วันอาทิตย์ที่ 22 มกราคม พ.ศ. 2560

[Fic] La La La Ep.4 #colezra



TITLE :  La La La 
CHAPTER :   4
PAIRING : COLIN FARRELL x EZRA MILLER

Ps 1 ก็มีเกสต์อีกแล้วล่ะค่ะ
ps. 2 ตอนนี้ยาวมากกกกกกกกกกกกกกกก แต่เราเป็นประเภทไม่ชอบตัดตอนค่ะ อ่านไปเลยจบกันเป็นตอน ๆ



La La La



“จะมารับนะครับ” 

 เสียงคุณคอลินเขาครับ พอบอกว่าไม่เป็นไร จะเอ่ยปฏิเสธก็โดนยกมือห้าม ผมเลยต้องงับปากลงไม่ว่าอะไร แถมสายตาคมกริบนั่นยังสะกดใจผมไม่ให้ปฏิเสธเขาด้วย คนเขาอยากเห็นหน้าจะตาย  แต่ผมแค่เกรงใจเขาน่ะ

 “ครับ” จึงได้แต่ตอบรับก่อนที่เขาจะออกจากร้านไปในเวลาเที่ยงกว่า ๆ หลังจากเราทานมื้อเที่ยงเสร็จเรียบร้อยกันในร้านหนังสือที่ผมทำงานอยู่ คุณเจ้าของร้านทำอะไรง่าย ๆ ให้เราทานกัน เธอชวนให้สุภาพบุรษรูปหล่อที่เธอชมเปราะทุกวันที่เขามา คุณคอลิน ฟาร์เรลมาร่วมวงกับเราด้วย เพราะเขาเป็นลูกค้าชั้นดีของเรา นอกจากหนังสือแล้วยังซื้อหัวใจพนักงานของเธอด้วยเสน่ห์ของเขาด้วย

คุณเจ้าของร้านเข้าใจแซวผมอ่ะ เขิน ผมเขินเธอมาก เพราะเธอดันมาพบเราสองคน ผมและคุณคอลินในช่วงไฮไลท์เด็ดเวลาสาย ๆ ด้วย
  
โชคดีแค่ไหนที่ผมมีบอสที่ใจดีและปล่อยให้ผมมาจูบกับคนที่ชอบในร้านได้ โดยเธอแค่ติเตียนผมเพียงเล็ก
น้อย แต่คุณคอลินโดนเยอะหน่อยเพราะผมเด็กกว่าเขา


ก่อนที่เราจะได้มากินข้าวกัน คุณคอลินขังผมไว้ในห้วงความหวาน จินตนาการและอ้อมกอดของเขานานมาก ตรงซอกชั้นหนังสือตรงนี้ ถ้าไม่มีใครสนใจหนังสือมือสองหลังชั้นหนังสือใหม่แทบทั้งร้านก็จะไม่มีทางรู้เลยว่าเรากำลังฟัดกันนัวอยู่หลังชั้นหนังสือ ผมเผลอถอยหลังชนหนังสือหล่อนไปสองสามเล่ม คุณคอลินชอบที่จะจูบผมซ้ำไปซ้ำมา ผมอยากถามเขาเหลือเกินว่าทำไมเขาถึงชอบจูบผมมากขนาดนี้ ริมฝีปากของเขาพรมจูบผมไปทั่วใบหน้า ไม่ไหวเลยเขาไม่เปิดโอกาสให้ผมถาม จูบลูกเดียว ผมต้านทานเขาไมได้เลยซักครั้งเดียว ผมคิดว่ามันไม่นานที่เราอยู่ด้วยกันตรงนั้น ผมได้รับความหวานจวนเจียนจะล้นอก คุณคอลินเขาจูบเสร็จเขาก็ชอบมองผลงานต่อ ส่งสายตาที่เขารู้อยู่แล้วล่ะว่าจะทำให้ผมเขินได้มากแค่ไหน คนบ้าเอ๊ย มองเสร็จ มองจนพอใจ เขาก็จะจุดยิ้มสุดเท่ รับรองว่าได้เห็นแล้วปาปารัซซี่สาว ๆ หรือหนุ่มที่ไหนที่ชอบเขาก็ต้องรัวชัตเตอร์จนมือหงิก เพราะรอยยิ้มนี้ฮอตมากจนผมร้อนวูบวาบไปทั้งตัว
และนั่นล่ะครับ ผมได้มองแค่แป๊บ ๆ ก็โดนเขาจูบซ้ำอีกแล้ว ย้ำอยู่ซ้ำ ๆ วนไปครบทั่ว จุดที่เขาต้องการ จูบที่สะท้านที จูบอีกทีผมก็อ่อนยวบเป็นขี้ผึ้งลนไฟ จูบที่เปลือกตา ณ ขณะนั้นผมหลับตารับความรู้สึกหวานอบอุ่นอยู่ ไล่มาจูบที่กกหู คุณคอลินชอบตรงนี้ด้วยหรือ ผมรู้จั๊กจี้น่ะ เขาเปลี่ยนมาจูบที่ปลายจมูก และขบด้วยฟันเขา เหมือนหยอกเล่น คุณเป็นน้องหมาหรือไง หืม! จบตรงนั้นผมร้องอุทานให้เขารู้ว่าผมรู้สึกนะ ทั้งเจ็บทั้งวูบวาบ และรู้สึกเหมือนอารมณ์บางอย่างกำลังถูกจุดขึ้นเรื่อย ๆ ไล่มาที่แก้มของผมทั้งสองข้าง คุณเขาชอบกดจมูกโด่ง ๆ ของเขาหอมผมแรง ๆ ให้สาแก่ใจแล้วก็ยิ้มขำ เหมือนสะใจเขาแล้ว ที่ได้หอมแก้มผม เฮ้ คุณคอลินเป็นอะไรน่ะ แล้วเขาก็บ่นพึมพำ ได้ศัพท์เล็กน้อยว่า หอมจริง ๆ ด้วย ผมเขินจนแก้มแดง เขาทักขึ้นมา แล้วก็หอมแก้มผมซ้ำ บ้าจริง!  และมาถึงจุดไคลแม็กซ์ที่สุดของการจูบ ริมฝีปากของผมถูกคุณคอลินจับจองด้วยจูบหวานๆ ของเขาไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง จูบละลายใจแบบนี้ ผมไม่ไหวแล้ว ยิ่งจูบ เขาก็เหมือนดูดพลังงานผมไป ผมถูกเขาเก็บเกี่ยวความหวานในพื้นที่น้อยหนึ่งที่เป็นส่วนตัว เขาขบตรงริมฝีปากเป็นการขออนุญาตผมเผลอเผยอปากเท่านั้น เขาก็ตักตวงไปอย่างเต็มที่ เล่นเสียผมหอบหายใจตัวโยน กี่ครั้งแล้ว เดี๋ยวผมก็ตายหรอก !  จบการลูบนี้ เขาจะยิ้มให้ผม สายตาของผมจับจ้องเพียงแค่เขาคนเดียว ผมจึงยิ้มให้เขาด้วย อย่างประหม่าที่สุดในชีวิต แล้วคุณสุภาพบุรุษตรงหน้าจึงได้รู้ตัวแล้วว่าเขามาทำอะไรน่าอายในร้านหนังสือ

“แต่คุณรู้มั้ย เอซร่า ผมอดใจไม่ไหว”  รู้แล้วว้อย! รู้แล้วครับ คุณคอลิน คุณจูบผมเป็นชุดคอมโบเซตอย่างในแมคโดนัลแบบนี้ ผมไม่ตายคาอกก็ดีแล้ว แถมผมยังถูกจุดอารมณ์หวามในตัวด้วย เริ่มรู้สึกร้อนๆ หนาว ๆ ยิ่งใกล้คุณคอลิน ชายหนุ่มสุดฮอตตรงหน้า ผมยิ่งห้ามใจลำบาก คุณคอลินเองก็คง....

“เอซร่า..”

ผมสัมผัสได้จากเสียงแหบพร่าของเขา ความร้อนวูบวาบส่งมาถึงผมเลยล่ะ เขาหน้าแดงด้วย

 ผมจุดยิ้มมุมปากอย่างเขินอาย และเขาเองก็พยายามข่มใจ ต่างคนต่างขำ เพราะรู้แล้วว่า ต่างคนก็ต่างถูกจุดอารมณ์นั้นขึ้นมา แต่ในร้านหนังสือ มันทำอะไรมากกว่านี้ไม่ได้นี่


มากที่สุด ก็จูบกัน

  


“ก๊อก ๆ สองหนุ่มใหญ่หนุ่มน้อยจ๊ะ อีก 2 นาทีจากหน้าร้าน จะมีน้องหนูวัยประถมมาดูหนังสือตรงล็อคหนังสือเด็ก ซึ่งมันใกล้กับชั้นหนังสือที่พวกเธอกำลังช่วยทำมันพังอยู่ กรุณาหน่อยเถอะจ้า”



ในระหว่างที่เรากำลังลูบจูบชุดคอมโบเซตแบบแมคโดนัลด์อีกรอบ ผมไม่สามารถห้ามใจตัวเองไม่ให้สัมผัสคุณคอลินไม่ได้แล้ว คุณคอลินก็ดูเหมือนศีลหลุดไปแล้วด้วย แต่คุณเจ้าของร้านก็เหมือนเอาสติของพวกเรากลับมา เธออยู่ชั้นหนังสือข้าง ๆ แต่เราได้ยินเพียงแค่เสียงของเธอ เธอเตือนเราด้วยความหวังดีว่าเราจะถูกเด็กน้อยวัยประถมมาเห็นเลิฟซีนร้อนแรงแบบในหนังของผู้ใหญ่ ฉะนั้น ผมกับคุณคอลินควรหยุด


“ขอโทษครับ!” ผมกับคุณคอลินถอยห่างกันมาคนละก้าวแล้วส่งเสียงขอโทษคุณเจ้าของร้านเสียงดังให้เธอรู้ว่าเราเอาริมฝีปากออกห่างกันแล้วนะ! ให้ตายเถอะ ชั้นหนังสือเละเทะ รอบตัวพวกเรา หนังสือตกเกะกะขวางทางไปหมด เพราะเราสองคนที่อยู่ในอีกโลก ตอนเราสองคนกำลัง..เอ่อ... จูบกัน เราคงไม่สนใจอะไรรอบข้างหรอก นอกจากคนตรงหน้า


“เก็บหนังสือกันเถอะฮะ “ ผมบอกเขาเสียงเบา แล้วหลังจากนั้นเราก็ระเบิดเสียงหัวเราะกัน และคุณคอลินก็กลายเป็นพนักงานจำเป็น ช่วยกันจัดชั้นวางหนังสือกันใหม่ และเมื่อเราดูเวลา เราฟัดกันจนชั้นหนังสือเละเทะกันมาเป็นชั่วโมง!  คุณเจ้าของร้านไม่ไล่ผมออกก็ดีเท่าไหร่แล้ว



แล้วเราก็ถูกคุณเจ้าของร้านเธอดุ คุณคอลินโค้งขอโทษแล้ว ขอโทษอีก และเหมาหนังสือจากร้านไปเยอะมากเป็นการขอโทษ ผมลอบยิ้มแต่ก็ถูกคุณเจ้าของร้านเอ็ดใส่ และส่ายหัว “ไม่ไหวเด็กพวกนี้ ร้อนแรงกันจริงๆ ดีนะเอซ ร่า ที่ฉันรั้งลูกค้าสองสามคน ไม่ให้ไปตรงนั้น ไม่อย่างนั้นร้านฉันเป็นข่าวดังแน่ ส่วนคุณชื่อคอลิน ฟาร์เรลใช่มั้ย ช่วยระหว่างหน่อย เด็กของฉันเขาน่ารัก แต่ไม่ใช่เวลานะ!

 คอตกกันไปทั้งคู่ แต่แม้เธอจะดุเรา หลังจากนั้น เธอก็ใจดีทำมื้อเที่ยงเลี้ยงให้เราอิ่มกัน คุณคอลินที่ยังพอมีเวลาช่วยเก็บกวาด ส่วนผมไปรับลูกค้าหน้าร้าน
  
 ก่อนที่คุณคอลินจะไป เขาบอกว่าจะกลับมารับ และคราวนี้จะไม่พลาดอีกแล้ว ช่องทางการติดต่อคุณ ทุกทางไม่ว่าจะอะไร เขาก็เอาไปหมด มือถือ แชททุกโซเชียล โอเค ความสัมพันธ์เราก้าวหน้ามามากแล้ว แต่ยังไม่มีสถานะ จะเรียกว่าอะไรก็ได้ตามใจ แต่ผมชอบเขา


“คุณชอบผมจริง ๆ หรือ”


ผมเดินไปส่งเขาหน้าร้าน เหมือนมีรถหรูมารับเขาแล้ว มีคนขับรถรออยู่ เขาประวิงเวลานิดหน่อย แต่นอกร้านแล้ว เขาทำท่าเหมือนอยากจูบผมแต่ไม่ได้นะ ผมขมวดคิ้วรอคำตอบผม จะมาจูบแทนคำตอบไม่ได้แล้ว ผมอยากรู้ว่าเขาจะตอบว่าอะไรอีก

“อยากตอบให้เท่ากับความรู้สึกที่มี แต่ไม่รู้จะใช้คำไหนน่ะครับ”
  
คำตอบหล่อเหมือนหน้าตาเขา แต่ผมแค่อยากฟังคำบางคำเท่านั้นเอง
  
ผมเองก็กลัวเหมือนกัน เขารู้ เขาเดินมาหาผม แล้วจับมือแน่น คุณคอลินยิ้มอย่างจริงใจส่งถึงผม ผมเลิกคิ้วมองเขา แล้วเขาก็สวมกอดผมอย่างไม่ทันตั้งตัว ผมรับกอดเขาไม่ทัน เลยนิ่งเป็นหินให้เขากอดเป็นตุ๊กตา

“ช่วยมาเป็นกำลังใจให้ผมที”

  
กอดเสร็จเขาก็จากไป แล้วยังย้ำอีกว่า “อย่าลืมนะ ว่า  ผมจะมารับคุณ”


La La La



“กรีนทีเฟรบเป้ กับเค้กมะพร้าว” ผมเอ่ยถามเขา เขามีของฝากให้ด้วย และมีขนมอีกเซตหนึ่งมอบให้คุณเจ้าของร้าน เมื่อถึงเวลาปิดร้าน เขามาก่อนเวลาครู่หนึ่ง จึงมาช่วยผมปิดร้าน คุณคอลินบอกว่า ยังรู้สึกผิดกับเหตุการณ์จูบคอมโบเซตของเขาที่ทำให้ผมเสียงานเสียการณ์ คุณเจ้าของร้านเธอก็ยังแอบเคือง แต่แลกกัน เธอขอหอมแก้มคนหล่อ ๆ อย่างคุณคอลินคืน แหม!  ผมเปล่าหวงนะ แค่ผมคิดว่าคุณเจ้าของร้านไม่เบาเลยนะครับ! เธอรู้จักคุณคอลินที่เป็นเซเลปและนายแบบ เธอบอกว่าตอนแรกยังไม่แน่ใจ คุ้น ๆ หน้า แต่พออ่านในหนังสือพิมพ์กับกับนิตยสารที่ปกติเธอไม่ค่อยอ่านแต่จู่ๆ ก็อยากอ่านมัน เพราะเห็นอะไรคุ้นตา หน้าคุณคอลินนั่นเอง! เธอเลยขอฉวยโอกาส ผมยิ้มขำเธอ เพราะเธอหอมแก้มคุณคอลินโชว์ต่อหน้าผมเลย ผมโคลงหัวเขินแทนคุณคอลิน เขาเองก็คงไม่ชินแต่ก็ยังแถมกอดให้คุณเจ้าของร้านด้วย ผมยิ่งขำใหญ่ คุณเจ้าของร้านนี่ร้ายสุด ๆ
  

“ราตรีสวัสดิ์ครับ” เราสองคนบอกลาคุณเจ้าของร้าน ให้เธอได้พักเสียที เธอไล่เรากลับ บอกว่า เห็นคุณฟาร์เรลใจเป็นสาวกลับมาซะแล้ว ให้รีบไปก่อนที่เธอจะเป็นลมกับความหล่อของคุณสุภาพบุรุษคนดังคนนี้
  

ผมออกมาขำนอกร้านเลยล่ะ คุณคอลินก็ยิ้มขำพร้อมกับ “เธออารมณ์ขันดีนะ”  เราสองคนเดินออกมาหน้าร้านแล้ว ค่ำคืนแบบนี้ ผมชักหิวแล้ว ยิ่งจูบของเขาเมื่อก่อนหน้า ทำผมเอาผมเวียนหัวไปค่อนวัน เพราะความหวานติดปลายลิ้น คุณคอลินเอียงตัวมาหา ถามผมว่าหิวหรือเปล่า ในมือข้างหนึ่งเขาถือขนมที่ซื้อมาฝากผม คุณสุภาพบุรุษอาสาถือให้เองนะ ผมเลยไม่ปฏิเสธแล้วกัน พอผมบอกว่า ผมจะเอากลับไปแก้หิวยามดึกที่ห้องตัวเอง

เขาเลิกคิ้ว เอียงคอ องศาที่สำหรับคนมองเท่เสียจนไม่อยากละสายตา คุณคอลินมองผมครู่หนึ่ง เหมือนคิดอะไรได้จึงบอก

“ขนมที่ผมซื้อมา มันพอสำหรับสองคนนะ”


ผมยิ้ม นั่นเหมือนจะสื่อความหมายบางอย่าง

  
  
La La La

ผมติดรถเขามา วันนี้ช่างบังเอิญที่มอเตอร์ไซด์คู่ใจผมเสีย โกหก เอซร่า ไอ้คนโกหก ผมทิ้งมันไว้ที่หลังร้านหนังสือ เพราะผมอยากนั่งรถเขามาต่างหาก! รถเขาหรูหราและสมกับเจ้าของอย่างเขา กลิ่นน้ำหอมในรถรัญจวนหอมเสียผมอยากเอากลับไปใช้ที่ห้อง ถึงมันจะไม่ใช่น้ำหอมปรับอากาศสำหรับห้องพักก็เถอะ ไม่นานก็ถึงอพาร์ทเมนท์ของผมแล้ว แต่..เดี๋ยวนะ
  
“ผมยังไม่ได้บอกทางคุณ”
“คุณคิดว่ายังไงล่ะ เอซร่า”
“คุณ...รู้ ?” 

ผมเลิกคิ้ว เบิกตากว้างอย่างงงวย เขารู้หรือ? แต่ชายคนนี้ไม่บอกอะไรผมเลย เพียงแค่ยิ้มมุมปากให้ใจหยุดเต้นเพียงแค่นั้น พอรู้สึกตัว ก็รีบลงจากรถแล้วนำทางคุณคอลินมา จากที่จอดรถของอพาร์ทเมนท์ถึงตึกที่พัก คุณสุภาพบุรุษเขาเดินเร็วเพื่อแซงผมและมาอยู่ตรงหน้าผม เขาหยุดเท้าครู่หนึ่งก่อนหันมาหา

“ครับ ?”

ผมร้องถามเขา คุณคอลินยกฝ่ามือหนาที่อบอุ่นทาบที่แก้ม ผมแล้วหามุมที่ดี มอบจูบที่นุ่มนวลให้แก่ผม แต่ตรงนี้ ลานจอดรถ!
  

แหน่ะ! เขาแกล้งผม!ขารู้ว่าจูบผมแล้วผมจะมีอาการแบบนี้ เขายิ่งได้ใจ ถึงแม้ว่าผมจะได้เห็นอะไรดี ๆ จากการที่เขาแกล้งผม เป็นรอยยิ้มที่จริงใจที่สุดที่เพิ่งเคยเห็นจากเขาเป็นครั้งแรกก็เถอะ
“คุณคอลิน! 

ผมเอ็ดเขาเลย ไม่เกรงใจแล้ว เขาไม่เกรงใจหัวใจผมเลย จะมาจูบแบบนี้ไมได้นะ รักก็ยังไม่บอกซักคำ ชอบรึเปล่าก็เฉไฉจังเลย!


แบบนี้ผมไม่มีทางให้เขาเข้าห้องผมแน่นอน!








“ขอบคุณที่มาส่งครับ”



ผมบอกเขา แล้วรับของฝากที่เขาบอกว่า เป็นของสำหรับสองที่มาไว้ในมือ คุณคอลินประวิงเวลาให้ผมพูดอะไร แต่ผมไม่พูดหรอก ชายหนุ่มตรงหน้าผมเปลี่ยนท่าเป็นหันหลังพิงขอบประตู ไม่ยอมให้ผมปิดประตูได้ง่าย ๆ เขาคิดไว้แล้วว่าผมต้องไม่ให้เขาเข้าห้อง เพราะผมถูกเขาแกล้งน่ะสิ!

“ดึกแล้วนะครับ”
“ก็เพราะมันดึกยังไงล่ะคุณ”
“ก็เพราะมันดึกนี่ล่ะครับ ผมเลยจะต้องปิดประตู อาบน้ำแล้วก็นอน”
“ผมก็ง่วงแล้วนะ”
“ก็ดึกแล้วนี่ครับ คุณก็ไปนอนซี่”
“บ้านผมไกลนะ มันดึกแล้วด้วย”
“ก็รีบกลับสิครับ”


วนกันไปมาอยู่ที่เดิม เรื่องดึกแล้วกลับเถอะ แต่คุณคอลินดูท่าทางไม่อยากกลับง่าย ๆ เลย

“คุณคอลินครับ”


ผมไม่เข้าใจเขาจริง ๆ


“โอเค ผมขอโทษ แค่อยากแกล้งคุณจริง ๆ ผมไม่ได้มีจุดประสงค์ไม่ดีอะไร แต่อย่าคิดว่าผมเป็นคนไม่ดีเลยนะ แค่นั้นก็พอแล้ว”

ผมพยักหน้ารับทราบ เม้มปากรับคำตอบไว้ในใจ และยิ้มให้เขา ก็ผมชอบเขา และดูเหมือนเขาก็มีใจให้ ผมก็อยากสานต่อ แต่มีหรือจะไม่กลัว เขากับผมมันยากที่จะลงเอย

“คุณเชื่อใจผมก็พอ”  เขาบอกผม แววตาผิดไปจากเดิม เขาจริงจังมาก กับประโยคนี้จนผมรู้สึกมั่นใจว่ามันใช่ และเชื่อได้ ด้วยทั้งน้ำเสียงและความรู้สึกที่ลอยวนอยู่ด้วย

“ขอบคุณที่บอกผม”
“เพราะเป็นคุณผม ถึงต้องขอร้องให้คุณเชื่อใจ”


ผมยิ้มให้กำลังใจเขา เขาดูแปลกไปกับประโยคเมื่อครู่ ดูไม่เหมือนที่เคยเลย คอลิน ฟาร์เรลผู้สง่าและมั่นใจในทุกท่วงท่าของตน แต่ประโยคเมื่อครู่เหมือนไม่แน่ใจว่าจะทำให้ผมเชื่อมั่นในตัวเขาได้


“ผมกลับก่อนนะครับ ฝันดี เอซร่า”



ผมพยักหน้ารับ ชายหนุ่มตรงหน้ากำลังหันหลังเพื่อตรงกลับบ้าน แต่เขาชะงักกึก



“คุณเอซร่า”
“ครับ ?”
“คุณบอกให้ผมกลับเพราะดึกแล้วใช่มั้ย”
“เอ่อ..อื้อ”
“แต่ว่านะ.....”



เขาบอกทั้งยิ้มขำ พร้อมพยักเพยิดให้มองบางอย่าง


“ปากไม่ตรงกับใจนะ “ เขาบอก และผมก็เห็น


เอซร่า! ไอ้บ้าเอซร่า มือแก!



ผมไล่เขาปาว ๆ แต่มือผมกลับรั้งชายเสื้อสูทเขาไว้ โอโห เอซร่า มิลเลอร์ แกเป็นอะไรไป


“เอ่อ..ผม”



“คืนนี้เราอยู่ด้วยกันเถอะ” 









“อื้ม”
“นิ่งไว้เด็กดี”


เสียงครางประหลาดหลุดออกจากปากผม ผมเปิดประตูรับใครบางคนเข้ามาแล้ว ทั้งประตูห้อง แล้วก็ทั้งประตูหัวใจผมด้วย ผมหวงพื้นที่ส่วนตัวมาก แต่คอลิน ฟาร์เรลเป็นคนที่ผมเปิดประตูกว้างไว้ต้อนรับเขาเลยด้วยซ้ำ

  
“คุณคอลิน..เดี๋ยวซี่”  ผมว่าคุณคอลินเขาก็แอบหื่นนะ ไม่ล่ะไม่แอบแล้ว หลังผมปิดประตูห้องหลังจากรับเขาเข้ามาไมนาน เขาก็จู่โจมเหมือนเสือหิวกระหายเหยื่อ ก่อนอื่นเลย เขาจูบที่ริมฝีปากเขา เหมือนกับอยากทำมานาน ไล่มาตรงกกหูและปลายจมูก ส่วนล่างของชายหนุ่มตรงหน้าผมเริ่มดุนดัน ผมว่าเขามีอารมณ์ง่ายไปนะ...


“แค่กับคุณ เอซร่า วันนี้คุณทำผมแทบบ้า” 
“ผมต่างหากไม่ใช่คุณ คุณเอาแต่จูบผม” 
“ผมอดใจมาตั้งนาน พอได้ทำ มันก็หยุดไม่ได้”
  
เขาบอกแบบนั้นแล้วก็ลงมือทำจริงอย่างที่ว่า คุณคอลิน สุภาพบุรุษที่สุขุมและคงความคูลทุกกระเบียดนิ้วที่คุรเห็นตามนิตยสารทั่วไปหรือ ? ตอนนี้ไม่ใช่ ตอนนี้เขาร้อนแรงและกลายเป็นไอ้เสือผู้หิวกระหายไปแล้ว และผมคือเหยื่อของเขา
  
“อ๊ะ..”  ผมถูกเขากระตุ้นความอยาก ถูกจุดให้พุ่งสูงขึ้นเรื่อย ๆ อา... นี่ไม่ใช่แล้ว

 “คุณ.คอลิน..”
“ถ้าไม่ได้ ผมจะหยุด”


โอย ให้ตาย คุณครับ มาถึงขนาดนี้แล้ว ก็ปล้ำไปเลย จะทำอะไรผมก็ทำเถอะ เพราะในฝันของผม ผมเป็นของคุณไปนานแล้ว


แต่เอซร่า มิลเลอร์ก็ต้องเล่นตัวบ้างตามประสา





“เอ่อ..ผม”


“ผมขอโทษนะ คือยังไงดี ผม.---“ คุณคอลินเริ่มรู้สึกสับสนว่าเขาควรทำอย่างไรกับผมดี เหมือนโดนผมตบเรียกสติเพราะผมทำตัวเหมือนกลัวเขา เขากำลังจะปล้ำผมอ่ะ! ก็ต้องตกใจสิ แม้จะเต็มใจก็เถอะ


“คุณคอลิน”


ผมรู้สึกตัวหลังจากที่ถูกจู่โจมจากคุณคอลินเมื่อครู่ว่าผมอยู่บนเตียงแล้ว และผมถูกเขาเตรียมพร้อมเพื่อเป็นมื้ออาหารของเขา เสือผู้หิวโหย  แต่ถูกไว้เพราะผมเอง คุณคอลินถอยหลังไปยืนตรงหน้าเตียง ในขณะผมกึ่งนั่งกึ่งนอน แต่เสื้อเชิ้ตตัวบนใกล้จะหลุดจากตัวผมอยู่รอมร่อ กระดุมถูกปลดตอนไหนวะเนี่ย คุณคอลินมือไวชะมัด 


“ผมไม่อยากทำให้คุณรู้สึกกลัว ผมอยากให้คุณเต็มใจน่ะ ถ้าเราจะทำอะไรด้วยกัน “ คุณคอลินสารภาพออกมา เขาดูหนักใจเหมือนกันนะ แถมไม่มั่นใจเลยว่าผมจะเต็มใจไปกับเขา แต่คุณครับ คุณทำให้ผมเป็นถึงขนาดนี้แล้ว!


ไม่คิดว่าคุณคอลินจะมีมุมนี้ด้วย


“คุณชอบผมมากแค่ไหน”  ผมถามคำถามที่อยากรู้ แต่เปลี่ยนเนื้อในนิดหน่อย




จากที่ก้มหน้า เขามองผมจ้องตาด้วยกัน สายตาที่เขามองผม ทำให้ผมเขินจนผมเองที่ต้องหลบสายตาเขา ตายแน่ ๆ


ถ้าผมตอบตกลงว่า มาเลย กินผมสิ  ผมบอกได้เลยว่าวันพรุ่งนี้ ผมต้องลางานแน่




เราควรทำยังไงดี กับสถานการณ์นี้

ผมที่กลัวมาก ไม่ใช่กลัวคุณคอลิน แต่กลัวว่าจะเจ็บมากจนไม่ไหว ผมไม่เคยทำอะไรแบบนี้กับใครนะ เลยไม่กล้าตอบอะไรได้แต่เงียบ

บังคับผมหน่อยก็ได้ เดี๋ยวผมก็ยอมแล้ว แต่อีกฝั่ง คุณคอลินก็ดูกังวลว่าผมจะไม่เต็มใจ  เขากังวลมาก แต่ผมก็ไม่กล้าเชื้อเชิญเขาน่ะสิ นอกจากกลัวเจ็บ ก็กลัวว่าเขาจะคิดว่าผมเป็นคนเจนจัดกับเรื่องแบบนี้ ทั้งที่ผมทำกับคุณแค่ในฝันนะ คุณคอลิน ฟาร์เรล




“เรามากินขนมกันเถอะ”



La La La





อะไรกันวะ คงจะทั้งผมและคุณคอลิน อุทานในใจ 

สรุปแล้วทั้งผมและคุณคอลินก็ต่างเขินอาย เพราะในที่สุดก็มาลงเอยด้วยการมานั่งกินขนมที่คุณคอลินซื้อมาทั้งเสื้อหลุดลุ่ยจะหลุดแหล่ไม่หลุดแหล่ อยู่ตรงริมเตียง ทั้งอารมณ์ครุกกรุ่นที่อยู่ในตัวทั้งผมและเขา ก็เดาเอา เพราะตอนที่โดนจู่โจมเมื่อก่อนหน้า เจ้าส่วนล่างของคุณคอลินเริ่มซุกซนแล้ว
  

ผมกลั้นใจมาก ต้องกล้าสุด ๆ และกลัวด้วย แต่คนในฝันที่ผมเคยทำอะไรติดเรทนั่งอยู่ตรงหน้าแล้ว ผมอดใจเต็มที่แล้วผมกินขนมโดยไม่พูดกับเขาซักคำ คุณคอลินได้แต่นั่งมองผม ไม่กินอะไร ผมมองหน้าเขา เม้มปากเขินแล้วเขินอีก กินหมดก็ยกมือปิดหน้า


เขินนะ



บ้าเอ๊ย






และเป็นผมที่ตบะแตก ศีลหลุด เจ็บไม่เจ็บ จะยังไงก็ช่างแล้ว



ผมจะเอา!
คือหมายถึง จะเอาใจคุณคอลินมาให้ได้ ทั้งที่เราใกล้กันมากขนาดนี้แล้ว ผมควรจะสู้




“เอ่อ....” ผมคว้าแขนคุณคอลินแล้วผลักร่างเขาให้เอนนอนไปบนเตียงแล้วผมคร่อมทับเขาไปเลยทั้งตัว


เห้ย! เอซร่า ใจเย็น ผมบอกตัวเอง


แล้ว... ? แล้ว?... จากนั้น ผมทำอะไรต่อล่ะ ผมหยุดไปครู่หนึ่ง เห็นหน้าหล่อ ๆ ของคุณคอลินก้ประหม่าแล้ว ผมเริ่มเองนะ แบบนี้ไอ้เสื้อใต้ตัวผมก็ยิ้มแล้ว



“เอ้าฮึ่บ!”  เขาร้องขึ้นมาแล้ว ใช้แรงแค่นิดหน่อย พลิกร่างผมลงไปอยู่ด้านล่างเสียเอง ฮือ ช่วยด้วย


ไม่รู้ผมกลัวอะไร แต่แค่รู้ว่ากลัว ผมกลัวไปหมด สับสนด้วย


“ไม่ต้องกลัวผม เชื่อใจผม ผมอยู่กับคุณตรงนี้ ผมจะดูแลคุณเอง”


เขาบอก จบความเขาก็เริ่มบรรเลง โดยเริ่มด้วยจังหวะช้าที่ผมรู้สึกเคลิ้มตาม คุณคอลินใช้มือลูบไล้ไปตามร่างกายของผม เขาจูบผมอีกครั้งให้ผมหายกลัวและสับสน และเขาทำสำเร็จ ผมเคลิ้มไปตามแรงที่เขานำพาไป จะพาไปไหนก็เอาเลยครับ ตอนนี้ผมไปได้ทุกที่ถ้ามีคุณ คุณคอลินแทรกซึมเข้าสู่ใจของผมทีละน้อย


“อ๊ะ” ผมถูกคุณคอลินปั่นป่วนส่วนล่าง มือหนาของเขาไวและดูชำนาญจนผมนึกหึง คนที่เขาเคยทำให้มาก่อนหน้า เรื่องแบบนี้ผมไม่ถนัด เขาถนัดนัก แน่นอนอายุขนาดเขาก็ต้องมีผ่านมาบ้าง แต่ผมมานึกหึงไปก็ไม่มีประโยชน์ ก็เพราะตอนนี้คอลิน ฟาร์เรลกำลังอยู่กับผม ตอนนี้

“มีความสุขไปกับผมนะ”  เขากระซิบบอกผมที่ข้างหู หลังจากที่ปั่นป่วนส่วนล่างของผมแล้ว และแน่นอนถ้าเขาทำอย่างนั้นได้ คือเขาถอดกางเกงของผมออกไปแล้ว ตอนไหนอีกวะเนี่ย!  หลังจากนั้นเขาก็ยืดตัวขึ้น จัดการกับเสื้อผ้าของตัวเองให้พ้นจากร่างกายของเขา  ว้าว... กล้ามเขา สวยชะมัด ทั้งมัดกล้าม ทั้งกล้ามเนื้อทุกส่วน เขามีซิกแพคด้วย ยิ่งมองผมยิ่งเขิน เขาก็มองผมตอนที่ผมเขินเขา โอย เขารู้แล้วว่าตอนนี้ผมผ่อนคลายมากขึ้น  ชายหนุ่มก้มมาจูบผมอีกครั้ง ทีนี้เขาไล่จูบไปทุกส่วน


เหมือนมาก เหมือนในฝันเลย!


เขาจูบไปทุกส่วน ร่างกายของผมทุกเขาตรตราจองไปหมด รอยสีกุหลาบจากริมฝีปากร้อนของคุณคอลินประทับตราไว้ เหมือนจะไม่ต้องการให้ใครคนไหนมาเป็นเจ้าของพื้นที่ตรงนั้นแล้ว


“อา..คุณคอลิน มันเสียว..”

ผมพูด  อย่างที่ผมเคยพูดกับเขาในฝัน

  
“เหมือนในฝันเลย...”
“หืม?”

ผมหลุดปากไป แม้พึมพำเขาก็ได้ยิน เขาเลยเอาใบหน้าหล่อเหลามาชิดกับใบหน้าผมอีก ทั้งที่ยังค้างอยู่แถว ๆ ท้องหน้าผมอยู่

“ฝันถึงผมหรือ?”
“เคยฝันน่ะครับ”
“ฝันแบบไหนกัน เด็กทะลึ่ง” เขาว่าผม แต่เขายิ้มออกมา แววตาตอนนี้ ตัวเขาทะลึ่งยิ่งกว่าอีก!

“ก็แค่ฝัน คุณอย่าล้อผมสิ”

โดนเขาล้อเข้าให้ก็ทำอะไรไม่ถูก คุณคอลินจูบผมอีกครั้ง ลดอาการประหม่า แล้วเขาก็ไปสาละวนกับหน้าท้องของผมอีกที ก่อนที่จะลงต่ำไปมากกว่านั้น ผมร้องครางมั่วไปหมดไม่ได้ศัพท์ยิ่งเขามอบความสุขสมให้ ผมก็ยิ่งร้องดัง แถมด้วยชื่อคุณเขามาด้วย
  
“คุณ..คอลิน”
“ว่าไง..”
  
เขาตอบรับขึ้นมา เพราะผมเรียกชื่อเขาหลายครั้ง เขาละปากจากส่วนนั้นของผมมา เขาทำให้ผมเห็นสวรรค์รำไรอยู่หลายครั้ง จนทั้งเปรอะทั้งเปื้อนทั้งตัวผมทั้งเขาด้วย ผมเห็นเขาแอบชิมรสชาติของผม ผมงี้ตาเหลือก! บ้าจริง แต่จะร้องบอกอะไรก็ไม่ไหวแล้ว ผมแทบละลายติดคาเตียง

“ผมรักคุณน้า ผมชอบคุณมากเลย ฝันผมเป็นจริงแล้ว “ ผมบอกเขา ทั้งที่ผมยังอึน ๆ มึน ๆ ตาพร่ามัวไปหมดเพราะเมาทั้งจูบ ทั้งความสุขสมที่ได้รับ ผมบอกเขาซ้ำประโยคเดิม ก็เหมือนในฝันอีก ที่ผมหวังว่าจะได้บอกกับเขาซักครั้ง และมีโอกาสในตอนนี้ ผมก็ได้บอก
  
“ขอบคุณมากที่รักผม เอซร่า”  คุณคอลินกลับขึ้นมาด้านบน มองหน้าผมอีกครั้ง และจูบที่หน้าผากความอบอุ่นแผ่นซ่านมาจนถึงหัวใจ จนผมน้ำตารื้น
  
เพราะความฝันมันเป็นจริง ผมมีความสุขมากเลยนะ จนนึกว่าตัวเองกำลังฝันอยู่ หรือตอนนี้จริง ๆ แล้ว ผมหลับกลางวัน นอนฝันอยู่บนเค้าท์เตอร์ร้านหนังสืออยู่กันนะ คิดสารตะไป ผมก็ยิ่งอ่อนไหวและอัดอั้นในใจ เขามองเห็นทั้งหมดนั้น


“ผมจะทำให้คุณรู้ว่าทั้งหมดนี้ที่เกิดขึ้น มันไม่ใช่ฝัน คุณเป็นความจริงของผม เอซร่า มิลเลอร์”

  
และผมก็ถูกเขาพาเข้าสู่สวรรค์ทั้งที่เราอยู่ในความเป็นจริง ที่ไม่มีสวรรค์เสียหน่อย


“อา..ผม...อื้ม”


สวรรค์บนดินของผม


คุณคอลินนำพาอารมณ์ของผมให้ถึงจุดสูงสุดอยู่หลายครั้ง ทั้งด้วยปากร้อนของเขาทั้งด้วยมือนหนาที่เคลื่อนไหวดีจนเกินจนผมร้องครางไม่เป็นภาษา ตอนนี้ผมต้องการมากเท่าทวีจนทนไม่ได้แล้ว


“คุณคอลินฮะ” ผมอ้อนเขา เขาเลิกคิ้ว เบิกตากว้าง ผมคิดว่าเขาคงไม่คิดว่าผมจะอ้อนเขาบนเตียงแบบนี้ทั้งที่เมื่อกี้ยังกลัวเขาอยู่เลย


ชายหนุ่มตรงหน้าผมคนนี้ คอลิน ฟาร์เรล ใบหน้ารูปหล่อของเขาชิดใกล้มาก จนผมเห็นดวงตาสีสวย ไรหนวดที่เพิ่งเริ่มขึ้นไม่นาน ชิดแนบสนิทกันจนรับรู้ว่าเขาเองก็ใจเต้นแรงมาเหมือนกัน


“อย่าอ้อนแบบนี้เลยคุณ จะลุกไม่ขึ้นเอานะ”  ชายหนุ่มของผม คนคูล ๆ ของผมตรงหน้า กลับประหม่าแทนผมแล้ว


ผมยิ้มเขินกัดปากกลั้นไม่อยู่

“ผมบอกรักคุณแล้วนะ”


คุณคอลินยิ้ม เขายิ้มบ่อยเหลือเกินในวันนี้ ผมดีใจที่ทำให้เขายิ้ม ดีใจที่เขายิ้มเพราะผม ผมวาดรอยยิ้มให้เขา เป็นดินสอที่วาดรอยยิ้มบนใบหน้าหล่อเหลาของเขา ผมเป็นความสุขของเขาใช่มั้ย

และผมก็ตอกย้ำคำบอกรักของผม ด้วยการช่วยให้เขาไปสวรรค์แม้อยู่บนดิน ด้วยปากของผมเอง จะบอกเลยว่ามันคับใหญ่ในปากไปหมด ผมแทบจะจัดการรวบรวมเข้าไปไม่หมดด้วยซ้ำ คุณคอลินใหย๋โตอลังการอะไรขนาดนี้!  ผมอยากให้เขามีความสุขเพราะผม

“อา...เอซร่า..อืม”


เขาครางชื่อผม ผมชอบฟัง เขาร้องครางสุขสมเพราะผมทำมัน ก็ชอบฟัง ผมพาให้เขาไปถึงจุดสูงสุดดังใจปรารถนา ผมยิ่งดีใจ จนเขาพอใจแล้ว ผมจึงถอนปากละมา รสชาติของเขาเป็นอย่างนี้นี่เอง ไม่ต้องมโนแล้ว! ผมคิดแล้วยิ้ม เขามองผมอยู่ก่อน ผมว่าผมเผลอเผยจุดที่เขาจะล้อผม

“คิดอะไรอยู่เนี่ย เด็กคนนี้”
“ก็เรื่องคุณนั่นล่ะ”
“หืม?”
“คุณชอบเข้ามาในฝันผมอยู่เรื่อย”
“เอาอีกแล้ว”


คนตรงหน้ายิ้มให้ผม แล้วกดหลังผมให้นอนราบไปกับเตียง

“ความจริงอยู่ตรงหน้า อย่าคิดถึงคนในฝันซี่ ผมอิจฉานะรู้มั้ย”

 เหมือนถึงเวลาแล้วที่เขาจะมอบความสุขให้ผม โดยการให้เรารวมเป็นหนึ่งเดียวกัน ผมนอนนิ่งหรือ? ไม่ ผมกอดตอบเขา ให้เขาเข้ามาใกล้ผม แนบชิดกัน และเมื่อชายหนุ่มตรงหน้าที่ได้รับอนุญาตแล้วก็ไม่กลั้นอารมณ์ใด ๆ ทั้งสิ้น เล่นเอาผมตัวสั่นไปทั้งตัว เสียงดังจากกิจกรรมลั่นไปทั่วห้อง ผมได้ยินมันทั้งหมด ทั้งเขินทั้งอาย แต่หยุดได้หรือ ? ไม่ได้หรอก ผมมีความสุขขนาดนี้ ชายหนุ่มตรงหน้าตั้งใจมอบความสุข เขาบรรจุความสุขของเขาแล้วสอดใส่เข้าทำให้ผมเสียวสะท้านไปจนถึงหัวใจ ผมกอดรัดร่างกายที่เต็มไปด้วยกล้ามเนื้อที่งดงามนั้นด้วยสองมือ โอย ของเขาใหญ่จัง!  ผมเริ่มรู้สึกเจ็บตรงสะโพกแล้ว แต่ไม่บอกให้เขาหยุด

“อา... อื้อ..”
“เจ็บก็บอกผมนะ”


เขายังนึกเป็นห่วงผมอยู่ เลยลดแรงลงหน่อย หลังรู้ว่าตัวเองต้องการมากเกินไปจนแทบทำให้ผมแตกสลายคาอกเขา

“อา...เอซร่า ...คุณ..น่ารัก”


ยังมีออารมณ์ปากหวานมาบอกแบบนี้กันอีก แต่ผมชอบฟังนะ อะไรก็ตามจากเขา ผมชอบที่สุด


จนในที่สุดเมื่อเราเข้าไปจนถึงที่สุดของสวรรค์บนดินนี้แล้ว เราก็กลับลงมาด้วยกัน หนทางนั้นเราจับมือกันไว้และปลดปล่อยออกมา ความสุขนั้นทำให้เราสองคนในล้นปรี่ แต่ก็ทำให้เราตัวเละเทะไปหมดเหมือนกัน

  

“คุณ..โอเคนะ”
“อื้อ” ผมโอเค ตรงไหนกันล่ะที่โอเค ทั้งเจ็บสะโพกจนแทบแยก แต่ผมก็ปล่อยให้เขาทำเอง

“คุณมีความสุขมั้ย?” ไม่ใช่คุณคอลิน แต่เป็นผมเองที่ถามเขา ผมแค่อยากรู้เวลาเขาอยู่กับผม เขารู้สึกอย่างไร แม้สติผมเลือนรางเต็มที
“ผมมีความสุขนะ ก่อนหน้านี้ที่คุณถามผม นี่คือคำตอบ”  ผมบอกต่อเขา คุณคอลินพลิกร่างกลับมา รวบตัวผมไปกอดจนจมอก ผมว่าผมกับเขาสูงไม่ต่างกันเท่าไหร่ แต่ผมตัวบางกว่าเขา กอดทีก็จมหายไปเลย


“ผมกำลังอยู่บนสวรรค์ เอซร่า กับเทวดาตัวน้อย ๆ ของผม”







เช้ามา...ผมจำประโยคก่อนที่ผมจะหลับเป็นตายได้ คุณคอลินบอกว่า กับเทวดาตัวน้อย ๆ ของผม นั่นหมายถึงผมแน่นอน ผมจำได้ว่าผมยิ้มและเขาก็จูบผมบอกราตรีสวัสดิ์ แต่ตื่นมาก็เลยเวลาทำงานแล้ว


“โอย...”  ผมมองไปรอบห้อง ไม่เจอเขา..แม้ใจหายหน่อย แต่ก็ไม่ใช่ฝัน



ตัวผมปวดไปหมด สะโพกเหมือนจะหลุด คราบสีขาวของบางอย่างเป็นร่องรอยแห่งความสุขจากเมื่อคืนนี้ ทั้งบนตัวผม ในตัวด้วย (เขาปล่อยใส่ในตัวผมด้วยหรือ ?!) บนผ้าปูเตียง หันไปข้าง ๆ ขนมหมดเกลี้ยง โอเค เรากินกันก่อนทำกิจกรรมอย่างว่า และส่วนของคุณคอลินก็หมดด้วยเดาเอาว่าเขาคงกินก่อนออกไปทำงาน มีโน้ตบนหัวเตียงว่า ไปทำงานเลิกงานจะมาหานะ เเละเขาโทรลางานให้ผมแล้ว เพราะไม่สบาย คุณเจ้าของร้านคงรู้ดีเลยล่ะว่าทำไม และช่องทางการติดต่อของคอลิน ฟาร์เรลทั้งหมด ผมจะติดต่อเขาได้ทุกทาง ชายหนุ่มบันทึกเบอร์โทรศัพท์ของตัวเขา โซเชียลทุกช่องทาง ที่อยู่ให้อีก แถมที่ทำงานให้ด้วย


ผมคิดว่าที่เขาทำ ก็คล้ายกับการคอนเฟิร์มว่า ผมเชื่อใจเขาได้ เขาจริงจัง และนี่ไม่ใช่ฝัน


ผมเดินอย่างลำบากไปห้องน้ำ ขออาบน้ำล้างตัวก่อน เพราะคราวเหนอะ ๆ นี้ไม่สบายตัวเหมือนกัน ยิ่งที่อยู่ในตัว ผมคงต้องใช้เวลาเอาออกอีกนาน



“เอ๊ะ ?” โน้ตอะไรหน้ากระจก


ถ้ารอผมหน่อย คืนนี้ผมจะมาเอามันออกให้นะ

ผมรู้เลยเขาหมายถึงอะไร บ้าจริง ขนาดตัวเขาไม่อยู่แต่เขาทำผมเขินนะ! 




La La La



“สวัสดีครับ” ทุกวันนี้ผมมาทำงานด้วยความหน้าชื่นตาบาน แน่นอนล่ะ ตั้งแต่ที่ผมกับคุณคอลินผ่านคืนนั้นกันมา เราก็ได่พัฒนาความสัมพันธ์ขึ้นเรื่อย ๆ และระยะห่างระหว่างเราก็น้อยลง แต่คุณคอลินเขาก็ยังมีพื้นที่ส่วนตัวอยู่นะ และก็เหมือนกันกับผมนั่นล่ะ ที่ก็มีพื้นที่ส่วนนั้นเหมือนกัน อย่างเช่นว่า ผมก็ยังฝันเรท ๆ ถึงเขาเหมือนเคย แถมคราวนี้มีตัวจริงให้อ้างอิงด้วย กลายเป็นผมหมกหมุ่นโคตร ๆ เวลาที่วันไหน ผมไม่เจอเขา และถ้าวันไหนเจอกัน ผมจะกระโจนเข้าหาเขาก่อนด้วย ในบางที


แกมันแมวติดสัด เอซร่าเอ๊ย! 


ผมที่ทั้งชีวิตโดนเรียกว่าไอ้ลูกแมวตลอด เพราะนิสัยแมว ๆ ของผม เพื่อนชอบเรียกกัน เลยเรียกตามกัน และผมดันซึมซับมา และวันหนึ่งคุณคอลินก็ยังบอกว่าผมเหมือนแมว


“แมวน้อย”
“ผมเนี่ยนะ ?”
“คุณขี้อ้อนนะ รู้ตัวมั้ย?”
“ผมหรือ ?”
“นิสัยแมว  ๆ หลายอย่างในตัวคุณด้วย บางทีก็ดูเหมือนมีโลกส่วนตัว คิดนั่นคิดนี่ บางทีก็อยากอ้อนเจ้าของ หรือเป็นตามประสาวัยรุ่นหรือ?”
“อันนี้เพื่อนผมก็เรียกผมนะ”
“งั้นหรือ ? แต่ก็ดีจังนะ ผมบังเอิญชอบแมวมากด้วยสิ”

เราคุยกันตอนที่อยู่กันสองคน.....อืม ก็หลังจากที่ทำกิจกรรมออกกำลังกายหรือที่ผมเรียกว่าสงคราม เพราะยิ่งมากครั้ง ก็ยิ่งเละเทะไปกันใหญ่ อย่างล่าสุดนี่ โคตรเหมือนในความฝันของผมเลย! เพราะห้องเละมาก คุณคอลินที่คิดถึงผมสุด ๆ เราไม่ได้เจอกันหลายวันอยู่ (ผมเลยใช้โควตาความฝันเรทของผมไปหลายที) คุณคอลินเล่าว่ามีงานโปรเจคใหญ่ที่ต้องลงไปดูแลเอง

“ผมโดดงานไม่ได้แล้ว  กลัวจะไม่มีเงินเลี้ยงแมวบางตัว”
“ผมเลี้ยงง่ายกินง่าย”
“กินเยอะด้วย”
“กินเยอะที่ไหนแค่คุณคนเดียว”


ดูสิ ดูผมพูดเข้า วันนั้นผมรู้สึกเหมือนได้รับชัยชนะเพราะทำให้เขาเขินได้ ทุกวัน ๆ จากนั้นเป็นต้นมา ผมเจอเขา และที่ทำให้ผมมีความสุขคือ ผมกับเขา ไม่ใช่ฝันแล้ว



และวันนี้คุณคอลินส่งข้อความมาหาผม อาจจะมาหาช้าหน่อย ไม่เป็นไร ผมรอได้ 

อ่านจบผมก็วางมือถือลง


เขาไม่บังคับให้ผมออกจากงาน แม้จะเป็นแค่งานซัมเมอร์ แต่เขาบอกว่าอย่าหักโหมและหมั่นดูตำราเรียนด้วย แต่เขาน่ะงานหนักกว่าผมเสียอีกนะ 

ชักเป็นห่วงแล้วแฮะ

แม้จะไม่นาน แต่เราใกล้กันมากกว่าเดิมมากทีเดียว ถึงจะบอกก็เพราะเรามีความสัมพันธ์อย่างนั้นกันไปแล้ว แต่ก็เพราะเราใจตรงกันด้วยส่วนหนึ่ง แม้คุณคอลินนั้นจะดูปากหนักมาก แต่ในซักวัน เขาจะบอกผม บอกว่าทำไมเขาถึงดูแลผมมากขนาดนี้


แต่ที่ผมชอบที่สุด มันไม่ใช่คำสวยหรู แต่เขาบอกว่าผมเป็นกำลังใจให้เขา

“แค่มาเห็นหน้าคุณ ห้านาที ผมก็จะมา” 

คนเราจะมาหาใครแค่ ห้านาที เพื่อมองหน้าแล้วก็ไป ..เขาล่ะ คอลิน ฟาร์เรล

เขาเล่าความจริงอย่างหนึ่งว่า เขาโดดงานมาบ่อยมากตั้งแต่พัฒนาความสัมพันธ์กับผมตั้งแต่ผมกับเขาคุยกันที่ร้านหนังสือ และความจริงที่ว่า เขาไม่ใช่คนที่ว่างได้ถึงขนาดมานั่งเล่นร้านหนังสือเหมือนที่เขาเคยมาหาผมได้ทั้งวัน งานของคุณคอลินมีหลากหลายงาน เพราะเขาเป็นหนึ่งในซีอีโอเครือใหญ่ของบริษัทระดับบิ๊กมีโปรเจคต้องดูแลมากมาย ชนิดที่บางทีไม่ได้นอนข้ามวัน น็อคเข้าโรงพยาบาล และเขาห่อเหี่ยวใจมากขึ้นทุกวัน

แต่พอได้มาเจอผมเขาบอกว่า แค่ห้านาทีก็คุ้มแล้ว


นั่นจะไม่ทำให้คุณใจเต้นมากหรอกหรือ ?


นั่นทำให้ผมตั้งใจรอบางคำจากปากเขามาก ๆ เลยล่ะ ถ้าเขาทำได้ถึงขนาดนี้ 
ผมยังรอนะ ผมรอได้ จากที่อยู่ด้วยกันมา สัมผัสได้ว่า คอลิน ฟาร์เรลเป็นคนปากหนักมาก แต่ผมน่ะรอเก่งนะ




“สวัสดีครับ”
“อ้า คนนี้นี่เอง น่ารักดีนี่”


เอ่อ...มีลูกค้าเข้าร้านมา ผมทักทายตามปกติแต่ทำไมพูดอะไรแปลก ๆ อีกแล้ว 


ตาหมีร้อยเก้าสิบคนนั้น ... ทำไมผมถึงนึกถึงคำของคุณลิลี่ได้ล่ะ


“คอลินโดดงานบ่อย ๆ เพราะเธอ รู้ตัวมั้ย หืม “


ตาหมีร้อยเก้าสิบคนนั้นของคุณลิลี่หรือเปล่านะ ? เพราะลักษณะใช่มาก ผมจ้องหน้าเขา เขาตัวสูงกว่าคุณคอลิน สูงกว่าผมมากด้วย ผมจะต้องเงยหน้ามองเขา เขามองต่ำ ขมวดคิ้วด้วย ทำหน้าเครียดอะไรแบบนั้น แล้วอยู่ๆ ก็ยื่นมือมา


“โอ๊ย ผมเจ็บนะ”

หยิกแก้มผม เหมือนคุณลิลี่เลย!

“ ถ้าลิลี่มาตื๊อเธอไม่สำเร็จ ฉันก็ไม่หวังจะได้ตัวเธอไปหรอกนะ แต่ก็จะถามหน่อยแล้วกันว่าสนใจไปเล่นหนังมั้ย”

ว่าแล้วเชียว!

“ไม่ครับ ผมไม่ขึ้นกล้องหรอก ผมสงสารตากล้องคุณ” คุณหมีตรงหน้ายิ้มรับแล้วเอามือมาโบกใส่หัวผม เอ่อ ไม่ใช่สินะ เขากำลังลูบหัวผมอยู่

“ฉัน เบน แอฟเฟล็ค” 

ผมเคยได้ยินชื่อเขานะ...



“ผู้กำกับหนังดัง ๆ คนนั้นนี่
! เพิ่อนสนิทคุณคอลิน!” ผมถึงคุ้นหน้าเขา ก็เพราะเขากับคุณคอลิน ร่วมงานสังสรรค์ในวงสังคมกันบ่อยนี่เอง
“เออ รู้สึกตัวได้ซักที เผื่อเธอจะสนใจหนังของฉันมากขึ้น”
“ไม่อยู่ดีฮะ ผมไม่ถนัดเรื่องนั้นเลย”

บรรยากาศดูอบอุ่นดีจังผู้ชายคนนี้ ดูเหมือนคุณหมีตัวใหญ่ ๆ ในสวนสนุกเลยล่ะ ผมยิ้มให้เขาครั้งหนึ่ง เขาก็เอามือใหญ่ ๆ หนา ๆ ของเขามาโบก เอ๊ย ลูบหัวผมอีก อะไรกันนะ
  
“เด็กใหม่คอลินนี่น่ารักไม่เบา”
“เอ่อ...คุณหมายถึงผม”
“ใช่สิ”

คุณหมีเบนตรงหน้าพูด คือเขาชมผมใช่มั้ย แล้วตอนนี้เขาก็ดูเหมือนไม่ใช่คนที่จะมาซื้อหนังสือเท่าไหร่ แต่ในที่สุดก็หยิบอะไรซักอย่างในร้านมา ก็มีข่าวคุณเขากับหนังเรื่องใหม่ กรอบข้าง ๆ เป็นคุณคอลิน
  
“โอเคกับข่าวแบบนี้หรือ เธอจะเห็นข่าวของคอลินบ่อยเลยนะ ในช่องกอสซิบแบบนี้”

คิดว่าผมจะไม่เห็นหรือ ? เห็นสิ ตั้งแต่รู้ว่าคุณคอลินเป็นคนดัง ผมก็เสิจหาข่าวเขาออกบ่อย แต่เพราะเขาทำให้ผมเชื่อว่าเขาไม่ใช่คนแบบนั้น และผมเชื่อแบบนั้น

“ไม่คิดมากเลยครับ”
“เป็นเด็กดีจังเลยแฮะ”
“ไม่ใช่แบบนั้น แต่คุณคอลินเขาไม่เหมือนเป็นแบบนั้นนี่ครับ”

คุณหมีเบนเขาโน้มหน้าลงมา ชิดหน้าผม แล้วยิ้มเบาบางหน้านิ่งให้ เอามือโบกหัวผมอีกแล้ว เขาชอบทำแบบนี้กับทุกคนมั้ยเนี่ย

“เธอไม่รู้ก็ดีแล้ว อย่างน้อยเธอจะได้ไม่ต้องมาคิดมาก”
“หืม”

เขาพูดอะไรแปลก ๆ

“คอลินน่ะอายุก็เยอะแล้วนะ เธอคงรู้ว่าเขาต้องผ่านอะไรและใครมาเยอะเหมือนอายุเขา อย่างน้อยก็เกือบสองรอบของเธอ”

แน่อยู่แล้ว ผมก็ทำใจไว้ส่วนหนึ่งแต่นั่นมันอดีตของเขานี่ ผมไม่สนใจหรอก อดีตในตอนนี้ ซึ่งคุณคอลินไม่เป็นแบบนั้นเลยในปัจจุบัน ผมจะกังวลทำไมในเมื่อเขาสม่ำเสมอกับผมแบบนี้ และผมว่าเขาแสดงออกต่อผมชัดเจนมากนะ


“ชัดเจนแค่ไหน บางทีมันก็แค่ที่เธอเห็นเด็กน้อย เป็นคนของคอลิน ฟาร์เรล เธอต้องอดทนนะ สู้ๆ นะ”


คุณหมีเบนพูดอะไรก็ไม่รู้ สู้ๆ อะไร ผมต้องสู้ๆ อะไรกันเล่า มาทำให้ผมเขวทำไม
ผมไม่ฟังหรอก
ไม่หรอก
จะไม่เก็บมาคิด

..ผมอาจจะเป็นคนที่มาหลัง แต่ผมก็รักเขานะ นั่นไง ผมเริ่มคิดแล้ว..

“อีกอย่างหนึ่ง เด็กน้อย เธอได้ฟังคำว่ารักจากเขาหรือยัง ถ้าเคยแล้ว ช่วยบอกฉันที ฉันจะได้ดีใจกับเธอ เพราะที่ผ่านมา คนที่อยู่กับคอลิน ยังไม่เคยได้ฟังคำนั้นเลย เท่าที่ฉันรู้ เพราะคนที่ถูกคอลินเมินคำว่ารักใส่ มักจะมาด่าคอลินกับฉันเสมอว่า คอลินไร้หัวใจ งานเขาก็สำคัญมาก เหมือนลูก เพราะเขาสร้างมันมากับมือ "


เขารวนผม คุณหมีเบนทำผมรวน เขามาเพื่ออะไร เตือนผมหรือ ? จริง ๆ แล้วผมเคยได้ยินคุณคอลินบอกผมว่า ก็เคยโดดงานมาแต่ผมไม่คิดว่ามันจะมากมายจนจะต้องโดนติเตียน หรือมากจนใครสังเกตได้ เขาโดดมาหาผมจริงอย่างนั้นหรือ ? ดูเหมือนเขาพูดทีเล่นทีจริง มันจะไม่มีเวลาขนาดนั้นเลยหรือ แต่เมื่อมีคุณหมีเบนมาพูด ผมยิ่งกังวล


"ฉันเป็นเพื่อนกับคอลินก็นาน คนขึ้นเตียงกับหมอนั่นก็เยอะนะ ฉันก็ยังไม่เคยเห็นหมอนั่นเรียกใครว่าคนรักเหมือนกัน ฉันก็รอดูเธออยู่ พ่อหนุ่ม"


เขาทำให้ผมรวน...ถึงผมจะบอกว่าไม่คิด
แต่ตอนนี้คิ้วผมเริ่มผูกปม และผมได้เพียงแค่ตอบกลับไปว่า "ครับ" ทั้งที่ผมอยากรู้ว่าทำไมคุณหมีเบน ถึงมาบอกเรื่องนี้กับผม












TBC 4




Tell : ขอบคุณสำหรับความรักต่อฟิคชั่นเรื่องนี้มากเลยค่ะ ไม่แน่ใจว่าจะถูกใครที่อ่านเรื่องนี้มากน้อยแค่ไหน แต่ทำให้บันเทิงใจได้ซักทางหนึ่งเราก็ดีใจมากเเล้วค่า

ตอนหน้าจบแล้วนะ

4 ความคิดเห็น:

  1. พี่หมีทำไมไปพูดกับน้องแบบนั้นล่ะคะะะ น้องเสียใจนะ!! คนไม่ดีนี่ คอลินคนปากหนักก็เหมือนกัน บอกรักน้องได้แล้ว ทุกอย่างจะโอเคนะคะ เอซน่ารักกก เราอยากโบกด้วย555555

    ตอบลบ
  2. อาาาาาาาาาาาาา แผนสูงนะคะอา น้องก็ด้วย
    ป.ล.รู้สึกว่าถ้าได้เห็นฉากทะเลาะกันระหว่างพี่หมีเบนและแม่สาวลิลลี่คงจะมันส์มากแน่ๆค่ะ

    ตอบลบ
  3. ฮื้อออออ มันกร๊าวหัวใจยิ่งนักค่ะ
    ชอบความแจ๋นแหลขี้อ่อยของยัยเอซและหื่นกามของอา

    แต่โอ้ยพิเบนนนนนนนนนนน
    ทำไมมาทำแบบนี้กับน้องคะ! เดี๊ยวก็ดราม่า! หึย
    คุณอารีบบอกรักน้องค่ะ เดี๊ยวนี้เบย

    ตอบลบ
  4. แงงงง สงสารน้อง ยิ่งมโนเก่งด้วย

    ตอบลบ