วันเสาร์ที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2558

[Sfic] Be his heart - หยางเฟิง




[Sfic] Be his heart
Pairing :: Yangyang x Liyifeng
RATE : PG-13

TELL : ฟิคแก้บน และไม่ค่อยได้แต่งแนวนี้ ก็เลยลองรื้อมาดู คิดว่าบรรยากาศของคู่นี้ก็เข้ากับคู่นี้ไม่เลวเลยเหมือนกัน








*****************************************************






....ท่าทางวันนี้จะมีพายุทะเลทรายเสียด้วยเสียงหวานเอ่ยกล่าวกับผู้รับใช้ที่อยู่ใต้บัญชาที่อยู่รายรอบ ใบหน้าที่ค่อนข้างเป็นกังวลหันไปดูท้องฟ้าเพื่อรับรู้สภาพอากาศ และตอนนี้ก็ใกล้จะพลบค่ำเสียแล้วด้วย







วันนี้ เวลาช่างผ่านไปไวเสียจริงเจ้าของเสียงหวานนั้น เอ่ยต่อขึ้นอีกครั้ง หยั่งความกังวลลึกเรื่อยๆ อากาศในหมู่บ้านแถบนี้แม้ว่าจะเป็นบ้านเกิดเมืองนอนแต่หากว่าเป็นหมู่บ้านที่อยู่ท่ามกลางทะเลทราย ทะเลทรายอันกวางใหญ่อันไร้ปรานี หากเป็นช่วงที่ความมืดมิดปกคลุมสนิทดับท้องฟ้า อันตรายก็ยิ่งเพิ่มทวีคูณ นอกจากมีพายุทะเลทรายแล้ว สิ่งที่แฝงพรางอยู่ในพายุทะเลทั้งหากแต่อันตรายไม่แพ้กัน






“เร่งฝีเท้าเข้าให้ไว ทุกท่าน พายุทรายและอันตรายในนั้นกำลังจะมาเยือน”




หลี่อี้เฟิงผู้เป็นพ่อหมอประจำหมู่บ้านเล็ก ๆ  ในเขตเมืองที่อยู่ท่ามกลางทะเลทรายเอ่ยย้ำถึงเหตุการณ์ท่ามกลางเวลานี้ ความอันตรายที่แฝงมา ทำให้ฝีเท้าทุกคนพร้อมทั้งความเร็วของพาหนะเพิ่มขึ้นทันทีที่สิ้นเสียง





ด้วยความจำดีเยี่ยม เขาระลึกได้ว่าวันนี้เป็นวันที่เข้าข้างแรม พระจันทร์ถูกดับแสงสิ้นท้องฟ้า ไม่ว่าใคร  ๆ  ก็มิกล้าเยื้อนเท้าออกจากเรือนชายของตนเอง ยิ่งหากในช่วงย่ำค่ำ อย่างเช่นเวลานี้









ต้องเร่งเท้าให้ไวกว่านี้เสียแล้ว





เมื่อได้ของดั่งใจหลังจากที่เข้ามาในป่าที่มีอยู่เพียงน้อยนิด ในขอบเขตเมืองที่หมู่บ้านนี้ตั้งอยู่ พวกเขาทั้งหมดมาที่นี่เพื่อหาสมุนไพรที่จะนำไปใช้ในการรักษา และท่านหมอเองก็ตรวจตราผู้ป่วยในหมู่บ้านอย่างที่ทำเป็นประจำ อี้เฟิงจึงรีบเตือนให้คนรับใช้ที่ติดตามเดินล่วงหน้าไปก่อน และให้ขนสัมภาระต่างๆ พร้อมทั้งยาสมุนไพรที่หาได้กลับเข้าโรงหมอเสียให้ทันพายุที่กำลังจะมาถึงอีกในไม่ช้า  เขาจะขอตรวจผู้ป่วยให้เสร็จสรรพและจะเร่งฝีเท้าตามไป





นี่มืดขนาดแล้วหรือ? “ อี้เฟิงเอ่ยกับตนเอง ตอนนี้เหลือเขาแค่เพียงคนเดียว แม้คนรับใช้เอ่ยขออยู่เพื่อส่งคุณหนูของพวกเขาให้ถึงโรงหมอแต่อี้เฟิงห้ามและเร่งให้พวกคนรับใช้กลับไปก่อน เหตุเพราะยาที่ถือไว้ในมือเป้นของยากและจำเป็นต้องใช้เพื่อรักษาคนในเมืหมู่บ้าน จนฟ้าเปลี่ยนสีเป็นดำแทบมืดสนิท ท่านหมอผู้อารีย์ผู้นี้ได้แวะตามริมทาง เพื่อสอบถามอาการของผู้ป่วยที่เคยรักษาตามทางเดินกลับโรงหมอของตน จนเลยเวลา นี่ก็มืดค่ำมากแล้ว พายุกำลังจะเข้ามาในอีกไม่กี่ยามเวลา



อี้เฟิงสังเกตเห็นบรรยากาศของท้องฟ้าที่เริ่มแปรปรวน มือท่าานหมอที่เรียวสวยกระตุกชายผ้าสีขาวที่คลุมอยู่เหนือศีรษะให้กระชับมาขึ้น ร่างกายอันเพรียวแต่ดูสุขภาพดีภายใต้ชุดผ้าชั้นเลิศตามแบบชายในแถบ 1001 ราตรี ประดับเลื่อมสีทองตามชายผ้าประปราย อากาศหนาวบ้างร้อนบ้าง  เศษทรายที่พัดปลิวมากระทบเนื้อที่พ้นผ้าออกมาทำให้ร่างกายนี้สะท้านเล็กน้อย ท่านหมอน้อยกระตุกผ้าคลุมเหนือศีรษะเป็นครั้งที่สอง ปิดใบหน้าอันงดงาม หวานราวเทพแห่งสวรรค์ นั้นไว้เสียไม่ได้







อย่างน้อยก็เข้าโรงหมอให้ได้เสียก่อน อากาศยามนี้ดูน่ากลัวไม่แพ้โรคภัยที่เขาพบอยู่บ่อยครั้ง ในหมู่ผู้ป่วยเลย  หมอหนุ่มคิดพร้อมเร่งฝีเท้าให้เข้าใกล้จุดหมายมากขึ้น แต่หากว่ากระแสลมจากพายุร้ายที่กำลังเข้ามา นั้นยิ่งเพิ่มกำลังทวีคูณมากขึ้นเรื่อย ๆ ทุกวินาที อี้เฟิงคว้าผ้าคลุมศีรษพขาวสะอาดนั้นไว้แน่นก่อนที่มันปลิวหายไปกับลมพายุ



กว่าจะถึงโรงหมอ เราจะปลิวไปพร้อมลมนี่หรือเปล่า อี้เฟิงคิดอย่างนึกตลก  ปลุกใจสู้กับเหตุการณ์ที่กำลังเกิดขึ้น เขาหวาดกลัวพายุทรายนี้กว่าใคร





อันที่จริงจะกล่าวเช่นนั้นก็ไม่ถูกต้อง หากจะโทษธรรมชาติเช่นนั้น

เขากลัวสิ่งที่แฝงเร้นมากับพายุนั่นต่างหาก





ตำนานโจรทมิฬที่มาพร้อมพายุทรายที่โหมกระหน่ำ







ทุกวันแรกของข้างแรม  พวกเขาเหล่านั้นจะผ่านเขตหมู่บ้านนี้และพาเอาสิ่งที่เขาต้องการไป และถ้ามีใครคิดขัดขวาง เหล่าโจรผู้นั้นก็จะขจัดให้พ้นทาง

โจรโหดเหี้ยมที่ถ้าเพื่อสิ่งที่ต้องการ ก็จะแย่งชิงมา ถ้ามีใครมาขวางก็จะฆ่าเสียสิ้น

พวกเขาฆ่าคนไปมากมายเพื่อความต้องการเช่นนั้น

หมอที่มีหน้าที่เพื่อรักษาชีวิตคนแบบเขาไม่สามารถยื้อคนผู้นั้นมากมายเหล่านั้นไว้ได้เลย

ถ้าเป็นไปได้ อยากจะขออธิษฐานด้วยจิตที่แรงกล้าว่าให้โจรพวกนี้หายไปพร้อมพายุทรายเสีย

นั่นคือสิ่งที่อี้เฟิงเฝ้าอธิษฐานอยู่ทุกวัน













ตอนนี้ร่างใต้ชุดแสนสะอาดตากำลังเดินสู้กับลมที่มีกำลังแรงขึ้นเป็นลำดับ อี้เฟิงจะต้องกลับถึงโรงหมอให้ทันที่โจรเหล่านั้นจะมา คนในหมู่บ้านแทบไม่มีหมอที่ไหนอีกแล้ว ก็มีแค่เขากับคนรับใช้ที่คอยติดตามเท่านั้น หากเขาตายไปอีก หมอที่ไหนก็หาไม่ได้อีกแล้ว




ลมนี้ก็แรงเหลือเกินเสียงหวานเอ่ยกับตัวเองบ่นเอากับแรงลมนี้  ตัวเขาเองหากสัมผัสความแรงของระดับลม  เจ้าพายุมาเร็วกว่าที่คิดหรือนี่ หมอหนุ่มคิด





มือเรียงสวยที่มีกล่องเครื่องมือหมอคล้องแขนอยู่ เอื้อมรวบชายผ้าคลุมมาไว้มือเดียวปกปิดส่วนใบหน้า เหลือแค่เพียงดวงตาคู่สวยฉายพ้นผ้าคลุมสีขาว อีกมือยึดเอาเสาตรงข้างทางไว้เพื่อไม่ให้เซไปตามแรงลม ใกล้จะถึงโรงหมอที่เป็นที่พักของเขาแล้ว แต่หากว่ามือของหมอหนุ่มกลับคว้าเสาถัดไป เพื่อประคองตัวเองพลาด ทำให้ร่างเพรียวแรงน้อยกำลังจะล้มเซไปตามลมแรง







พายุทรายอนุภาพรุนแรง ...ได้มาถึงแล้ว










อ๊ะหมอหนุ่มอุทานออกมา เหมือนจะล้มกระแทกอะไรบางอย่าง แต่ผิวสัมผัสที่พ้นเสื้อผ้าราคาแพงนั้นรู้ได้ว่าเป็นสิ่งมีชีวิต









มือข้างหนึ่งกำลังโอบเอวบางของอี้เฟิง   ในพายุทรายแม้มองไม่ชัดเจน   แต่รู้ว่าเป็นมนุษย์ซักคนที่ติดอยู่ในพายุทรายนี่เช่นเดียวกันกับเขา อี้เฟิงหันตัวกลับไปช้าๆ  ดวงตาคู่สวยหรี่มองคนที่กำลังโอบเขาไว้ เป็นร่างสูงกว่า แข็งแรงกว่า แต่หากมือไม้สั่น จมูกที่ไวต่อคาวเลือดของอี้เฟิงเพราะสัมผัสบ่อยจากอาชีพหมอบ่งบอกว่า ร่างกายแข็งแรงนี้กำลังบาดเจ็บอยู่ด้วย และคงจะหนักหนาสาหัสพอดูทีเดียวเพราะคาวเลือดฟุ้งเข้าจมูกเขาแม้มีลมพัดแรง





 อี้เฟิงทันสังเกตว่าชายผ้าคลุมยังอยู่ในมือขาว ปิดป้องใบหน้าหวานสวยภายใต้ผ้าคลุมสีสะอาดอยู่ ไม่ทันปลิวหายไปกับลม









นายท่าน   ขอบคุณ...หมอหนุ่มเอ่ยขอบคุณที่ร่างกายแข็งแรงคว้าเขาไม่ให้พัดไปตามลม เป็นผู้ที่มีแรงมหาศาลยิ่งนักแม้ร่างกายบาดเจ็บ







อ๊ะ คิดได้ไม่ทันไร ร่างสูงที่กำยำแข็งแรงนี่ก็เดินเซเสียแล้ว อี้เฟิงคว้าร่างนั้นไว้ มือเรียวสวยปล่อยผ้าคลุมสีสะอาดให้ลอยล่องไปตามลมพัดแรงไม่สนใจมันอีกต่อไป พายุยังไม่ลดเค้าความรุนแรง  ดวงตาคู่สวยคู่เดิมหรี่มอง ท่านผู้นี้มาพร้อมอาภรณ์สีทมิฬสนิท









หรือว่า.... อี้เฟิงยั้งความคิด เห็นอาภรณ์เช่นนี้ เขารู้ดีว่าท่านผู้นี้เป็นใคร


แต่หากเพราะเขาเป็นผู้มีพระคุณ และซ้ำยังเจ็บหนัก ....
















เข้า..ไปตรงนั้นก่อนเสียงหวานเอ่ยบอก ทั้งสองประคองกันเข้าไปตรงเพิงพักที่แข็งแรงที่สามารถต้านกระแสพายุได้ที่อยู่ใกล้แค่ไม่กี่ก้าว ร่างแข็งแรงนั้นโอบเอวอี้เฟิงไว้อยู่



อี้เฟิงปล่อยร่างนั้นลงกับพื้นอย่างเบามือ เมื่อทัศนวิสัยชัดเจนขึ้น ก็มองเห็นแล้วว่าเป็นชายหนุ่มในอาภรณ์สีทมิฬ  ที่ปิดคลุมแม้ตาใบหน้าเหลือเพียงแค่ดวงตาที่พ้นออกมา

ท่าน...หมอหนุ่มเอ่ยเรียกเสียงเบา เมื่ออีกฝ่ายเงียบไป พลางมองดูร่างกายที่ยังคงนิ่งสนิท ..









อ๊ะ







และเมื่ออี้เฟิงไม่ทันตั้งตัว ท่านผู้นั้นก็ได้คว้าข้อมือของอี้เฟิงไว้เสียแน่นนานจนรู้สึกเจ็บปวด แต่ก็คลายลงเมื่อสัมผัสเสียงครางเจ็บจากร่างเพรียว  ตาคู่นั้นลืมตาขึ้น แววตาดุดันเช่นเสือในป่าจ้องมองอี้เฟิง คล้ายกับเป็นเหยื่อในกำมือเสือ





ท่านรู้หรือไม่ว่าข้าเป็นใคร

ข้าเห็นชุดก็พอจะคาดเดาได้  เเต่ท่านในตอนนี้ทำอะไรข้าไม่ได้หรอก





บทสนทนาโต้ตอบสั้น ๆ ชายผู้นั้นไม่แม้แต่มองหน้าของอี้เฟิง ท่านหมอเริ่มประหวั่นว่าเหตุการณ์จะเป็นเช่นไร แต่ไม่ได้คิดกลัวตาย ใบหน้าหวานเคร่งเครียดขึ้นมาอีกครั้ง มือเรียงสวยยื่นเข้าแตะจุดที่มีเลือดออกมาจากร่างแข็งแรงของชายหนุ่ม เลือดยังไหลไม่หยุด เมื่อหมอหนุ่มเลิกเสื้อสีดำสนิทเปิดดู ก็พบแผลเป็นทางยาวและค่อนข้างลึก เลือดยังไหลไม่หยุด โชคดีที่หมออย่างเขารอบคอบเสมอ จึงพกเครื่องมือประจำตัวติดกายออกมาด้วยเมื่อจะไปไหน อี้เฟิงบังคับให้ชายหนุ่มชุดสีทมิฬถอนเสื้อออกให้เหลือแค่ร่างท่อนบนเปลือยเปล่า ระหว่างที่เอ่ยตักเตือนในฐานะหมอว่าจะเสียเลือดมากและตายได้ในไม่ช้า จนอีกคนไม่สามารถทานแรงไหว เพราะบาดเจ็บหนัก หมอรูปงามลงมือทำแผลอย่างประณีต แต่ก็ทำให้ชายหนุ่มร่างกายแข็งแรงกระตุกเพราะความเจ็บได้ จนแล้วเสร็จอี้เฟิงเงยหน้ามองผู้ป่วยรายใหม่ของเขา ชุดของหมอหนุ่มที่เป็นสีขาวสะอาดเปื้อนเลือดเสียทั่วแต่เขาก็ไม่ติดใจอะไร หากอีกคนยังไม่ถอดผ้าคลุมสีทมิฬที่หน้าออกไป





“เหตุใด ..ทั้งที่ท่านรู้ ก็ยังจะช่วยข้า...”

แล้วแปลกหรืออย่างไรข้าก็เป็นหมอ

แต่ท่านก็น่าจะรู้ดี ว่าชายชุดสีทมิฬ ที่พกดาบยาววาดโค้งพระจันทร์เสี้ยวแบบข้าคือใคร

แล้วอย่างไรกัน? “ อี้เฟิงถามกลับไป พร้อมก้มลงเก็บอุปกรณ์  มือขาววุ่นอยู่กับการเก็บของจนไม่ทันไหวตัวทัน ปลายดาบพระจันทร์เสี้ยวอย่างที่โจรทะเลชุดสีทมิฬโอ้อวดก็จ่อที่ลำคอสวย แม้จะตกใจแต่หมอหนุ่มก็ยังคุมสติไว้ได้







เมื่อข้าหายดี ข้าก็อาจจะย้อนกลับมาฆ่าท่านเมื่อเราเหล่าโจรทะเลทรายต้องการ หากเราต้องการชีวิตท่าน...เราก็ทำได้โจรหนุ่มขยับตัวเข้าใกล้มากขึ้น ปลายดาบหันเปลี่ยนที่เป็นจ่อส่วนบริเวณอกของหมอหนุ่ม อี้เฟิงยิ้มบางเบา เงยหน้าสบตาดวงตาดุเยี่ยงสัตว์ป่านั้นอย่างไม่ยอมลงให้แต่อย่างใด





ข้าเป็นหมอ ต่อให้เจ้าเป็นโจรโหดร้ายเพียงใด  หากบาดเจ็บ และมาอยู่ตรงหน้าเรา หมออย่างข้าก็จะรักษาเจ้า

  

แววตามั่นคงนั้นทำให้ปลายดาบของโจรชุดสีทมิฬเปลี่ยนทิศ เขากลับปลายดาบจ่อเข้าที่หน้าอกตัวเอง

งั้นท่านหมอก็ฆ่าข้าเสีย  ข้าจะได้ไม่กลับมาฆ่าท่านโจรหนุ่มผู้นั้นไม่ลดละ

มือข้ามีไว้ช่วยคน แล้วอีกอย่างท่านเองก็ไม่ได้โหดร้ายขนาดนั้น ไม่เช่นนั้นท่านคงปล่อยให้ข้าปลิวไปกับลมแรงเมื่อครู่แล้ว





ท่านนี่ใจดีเสียจริง

ข้าไม่ได้ใจดี แต่เพราะข้าเป็นหมอแค่นั้น อี้เฟิงคว้าด้ามดาบนั้นไว้ และยึดมันมา วางมันลง และผลักให้ผู้บาดเจ็บที่ดื้อดึงนั่งลงกับพื้น

ท่านนั่งนิ่งๆ เถิด แผลเจ้าเป็นทางยาว หากขยับตัวมาก อาจจะเจ็บหนักกว่าเดิม  รอให้พายุทรายจางหายไปเสียก่อน .. ท่านจะไปไหนเสียก็ตามแต่ใจท่าน " ผู้เป็นหมอเอ่ยด้วยเสียงหวานที่เป็นเอกลักษณ์ของตน  และขยับลงนั่งข้างโจรผุ้นั้นอย่างเหน็ดเหนื่อยเช่นกัน









ท่าน....หมอ



เสียงทุ้มเอ่ยพ้นผ่านผ้าคลุมสีทมิฬ ขยับเข้าใกล้ให้ปลายจมูกคมสันจรดที่กลุ่มผมสีเปลือกไม้ และพร้อมหอมกลิ่นดอกไม้นานาพรรณนั้น  ทำให้ชายหนุ่มในชุดสีทมิฬเกิดอากัปกิริยาประหลาด





เขาสูดกลิ่นจากกลุ่มผมนั้นอย่างเคลิบเคลิ้มไปชั่วขณะ









แม้ว่าจะตกอยู่ในความประหลาดใจ แต่ก็ยังคงสติไว้นิ่ง   อี้เฟิงเงยหน้ามาสบดวงคู่ดุดันอย่างจงใจ หลังจากที่ก้มหน้าเพื่อควบคุมอารมณ์และอาการตกใจ







แต่ก่อนจะได้พูดอะไร ชายหนุ่มได้กระทำการบางอย่าง อย่างรวดเร็ว เขาใช้มือปลดดึงผ้าส่วนตรงบริเวณปากออก











และชายหนุ่มผู้นั้นได้มอบจูบครั้งแรกในชีวิตของอี้เฟิง ช่างเป็นจูบที่เต็มไปด้วยอารมณ์หลากหลาย

ทั้งอ่อนโยน เศร้าสร้อย เร่าร้อน ดุดัน แทบจะปรับอารมณ์ตามอีกฝ่ายไม่ทัน

ริมฝีปากนั้นที่อี้เฟิงสัมผัสได้ช่างแห้งผากแต่เขาก็รับจูบนั้นโดยดี  มือแกร่งของอีกฝ่ายประคองศีรษะของอี้เฟิงไว้ เพื่อรับจูบ ทั้งสองแลกเปลี่ยนลมหายใจ ความหวานที่ซับอยู่ภายในปาก โจรก็ยังเป็นโจรอยู่วันยังค่ำ ชายหนุ่มในชุดสีทมิฬขโมยเอาความหวานจากท่านหมอไปมากมาย และเมื่อเริ่มอ่อนแรงคิ อี้เฟิงยกมือทุบอกอีกฝ่าย ประท้วงขออากาศเพื่อหายใจ หน้าหวานแดงระเรื่อขึ้นเป็นสีสวยน่ามอง แววตาเช่นเสือของชายหนุ่มเปลี่ยนไปอีกแล้ว








ไม่เข้าใจมาก ไม่เข้าใจมากเรื่อย ๆ











“...ทำแบบนี้ทำไมหมอหนุ่มที่ยังคงตกใจกับจูบยาวนานเมื่อครู่เอ่ยขึ้น มองอีกฝ่ายด้วยความระแวงอย่างเป็นที่สุด







ตอนนี้ผ้าคลุมสีทมิฬนั่นเริ่มหลุดหลุ่ย เหลือแค่ส่วนตรงกลางขอใบหน้า ชายหนุ่มปลดผ้าคลุมที่พันเกะกะนั่นออกช้า ๆ







ท่านหมอรู้หรือไม่ โจรทะเลทรายผู้โหดเหี้ยมแบบเราจะไม่เปิดเผยหน้าตากับใคร เพราะอาจจะถูกย้อนศรและทำให้เราถูกฆ่าตาย ถึงแม้จะเป็นท่านหมอก็เถิด





แล้วท่าน...อี้เฟิงไม่เข้าใจแต่หากใบหน้านั่นได้เปิดเผยต่อเขาแล้ว เป็นชายหนุ่มรูปงาม ใบหน้าคมคาย ผิวที่พ้นแดดอาจจะดูคล้ำ แต่ผิวที่ปกปิดไว้ไว้ยังเป็นผิวพรรณที่งดงาม ชายหนุ่มคนนี้ รูปงามราวกับเทพบุตร หรืออาจจะบอกว่าความหล่อเหลาเกินบรรยายของชายหนุ่มชุดดสีทมิฬผู้นี้ได้รับประทานจากซาตานมาก็ย่อมได้ ท่านหมอหนุ่มคิดเอาว่าเช่นนั้น




เเละเพราะอาศัยในทะเลทรายที่โหดร้าย แววตาเยี่ยงสัตว์ป่าดุร้ายที่เขาแทนได้ว่าเป็นเสือก็อาจจะมาเหตุนี้





เมื่อหวนคิดถึงจูบจากชายหนุ่ตรงหน้าเมื่อครู่นี้ หัวใจเต้นระส่ำเสียแล้ว ไม่ควรเป็นแบบนี้ทั้งที่อี้เฟิงอยู่ตรงหน้าโจรใจโหดเหี้ยม



หมอหนุ่มไม่เข้าใจหัวใจของตนในเวลานี้ 
และภาพสุดท้ายที่จดจำได้คือรอยยิ้มที่เปี่ยมด้วยความหมายบนใบหน้าหล่อเหลาของโจรหนุ่ม











เเละในไม่ช้าหมอหนุ่มรูปงามก็ไร้สติไป..........













___be his heart___









 ท่านหมออยู่ตรงนั้น..







ผ้าคลุมสีดำทมิฬถูกยกคลุมปกปิดใบหน้า หยางหยางกลับมาที่หมู่บ้านอีกครั้ง เพื่อเฝ้ารักแรกพบของเขา  โจรที่ใคร ๆ ร่ำลือว่าโหดเหี้ยม ซึ่งไม่อาจจะรักใครได้ด้วยซ้ำ แต่เขากลับตกหลุมรักหมอหนุ่มรูปงามตั้งแต่แรกเจอ





และเมื่อสืบทราบด้วยเวลาเพียงน้อยนิดก็รู้ได้ไม่ยากว่าเขามีนามว่า หลี่อี้เฟิง ผู้เป็นหมอหนุ่มรูปงามผุ้อารีประจำหมู่บ้านนี้ที่ใครๆ ต่างพากันชื่นชม

และนั่นรวมทั้งโจรใจหยาบช้าที่ขโมยจูบเขาตั้งแต่แรกเจอ อย่างหยางหยางด้วย





ในครั้งที่เขาผจญพายุเขาก็เจอกับมนุษย์ผู้งดงามในชุดขาวสะอาด ในตอนนั้นหยางหยางคิดว่า นี่เขาตายไปแล้วหรือไร เมื่อเจอมนุษย์รูปงามเช่นเทพสวรรค์ที่บังเอิญเซล้มเข้ามาตรงอก และให้เขาโอบได้อย่างย่ามใจ ผ้าคลุมที่ปลิวไปตามแรงลมเผยให้เห็นใบหน้าที่เขาไม่เคยคิดว่าจะได้พบเจอในระยะใกล้ได้ เป็นใบหน้าที่หยางหยางจะจดจำไปตลอดชีวิต





และความเข้มแข็งอันกล้าแกร่ง ผ่านดวงตาคู่สวย






 เมื่อมาพบพานความรู้สึกของตนอีกครั้ง หยางหยางพบว่าเขาได้ตกหลุมรักหมอหนุ่มรุปงามนั้นหมดหัวใจ

ฟังแล้วมันอาจจะดูไม่น่าเชื่อสำหรับโจรใจโหดเหี้ยมเช่นเขา

แต่มันก็ได้เกิดขึ้นแล้ว









เพราะเช่นนี้หยางหยางจึงฝ่าฝืนคำสั่งของหัวหน้ากลุ่มโจรและกลับมาที่หมู่บ้าน







เขาได้ข่าวว่ามีคำสั่งให้ฆ่าท่านหมอผู้เป็นที่รักของเขาเมื่อไม่นาน เพราะเหมือนจะมีเหตุการณ์ที่ท่านหมอได้เข้าไปขัดขวางการค้าในด้านมืดของพ่อค้าชายผู้หนึ่ง รวมถึงพ่อค้าผู้นั้นก็คับแค้นเรื่องที่ท่านหมอของเขาไม่รับความรักอีกด้วยจึงมาจ้างกลุ่มโจรทะเลทรายทำภารกิจนี้



อย่าหวังเสียเลยเจ้าพ่อค้าเลว





หยางหยางผู้นี้จะปกป้องหัวใจของเขาด้วยทุกอย่างทั้งหมดที่เขามี

เขามั่นใจในฝีมือของตัวเอง ความเลื่องชื่อเรื่องนี้ แม้แต่หัวหน้ากลุ่มก็ยังต้องระวัง

จากก่อนหน้านี้ที่หยางหยางเข้ากลุ่มโจรทะเลทรายนี้เพราะเพียงแค่หาบางสิ่งบ่งอย่างทำ เพื่อดับวามกระหายอยากสู้ และความเบื่อ ที่สำคัญคือเพื่อความอยู่รอด ชีวิตของเขามันดูไร้ค่า ไร้จุดหมาย ไม่มีญาติมิตรที่ใด และไม่มีใครซักคนที่อยากให้หยางหยางคนนี้อยากปกป้อง






แต่หากว่าตอนนี้ เขาได้พบแล้ว  ผู้ซึ่งหยางหยางผู้นี้เรียกว่าหัวใจ







หยางหยาง



ร่างกายเข้มแรงและว่อไวต่อรอบข้างสัมผัสได้ถึงผู้มาใหม่ แน่นอนเป็นโจรด้วยกันในกลุ่มโจรทะเลทรายนั่นเอง



แกคิดจะหักหลังหัวหน้ารึอย่างไร แกถึงมาขัดขวางงานของพวกเราแบบนี้หนึ่งในกลุ่มโจรเอ่ยถาม



หยางหยางหัวเราะเบาในลำคอ แต่ฟังดูแล้วน่ายำเกรงต่อผู้ได้ยิน เพราะเจ้าของเสียงหัวอันน่ายำเกรงผู้นี้ได้รับฉายาว่าเป็นปีศาจของกลุ่มโจรทะเลทราย อันเลื่องชื่อ  เพราะทั้งฝีมือที่ร้ายกาจและวิสัยอันเหี้ยมโหดของเขา





แต่ตอนนี้ปีศาจได้เปลี่ยนไป เขามีหัวใจและมอบให้ใครซักคน







แกก็คอยมาปกป้องเจ้าหมอนั่น ไม่ใช่ว่าเจ้าไปหลงรักมันเข้าให้แล้วเชียว ไม่น่าเชื่อเลยว่าปีศาจอย่างเจ้า...





“แล้วอย่างไรหรือ ..... ?หยางหยางขัดขึ้นมากลางประโยค มือแกร่งยกดาบพระจันทร์จ่อหน้าหนึ่งในกลุ่มโจรนั่น



เจ้าเคยได้ยินหรือไม่ว่ามันไม่มีสัจจะไม่หมู่โจร

แต่เจ้าดันมีความรักสินะ มันน่าขันเสียจนข้าปวดท้องไปหมด


หยางหยางนึกไม่สบอารมณ์เมื่อได้ยินคำปรามาสของโจรผู้อื่นที่อยู่รอบรอบ






แม้ท่านหมอไม่คิดรักหรือแม้แต่จะเหลียวมองโจรต่ำช้าแบบเขา

อาจจะถึงเกลียดชังเพราะเขาฆ่าคนมากมาย

เส้นทางของโจรโหดและหมอผู้อารีมันเปรียบอย่างเส้นขนานที่ไม่มีทางบรรจบ  แต่สามารถเคียงข้างกันได้









เขาไม่อาจเข้าใกล้ท่านหมอที่รักได้อีก แต่หากมีระยะที่ใกล้ที่สุดที่หยางหยางสามารถปกป้องได้







อยากตายก็ดาหน้าเข้ามา ต่อให้ฆ่าพวกเจ้าหมดทั้งกลุ่ม ข้าก็จะทำ เพียงแต่ปกป้องหัวใจข้าได้







 ___ Be his heart___







 “นายน้อยเจ้าคะเสียงของคนรับใช้เอ่ยเรียกอย่างเร่งรีบ อี้เฟิงรีบลุกขึ้นตามเสียงเรียกนั่นออกไปดู สาวใช้รายงานว่ามีการสู้กันเกิดขึ้นไม่ไกลจากโรงหมอที่พักของอี้เฟิงเท่าไหร่ แต่ที่น่าแปลกใจคือ ศพที่ถูกฆ่าเป็นชายชุดสีทมิฬของโจรทะเลทรายซึ่งบอกกันว่าน่าจะเป็นเหตุฆ่ากันเองเนื่องจากผลประโยชน์



เป็นเขาคนนั้นหรือ ?....





ด้วยเหตุหรือความรู้สึกเช่นไร อี้เฟิงก็ไม่รู้ได้ แต่ในที่สุดหมอหนุ่มก็มาจนถึงที่เกิดเหตุดังทีสาวใช้ได้บอก มีคนในหมู่บ้านมามุงดูกันแน่นขนัด หมอหนุ่มขอแทรกตัวเข้าไปดูใกล้





อี้เฟิงรู้สึกโล่งใจเช่นไรก็หาอธิบายได้ไม่ เหตุเพราะในกลุ่มโจรที่ถูกฆ่าเหล่านั้นไม่มีชายผู้นั้นอยู่







แล้วเราจะโล่งใจไปทำไมกัน เสียงหวานเอ่ยแผ่วเบา เมื่อคิดได้ดังนั้น อี้เฟิงถอยออกมาจากฝูงคนที่มุงดู เดินออกมาให้ห่างไกล ไม่นานก็มีคนของทางการมาจัดการกับเหล่าโจรพวกนั้นกับสถานที่เกิดเหตุอันน่ากลัวที่คนทั้งหมู่บ้านได้แค่ยืนมองอย่างหวาดประหวั่น แต่คนเป็นหมอเช่นเขาชินชากับความตายอยู่พอตัว






อี้เฟิงถอยมาจากสถานที่เกิดเหตุได้ไม่นาน เขาเศร้าใจที่ไม่ว่าอย่างไรพวกเขาเหล่านั้นก็ตายสนิทไม่อาจช่วยไว้ทัน แต่กลับโล่งใจอย่างประหลาด.....
หมอหนุ่มเริ่มสับสนในความคิดและความรู้สึกอีกครั้ง



ทำไม ทำไมกัน  นี่หาใช่เรื่องที่เราเป็นควรกังวลเลย





อี้เฟิงเดินคิดมาตลอดทางจนกลับถึงโรงหมอ





โรงหมอของอี้เฟิงเป็นกระโจมหลังใหญ่ที่โดดเด่นในแถมถนนในเขตของหมู่บ้าน ทำให้ผู้คนสังเกตได้ง่าย และที่นี่สถานที่ที่พวกเขาจะสามารถมาพักรักษาได้เมื่อพวกเขาเจ็บป่วย







มือคู่สวยเลิกผ้าแพรผืนสวยที่ปิดส่วนทางเข้ากระโจมออก อี้เฟิงไม่เห็นคนรับใช้ คิดว่าคงยังอยู่ในที่เกิดเหตุนั้นเพื่อถามคำถามแลกเปลี่ยนกับคนในหมู่บ้าน







พรึ่บ..







ดูเหมือนข้างนอกลมแรง  เป็นหมู่บ้านที่อยู่ในหมู่บ้านเล็กกลางทะเลทราย  ฟ้าลมอากาศเป็นสิ่งที่คาดเดายาก







ลมพัดแรงเสียจนทำให้ผ้าแพรหน้าทางเข้าออกกระโจมปลิวสะบัด ปลายผ้าลอยลมกลางอากาศ









เผยให้เห็นร่างหนึ่งที่ยืนอยู่หน้ากระโจม เบื้องหลังผ้าม่านประตูของกระโจมนั้น อี้เฟิงเดินเข้าไปใกล้ทางเข้าเมื่อครู่ที่เขาเพิ่งผ่านเข้ามาอย่างช้า ๆ เขาประสงค์มองให้ชัดเจน หรือจะเป็นผู้ป่วย ?







ผ้าม่านนั้นกลับสู่สภาพเดิมแล้ว เพราะแรงลมแผ่วลง ปลายผ้าห้อยลงตามแรงโน้มถ่วงเช่นเคย มือเรียวข้างหนึ่งเลิกชายผ้านั้นออกอีกครั้ง







ไม่ทันที่จะได้จับภาพเบื้องหลังผ้าม่านด้านนอกได้ ลมแรงก็พัดพามาอีกครั้ง หน้าหวานหลับตาลง ป้องกันเม็ดทรายที่มาตามแรงลม  





ลมพัดแรงเช่นนี้ ถ้าท่านจะออกมาด้านนอก ก็ควรมีผ้าคลุมป้องกันใบหน้างดงามของท่านด้วย



 เอ๊ะ... ?



อี้เฟิงจำโทนเสียงทุ้มนี้ได้ดี





หน้าหวานเงยพยายามเงยหน้าขึ้นมอง แต่ทำได้ลำบากเพราะพบว่าลมแรงนั้นไม่ปรานีแต่อย่างใด แต่จับเค้าได้ว่าผู้ที่สนทนากับเขาอยู่ตรงหน้า เป็นชายชุดสีทมิฬ โจรแห่งทะเลทรายผู้โหดเหี้ยมผู้นั้น





ท่านกลับมาฆ่าข้าหรือหมอหนุ่มถามอย่างซื่อตรง แม้ยังก้มหน้าสู้แรงลมทะเลทราย









หน้าใบคมคายนั้นพ้นผ้าคลุมออกมาจนมองเห็นได้ชัด ขัดกับกฏเกณฑ์ของโจรที่เขาได้บอกมาก่อนหน้าที่พบกัน  ที่อี้เฟิงจำได้แม่นยำที่สุดคือภาพใบหน้าหล่อเหลาหลังจากเจ้าโจรขี้ขโมยผู้นี้ลักขโมยเอาจูบแรกในชีวิตของอี้เฟิงไป  มือที่ค่อนไปทางหยาบกร้านของโจรหนุ่มแตะแผ่วเบาตรงใบหน้าหน้าหวาน ลากวนผ่านแก้มเนียน







แม้ท่ามกลางลมทะเลทรายแรงกระหน่ำ ยังไม่วายของขโมยลักล่วงละเมิดร่างกายผู้อื่น หมอหนุ่มคิดคาดโทษ แต่หากไม่อาจขัดขืน







ข้ามีเรื่องสงสัยมาถามท่าน"


ในเวลานี้น่ะหรือ เขาสงสัยอะไรกันจึงถามเอาในเวลาลมพายุพัดมาเช่นนี้ อี้เฟิงคิดพลางขมวดคิ้วและพยายามเงยหน้ามองจอมโจรผู้มาใหม่





ท่านคิดว่าโจรใจโหดเหี้ยมจะมีความรักต่อผู้ใดได้หรือไม่







อี้เฟิงไม่เข้าใจคำถาม และเหตุใดจะต้องมาถามด้วยสถานการณ์นี้ด้วย









แต่เขาก็ตอบกลับโจรหนุ่มด้วยคำถามที่เคยคิดวนในความคิดเมื่อไม่นาน

โจรโหดเหี้ยมเช่นนั้น มีหัวใจด้วยหรือ









จนตอนนี้หน้าหวานสามารถเงยหน้าสู้ลมแรงนี้ได้ เมื่อมันแผ่วแรงลง อี้เฟิงได้สบดวงตาที่เคยพบพานมาก่อนหน้า แววตายังดุดันไม่เปลี่ยน  แต่ดูมีความนัยน์แฝงเร้นต่อเขา จากที่สัมผัสได้ จนทำให้ใบหน้าหวานขึ้นสีระเรื่อ เหตุเพราะเกิดเข้าใจความหมายนั่นด้วยความบังเอิญ นัยน์ตานั้นสื่อความรู้สึกตรงมาหาอี้เฟิงได้ดีเกินไปเสียด้วย







หากแต่หมอหนุ่มรอให้โจรหนุ่มหล่อเหลาในชุดสีทมิฬเอ่ย









“ก่อนหน้าเคยมีแต่เป็นหัวใจที่เย็นชา จนเหมือนไม่มี แต่หากตอนนี้ ข้าก็ไม่มีมันเหมือนเคย แต่หากเหตุผลนั้นเปลี่ยนไป”


หมอหนุ่มช่างสงสัย และสังเกตแววตา โจรผู้นี้กระตุกยิ้มให้เห็นจนอี้เฟิงเผลอคิดว่ายิ้มนั้นทำให้หัวใจเขาเต้นผิดจังหวะไป หรือหมออย่างเขาจะมีโรคหัวใจเป็นของประจำกายแล้วหรือ


“เหตุผลนั้นล่ะ ?”


โจรโหดเหี้ยมรูปงามสาวเท้าเข้ามาใกล้จนมองเห็นใบหน้างดงามหวานราวน้ำผึ้งนั่นชัดเจน เขานึกอยากมอบจูบให้อีกครั้ง แต่เกรงว่าจะถูกหมอหนุ่มค้อนงอนเสียก่อน จึงทำได้แค่ฝากสัมผัสปลายนิ้วอันหยาบกร้านของเขาที่ริมฝีปากน่ารักนั้นไว้เเทน


“หัวใจข้าอยู่ที่ท่านแล้ว”



อี้เฟิงเบิกตากว้าง เขาคิดไปเองแล้วนั่นเป็นคำบอกความนัยย์ที่หวานเลี่ยนที่สุดเท่าที่เคยได้ยินมาแม้จะทางคำบอกเล่าของสาวใช้หรือจะโดนมากับตัว แต่หัวใจของหมอหนุ่มยอมรับแต่โดยดี นับว่านี่



อาจจะเป็นรักที่เจอเมื่อแรกพบ



เขาเป็นหมอ แต่เรื่องรักใช่ว่าจะคิดเดาไม่ได้เลย


“มาฝากหัวใจไว้ที่ข้าเช่นนี้ แต่หาได้บอกชื่อเสียงเรียงนาม หมออย่างข้าจะรับฝากไว้ได้อย่างไรกัน และอย่าถามข้าเลยว่าทำไม ข้าถึงไม่นึกกลัวท่าน .....ข้าตอบไม่ได้.... นั่นก็หมายถึงหัวใจของข้าด้วย”


ท่านหมอตอบแกมกวนใจ เผยยิ้มสวยออกมาให้โจรหนุ่มหลงไหลมากกว่าเดิมเป็นเท่าทวี


หยางหยางรับทราบจากดวงตาคู่สวยที่เอ่ยความนัยย์ผ่านทางนั้นมาเช่น เขาคิดประหลาดใจที่ท่านหมอไม่นึกรังเกียจคนชั่วช้าเช่นเขา

จากที่เคยโทษสวรรค์มาตลอดชีวิตที่ทำให้เขาต้องเป็นเช่นนี้ แต่ตอนนี้หยางหยางกลับแทบขอบคุณสวรรค์พันครั้งที่ทำให้ได้พบเจอ ผู้ที่เป็นหัวใจ




“โจรหนุ่มหยาบช้าผู้นี้นามหยางหยาง  ขอฝากหัวใจของข้าไว้ที่ท่านด้วย ท่านหมออี้เฟิง”










 *********************************************************


















SPE







ท่านหมออี้เฟิงรับไว้ด้วยรอยยิ้ม ก่อนคว้ามือโจรหนุ่มหยางหยางเข้ากระโจมมา กล่าวต่อด้วยประโยคที่กลัวอยู่ในใจ



“เดี๋ยวลมพายุจะพัดท่านหายไป “
ท่านหมออี้เฟิงช่างกลัวเสียจริง”

ท่านหมอผู้มีใบหน้าน่ารักน่าชังนิ่วหน้าค้อนใส่โจรหนุ่มข้างกาย ยกเอามือเคาะตรงหน้าผาก แม้จะเคอะเขินอยู่บ้าง แต่หัวใจเขาอยากทำเช่นนี้ อยากอยู่ใกล้เขา


“ขโมยจูบข้าไป ท่านต้องชดใช้ข้านะ”
“ข้ามอบหัวใจไปให้ท่านแล้วไง”
“เพียงแค่นั้นเองหรือ ?”

ท่านหมอเฟิงเรียกร้องเพิ่มก่อนยื่นใบหน้างดงามนั้นเข้าใกล้โจรผู้หล่อเหลา ไม่มีใครยอมใคร ต่างจ้องตามองกันอย่างมีความหมาย


“ความสุข ท่านต้องการมันหรือไม่”
“แน่นอนอยู่แล้ว”
“ตอนนี้ท่านไม่มีคนไข้สินะ พายุพัดเข้ามาพอดี ยังไม่มีใครมาหรอก...อืม....”


ท่านหมอตามไม่ทันโจรหนุ่ม อย่างไรแล้วผู้เป็นโจรเจ้าเล่ห์เช่นหยางหยางก็ต้องมีเล่ห์เพทุบายให้ท่านหมออี้เฟิงไร้เดียงสาเรื่องนี้หลงกลได้เสมอ เขาคว้าร่างกายที่น่าสัมผัสนั้น โอบรัดแล้วดันลงกับเตียงคนไข้ที่ว่างอยู่ข้าง ๆ


“เอ๋!?
“อย่าตกใจ ข้ากำลังจะมอบความสุชให้ท่าน”
“เดี๋ยวสิ...”
“อย่าขัดขืนเลย ท่านบอกเองว่าท่านอยากได้ความสุข นี่คือความสุขแรกของเรานะท่านหมออี้เฟิง”


โจรรูปงามก้มกระซิบจนสิ้นประโยค สิ้นเสียงทุ้มแสนเสน่ห์นั้น ไม่นานเขาก็ถูกผลัดอกดันให้ลุกออกจากตัวท่านหมอ ยิ่งนานยิ่งทุบอกแรงขึ่น เอาเป็นว่าเขาจะแกล้งเพียงแค่นี้ หยางหยางจึงลุกขึ้นออกไป

“เจ้าคนบ้า!”
“ขอโทษท่านหมออี้เฟิง ข้าอยากเพียงแค่แกล้งท่าน”



หยางหยางสบตามองท่านหมอคนงามที่ค้อนตาคว่ำแต่หากยังน่ารักน่าชังสายตา ตอนนี้อี้เฟิงไม่อนุญาตให้แตะต้องร่างนุ่มนิ่มแล้ว เพราะเกรงจะโดนกระทำแบบเดิม



“หยางหยาง เจ้าโจรขี้ขโมย ! อย่าคิดว่าเป็นโจรมาก่อนแล้วข้าจะกลัวนะ อย่าทำอะไรแบบนั้นกับข้า หากข้ายังไม่อนุญาตให้ทำ อย่าคิดข้าหลงไหลเจ้าแล้วจะทำอะไรได้สิ”
“ข้าขอโทษท่านแล้วท่านหมอ ท่านหายโกรธข้าเถิด จะให้ทำอะไรก็ได้”



อี้เฟิงร่ายยาวฮึดฮัดโกรธเข้าจริง จนเดินกลับเข้าโรงครัวด้านในไปแล้ว นี่เขาเคยเป็นโจรมาก่อนแน่หรือ เขานึกแปลกใจ แค่ไม่ทันข้ามวัน จากโจรร้ายใจโหดเหี้ยมก็กลายเป็นเช่นนี้ เขากลัวท่านหมอโกรธเหลือเกิน นี่น่าจะเป็นความกลัวของเขาที่สุดในชีวิต ขนาดโจรโหดเหี้ยมร้อยคนยังไม่สู้ผู้เป็นหัวใจโกรธและเย็นชาใส่


“ท่านหมอ”
“อะไร”
“ยังโกรธข้าอยู่หรือ”

ท่านหมออี้เฟิงหันมาหา หลังจากหยางหยางเดินตามง้อถึงในครัว หมออี้เฟิงคว้าทัพพีใกล้มือคว้าจ่อหน้าโจรที่ตอนนี้อยู่ใต้คำสั่งเขาแล้ว

“เรียกท่านหมอ ท่านหมออยู่ได้ ข้ามีชื่อนะ”
“อี้เฟิง..ท่านหายโกรธข้าได้หรือยัง”

คนเจ้าของชื่อดูดีใจมากขึ้นเมื้อได้ยินเสียงเรียกชื่อจากหยางหยาง

“ที่จริงข้าไม่ได้ห้ามเจ้าหรอกหยางหยาง แต่ไว้เป็นตอนอื่นที่สาวใช้ข้าไม่มองจะได้มั้ย ข้านี่อายจนแทรกแผ่นดินหนี แล้วเจ้าน่ะรูปหล่อจนสาวใช้ของข้าไม่เป็นอันทำงานแล้ว “

เรื่องที่อี้เฟิงโกรธหยางหยางก็มีเพียงเท่านั้น อายสาวใช้นี่เอง ถ้าเช่นนั้น เวลาพลบค่ำย่ำราตรี ไม่เป็นปัญหา เขาสามารถแตะต้องได้ทุกสัมผัสอย่างแน่นอน

“ไว้ตอนค่ำ ข้าก็ไม่ได้ว่า ตอนนี้ยังอยู่ในเวลางาน เข้าใจมั้ย ท่านโจรผู้โหดเหี้ยม หยางหยาง

เจ้าของชื่อยิ้มรับ แต่ไม่วายทำให้ท่านหมอต้องอาย เพราะก่อนละเท้าจากครัว โจรก็ยังเป็นโจร เขาลักลอบหอมแก้มใสเยนนั่นซักครั้งใมห้หายย่ามใจและจากไป








เส้นขนานนี้ที่ดูเหมือนไม่มีทางบรรจบได้ แต่เพราะเส้นพหรมลิขิตคอยเชื่อมไว้ จึงไม่ใช่เรื่องยากอีกต่อไปที่เส้นขนานสามารถจะเชื่อมถึงกัน















***************************************************************************************END








TALK :: ฟิรแก้บน ฟิคแก้บน ฟิคแก้บน
ไม่รู้จะชอบหยางเฟิงกันในรูปแบบนี้มั้ยเนอะ แต่แต่งออกมาแล้วเเหละ
ฟิคแก้บน ฟิคแก้บน ฟิคแก้บน

2 ความคิดเห็น:

  1. หมอแมวกับจอมโจรแกะน่ารักมากเลยค่ะ ( *////// *)
    ไรเตอร์เขียนได้ละมุนแทบทุกเรื่องจริงๆ

    ตอบลบ
  2. จริงด้วยเรื่องนี้ ฟีลนี้เป็นที่สุดมาก ตอนที่ได้อ่านครั้งแรกไม่มีโอกาสเม้น

    อารมณ์เรื่องนี้แบบนี้ มันสุดๆดีจริง

    ตอบลบ