วันเสาร์ที่ 6 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2559

[Fic] ที่สุดของดวงใจ : หยางเฟิง --- CHAPTER : 1





TITLE :  ที่สุดของดวงใจ
CHAPTER :   1
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG - 13



TELL :: เรื่องใหม่ที่คิดจะปั่นให้จบก่อน 20 นี้ค่ะ กริ๊ด อยากเขียนเรื่องแบบประมาณนี้มานานแล้วค่ะ /กรีดร้องงงงงงงงงงงงงงงง
ps. อย่าคิดว่าเป็นฟิคโรแมนติคคอมเมดี้นะคะ ฟิคแม่แมวไม่มีแนวนั้นค่ะ 5555





***********************************************************************************************************



“ไม่ให้โว้ย”
“ส่งมา อย่าทำให้เราใช้กำลังสิน้องชาย!
“ไม่โว้ย!






ขายาวสาวเท้าก้าวอย่างรวดเร็ว รีบเร่งให้ไกลจากคนที่ปองร้ายเขา





เจอเรื่องยุ่งยากอีกเรื่องของวันแล้ว ซวยอะไรหนักหนาวะวันนี้








หลี่อี้เฟิงบ่นครางชะตาชีวิตตัวเองอยู่ในใจ ก่อนจะรีบวิ่งให้พ้นจากชายคนร้ายสามคนที่มาดักปล้นอยู่ริมข้างทาง เขาเข้าใจว่าเดี๋ยวนี้โลกมันอันตราย แต่ไม่คิดว่าจะมาเกิดขึ้นเข้ากับตัวเองจริง ๆ แต่บ่นไปตอนนี้คงไม่ได้ความอะไร เขาควรจะรีบวิ่งให้พ้นจากคนพวกนี้ก่อน







“เห้ย!






อย่างน้อยอี้เฟิงก็ยังพอจำศิลปะการต่อสู้ที่เคยเรียนที่ชมรมเมื่อมัธยมอยู่ได้บ้าง พอวิ่งหนีเลี้ยวตรงมุมถนนตรงนี้มาถึงลานจอดรถของร้านอะไรซักอย่างที่เขาไม่ทันสังเกต มีไม้ท่อนสองสามท่อนอยู่ใกล้ ๆ สวนดอกไม้เล็ก ๆ ใกล้ลานจอดรถ เหมือนวางไว้จะทำอย่างอื่น มือเรียวคว้ามันมาทั้งสองท่อน ตั้งท่า รื้อความจำ ความรู้ที่เคยเรียนมาทั้งหมด







มือเรียวฟาดวงไป เมื่อสามคนร้ายล้อมวงเข้ามา เข้ามากใกล้เรื่อย ๆ อี้เฟิงก็ยิ่งฟาดไม้เหวี่ยงเพื่อป้องกันตัว ไม่ให้อีกสามคนเข้ามาใกล้มากขึ้น เขาพยายามตั้งสติให้ดี แต่ความซวยของอี้เฟิง ความตกใจในสถานการณ์ตรงหน้า ทำให้อี้เฟิงยิ่งตื่นตระหนก ถึงจะมีอาวุธ อีกฝ่ายแม้ยังไม่โชว์อาวุธออกมาให้เห็น อี้เฟิงก็โดนตีวงต้อนถอยหลังไปเรื่อย ๆ จนชนเอาเข้ากับรถคันหนึ่งที่จอดอยู่ตรงนั้น





“เห้ย!





พออุทานอีกที อี้เฟิงก็ต้องเริ่มเบี่ยงหลบแล้ว คนร้ายหนึ่งคนล้วงอาวุธมาจากด้านหลังของตัวเอง เป็นไม้กระบองท่อนหนึ่งแบบที่พวกแก๊งอันธพาลมีกัน ฟาดมาตรงหน้าทิศทางที่อี้เฟิงยืนอยู่ มันร้องบอกว่า เขากวนประสาทมันเกินไปแล้ว ไม่ยอมส่งของที่ต้องการให้ แน่นอนล่ะ ใครมันจะอยากให้ของของตัวเองกับโจรกันเล่า! ยังไงก็เป็นของที่เขาหามาด้วยน้ำพักน้ำแรงของตัวเอง จะมาปล้นเอาง่าย ๆ ได้ยังไง จะบอกว่าเขางกก็ว่าได้ แต่มันไม่อยากให้จริง ๆ ทั้งอี้เฟิงยังมีนาฬิกาเรือนสวยของที่ระลึกจากปู่และย่าที่ซื้อให้ เจ้าคนร้ายพวกนี้จะต้องเอาไปด้วยแน่ พวกมันเหมือนจะเล็งนาฬิกาเรือนนี้ไว้ก่อนสิ่งอื่นด้วยซ้ำ มันมีราคาแพงจริง ๆ ปู่ย่าของเขาเก็บเงินแอบไม่ให้เขารู้และซื้อให้เมื่อตอนเขาสอบเข้ามหาวิทยาลัยได้ แต่ตอนนี้จะถูกปล้นไปหรือ ? ใครจะให้กัน !







แต่มันเสี่ยงชีวิตจริง ๆ บ้าชิบ! แต่ไม่ไกลจากที่อยู่ตรงนี้ มีสถานีตำรวจใกล้ ๆ อย่างน้อยถ้าอี้เฟิงวิ่งไปถึงตรงนั้นก็น่าจะรอดไปได้ งวดหน้าก็เปลี่ยนเส้นทางกลับอพาร์ทเม้นทืก็แล้วกัน!








“หยุดนะเว้ย ไอเด็กเวรนี่”







อี้เฟิงไม่ยอมหยุดดังที่ว่า ตอนนี้จึงกลายเป็นการวิ่งไล่ล่าเพื่อปล้นอย่างอุจอาจ พวกคนร้ายใช้อาวุธที่มี พกมาด้วยทั้งกระบอง มีดพก มีดยาวเข้าฟาดฟัน ร่างเพรียวพยายามหลบหลีกให้พ้น เขาหลบพ้น แต่รถข้างหลังเจ้ากรรมที่อยู่ด้านหลังกลับรับมีด กระบองนั้นแทน เขาขอโทษเจ้าของรถอยู่ในใจ แต่อี้เฟิงไม่มีเวลาแล้ว เขารีบวิ่งหนีให้พ้นจากตรงนั้น


“เห้ย!












อุทานอีกครั้งของอี้เฟิงครั้งนี้เกิดขึ้นจาก








“นี่คุณ...”








เป็นชายหนุ่มหน้าตาดีขั้นเทพบุตรยืนโอบเอวอี้เฟิงอยู่เพื่อไม่ให้เขาหกล้มหลังจากชนเขาจนหัวฟาดพื้นไปเสียก่อน  และหันไปมอง เจ้าพวกคนร้ายพวกนั้น หลังจากที่เขาวิ่งชนกับชายตรงหน้านี้แล้ว








“เอ้า เห้ย ไป...ไปไหนแล้ววะ พวกแกน่ะ!” แม้ตะโกนไปก็ไม่มีผลอะไร คนร้ายพวกนั้นหนีกระเจิงไปหมดแล้ว เพราะอะไรกัน?






แต่ก่อนหน้านั้น







อี้เฟิงหันมาเผชิญหน้ากับชายหนุ่มหน้าตาดีที่กอดเอวตัวเองเอาไว้ ท่าทางเขาไม่สบอารมณ์อย่างแรงและถอนหายใจใส่เขาแบบไม่ปิดบัง





“รถผม..”






เขาพยัดเพยิดไปทางรถเจ้ากรรมที่อยู่ด้านหลังเขามันอยู่ในเหตุการณ์ที่เขากับเจ้าพวกคนร้ายพวกนั้นตะลุมบอนกันอยู่ สภาพไม่น่าดูเท่าไหร่ รอยทุบ กระจกแตกไปสองสามบาน มีรอยขีดข่วนตรงส่วนหน้าของรถเรียกได้ว่าใกล้เคียงกับคำว่ายับเยินอย่างยิ่ง






“คุณ..”






เจ้าพวกนั้นหนีไปตั้งแต่เมื่อไหร่ อี้เฟิงทำหน้างงใส่ชายหนุ่มที่ยังโอบเขาไว้ใกล้ร่างไม่ห่าง แต่ก็เริ่มโอบแน่นขึ้นจนเริ่มเจ็บตรงที่โดนกอดแล้ว มือของชายหนุ่มกดแรงลงมากขึ้นเรื่อย ๆ






“เอ่อ..ผม”
“เจ้าพวกนั้นหนีไปตั้งนานแล้ว ตั้งแต่คุณวิ่งมาชนผม”






เจ้าพวกนั้นหายไปแล้ว ไม่มีร่องรอยเลย หายไปไหน แต่ก็ดีที่รอดมาได้ แต่ดูชายหนุ่มที่ช่วยอี้เฟิงตอนนี้ไม่สบอารมณ์อย่างยิ่ง และคาดคั้นอี้เฟิงด้วยสายตาไม่หยุดหย่อน







แย่กว่าเจ้าพวกคนร้ายเมื่อครู่เสียอีก







คงมีเรื่องซวยเพิ่มขึ้นอีกเรื่องแล้วสิ ..อี้เฟิงพยายามดันตัวเองออกจากการพันธนาการอันแน่นหนาจากมือแกร่งที่โอบเอวไว้ แต่ชายหนุ่มไม่มีท่าทีจะปล่อยอี้เฟิงไปง่าย ๆ เลย







“คือว่าผม.. ไม่..คือ”





ณ เวลานั้นที่อี้เฟิงอ้ำอึ้งอยู่ มีชายสูทดำสองคนออกมาจากร้านซึ่งอี้เฟิงรู้แล้วว่าเป็นร้านคอฟฟี่ชอปตกแต่งหรูหรา ดูท่าทางเป็นร้านของพวกคนรวย บ้าชิบ! รถนี่ราคาเท่าไหร่กัน เพราะเจ้าพวกนั้นไล่ต้อนมาตรงนี้แท้ ๆ แต่เขาก็เถล่อถล่าไม่ดูให้ดี ดันเป็นส่วนทำให้รถราคาของชายหนุ่มคนนี้มีสภาพเป็นแบบนี้








ชายชุดสูทดำสองคนเอ่ยเรียกคุณคนนี้ที่ยืนโอบเอวเขาว่า ท่านประธานหยาง







ส่วนคนที่ถูกเรียกนั้น ไม่หันไปทางเสียงแต่กลับหันมาพูดกับอี้เฟิงแทน ใบหน้าหล่อเหลาปานทูตสวรรค์แต่บรรยากาศราวกับปีศาจอยู่ใกล้






“เอาล่ะ คุณหนูน้อย รถผมยับเยินขนาดนี้ ผมจะไปส่งลูกสาวผมยังไง”










-------------ที่ สุ ด ข อ งหั ว ใ จ----------------------------








“คือ..ผมขอโทษ.. ขอโทษครับ”








หลังสิ้นจากประโยคนั้น เล่นเอาอี้เฟิงขนลุกวาบไปทั้งตัว เอ่ยขอโทษออกมาอย่างจนใจ ผู้ชายคนนี้แค่เปล่งออกมาไม่กี่ประโยคก็ทำให้รู้สึกเกรงกลัวได้ ต้องเป็นคนใหญ่คนโตที่ไหนซะแห่ง ทำงานอะไรกันแต่ก่อนจะได้พิจารณาถึงขั้นนั้น อี้เฟิงก็ถูก ท่านประธานหยางคนนี้จ้องอย่างเอาเลือดเอาเนื้อ








แต่พอหันไปดูสภาพรถของท่านประธานหยางคนนี้เข้า ก็เล่นเอาไม่กล้ามองต่อ ความเสียหายหนักหนาจริง ๆ ค่าเสียหายกับรถรคาแพงรุ่นหายากแบบนี้ ต่อให้ไปทำงานพิเศษเป็นร้อยชั่วโมงก็ยังไม่พอหรอก






“ป๊าคะ มีอะไรกันหรือ”





มีเสียงใส ๆ น้อย ๆ เอ่ยไม่ใกล้ไม่ไกล ชายหนุ่มอีกคนหนึ่งพาเจ้าของเสียงใสนั้นออกมา ท่านประธานหยางนี่ปล่อยตัวเขาทันทีและตรงไปหาเจ้าของเสียงนั่น







“ขอโทษค่ะ ป๊ากำลังดุคนที่ทำรถคนนี้ที่จะต้องพาเรากลับบ้านพังน่ะค่ะ”
“ใครหรอคะ ป๊า”





พอหันไปมอง หนูน้อยเสียงใสจ้องตาอี้เฟิงแป๋วแหววไม่กระพริบตา จนอี้เฟิงเอะใจว่า นี่เขาทำอะไรผิดไปอีกหรือ ชายหนุ่มหน้าตาดีน่ากลัวที่ยืนอยู่ข้าง ๆ ..น่าจะเป็นลูกสาวของเขาทำหน้าตาทะมึน ออร่าแผ่กระจายแบบนั้นทำไมหรือ เขาไม่ผิดนะ นี่ยังไมได้ทำ..อะไร








“พี่ชาย! น่ารัก!
“ห๊ะ ?!







อยู่ ๆ สาวน้อยหน้าตาจิ้มลิ้ม ไร้เดียงสาก็ส่งเสียงตะโกนเล็ก ๆ ออกมา ยิ่งหนูน้อยวิ่งเข้ามาหาเขา  แถมมาหยุดอยุ่ตรงหน้าอี้เฟิง เงยหน้ามองส่งยิ้มสดใสให้ คุณท่านประธานนั่นยิ่งแผ่ออร่าน่ากลัวเข้าไปกันใหญ่





จะโดนอะไรมั้ยเนี่ย...อี้เฟิงคิด พลางหันไปมองทางคุณท่านประธานรูปหล่อนั่น ออร่าปีศาจนั่นไม่น่าไว้ใจเลย





พอหันไปมองหน้าเขา อี้เฟิงได้สบตา ก็รู้ว่าเขาอารมณ์เสียขึ้นมาอีกหน่อยแล้ว ชายหนุ่มหันไปสั่งการชายสูทดำซึ่งน่าจะเป็นลูกน้อง เขาได้ยินเหมือนว่าไอ้คนร้ายสามคนนั้นเห็นหน้าคุณท่านประธานหยาง นี่ก็วิ่งหนีไปแล้ว แต่เขาสั่งให้บรรดาลูกน้องไปล่าพวกนั้นมา.. หมอนี่ท่าทางจะเป็นพวกแก๊งค์อะไรซักอย่าง...







โอ๊ย นี่จะซวยครั้งใหญ่เลยรึเปล่าเนี่ย อี้เฟิงยิ่งคิดก็ยิ่งเครียด แต่เขาก็ทำได้แต่ยืนนิ่ง ไม่กล้าวิ่งไปไหนเลย คนตรงหน้านี่คงต้องเป็นคนใหญ่โตที่เล่นเอาเจ้าพวกนั้นหนีไปแบบไม่ทันตั้งตัว








“ว่าไงล่ะคุณหนูน้อย เราจะมาคุยกันเรื่องค่าเสียหายรถของฉันหน่อยมั้ยล่ะ”









ใบหน้าหวานเงยหน้าไปมองคุณพ่อยังหนุ่มของคุณหนูตัวน้อยคนนี้ ใบหน้าหล่อเหลายังคงความเป็นปีศาจ อี้เฟิงไม่อยากต่อปากด้วยแน่ แต่ค่าเสียหายรถราคาแพงนี่คงไม่น้อย




“คือผมไม่ได้ตั้งใจ...แต่มันก็เสียหายมากขนาดนี้--- ..”
“คันนี้ก็นำเข้าที่จีนไม่มีขายหรอกนะ คุณหนูน้อย คุณคงมีเงินจ่ายให้ผมนะ”


งกอะไรแบบนี้ รวยก็ลดให้หน่อยซี่ ยังไม่ได้รู้ค่าเสียหาย แต่อี้เฟิงก็เดาได้แล้วว่ามันไม่น้อยเลย เขาขบคิดอยู่นาน ไม่รู้จะทำอย่างไร บ้านเขาก็ใช่ว่าจะร่ำรวยจะเอาเงินที่ไหน แล้วถ้าจับพวกนั้นอีกสามคนที่ทำร้ายเขามา ก็จะหารสี่ได้มั้ยนะ







“มีอีกสามคนที่ผมจะจัดการเขา ให้ผมเขียนประมาณจำนวนเงินค่าเสียหายที่คุณจะต้องจ่ายให้ผมดีมั้ย” ว่าแล้วมือสวย ๆ ของคุณประธานนั่นก็คว้าเอา ปากกาและกระดาษแผ่นเล็ก ๆ เขียนอะไรยุกยิกส่งให้อี้เฟิงมา พอเห็นตัวเลขแล้วแทบจะเป็นลม







“สาบานซิคุณ ว่านี่ประมาณให้แล้ว รวยหน่อยก็อย่าเอาเปรียบกันสิ!
“คุณรู้รึเปล่าว่ารถผมคันนี้มาจากไหนน่ะ ราคาเท่าไหร่ ผมรวยแต่ผมก็ใช้เงินทีทำมาหากินซื้อมานะ”
“แต่มัน..เอ่อ...เยอะขนาดนี้ ต้องหาร! หารสี่เลยนะ คุณจะจับเจ้าพวกนั้นที่รังแกผมมา ที่จริงๆ ผมเป็นผู้เคราะห์ร้าย แทนที่จะช่วยกันหน่อย เรื่องค่าเสียหายรถคุณ ก็หยวนๆ ให้หน่อยสิ”
“นั่นผมลดให้แล้วนะ จะเป็นนักศึกษาแต่มายกพวกตีกันทำทรัพย์สินคนอื่นเขาเสียหายแบบนี้มันใช้ได้ที่ไหนกันล่ะคุณหนูน้อย”
“เลิกเรียกผมแบบนั้นซักทีได้มั้ย และอีกอย่างผมไม่ได้จะไปยกพวกตีใคร เห็นมั้ยว่าผมโดนรังแก ผมโดนปล้น!
“พูดกันง่าย ๆ แบบนี้ เหมือนจะเอาตัวเองรอดนี่คุณ เจ้าสามคนนั้น ถ้าพวกผมจับตัวมาได้ ก็จะให้พวกนั้นชดใช้ให้อยู่แล้ว คุณก็เหมือนกัน อย่ามาตีหน้าใสไม่รู้เรื่อง เด็กสมัยนี้มันอะไรกัน เถียงผู้ใหญ่ปาว ๆแบบนี้ ทำของคนอื่นเขาเสียหาย ใช้ไม่ได้เลยนะ”













“ป๊าคะ เอาคนนี้!







คนที่ถูกเรียกว่าป๊าหันไปตามเสียง คุณประธานหยางทรุดนั่งให้อยู่ในระดับความสูงพอ ๆ กับลูกสาวตัวน้อย เธอบอกความตั้งใจให้คุณพ่อเธอฟัง








“คนนี้ค่ะ”
“ยัยหนู ยังไงคะ ?”
“คนนี้ !





อี้เฟิงเองก็งงพอกับที่คุณพ่อคนหล่อคนนั้นงง แต่เหมือนคุณท่านประธานคนนั้นจะคิดได้ก่อน





“เฮ้อ แน่ใจนะคะ ?”
“แน่ใจค่ะ พี่ชายน่ารักจังค่ะป๊ะ





คุณประธานหยางถอนหายใจ เขาลุกขึ้นยืนขึ้น ดันตัวลูกสาวตัวน้อยเบา ๆ เข้าใกล้ตัวเขาเอง และสาวเท้าก้าวมาข้างหน้า ใกล้อี้เฟิงอีกนิดหน่อย





“ผมกำลังหาครูสอนพิเศษคนใหม่อยู่ คุณพอจะสอนได้มั้ยล่ะ”






เหมือนคุณพ่อของลูกสาวตัวน้อยน่ารักจะตามใจคำอ้อนของลูกเสียทุกอย่าง เธอยังเขย่าแขนคุณพ่อคนหล่อไม่หยุดจนคุณพ่อหรือท่านประธานหยางจะต้องใจอ่อน





“โอเค ป๊ายอมแล้วค่ะ ชอบพี่เขาหรือ”
“พี่เขาตากลมเหมือนเจ้าไอเลยค่ะ!





คุณพ่อคนหล่อแววตาปีศาจ(อี้เฟิงตั้งฉายาจากอิมเมจของเขาไปเสียแล้ว) ยกยิ้มขำ ไอนี่เป็นชื่อของอะไร เจ้าไอ เรียกแบบนั้น แมว ? หรือหมา? อี้เฟิงเอียงคองงขมวดคิ้วเป็นปม หันมองหน้าพ่อลูกสองคนสลับกัน เขาเองก็เริ่มหงุดหงิดแล้วนะ




“นี่พวกคุณน่ะ!--
“เอาแบบนี้ คุณหนูน้อย คุณเป็นคุณครูได้มั้ยล่ะ สอนพวกวิชาพื้นฐานได้มั้ย ถ้าคุณเป็นครูพี่เลี้ยงของยัยหนูของผมได้ ค่าเสียหายนั่นเราก็หักจากเงินเดือนที่คุณจะได้”






นึกถึงตัวเลขนั้นที่คุณเขาเขียนให้อี้เฟิงดู เป็นตัวเลขที่ไม่น่าพิสมัยสุด ๆ เขามองหน้าคุณประธานจอมงกนี่อีกครั้ง แล้วก็หันไปสลับกับใบหน้าลูกสาวของเขา ยังส่งตาแป๋วให้ไม่เลิก อี้เฟิงยิ่งเป็นคนใจอ่อนกับเด็ก ๆ แบบนี้เสียด้วย ให้ตายสิ เด็กคนนี้ติดใจเขาเข้าแล้วหรือ





“พี่ชายคะ พี่ชายน่ะตากลมเหมือนเจ้าไอเลย ว่าแต่พี่ชายชื่ออะไรคะ”
“พี่ชื่ออี้เฟิงค่ะ”





พอบอกชื่อแล้ว อี้เฟิงก็ก้าวขยับไปหาเด็กน้อยนิดหน่อย ส่งยิ้มตอบให้กับยิ้มสดใสตาแป๋ว สาวน้อบตัวเล็กก็ยิ่งยิ้มยิงฟันให้กลับมาอีก แก้มแดงระเรื่อ เด็ก ๆ  สำหรับอี้เฟิงน่ารักเสมอ





แต่พอเงยหน้าไปสบตาคุณพ่อของเธอ คุณพ่อของหนูน้อยคนนี้ไม่น่ารักกับเขาด้วยเลย แววตาน่ากลัวแบบนั้น เป็นคุณพ่อที่หวงลูกสาวสุด ๆ ไปเลยนะเนี่ย อี้เฟิงคิดและไม่ควรเล่นกับคุณพ่อจอมหวงลูกสาวจนตรงหน้าผากขึ้นอักษรแปะว่าปีศาร เขาถอยก้าวออกมา เด็กน้อยคว้ามือคุณพ่อ เธอยังคะยั้นคะยอป๊าของเธออยู่แต่พี่ชายชื่ออะไรคะอี้เฟิงยิ่งเป็นคนใจอ่อนกับเด็ก ๆ แบบนี้เสียด้วย ็ยังไม่พอหรอก




“พี่อี้เฟิงจะต้องไปหาเสี่ยวอิ๋งนะ!





ไม่แน่ใจว่าเหตุผลที่ทำให้สาวน้อยตัวเล็กคนนี้ติดใจอี้เฟิงเป็นเหตุผลไหน แต่ถ้าไม่ต้องเป็นเรื่องใหญ่ถึงขึ้นโรงขึ้นศาล และได้เงินเดือนไปชดใช้ค่าเสียหายรถบ้านั่น ก็คงไม่วายที่จะต้องตอบตกลงเขาไป






ท่านประธานหยางหยางยังจ้องมาที่อี้เฟิงไม่ลดละ เขาคงจะต้องรับข้อเสนอนั้นอย่างเสียไม่ได้






“ผมเคยสอนพิเศษให้เด็ก ๆ ตอนช่วงปิดซัมเมอร์ปีสองน่ะ..”
“งั้นก็ดี..”






เขาส่งบางอย่างมาให้อี้เฟิง เหมือนเป็นนามบัตรของเขาเขียนชื่อเสียงเรียงนามและอื่น ๆ ไว้..







หยางกรุ๊ป...
ประธานกรรมใหญ่..หยางกรุ๊ป...








มิน่าล่ะ เจ้าพวกนั้นถึงได้วิ่งหนีไป








เขาก็พอรู้ว่าเมืองใหญ่แบบนี้ ที่ไหน ๆ ก็จะต้องมีผู้มีอิทธิพลประจำเมืองจะกี่ตระกูลก็ว่ากันไป แต่ที่เมืองนี้เป็นหยางกรุ๊ปที่ครอบจักรวาลแทบทุกอย่างอาจจะเรียกได้ว่าเป็นผู้กุมชะตาคนในเมืองนี้ทีเดียว แม้กระทั่งทางการยังจะต้องเกรงใจ






อี้เฟิงพอจำได้จากที่เพื่อนในมหาวิทยาลัยเล่าว่าเคยเป็นมาเฟียเก่าก่อน แม้จะล้างมือสะอาดแล้ว แต่อิทธิพลของพวกเขาก็ไม่ได้ลดน้อยถอยด้อยลงไปเลย









แย่จริง ที่มาเกี่ยวพันกับคนพวกนี้ซะได้..







“รู้จักผมแล้ว ก็อย่าลืมไปที่บ้าน พรุ่งนี้เป็นวันเสาร์ คุณคงเป็นนักศึกษา เห็นจากะข้าวของที่กองอยู่บนพื้นนั่น น่าจะว่างนะถ้าเป็นวันหยุด 9 โมงเช้า อย่าให้ยัยหนูของผมต้องรอ”







เขาพูดร่ายยาวจบ ประโยคสุดท้ายเขาเข้าใจแล้วว่าท่านประธานคนนี้ให้ความสำคัญกับลูกสาวที่น่ารักของเขาขนาดไหน ถ้าให้ต้องรอจนหน่าย มิวายอี้เฟิงคงต้องโดนทำอะไรซักอย่างเป็นแน่







ใบหน้าหล่อหันมาสบตาอี้เฟิงอีกครั้ง เหมือนย้ำประโยคก่อนหลังว่าหลี่อี้เฟิงคนนี้เข้าใจทุกอย่างแล้ว ก่อนหันหลังให้และจูงมือสาวน้อยลูกสาวคนน่ารักของเขาไป ..







“เห้ย นั่น..”




ก่อนหน้านี้อี้เฟิงคิดว่าเขาคงจะต้องกลับบ้าน จะต้องจ่ายอะไร พาพวกเขากลับยังไง แต่อี้เฟิงมัวแต่กังวลเรื่องค่าเสียหาย ไม่ได้คิดมาถึงเรื่องนี้ จะให้พวกเขากลับยังไงน่ะหรือ?





คิดถึงตัวเองดีกว่าหลี่อี้เฟิง







ท่านประธานของหยางกรุ๊ป จะมีรถซักเจ็ดสิบคัน ก็ไม่แปลก ...






บ้าชิบ!







รถคันสวยเป็นคนสีกับที่พังไป หยางหยางจูงมือสาวน้อยที่โบกมือลาเขาเข้ารถไป อี้เฟิงกระพริบตาปริบ ๆ เหมือนจะเห็นประธานหยางกรุ๊ปยกยิ้มมุมปากด้วย







ทำไมเขารู้สึกถึงความกวนประสาทของหมอนั่นเหลือเกิน ...อี้เฟิงกระทืบเท้าย่ำกับที่หลังจากรถคันสวยของท่านประธานหยางกรุ๊ปออกตัวไป








"มีเจ้าหนี้เป็นมาเฟียเก่า ให้ตายเถอะหลี่อี้เฟิง"












TBC  -------------ที่ สุ ด ข อ งหั ว ใ จ------------------------------- CHAPTER : 2
.






TALK ::: กริ๊ดดดดดดดดดดดดดดดดดด ได้เปิดเรื่องนี้เป็นฝันของแม่แมวอีกเรื่องเลย
อยากแต่งเเนวนี้มานานแล้วค่ะ คาร์ของหยางหยางกับเกอแบบนี้กิ๊วก๊าวแม่แมวนัก
มียัยหนูมาสร้างสีสันด้วย แต่เรื่องนี้ไม่ใช่แบบที่คิดหรอกนะคะ รออ่านตอนต่อไปแบบทันใจค่ะ
เพราะฟิคเรื่องนี้เราจะพยายามให้จบในเดือนนี้ค่ะ เป็นฟิคมิชชั่นของเราเอง
เป็นการพนันไว้กับทีมค่ะ 555 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น