
"เวลาคุณไม่ใสแว่น ผมมองเห็นแววตาของอี้เฟิงชัดเจนที่สุดเลยล่ะ"







บางทีเขาก็ไม่เข้าใจหนุ่มวิศวะหน้าหล่อเท่าไหร่นัก........ หยางหยางที่นัดเขามาก็เอาแต่นั่งจ้องตา ไม่ทำอะไรนอกจากนั้น อี้เฟิงจะทำอิริยาบทไหนก็อยู่ในสายตา จนแล้วหันกลับมาค้อนใส่ หยางหยางก็จดจ้องด้วยเเววตาคู่เดิมที่เทำให้เขาไหวหวั่นและปล่ยอให้ความรู้สึกเป็นไป  เหมือนเมื่อตอน 6 ปีที่เเล้วไม่มีผิด








6 ปีที่เรามานั่งจ้องตากันแบบนี้ครั้งแรก


























6 ปีที่ผ่านมา แววตาของอี้เฟิงยังไม่เปลี่ยน ใสซื่อและสดใสแบบไหนก็ยังคงเป็นเช่นนั้น ซื่อสัตย์กับความรู้สึกอีกอยย่างหนึ่ง เป็นคุณหมอที่น่ารักน่าชังของหนุ่มวิศวะคนนี้เสมอเลย








6 ปีที่ได้มาจ้องตากัน ตั้งแต่เราสองคนยังไม่เริ่มเรียนที่มหาวิทยาลัยนี้ และตั้งใจไว้ว่า ถ้าทำได้ เราก็ขจะเข้าที่เดียวกัน แม้จะคนละคณะ หยางหยางที่เรียนแย่กว่าอี้เฟิงเป็นไหน ๆ พยายามจนเข้าวิศวะที่มหาวิทยาลัยเดียวกันอี้เฟิงได้















นั่นล่ะ ความสำเร็จ หยางหยางมีรนางวัลเป็นแววตาคู่สวยกลมโตให้นั่งมองได้ไม่เบื่อ และคนน่ารักจเ้าของแววตาคู่นี้และอีกอย่างเลย คือ ความรักของเรา









"หยางหยาง.."
"คุณเรียกชื่อผมอีกแล้ว คิดถึงผมล่ะสิ คุณหมอ"
"พ่อวิศวะปากหวาน อย่ามาจีบกันเหมือนตั้งแต่แรกเริ่มได้มั้ย แล้วก็ที่จ้องตาแบบนี้น่ะ..."







คุณหมอคนน่ารักเม้มปาก นิ่งคิดไปครุ่หนึ่ง ดวงตากลมโตเปลี่ยนจุดพัก ไม่ให้หยางหยางจ้องมองเสียซักครุ่ไปพักที่ไหนซักที่ ก่อนวนกลับมาหาหยางหยาง ต้นกำเนินความสดใสจากแววตาคู่สวยคู่นั้น






แน่นอนล่ะ ถ้าคนอื่น จ้องตามองแววตาคู่นี้ของหลี่อี้เฟิง ไม่มีทางเห็นความสดใสและเปล่งประกายของแววตาคู่นี้ได้หรอก










มันมีไว้เพื่อหยางหยางคนเดียวเท่านั้น









"ว่าไงครับ ?"
"นั่งมอง จ้องตากับฉันแบบนี้ทุกครั้งที่เจอกัน นายไม่เบื่อหรอ ?"
"เอ๋ ?"
"ก็เอาแต่มอง แบบนั้น ที่จริงแล้วก็เขินเหมือนกันนะ"
"คุณก็มองผมคืนนี่"
"แต่ไม่ใช่แบบที่นายมอง นายไม่เห็นเขินฉัน"
"ที่ไหนกันอี้เฟิง ผมเขินแต่เพราะต้องเท่เลยต้องเก็บไว้ข้างใน"






บทสนทนาแสนน่ารักที่ทั้งคู่พูดกันอยู่บ่อยครั้ง อี้เฟิงก็จะถามแบบนี้อยู่เรื่อย ๆ เวลาที่เจอกัน ตั้งแต่เข้ามหาวิทยาลัยและเรียนมาคนละคณะ ยิ่งนานวัน ยิ่งมีเวลาให้กันน้อยลง ตามเวลาที่การเล่าเรียนได้ดึงเอาไปเป็นของตน เหลือเวลาส่วนตัวเพียงไม่มาก แต่หยางหยางเลือกแค่เพียง นัดมาพบกันที่ร้านซักร้าน ดื่มกินกันและ ทำแค่เพียงนั่งมองตากันหวานซึ้ง







"อยากให้ผมทำอะไรมากกว่านี้หรือ ?"
"ก็ไม่เชิง..แบบนั้นซักหน่อย แต่เอ่อ..."
"ใครว่าผมไม่อยากกันเล่า คุณหมอ แต่คุณหมออี้เฟิงของผมเหนื่อยมาก แค่นี้ผมก็พอใจแล้ว"







คุณวิศวะปากหวานที่นั่งตรงกันข้ามเขาพูดออดอ้อนเอาใจแต่แววตานักล่าฉาบไว้ในดวงตาคมกริบคู่นั้น อี้เฟิงค้อนใส่จนนักล่าหายไปแล้ว หลังจากนั้น หยางหยางก็ส่งยิ้มให้อี้เฟิง ยิ้มนั้นเเสนหล่อเหลาดูดี จนหัวใจสะท้าน อี้เฟิงเสตาหลบ แค่เขายิ้มให้ก็เขินมากแล้ว ถ้าบอกว่า หยางหยางแพ้ดวงตาของเขาก็ต้องบอกกลับไปว่า เขาก็แพ้ รอยยิ้มพิฆาตของหยางหยางเหมือนกัน









"คุณหมอแก้มแดงแล้ว"
"หยุดเลย หยางหยาง ไม่ต้องมาล้อกัน"











ที่บางครั้ง อี้เฟิงถามว่าเบื่อมั้ย ไม่ใช่แค่เพราะแค่เรื่องการมองตากันโดยไม่ทำอะไร แต่หมาายถึงเรื่องราวของพวกเราด้วย  มันดูเรียบง่ายเกินไป หวานซึ้งกันเกินไป













ไม่เบื่อหรือ










"คุณถามผมบ่อย ๆ ใช่มั้ยอี้เฟิง ว่าผมเบื่อมั้ยกับการที่ได้พบคุณเพียงวันละไม่กี่ชั่วโมง หรือบางวันที่เราไม่เจอกันเลย แล้วผมก็ทำแค่มองตาคุณ"









อี้เฟิงรอลุ้นคำตอบ แต่รอยยิ้มของหยางหยางบอกตอบแทนหมดแล้ว











เขายิ้มสวยชะมัด   อี้เฟิงคิดในใจ และยิ้มตามเขาไปด้วย








"แววตาคู่นี้ของคุณให้ผมนั่งจ้องทั้งวันก็ไม่เบื่อเลย ผมเสียต่างหากต้องถามคุณว่า คุณเบื่อแววตาของผมที่มองจ้องคุณอยู่ตลอดแบบนี้ไหม"








คำถามนั้นของหยางหยาง อี้เฟิงก็ไม่ตอบอะไร มือสวยยกชาที่วางอยู่ตรงหน้ายกดื่มแก้เขิน เสตาไปมองที่อื่น ก็เพื่อแก้เขินอื่นและสุดท้ายก็วนกลับมาหาคนตรงหน้า ที่หยางหยางเช่นเดิม










ย้ำอีกครั้ง ว่าหยางหยางน่ะ ยิ้มสวยที่สุดในโลก













---------------------------------------END so bored ------------------------------------------------------

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น