วันอาทิตย์ที่ 23 สิงหาคม พ.ศ. 2558

แพ้ - หยางเฟิง


-[SFic]  แพ้
Pairing :: หยางหยาง x หลี่อี้เฟิง
Rating :: PG -13 

Tell :: เปิิดเพลงนี้เถอะค่ะคุณ เปิดดดดดดดดดดดดดดดดด

แพ้ใจ - POTAPO 

พอดีเปิดเพลงนี้วน ๆอยู่ตั้งแต่ตอน OURSONG ก็เลยได้อันนี้มาอีกเรื่อง

https://img2.blogblog.com/img/video_object.png






********************************************************************




ผมไม่รู้ว่า ผมเป็นส่วนหนึ่งในความคิดหรืออยู่ตรงไหนของหัวใจ หรือเขาเคยคิดถึงผมบ้างไหม



แต่การที่เขาคนนั้นไม่แสดงอะไรออกมาเลย นั่นทำให้ผมเหมือนเป็นคนที่เพ้อเจ้อไปเอง คิดฝันลม ๆแล้ง ๆ เหมือนล่องลอยอยู่ในฝันคนเดียว


สวัสดีครับทุกคน โหย ไม่เจอกันตั้งนานแหน่ะ

หลี่อี้เฟิงที่ยืนอยู่ตรงนั้น เขาทักทายทุกคนตามปกติ แน่นอน ตามปกตินั่นก็รวมถึงหยางหยางด้วย  วันนี้ประจวบเหมาะรวมทีมนักแสดงที่เคยร่วมงานกันมาพบกัน ทุกคนต่างทักทายกันเป็นกันเอง ซึ่งอี้เฟิงก็ทำแบบนั้นกับทุกคน ที่เขาเจอ แม้แต่หยางหยางที่อี้เฟิงเองก็รู้อยู่เต็มอกว่า เขาคนนั้นหลงรักอี้เฟิงมากแค่ไหน


ก็ยังเป็นไปตามปกติ เหมือนคำบอกรักที่เคยส่งให้ไป เหมือนคำที่ล่องลอยในอากาศ เหมือนกำลังฝันไป เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นจริง

ดูเหมือนไม่มีค่า สำหรับเขาเลย


คำบอกรักของหยางหยาง เหมือนไม่เคยเกิดขึ้นจริง












โอเคครับ ได้ ๆ เดี๋ยวไปหา ขอทักทายพี่ทีมงานตรงโน้นก่อน


อี้เฟิงที่ละจากกลุ่มทีมงานอีกฝั่ง ซึ่งเป็นทีมตัดต่อ พูดคุยกันจนหายคิดถึง ก็มีอีกทีมที่เรียกเขาไป หลี่อี้เฟิงเหมือนเจ้าชายที่น่ารักของกองถ่าย ทุกคนดูแลเขาเป็นอย่างดี นั่นก็รวมถึงหยางหยางด้วย ดูแลเขาราวหัวเป็นหัวใจของตัวเอง แต่อีกฝ่ายก็เห็นหยางหยางเหมือนเพื่อนร่วมงาน เหมือนรุ่นน้องเหมือนกับคนอื่น ๆ


เหมือนปกติ เหมือนกับความรักที่เคยได้มอบไป หรือความรู้สึกดีที่อี้เฟิงเองเคยบอกหยางหยางก่อน นี้เหมือนไม่มีอยู่จริง



หรือตอนนั้นเรากำลังฝันอยู่ด้วยกันคู่














หยางหยาง

 เขาถูกใครบางคนเรียกเป็นทีมนักแสดงที่สนิทมีพี่สาวถังเยี่ยน พี่เหว่ยเหว่ย และพี่เหยา อีกฝั่งหนึ่งกำลังเดินมามีพี่จั่วที่ควงลากอีกคนมาด้วย



หลี่อี้เฟิง


หยางหยางเปลี่ยนสายตาไปมองสองคนที่กำลังมาใหม่ ทันได้สบตารุ่นพี่ที่เขาหลงรักพอดี แม้เสี้ยววินาทีเดียว อีกคนปิดบังความรู้สึกเก่งทีเดียว


เขามองไม่เห็นความรู้สึกหรืออารมณ์ใด ๆ ของรุ่นพี่หลี่อี้เฟิงต่อเขาเลยซักนิด




ว่าไงทุกคน
อี้เฟิงเริ่มบทสนทนากลางทันทีที่เข้ามารวมวงกันไล่จับมือกับทุกคน นั่นก็รวมหยางหยาง ทำตัวเองให้เป็นเจ้าชายผู้มีอัธยาศัยดีอีกครั้ง และรวมให้เขาไปอยู่ในหมู่เพื่อนร่วมงานด้วย

หยางหยางรู้สึกไม่ค่อยสบอารมณ์แต่ยิ้มไปไปบรรยากาศของวงสนทนาที่กำลังครึกครื้นและเขาไม่อยากทำลายมัน จนแล้วเมื่อทุกคนต้องแยกย้ายเพราะมีอีกหลายคนที่อยากคุยกับคนอื่น ๆ

ขอไปจับเข่ากับคุณ ผู้กำกับ หน่อยแล้วกัน พี่เหยาไปด้วยมั้ย
เอาดิ่ เหว่ยเหว่ยไปไหนแล้วเนี่ย
โน่นไปหาทีมสตั๊นซะแล้ว
งั้นหนูไปด้วยพี่เหยา อยากคุยกันเรื่องครั้งก่อน ยังไม่เคลียร์กันเรื่องเอฟเฟคเลย จะไปขอเอาคืนหน่อยแล้ว

ถังเยี่ยนเป็นคนท้าย ๆ ที่แยกย้ายออกจากวงสนทนาที่ครึกครื้นเมื่อครึ่งชั่วโมงที่แล้ว และเหลือแค่เขาสองคน

หยางหยางในตอนนี้ไม่พร้อมคุยกับหลี่อี้เฟิงอีกแล้ว เขาอารมณ์ครุกกรุ่นมากเกินไป และเพิ่งรู้ตัวเองนั้นจะเป็นเดือดเป็นร้อนกับเรื่องของหลี่อี้เฟิงไปซะทุกเรื่อง

ยินดีที่ได้เจอนะครับรุ่นพี่


รุ่นน้องที่ดีบอกกล่าวหนึ่งประโยคและเดินออกไปพร้อมแก้วคอกเทลในมือ ไม่ทันที่อี้เฟิงจะได้เรียกเสียด้วยซ้ำ



















ไม่ได้รู้สึกตัวเองเลย เจ้านั่น  อี้เฟิงที่แม้จะเรียกหยางหยาง ก็กลับไม่ทันรุ่นน้องเดินจากไปอย่างรวดเร็ว เหมือนกับไม่อยากเห็นหน้าเขา นั่นเจ้านั่นรู้สึกตัวเองได้บ้างมั้ย





















อี้เฟิงกลับมาคิดกับตัวเองว่าจะเดินตามหมอนั่นไป หยางหยางไปดีมั้ย ตอนนี้คงจะโกรธและหงุดหงิดไม่น้อย ที่เขาไมได้เข้าไปคุย และ ทำเหมือนเขากับหยางหยางไม่เคยมีความรู้สึก ความผูกพันอะไรกัน



นายรู้ตัวเองหรือเปล่า ว่าทำสายตาดุอย่างกับหมาป่าล่าเนื้อใส่ทุกคนที่เข้าใกล้ฉันหยางหยาง นายมันมองเห็นแค่ตัวเอง..แล้วก็แค่ฉัน





แต่ท่าทางหยางหยางคงจะไม่รู้ตัวเลย เวลาเจ้าหยางหยางโกรธจะมองเห็นแค่ความรู้สึกตัวเอง มองใครไม่เห็น มองอะไรก็ตีความไม่ได้  ตอนนี้ก็คงจะมองเห็นแค่ว่าเขาไม่แคร์ไม่อยากเข้าใกล้ ไม่อยากจะคุยด้วย


"เจ้าบ้านั่น"




เอาตามความจริง อี้เฟิงในตอนนี้ รู้สึกกลัวหยางหยางมากกว่า และมันเกินกว่าที่จะสามารถจะก้าวเข้าไปคุยกับหยางหยางตามลำพังได้ คงจะต้องทำอารมณ์และความกล้าเสียก่อนซักช่วงเวลา หยางหยางโดนอคติบดบังไปหมด ที่อี้เฟิงต้องทำเป็นไม่สนใจ หรือทำเป็นไม่คุยกับหยางหยางส่วนตัวสองคนก็เพราะมีสื่อเข้ามาในงานรวมตัวเล็ก ๆ ครั้งนี้เต็มไปหมด เจ้านั่นยังใหม่เลยจับสังเกตอะไรไม่ค่อยและไม่เคยได้ เอาแต่มาจี๋จ๋ากับเขา จนเมื่อก่อนหน้านี้ก็เกือบโดนเอารูปไปลงเว็บออนไลน์ โชคดีที่พี่ทีมงานของทั้งคู่ประสานกันทัน แม้จะไม่ถูกกันแต่ก็ต้องการรักษาชื่อเสียงเด็กของตัวเองไว้ รู้กันดีอยู่แล้วว่าเรื่องแบบนี้ ปล่อยไปข้างนอก มันไม่ดีหรอก


เขาจึงต้องทำเป็นเมินความสัมพันธ์และสายตาพิเศษของหยางหยาง ในวันนี้ ตั้งแต่วินาทีแรกที่ได้พบเจอกันตรงหน้า ทั้งที่แม้ก่อนหน้านี้ที่ติดต่อกันโดยทางอื่น ก็ยังคุยกันดีและมากด้วยความรู้สึก



ในตอนแรก อี้เฟิงก็ไม่รู้ว่าจะมีงานรวมตัวเล็ก ๆ นี้แต่พอรุ้ก็ตั้งใจจะมาเจอหยางหยางให้ได้ แต่ดันกลายเป็นงานที่มีสื่อแฝงเข้ามาด้วย สื่อประเทศนี้อันตรายขนาดไหน ทุกคนล้วนรู้ดี และช่วยพวกเขาสองคนป้องกันเรื่องรั่วไหลออกไป


ทั้งกองนี้เขาก็รู้กันหมดแล้ว ว่าทั้งสองคนมีความรู้สึกต่อกันมากว่าใคร



ตอนนี้อี้เฟิงควรทำอย่างไร กับเจ้าหมาป่าหน้าตาดุแววตากินเลือดกินเนื้อนั่นดี ใจอี้เฟิงเองก็กลัว กลัวเข้าไปคุยเจ้านั่นก็จะยืนกรานความรู้สึกและสิ่งที่ตัวเองเห็นแค่เพียงด้านเดียว ไม่ฟังแม้กระทั่งเขาที่เจ้านั่นบอก ยอมหมดใจให้ พอหยางหยางหงุดหงิดหรือโกรธอะไรใคร หมาป่าดุร้ายนั่นยังน้อยไปเลยด้วยซ้ำ



"เอายังไงดี เข้าไปหาจะกลายเป็นอาหารหมาป่ามั้ยนะเรา"



ถ้าหากอี้เฟิงจะเข้าไปหาหยางหยางตอนนี้ ต้องมีวิธีการที่ดีและเอาเจ้าหยางหยางที่กำลังโกรธแลดื้อเเพ่งนี่ให้อยู่หมัด























*****












หยางหยางเดินถอยกลับออกมา ไม่อยากมองหน้าคน ๆ นั้นทั้งที่อยากกอดใจจะขาด แต่เพราะอีกฝ่ายไม่แสดงอะไร ปิดบังความรู้สึกทั้งหมด ทำเหมือนว่าระหว่างเราไม่เคยมีอะไร


ทั้งที่เคยบอกไปแล้วว่า ยอมหมดทุกอย่างแต่สุดท้ายก็ยอมไม่ได้ที่ถูกหลี่อี้เฟิงคนนั้นเมิน มันทำใจยอมรับไม่ได้



หรือเป็นเพราะนิสัยเสีย ๆ ของหยางหยางเองที่ไม่ชอบการถูกเมิน ทำเป็นมองไม่เห็นค่า แต่นั่นก็ขึ้นอยู่กับอีกฝ่ายหนึ่งด้วย ว่าจะทำให้เขาเจ็บได้เพียงไหน และหลี่อี้เฟิงก็ทำให้เขาเจ็บจนไม่สามารถทนมองหน้าได้ จึงต้องหลบมา และเอาอารมณ์มาลงกับคอกเทลในแก้วนี้แทน



อารมณ์เสียชะมัด



หยางหยางสบถอย่างหัวเสีย ยกคอกเทลแก้วสุดท้ายในมือดื่มรวดเดียวจนหมดและขว้างแก้วใบสวยทิ้งข้าง ๆ พุ่มตกแตกอย่างไม่ใยดี มือแกร่งแข็งแรงเสยผมที่ปรกหน้าตัวเองออก ก่อนเดินทอดน่องเพื่อดับอารมณ์ร้อนในใจเสียหน่อย



เขาไม่รู้จะทำอย่างไร ให้หลี่อี้เฟิงคนนั้นมองเขาได้เพียงคนเดียว และทำให้หยางหยางคนนี้เป้นคนพิเศษของเขา ไม่ใช่ทำให้เขาเหมือนกันกับคนอื่น มันไม่ใช่ความรู้สึกที่คนรักและมีความรู้สึกที่ดีต่อกันควรได้รับ เขาต้องการมากกว่านั้น เขาต้องการหลี่อี้เฟิงด้วย แต่อีกฝ่ายทำตัวเหมือนจะปฏิเสธ



คนรูปหล่อเดินไปเรื่อย ๆ มือล้วงกระเป๋า ใช้ความคิด โดยไม่ทันมองทางเดินด้านหน้าว่ามีคน ๆ หนึ่งดักรอเขาอยู่ตรงหน้า



จนเมื่อหยางหยางเดินเข้าไปใกล้คน ๆ นั้น เขาที่กำลังใช้ความคิด ก้มมองแค่ปลายเท้าตัวเอง ก็พลันมองเห็นบปลายเท้าอีกคนที่ยืนดักขวางทางเขาอยู่


แม้แต่กลิ่นน้ำหอมเขาก็จำได้ดี









มาทำอะไรตรงนี้ล่ะ คุณรุ่นพี่




หยางหยางรู้ได้ทันทีว่าเป็นคนที่ทำให้เขาหัวเสียอยู่ตอนนี้ ใบหน้าที่แสดงอารมณ์ครุกกรุ่น เงยหน้ามองคนมาใหม่เต็มสายตา อีกฝ่ายมองเขาออย่างจริงจัง และตั้งใจมาเพื่ออะไรซักอย่าง


ยังจะมาถาม
ก็ต้องถามสิ ก็ก่อนหน้านี้ยังไม่เห็นนึกอยากจะมาคุยอะไรด้วย
หยางหยาง!
มีอะไรอีก ถ้าไม่มีอะไรมากไปกว่าการเตือนให้ผมรู้ถึงชื่อและสถานะตอนนี้ของผมกับรุ่นพี่ล่ะ เชิญหลบทางไปทีเถอะ ผมมีอะไรต้องคิดอีกเยอะ"
"คิดอะไรล่ะ ในหัวนายก็มีแค่เรื่องฉัน"

หยางหยางที่โดนจี้ใจดำรีบเดินหนี อีกคนเดินไล่หลังตามมา หลี่อี้เฟิงทนไม่ไหวกับการประชดประชันแบบนี้ อยากจะเอามือต่อยหน้าให้หายเป็นหมาป่าบ้าเลือดเสียที จนเมื่อวิ่งมาดักเข้าทัน มองหน้าจ้องตากันไม่กี่วิานที อี้เฟิงทำอะไรบางอย่าง










คนเป็นรุ่นพี่รั้งคออีกคนมาจูบ ก่อนที่รุ่นน้องจะหลบออกไป รับรู้ได้ถึงกลิ่นคอกเทลที่อีกคนดื่ม น่าจะมากแก้วพอดู เพราะแม้ว่ารสชาติที่คลักคลุ้งในปาก ก็ยังรับรู้ถึงรสชาติอย่างลึกซึ้ง อี้เฟิงพยายามรุกให้เขาได้ทำอะไรตามใจ เหมือนที่หยางหยางเคยทำ แต่เมื่อพยายามเลียนแบบคนเก่งเรื่องจูบกว่าคนจูบไม่เก่งก็ต้องพ่ายแพ้ โดนรุกกลับนั่นมันง่ายมาก อี้เฟิงจึงหมดแรงในอ้อมแขน กลายเป็นว่าเขาก็ต้องมาอ่อนระทวย ละลายอยู่ในอ้อมกอดของอีกคนเหมือนที่เคย
















เฟิงเฟิง คิดจะทำอะไร
จะทำเหมือนที่นายเคยทำเวลาฉันโกรธ
แต่ก็ยังเหมือนเดิม พี่จูบไม่เก่งเสียเลย
ไม่มีคนสอนก็เลยไม่เก่ง
จะให้ผมสอนพี่จนเช้าก็ยังได้
ฮึ ก่อนหน้านั้นให้หยุดความคิดทิฐิบ้า ๆ ของนายตอนนี้ก่อนได้มั้ย


บทสนทนาเถียงคำต่อคำของทั้งคู่กลับมาเป็นเหมือนเดิม เพราะเมื่อได้รับจูบเมื่อครู่ หยางหยางก็แทบไม่ต้องฟังอีกคนอธิบายอะไรอีกแล้ว แต่เขาก็ยังหงุดหงิดที่ถูกอีกคนเมินไม่สนใจเขาอยู่ดี จึงยังคงทำหน้าตาแสดงอารมณ์นั้นออกไป


พี่ทำผมหงุดหงิด
ก็นายน่ะ หัดมองอะไรให้กว้าง นายจะให้ฉันเข้าไปหานายทั้งที่สื่อยืนโท่กันอยู่เต็มงานวันนี้ ?”

หยางหยางเลิกคิ้วแปลกใจ พอนึกออกแล้วว่ามีคนที่ไม่ควรอยู่ในงาน ท่าทางไม่เหมือนทีมงานอยู่แต่ก็นึกไม่ออกว่าเขาคุ้นหน้าจากที่ไหน นำมาประกอบกับคำบอกเล่าของที่รักในอ้อมกอด

แล้วทีนี้ ก็ช่วยเลิกคิดอะไรบ้า ๆ ว่าฉันไม่สนใจนาย ฉันจะเป็นบ้าตายที่นายทำหน้าตาเป็นหมาป่าบ้าเลือด ไล่ส่งสายตาดุ ๆ ใส่ทุกคนที่เข้ามาคุยกับฉัน แม้กระทั่งพี่เยี่ยน นายจะบ้ารึไง


อีกครั้งที่หยางหยางเลกคิ้วและเพิ่มเติมด้วยอาการแปลกใจ เขาทำแบบนั้นหรือ คนเป็นรุ่นน้องตอบกลับไปทั้งงง ๆ อี้เฟิงที่ยังคงอยู่ในอ้อมกอดเขาแต่มือยังเป็นอิสระอยู่เอาปลายนิ้วจิ้ม ๆ เบา ๆ ที่หน้าผาก ทำหน้าตาแมวเคืองใส่ด้วย

เออสิวะ ไม่รู้ตัวเลยใช่มั้ย คนทั้งงานที่เขาไม่ค่อยเข้ามาคุยกันนายก็เพราะนายทำหน้าดุ แล้วก็น่ากลัวใส่ ออร่ากระจายขนาดนั้น ใครจะเป็นกล้ากวนใจ ถ้าไม่ใช่เป็นพี่ ๆที่สนิทเขาก็รักษาระยะนายเป็นโยชน์ ส่วนฉันก็ด้วย หลายคนถึงคุยกับฉันได้แค่สามนาทีก็ต้องถอยออก เพราะนายไปแผ่ออร่าจะกินหัวเขาแบบนั้นน่ะสิ เจ้าบ้า


หยางหยางหัวเราะร่อออกมา กระชับอ้อมกอดและหอมเที่แก้มใสที่อยู่ใกล้ระยะให้สาแก่ใจที่คิดถึง ก่อนจะรั้งให้ร่างในอ้อมกอดมาใกล้ต้นไม้ที่อยู่ไม่ไกลเกินสองสามกาว และเป็นไปอย่างรวดเร็ว เขาปล่อยให้อี้เฟิงเป็นอิสระไม่นาน ก็ดันให้อีกฝ่ายจนมุมจนหลังชิดต้นไม้นั่นภายในเวลาไม่กี่วินาที

"ก็ช่วยไม่ได้ ผมหวงพี่"
ก็รู้แต่เดี๋ยวนะ หยางหยาง นี่มัน..
หลี่อี้เฟิง คุณรู้ตัวมั้ย คุณทำให้ผมหงุดหงิด หัวเสียจนไม่เป็นตัวของตัวเอง
รู้โว้ย แต่นายอย่ามาทำตัวน่ากลัวใส่ฉันแบบนี้ ไม่เอา
คุณกลัวผมรึไง

เสียงทุ้มถามกลับ พร้อมยื่นใบหน้าเข้าไปใกล้ เพื่อจะถามให้ชัดเจน จนปลายจมูกแทบจะชนกันห่างกันแค่เส้นด้ายกั้น แขนข้างหนึ่งหยางหยางดักอี้เฟิงไว้ในพื้นที่แคบ อีกข้างคว้าเอวอี้เฟิงเอาไว้ แน่นอนแมวน้อยไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว


ฉันอยากเอากระจกให้นายส่องนายตัวเองตอนนี้ ว่านายทำตัวน่ากลัวขนาดไหน สายตาของนายตอนนี้เป็นแบบไหน


ใบหน้าหล่อยิ้มมุมปากเท่ออกมาให้อี้เฟิงหวั่นไหวในใจ หยางหยางกระชับอ้อมกอดให้แนบชิดขึ้น ยื่นใบหน้าหล่อใกล้มากยิ่งขึ้น และกระซิบข้างหูอี้เฟิง อีกฝ่ายรู้สึกขัดเขินจึงยู่ไหล่หลบเป็นพัลวัน


ที่จริงตอนนี้ผมกำลังคิดว่า ผมจะกินเฟิงเฟิงส่วนไหนก่อนดี
หยางหยาง!



อี้เฟิงอุทานดังออกมา จนรู้สึกตัวว่าดังมากเกินไปเลยตะครุบปากตัวเอง ดูน่ารักเหลือเกิน หยางหยางจึงขอขโมยความหอมแบบเด็กน้อย ตรงซอกคออีกฝ่ายอีกครั้งให้สาแก่ใจที่ต้องรอเวลานี้มานาน อี้เฟิงดิ้นเร่าในอ้อมกอดหยางหยาง ในใจรู้สึกกลัวหยางหยางขึ้นมาเสียได้ ทั้งที่ไม่เคยเป็น ตอนนี้เจ้ารุ่นน้องคนนี้เหมือนสวมวิญญาณอะไรที่น่ากลัวเข้าร่างตัวเองแบบนั้นเลย


เฟิงเฟิง...

อี้เฟิงก้มหน้าไม่ตอบรับอะไร กลัวเขาขึ้นมาจริง ๆ นั่นล่ะ ทั้งเสียงทุ้มนุ่ม ๆ นั่นก็เปลี่ยนโทนไปแม้จะเป็นคนเดิมที่พูดอยู่ ลมหายใจร้อนที่รดอยู่ตรงลำคอ พร้อมกลิ่นคอกเทลที่ยังคงเจือจางอยู่


นายเมาแล้วหยางหยาง
ผมดื่มไปแค่สองแก้ว นั่นทำอะไรผมไม่ได้
ตอนนี้นายเหมือนคนเมา
ถ้าจะเมาก็คงเป็นเพราะพี่ พี่ทำให้ผมเป็นแบบนี้  ทำให้ผมเหมือนทั้งคนเมา พี่ทำให้ผมหลงพี่ขนาดนี้
และตอนนี้นายเหมือนหมาป่าบ้าและกำลังเดือดอยู่
ก็คงงั้น

พอตอบจบหยางหยางก็ซบใบหน้าของตัวเองลงที่ลำคอระหงส์อย่างออดอ้อน และคิดถึงความอบอุ่นนี้  อี้เฟิงที่โดนเขากอดอยู่นานก็รู้สึกว่า ก็คงต้องเป็นเขาแค่คนเดียวที่ทำให้คนคนนี้อารมณ์เย็นและกลับเป็นหมาป่าเด็กดีเหมือนเดิมได้





ฉันกลับมาให้นายกอดแล้ว เลิกมองอะไรแล้วเอาไปคิดเองเสียที ทุกคนมองเรา อยู่นะหยางหยาง เราสองคนมีความรู้สึกที่มากมาย เกินไปจนต้องซ่อนมันเอาไว้จากคนบางกลุ่มบ้าง แต่ตอนนี้ฉันกับนายมาหลบมุมอยู่ตรงนี้ อย่างน้อยตรงนี้ นายก็กอดฉันได้แล้ว





คนรูปหล่อช่างอ้อนในตอนนี้ครางเบา ๆ ถามอีกครั้ง แล้วถ้าหากวันนี้หมดไป ผมจะได้กอดพี่อีกเมื่อไหร่





อี้เฟิงคลี่ยิ้มออกมา ยกมือเคาะหัวให้อีกฝ่ายเจ็บตัวบ้าง เพราะอีกคนติดเขาเหลือเกิน 
นายกอดฉันในฝันนายทุกวันอยู่แล้ว
ในฝันมันทำอะไรแบบนี้ไม่ได้ ก็แค่ความรู้สึกหน่า
มีอยู่แล้ว เรามีเวลาที่จะได้เจอกัน หากเราพยายาม
แต่พี่ไม่เคยว่างให้ผม
นายเองก็งานเยอะ ก็ไม่ว่างแล้วเหมือนกันนี่
ในเมื่อเป็นแบบนี้แล้วเราจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่

หยางหยางเริ่มเป็นคนดื้อแพ่งอีกครั้ง เจ้านี่จะสงบ ๆ ให้อี้เฟิงสั่งสอนหน่อยไม่ได้หรือ ตอนนี้เจ้านี่เริ่มหงุดหงิดขึ้นมาอีกครั้งและรุกหนักขึ้นเรื่อย ๆ มือหมาป่าเป็นปลาหมึกเสียแล้ว


นายอย่างอแงสิวะ นัดมา! ฉันจะไปเจอนาย สุดขอบโลกก็จะไป นัดที่ไหนบอกมาเลย!

อี้เฟิงจึงยื่นคำขาดก่อนที่เขาจะโดนเจ้ารุ่นน้องจอมมือไวสำเร็จโทษมันกลางสวนหลังร้านนี้ เผลอใครเดินผ่านมาต้องกลายเป็นเรื่องแน่ ๆ  พอหยางหยางได้ฟังคำ ก็สงบลง

คอนโดผม มันไม่ใกล้ไม่ไกลมาก และอยู่กลางเมือง เฟิงเฟิงเดินทางสะดวก
และก็สะดวกนายด้วยน่ะสิ
สะดวกที่ผมจะทำอะไรเฟิงเฟิง
นายมันเผด็จการ
คุณรุ่นพี่กลัวผมหรือไง
ก็เห็นอยู่ นายมันน่ากลัว
อย่างนั้นหรือ

ยังจะมาถาม ...อี้เฟิงคิดในใจก่อนผลักอกให้หยางหยางเลิกกอดเขาแน่นแบบนี้เสียที เพราะเมื่อครู่เหมือนจะได้ยินเสียงใครเดินผ่านมา อีกฝ่ายก็เหมือนจะได้ยินเหมือนกัน จึงผลักออกตามใจคนถูกกอด

เออ เห็นหน้านายชัด ๆ นายก็สงบลงแล้ว
นี่ต้องให้แมวน้อย ๆ มาสงบหมาป่าแบบผมเลยหรือไง


หยางหยางไม่พูดเปล่า ในระยะที่เอื้อมมือถึง เขายกปลายนิ้วไปไล้แก้มอีกคนอย่างหยอกเย้าขณะพูดประโยคนั้นและด้วยสายตาที่ส่งไป คงทำให้อีกฝ่ายเขินได้ดี แก้มนั้นจึงร้อนอุ่นขึ้นและเปลี่ยนสี


ไม่มีใครทำได้นอกจากฉันนี่

อีกฝ่ายพยักหน้ารับ ว่านั่นเป็นความจริง ไม่มีใครดับอารมณ์ ทำให้เขาสงบได้เท่าหลี่อี้เฟิงคนนี้ แล้ว เขาก้มหน้าปรับลดระดับความครุกกรุ่นในใจให้เหลือน้อยลง และมองใบหน้าที่คิดถึงอีกครั้ง

ขอบคุณที่มาหาผม
ผิดแล้วหยางหยาง ที่จริงฉันคิดถึงกอดของนายด้วยเหมือนกัน

พูดจบอี้เฟิงก็ส่งยิ้มตามมาให้อีกคนวูบไหว จนเสใบหน้าหล่อเหลาไปหลบยิ้มเขิน รุ่นพี่รู้อยู่แล้วว่ายิ้มของตัวเองทำให้อีกคนเป็นบ้าได้แค่ไหน และนี่คืออาวุธพิฆาตคนช่างโมโห โกรธเก่งแบบหยางหยาง



ฉันรู้ว่าฉันมีอาวุธที่จะปราบนายให้อยู่หมัด




หยางหยางยิ้มส่งกลับมา มองใบหน้าน่ารักที่เต๊ะท่ากอดอกแต่ก็ยังดูน่ารักในสายตา มองดูเขาอย่างมีชัย  พอเห็นแบบนั้น หยางหยางจึงแสดงความพ่ายแพ้ของตัวเองให้อีกฝ่ายเห็นให้ชัดเจนโดย มือข้างหนึ่งยกสูงเหนือไหล่ บ่งบอกความพ่ายแพ้ในครั้งนี้






ยอมแล้วหลี่อี้เฟิง หยางหยางคนนี้ไม่เคยโมโห โกรธ คนนี้ ๆ ได้เกินวัน และอาวุธที่เขาว่าก็คือรอยยิ้มสดใสนั่น ก็ทำให้เขาแพ้หมดรูป ไม่มีใครทำได้แล้ว



ผมแพ้เฟิงเฟิงหมดหัวใจเลย











**************************************************************END


ทอค

โครตชอบหยางหยางแบบนี้ ใครจะปราบหมาบ้าได้ล่ะ ถ้าไม่ใช่แมวน้อยคนงาม

/ไปร้องกริีโกลางทุ่งจนฟ้าผ่าตาย/


ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น