[FIC]
OURSONG ~我們的歌
-- หยางเฟิง / เพลงที่ 5
Pairing
:: หยางหยาง x หลี่อี้เฟิง
Rating
:: PG
Tell
:: เปิดเพลงตอนอ่านด้วยเนอะ
เพลงที่อยากให้ฟังตอนอ่าน
:: ตอนแต่งฟิค ฟังเพลงนี้ค่ะ รู้สึกว่าเท่ และมันตรงใจดี ไม่มากก็น้อยนะ แต่คนเเต่งเขินทีเดียวค่ะ
แพ้ใจ - POTAPO ขอโทษที่ตอนนี้จะยาวมากเป็นพิเศาเพราะอยากให้ความรุ้สึกทั้งหมด อยู่ในแค่พาร์ทนี้น่ะค่ะ ผู้อ่านอาจจะแบ่งพักไว้อ่านซักครึ่งหนึ่งก่อน และค่อยมาอ่านต่อ ก็ได้ หรืออ่านจยจบก็ได้
และตอนนี้อาจจะรบกวนขอเม้นท์ หรือแอคชั่นหน่อย ขอบคุณมากค่า
*************************************************************************
หัวใจเต้นแรง....
อาการเกิดขึ้นกับอี้เฟิงเมื่อช่วงเช้านี้
ที่บังเอิญเปิดประตูออกมากำลังจะไปเรียนพอดีที่รุ่นพี่คนหล่อช่างเต๊าะที่กำลังจะไปเรียนเช่นกัน
พอหันไปหาเขา อี้เฟิงก็ยิ้มน้อย ๆ พอทักทายกัน และหันกลับมากัดฟันเม้มปาก
หัวใจเต้นแรง
รู้แล้วว่าตัวเองเขินพี่เขาขนาดนี้
หลัง
ๆ นี้ ทั้งอี้เฟิงและรุ่นพี่หยางหยางก็มีเหตุการณ์เล็ก ๆ น้อย ๆชวนเขินและโรแมนติค
มาตามลำดับขั้น จากที่จำได้ที่สุด คือระยะ หนึ่งช่วงแขน
ซึ่งหยางเกอของอี้เฟิงก็น่ารักที่รักษาระยะนั้นเสมอ
เดินเว้นระยะกับอี้เฟิงแบบนั้นไว้ตามคำสัญญา แบบนั้นมันยิ่งตอกย้ำคำว่า “ชอบ” ของรุ่นพี่คนนี้ว่าเขาจะเดินหน้า
และเอาจริง สายตานั่นเริ่มจริงจังขึ้นทุกวัน
สายตาของรุ่นพี่ในวันนี้ก็จริงจังอีกแล้ว
สงสัยอี้เฟิงคงแพ้ใจรุ่นพี่คนนี้เข้าซักวัน
“สวัสดีตอนเช้า น้องอี้เฟิง”
“เช่นกัน หยางเกอ สวัสดีฮะ”
ยกเว้นว่าจะมีเรื่องราวอะไรที่จะทำให้เขาทั้งสองสะดุดกลางทาง
และทำให้ทั้งความรู้สึกของอี้เฟิงและรุ่นพี่หยางหยางเกิดหลงทางหรือเปล่าเท่านั้นเอง
ก็ช่างมันก่อนเถอะ
อย่างน้อยระหว่างเส้นทางไปมหาวิทยาลัยของทั้งคู่ ก็ยังไม่มีอะไรทำให้สะดุด
แถมยังมีคนร่วมทางไปด้วย มันไม่เลวเลย
“จะไปเรียนหรอ”
“อื้อ”
“จะไปส่งนะ”
“คร๊าบ ผมก็ไม่เคยขัดเกอได้ ยังไงก็จะตามมาด้วยอยู่แล้วไม่ใช่หรอ”
ถ้าเจอกันตอนเช้า
หยางหยางก็จะเดินไปส่งทุกวัน เป็นแบบนี้
และนั่นเพราะหยางหยางตั้งใจให้เกิดขึ้นเพราะการเจอหน้าน่ารักที่หลงรักก่อนไปใช้ชีวิตทั้งวัน
กลับมาก็แอบมองเขา ก่อนเข้านอน
แค่นี้มันก็ทำให้หยางหยางมีพลังในการสูบฉีดในหัวใจให้เต้นต่อไปได้
ดูเวอร์ไปนิดหน่อย
แต่คนมีความรักมันก็ต้องการเพียงเท่านี้
แต่นั้นอาจจะเป็นเพราะว่าเขาจับสัญญาณที่ดี
เหมือนอี้เฟิงเองก็เริ่มเปิดใจให้เขาบ้างแล้ว
อย่างน้อยหัวใจน้องเขาก็รับเขาเข้าไปนั่งหน้าห้องพิจารณาแล้ว นั่นคือที่เขามั่นใจ
แต่หากว่าเขาจะผ่านการพิจารณาและเข้าไปนั่งในหัวใจของหลี่อี้เฟิงหรือเปล่า
นั่นคือสิ่งต่อไปที่หยางหยางคนนี้ต้องทำ
“ส่งตรงนี้ก็พอหยางเกอ ขอบคุณมากครับ”
เพราะหยางหยางปั่นจักรยานไปมหาวิทยาลัย
ในระยะใกล้เป็นการทุ่นเวลาได้ดี ส่วนอี้เฟิงชอบเดินไป
“โอเค ตอนเย็นเลิกกี่โมง แต่เกอมีซ้อมเทควันโด้เพราะใกล้จะแข่งแล้ว
อาจจะช้า แต่จะไปส่งก่อน”
“ไม่เป็นไรเกอ ผมกลับเองดีกว่า จะไปลำบากเกอทำไม”
“ก็เพราะเป็นอี้เฟิงไง”
“ก็เพราะเป็นผม ? “
หยางหยางอยากพูดอะไรต่อแต่เขาเองก็ยังข่มความดีใจและเขินของตัวเองและจัดลุคให้ตัวเองเท่ต่อหน้าน้องเขาไม่ได้ดีเท่าไหร่
จึงใช้เวลานานกว่าปกติที่คน ๆ นึงจะรอให้อีกคนพูดได้
“หยางเกอ ว่าไง”
“อย่าตื้อสิ กำลังคิดคำดี ๆ จะพูดกับอี้เฟิงอยู่”
“จะมาเลี่ยนใส่แต่เช้าก็ไม่ต้อง ผมจะไปเรียนแล้ว
ไม่อยากเป็นเบาหวานซะตั้งแต่เช้า”
อี้เฟิงพูดจบก็ทิ้งยิ้มสดใสสู้แสงแดดยามเช้า
ก่อนเดินเข้าตึกเรียนไปทิ้งให้รุ่นพี่หัวใจสั่นไหว ตกตะลึงกับยิ้มสวยเมื่อครู่นี้
หยางหยางที่มองตามไล่หลังอี้เฟิงไป
ก็ยังคงมองค้างอยู่เช่นนั้นและยกมือกุมตรงส่วนหัวใจอยู่
หัวใจเต้นแรง
แพ้..แพ้ใจ...จะคนไหนบนโลกก็ไม่เท่าคน
ๆ นี้แล้ว หลี่อี้เฟิง
“ก็เพราะว่าเป็นอี้เฟิง มีคนน่ารักร่วมทางไปด้วยใช้ช่วงชีวิต..ในทุก ๆวัน
... ขอแค่ยิ้มเดียวนี่ล่ะ หยางเกอคนนี้ก็ชื่นใจทั้ง อยากพูดแบบนี้ล่ะ
ก็เลี่ยนจริงๆ แต่ก็อยากได้ อี้เฟิงได้ยินมันนะ”
อี้เฟิงที่ทิ้งช่วงรีบเดินเข้าตึกมา
อยากจะตะโกนกับตัวเองก่อนเข้าห้องเรียนไปว่า โอย ทำไมฉันถึงพูดแบบนั้นแต่เพื่อน ๆ
ก็คงมองเขาด้วยสายตาประหลาด ๆ
“อี้เฟิง ไม่สบายหรอวะ ? แก้มแดงๆ “
ตาย...
เพื่อนดันทัก เพราะแบบนั้น แก้มเขาถึงแดงเพิ่มขึ้น จึงเออออบอกว่าวันนี้ร้อนนิดหน่อย
เพื่อนจึงเลิกถามไป คนน่ารักเดินสะดุดนั่นนี่เดินเข้าห้องเรียน
คือหยางเกอก็ไม่ได้สังเกตตัวเองเลยสินะ
ปล่อยออร่าใส่เขาขนาดไหน
จะเรียกว่าอย่างไรดี
เวลาคนเขามีความรัก อ่า..หยางเกอกำลังมีความรัก มันจะมีออร่าบางอย่าง
นั่นทำให้อี้เฟิงรู้สึกได้ถึงความพยายามของอีกคน ความจริงใจ และความหวังดี
และเสน่ห์ของรุ่นพี่จากแววตาที่ส่งให้
จะแพ้ใจเขามั้ย...
อี้เฟิงยกมือขยี้หัว รู้สึกสับสนเล็กน้อยถึงปานกลาง
ก่อนหน้าเขาได้บอกกับตัวเองไปว่า หากคนที่ชอบเป็นผู้ชาย เขาจะทำอย่างไร
เพื่อนเขามันก็เฉย ๆ กันล่ะมั้ง เพราะมีบางคนก็เป็นแบบนี้
แต่เพราะอี้เฟิงยังไม่เคยมีความรักหรือมีคู่จริงจัง มีแค่พบและผ่านไปเท่านั้น
การมีแฟนเป็นผุ้ชายด้วยกันมันอาจจะดูไม่ยืนยาว ไม่จริงจัง เพราะอย่างที่เคยได้ยิน
เขาจะต้องแต่งงาน มีลูก
“โอย นี่กังวลไปไหนต่อไหนแล้ววะเนี่ย”
แทบเรียนไม่รู้เรื่อง ที่สับสนแบบนี้
เพราะหวั่นไหวกับเขามากจนคิดต่อไปข้างหน้าจนไกลเกิน
จนความรุ้สึกตอนนี้เอื้อมไม่ถึง รุ่นพี่หยางหยาง เขาจะคิดไกลขนาดไหนกันนะ
เก็บไว้ก่อน
เรื่องกังวลแบบนี้เก็บไว้ เรายังเป็นเพียงแค่วัยรุ่น..เก็บไว้เถอะ..
*********
เขาซ้อมไปซักพัก
จึงกลับมานั่งพัก
หยางหยางมีเรียนแค่เช้าและต้องมาซ้อมให้ทันกับการแข่งที่จะมีขึ้นในเร็ว ๆ นี้
พักอยู่ครู่หนึ่งเขาคิดอะไรได้ แต่อาจจะดูไร้สาระและอาจจะเหมือนหวังลม ๆ แล้ง ๆ
“ก็ลองส่งไปหาหน่อยแล้วกัน”
“เอ๋?”
จากหยางเกอ
?
ขอกำลังใจหน่อยคร๊าบ~~
มาสั้น
ๆ ง่ายๆ ใจความเต็มเปี่ยม พร้อมอีโมติค่อนยิ้มให้ด้วย
รุ่นพี่คนนี้ช่างหาวิธีที่ทำให้อี้เฟิงยิ้มออกมาอย่างเผลอตัวเป็นคนบ้าได้จริง ๆ
ตอนแรกอี้เฟิงจะไม่ส่งไปตามที่ขอเพราหมั่นไส้ แต่อีกไม่กี่วินาที
เขาไม่สามารถต้านทานคำขอจากคนรูปหล่อจอมตื้อนั่นได้
“เอาไปเลย แบร่”
พอแลบลิ้นใส่โทรศัพท์
อี้เฟิงก็กลับมานั่งยิ้มแป้นอารมณ์ดีเหมือนได้แกล้งคนแล้วชอบใจ
แถมหัวใจยังพองโตอีกด้วย
“น้องอี้เฟิง..”
พอเรียกชื่ออีกคนจบ
เขาก็ถอนหายใจ
มองเห็นใบหน้าน่ารักยิ้มอย่างขี้เล่นชอบใจที่ได้แกล้งรุ่นพี่และหัวเราะสดใส
เอาเถอะ
จะส่งมาแค่ข้อความเปล่าเขาก็รับ จะเป็นจุดแค่ 3 จุด เขาก็โอเค
“หืม?”
“ขอกำลังใจใช่มั้ย ? ”
มีข้อความจากอี้เฟิงแล้ว
รุ่นพี่ดีใจรีบเปิดอ่าน ไล่ไปเรื่อยๆและดูเหมือนยังไม่จบดี
หยางหยางไล่กดลงไปด้านล่าง หัวใจเขาก็เต้นแรงพร้อมจังหวะกดมือถือ
และเมื่อไล่จนเจอท้ายสุดของข้อความ
อีโมติค่อนหน้าแมวกวน
ๆ ให้ และยังมีข้อความเล็กน้อยต่อ
“ขอกันง่ายๆ แบบนี้ได้ไง ไม่ให้หรอก แบร่”
หยางหยางหัวเราะเก้อ
ขำเสียงดังจนรุ่นพี่รุ่นน้องในโรงยิมมามอง มีส่วนหนึ่งถามเขาด้วย
ว่ามีอะไรให้ขำกัน หยางหยางก็ตอบคำถามไป
“แมวน่ารัก ๆ กวนใจนิดหน่อย”
แมวน่ารัก
กวนใจ กวนหัวใจ และสุดท้ายต้องแพ้หัวใจแมวน่ารักตัวนี้ตลอดไปแน่ ๆ เขามั่นใจ
จะมีสมาธิซ้อมมั้ยเนี่ย
******
“เขายังซ้อมอยู่มั้ง”
เมื่อเลิกเรียนแล้ว
อี้เฟิงก็นึกถึงสารถีคนหล่อที่มาส่งเขาเมื่อเช้า
ที่ได้บอกกันก่อนว่าวันนี้มีซ้อมและเขาปฏิเสธว่าไม่ต้องมารับเขาให้เสียเวลา
แต่สุดท้ายตัวเองก็อยากเจอหน้าเขา
ก็เดินไปหาเขาถึงโรงยิมที่เขาซ้อม
“เอ๋..ไม่เห็นอยู่เลย”
อี้เฟิงเดินเตร่
ทำเป็นแค่คนเดินผ่านที่โรงยิม
ก่อนหน้าเขาก็แวะไปทักเพื่อนที่ชมรมฟุตบอลก่อนมาที่นี่
และมาแอบดูโรงยิมเทควันโด้เสียหน่อย แต่กลับไม่เจอรุ่นพี่ตามที่คิดว่าจะได้เจอ
“เอ่อ รุ่นพี่อี้เฟิง..รึเปล่าคะ?”
“ครับ?”
เจอคนที่รู้จักเขาตรงหน้าโรงยิมเทควันโด้
จึงเป็นเรื่องน่าแปลกใจ แต่เด็กสาวรุ่นน้องกว่า 1 ปี บอกว่า
เคยเห็นเขาตอนเล่นดนตรีชมรม น่าจะเป็นการแสดงที่เป็นโปรเจคที่เคยทำก่อนหน้านี้
อี้เฟิงขอบคุณที่น้องเขายังจำกันได้ และบอกน้องคนนั้นว่าแค่ผ่านมาและกำลังจะกลับ
สุดท้ายก็ไม่ได้รู้ว่า หยางหยาง รุ่นพี่ที่ทำให้เขาวุ่นวายหัวใจแบบนี้อยู่ที่ไหน
“รุ่นพี่หยางหยางจะเป็นอะไรมากมั้ยน้า”
“ก็เล่นฝืนตัวเองแบบนั้นด้วยสิ แถมอีกฝ่ายก็เก่งหนักข้อเอาเหมือนกัน”
“มาท้าแข่งกันกะทันหัน
ต่อให้เป็นนเทพเจ้ามาเกิดแบบรุ่นพี่หยางหยางก็ลำบากแฮะ”
“แต่ที่เราไปดูน่ะ รุ่นพี่โดนโกงไม่ใช่หรือ”
ก่อนที่อี้เฟิงจะพาร่างของตัวเองเดินออกมาจากโรงยิมเก้อ
ๆ เพราะไปหาคนที่อยากพบแต่ไม่เจอ
แต่เขากลับได้ยินประโยคสนทนาที่เกี่ยวกับคนที่อยากเจอ
อี้เฟิงจึงแอบฟังอย่างเสียไม่ได้ และก็จับใจความว่าเหมือนอีกคนจะมีเหตุการณ์บางอย่างเกิดขึ้นแต่รุ่นพี่คนนั้นไม่เล่าอะไรเลย
คนน่ารักทนความอยากรู้ไม่ไหวอีกแล้ว
“พวกเธอ พอจะรู้มั้ยว่า รุ่นพี่หยางหยางอยู่ไหน”
“ก็โรงพยาบาลxx น่ะค่ะ ว่าแต่นาย..”
“เป็นเพื่อนบ้านกันน่ะ พอดีมีธุระ..ต้องคุยกันนิดหน่อย”
“เขาบาดเจ็บ จากการแข่งขันวันนี้แต่ที่จริงเป็นแมชอุ่นเครื่องเท่านั้น
แต่อีกฝ่ายน่ะซี่”
พอได้ยินคำบอกเล่าจากสาว
ๆ ของชมรมเทควันโด้ อี้เฟิงก็รีบโบกรถแท็กซี่ไปที่โรงพยาบาลชื่อนั้นตามที่สาว ๆ
กลุ่มนั้นบอกทันที ไม่รู้ว่าตัวเองนั้นมีเหตุผลอะไรที่ร้อนใจมากกว่าปกติ
แต่อย่างน้อยขอไปดูหน้าเขาก่อนแล้วกันว่าเป็นอย่างไรบ้าง
รุ่นพี่ไปแข่งขันกับคู่แข่งต่างมหาวิทยาลัย เป็นการแข่งอุ่นเครื่องแต่โดนอีกฝ่ายเขาตุกติกกลับมา เลยบาดเจ็บอย่างที่ได้รู้กัน อี้เฟิงร้อนใจจนต้องบอกให้พี่แท็กซี่ช่วยเร่งความเร็ว มือกำกีตาร์ที่ติดตัวเสมอไว้แน่น เป็นตัวเดียวกับที่รุ่นพี่คนนั้นเคยแบกนั่นล่ะ ใบหน้าน่ารักยุ่งเหยิง เม้มปากและมีความกังวลต่ออีกคนที่กำลังจะไปเจอ ซักพักก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
รุ่นพี่ไปแข่งขันกับคู่แข่งต่างมหาวิทยาลัย เป็นการแข่งอุ่นเครื่องแต่โดนอีกฝ่ายเขาตุกติกกลับมา เลยบาดเจ็บอย่างที่ได้รู้กัน อี้เฟิงร้อนใจจนต้องบอกให้พี่แท็กซี่ช่วยเร่งความเร็ว มือกำกีตาร์ที่ติดตัวเสมอไว้แน่น เป็นตัวเดียวกับที่รุ่นพี่คนนั้นเคยแบกนั่นล่ะ ใบหน้าน่ารักยุ่งเหยิง เม้มปากและมีความกังวลต่ออีกคนที่กำลังจะไปเจอ ซักพักก็ถอนหายใจเฮือกใหญ่
“รู้งี้ส่งอีโมหัวใจไปให้ก็ดี”
“หยางเกอ!”
อี้เฟิงเปิดประตูเข้าไป
ก็เจอกับบรรดาเพื่อนของหยางหยาง ครอบครัวของเขาด้วย
แต่รุ่นน้องผู้น่ารักจะถอยหลังกลับไมได้แล้ว
ดันทะเล่อทะล่าเปิดประตูเข้ามาไม่ทันได้เคาะห้องตามมารยาท
เพราะเป็นห่วงเขามากเกินไป
“น้องอี้เฟิง..”
“เอ่อ..ขอ..ขอโทษครับ ผมมาใหม่ก็ได้”
“เดี๋ยว ๆ “
หยางหยางรีบส่งเสียงห้าม
บอกให้เพื่อนรีบพาอี้เฟิงเข้าไปในห้อง
หยางหยางมองตามรุ่นน้องที่รักที่ตามมาหาเขาถึงที่นี่ ดีใจจนแทบกระโดดไปกอดร่างนั้น
แต่เพราะร่างกายที่อ่อนเพลียและมีจุดบาดเจ็บอยู่ เขาจึงไม่สามารถทำแบบที่คิดได้
เพื่อน ๆ ของเขาทั้งชายหญิง เหล่มองหยางหยางด้วยสายตาที่เข้าใจโดยทั่วกัน
อ๋อ
คนนี้ที่เพื่อนฉันมันเพ้ออยู่
หยางหยางไม่เคยบอกเพื่อน
แต่เพื่อนของเขาสายลับเยอะจนเกินไป
และทำเอารู้กันทั้งกลุ่มเพื่อนสนิทสามสี่คนว่าคนนี้คือคนที่เข้าไปนั่งในใจหนุ่มฮอตเดือนมหาวิทยาลัยคนนี้
ซึ่งเมื่อเพื่อนของเขามองดูเด็กคนนี้ก็พร้อมใจกันบอกว่า เป็นแมวดื้อ ๆ ที่น่ารัก
และสมควรไปนั่งในใจหยางหยาง
ก็เพราะรอยยิ้มที่แม้เพื่อนของหยางหยางยังชมว่า
นั่นสว่างกว่าดวงอาทิตย์เสียอีก
ฝั่งครอบครัวหยางหยางเห็นผู้มาใหม่
ก็ส่งสายตาสงสัย และเมื่อหันกลับไปทางลูกชายของตัวเอง และคนเป็นพ่อแม่นั้นเข้าใจสายตาของหยางหยางที่เป็นลูกตัวเองดี
แต่เด็กคนนี้น่ะหรือ
“แม่ครับ พ่อครับ ทุกคน นั่นน้องอี้เฟิง
เขาเป็นรุ่นน้องมหาลัยและเพื่อนบ้านผมเอง”
นอกจากรุ่นน้องที่มหาวิทยาลัยและเพื่อนบ้านก็คงไม่สามารถแทนคำอื่นได้อีก
สำหรับความัสมพันธ์ของอี้เฟิงและหยางหยาง
อี้เฟิงที่แม้เมื่อได้ยินจะรู้สึกบางอย่างสะกิดใจเล็กน้อยแต่ก็เข้าใจมันและยิ้มรับกับคำแนะนำตัวเองต่อทุกคนที่มองหน้าเขาอยู่ตอนนี้
อี้เฟิงโค้งให้ทุกคนทักทาย และไปเดินเข้าไปใกล้เตียงคนไข้
รุ่นพี่ตัวแสบของเขามองอยู่ก่อนแล้ว
“ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะครับ แต่ว่า..”
“จะถามว่ารู้ได้ไงใช่มั้ย ก็ได้ยินมาอย่างบังเอิญน่ะ..”
อี้เฟิงไม่ตอบต่อ
ก็ปล่อยให้รุ่นพี่คิดต่อ ดวงตากลมโตไม่สบตาหยางหยาง
สงสัยคงต้องรอให้อยู่กันแค่สองคนจึงจะเปิดใจคุยกันได้
เพื่อนของหยางหยางเหมือนกับจะรู้ทันจึงขอตัวกลับก่อนบอกว่าจะไปดูแลเรื่องในชมรมเทควันโด้ต่อ
เพราะประธานชมรมนอนเจ็บตรงนี้คงจะเสียขวัญกัน
“งั้นแม่กับพ่อก็ไปทำงานต่อก่อนแล้วกันนะ หนู...อี้เฟิงใช่มั้ย
ฝากดูลูกชายของป้าต่อด้วย”
ดุจัง...อี้เฟิงคิด
เมื่อหันไปสบตาทางคุณพ่อที่ดูดุแต่น้อยกว่าคุณแม่ที่ดูเป็นคนเจ้าระเบียบ เขารับคำ
และสบตาผู้ใหญ่ท่านอย่างนอบน้อม
“ อย่าทำให้ตัวเองต้องบาดเจ็บอีกเข้าใจมั้ย เสี่ยวหยาง”
หยางหยางรับคำคุณแม่อย่างสุภาพและบอกลาครอบครัว
คุณพ่อยิ้มตอบให้อีกครั้งและหันไปยิ้มให้กับอี้เฟิงด้วย
เหมือนคุณพ่อท่านอยากสื่ออะไรกับอี้เฟิง แต่เขาไม่เข้าใจ
แต่อาจจะมีซักวันที่เข้าใจก็ได้ เพราะตอนนี้ไปถามเขา ก็จะดูเสียมารยาท
“อี้เฟิงยังไม่บอกเกอ ว่าทำไมถึงรู้ได้”
“หา? “
อี้เฟิงโค้งส่งครอบครัวของหยางหยางอีกรอบ
และยังรู้สึกว่าพวกเขาคงจะมีคำถามอะไรกับอี้เฟิงแน่ ๆ แต่ไม่ใช่เวลาจะถาม
จนพอได้ยินเสียงรุ่นพี่จึงตื่นจากความคิดนั้นและหันไปอุทานถามใหม่
“ก็เอ่อ...”
“ครับ ? “
ไม่กล้าบอกว่าอุตส่าห์ถ่อจากตึกคณะไปจนถึงโรงยิมเทควันโด้ที่ค่อนข้างไกลกัน
แต่สุดท้ายรุ่นพี่ก็พอเดาออก
“แล้วก็ได้ยินเรื่องจากคนในชมรมเกอหรือ?”
“อือ ก็เลยมา”
“ขอบคุณครับ”
อี้เฟิงเดินเข้าไปหาหยางหยาง
ก้าวเท้าไปสองสามก้าวให้ใกล้กันนิดหน่อย หยางหยางตบที่เตียงคนไข้
ตรงพื้นที่ว่างข้างตัวดังปุ ๆ เป็นการบอกว่าให้รุ่นน้องนั่งลงก่อนและคุยกัน
“จริง ๆ มาขอโทษด้วย”
“หืม? เรื่องอะไร?”
อี้เฟิงถอนหายใจเสียงดังออกมาจนหยางหยางเลิกคิ้วนึกแปลกใจ
และเมื่อใบหน้าน่ารักเงยขึ้นมาสบตาหยางหยาง ก็เหมือนจะรู้สึกผิดแบบที่รุ่นน้องบอกปากกล่าวมาจริง
ๆ
“ว่าไงครับ ? ผ่อนคลายหน่อยอี้เฟิง
แล้วบอกเกอหน่อยว่าจะขอโทษเกอเรื่องอะไรกัน”
ความอ่อนโยนส่งผ่านเสียงทุ้มนุ่ม
และมืออบอุ่นของหยางหยาง
คนป่วยขยับตัวเองเล็กน้อยและพอที่จะส่งมือไปแตะที่หลังมือของอีกฝ่ายเบาๆ เขาไม่กล้าจะแม้จะจับมืออี้เฟิงด้วยซ้ำ หากอีกฝ่ายไม่อนุญาต
“ผมกำลังคิดว่า ถ้าผมส่งอีโมหัวใจเป็นกำลังใจตามที่หยางเกอขอคงจะดี”
คนป่วยบนเตียงหลุดยิ้มออกมา
อี้เฟิงยุ่คิ้วค้อนใส่ทั้งใบหน้ากังวลเช่นนั้น บอกต่อว่าไม่ได้อยากหลงตัวเองนะ
แต่ถ้าเขาส่งกำลังใจให้ไป อย่างน้อยจะไม่รู้สึกผิดแบบนี้เลย
“เลยมาหาเกอ เพื่อจะเยี่ยมและก็ขอโทษด้วย”
“อือ หายไว ๆ นะ เจ็บมากมั้ย ตรงไหนมั่ง”
อี้เฟิงอวยพรก่อนยิงคำถามใส่หลังจากนั้น
หยางหยางยิ้มร่าออกมาอย่างหัวใจพองโต เขาแทบจะเป็นบ้าอยู่แล้ว
ความสุขนี้ที่เขาไม่คิดว่าจะได้รับ เขามาไกล และมั่นใจว่าเขาสามารถและอาจจะคว้าคน
ๆ นี้ที่เขาหลงรักจนถอนตัวไม่ขึ้นมากอดได้ในอนาคต หากเขาพยายามให้มากพอ
“บาดเจ็บตรงเข่านิดหน่อย หน้าก็มีรอยน่ะครับ ส่วนอื่น
ๆก็ช้ำเป็นปกติของคนเล่นกีฬาประเภทนี้...”
อี้เฟิงเองก็เพิงสังเกตใบหน้าของรุ่นพี่
ใบหน้านี้หล่อเหลาจนรูปวาดสวย ๆ ยังแพ้พ่าย มือเรียวยกมือแตะอย่างเผลอตัว
ปลายนิ้วสัมผัสผ่านผ้าก็อตปิดแผล ดูจากอาการแล้วน่าจะเจ็บไม่น้อย
นี่ยังไม่รวมกับที่จุดอื่น อี้เฟิงถอนหายใจอีกครั้ง รู้สึกเจ็บแทนขึ้นมา
“ต้องเจ็บมากแน่ ๆ เลยใช่มั้ย หยางเกอ”
“ก็ครับ บอกไม่เจ็บมันดูโกหก แต่ที่เจ็บกว่านั้น ในตอนนี้คือหัวใจของเกอ
ถ้าอี้เฟิงยังทำหน้าตากังวลแบบนี้อยู่”
“เอ๋?”
อี้เฟิงเบิกตากว้าง
และรู้สึกตัว เขาคงแสดงอะไรแบบนั้นออกไป แถมตอนนี้นั่งใกล้คุณรุ่นพี่เสียด้วย
ใกล้เขา ข้างตัวเขา คงจะมองตาและดูออกว่า อี้เฟิงกังวลในระดับไหน
“งั้นเกอขอถามอี้เฟิงซักหน่อย เราเป็นห่วงเกอใช่มั้ย เลยมาหา”
“ถ้าปฏิเสธล่ะ ? “
“ก็ไม่เป็นไร เกอก็จะถือว่าอี้เฟิงมามารยาท”
“ผมไม่มีมารยาทมากขนาดนั้น และไม่รู้ตัวด้วย
รู้ตัวอีกทีก็มาอยู่หน้าโรงพยาบาลแล้ว”
รุ่นพี่ยกมือเขกหัวรุ่นน้องที่ตอบเป็นแมวกวน
อี้เฟิงส่งยิ้มกวนให้หยางหยาง หลังจากที่รุ่นน้องที่รักยิ้มได้บ้างก็ดี
เพราะตั้งแต่เข้ามาก็ไม่เห็นอีกฝ่ายยิ้มน่ารักให้เขาซักครั้งเลย
ตอนนี้ได้เห็นในระยะใกล้ อาการของเขาคงดีวันดีคืน
“ขอบคุณที่มาเยี่ยมนะ”
“ก็บอกไม่ได้มาตามมารยาท ไม่รู้ตัวด้วย ไม่ต้องขอบคุณหรอก”
“แล้วอะไรพาอี้เฟิงมาหาพี่ถึงนี่ล่ะ ถ้าหากเราบอกว่ามาโดยไม่รู้ตัว”
“เกอยังจะถาม ผมว่าเกอคิดเอาสองนาทีก็รู้”
หยางหยางขมวดคิ้ว
เขาเองไม่อยากคิดเข้าข้างตัวเองว่าหัวใจที่เป็นห่วงเขาจะพาอี้เฟิงมาหาถึงนี่อย่างทันอกทันใจ
แต่เพราะน้องพูดชวนคิดมากแบบนี้
“เอ๋?”
อี้เฟิงก้มหน้าลงไปไม่ทันไรก็เอาโทรศัพท์มากดเล่นเสียแล้ว
อยากเขกหัวอีกซักที ช่วยสนใจคนไข้ที่อยู่บนเตียงมากกว่านี้ซัก 15 นาทีได้มั้ย
แต่ไม่นานนัก คนไข้รูปหล่อก็ตกใจเล็กน้อยกับเสียงข้อความในโทรศัพท์ ที่จู่ๆ
ก็มีเข้ามา
พบว่ามันเป็นของหลี่อี้เฟิงที่นั่งอยู่ตรงหน้า
พอเปิดดูข้อความหยางหยางก็แทบลุกขึ้นวิ่งรอบโรงพยาบาลได้
เขารู้สึกแบบนั้น เหมือนเขาจะหายดีแล้วอย่างไรอย่างนั้น
และอยากโผเข้าไปทั้งกอดทั้งหอมทั้งอยากจูบเสียซักทีกับร่างนุ่มนิ่มที่นั่งอยู่ตรงหน้าด้วย
คนอะไรแอทแทคคนไข้แบบนี้
เดี๋ยวรุ่นพี่ก็เป็นโรคหัวใจไปอีกโรคหรอก
ข้อความนั้นคืออะไรน่ะหรือ
?
ไม่มีอักษรอะไรในข้อความนั่นเลย
แต่เป็นอีโมติค่อนรูปหัวใจ
คงจะตอบได้ทั้งคำถามทั้งเรื่องขอกำลังใจ
และ อะไรพาน้องอี้เฟิงมาหาหยางหยางถึงที่นี่
คนอะไรน่ารักที่สุดในโลก
“หยุดเลย ไม่ต้องถามผมต่อแล้ว ”
อี้เฟิงเงยหน้ามาเจอสายตาหวาน
แต่มาจากหมาป่าของหยางหยาง เลยถดหนีจากจุดที่นั่งเดิมบนเตียงคนไข้ไปหนึ่งสเตป
แต่อีกฝ่ายขยับเข้ามา เขาอี้เฟิงมา ระยะใกล้นั่นยังคงเดิม
โอยไม่สิ
น้อยกว่าเดิม
“เดี๋ยวสิหยางเกอ...”
อีกฝ่ายทำให้อี้เฟิงกลัว
หยางหยางที่คิดไว้ก่อนหน้า ก็อยากทำอย่างที่อยากทำ
รุ่นน้องคนน่ารักเอียงตัวไปด้านหลังอย่างตกเป็นเบื้องล่างนี่ขนาดหมาป่าป่วยยังข่มยังแกล้งแมวน้อยได้เลย
จนสุดตัวอี้เฟิงเอียงไปกว่านี้ไม่ได้ รุ่นพี่ที่มีข้อจำกัดเรื่องอาการเจ็บแต่มือและแขนยังใช้ได้
จึงยกมืออ้อมหลังและโอบให้อี้เฟิงเข้ามาใกล้กว่านี้เสียหน่อย
“หยางเกอ....”
อี้เฟิงที่สบตาอีกฝ่ายอยู่
รุ่นพี่หยางหยางมีอารมณ์หลากหลายอย่างอธิบายไม่ได้
สายตาของอีกฝ่ายเหมือนทำให้อี้เฟิงถูกแช่แข็งไว้ คนน่ารักไม่ทำอะไรเลยนอกจากมองหยางหยางจะทำอะไรต่อไป
ใบหน้าหล่อเหลาเข้าใกล้มาเรื่อย ๆ ดวงตากลมโตกระพริบตาปริบ ๆ รอดูว่าเขาจะทำอะไร
และเหมือนที่คิด
อี้เฟิงกำลังจะโดนจูบ
แต่สุดท้ายก็เป็นได้แค่
สถานการณ์ “กำลัง” จะเกิด
และหยุดลงแค่ระยะที่เพียงแค่ขยับตัวอีกเล้กน้อยก็จะเกิดเลิฟซีนเกิดขึ้น
หยางหยางหยุดตัวเองเพียงแค่นั้น เขาระงับความดีใจ และอยากเอาเปรียบร่างตรงหน้าไว้
เพราะเขารู้สึกหลงรักจนอยากฝากอะไรไว้เพื่อแสดงความรักแก่อีกฝ่าเเต่ถ้า
หากเขาจูบคงจะข้ามสเตปที่เราได้สร้างลำดับกันเอาไว้
แค่ได้จ้องมองกันใกล้
ๆ แค่นี้ก็พอ แค่นี้ไปก่อนแล้วกัน
“เอ่อ..หยางเกอ”
“หืม?”
“เมื่อกี้เกออยากจะทำอะไร..เอ่อ..ผมรู้นะ แต่ว่า”
“มันข้ามสเตปเกินไป ขอโทษนะ เกอไม่ควรเอาเปรียบอี้เฟิง”
“อือ ไว้ค่อยเป็นค่อยไปนะเกอ ผมเองก็ยังรับไม่ไหว แบบว่าถ้าเร็วไป
ผมกลัวว่าเราก็จะปล่อยมือกันเร็วตามไปด้วย”
หยางหยางเลิกคิ้ว
เหมือนอี้เฟิงจะเพิ่มประเด็นขึ้นมาอีก เขาตั้งใจฟัง แต่ทั้งในระยะใกล้นี้
เพียงแค่หนังสือบาง ๆ ซักเล่มจะกั้นเขาสองคนได้ หยางหยางยังมองใบหน้าน่ารักที่ก้มหงุด
ๆ และตั้งใจพูดอะไรบางอย่างออกมา
“เร็วตกลงปลงใจกันเร็ว มันก็อาจจะทำให้เราปล่อยมือกันเร็ว
ผมไม่รู้ด้วยซ้ำว่าทำไมถึงคิดมากขนาดนี้ ผมสับสนเหมือนกันนะ ความรักมันยาก
จะรักใครมันยาก อยากจะให้มันเป็นไปตามสเตป อยากให้เวลาระหว่างเรามันช้ากว่าโลกของคนอื่นเสียหน่อย
ผมว่าเราอาจจะมีเวลาอยู่ด้วยกันมากกว่าคู่อื่นอีกนะ อันนี้พูดถึงข้อดี
ผมอาจจะดูหัวเก่า แต่รักเรามันจะเป็นไปได้ไม่ได้ มันก็ไม่รู้เราเป็นผู้ชายทั้งคู่
และถ้าหากเกอรู้สึกว่าผมน่าเบื่อก็ปล่อยมือผมไปเลย”
อี้เฟิงพูดจบก็หายใจทิ้งอีกครั้ง
เหมือนได้พูดในสิ่งที่อยากไปหมด เขาขอโทษตามหลังอีกครั้งที่เอาเรื่องหนัก ๆ
มาพูดในเวลาที่รุ่นพี่ป่วยแบบนี้ แต่ความรู้สึกมันบอกว่า ต้องตอนนี้
ต้องถามต้องบอกตอนนี้
“ขอสารภาพนะ อี้เฟิง เกอเองก็คิดมาก และคิดมากพอกับน้องตอนนี้
และเกอขอแสดงความรู้สึกของเกอออกไปตรง ๆ โดยเอาเปรียบอี้เฟิงซักครั้งนะ”
คนฟังไม่เข้าใจ
จะเอาเปรียบ ? จะทำอะไร
มีเวลาให้อี้เฟิงคิดอยู่ไม่นาน
สุดท้ายหยางหยางก็ได้ทำได้อย่างที่คิดก่อนหน้า
อย่างไรแล้วก็ถือว่าเป็นการตอบคำถามของอี้เฟิงที่มาพร้อมบทร่ายยาวเมื่อครู่นี้
หยางหยางเลื่อนมือที่โอบกอดอี้เฟิงไว้เมื่อครู่มา
คว้ามือของอี้เฟิงข้างหนึ่ง ประทับจูบหนักหน่วงตามระดับความรู้สึกของตัวเองเขาเอง
อี้เฟิงก็ใช่จะเป็นคนรู้น้อยประสบการณ์น้อย
แค่ระดับและความรุ่มร้อนจากจูบก็รู้แล้วว่าอารมณ์ของพี่เขานี่...นี่ถ้าเขาสบายดี
อี้เฟิงอาจจะต้องรีบหนีออกมาก่อน เพราะกลัวจะโดนทำอะไรมากกว่าจูบ
“หยางเกอ..”
“เราเรียกเกอด้วยน้ำเสียงแบบนี้อีกแล้วนะ”
อี้เฟิงมองรุ่นพี่จนเขินไปใหญ่หน้าแดงลามไปถึงหู
รุ่นพี่ก็ใจร้ายเหลือเกินส่งสายตาล้อเขาทั้งที่ตัวเองยังนอนเจ็บอยู่แท้ ๆ
“เกอเข้าใจอี้เฟิงคิด และเราคงกังวลในเรื่องเดียวกัน
แต่เกอคงบอกเรื่องของอนาคตไม่ได้ว่าระหว่างจะมีเหตุการณ์หรืออะไรมาแทรกกลางหรือเปล่า
แต่โปรดแน่ใจว่า หยางหยางคนนี้มีหัวใจให้หลี่อี้เฟิงคนเดียว ไม่อยากใช้คำว่าตลอดไป
แต่ทุกวัน ทุกวันหัวใจของหยางหยางจะเต้นแรงและพองโตเพราะหลี่อี้เฟิงเท่านั้น”
หยางหยางยังคงจับมืออี้เฟิงไว้ในขณะพูด
หน้าของอี้เฟิงคงแดงไปทั่วและแสดงอาการออกอากาศแทนคำพูดไปแล้ว
“และจูบเมื่อครู่ อืม.. ยังเป็นที่ปากน่ารักของอี้เฟิงไม่ได้
ไว้เป็นครั้งหน้า จูบเมื่อครู่จะเป็นที่ริมฝีปากของอี้เฟิงแน่นอน”
“ใครจะให้เกอจูบกัน!”
“ก็เรายังเขินค้างกับจูบที่มือแบบนี้ เป็นช่องว่างให้เกอขโมยจูบเราได้เลยนะ”
“ไม่ให้ ไม่ได้ ไม่เอา เขินจะตายชัก “
เสียงทุ้มดังขึ้นด้วยเพราะหัวเราะตลก
แมวน้อยกำลังเขินจนทำอะไรไม่ถูก แต่ไม่สลัดมือให้เขาปล่อยมือจากการกอบกุมนี้ไว้
ใบหน้าน่ารักก้มงุดจนแทบมุดหมอนมุดเตียงหนีได้คงทำ
มืออีกข้างของอี้เฟิงที่ว่างยกปิดหน้า
หยางหยางก็ไม่ละความพยายามก็ใช้มืออีกข้างแกะมือแมวที่เขินอายให้เปิดเผยใบหน้าน่ารักนั่นเสียหน่อย
แกล้งหยอกเย้ากันจนมีเสียงพี่พยาบาลคนสวยขอเข้ามาเช็คอาการคนไข้จี้แกล้ง
อี้เฟิงจึงรีบผลุงตัวโหยงจากที่เตียงและย้ายที่มาเป็นโซฟาใกล้ ๆ เตียงคนไข้แทน
เขาทั้งคู่ยังมองตากัน
พี่พยาบาลคนสวยก็เช็คอาการตามหน้าที่ไป
หยางหยางเหลือบมองคนที่นั่งอยู่โซฟาข้างเตียง
ก่อนยิ้มขำให้แต่นั่นดูเท่สำหรับอี้เฟิงมาก
แมวน้อยเขินเก่งก็เขินอีกครั้งและแถมยิ้มสู้กลับมาด้วย
จนคนไข้บนเตียงต้องยกมือบังรอยยิ้ม ก่อนที่พี่พยาบาลจะสงสัยอะไรเสียก่อน
จนคุณพี่พยาบาลออกไป
อี้เฟิงก็ไม่กลับไปนั่งที่เดิมข้างเตียงคนไข้แล้ว โดยให้เหตุผลว่า หมาป่าน่ากลัว
หมาป่าป่วยยิ่งน่ากลัว ขอนั่งเฝ้าตรงนี้แล้วกัน
หมาป่าบนเตียงรับคำ
และตอบกลับมาว่า ได้สิ แต่ขอให้หมาป่ามองเห็นหน้าตาน่ารักของแมวน้อยตรงนั้น
อย่าเขินจนมุดโซฟาไปแล้วกัน เพราะเขาจะขอมองจนกว่าจะหลับไป
“จะนั่งหน้าทนแบบนี้จนหยางเกอหลับเลย”
“จะนั่งหน้าทนแบบนี้จนหยางเกอหลับเลย”
“ไม่ต้องขนาดนั้น แต่อย่าปิดหน้าหนีเกอ ขอมองหน้าอี้เฟิงให้ชื่นใจ หายไวขึ้นแน่ๆ
“
อี้เฟิงเบะปากหมั่นไส้ก่อนจะเต๊ะท่ามานั่งกอดอกให้คนรุปหล่อมองจนหลับไป
"ตื่นมาไม่เจอ
เดี๋ยวจะงอเเง งั้นจะอยู่ให้มอง จนเช้าก็เจอด้วยดีมั้ย คุณหยางหยาง
รุ่นพี่เอาแต่ใจที่ทำให้หัวใจผมเต้นแรง"
*****************************************************************TBC6
ทอค
เรื่องนี้จะไม่ยาวกว่า 10 ตอนแน่ค่ะ ตั้งใจไว้แบบนั้น เพราะยาวกว่านั้น เกรงใจพลังจากหมด 555
อย่างน้อยคนเราก็อยากได้ความมั่นใจ แน่ใจ โดยเฉพาะเรื่องความรักเนอะ
ความรู้สึกมันพูดยาก บอกกันยาก อะไรก็ยากไปหมด ระหว่างทางที่จะรักกัน แต่ถ้าได้รักกันแล้ว และรุ้ตัวกันว่า
รักกัน อะไรมันก็ขวางไม่ได้หรอก จริงมั้ย
หยางเฟิงจงเจริญ แกะแมวจงชาบู
แม่แมว
โอ้ยยยยยย ปริ่มมากเลยค่ะ ทุกอย่างอัดแน่นอยู่ในตอนนี้ เข้าใจความรู้สึกของทั้งคู่มากขึ้นเลยค่ะ ละมุนมาก โอ้ยคือดีงามอ่ะะะะะหหดดเดเ่่าง้ดกเกหฟหกกหหด
ตอบลบน่ารักจัง งื้ออออออออ ละมุนละไม ค่อยเป็นค่อยไป ถึงยังไม่อยากยอมรับแล้วก้าวต่อก็จริง แต่ทุกอย่างมันชัดเจนหมดแล้ว...งือออออ ยอมเป็นของเกอเขาได้แล้ว แพ้ให้เขาตั้งขนาดนั้นแล้ว
ตอบลบหวานมากกกกกก น้ำตาลเรียกพี่เลยค่ะ เพลงแพ้ใจจบเปิด sugar ต่อเลยค่ะ เพื่อนๆ ก็ติวกันมาดีมากกก 555
ตอบลบอยากให้คุณเวย์แต่งแนวดราม่าอีกอ่ะค่ะ ที่ฟิคก่อนทะเลาะเพราะเรื่องหนังใหม่ของหยางหยางที่มีเลิฟซีนเยอะเกิน รู้สึกชอบมากค่ะ อาจเป็นเพราะว่าไม่ค่อยเห็นคุณเวย์แต่งแนวนี้ เลยรู้สึกชอบเป็นพิเศษค่ะ 555
หวานมากค่ะ
ตอบลบ