วันพุธที่ 17 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

[Fic] ที่สุดของดวงใจ : หยางเฟิง --- CHAPTER :9




TITLE :  ที่สุดของดวงใจ
CHAPTER :  9
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG - 15 










“ขอโทษ คุณนอนต่อเถอะ”


แม้จะพูดแบบนั้น แต่เขาก็กวนใจอี้เฟิงจนอีกฝ่ายนอนไม่หลับอยู่ดี เมื่ออยู่ใกล้ร่างนุ่มนิ่มนี่ เขาก็อดใจไว้ไม่ได้ ตั้งแต่วันนั้น หลี่อี้เฟิงกลายเป็นดวงใจของเขาโดยสมบูรณ์  ก็ทำเอาหยางหยางหวงอี้เฟิงยิ่งกว่าเดิม ชนิดที่แม้อาฟงกับอาเฉินจะมองอี้เฟิง จะยิ้มให้ ทักทายกันตามมารยาทเขาก็ยังออกอาการให้พวกนั้นเห็นจนโดนเจ้าพวกลูกน้องไม่รักดีแซวเอาจนได้



“จะนอนได้มั้ย ก็เล่นทั้งกอดทั้งหอมแบบนี้ หืม ?”

ก็เป็นอย่างนั้น อี้เฟิงพูดก็ถูกคนฉวยโอกาสลอบเอาความหอมที่แก้มเนียนใสที่เริ่มเปลี่ยนไปอีกแล้ว อีกทั้งมือหมาป่าที่กลายเป็นปลาหมึกรัดพันธนาการรอบเอวอี้เฟิงไว้ กอดตระกองเรือนร่างสวยงาม ซึมซับความหอมที่น่าหลงใหลนี้ให้นาน เป็นกำลังใจก่อนหยางหยางจะออกไปทำให้เรื่องทุกอย่างมันเรียบร้อย และสงบลงเสียที


“ขอโทษนะ แต่มันอดใจไม่ไหวน่ะ”  หยางหยางก็สารภาพตามจริง เขาก็ขอฉวยโอกาสครั้งเป็นจูบดูดดื่มหวานจนเลี่ยนและเนิ่นนานจนอี้เฟิงจะต้องประท้วงขออากาศหายใจเสียบ้าง คนฉวยโอกาสก็จำต้องถอนจูบออกมา แววตายังไม่เปลี่ยนกับอี้เฟิงเขาก็เป็นหมาป่าผู้หิวโหยอยู่ตลอดเวลาจริง ๆ


“ผมจะไปแล้ว”




หยางหยางพูดไปพลางลุกขึ้นยืน อี้เฟิงมองเขาที่เหมือนจะแต่งตัวเสร็จแล้ว




“จำได้ว่าคุณจะออกไปสะสางเรื่องราวที่เกิดขึ้นให้เรียบร้อยใช่มั้ย แต่ทำไมแต่งซะหล่อขนาดนี้”
“ไม่ดีหรือ ? ผมหล่อขนาดนี้ กลับมาก็จะหล่อกลับมาแบบนี้ล่ะ ให้คุณใจเต้นกับผมบ้าง ดีมั้ย?”




จะออกไปหาอันตรายแท้ ๆ ก็ยังจะพูดเล่นอีก... อี้เฟิงคิดก็ถอนหายใจ คน ๆ นี้ก็คงไม่อยากให้เขากังวล หยางหยางในชุดตอนนี้เป็นสูทเนื้อดีดำสนิททั้งเซต รวมทั้งเนคไทด์ก็ด้วยเหมือนกัน และมีเข็มกลัดไทด์รูปหมาป่าติดไว้ตรงที่เดิม คุณครูคนเก่งเห็นว่ายังมีจุดที่ไม่เรียบร้อย ก็ลุกตามมาหาหยางหยางที่เตรียมตัว เอาของใช้จำเป็นติดตัวไป ซึ่งที่อี้เฟิงเห็นอีกคนคว้าปืนติดมือกระบอกหนึ่งใส่ไว้ในซองปืนด้านหลังที่ติดไว้ตรงเข็มขัด... เห็นเจ้านี่ที่ไรก็ไม่ค่อยชอบใจ แต่ก็เลี่ยงไม่ได้ วงการนี้ของพวกนี้เป็นของคู่กัน มีปืนอีกกระบอกที่เหลือ ชายหนุ่มวางไว้ที่เดิมบนโต๊ะทำงานของเขา



“ปืนกระบอกนั้นที่วางบนอยู่ ผมไม่อยากพูดแบบนี้เลย แต่ถ้าจำเป็นที่สุด ก็ใช้ซะ อี้เฟิง”



อีกฝ่ายเหมือนจำใจต้องทำ อี้เฟิงเข้าใจว่าหยางหยางคงไม่อยากให้เขาแตะต้องของอันตรายที่เปื้อนเลือดแบบนั้น แต่ก็ไว้เพื่อป้องกันตัวในยามวิกฤตหากมีเหตุอะไรเกิดขึ้น เขาก็ต้องปกป้องใครไว้ได้บ้าง ต้องเข้มแข็งแล้วยามที่หยางหยางไม่อยู่


“ครับ..”
“ให้น้าหนิงสอนคุณนะ เธอใช้มันเก่งเลยล่ะ”


เมื่อรับคำเสร็จอี้เฟิงถอนหายใจ แต่ยังส่งยิ้มให้ ผู้นำตระกูลหยางมองดวงใจของตนด้วยสาตามากมายหลากหลาย



“ไทด์คุณน่ะ”


ตัดเข้าเรื่องอื่น เขาไม่อยากให้หยางหยางเป็นกังวลจึงไปดูแลเรื่องการแต่งตัวของชายหนุ่ม


“ขอบคุณครับ”


หยางหยางเอ่ยขอบคุณคนน่ารักที่ยังอุตส่าห์มาช่วยเขาแต่งตัว ที่จริงอี้เฟิงก็หลับไปพักหนึ่งแล้วหลังจากที่ไปอยู่กับยายหนูเสียพักใหญ่จนยายหนูหลับไปเขาจึงต้องขอความอบอุ่นและยิ้มสวย ๆ จากคุณครูบ้าง จึงลากแมวน้อยมานอนห้องเดียวกันกับเขาจนได้


“เอ้า หล่อแล้ว”
“ใจเต้นกับผมบ้างมั้ย?”


หยางหยางถามไปก็ไม่คิดได้คำตอบ เพราะคนตรงหน้าเขินเก่งเหลือเกิน อี้เฟิงอมยิ้มหน้าแดงทุกครั้งที่ถูกหยางหยางจู่โจมแบบหวาน ๆ อย่างนี้ แต่ครั้งนี้ คุณครูคนเก่งก็พยายามฝืนความเขินนั้นตอบออกมา


“ตลอดเวลาเลยที่อยู่กับคุณ”


เป็นคำตอบที่ทำให้ชื่นใจมากจริง  ๆ  หยางหยางก็ยังคงเป็นคนฉวยโอกาสไปเรื่อย หอมแก้มอี้เฟิงจนอีกฝ่ายบอกว่าจะช้ำอยู่แล้ว แล้วก็เดินหนีกลับไปที่เตียง  มีหรือผู้นำตระกูลหยางจะไม่ตามไป แต่เขาก็แค่ทรุดนั่งคุกเข่าข้างเตียงตรงหน้าอี้เฟิงที่นั่งอยู่ตรงนั้น  เสียงทุ้มเอ่ยบอก


“ขอข้าวเย็นอร่อย ๆ รอผมกลับมาด้วยนะ”
“เห็นแก่กินเกินไปแล้ว”
“ไม่ได้หรือ”


อี้เฟิงยกมือหยิกแก้มคนขี้อ้อนซักที สองมือหยิกด้วยความหมั่นไส้และหมั่นเขี้ยว หล่อได้หล่อดีนักนะ และบรรจงประทับจูบที่หน้าผากของชายหนุ่ม เมื่อผละออกมา ใบหน้าหวานทอยิ้มที่เหมือนฝันให้อีกฝ่าย



“รีบ ๆ กลับมานะ”




--------- ที่สุดของดวงใจ ----------


“เริ่มได้เลย”
“ครับ นาย”


หยางหยางสั่งการลูกน้องไปแล้ว ตามลำดับแผนที่วางไว้ เพราะเป็นการบุกไปหาโดยที่อีกฝ่ายไม่ได้ต้อนรับ หรือต้อนรับกันแบบไม่เต็มใจ พวกเขาที่ตั้งใจไปเยี่ยมพวกตระกูลเฉินนั้น ในตอนแรกหยางหยางอยากจะไปเลยซะวันนั้น ตั้งแต่เกิดเหตุ แต่เมื่อมาคิดถึงที่อี้เฟิงบอก เขาคิดว่าเป็นไปได้มากทีเดียวที่เขาจะขาดสติจนทำอะไรพลาดไป หากไปตั้งแต่วันนั้นโดยขาดการเตรียมการที่ดี ฝั่งนั้นเองที่ไม่รู้ว่าเขาจะไปเมื่อใด  ก็คงคาดเดาเอาตามนิสัยของหยางหยางในอดีตที่เป็นคนใจร้อน หุนหันพลันแล่น จะต้องรีบเข้าไปตะลุมบอน ฆ่าดะ ปะทะกันจน นองเลือดมากมายและทำให้ฝั่งเขาเสียขวัญ ในอดีตหยางหยางทำแบบนั้น เข้าไปตะลุมบอน แม้ชนะ ฝั่งเขาก็เจ็บหนักเกินเยียวยา แทบจะคงความเป็นตระกูลหยางที่ยิ่งใหญ่และมากอำนาจไม่ได้เลย เฉินที่ถูกกำจัดไปแล้ว พวกนั้นก็ดับสิ้นกันทุกคน แต่เขาก็พลาดไม่ได้ตรวจสอบข้อมูล ไม่สืบทราบให้ดี มั่นใจในตัวเอง ทิฐิ และโลภมากคิดว่าเขานี่ล่ะจะทำได้ทุกอย่างดังใจคิด มีกำลังพอที่จะทำอะไรอย่างที่วาดเอาไว้ ทุกอย่างมันจะเรียบร้อย ด้วยความเก่งกาจของตัวเองโดยไม่สนใจอะไร สรุปแล้วอดีตของเขาก็จะกลับมาย้ำในความทรงจำ มันผิดพลาดไปหมด จนเขาเจ็บที่ใจเมื่อนึกถึงทุกครั้ง ตอนนี้หยางหยางเอามันมาใช้ให้เป็นประโยชน์บ้าง



เขาเองก็รู้นิสัยฝั่งเฉินเป็นอย่างดี ก็ปะทะกันมานาน รู้ว่าพวกนั้นมีลักษณะการโจมตี หรือรูปแบบการต่อสู้ทำนองไหน ก็พอเดาได้ พวกนั้นมันกองโจรขนานแท้ หยางหยางเอ่ยเปรียบเปรยในใจ เขาไม่ใช่พวกที่ทำอะไรน่ารำคาญใจแบบนั้น จะสู้กันก็ปะทะให้อีกฝ่ายรู้ ไม่ลอบโจมตีไม่ทำร้ายคนบริสุทธิ์ หากไม่จำเป็นหยางหยางก็จะเลี่ยงการปะทะ ถ้าเจรจาได้ เพราะนั่นจะทำให้เกิดการสูญเสีย ผิดกับตระกูลเฉินที่ไม่ว่าจะเรื่องอะไรก็จะเข้าปะทะกำลังท่าเดียว เพื่อหาข้อยุติ ทางการคงไม่ชอบใจนักหรอกที่จะมีมาเฟียมาตีกันให้เห็นทุกวัน ทุกที่ พวกเขาก็กลัวว่าพวกมาเฟียจะไปเทียบอำนาจ ทำตัวเหนือกฎหมายตลอดเวลา ทางการขี้ระแวง หยางหยางเองก็เข้าใจเหตุผลตรงจุดนี้ดี ที่เลี่ยงการปะทะก็เพราะพวกทางการทำตัวน่ารำคาญแบบนี้ ไม่เคยเชื่อใจมาเฟียก็เข้าใจได้ แต่บางทีจับผิดจนทำงานยาก เขาเองก็ต้องกินต้องใช้ต้องเลี้ยงคนในปกครอง เขาเจรจากับทางการไปเยอะ เสียค่านั่นนี่ไปเท่าไหร ทางการก็เหมือนเอาไปเททิ้ง ไม่ได้ไว้ใจ เช่นนั้นก็จำต้องทำอะไรอย่างระมัดระวังที่สุด เพื่อไม่ให้ทางการที่ทำเหมือนเป็นพันธมิตรกลับมาฆ่าเขา


เหตุการณ์ตอนนั้นก็เป็นเช่นนี้ แต่ตอนนี้เห็นทีว่า ทางการรู้ว่าพวกเขาจะฆ่าฟันกันอีกครั้ง ก็คงทำให้พวกเขาไม่ศักดิ์สิทธิ์ในสายตาประชาชนที่พวกเขาดูแล พวกคนแก่ของทางการที่มีความอ่อนแอทางจิตใจทั้งหลาย

“นายครับ คนของเราเริ่มดำเนินการตามแผนแล้ว”
“ดี คอยติดตามสถานการณ์ไว้”



หยางหยางสั่งการต่อไป วันนี้เขาบุกมาแบบเงียบ ๆ ก็ลองปรับเปลี่ยนกลยุทธบ้าง อาฟง อาเฉินตกใจที่วันนี้เขาลงสนามสู้เอง แถมยังแต่งสูทมาเต็มรูปแบบ พวกลูกน้องคนสนิทสองคนเอ่ยถาม เขาก็บอกไปตามจริง


“แค่อยากใส่เข็มกลัดไทด์ “

เขาก็บอกจุดประสงค์แค่นั้น ที่จริงหลังจากนั้น หลังจากที่ส่งอี้เฟิงเข้านอนไปอีกหน เขาแวะไปที่ห้องยายหนู หอมแก้มลูกสาวและลูบหัวอย่างรักใคร่ และขโมยเอากิ๊บติดผมที่เด็กน้อยเก็บไว้อย่างดีเป็นอันที่เขาซื้อให้ เสี่ยวอิ๋งใช้มันทุกวัน เขาลอบเอามาติดใกล้ ๆ เข็มกลัดไทด์ด้วย ขนาดของกิ๊บกับเข็มกลัดไทด์ไม่ต่างกันมาก กลายเป็นว่า หยางหยางมีเข็มกลัดไทด์สองอันติดบนไทด์สีดำเส้นสวย

“ที่จริงแล้วก็สูทดำแบบนี้ก็มีเหตุผลอื่นนะ อาฟง อาเฉิน”


ลูกน้องทั้งคู่เลิกคิ้ว ทั้งคู่ประกอบนายซ้ายขวา เป็นบอดี้การ์ดและลูกน้องที่จงรักภักดี รอเจ้านายพูดอย่างใจเย็น




“ก็เดี๋ยวจะได้ส่งพวกมันไปลงนรก ให้เกียรติเพื่อนเก่ากันหน่อย เลยแต่งชุดสีดำมาส่ง”




เจ้านายของพวกเขาตอบเสียงเรียบ พลางขยับกระดุมที่ติดอยู่ที่แขนเสื้อสูทดำ จัดให้เข้าที่ ใบหน้าของหยางหยางตีเรียบไม่แสดงอารมณ์ใด ๆ แววตาวาวโรจน์พร้อมฆ่าใครก็ได้ที่ทำให้เขาหงุดหงิดหัวใจ



ทั้งสองลูกน้องคนสนิทคิดว่าตอนนี้พวกเขาไม่ควรจะตอบอะไรไปมากกว่าการพยักหน้าเข้าใจที่นายพูด ผู้นำตระกูลหยางอันเชิญวิญญาณปีศาจร้ายกลับเข้าร่างอีกครั้ง 






---------------------ที่สุดของดวงใจ --------------




คืนนี้อี้เฟิงนอนไม่หลับเลย มันอาจจะเป็นเพราะยังไม่ดึกดื่นขนาดต้องง่วงนอนขนาดนั้น แต่ก็มีเหตุผลที่ตรงใจที่สุดคือ เขาเป็นห่วงหยางหยางที่ออกไปเจอกับอันตรายมากกว่า


“ให้ตายเถอะ “ ยิ่งกังวลคุณครูก็ยิ่งสบถออกมา ตามนิสัยที่เผลอตัวเป็นครั้งคราว  เขาหัวเสียนอนไม่หลับจนต้องลุกขึ้นเดินไปเดินมา และสุดท้ายก็หิวจนต้องไปทำนมน้ำผึ้งมาดื่มเอง สูตรนี้ก็ได้มาจากคุณพ่อสุดหล่อคนนั้นล่ะ



“คุณน้าหนิง”



เธอก็ลงมาที่ครัว เหมือนกัน อี้เฟิงทรุดนั่งฝั่งตรงข้ามกับหญิงสาวสูงวัยกว่า และยิ้มให้ 



“เอาขนมแกล้มด้วยมั้ยคะคุณอี้เฟิง”
“ไม่เป็นไรครับ เดี๋ยวก็อ้วนกว่านี้อีกพอดี “  อี้เฟิงยังแถมอ้อนคุณน้าหนิงว่า ถ้าเป็นตอนเช้าจะกินขนมที่คุณน้าทำให้มาก ๆ ให้ทำบ่อย ๆ คุณน้าหนิงก็หัวเราะชอบใจใหญ่



“ไม่ต้องเป็นห่วง คุณชายหยางหรอกค่ะ ไม่นานเขาจะกลับมา”



รอยยิ้มของหญิงสาวสูงวัยส่งให้ เธอคงเข้าใจความเป็นห่วงของอี้เฟิงดี เพราะเธอเองก็เป็นห่วงเจ้านายที่เลี้ยงดูมาต่างลูกชาย อาจจะมากกว่าด้วยซ้ำ เธอน่าจะผูกพันกับหยางหยางมากกว่าเขาหลายเท่า เขาเองก็จะเรียนรู้เรื่องราวของหยางหยางผ่านเธอคนนี้ด้วย



“ครับ คุณน้า แต่ผมแค่คิดถึงกอดของเขา แค่นั้นเอง”



------ ที่สุดของดวงใจ -----------


“บอสครับ “




ตระกูลเฉินที่รอต้อนรับตระกูลหยางและผู้นำอยู่นาน ไม่คิดว่าพวกนั้นจะบุกมาช้าจนพวกเขาต้องรอกันเมื่อย แต่วันนี้ก็รับทราบแล้วว่า พวกนั้นเริ่มบุกเข้ามาหา มาในทิศทางที่ประมาณการณ์กันไว้ ตระกูลเฉินมีหน่วยวิเคราะห์สถานการณ์ที่ดี ประมวลผลกันแม่นยำ พวกเรามีทีมที่ดีที่ได้รับการสนับสนุนมาก




“ไอ้แก่ที่ให้เครื่องมือกับคนเรามา นี่ก็จัดการไปแล้วใช่มั้ย ?”
“ครับ"




บอสตระกูลเฉินพยักหน้ารับรายงานดังกล่าวก่อนหันไปสนใจ กับข้อมูลตรงหน้า รายงานก่อนหน้านี้ที่ได้รับ หยางหยางมาด้วยตัวเอง แต่ก็ยังไม่เคลื่อนไหว แน่นอนล่ะ ตัวใหญ่ชิ้นปลามันจะมาให้พวกเราตกกันได้ง่าย ๆ เสียเมื่อไหร่ แต่ตระกูลเฉินเองก็ไม่กลัวหรอก ถึงจะเคยเสียท่าจนโดนฆ่าแทบยกตระกูลอย่างน้อยก็มีเหลืออยู่ และผู้นำคนใหม่ที่ยังคงอยู่ เป็นทายาทของผู้นำตระกูลเฉินคนนี้ และพร้อมทั้งลูกน้องที่ภักดีต่อตระกูลเฉินไม่เสื่อมคลาย



“ใครจะปล่อยให้ตระกูลหยางมันลอยหน้าลอยตาได้นานกันล่ะ”

บอสตระกูลเฉินกำลังดูรายงานต่อไปเรื่อยที่ถูกส่งผ่านเครื่องมือสื่อสารมา ฝั่งของหยางหยางกำลังเคลื่อนไหว สั่งการผ่านเครื่องสื่อสารของอีกฝั่งด้วยเหมือนกัน แต่ถ้าตระกูลเฉินจะกลับมาทั้งที ไม่รอบคอบได้อย่างไร พวกเขาได้ติดตั้งเครื่องมือบางอย่างที่มีเทคโนโลยีขั้นสูง สืบหาพิกัดของหยางหยาง และดักฟังบางอย่างของแผนการพวกนั้นระหว่างสั่งการ ทำให้ตระกูลเฉินแน่ใจว่า จะไม่พลาดปลาชิ้นใหญ่ที่มาเยือนถึงที่


“เอาล่ะ”


บอสตระกูลเฉินคิด ในโลกของมาเฟีย ไม่มีการใช้วิธีการบ้า ๆ ไร้สาระแบบนั้น เลี่ยงการปะทะหรือ ? ประนีประนอม ? อะไรที่ทำให้วงการมาเฟียจะต้องทำตัวอ่อนแอพรรค์นั้น  ตระกูลเฉินที่ปกครองวงการนี้มาหลายชั่วอายุคน แต่ตระกูลหยางที่เติบโต สะสมกำลัง กลายเป็นผู้มีอำนาจมาทัดเทียมกับตระกูลเฉินกลับเปลี่ยนวงการมาเฟียให้กลายเป็นพวกที่อ่อนหัดแบบนั้น




ของที่เป็นของพวกเราก็เป็นของพวกเรา หยางหยาง ไอ้มาเฟียปลอมจอมคนนั้น ..อำนาจในโลกนี้มันไม่เหมาะกับแกหรอก



บอสตระกูลเฉินดำเนินการเพิ่ม โดยให้ลูกน้องดักฟังสถานการณ์จากฝ่ายนั้น พวกมันกำลังเดินเข้ามาที่กบดานของตระกูลเฉิน แต่แน่นอน ก็ไม่ได้ให้แขกมาเยี่ยมกันเปล่า ๆ มีของเลี้ยงต้อนรับกันให้หนำใจไปเลย


"บอกพวกของเราว่า ให้ต้อนรับแขกคนสำคัญ ๆ ดีหน่อยล่ะ"



-------------ที่สุดของดวงใจ ---------------





“นายครับ “



หยางหยางรับฟังสถานการณ์  ลูกน้องที่ส่งไปอยู่ในถิ่นศัตรู ดูรูปการแล้วไม่สู้ดีนัก แต่เขาตัดสินใจจะให้พวกนั้นบุกต่อไป


“ทำตามอย่างที่บอกเหมือนเดิม ฉันมาที่นี่แล้ว ก็จำต้องเสียอะไรไปบ้าง ก็เพื่อทำให้เรื่องราวมันจบ”



หรือไม่แน่เขาอาจจะเป็นคนเริ่มเรื่องราวใหม่ หลังจากคืนนี้ไป..



อาฟง กับอาเฉินสั่งการออกไป ตามคำสั่งเจ้านาย เดินตามทางที่ได้ระบุเส้นทางที่บอกทีมไปก่อนหน้า รุกหน้าเข้าไปหาเยี่ยมที่กบดานของเฉิน เขาแค่อยากรู้สถานการณ์ในที่ของพวกมันตอนนี้ แต่ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าจะได้อะไรมาขนาดไหนจะเสียคนไปมากเท่าไหร่ ก็ได้แต่ลองดู


แผนนี้ก็น่าจะได้ผล


ใช่ว่าจะมีแค่พวกนั้นที่ทำได้ ตระกูลหยางในตอนนี้แม้จะไม่ใช่มาเฟียแบบเมื่อก่อน แต่อำนาจบารมีไม่ได้เสื่อมถอยไปเลย ยังคงมีอิทธิพลอยู่สำหรับหลาย ๆ หน่วย หลาย ๆ องค์กร แต่กับทางการตอนนี้ไม่ญาติดีกันเท่าไรนัก แต่เขาก็ไม่คิดจะหาลู่ทางจากทางการอยู่แล้ว พวกนั้นเป็นพวกที่จะตลบหลังเล่นงานพวกมาเฟียที่น่ากลัวที่ควบคุมได้ยากสำหรับพวกเขาอยู่แล้ว



“ดำเนินการไปตามเดิม เส้นทางทิศนั้น ตรงไปตามทางนั่น เข้าที่กบดานศัตรู  โจมตีอย่างที่มันทำกับเรา เราเองก็มีของไม่แพ้พวกมัน”











“มากันแล้วหรือ ถึงที่แล้วสินะ แล้วหยางหยางล่ะ “




ลูกน้องได้รับคำสั่งของบอสตัวเองก็รีบไปรายงานสถานการณ์




“หยางหยางเคลื่อนไหวแล้วครับ มันมาตามทางที่เราดักซุ่มไว้ ทางนั้นเป็นทางเข้าทางเดียวของพวกเรา อย่างที่เราคิด มันจะเข้าทางนั้น ไม่พลิกแพลงอะไรครับ เพราะทางอื่นเราก็ปิดการเข้าออกไว้หมดแล้ว  หรือต่อให้มันเข้ามาอีกทาง พยายามเข้ามาก็จะเสียกำลังคนไป เข้ามาก็จะถูกเรากำจัดอยู่ดี”



ฟังรายงานดังนั้นบอสตระกูลเฉินก็หัวเราะสะใจ พิงหลังกับเก้าอี้นั่งซักครู่พลางคิด



“จะเอาอะไรไปต้อนรับเพื่อนหยางหยางดีล่ะ ปืนกระบอกนั้นดี หรือมีดเล่มสวยที่ฉันได้มา อยากให้มันตายไปไว ๆ จริง ๆ “

















“นายครับ”




พวกเฉินคงรู้ตำแหน่งของพวกเขาแล้ว แต่พวกมันก็คงย่ามใจว่า พวกเขากลับหลงมาติดกับ ใครมันจะบ้าไม่รู้กันว่าพวกมันติดอาวุธ ซุ่มกำลังโจมตีไว้  เล่นมาอยู่เสียใกล้ป่าใกล้เขา ถึงจะมีบ้านคนอยู่ก็เถอะ หรือพวกตระกูลเฉินอยากตายในที่ที่เป็นธรรมชาติเสียหน่อย



“เรียบร้อยแล้วนะ”
“ครับ เรียบร้อย”


เขายอมเสียกำลังคนไปส่วนหนึ่ง หลอกล่อให้คนของตระกูลเฉินส่งกำลังไปถล่มในจุดที่กำลังตรงนั้นไป เขาเองก็ให้ลูกน้องดำเนินการ คำสั่งการทั้งหมดที่ผ่านการสื่อของเครื่องมือทันสมัยที่พวกเขาได้มามันเป็นคำลวง 

หยางหยางรู้อยู่แล้วว่าถูกดักฟัง พวกเฉินมันหาได้ เขาเองก็มีอำนาจพอที่จะหาของมาสู้กับพวกมัน



ผู้นำตระกูลหยางได้รับข่าวที่น่ารำคาญใจว่าทางการบางคนได้ให้ความช่วยเหลือกับตระกูลเฉิน อาจจะเพราะคำขู่หรือผลประโยชน์อะไรก็ตาม คนพวกนั้นให้ความช่วยเหลือเครื่องมือทันสมัยราคาแพงนั้นได้มาจากทางการเป็นผู้สั่งซื้อและลักลอบส่งให้ตระกูลเฉิน ตระกูลเฉินมันก็พยายามเหลือเกินที่จะถล่มตระกูหยางเสียให้สิ้นซาก เหมือนที่เขาเคยทำกับพวกมัน จึงใช้ทุกวิธีการ และใช้วิธีที่เลวร้ายที่สุดคือไปหาทางการให้ช่วย พวกมันคิดอะไรอยู่ก็ไม่รู้ แต่มาเฟียนั้น อย่างไรแล้ว ถ้าไม่มีผลประโยชน์บางอย่าง เราก็ไม่คิดจะยุ่ง ทำเป็นเมินไม่เห็นสิ่งที่อีกฝ่ายทำกันไป หากไม่ขัดขากัน แต่นี่ดันรี่ตรงไปหา ตระกูลเฉินจะทำให้เรื่องยุ่งยาก สงครามนี้เป็นแค่กลุ่มมาเฟีย ถ้าหากทางการเข้ามายุ่ง พวกเขาจะทำงานลำบาก




หลังจากที่หยางหยางหาเครื่องมือที่ทันสมัย และอาวุธที่ร้ายแรงพอ ๆ กับตระกูลเฉินที่จะไว้เพื่อต่อสู้กับอีกฝ่ายได้ พวกเขาได้รับความช่วยเหลือจากพันธมิตรที่ทำการค้ากันนอกประเทศเป็นเพื่อนเก่าตั้งแต่สมัยคุณพ่อของหยางหยาง และพวกนี้ก็ค้าขายกับทางการ เรื่องของที่ทางการต้องใช้อาวุธรุนแรงหรือเครื่องมือในการรบ คนพวกนี้เป็นนักธุรกิจ จะใครก็ขายให้หมดแต่ก็มีกฎของตัวเองว่าจะไม่ขายความลับลูกค้า เพื่อรักษามาตรฐาน หยางหยงไว้ใจคนพวกนี้ได้





เขาถูกดักฟัง ก็ให้มันฟังไป หยางหยางติดต่อสื่อสารด้วยอย่างอื่นที่มีประสิทธิภาพและเหนือกว่า อาวุธก็สู้กันได้ ไม่ได้น้อยหน้ากันอยู่แล้ว แค่ตอนนี้ก็ต้องเข้าไปหาตัวการให้เจอ จากรายงานที่สืบได้ ซึ่งไม่ง่ายเลย เพราะตระกูลเฉินเตรียมตัวมาดี พวกมันเป็นเป้าที่อยู่ในที่มืด ตระกูลหยางเองที่อยู่ในที่แจ้งมานาน ต้องมาหลบในที่มืดและโจมตีบ้าง



“เดี๋ยวฉันจะไปเอง ให้อีกคนที่หมือนฉันไปกับกลุ่มนั้นด้วย” กลลวงขั้นต่อไปคือหาคนที่เหมือนหยางหยางที่สุด ให้สร้างกลุ่มหนึ่งขึ้นมา แสร้งว่าหยางหยางอยู่ในนั้น ติดตามไปติดกับดักตามที่ตระกูลเฉินต้องการ พวกนั้นคิดว่าด้วยนิสัยเดิม หยางหยางเป็นคนเปิดเผย เข้าไปในฐานศัตรูกันแบบโจ่งแจ้งอย่างที่เคยทำและเป็นนิสัย



จะไปได้อย่างไรกันเล่า จะเป็นแบบเดิมไม่ได้แล้ว เขาไปก็ตายเปล่า เพราะทิฐิแรงกล้าของตัวเอง เขามีคนที่จะต้องกลับไปหา




เขาสารภาพว่าไม่อยากตาย




หยางหยางลดทิฐิเพื่อจะต้องปกป้องและทำสิ่งที่รักษาชีวิตเอาไว้  แม้จะปวดใจที่จะต้องส่งพวกลูกน้องบางส่วนไปที่อันตราย ต้องมีการสูญเสียกันบ้าง แต่อย่างไรก็ตาม เขาได้สั่งการไปแล้ว มันเป็นหนทางที่จะทำให้เรื่องราวจบง่ายขึ้น



“เราไปจะอีกทาง ตามที่สืบหาได้ “



ผู้นำตระกูลสั่งการออกไป อาฟง อาเฉินเลี้ยวหัวรถไปทิศทางอีกทิศที่ต้องการ มีอีกทางที่จะเข้าไปหาพวกมันได้ เพราะบอสของตระกูลเฉินอยู่อีกที่หนึ่งสั่งการห่างออกไป คนละที่กับที่ที่เป็นที่กบดานซ่องสุมอาวุธ เพื่อการรบ ไว้โดยเฉพาะ ตระกูลเฉินคงเข้าใจว่าพวกเขาจะต้องไปที่นั่น ก็เล่นปล่อยข่าวลวง หยางหยางก็เกือบหลงกลไปเหมือนกัน แต่ด้วยความมีประสิทธิภาพในการทำงาน ลูกน้องเขาหยางหยางเก่งจนเขานึกชื่นชม ในที่สุดก็รู้ที่อยู่จริงที่หัวหน้า บอสใหญ่ของตระกูลเฉิอยู่จนได้ อาวุธมากมาย กำลังคนที่เพิ่มขึ้น เครื่องมือที่ทันสมัยที่ไม่ใช่ว่าใครก็มีได้ ไหนจะแผนอันเรียบง่ายแต่แยบยล




ทั้งหมดของตระกูลเฉิน ที่สร้างมาเพื่อทำลายตระกูลหยางในวันนี้ เขาไม่อยากจะเชื่อเลยว่าที่สั่งการทั้งหมดนี้จะเป็นผู้หญิง





------ ที่สุดของดวงใจ ------



“แค่รอเวลาตายของพวกมันสินะ.”


เฉินฮวา คุณหนูที่เหลือรอดคนสุดท้ายจากโศกนาฏกรรมอันน่าเศร้าสลดของตระกูล ในตอนที่ถูกหยางหยางคนนั้นกวาดล้าง ฆ่ายกตระกูลตอนนั้น เธออายุเพียงแค่มัธยม ไม่เข้าใจเรื่องราวอะไรเลย ถูกพาหลบหนีไปที่ไกลแสนไกลไม่ให้รู้เรื่องราวอะไร จนในที่สุดเมื่อกลับมา และพบว่าทุกอย่างมลายหายสิ้นไปแล้ว เธอไม่มีใครให้เหลือเป็นครอบครัวของเธออีกต่อไป ก็จะมีเพียงแค่คนสนิทที่ติดตามไปด้วย เธอไม่นับรวมพวกนี้เป็นครอบครัวของเธอ มันเป็นแค่หมากตัวหนึ่งที่จะทำให้เธอมีอำนาจขึ้นมา



เพื่อจะฆ่าล้างตระกูลหยางไปซะ



แม้ว่าเรื่องที่เธอรู้มาใหม่นั้น..เฉินเริ่มก่อน ตระกูลของเธอไปฆ่าคนสำคัญของตระกูลหยาง แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม นั่นก็เพราะตระกูลหยางทำตัวเอง ริอ่านมาเทียบชั้นกับตระกูลเฉิน เธอรู้ว่าครอบครัวของเธอเรืองอำนาจมาหลายชั่วอายุ และปกครองวงการมาเฟียของแผ่นดินใหญ่มาช้านาน เธอไม่คิดว่าครอบครัวจะต้องล่มสลายไปเพราะตระกูลหยางที่มาใหม่ กำลัง อำนาจเพียงแค่หยิบมืด แต่ล้มราชสีห์เช่นตระกูลเฉินได้ ...มันจะมากเกินไปแล้ว




เหยียบย่ำความเป็นตระกูลของเธอ ศักดิ์ศรีที่ตระกูลสะสมมา อำนาจที่หยางหยางผู้นั้นมีในมือ เธอจะเอามันกลับมาให้หมด เซ่นไหว้ต่อตระกูลที่ล่วงลับ




หลายคนบอกว่า เธอเป็นผู้หญิงที่มักใหญ่ใฝ่สูง อำนาจในวงการมาเฟีย ผู้หญิงน่ะหรือจะขึ้นมาเทียบชั้นได้ ตระกูลเฉินที่สูญสลายไป มีหัวหน้าเป็นชายผู้ยิ่งใหญ่ แผ่นหลังกว้างที่น่าเกรงขาม ตอนเธอกลับมา บอกว่าจะสร้างตระกูลขึ้นมาใหม่ ที่มากอำนาจ หลายคนไม่อยากร่วมด้วย ไม่สนใจ ก็เพราะเธอเป็นผู้หญิง แต่มารยาหญิงก็คือมารยาหญิง เธอรู้ดีว่านี่จะทำให้คนพวกนั้นที่กระหายในความสาวสวย และอำนาจของตระกูลเฉินที่ยังพอมีอยู่จะทำให้พวกมันมาสนับสนุนเธอ แผนการแยบยลที่เตรียมการนับปีเป็นเรื่องที่ตั้งใจมอบให้หยางหยาง คนนั้นโดยเฉพาะ




“อู๋เทียนซือ “
“ครับคุณหนู”



อู๋เทียนซือ ลูกน้องที่เธอสนิทและไว้ใจ เป็นผู้พาเธอหนีไป เป็นคนที่เธอใช้เป็นกำลังหลักในการกลับมาแก้แค้น  ที่ปรึกษาที่ดีของเธอ หลาย ๆ อย่างแผนการที่เธอคิด อู๋เทียนซือก็ช่วยได้มาก เธอรู้ว่าเธอฉลาดพ่อของเธอนึกชมเชยอยู่หลายครั้ง เธอมั่นใจว่าทุกอย่างที่ทำเหนือกว่า ตระกูลหยางจะไม่มีวันได้กลับออกไปอีกแล้ว 




“คุณหนู มันเป็นไปตามแผนนั้นแล้ว”
“ดีมากดำเนินการต่อไป”




อู๋เทียนซือ รับคำ พร้อมรอยยิ้มที่ดูภักดี เฉินฮวามองลูกน้องคนสำคัญ




ตระกูลเฉินโดยการนำของเธอ มาเฟียที่ยิ่งใหญ่ที่มีหญิงสาวเป็นผู้นำคนแรกของวงการ






อู๋เทียนซือมองบอสของตัวเองด้วยสายตาบางอย่าง








                                                                 ------ ที่สุดของดวงใจ -------





หยางหยางรับรู้แล้ว ถึงการปะทะ จากในอีกทิศทางของกำลังคนของฝั่งของตนและเฉิน หวังว่าจะถ่วงกันไว้ได้ซักพักทางเขาเองก็กำลังดำเนินการตามแผน ดูเหมือนว่าตระกูลเฉินจะชอบธรรมชาติเอามาก ๆ จะที่กบดาน หรือที่ซ่อนตัวจริงของบอสตระกูลเฉินคนใหม่นั้นก็เป็นบ้านที่ติดกับธรรมชาติที่สวยงาม  มันก็ไม่เข้ากับสูทของเท่าไหร่นักหรอก แต่ว่าก็ไม่เลว ถือว่าจะได้ทำอะไรง่าย ๆ หน่อย



“นายครับ อย่างที่เราคาดไว้เลย”



พวกมันตรึงกำลังไว้มากพอกับอีกที่ที่ไว้เก็บอาวุธ แหล่งกบดานฝั่งนั้นที่เขาส่งกำลังไปอีกทาง ลวงว่าเขารู้แค่ที่เดียวว่าที่นั่นเป็นของตระกูลเฉิน พวกมันน่าจะเข้าใจผิดไปแล้วว่า เขานั้นกำลังตรงไปที่นั่น  แต่หยางหยางก็ตรงเข้ามาในบ้านหลังน้อยที่มีบอสตระกูลเฉินอยู่ ลูกน้องเขาเปิดหนทางให้โดยง่าย  เขาเองก็พกกำลังอาวุธมาครบมือ



“นายครับ!” แต่อย่างน้อยหยางหยางก็ได้ออกกำลังบ้าง




มีลูกร้องตระกูลเฉินที่ฝีมือไม่เลวตรงมาทางเขา ดูตกใจที่หยางหยางผู้นี้อยู่ตรงหน้ามัน เขาวาดขาฟาดไปที่ใบหน้าของมัน โดยที่มันตามความเร็วไม่ทัน มันตอบโต้กลับ เขาเบี่ยงตัวหลบได้ และเข้าทาง มันเผลอแม้แค่วินาทีเดียว ทันทีนั้นเขาก็ลั่นไกใส่มันไปสองนัด ตรงกลางกระหม่อนเป้าที่ถนัดระยะมืออยู่แล้ว มีอีกคนที่มุ่งเข้ามาใกล้ เข้าเห็นลูกน้องของตนคนหนึ่งที่เข้ามาขวางทางปืนให้เขา ลูกน้องคนนั้นทรุดลง และบอกสัญญาณมือให้ หยางหยางผู้เป็นนายหลบไปอีกทาง เมื่อเขามองไปยังฝั่งศัตรู วินาทีนั้นเชื่องช้า หยางหยางเร็วกว่ามัน และลั่นไกใส่ก่อน อย่างไรแล้ว ลูกน้องของตนก็สำคัญกับหยางหยางทุกคนไม่ว่าจะใคร เพราะความภักดีต่อหยางหยางของพวกมันไม่ได้น้อยไปกว่ากัน




“ขอบใจ”




เขาพูดขอบคุณลูกน้องคนนั้น  ซึ่งเขาจะหาทางตอบแทนทีหลังไปทางครอบครัวของมันแล้วกัน และอีกหลาย ๆ คนที่ตายไปในศึกนี้ ก็จะขอบคุณอย่างเต็มที่สำหรับความภักดีของพวกมันทุกคน




“ทางนี้ครับนาย”


อาเฉิน และอาฟง มือดีที่สุดของหยางหยางสองคนเปิดทางให้หมดแล้ว ลูกน้องในทีมอื่น ๆ ก็จัดการเคลียร์ศัตรูที่ตรึงกำลังไว้ให้ ทีมนักฆ่าที่ซุ่มอยู่ หยางหยางให้อาฟงส่งคนไปกำจัดหมดแล้ว ทีนี้ก็เหลือแค่เขา กับสาวน้อยตระกูลเฉินคนนั้น


“ไปชวนคุณหนูเฉินเขาลงนรกด้วยกันหน่อย”





















“เทียนซื่อ ! ทำไม..มันเกิดอะไรขึ้น ทำไมหยางหยางมันอยู่ที่นี่”



คุณหนูเฉินฮวารู้สึกถึงความผิดพลาดบางประการจากเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นหน้าบ้านที่เธอซ่อนตัวอยู่ให้พ้นจากสมรภูมิรบ  หยางหยางตรงมาที่นี่แทนที่จะเป็นที่กบดานอีกที่ที่พวกหยางได้ไปตามข่าวลวงที่ปล่อย พวกมันหาที่นี่พบได้อย่างไรกัน



“คุณหนู ใจเย็น ๆ นะครับ  พวกเรามีเยอะกว่าพวกมัน มันเข้ามาไม่ได้แน่ ๆ ใจเย็น ๆ นะครับ”




อู๋เทียนซือบอกคุณหนูที่เริ่มตื่นตระหนกที่ทุกอย่างไม่สมบูรณ์แบบเป็นไปตามแผน และไม่กี่นาทีต่อมา เธอก็ได้รู้ว่าทุกอย่างผิดพลาดไปหมด  เมื่อพบชายหนุ่มที่เธอต้องการจะฆ่ามาทั้งชีวิตเปิดประตูห้องของเธอมายืนอยู่ตรงหน้า




“สวัสดี คุณหนูตระกูลเฉิน ผม หยางหยางครับ”















---------- ที่สุดของดวงใจ------------





“พี่อี้เฟิงคะ.. เสี่ยวอิ๋งนอนด้วยนะ”




จู่ ๆก็มีเสียงเคาะประตูดังกลางดึกนั้น เสี่ยวอิ๋งอุ้มเสี่ยวอ้ายมาด้วย เคาะประตูห้องอี้เฟิง แล้วพาตัวเองมาเอนซบเขา อ้อนคุณครูให้พาไปนอนด้วย


“ได้ครับ ว่าแต่มีอะไรหรือเปล่า เสี่ยวอิ๋ง”
“ฝันร้ายน่ะค่ะพี่อี้เฟิง ..ป๊าน่ะ..”



เสี่ยวอิ๋งเหมือนไม่กล้าเล่าต่อ เธอกอดเสี่ยวอ้ายในอ้อมกอดไว้แน่น แมวน้อยเองเหมือนกำลังอึดอัดแต่มันทนได้ เพื่อเจ้านายที่รัก จนอี้เฟิงต้องอุ้มให้เด็กน้อยไปนอนด้วยกัน เด็กน้อยเริ่มตัวสั่น ทั้งที่ง่วงก็ยังมีสีหน้ากังวล


“เสี่ยวอิ๋งรู้ ป๊าไปไหน”

เธอบอกหลังจากที่มานอนกอดคุณครูตัวนิ่มบนเตียงแล้ว เสี่ยวอ้ายขอสละตัวเองไปนอนที่เก้าอี้ทำงานของอี้เฟิง ซึ่งเจ้านายก็อนุญาตให้ไป มือเล็กของเสี่ยวอิ๋งกอดเอวคุณครูแน่น และหลับตาลง


“ป๊ากลับมาไว ๆ ก็ดีเนอะพี่อี้เฟิง”



เขาพยักหน้าเห็นด้วยตามที่เด็กน้อยบอก และหลับตาลงบ้าง คืนนี้อี้เฟิงนอนไม่หลับเลยจริง ๆ  หวังว่าหยางหยางจะปลอดภัย ไม่บาดเจ็บหนัก



“ทำตามสัญญาล่ะคุณหยางหยาง”




----- ที่สุดของดวงใจ ----------------------





“แก เทียนซื่อ ทำไมไอ้บ้านี่ถึงมาอยู่ตรงนี้!
“ครับ ผมเอง ยอมรับว่าตกใจนะ ว่าที่สั่งการไปฆ่ากับทำเรื่องบ้าบอ ทั้งหมดนี่จะเป็นฝีมือผู้หญิงตัวเล็ก ๆ แบบคุณน่ะ”

เฉินฮวาอ้าปากค้าง เพราะคนที่เธอตั้งใจจะฆ่ากลับมายืนส่งยิ้มน่าหมั่นไส้ให้เธอ บอสตระกูลเฉินเสียความเยือกเย็นในฐานะบอสไป เอาปืนที่อยู่ใกล้มือมายกจ่อหยางหยาง แม้จะในระยะหนึ่งแต่ถ้าเหนี่ยวไกก็ตายทันทีแน่ เธอหวังว่าจะให้คน ๆ นี้มันตายไปเสีย แต่แผนการของเธอผิดพลาด ตรงไหนกัน!

“คุณคิดว่าคนที่อยู่ในวงการนี้ เลวกว่าคุณมากขนาดผม จะผิดพลาดหลงกลซ้ำ ๆ หรือยังไงคุณหนูเฉินฮวา แต่ก็นะ ก็ได้แบบอย่างพ่อคุณมาเต็ม ๆ เหมือนกัน นิสัยหมาลอบกัดนี่เหมือนกันจริง ๆ “

หยางหยางไม่เคยบอกว่าตัวเขาเป็นสุภาพบุรุษ แต่ก็จะปฏิบัติกับคนที่อยากปฏิบัติดีด้วย คุณหนูเฉินฮวาคนนี้จ้องจะฆ่าเขา จะทำลายเขาและคนสำคัญ ผู้สั่งการที่เหี้ยมโหดที่จ้องจะฆ่าคนบริสุทธิ์แบบนี้ คุณหนูคนนี้คงถูกเสี้ยมสอนให้เกิดมาเกลียดตระกูลหยางตั้งแต่เด็กกระมัง


“แกมันสวะ ริอ่านจะมาใหญ่เทียบพวกฉัน”
“อำนาจไม่ว่าเมื่อไหร่ก็เปลี่ยนมือได้ ใครมาจะใหญ่ค้ำล่ะครับคุณหนูเฉิน”
“หุบปาก!  พ่อของฉันต้องเสียอำนาจไป คุณพ่อเครียดทุกวันก็เพราะแก ไม่เคยใจดีกับฉัน ก็เพราะแกอีก ตระกูลหยางที่ต่ำช้าน่ารังเกียจแบบแกน่ะหรือ ใช้วิธีอ่อนแอแบบคนขี้แพ้น่ะหรือ วงการนี้น่ะ*---“


หยางหยางเริ่มทนฟังยัยหนูที่กำลังเป็นบ้าเพราะเสียครอบครัวไปไม่ได้ รู้สึกรำคาญจนน่ารังเกียจ เขาไม่ชอบผู้หญิงไร้มารยาทและพูดแต่คำหยาบโลนแบบนี้ ทั้งยังดูไม่เยือกเย็นแบบที่คนเป็นผู้นำควรจะมี เด็กนี่ต่างหากที่ริอ่านจะมาเป็นมาเฟีย  ถึงจะเป็นผู้หญิงแต่การจะเป็นมาเฟียใช่ว่าใครจะเป็นได้ ผู้หญิงที่จะกล้ามาเป็นผู้นำคนมากมายในวงการแบบนี้ ต้องแกร่งและไม่เป็นคนบ้าต่อหน้าลูกน้องที่ยืนมองเธอด้วยแววตาสมเพช



ผู้นำตระกูลหยางป่ายมือเข้าไปคลำหาปืนที่ใส่ซองติดไว้  เมื่อตรงตำแหน่งก็คว้าเอาปืนมาไว้ให้กระชับมือ เตรียมตัวไว้


 เขาควรจะส่งยัยเด็กนี่ไปอยู่กับพ่อ จะได้อยู่ด้วยกันไม่ ต้องมาโหยหาเป็นเด็กขาดความอบอุ่นแบบนี้  แม้จะคิดว่าตัวเขาเองก็มีลูกสาวเหมือนกัน ไม่อยากทำแต่เรื่องราวมันจะไม่จบ ถ้าใจอ่อน


มือแกร่งคว้าเอาปืนมาได้แล้ว เขายกปืนไว้ทันที่เด็กผู้หญิงคนนั้นจะเหนี่ยวไก















ปัง!











เสียงปืนดังขึ้นในขณะที่คุณหนูเฉินฮวากำลังสติแตก ร่ายยาวถึงความเกลียดของตระกูบเฉินต่อหยาง แต่กลับหยุดไป กระสุนที่ดังนั้นมาจากทิศหนึ่ง ร่างของเธอกระตุกและหยุดการเคลื่อนไหว และล้มลงไป เธอตายสนิท














ก่อนหน้านี้ หยางหยางที่ยกปืนจ่อปากกระบอกไปทางคุณหนูเฉินด้วย  เหมือนที่คุณหนูเฉินฮวาหันกระบอกปืนมาทางเขา








แต่เขายังไม่ทันลั่นไกปืนด้วยซ้้ำ







อะไรกันน่ะ ?













“..ขอโทษนะครับ..แต่คุณหนูแม่งงี่เง่าจริง ๆ “






ไม่ใช่หยางหยางที่เป็นคนลั่นไก กระสุนนัดนั้นไม่ได้มาจากปืนของเขา แต่เป็นอีกคนที่ยืนอยู่เคียงข้างเธอ เขาเอาปืนจ่อข้าง ๆ ขมับหญิงสาวเป่าร่างเธอล้มไปกับพื้น เลือดสาดกระเซ็นรอบทิศทาง ผู้ชายที่น่าจะเป็นลูกน้องคนสนิทของคุณหนูเฉินที่บ้าคลั่งนั้น กลับเป็นคนฆ่าเธอเสียเอง   





“หลังจากคุณหนุประสาทเสียตระกูลเฉินเเเล้ว ก็อันเชิญผู้นำตระกูลหยางมาตายถึงที่นี่ได้ด้วย เป็นเกียรติอย่างยิ่งครับ”







ชายคนนั้นเอ่ยขึ้น อู๋เทียนซื่อ ชายที่เป็นคนสนิทของหญิงสาวที่ตายไปเมื่อครู่





ทำไม...นั่นมันบอสของแกนะเป็นอาฟงที่เอ่ยถามแทนเจ้านาย ทั้งหมดในห้องนี้ที่ไม่ใช่ฝั่งตระกูลเฉินกำลังตกตะลึงกับเหตุการณ์นี้  คล้ายกับว่านี่เป็นการจัดฉาก 

แน่นอน คนบางคนของเฉินที่กำลังตกใจเหมือนกัน พวกนั้นก็ถูกฆ๋าตายไปภายหลังกับบอสของตน และบางส่วน... เป็นคนของบ้านอู๋ที่แฝงตัวมาแล้ว แสร้งทำตัวเป็นผู้ที่ภักดีต่อตระกูลเฉิน

“ผมเป็นคนบ้านอู๋ ตระกูลเล็กตระกูลน้อยที่มีกำลังเพียงหยิบมือ ตระกูลที่พวกคนใหญ่โตแบบพวกคุณเหยียบย่ำอย่างไรล่ะครับ เอาล่ะ เฉินไปเสียแล้วหนึ่ง ทีนี้ก็เหลือคุณ หยางหยาง”




อู๋เทียนซื่อ... จากเมื่อครู่ที่หญิงสาวตระกูลเฉินเอ่ยเรียกชื่อเขา และเป็นคนของตระกูลอู๋... งั้นหรือ อย่างนี้นี่เอง






เพราะบ้านอู๋เมื่อก่อนที่เข้าเป็นพันธมิตรซื่อสัตย์ของตระกูลเฉิน ทั้งที่เห็นคนพวกนั้นจงรักภักดีกับตระกูลเฉินแท้ ๆ แต่แท้ที่จริงแล้วก็เก็บความอดกลั้นที่เป็นใหญ่ไม่ได้ไว้ในใจ เพราะมีเฉินและหยางขึ้นมามีอำนาจ

น่าสงสารหญิงสาวตระกูลเฉินที่ถูกหลอกมานาน คงหลายเรื่องที่บ้านอู๋คนนี้หลอกใช้เอาให้เป็นผู้กำจัดคนที่อยากให้หายไป เธออาจะไม่รู้ด้วยว่าคนที่เธอไว้ใจเป็นคนฆ่าเธอเอง

“พวกแก...”
“อำนาจที่พวกคุณได้ เป็นสิ่งที่บ้านอู๋ปรารถนา ตอนนี้เหมือนมีเทพยดามาอวยพรผมอยู่เลยล่ะครับ ไม่มีพวกคุณแล้ว วงการนี้มันก็ง่าย บ้านอู๋ของเรากำลังคนก็เริ่มเยอะขึ้น อำนาจที่แผ่กันไปเงียบ ๆ ในช่วงที่คุณแม่งไปมัวทำตัวเป็นคนดีอยู่บนดินน่ะ ...คุณมันโง่เหลือเกินครับ คุณหยางหยาง วงการมาเฟียไม่มีใครจะออกไปจากที่นี่ได้  คนใต้ดินก็คือคนใต้ดิน บนดินมันไม่เหมาะกับเราหรอกครับ ...แต่ตอนนี้ผมก็จะส่งคุณไปใต้ดินจริง ๆ แล้ว ..พวกเราตระกูลอู๋ชื่นชมในความเก่งของตระกูลหยางที่ทำให้ตัวเองยิ่งใหญ่ทัดเทียมกับตระกูลเฉินที่ยิ่งใหญ่มานาน เห็นพวกคุณฆ่ากันเอง นี่มันก็สนุกจริง  ๆ “




อู๋เทียนซื่อบอกยาวจนจบ หยางหยางเข้าใจทุกอย่างอย่างแจ่มแจ้ง ชายแปลกหน้าผู้โหดเหี้ยมกว่าใครในที่นี้มองหน้าหยางหยาง เขารู้สึกเหนือกว่าและมีชัย



บ้านอู๋ที่ถูกสองตระกูลใหญ่มองข้ามมาตลอด ในตอนนั้นที่เกิดหิมะแรก บ้านอู๋ที่ยังนำโดยอู๋เทียนซื่อยังสวามิภักดิ์ต่อตระกูลเฉิน ทำทุกอย่างให้ตระกูลเฉินที่เป็นคนคุมวงการนี้ พวกเขาเองก็คิดว่าจะได้รับอำนาจในซักวัน แต่ตระกูลเฉินไม่ได้ดีกับแก๊งค์ที่อยู่ในปกครองของตนเองเท่าไหร่ ตระกูลเฉินสังหารคนบ้านอู๋ไปมากเท่าที่ต้องการ หากงานไม่สำเร็จ หรือบางครั้งก็พาเอาผู้หญิงบ้านอู๋ไปปรนเปรอความสุขของตนเอง แย่หน่อยที่พวกบ้านอู๋ไม่ได้ทนได้ ให้พวกเขากระทำ 


แต่กว่าจะรู้ความจริงนี้ ก็นานเกินไป ตระกูลเฉินถูกตระกูลหยางโจมตี ถูกล้างตระกูลกันหมดสิ้น และตระกูลหยางก็โหดเหี้ยมพอ ภายใต้การนำของหยางหยาง เขาไม่ได้เว้นพวกที่สวามิภักดิ์กับเฉินด้วย ถ้าจับได้คือตายสถานเดียวเป็นการตัดไฟแต่ต้นลม บวกกับสัญญาที่หยางหยางทำไว้กับทางการด้วย แต่มีแค่เพียงคุณหนูเฉินฮวาคนนี้ที่รอดมากับเขา เด็กหญิงอ้อนวอนให้พาเธอไปด้วย วันนั้นเขาก็ใจอ่อน เพราะเป็นผู้หญิงและเธอก็คุ้นเคย เป็นลูกสาวของนายเก่า เขาช่วยเธอมา



และเมื่อคิดได้ บ้านอู๋อาจจะมีโอกาสได้แก้แค้นทุกอย่างกับทุกคน และอำนาจ..ที่ใฝฝัน ที่อยากจะเป็นใหญ่



ไม่มีสองตระกูลนี้ ก็ไม่มีอะไรต้องกลัว



“อ้อ ๆ ใช่ครับ คุณหยางหยาง ที่ผ่านมาก็ใช่ว่าจะเป็นแผนของผมหมด ยายบ้านี่ก็คิดแผนการเก่งเหมือนพ่อของเขา อย่างที่คุณบอกน่ะล่ะครับ “



หยางหยางได้รับทราบดังนั้น เขามองข้ามพวกเล็กพวกน้อยไป นี่พลาดอีกแล้วหรือ



ผู้นำตระกูลหยางที่ในใจตื่นตระหนกกับเหตุการณ์ที่ไม่คาดคิด เหนือความคาดหมายอย่างยิ่ง ตระกูลเล็กตระกูลน้อยที่ไม่คิดว่าจะกล้ามาเป็นใหญ่คานอำนาจกับตระกูลใหญ่อย่างพวกอู๋ ไม่คิดว่าพวกนี้จะมักใหญ่ อยากได้อำนาจด้วย ทั้งที่ก็ไม่เคยมีข่าวคราวว่าจะไปปะทะอะไรกับใคร อย่างตอนอยู่กับเฉินเองก็แค่เป็นคนรองมือรองเท้าไม่มีพิษภัย ช่วงที่กวาดล้าง เขาเองก็ทำลายทุกอย่างทั้งตระกูลเฉินและพันธมิตรของพวกมัน


พลาดไปหลายที่ คาดการณ์ผิดพลาด มันเป็นเพราะความมั่นใจและหยิ่งทะนงในความเก่งกาจของตนในอดีต ส่งผลมาถึงวันนี้



“อาฟง.. แกออกไป “  หยางหยางบอกแบบนั้น อาฟงถึงกับร้องอุทานเสียงดัง แต่เมื่อเขาหันมองเจ้านายก็รับทราบว่าทำไม  เจ้านายถึงออกปากไล่เขาไป


แววตานั้น เจ้านายที่เขาจงรักภักดีและถวายชีวิต อาฟงอ่านแววตาของเจ้านายออก และทำตามที่สั่ง



“ครับ..นาย ดูแลตัวเองด้วยนะครับ”
“มีอาเฉินก็พอแล้ว ไปได้แล้ว”





“โอ๊ะ โอ๋ จะทิ้งเจ้านายหรือ ไม่ง่ายแบบนั้น ข้างนอก พวกเราก็เอาคนมาเสริมไว้แล้ว เป็นเพื่อนเก่าคุณด้วยนะหยางหยาง ทางการส่งคนมาพาคุณกลับนรกแล้ว “

ไอ้เวรนี่ ..

“ใช่ ๆ ที่คุณหาที่นี่เจอ ผมก็ใบ้ไว้ให้ และก็ใช่ ๆ ทางการเองก็ด้วย ผมก็ติดปริศนาให้พวกเขาด้วย” 
หยางหยางมองใบหน้าชายตรงหน้าที่ดูเหมือนคนเสียสติ บ้ากว่าคุณหนูเฉินคนนั้นเสียอีก มันพูดราวกับกำลังสนุกที่เห็นคนทั่นเกลียดตายไป  ทั้งทางการทั้งคนของพวกมัน

บ้านอู๋ทำเรื่องราวนี้ทั้งหมด ทั้งศึกของสองตระกูล ทั้งเรื่องของทางการที่แม้จะไม่รู้แต่ก็ดันมีบ้านอู๋ทำให้รู้จนได้ ว่ามีศึกครั้งนี้ พวกนั้นคงคิดว่า มาเฟียกลับมาฆ๋าฟันกัน เพื่อแย่งอำนาจ ซึ่งแสดงถึงว่าวงการมาเฟียกำลังจะผุดขึ้นมาอีกครั้ง ทางการขี้ระแวงทั้งหลาย คงไม่วางมือ ไม่ปล่อยไปแบบเมื่อก่อน วงการมาเฟียที่เสื่อมอำนาจไป ทางการในตอนนี้ก็แกร่งขึ้น พวกเขาคงมาล่ามาเฟียกันอย่างจริงจัง  ซึ่งเป้าหมายหลักก็คงมีทั้งเฉินทั้งหยาง ที่เป็นสองขั้วอำนาจที่ใหญ่และโดนจับตามาตั้งแต่ไหนแต่ไรอยู่แล้ว



บ้าชิบ!!



หยางหยางมองชายตรงหน้าที่เป็นผู้ก่อเรื่องราว เขาไม่รู้เลยว่าพวกบ้านเล็ก  ๆ จะกล้าทำเรื่องใหญ่แบบนี้



ที่บ้าน! ที่บ้านล่ะ



หยางหยางไว้ใจว่าอาฟงจะเข้าใจที่เขาสื่อสารขอให้มันหนีออกไปได้ และทำตามที่อยากให้ทำ



คนที่บ้าน  เขากลัวจะมีอันตรายซ้ำอีกครั้ง ความกลัวจับใจเริ่มเกาะกิน ..ทุกอย่างเขาทำพลาดเอง อีกครั้งที่เขานึกอยากด่าตัวเองดัง ๆ




ยายหนู..อี้เฟิง 



ใบหน้าของคนสำคัญผู้เป็นดวงใจวนในความทรงจำ



“คุณหยางหยาง คราวนี้น่ะ ก็เป็นเพราะคุณที่พลาดเอง ทั้งหมด คุณคาดคะเนเหตุการณ์ผิดพลาด ไม่มองคนเล็กคนน้อย มองเห็นแค่อำนาจในมือ กับคนที่เสมอกว่า ..และจำไว้ว่า หนามที่ตำเท้า ไอ้หนามเล็ก ๆ นั่นล่ะ ทำให้คุณตายเสียเอง”





เมื่อได้ยินดังนั้น เขาก็จำต้องต่อสู้ คนของหยางหยางมีอยู่พอสมควร ก็ยังพอมีหวังจะฝ่าวงออกไปได้ ทางการที่กำลังมาทางนี้ บวกคนตระกูลเฉินที่อาจจะกลายเป็นคนของบ้านอู๋ไปแล้ว เขาคิดหาทาง



แต่ก่อนหน้านั้น หยางหยางจะต้องรีบหลบหนี เพื่อเอาชีวิตรอดเสียก่อน



ปัง!


เสียงปืนนัดแรกดังขึ้น เหมือนเปิดฤกษ์การต่อสู้ครั้งใหม่ หยางหยางหลบเข้าที่กำบังในห้องที่เป็นโซฟาตัวใหญ่ตัวหนึ่งได้ทัน อู๋เทียนซื่อใช้ปืนในปืนสาดยิงใส่เขา หมอนี่เก่งพอตัว  ผู้นำตระกูลหยางใช้ฝีมือที่ร่ำเรียนทั้งหมดเพื่อการต่อสู้ครั้งนี้ คนของทางการเหมือนใกล้จะถึงแล้ว ตามที่ได้ยินคนของบ้านอู๋รายงานกับอู๋เทียนซื่อ



พร้อมกันนั้นอู๋เทียนซื่อก็กระหน่ำยิงหยางหยาง ทำให้จำต้องเปลี่ยนที่หลบกำบัง ลูกน้องฝั่งหยางเจ็บไปหลายคน แต่ฝั่งอู๋ก็หายไปไม่น้อย เหลือไม่กี่คนที่กำลังปะทะในห้องนี้


“นายครับ คนของเราที่ส่งไปฟากโน้น รอดกลับมาด้วยบางส่วน กำลังตรงมาทางนี้”



เขานึกขอบคุณพวกนั้นที่แม้จะส่งมันไปตายก็ยังจะกลับมาช่วยเขา ความจงรักภักดีนี้เขาจะไม่มีวันลืม และวันนี้หยางหยางจำต้องให้พวกมันช่วยเขาฝ่าวงนรกนี่ออกไปให้ได้



คนของทางการมากันเท่าไหร่  หยางหยางทันคิดประมวลผล และหลบกระสุนไปพร้อมกับยิงสู้กับอีกฝ่าย ฆ่าลูกน้องฝั่งอู๋ไปหลายคน




“คุณหยางหยาง ผมมีเรื่องอีกอย่างอยากจะบอก ทางการน่ะ เขาโกรธนะที่คุณมาทำให้วงการมาเฟียมีชิวิตและฟื้นขึ้นมา สายตาของทางการ ตระกูลหยางน่ะเป็นสัตว์ร้ายที่ต้องถูกกำจัด และตอนนี้เฉินก็ตายไปแล้ว พวกเขาคงคิดว่าคุณเป็นคนฆ่า ก็ตระกูลใหญ่ฆ่ากันเองแย่งอำนาจล่ะนะ ทางการก็คงเข้าใจแบบนั้น ถือว่าเป็นโชคดีที่บ้านเล็ก ๆ แบบบ้านอู๋ของผมมันเล็กน่ารักและอยู่กันแบบอบอุ่น ๆ ไม่ใหญ่เกินไปจนใครจับตามอง”



หยางหยางฟังมันคนนั้นสาธยาย เขาอยากจะยิงมันเสียให้ตายไปตรงนี้ แต่ก็ไม่ทัน มันก็ยิงสวนมา จังหวะนั้น  อาเฉินอยู่ในระยะยิงของมัน บอดี้การ์ดคนสนิทของหยางหยางถูกยิงที่แขนขวาจนได้รับบาดเจ็บ



“อาเฉิน!
“ไม่เป็นไร นาย ระวังพวกมันด้วย เก่งเอาการ”
“เออ”



เมื่อได้รับการประเมินสถานการณ์ ผู้นำตระกูลหยางจดจ่อกับอู๋เทียนซื่ออีกครั้ง เหมือนอีกฝ่ายอยากจะพูดต่อ บ้านมันเป็นพวกบ้าน้ำลายรึไง หยางหยางสบถด่าในใจ




“ความยิ่งใหญ่ของคุณฆ่าคุณ..จำเอาไว้ หยางหยาง และตระกูลหยางทุกคนเอ๊ย”  มันพูดจบก็หัวเราะดังลั่นไปทั่วห้อง คนใต้ปกครองของบ้านอู๋ตกใจเล็กน้อยที่เจ้านายของมันหัวเราะอย่างบ้าคลั่ง เสียสติไปแล้วจริง ๆ




หลังจากนั้นมันก็กระหน่ำยิง มาที่ฝั่งหยางหยางอีกครั้ง  ฝั่งหยางหยางกำลังหาทางคิดหนีไปจากที่นี่ก่อนทางการจะมา แต่ก็คิดว่าลำบากแน่ ๆ




“เอ้า เพื่อนเก่าของคุณมาแล้ว เชิญคุณไปเล่นกับพวกเขาเถอะ”




อู๋เทียนซื่อหยุดยิง และกระโดดจากหน้าต่างบ้านชั้นสองออกไปทั้งที่เหตุการณ์ยังขุ่นมัว และ ไปกับพรรคพวกของมันส่วนหนึ่ง

“ไอ้เวรเอ๊ย! “ หยางหยางสบถดัง



“นายครับ”

แต่อาเฉิน..คิดว่าเขาพอเห็นทางบางอย่าง




-----ที่สุดของดวงใจ -------


“ค้นให้ทั่ว!



คนของทางการเดินทางมาถึงจุดเกิดเหตุที่อยู่ห่างออกจากตัวเมืองมา มันไม่ไกลมากเท่าไหร่แต่ก็อยู่ท่ามกลางธรรมชาติที่ไม่เหมาะกับการนองเลือดทุกประเภท  ไม่นาน ชายชุดสูทดำ และทีมที่ดูแข็งแกร่งกว่า ชายในทุกคล้ายทหารก็พร้อมประจำที่ ตรึงกำลังที่นำมา พร้อมอาวุธ   ปิดล้อมบ้านหลังเล็กที่เกิดเหตุนั้น



“พวกมึงมันเป็นพวกสัตว์จริง ๆ ปล่อยไว้ก็รังแต่จะทำร้ายคนอื่น เป็นอันตรายต่อแผ่นดิน”



ชายคนนั้นเอ่ยด่าไว้ก่อนเจอหน้า คาดว่ามาเฟียที่พวกเขาตามล่าน่าจะอยู่ในบ้านหลังนี้ แต่กลับไม่พบอย่างที่ได้รับข่าวมา



“ท่านครับ พวกมันหนีไปทางน้ำตกฝั่งป่าทางโน้นครับ”
“ตามมันไป!




------------ที่สุดของดวงใจ-------





เพราะสายตาอันดี ของอาเฉินมองหาทางออกอีกทาง เพราะทางหน้าต่างที่บ้านอู๋พวกนั้นหนีไป ทางการมาปิดล้อมแล้ว พวกเขาลัดเลาะไปตามส่วนต่าง ๆ ของบ้านอย่างเงียบเชียบ และทะลุออกมาทางหลังบ้าน ทันแบบจวนตัวชนิดพลาดไปวินาทีเดียวก็จะถูกเจอตัว หยางหยางและคนของทีมเองเหลือไม่มาก แต่ก็ต้องแยกกันหลบหนีไป





“นาย!




แต่โชคร้ายที่แม้แยกกันหนี เพราะจากที่นั่นออกมาไม่นาน เขาเองที่เหน็ดเหนื่อยจากการสู้ก่อนหน้า บวกกับคนของทางที่มีมากกว่า กระจายกำลังค้นหา เขาได้ยินเสียงปืน ไม่รู้ว่าเป็นคนของเขาที่ถูกจัดการหรือเปล่า แต่ตอนนี้หยางหยางไม่มีเวลามาคิดถึงคนอื่น




“หยุดนะ!




คนของทางการเป็นชายชุดคล้ายทหารที่ฝึกมาอย่างดี รุกหน้ามาทางพวกเขา หยางหยางรีบวิ่งให้พ้นจากระยะกระสุน พร้อมกับยิงสวนกลับไป จัดการไปได้ส่วนหนึ่ง ลูกน้องของหยางหยางก็มีฝีมือ จัดการคนพวกนั้นได้ พวกของหยางหยางกับคนของทางการก็สู้กันอย่างไม่ลดละ แลกกระสุนกันจนต้องวิ่งหลบวิถีกันให้มั่วทิศทาง







แม่งเอ๊ย.... เมื่อถึงทางตัน หยางหยางและลูกน้องที่เหลือ ทั้งอาเฉินที่คอยดูหลังให้ มาถึงจุดที่เขาจะวิ่งต่อไปไม่ได้







“เอาล่ะ พวกมึง “






ชายชุดคล้ายทหารเล็งปืนมาทางฝั่งพวกของเขา หยางหยางสั่งให้คนของตัวเองโดดลงไป เพราะทางตันที่ทุกคนมาหยุดอยู่คือน้ำตกสูงชัน ที่ไม่รู้ว่ากระโดดไปจะตายแทนที่จะโดนลูกปืนหรือเปล่า





“นายครับ!
“กูบอกให้ไป ไม่ฟังกูรึไง อาเฉิน!




เมื่อมันไม่ฟัง เขาก็จัดการถีบลูกน้องคนสนิทลงไป มันปกป้องเขาจนบาดเจ็บไปทั่วร่าง ถูกยิง รับกระสุนแทนในเมื่อครู่ก่อนหน้าที่มีการปะทะกัน จนเมื่ออาเฉินร่วงลงไป เขาจึงกระโดดตามลงไปด้วย แต่วิถีกระสุนของคนของทางการมาเร็วกว่าจังหวะกระโดด





นัดนั้นทะลุผิวหนัง หยางหยางถูกยิงตรงบริเวณท้อง





อึก!




และร่างของผู้นำตระกูลหยางก็ร่วงหล่นสู่พื้นน้ำจมหายไปกระแสเชี่ยวของน้ำตกที่มีหน้าผาสูงชัน








TBC  ที่สุดของดวงใจ :  -- CHAPTER : 10











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น