TITLE : ที่สุดของดวงใจ
CHAPTER : 8
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG - 15 + NC -17
RATE : PG - 15 + NC -17
อี้เฟิงหลับตาลง
เขาสบถในใจ
ปัง!
“ฆ่ามันให้หมด”
เสียงปืนนัดล่าสุดที่ได้ยิน..อี้เฟิงคิดว่าคงเป็นเสียงสุดท้ายที่จะได้ยินในวินาทีที่มีชีวิตอยู่บนโลก
แต่..เขารอด
เสียงทุ้มเสียงหนึ่งที่อี้เฟิงคุ้นเคย
สั่งการลูกน้องใต้ปกครอง ซึ่งเสียงนั้นเอ่ยเสียงดังจนทะลุโสตประสาทของอี้เฟิงเข้ามาในความคิด
เหมือนร่างชายที่เอาปืนจ่อขมับเขาอยู่เมื่อครู่ หยุดนิ่งไปมีเสียงคล้ายคนล้ม
ตากลมโตลืมขึ้นดูสถานการณ์รอบข้าง
“คุณหยางหยาง!”
เสียงหวานสั่นเอ่ยเรียกชายหนุ่มที่อยู่ยืนตรงหน้า
ยืนอย่างมั่นคง ร่างกายของชายหนุ่มมีบาดแผลบนใบหน้าและคล้ายจะมีที่ตำแหน่งอื่นด้วย
เขาดูเหนื่อยเล็กน้อย มาตั้งแต่เมื่อไหร่ อี้เฟิงก็ไม่แน่ใจนัก แต่เขาอยู่ตรงนั้นแล้ว
“คุณหยาง..หยาง”
น้ำตากลั่นจากดวงตาคู่กลมโตหยาดหยดมาทีละน้อย
เขาพยายายามแล้วที่จะไม่ร้องไห้ แต่เพราะอารมณ์หลากหลาย อย่างทั้งหวาดกลัว
ทั้งตกใจ แต่ในที่สุดหยางหยางก็มาช่วยเขาไว้ได้อีกครั้ง
แม้หิมะที่ทำให้หนาวเหน็บแต่ความอบอุ่นของเขามาหาแล้ว
“อี้เฟิง”
ชายผู้แข็งแกร่งที่สุดของตระกูลหยางส่งเสียงเรียกเจ้าของชื่อที่เหมือนกำลังตกอยู่ในภวังค์ความกลัวและหวาดหวั่น
ถึงแม้ริมฝีปากอิ่มจะเอ่ยเรียกเขา แต่แววตาคู่นั้นที่เขาหลงใหลยังคงฉายแววว่าตนนั้นกลัวสุดขีดสถานการณ์ในตอนนี้
หยางหยางไม่สามารถทำเหมือนเมื่อครั้งเก่า
ที่ละเลยไม่กอดร่างของคน ๆ นี้ ทำร้ายทั้งตัวเอง และ ดวงใจของตัวเองด้วย
“ผมมาแล้ว”
เมื่อมุ่งมาหา
ถึงตัวอี้เฟิง นั่งนั้นยังคงทรุดเข่าอยู่ที่นั่งเดิมไม่สามารถยืนขึ้นได้ แมวน้อยของเขาตัวสั่นไปหมด
หยางหยางมองไปรอบ ๆ หน้าบ้านมีแต่คนเจ็บคนตาย บรรยากาศไม่สู้ดี เขาสั่งการให้ลูกน้องเก็บกวาดเศษซากแห่งสงครามย่อม
ๆ นี้ หลังจากพาลูกน้องมาเสริมทัพเพื่อจัดการกับพวกลอบโจมตี
ไอ้พวกเวรนี่
มันหมาลอบกัด ไม่เคยเปลี่ยนเลย หยางหยางคิดในหัว
และพลางสวมกอดร่างตรงหน้า ที่แม้ไม่สะอื้นไห้แต่ดวงตาคู่สวยกลั่นน้ำตาหยดใสออกมาไม่หยุด
ร่างในกอดสั่นเทิ้ม แค่นี้ก็ทำให้เขาโกรธตัวเองมากพอแล้ว
ผิดเอง
ที่ไม่รอบคอบพอ ฉันมันโลภมากและก็ยังทิฐิ..เกินไป
หยางหยางที่นำกำลังเสริมตรงมาที่บ้านอย่างรวดเร็ว
หลังจากที่ฝั่งเขาเองก็ถูกโจมตีหนัก แบบไม่ต้องสืบ ไม่ต้องหาให้เหนื่อย
พวกมันบุกมาให้เห็นกันจะ ๆ กับตา แสดงตัวให้เห็น
วันนี้หยางหยางและทีมที่มีฝีมือ แบ่งกำลังกันดูแลทั้งที่บ้านและให้อารักขาเขา
ผู้นำตระกูลหยางที่ถูกโจมตีหลายทาง
ก่อนหน้านี้หยางหยางอยู่พื้นที่ก่อสร้างไซด์งานสำคัญที่จะเสียไปไม่ได้ ที่นั่นเป็นใจกลางรายได้หลักของตระกูล
รวมถึงเป็นจุดสำคัญที่จะสร้างความยิ่งใหญ่ต่อไปของตระกูล เป็นเครืออสังหาที่เขาลงไปดูแลอยู่เรื่อย
ๆ สลับกับที่อื่น
แต่จู่
ๆก็เกิดความผิดปกติ
การก่อสร้างต่อเติมหยุดชะงัก
และเป็นอย่างที่เขาคิด ตระกูลเฉินส่งคนมาทำลายการขยายอำนาจของเขา อีกหลาย ๆ
ที่ก็คงเป็นฝีมือการสั่งการจากตระกูลเฉิน ถึงพวกที่เป็นพันธมิตร เขาส่งลูกน้องไปจัดการที่อื่น
แต่ที่ที่เขาไปมันสำคัญที่สุด จะจึงต้องรุดหน้าไปเอง เป็นดังคาดอีกเรื่อง
นักฆ่าฝีมือดีมารวมกันทุกสารทิศ แต่มีหรือไอ้พวกนั้นจะแตะต้องเขาได้
ลูกน้องมีความสามารถของเขาปกป้องเขาด้วยชีวิต และแม้จะมีบางคนถึงตัวเขา
หยางหยางก็จัดการได้หมด ทั้งใช้วิชาศิลปะป้องกันตัวที่เรียนมาตั้งแต่เด็ก
และฝีมือการยิงปืนของหยางหยางไม่เป็นสองรองใครในวงการอยู่แล้ว
ไม่กี่นาทีก็ควบคุมสถานการณ์ตรงนี้ไว้ได้ หยางหยางให้ลูกน้องที่เก่งกาจที่เขาไว้ใจ
ดูแลตรึงกำลังตรงส่วนนั้น
มีแขกมาเยี่ยมก็ส่งแขกกลับให้ดี
ๆ ... เป็นคำสั่งที่บอกให้ฆ่าทุกคนที่หันปืนใส่
แต่ผู้นำตระกูลหยางก็คิดว่าเรื่องทุกอย่างจะสงบลงแล้ว
แต่เมื่อรู้เรื่องราวที่น่าตกใจอีกเรื่อง
เขาไม่คิดว่าตระกูลเฉินจะใช้วิธีเดิม ๆ
ตลบหลัง แหย่ให้เขาเดือดพล่านถึงขีดสุด นอกจากนั้นเขายังได้รับรายงาน
ในขณะที่กำลังรีบไปที่เกิดเหตุว่า พวกตระกูลเฉินที่ฟื้นกลับมาใหม่
มีทั้งกำลังคนที่น่าตกใจมากกว่าที่เคยประมาณ และอาวุธที่ร้ายแรงทรงพลัง
เขาไม่คิดว่าพวกมันจะมีเงินมากมายมาซื้ออาวุธใหม่ ๆ มา ทั้งกำลังคนที่เพิ่มขึ้น เขาตัดกำลังและเส้นสาย
ท่อน้ำเลี้ยงของมันทุกทาง หยางหยางจัดการไปหมดแล้ว
เขาก็ไม่คิดว่า
ไอ้พวกนี้จะกลับมากำลังมากจนเขาต้องเกือบเพลี้ยงพล้ำ
ไว้เขาจะคิดบัญชีกับพวกมันหลังจากนี้
แต่ก่อนจะสืบเรื่องนั้น
ดวงใจของเขากำลังตกอยู่ในอันตราย
เหตุการณ์ที่เขาไม่อยากให้มันเกิดขึ้น...
หลังจากรู้เรื่อง หยางหยางเร่งรีบกลับไปที่บ้าน เขาไม่ปล่อยให้ลูกน้องขับรถให้ด้วยซ้ำ ชายหนุ่มเร่งความเร็วถึงขีดสุด และเมื่อถึงบ้าน ก็เห็นภาพที่บาดหัวใจ กรีดเป็นแผลใหญ่
หลังจากรู้เรื่อง หยางหยางเร่งรีบกลับไปที่บ้าน เขาไม่ปล่อยให้ลูกน้องขับรถให้ด้วยซ้ำ ชายหนุ่มเร่งความเร็วถึงขีดสุด และเมื่อถึงบ้าน ก็เห็นภาพที่บาดหัวใจ กรีดเป็นแผลใหญ่
พวกมันกำลังจะฆ่าอี้เฟิง
ท่ามกลางบรรยากาศที่หนาวเหน็บ
หิมะที่กำลังจากฟากฟ้า มีหิมะที่กองอยู่ก่อนปกคลุมไปทั่วบริเวณของคฤหาสน์ตระกูลหยางโดยรอบ
แม้หิมะสีขาว แต่มันมีสิ่งอื่น ทั้งคนเจ็บคนตายทั้งอื่น ๆ
อยู่บนกองหิมะพวกนั้น
หิมะถูกชโลมด้วยสีของเลือด
เขาระลึกถึงเหตุการณ์เมื่อครั้งอดีต
ไม่..!
ลูกน้องของหยางหยางมาตรึงกำลังพร้อมที่จะให้ผู้นำอย่างหยางหยางสั่งการ
เขาตั้งสติไม่กลายเป็นคนบ้าไปเสียก่อน เฝ้ารอจังหวะ ลงดาบพวกมัน
และเมื่อสิ้นเสียงสั่งการที่สื่อการผ่านเครื่องมือสื่อสาร
หยางหยางออกคำสั่ง
ปัง!
กำลังของตระกูลเฉินในส่วนบ้านตายพร้อมกันหมด
จากการโจมตีหนหลังที่สั่งการโดยหยางหยาง และนัดหนึ่งในนั้น
มาจากปืนกระบอกหนึ่งที่อยู่ในมือของหยางหยาง แสกหน้าเข้ากลางหน้าผากของชายที่เป็นพวกของตระกูลเฉิน
หยางหยางที่มีฝีมือแม่นปืนชนิดหาตัวจับยาก แม่นราวจับวาง
เขาลั่นไกปล่อยกระสุนนัดนั้นออกไป
และไอ้คนที่กำลังจะใช้ปืนจ่อเข้าที่ขมับของอี้เฟิง ตายทันที
โชคดีที่อี้เฟิงไม่ทันเห็นตอนเขาฆ่าคน
เด็กคนนั้นหลับตาอยู่ และหลังจากนั้นเขาจะต้องรีบไปกอดปลอบดวงใจที่สั่นไหว
“ผมมาแล้ว...”
หยางหยางวิ่งย่ำหิมะไป
เร่งความเร็ว และเมื่อถึงตัวอี้เฟิง เขาโผเข้ากอดอีกฝ่ายไว้ ร่างที่ถูกกอดยังคงสั่นน้อย
ๆ แม้จะสงบลงมากแล้ว รอบตัวทั้งคู่ คนของตระกูลหยางกำลังเก็บกวาดพื้นที่ทั้งหมด
มีคนหนึ่งตรงมารายงานให้ผู้นำตระกูลให้ทราบ
“บนห้องของนายเคลียร์เรียบร้อยแล้วครับ
แต่ต้องซ่อมแซม”
“อืม”
เขารับคำ
เมื่อจบรายงานคนของเขาก็ไปทำงานต่อ เหมือนอี้เฟิงจะนึกอะไรได้ ร่างนั้นขืนตัว
ผลักอกหยางหยางออกจากกอด
“คุณ...
เสี่ยวอิ๋ง ผมเอาเสี่ยวอิ๋งแอบไว้ในกระเป๋าเดินทาง”
ร่างนั้นพูดไปพลางเสียงสั่น
บอกจบก็ลุกขึ้นตรงไปยังห้องนอนของหยางหยาง อี้เฟิงวิ่งตรงไป
มีคนของตระกูลหยางกำลังเก็บกวาดซึ่งมีทั้งคนทั้งเศษซากที่ถูกทำลายไป
และเด็กน้อยปลอดภัย
“ป๊าคะ
พี่อี้เฟิง!”
เธอพุ่งตรงมา
ทั้งคู่ที่มาถึงเกือบจะพร้อมกัน
แต่อี้เฟิงหยุดก้าวให้หยางหยางได้พบกับลูกสาวของเขาก่อน
เสี่ยวอิ๋งสวมกอดผู้เป็นพ่อและร้องไห้ออกมาเสียงดัง สะอื้นร่ำไห้อย่างไม่ปิดบัง
คนของตระกูลหยางออกจากห้อง ให้เวลาส่วนตัวตรงนี้ของผู้เป็นนาย หยางหยางโอบกอดเด็กน้อยที่กำลังกลัว
เขาต้องทำให้ลูกสาวมาผจญอันตรายครั้งที่เท่าไหร่แล้วกัน
แต่เด็กน้อยก็ยังยืนหยัดที่จะอยู่กับเขา หลังจากที่ถูกทำร้ายทั้งกายใจสารพัด
“ป๊าอยู่นี่แล้ว
ป๊ามาช่วยแล้วนะ”
“ฮึก..ค่ะ
ป๊า..ฮึก ของเสี่ยวอิ๋งเก่งที่สุดในโลก...ฮึก”
เด็กน้อยสะอื้นไปพูดไป
และปล่อยโฮออกมาอีกรอบ อี้เฟิงที่ทรุดนั่งอยู่ข้าง ๆ ก็พาลร้องไห้ไปด้วย
เขาดีใจที่เสี่ยวอิ๋งไม่ถูกพบเสียก่อนและถูกทำร้าย หยางหยางแม้มีบาดแผลฟกช้ำ
ก็ไม่ได้รับอันตราย...ส่วนตัวเอง ก็รอดตาย
“ดี..จังเลย..”
คุณครูคนเก่งที่พูดอะไรออกมาบ้าง
ปลดปล่อยความโล่งใจออกมา และในที่สุดก็กลั้นเอาไว้ไม่อยู่ อี้เฟิงที่ยังตระหนกตกใจ
และกลัวสุดขั้วหัวใจ
คิดว่าจะได้พบกับความตายแล้วในวินาทีนั้นแต่ชายหนุ่มที่กอดลูกสาวอยู่ตรงหน้า
เป็นผู้ช่วยเขาไว้ได้อีกครั้ง
ความอบอุ่นและความปลอดภัยนี้ หลี่อี้เฟิงจะไม่มีวันปล่อยมือไป ไม่มีทางจากไปแน่นอน
ความคิดของอี้เฟิงคืออยากกอดเขาให้นานที่สุด
และอยากให้เขากอดอี้เฟิงให้นานที่สุดเหมือนกัน
“มานี่..”
หยางหยางเผยมือที่ละจากการโอบลูกสาวข้างหนึ่ง
หันเบี่ยงตัวมาหาอี้เฟิง รวบตัวคุณครูที่สะอื้นตัวโยนมากอดไว้แนบแน่น
มือใหญ่ลูบหัวให้อี้เฟิงสงบ อีกข้างหนึ่งก็ตบหลังให้ลูกสาวเงียบด้วย
ตอนนี้มีดวงใจของเขาทั้งคู่กำลังร้องไห้
อาจจะเพราะทั้งยังตื่นกลัวและโล่งใจที่ปลอดภัยแล้ว
“ดวงใจของผม...ไม่ร้องไห้นะคนดี”
เหมือนเป็นคำพูดที่ปลอบทั้งสองคน
ในอ้อมกอดของเขา ประวัติศาสตร์วันหิมะแรกที่เขากลัว ..เขาไม่ทำให้มันเกิด เขาทำได้
มันไม่มีอีกแล้ว
ต่อจากนี้หยางหยางจะเข้มแข็ง
แข็งแกร่งและยิ่งใหญ่กว่านี้ จะไม่มีใครมาทำอะไรดวงใจของเขาได้อีกแล้ว
แม้ทั้งสองจะร้องไห้ในอ้อมกอดของเขา
สะอื้นตัวโยนทั้งคู่จนน่าเอ็นดู
แต่คนที่อยากปล่อยความอัดอั้นที่อดกลั้นออกมาทั้งหมด
น่าจะเป็นตัวเขาเอง
หิมะในวันนี้มันควรจะละลายหายไปได้แล้ว
-------------- ที่สุดของดวงใจ-----------------
“น้าหนิง
ยายหนูเป็นยังไงบ้างครับ”
เสี่ยวอิ๋งทั้งตื่นกลัว
ทั้งตกใจ จนเป็นลมล้มสลบไป เป็นเพียงเพราะความอ่อนเพลีย และตื่นเต้นมากเกินไป
เขาเชิญคุณหมอที่สนิทใจมาที่บ้าน เพื่อตรวจอาการยายหนู
ลูกน้องที่บาดเจ็บเองก็ได้รับการดูแลด้วย น้าหนิงเธอไม่ได้รับบาดเจ็บนอกจากถูกเศษกระจกบาดและถูกคนที่บุกเข้ามาต่อยเข้าที่ท้อง
เธออาสารับดูแลคุณหนูของเธอเอง
“อาการดีขึ้นแล้วค่ะ
คุณหมอให้ยาและน้ำเกลือตอนนี้หลับไปแล้ว”
หยางหยางได้รับรายงานจากคุณน้าผู้มีบุญคุณ
เขาโค้งให้คนที่เหมือนเป็นญาติผู้ใหญ่แม้ไม่เกี่ยวข้องกันทางสายเลือด
เธอรีบเข้ามาหาคุณชายของเธอและกอบกุมมือเจ้านายเอาไว้
“คุณชายคะ
มันเป็นหน้าที่ของน้าอยู่แล้ว ตอบแทนทุกอย่าง ตระกูลหยางให้น้ามามากค่ะ
แค่นี้ไม่เป็นไร..แต่คุณยังมีดวงใจของคุณอีกดวง ...”
ผู้นำตระกูลหยางหันไปทิศทางที่คุณครูคนเก่งนั่งอยู่
มีผ้าห่มผืนใหญ่คลุมที่ไหล่ พร้อมกับแก้วใบสวยในมือที่บรรจุนมอุ่นรสน้ำผึ้งไว้
เหมือนคุณน้าหนิงจะชงให้อี้เฟิงดื่ม
“อี้เฟิง”
ดวงตากลมโตทอดมองท่านประธานของหยางกรุ๊ปก่อนหลบตาไม่มอง
ดวงตาที่สวยงามอย่างที่เขาว่ามันบวมเบ่งขนาดนี้ เขาร้องไห้เหมือนเด็ก ๆ สะอื้นเสียงดังแข่งกับเสี่ยวอิ๋ง
ถึงจะอายแต่เขาอดกลั้นมามากพอแล้ว หยางหยางก็ยังกอดเขาที่ยังทำตัวเป็นเด็ก ๆ แบบนั้น
กอดนั้นทั้งอุ่นทั้งปลอดภัย
อี้เฟิงเสพย์ติดความอบอุ่นของชายหนุ่มนามหยางหยางมากกว่าสิ่งใด
“แผลของคุณเป็นยังไงบ้าง
“ ก่อนที่หยางหยางจะเอ่ยถาม อี้เฟิงกลับถามถึงอาการของอีกฝ่ายก่อน
เขาส่ายหัวเป็นเชิงบอกว่าไม่เป็นไร
ร่างสูงแข็งแรงไปยืนตรงหน้าคนที่นั่งขดอยู่บนโซฟา อี้เฟิงวางแก้วนมลง
และวาดวงแขนรอบเอวของชายหนุ่ม มือแกร่งทั้งคู่ลูบหัวอี้เฟิงปลอบใจ
ผู้นำตระกูลหยางคิดว่ายังต้องเข้มแข็งให้มากกว่านี้
แม้หยางหยางในตอนนี้เป็นปีศาจที่กำลังเดือดดาล และใกล้ระเบิดออกมาเต็มที แต่เขาจะต้องสงบกว่านี้เพื่อดูแลทุกคน
ดวงใจทั้งสองของเขากำลังบาดเจ็บและทุกข์ใจ
แต่มันก็ทำใจลำบากเหลือเกิน
----- ที่สุดของดวงใจ------
แม้ไม่แน่ใจว่าหลับไปตั้งแต่เมื่อไหร่
แต่ตอนนี้เขาถูกพาร่างมานอนอยู่ที่ห้องแปลกตา ไม่ใช่ห้องที่เขาคุ้น ถ้าจำไม่ผิดเหมือนจะเป็นเรือนรับรองเรือนเล็กที่อยู่ด้านหลังคฤหาสน์หลังใหญ่ที่ไม่ค่อยได้เปิดใช้การ
มีฝุ่นบ้างประปราย แต่มันไม่ถูกทำลายจนเสียหายหนักแบบตัวคฤหาสน์ที่อีกสองสามวันกว่าจะเข้าไปอยู่อาศัยได้
เขาคงจะต้องอยู่ที่นี่ซักพัก
คุณหยางหยางคงพามา
....
แต่
คุณหยางหยางล่ะ
ไปไหน ? อี้เฟิงคิดถึงอีกคน เขาติดหยางหยางแจเหมือนเด็ก
ยิ่งกว่าลูกสาวตัวน้อยของอีกฝ่าย หรือจะอยู่กับเสี่ยวอิ๋ง
เมื่อคิดได้แบบนั้นก็ตกลงใจว่าคงจะใช่
อี้เฟิงจึงนอนที่เดิม และหลับตาลง
เหตุการณ์ทุกเหตุการณ์ทั้งหมดที่เกิดขึ้นวนผ่านเข้ามาในหัว เขากลัวมากจริง ๆ
มันเป็นโลกที่อี้เฟิงไม่เคยเจอ คนอันตราย กระสุนปืน และความอันตรายหลายรูปแบบ
ชีวิตที่อยู่ในความเสี่ยงตลอดเวลา
เขานึกชมเสี่ยวอิ๋งที่อยู่มานานกว่าเธอยังดูเข้มแข็งกว่าอี้เฟิงที่สติแตกเมื่อได้พบหยางหยาง
มือข้างหนึ่งกำผ้าห่มแน่น ทำใจให้สงบ เขาจะต้องเข้มแข็งและแข็งแกร่งมากกว่านี้ อี้เฟิงจะไม่ยอมแพ้เสี่ยวอิ๋ง ไม่เป็นภาระ
อย่างน้อยก็ช่วยให้อีกฝ่ายสบายใจโดยที่ยิ้มให้และบอกว่าไม่เป็นไร
เพื่อให้หยางหยางพร้อมที่จะไปจัดการกับอะไรทุกอย่างโดยไม่ต้องกังวล
อี้เฟิงจะต้องเข้มแข็งเพื่อดูแลเสี่ยวอิ๋ง
และที่สำคัญ
คน ๆ
นั้นเชื้อเชิญให้เขาไปเป็นดวงใจแล้ว หยางหยางผู้นั้นแข็งแกร่ง
ดวงใจของเขาก็ต้องเช่นกัน
หืม
? อี้เฟิงอุทานดังในใจ ซักครู่หนึ่ง
เขารู้สึกแรงยวบตรงเตียงข้าง ๆ ตัว หยางหยางเปิดประตุเข้ามาในห้อง
ในตอนที่อี้เฟิงกำลังคิดมากไปไกล
เมื่อดวงตากลมสวยฉายแววออกมาก เมื่อลืมตาตื่น
ก็พบว่าเป็นคนที่คิดถึงอยู่ตรงหน้า ร่างบนเตียงขืนตัวเองลุกขึ้นมานั่ง
หยางหยางมองทอดอี้เฟิงด้วยสายตาบางอย่างที่ยากจะอธิบาย
“ผม.... “
เสียงทุ้มเอ่ยขึ้น ขาดเป็นห้วง ๆ ปลายเสียงที่ทิ้งท้ายสั่นจนคนฟังใจหวิว อี้เฟิงยกมือช้า ๆ
แตะที่ใบหน้าหล่อเหลาของอีกฝ่าย
“คุณหยางหยาง...”
อี้เฟิงร้องเรียกชื่อหยางหยาง แววตาของอีกฝ่าย อี้เฟิงเข้าใจแล้ว
เหมือนเขากำลังตกอยู่ในภวังค์
ในวังวนความหวาดวิตก กลัว และเสียใจ
เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นคงจะทำให้เขาระลึกถึงเหตุการณ์ที่เคยพลาดพลั้งจนทำให้เกิดบาดแผลใหญ่ที่น่ากลัว
เอาล่ะ!
อี้เฟิงกำลังพยายามทำในสิ่งที่อยากทำและเขาต้องทำให้ได้
“ผมน่ะ..ไม่เป็นไรแล้ว
แค่ขี้แยไปหน่อย คุณสบายใจได้ ผมปลอดภัยเพราะคุณ คุณกอดผมแล้ว
ผมดีขึ้นเพราะกอดของคุณ ยายหนูก็ด้วย เธอบอกว่าคุณเป็นฮีโร่ของคุณ เห็นมั้ยล่ะ”
แม้จะพูดเสียงเบาจนหยางหยางจะต้องหยุดลมหายใจเพื่อฟัง
แต่นั่นทำให้หยางหยางยกยิ้มมุมปากขึ้นมาเหมือนขอบคุณที่อี้เฟิงไม่เป็นไรและสดใสจนแสบตา
และเมื่อแววตาคมกริบกลับมาจากวังวนที่ตกลงไป
เพราะรอยยิ้มที่อี้เฟิงมอบให้ หยางหยางยกมือข้างหนึ่งแตะทับมือของอี้เฟิงที่แนบอยู่ที่ใบหน้าของเขา
ชายหนุ่มผู้ยิ่งใหญ่ ผู้นำของตระกูลหยาง
ในตอนนี้
เขากำลังร้องไห้
“ผมคิดว่าผมจะต้องเสียยายหนูกับคุณไป มันเหมือนกับวันนั้น ..เหตุการณ์ที่เกิด
มันเหมือนวันนี้ หิมะสีเลือดพวกนั้น ผม..”
หยางหยางเล่าเรื่องออกมาทีละน้อย
อี้เฟิงพยักหน้ารับตั้งใจฟัง รอยยิ้มยังทออยู่บนใบหน้าหวาน ชายหนุ่มหลับตาสูดลมหายใจ
อยากระบายทั้งหมดออกมา
“ผม..คิดว่ายังไงก็ต้องปกป้องทุกคนให้ได้
.. “
“คุณทำได้แล้วคุณหยางหยาง”
คำปลอบใจที่เป็นผล
หยางหยางยิ่งจมหน่วงลงในความรู้สึก น้ำตาของชายหนุ่มหยาดออกมาอีกหยด
เขาปลดปล่อยความทุกข์ใจทั้งหมด มันปลดล็อคสิ่งเป็นเหมือนคำสาปที่หนาวเหน็บในใจ
เพื่อนรักและคนที่รักถูกฆ่าท่ามกลางความหนาวของหิมะ
พวกตระกูลเฉินถึงขั้นลากพวกเขามาฆ่าและทิ้งศพจมกองเลือดและหิมะไว้หน้าบ้านของพวกเขา
หยางหยางระลึกถึงความทรงจำตอนนั้น เขาไปไม่ทัน ทุกคนในบ้านนั้นถูกฆ่า
หิมะชุ่มโชกด้วยเลือดไปทุกหนแห่ง ในบ้านก็ถูกชโลมด้วยสีเลือดเช่นกัน เขาเดินไปรอบ
ๆ บ้านของเพื่อนรักและคนที่รักที่สุดในอดีต ไม่พบใครเลย แต่เหมือนปาฏิหาริย์
เขาได้ยินมาจากที่ไกล ๆ เสียงเด็กร้องไห้ อยู่ไม่ไกลจากตัวบ้าน เด็กน้อยแบเบาะถูกห่มด้วยผ้าเนื้อดีอยู่ในตะกร้าขนาดเท่าตัวเล็ก
ๆ นั้น หยางหยางโอบอุ้มเด็กน้อยขึ้นมา
ทำไมเขาจะจำไม่ได้ โซ่คล้องใจของเพื่อนรักและคนที่เขารัก
ทั้งคู่สร้างครอบครัวที่มีความสุขด้วยกัน มีหนูน้อยคนนี้
แต่เจ้าพวกนั้นกลับใช้คนสำคัญของเขาเป็นเครื่องมือ
หลังจากวินาทีนั้นเขาก็กลายเป็นปีศาจฆ่าล้างทุกคน
และสัญญาว่าวงการที่มืดมนไร้หนทาง ความน่ารังเกียจนี้ควรทำให้หมดไป
แม้เขาจะอยู่ในวงการมาเฟียมา แต่เขาไม่ได้นึกหลงใหลในอำนาจที่ได้มาเลย
ทั้งหมดที่คิดก็ยังเป็นแค่ความคิด..เขาไม่รู้จะเริ่มต้นบอกอี้เฟิงอย่างไรให้อีกฝ่ายฟังแล้วไม่ทุกข์ไปกับเขา
แต่เหมือนอีกฝ่ายจะไม่คาดคั้นอะไรเลย
“คุณหยางหยาง..หากวันไหนที่คุณอยากบอกอะไรผม อะไรก็ได้ ผมรอที่จะฟังคุณอยู่เสมอ”
หยางหยางเอียงคอและยิ้มออกมาบ้าง
กุมมือที่อบอุ่นข้างนั้นของอี้เฟิงไว้แน่น ตอนนี้ถึงแม้ว่าเขาจะไม่พร้อมที่บอกอะไรกับอี้เฟิงเลย
สถานการณ์ที่เป็นอยู่และเรื่องราวที่อยากบอกมันจะปะทะกันรุนแรง
แต่อี้เฟิงก็เหมือนเข้าใจความรู้สึกของหยางหยาง
ทุกอย่างนี้....ซักวันหนึ่ง
เขาจะเล่าให้อี้เฟิงฟัง เล่าให้เหมือนเพียงเรื่องราวหนึ่ง ทั้งความโหดร้ายในเหตุการณ์ในอดีต
ความรักของเขาในตอนนั้น มันก็เป็นเพียงแค่ความทรงจำที่ทั้งดีและร้าย
ปัจจุบันของเขาเป็นหลี่อี้เฟิง
และยายหนูที่น่ารัก
หยางหยางทำใจมานานแล้วว่า
หากอดีตแก้ไขไม่ได้ ปัจจุบันที่อยู่ตรงหน้าเขาจะทำให้ดีเท่าที่ชีวิตนี้จะทำได้
“ขอบคุณ
อี้เฟิง..ขอบคุณ”
“อะไรกัน คุณก็พูดแต่คำนี้
ผมสิต้องพูดกับคุณแทน”
ประโยคย้อนคืนที่ติดตลก
เสียงหวานหัวเราะน้อย ๆ ออกมา หยางหยางยกเอามือนิ่มข้างนั้นที่กอบกุมไว้ยกมาจูบประทับ
เจ้าของมือข้างนั้นเบิกตาตกใจ แก้มแดงระเรื่อ
แค่นี้..ก็พอแล้ว
ในตอนนี้ เขาจำเป็นต้องไปสะสางหนี้แค้นนี้ทั้งหมด
“ผมต้องไปแล้ว”
“คุณจะไปไหน
ไม่ได้นะ!”
อี้เฟิงรั้งหยางหยางเอาไว้
เมื่ออีกคนบอกจะไป
“ผมจะกลับมา
ไม่นานหรอก”
“ไม่ได้นะ
คุณจะไปหาพวกนั้น คนที่ส่งคนมาทำร้ายพวกเราใช่มั้ย ไม่ได้!”
หยางหยางหน้านิ่วคิ้วขมวด
อี้เฟิงขัดใจเขาเป็นครั้งแรก กล้าขึ้นเสียงมาขัดใจเราเชียวหรือ
“คุณรู้ตัวใช่มั้ยว่าตัวเองตอนนี้เดือดพล่าน
เลือดร้อนขนาดไหน.. “ อี้เฟิงบอกให้ได้ยิน แต่นั่นเป็นสิ่งที่เขารู้ตัวอยู่แล้ว
“ผมจะไม่ให้คุณเป็นอะไรไปมากกว่านี้”
“แต่พวกนั้นต้องรอทำร้ายคุณแน่
ๆ เขาบุกมาถึงที่นี่ มาเพื่อทำร้ายพวกเรา คุณจะต้องโมโหมาก พวกนั้นรู้ดี”
หยางหยางถอนหายใจ
แตะมือข้างหนึ่งที่อี้เฟิงรั้งไว้ มากุมและบีบเบา ๆ เป็นเชิงให้อีกฝ่ายสงบใจลง
“ผมไม่เป็นไร”
“แต่คุณ..คุณในตอนนี้กำลังโมโห
คุณก็เสียคนไปมาก ทั้งยังบาดเจ็บอีก อย่าไปเลย
..อย่างน้อยคุณก็ควรจะเตรียมการแล้วไปหาก็ไม่สายนะ “
เด็กคนนี้... หยางหยางมองใบหน้าหวานที่เหมือนจะประมวลผลและเข้าใจสถานการณ์ดีกว่าที่เขาคิด
อี้เฟิงเอนตัวไปด้านหลังถอยห่างจากหยางหยาง เหมือนนึกอะไรได้
พูดอะไรออกไปเนี่ยเรา! เพราะคิดว่านั่นน่าจะดีเลยพูดออกไป
แต่อี้เฟิงคิดว่าเหมือนตัวเองสู่รู้ ไปขัดไม่ให้หยางหยางไป
ก็จริงที่อยากให้เขาอยู่ด้วยนาน ๆ แต่ถึงจะดูสงบลงแล้ว ไม่ดูน่าเป็นห่วงเหมือนเมื่อครู่ก่อนหน้า
แต่อารมณ์เดือดพล่าน ความโมโหสุดขีดนั่นยังอยู่ไม่ผิดเพี้ยนแน่ ๆ หากหยางหยางออกไป
ตอนนี้ เพราะว่าพวกเราที่เขาต้องปกป้องปลอดภัย เขาจะอาละวาดได้ง่าย
อี้เฟิงคิดให้ลึกไปว่า นี่อาจจะเป็นเรื่องที่คนพวกนั้นรออยู่
“รอให้อารมณ์เย็นก่อน
ให้คุณเย็นกว่านี้ มีสติ แล้วผมจะปล่อยไป ลูกน้องคุณยังเจ็บอยู่มาก
พวกนั้นมีอาวุธน่ากลัวอยู่ด้วย จะไปทั้งที่คุณยังเป็นแบบนี้น่ะหรือ....”
พอพูดจบก็ถอนหายใจ
อี้เฟิงคิดว่าเดี๋ยวต้องจะโดนดุว่าเขามันจะไปรู้อะไร คน ๆ
นั้นอยู่วงการนี้แต่อี้เฟิงเสียด้วยซ้ำที่เป็นคนนอก ไปแนะไปบอกเขา
หยางหยางจะโกรธที่ไปยุ่งเรื่องที่ไม่ควรยุ่งก็ถูก เขาฟังก็บ้าแล้ว .แต่อี้เฟิงแค่อยากจะบอกความคิดที่ตั้งใจอยากจะพูด
แค่วิเคราะห์ด้วยสติที่กลับมาบ้างแล้ว
“งั้นหรือ..?”
หยางหยางหันกลับมาหาอี้เฟิง เลิกคิ้วประหลาดใจที่อี้เฟิงในตอนนี้ดูมีสติคิดอะไรได้มากกว่าเขาเสียอีก
ความทิฐิและความโกรธบังตาแท้ ๆ อี้เฟิงที่เป็นคนใจดีและอารมณ์เย็นกว่าเป็นนิสัยอยู่แล้ว
เมื่อได้สติ เขาจะคิดวิเคราะห์อะไรได้ดี แถมความเป็นคุณครูของเขาจากทั้งวิญญาณในตัวทั้งการเรียน
อี้เฟิงเลือกใช้ น้ำเสียงและถ้อยคำที่จะทำให้หยางหยางใจอ่อนและอารมณ์เย็นลง
คนเป็นครูก็ต้องใจเย็นแบบนี้ถึงจะคุยกับเด็กมันรู้เรื่อง
“เข้าใจแล้วคุณครู” สรรพนามที่เสียงทุ้มเอ่ยเรียกอี้เฟิง
ทำให้รู้ว่าเขาคิดอะไรบางอย่างได้และเย็นลงบ้างแล้ว ใบหน้าหวานส่งยิ้มให้
แอบลอบถอนหายใจ โล่งอกที่อีกฝ่ายไม่ใจร้อนออกไปตอนนี้
“คุณคิดว่าอีกฝ่ายจะดักรอผมที่สติขาดงั้นหรือ
“
“ก็..คือ ผมอาจจะสู่รู้ไปหน่อย
แต่ก็เดาว่าแบบนั้น คุณที่เห็นสงบๆ แบบนี้แต่พออารมณ์ร้อนล่ะน่ากลัว
เผลอทำอะไรแบบไม่ทันฉุดคิด ผมกลัวว่ามันจะทำให้คุณเป็นอันตราย
แถมยังมีคนของคุณอีกนะ”
“ก็เป็นความคิดที่ไม่เลว
..”
หยางหยางกลับมานั่งที่เตียง
ข้าง ๆ ร่างของคุณครูที่เขาเอ่ยเรียก เหมือนอีกฝ่ายจะรับรู้ว่า
แววตาของหยางหยางเปลี่ยนไปแล้ว
“ถ้าอย่างนั้น
คุณครูคิดว่าผมควรทำอย่างไร”
“ก็..เอ่อ..ยังไงดีล่ะ
คุณก็รอ... เตรียมตัว
ก็ค่อยไปตอนที่วางแผนอย่างรัดกุมแบบผมดูในหนังก็เตรียมการไปให้ดี ๆ
ก็ชนะ..เอ่อ..ล่ะมั้งนะ”
พูดไปก็ยกมือยกไม้ทำตัวไม่ถูก
เพราะไม่ใช่เรื่องที่คุ้นเคย แม้จะถูกถามก็ตอบแทบไม่เป็นประโยค อ้างโน่นอ้างนี่
หยางหยางเห็นอากัปกริยานี้ น่ารักจนห้ามใจไม่ไหว
“อ๊ะ!”
“ผมชอบใจจริง
ๆ เวลาอยู่ใกล้คุณ คุณทำให้ผมรู้สึกดีแถมยังทำให้ผมใจเต้นได้ตลอดเวลา”
“ห๊ะ? “
ขณะที่อี้เฟิงกำลังจริงจัง
แล้วคน ๆ นี้ล่ะ! อี้เฟิงค้อนผ่านสีหน้า แววตาที่เคร่งเครียดและดุดันเมื่อครู่หายไป
อี้เฟิงก็ดีใจอยู่หรอก แต่ที่กลับเป็นหมาป่าเจ้าเล่ห์นั่งอยู่ตรงหน้าเนี่ย น่ากลัวกว่าเมื่อครู่นี้อีก
“แบบนี้สิ
ถึงจะสมกับเป็นดวงใจของผม เข้าใจสถานการณ์ตอนนี้แล้วสินะ”
“ก็เอ่อ..อยู่มาก็ตั้งนาน
เสี่ยงตายก็หลายครั้ง ก็ต้องรับรู้อะไรบ้างสิครับ”
คุณครูบอกเสียงเบาจนหยางหยางจะต้องโน้มตัวมาฟังอีกรอบ
พูดเสร็จอี้เฟิงก็เบี่ยงตัวหลบออกมา
ในเมื่อไม่ให้ออกไปไหน
หยางหยางก็ยังพอมีเวลาอยู่บ้าง ก่อนที่จะไปจัดการ ในช่วงเวลานี้ เขาก็ควรใช้มันให้เป็นประโยชน์
เล่นกับแมวตัวนุ่มนิ่มเสียหน่อยแล้วกัน
เขามองอีกฝ่ายที่ทำตัวน่ารัก
หยางหยางอดกลั้นไว้ไม่ไหวอีกต่อไป
ทั้งแสนดี
ทั้งน่ารักแบบนี้
ถ้าวันนี้เขาไม่ได้คน
ๆ นี้มาเป็นของเขา ก็อย่าเรียกว่าเขาเป็นผู้นำตระกูลหยางอีกเลย
“อี้เฟิง..”
แต่ไม่ทันจะลุกหนีไปไหน มือแกร่งก็รั้งเอวของร่างนุ่มนิ่มไว้ทัน
รวบเข้ามาไว้ในอ้อมกอด วงแขนกอดกระชับให้แน่น และทิ้งร่างพาทั้งสองคน
นอนแนบไปกับเตียง
“ดะ ..เดี๋ยว คุณหยางหยาง..”
“พร้อมที่จะเป็นดวงใจของผมอย่างสมบูรณ์หรือยัง..?”
ถามแบบนี้แล้วด้วยสายตาแบบนี้ ใครมันจะปฏิเสธลงวะ พ่อคุณ...
อี้เฟิงโอดครวญในใจ มือแกร่งเริ่มไต่ไล้มาตามผิวเนียนลื่นมือ
และซุกซนเข้าไปใต้ร่มผ้า คุณครูเริ่มรู้สึกจั๊กจี้ขึ้นมา
จึงเบี่ยงตัวหลบไม่ให้โดนกันง่าย ๆ มือของชายหนุ่มร้อนเหมือนไฟลน
“มะ.ไม่รู้
ผมไม่รู้”
แม้ตอบปฏิเสธก็ไม่รอด
ร่างแข็งแรงกักขังด้วยวงแขนของเขา อี้เฟิงจะหลบไปไหนก็ไม่ได้แล้ว
มือข้างหนึ่งที่ก็ซุกซนพอกัน หยางหยางกดข้อมือตรึงร่างของอี้เฟิงไว้กับเตียง
ท่อนล่างเขาใช้ขาของตัวเองแทรกผ่านระหว่างกลางขาสองข้างของอี้เฟิง
“จะไม่รู้ไม่ได้นะ
อี้เฟิง คุณทำผมมีอารมณ์ขึ้นมาแล้ว”
“อะไรกันเล่า
ไม่ได้ทำอะไรเลยนะ!”
“หน้าตาน่ารัก
ๆ ของคุณ ยิ้มของคุณ ผิวสวย ๆ ก็ด้วย ดวงตาอ้อนเป็นแมวน้อยแบบนี้
วันนั้นที่คุณมาขอให้ผมกอด ผมไม่ปล้ำคุณจมเตียงไปก็ดีเท่าไหร่ “
แววตาของหยางหยางตอนนี้
อี้เฟิงสาบานเลยว่า ไม่เคยพบเจอคนที่อันตรายจนอยากหนีและคนที่น่าหลงใหลจนอยากกอด
คนที่ทำให้รู้สึกทั้งสองแบบนี้ไปพร้อม ๆ กัน ไม่เคยเจอเลย แรงของอี้เฟิงสู้หยางหยางไม่ได้เลย
ทั้งร่างกายที่แข็งแรง กล้ามเนื้อนั้น กับอี้เฟิงที่ไม่ได้ออกกำลังกายเลย
กำลังอะไรจะไปสู้เขา รอยยิ้มเจ้าเล่ห์ผุดขึ้นบนใบหน้าหล่อ
มือข้างหนึ่งที่ยังดิ้นได้
อี้เฟิงใช้มันแตะที่แก้มของหยางหยางและปัดให้ใบหน้าหล่อและร้ายราวปีศาจในตอนนี้หันไปทางอื่น
“อย่ามา..ทำ..รุ่มร่ามนะ!”
“แล้วจะให้ผมทำยังไง
ให้ปล่อยคุณไปหรือ ตอนนี้ ? ไม่ได้มั้งคุณ”
“หยุดเลยนะ
เดี๋ยวก็มีคนมาเห็นเข้าหรอก”
“มันจะเห็นกันยังไงก็ช่างปะไร
ผมเป็นเจ้าของบ้าน”
“ก็อายบ้างได้มั้ยเนี่ย!”
ในขณะที่สนทนากัน เป็นมือซุกซนของหยางหยางที่ไต่เข้าไปถึงร่มผ้าใต้กางเกง
เขาพยายามปลุกเร้าอารมณ์สวาทให้อี้เฟิงคล้อยตาม อี้เฟิงกำลังจะบ้าตายอยู่แล้ว
ถ้าลองเขาทำมากกว่านี้สิ
ไม่ช้าอี้เฟิงก็คงเป็นคนรั้งเขาแทนที่จะไล่ปาว
ๆ เหมือนตอนนี้
“ทำไมล่ะครับ?
คุณไม่อยากให้ผมกอดแล้วหรือ”
“ไม่ใช่แบบนั้นว้อย
คนบ้า! กอดได้แต่ไม่ใช่แบบนี้ แล้วมือก็หยุดซักทีได้มั้ย!”
อี้เฟิงทั้งขืนตัวออก
ทั้งเอ่ยเสียงด่า แต่มือซุกซนที่ละจากการตรึงร่างอี้เฟิงเข้าไปถึงจุดต้องห้ามที่อี้เฟิงคาดโทษหยางหยางไว้ในใจ
ส่วนอ่อนไหวของอี้เฟิงกำลังถูกปลุกปั่น อารมณ์ถูกจุดขึ้นมานับตั้งแต่นี้
ขาเรียวยกขึ้นตามสัญชาตญาณ มวลในท้องไปหมด
ใบหน้าหวานเริ่มขึ้นสีเพราะอารมณ์หวามถูกจุดเรื่อย ๆ
มือแกร่งข้างนั้นไม่หยุดเลยแม้แต่วินาทีเดียว จนอี้เฟิงเหนื่อยจะห้าม
“....อื้อ...พอแล้ว..ไม่นะ”
“แน่ใจหรือ
ว่าไม่ต้องการผม”
ตรงกันข้ามกับที่อี้เฟิงร้องบอก
ปฏิเสธแต่มือข้างที่ไม่ถูกพันธนาการกลับคว้าชายเสื้อเขาไว้ หน้าไม่อายเลยอี้เฟิง
ที่ไม่ยอมให้อีกฝ่ายทำอะไรตามใจแบบนี้
เพราะมันน่าอายต่างหาก มันพูดไม่ถูก
คล้ายกับเขายังไม่กล้าพาให้ตัวเองมาจุดนี้แต่ตอนนี้มันมาถึงเร็วจนห้ามไม่อยู่
มือข้างนั้นที่ยังวุ่นวายอยู่ใต้กางเกงชั้นในของอี้เฟิง
ขยับเขยื้อนให้เร็วขึ้น ปลุกความสวาทขึ้นมา ไฟถูกจุดเร่งให้เร่าร้อน
ร่างสวยบิดไปมาเพราะความหวาบหวาม เสียงหวานหลุดครางให้ได้ยิน
หยางหยางแทบจะทนไม่ไหวอยู่แล้ว
“อ๊ะ..อ๊า
พอเถอะ..คุณหยางหยาง..พอ”
“ผมหยุดไม่ได้แล้ว..”
ร่างแกร่งที่อยู่ด้านบนทาบร่างอี้เฟิงอยู่โน้มมากระซิบใกล้
เสียงทุ้มสะท้านใจทำให้ยิ่งใจอ่อนยวบ...
ยิ้มร้ายบนใบหน้าหล่อเหลาถูกจุดให้เห็นอี้เฟิงมองดูคนด้านบนแล้ว
ยิ่งใจสะท้าน อ่อนไหว อ่อนยวบเหมือนถูกไฟลนไปทั้งกาย
แม่ง.. อี้เฟิงสบถในใจ
“คุณ..อื้ม..มันบ้า..เอาแต่..ใจ...”
“ฮึ
ครับ..ผมก็คิดแบบนั้นล่ะ “
หยางหยางหัวเราะชอบใจ
และจัดการให้แมวน้อยใต้ร่างไร้ทางขัดขืนอย่างที่ว่า มือแกร่งรูดรั้งส่วนอ่อนไหวของอี้เฟิงจนปลายยอดเปียกชุ่ม
ซึมผ่านกางเกงชั้นในออกมา พอถึงจุดหนึ่ง ๆ เช่นนี้ อี้เฟิงทั้งครางหวานทั้งบิดร่าง
ยิ่งเห็นหยางหยางก็ยิ่งอยากขย้ำเรือนร่างนี้ให้จมกอดเขาอย่างที่คิดไว้จริง ๆ
“อ๊ะ..”
เสียงหวานครางออกมาอีกเพราะหยางหยางจัดการกระตุ้นความหวามอีกครั้งหลังจากถอดเสื้อผ้าเกะกะบนร่างของอี้เฟิงออกไป
และเขาก็จัดการกับเสื้อเชิ้ตบนกายกำยำของเขาเองด้วย เรือนร่างสวยงามปรากฏสู่สายตาหยางหยาง
ยิ่งจุดอารมณ์มากเท่าตัว อี้เฟิงอายจนแทบแทรกหมอนหนีไปเลย
“อย่ามองแบบนั้น..อื้ม
ได้มั้ย”
“คุณ..น่ารัก”
หยางหยางบอกแบบนั้นทั้งมือข้างหนึ่งก็ยังวุ่นวายกับด้านล่างของอี้เฟิงไม่จบไม่สิ้น
เมื่อสาแก่ใจจนได้ยินเสียงครางหวานๆ ของอี้เฟิงอีกรอบเขากลับมาสนใจเรือนร่างสวย
ริมฝีปากร้อนประทับจูบ รอยทุกที่ผ่านไป เป็นร่องรอยที่บอกว่าคน ๆ นี้เป็นของเขา
ยิ่งมากรอยยิ่งบอกถึงความหวงได้เป็นอย่างดี
“อย่า..มัน
อ๊ะ..”
คนที่กำลังเหมือนคนบ้าที่อยู่บนกายอี้เฟิง
เขาเร่าร้อนเหลือเกินจนอี้เฟิงไม่สามารถขัดอารมณ์คน ๆ นี้ ได้ ยิ่งมองสบตาก็ยิ่งทำให้อีกฝ่ายได้ใจ
เพราะอี้เฟิงคิดว่าเขาต้องเผลอทำหน้าตาแปลก ๆ ออกไปแน่ ๆ เมื่อครู่ก็เห็นเหมือนหยางหยางยิ้มเจ้าเล่ห์ให้เห็นอีกแล้ว
แม้อยากจะดึงแก้มให้ยืดไปเลยแต่ทำได้ซะที่ไหนกัน มือไม้อ่อนไปหมด
“อี้เฟิง..”
“ไม่..อ๊ะ
อื้ม.. ไม่ต้องมาเรียก”
โดนโกรธซะแล้ว
ปล้ำทั้งโกรธ ๆ แบบนี้ก็ดี เร้าใจไปอีกแบบ หยางหยางชอบใจ
อี้เฟิงจะว่าเขาอย่างไรก็ช่าง เขากำลังจะขึ้นสวรรค์เพราะอี้เฟิง
ถึงคนน่ารักจะห้ามเขาก็ไม่สนใจแล้ว ใครจะไปอดใจไหวอยู่ เพราะใบหน้าหวาน
ดวงตาออดอ้อนแบบนั้นแท้ ๆ เขาอดกลั้นมานานพอแล้ว
คน ๆ นี้เป็นดวงใจของเขาแล้ว
ก็ต้องทำตามเจ้าของดวงใจสิ
“หวาน..คุณหวานไปหมดทั้งตัว
..อืม”
เหมือนจากจะร้องขัดแต่เพราะหยางหยางจูบประทับที่แถว
ๆ หน้าอก ดูดดึงจนเป็นรอยสีกุหลาบก็ทำให้เกิดเสียงครางออกมาแทน
ไม่รู้ตอนนี้อี้เฟิงจะด่าเขายาวยืดไปถึงไหน คุณครูคงเทศนาเขาในใจ
แต่ไว้ทำโทษทีหลังนะ
“ถือว่า..เป็นการติวพิเศษอย่างที่ผมบอกไว้นะ”
“..มะ..อ๊ะ
..เกี่ยวกันตรงไหนเล่า—“
เสียงขาดหายไป
เพราะหยางหยางโถมน้ำหนักโน้มตัวเองมาจูบย้ำที่ริมฝีปากอวบอิ่ม
กำลังจะเถียงเขาหรือก็จูบเสียเลย ทั้งคู่แลกเปลี่ยนความหวานสุดล้ำลึกท่ามกลางความเร่าร้อน
เมื่อถอนจูบออกมา คุณครูคนเก่งหอบจนตัวโยนแต่ไม่ลืมจะค้อนคนบนร่างด้วยสายตาคาดโทษ
หยางหยางคิดว่าจบกิจกรรมบนเตียงวันนี้คงโดนข่วนหน้า โดนโกรธแน่ ๆ
“ผม..จะเริ่มแล้วนะ”
เมื่อพูดจบ
อี้เฟิงจะรั้งห้ามก็ไม่ทัน เขากลัวอีกเรื่องหนึ่งก็คือความเจ็บปวดตรงนี้นี่ล่ะ
ไม่เคยมาก่อน มันจะไปคาดได้อย่างไรว่าจะเจ็บถึงประมาณไหน จินตนาการไปทั้งอารมณ์หวามแบบนี้
ใจมันมีสองทางทั้งชอบทั้งอยากปฏิเสธ เดาใจตัวเองไม่ถูกแล้ว
“.ดะ..เดี๋ยว..อ๊ะ
อื้อ.อ๊ะ.”
หยางหยางไม่ปล่อยให้คุณครูได้พักหายใจหายคอ
เขาใช้มือเดียวปลดเปลื้องตะขอกางเกงอย่างรวดเร็วเท่าอารมณ์ที่ถูกพาไป เพราะเขาสะกดอารมณ์ทั้งหมดไม่อยู่เขามันเป็นพวกใจร้อนมาตั้งแต่ไหนแต่ไร
ท่าทีที่ดูขรึมที่แสดงออกไปก็เพราะต้องดูแลลูกน้องวางมาดและท่าทีกับคนในปกครอง
ตัวจริงของเขาก็คล้ายกับพวกสัตว์ป่าที่หิวกระหายและตะกละตะกลาม
“ไม่ไหว..อื้ม...ร้อน
...เจ็บด้วย..ฮึก..”
“ผ่อนคลายหน่อยคุณครู
อีกไม่นานเดี๋ยวก็ได้ไปสวรรค์กับผมแล้ว..”
เขาบอกคนใต้ร่างไปแบบนั้น
แต่อีกคนก็ไม่เห็นด้วยกับเขาเลย อี้เฟิงยกมือข้างที่ว่างยกตีระบายความเจ็บปวด และเปลี่ยนเป็นรั้งกอดเขาแทน
ข่วนหลังจนแสบไปหมด หยางหยางยิ้มออกมามีความสุขที่สุดในตอนนี้
ถึงอีกคนจะโกรธก็เถอะ ให้อภัยผมนะ คุณมันน่ารักเกินไป
เพลงรักเร่าร้อนขึ้นเรื่อย
ๆ หลังจากที่สอดใส่ความคับใหญ่เข้าไปในร่างสวย หลอมรวมเป็นคน ๆ เดียวกัน
หยางหยางก็เริ่มขยับช้า ๆ และเร่งจังหวะ ทำเอาคนในอกร้องไม่เป็นภาษา ครางหวานพาให้เขาอารมณ์ยิ่งพุ่งทะยาน
ร่างที่แนบหลังอยู่บนที่นอนดิ้นเร้าบิดไปมาเพราะสุขสม
“อื้อ..อ๊ะ
..อ๊า มัน..อืม”
“อา..คุณ..
อย่าเกร็งเกินไป..อืม ใจเย็น ๆ นะแมวน้อย”
อี้เฟิงปรือตามองอีกคน
แต่อีกคนเห็นดวงตาคู่สวยฉ่ำน้ำตาหวานหยด ยิ่งทำให้เขาเร่งจังหวะไปจนสุดทาง
พากันไปถึงสวรรค์ปลดปล่อยทั้งคู่จากความทรมาน
และสุขสมอย่างเต็มที่
“ฮึก.. มัน..มันร้อน..ฮึก”
หยางหยางเผลอปลดปล่อยน้ำขุ่น
ๆ นั้นไว้ในร่างของคุณครูเสียแล้ว โดนอีกฝ่ายมองโกรธเอาด้วย
แต่อีกฝ่ายก็ทำเขาเลอะเปรอะไปทั่วหน้าท้องเหมือนกัน อี้เฟิงที่สุขสมไปพร้อมกับเขา
ปลดปล่อยล้นเอ่อออกมาจากก้นบึ้ง พอหยางหยางบุ้ยใบ้สายตาให้มอง
อี้เฟิงเห็นผลงานตัวเองก็เบี่ยงหน้านหนี แต่หยางหยางเร็วกว่า
จึงประทับจูบเร่าร้อนให้อี้เฟิงละลายอีกครั้ง
“พอ..แล้วนะ..
มันเจ็บ”
พูดแบบนี้เหมือนขอกันอีกรอบเถอะคุณ... หยางหยางโอดในใจ
เขาอยากทำให้วันนี้สุขสมกว่านี้แต่เจ้าของเรือนร่างสวยน่ามองที่ตอนนี้เต็มไปด้วยคราบน้ำรักและรอยสีกุหลาบทั่วร่างดูเหน็ดเหนื่อย..เขาเองก็เผลอใช้แรงไปเยอะ
วันนี้เกิดเรื่องราวมากมาย ทั้งความยั่วสวาทของร่างที่อ่อนยวบในอกตอนนี้
ทำให้เขาเอาอารมณ์มาลงกับกิจกรรมบนเตียง คุณครูที่ถูกเขากระทำแบบนี้ ถ้าถูกโกรธก็ไม่แปลก
แต่คนยิ้มสวยตากลมผล็อยหลับไปแล้ว เขาจัดการทำความสะอาดเบื้องต้นให้อีกฝ่ายนอนได้ถนัด
ๆ และสบายตัว เขาเองก็ขอตัวไปจัดการอารมณ์ที่ยังไม่หมดไปในห้องน้ำต่อ
“วันนี้ผมจะทำตามที่คุณขอ
“
อี้เฟิงขอไม่ให้เขาไปวันนี้
ก็จะทำตามแต่อย่างไรก็ต้องไป แค่วันนี้กอดให้อี้เฟิงรู้สึกอุ่นใจแล้วก็ไป
ก็เพียงเท่านั้น
----------------ที่สุดของดวงใจ-----------------
“โอ๊ย..เจ็บ”
พอลืมตาตื่นความรู้สึกแรกเลยก็คือปวดเจ็บไปทั้งร่าง ทั้งส่วนบนส่วนล่าง จำเหตุการณ์เมื่อวานได้
อย่างกับสงครามย่อม ๆ บนเตียงนี่
คุณหยางหยางนั่นบ้าที่สุดและ..แถมยังร้อนแรงแถมเป็นคนตะกละมากเสียด้วย
ยิ่งคิดก็ยิ่งอาย..แบบนี้อย่าว่าแต่หน้าตาบ้านั่นเลย
เสี่ยวอิ๋งกับเสี่ยวอ้ายก็ยังไม่กล้าจะมอง
ได้สติเลิกคร่ำครวญ
เขาหันไปรอบห้อง ร่างของอี้เฟิงถูกเช็ดทำความสะอาดไปบ้างแล้ว
แต่ด้านในยังเอาน้ำนั่นที่ถูกหยางหยาง..เอ่อ...ฝากเอาไว้ มันยังคั่งค้างอยู่ภายใน ไว้จะไปจัดการทีหลัง
ตากลมโตมองไปรอบ ๆ อีกครั้ง ค้นหาบางสิ่ง
เขาไปแล้วหรือ... ดวงตาคู่นี้หลุบลงต่ำนึกคิดถึงอีกคน
“คิดถึงผมล่ะสิ.”
แต่ไม่ทันจะได้คิดถึง
เมื่อจบประโยคที่คิดในใจ อี้เฟิงก็ได้ยินเสียงทุ้มเจ้าของเสียงคือคนที่ทำเขาทั้งโกรธทั้งเขินอายเมื่อวานนี้
“เอาอาหารเช้ามาเสิร์ฟครับ
คุณครู”
ตากลมโตไล่เลียงมองอีกฝ่ายแบบระแวดระวัง
หยางหยางนั่งลงใกล้ ๆ แต่อี้เฟิงพยายามขยับหนี
ซึ่งหยางหยางก็ไหวไหล่เป็นเชิงบอกว่าแค่นี้น่ะ เดี๋ยวก็ไล่จับทันแต่อี้เฟิงไม่สนใจ
กลับไปมองอาหารเช้าสนใจเสียเต็มประดา
เมื่อวานหมดแรง
เพลียจนสลบ ตื่นมาก็หิวสุด ๆ ไปเลย...
อี้เฟิงตวัดสายตาไปมองพลางคาดโทษชายหนุ่มข้างตัว
โดนโกรธจริง ๆ
ซะแล้วสิ... หยางหยางคิดไป แต่ไมได้สำนึกผิดอะไร แถมยังทำตัวเจ้าเล่ห์อีก
“อรุณสวัสดิ์ครับ” ในชณะที่อี้เฟิงก้มลงวุ่นกับอาหารเช้า
หยิบเบเกอร์รี่ชิ้นหนึ่งมากิน หยางหยางก็ประทับจูบที่หน้าผากแผ่วเบา
ทำให้คนถูกจูบอบอุ่นไปทั่วร่าง
ให้ตายเหอะ... อี้เฟิงโอดในใจหลายรอบ อยากจะโกรธคน ๆ นี้ มาก แต่โกรธไม่ลง
ปล้ำคนอื่นเขาแล้วก็มาทำตัวน่ารักใส่
“คุณมันแย่ที่สุด”
“ปล้ำแฟนตัวเองมันผิดตรงไหน”
“ผมไปตกลงกับคุณตั้งแต่เมื่อไหร่”
“คุณน่าจะเข้าใจคำว่า
‘มาเป็นดวงใจ’ ของผมดีนี่”
ถูกย้อนแบบนั้นก็ยิ่งโกรธตัวเอง
เพราะไปตอบตกลงหยางหยางแท้ ๆ เข้าตัวเองจนเถียงไม่ได้
อี้เฟิงโกรธหน้าดำหน้าแดงแต่ไม่มีแรงสู้เหมือนแมวเปื่อยที่เฉามือคนเลี้ยงแมว
ตอนนี้ก็ทำได้แค่เติมพลังกับอาหารเช้านี่
และปล่อยให้หยางหยางมองด้วยสายตาเหมือนจะกินเขาได้ต่อไป อี้เฟิงไม่สนใจแล้ว!
“เลิกมองได้มั้ย
กินไม่ลง!”
“ดุจัง
โกรธผมหรือ”
“ใครจะไม่โกรธล่ะหา”
“ผมแค่อยากทำให้มันสมบูรณ์ก็แค่นั้น”
ตานี่...
อี้เฟิงยกแก้วนมที่ถูกเขาดื่มเครื่องดื่มอุ่น ๆ ในนั้นหมดแล้ว
ทำท่าที่จะเอาอันนี้ล่ะฟาดหัวคนขี้แกล้งนี่ซักที
แต่หยางหยางก็ทำท่าเป็นเบี่ยงตัวหลบทั้งที่อี้เฟิงยังไม่ทำอะไรแท้ ๆ
“ออกไปห่าง ๆ
เลย”
“ไม่เอาล่ะ
ก็คุณบอกผมเองว่าไม่ให้ไปไหนนี่”
“ไม่ใช่แบบนี้
ตอนนี้สถานการณ์เปลี่ยนไปแล้ว ออกไปเลย!”
พอกินเสร็จอี้เฟิงก็ยกถาดส่งคืนผู้นำตระกูลหยางที่ยกยิ้มมีความสุขจนน่าหมั่นไส้
มองหาเสื้อผ้าของตัวเองที่ถูกถอดทิ้งไป หยางหยางนำมันมาวางใกล้ ๆ แล้ว
เขาสวมใส่มันคืนอย่างระวัง ทีละชิ้นใต้ผ้าห่ม อีกคนก็มองอยู่ไม่เปลี่ยนจุดวางสายตา
แอบอมยิ้มขำไปด้วย สนุกไปใหญ่
“ให้ตายสิ “
อี้เฟิงอุทานเบา ๆ กับตัวเอง กระฟัดกระเฟียดในใจ
รู้สึกหมั่นไส้อีตามาเฟียผู้ยิ่งใหญ่นี่เหลือเกิน แต่ไม่ทันสังเกตอีกฝ่ายที่มองเขาในอีกอารมณ์และอีกแววตา
“อี้เฟิง..”
พอเปลี่ยนเสียงจริงจัง
คนที่ถูกเรียกตกใจ หันไปมองด้วยความประหลาดใจ สงสัยในน้ำเสียงนั้น
“ผมจะไม่อยู่บ้าน..จะไปคืนนี้
ผมฝากยายหนูด้วย”
ไม่เหมือนเมื่อครู่ที่ยังมีแววตาขี้เล่นหยอกล้อ
หยางหยางเปลี่ยนสีหน้าและแววตาจริงจังจนอี้เฟิงไม่สามารถว่าอีกฝ่ายปาว ๆ
แบบเมื่อครู่ ตอนนี้เขาพูดจริงจัง
“ได้สิ
หน้าที่ของผมอยู่แล้ว”
อี้เฟิงเม้มปากยกยิ้มให้หยางหยางเห็น
ตอบตกลงไป ร่างของอีกฝ่ายเดินอ้อมมาหาเขา มือนั้นวางถอดอาหารเช้า
หยางหยางทรุดนั่งที่ขอบเตียง และโน้มให้อี้เฟิงมาแนบกับตัว กอดหลวม ๆ แต่อบอุ่นแนบแน่น
“ผมจะกลับมาหา
รอผมนะ”
ไม่รู้ว่าที่ที่หยางหยางจะไปมันจะอันตรายมากเพียงไหน
หรือจะมีอะไรรออยู่ คนพวกนั้นจะทำอะไร แต่เขาคงต้องไป เรื่องราวมันไม่จบง่าย ๆ
“ครับ..
“ อี้เฟิงจึงทำได้เพียงรอตามที่อีกฝ่ายให้สัญญา
------ที่สุดในดวงใจ ------
“ป๊าขา~”
เสียงใสเรียกคุณพ่อ ร้องหาอ้อมกอด ยกมือเล็ก ๆ นั้นมาแตะที่แก้มของคุณพ่อ
เธอทั้งหอมทั้งจูบจนคุณพ่อหัวเราะชอบใจ
เป็นรางวัลที่คุณพ่อที่เก่งที่สุดในโลกมาช่วยเธอ
“วันนี้กินอะไรครับ”
“พี่อี้เฟิงทำมาให้
อร่อยมากเลย ป๊า ต้องให้พี่อี้เฟิงอยู่นานๆ นะคะ คุณป้าหนิงจะได้มีคนช่วย
มีแต่กับข้าวอร่อย ๆ พวกเราสบายแน่ ๆ ค่ะ “
เด็กหญิงเล่าถึงแผนการร้ายกาจในความคิด
คุณป๊าของเธอพยักหน้าตกลง คิดถึงคุณครูยิ้มสวยของยายหนู
บอกให้ดูแลก็ปฏิบัติอย่างเคร่งครัด
เขาคิดไปถึงว่า
ร่างกายของอี้เฟิงที่เพิ่งถูกเขาขย้ำไปเมื่อวานก็คงมีอาการปวดอยู่ เขาเองก็ไม่ยั้งแรงที่ลงกับร่างสวย
ๆของอี้เฟิงเลย แต่อี้เฟิงก็ยังลุกขึ้นมาดูแลยายหนูตามที่เขาฝากไว้ ใครกันจะไปเหมาะสมกับเขาเท่าหลี่อี้เฟิงแล้ว
คนที่ยืนอยู่ข้าง ๆ เขา ในตอนนี้ ต้องเป็นหลี่อี้เฟิงเท่านั้น
“พี่อี้เฟิง!”
“พวกพ่อลูกตัวแสบ
ฮึ มื้อหน้าจะวางยาซะให้เข็ด”
อี้เฟิงที่เข้ามาทันได้ยินแผนร้ายของเสี่ยวอิ๋งยกยิ้มคาดโทษ
ยายหนูและป๊าหันมองหน้า และไม่ยี่หระกับความโหดที่คุณครูแสดงออกมา แสบทั้งพ่อทั้งลูก
เหมือนกันจนน่าหมั่นไส้จริง ๆ
แต่ทำไมไม่รู้ที่อี้เฟิงยิ้มออกมากว้างกว่าเดิม
“หายแล้ว
ต้องไปเรียนเหมือนเดิมนะ”
“อา..ป๊าขา
คุณครูคนนี้ขยันเกินไปแล้ว เสี่ยวอิ๋งยังป่วยอยู่ ดูสิคะ”
พูดจบก็ทำท่าไอค่อกแค่กให้ดี
คุณป๊าก็ร่วมแสดงละครหน้าฉากนี้ด้วย จนอี้เฟิงนึกหมั่นเขี้ยวทั้งสองคน ลงมือตีเบา
ๆ ซักที
“อะไรกัน
ทำไมเจ้าเล่ห์กันแบบนี้ ทั้งคู่เลย!”
คุณหนูน้อยหัวเราะชอบใจใหญ่
อี้เฟิงก็เลยเผลอหัวเราะตามไปด้วย หันไปมองคุณพ่อข้าง ๆ ก็ยกยิ้มพอใจ เหมือนกัน
แต่พอเห็นหน้าเขาทีไรก็เหตุการณ์เมื่อวานก็กลับมาให้คิดทุกที ยิ่งเขินจนหน้าแดง โชคดีนะที่ใส่เสื้อผ้าปกปิดไอ้รอยนั่นไว้แล้ว
เต็มไปหมดทั่วตัว ไหนจะไอ้ของเหลวที่คั่งค้างในร่างกว่าจะเอาออกได้ก็แทบหมดแรงยืน.. ตาบ้าหยางหยาง..บ้า..คนบ้าจริง ๆ ด้วย !
“ป๊า
พี่อี้เฟิงหน้าแดงอะ”
“งั้นหรือ ?
ไม่สบายหรือเปล่าครับ เสี่ยวอิ๋ง คุณครูติดไข้จากเราซะแล้ว”
“เอ๋?”
ทั้งที่รู้ดีว่ามีอะไรเกิดขึ้น
แต่หยางหยางก็ยังล้อไม่เลิก
ยิ้มนั้นบ่งบอกถึงความสนุกที่ได้แกล้งเขาเป็นอย่างดี
อี้เฟิงส่งค้อนวงใหญ่ให้ผู้นำตระกูลหยางและคุณพ่อจอมให้ท้ายลูกนี่
ก่อนลุกจากเตียงไป
“ไม่คุยด้วยแล้ว”
“อี้เฟิง..”
แต่หยางหยางรั้งเขาไว้ด้วยเสียงเรียกนั้น
และเมื่อเขาหันไป ก็พบใบหน้าของคนที่อี้เฟิงคิดว่าจะฝากชีวิตให้ดูแลตลอดไป
ใบหน้าหล่อเหลาตีสีหน้านิ่งขรึมไปแล้ว
แต่ยังดูอบอุ่นทุกเมื่อที่อี้เฟิงได้มอง แววตาที่ส่งมาให้
เขารู้ดีว่านั่นหมายถึงอะไร
เขาเป็นดวงใจของหยางหยาง
ย่อมรู้ดี ตรงนี้ทั้งหมด เหมือนกับเราสองคนได้พูดคุยกันแล้ว
เสียงหวานของอี้เฟิงจึงไม่ต้องเอ่ยอะไรออกไป นอกจาก
“ครับ คุณหยางหยาง”
ตอบรับคน ๆ
นั้น ผู้ที่จะเป็นดวงใจของอี้เฟิงเช่นกัน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น