TITLE : คุณในนั้น-- You're in
Chapter : 6
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG
ps. กว่าจะมาต่อก็นานมาก พล็อตเหนือจินตนการแบบนี้ ต้องรื้อมาอ่านใหม่เลยล่ะค่ะ ยินดีต้อนรับสุ่หยางเฟิงในเรื่อง คุณในนั้นอีกรอบน้า มาจอยกันต่อค่ะ
------- คุณ ใน นั้น ------
“เพื่อนข้าเอง เพื่อนข้า อย่าคิดมากกันเลยหน่า ท่านแม่เองก็อย่ากังวล
เขาดี เขาเป็นคนดี”
อี้เฟิงพูดปด คนดีที่ไหนมาขโมยจูบคนอื่นเขาตั้งแต่แรกเจอกันล่ะ!
คุณชายน้อยบ้านหลี่ค่อนขอดแขกผู้มาใหม่ของสกุลให้ในใจ บ้านหลี่เป็นตระกูลดัง
แม้ว่าจะมีกันไม่มากเท่าใดแล้ว ชื่อเสียงนั้นขจรไกลกันถึงศาสตร์แห่งการรักษาที่เหมือนได้เทวดามาสิงสู่ในมือของคนบ้านนี้
จึงมักจะมีใครหลายคนแวะเวียนให้คนตระกูลหลี่มารักษากัน
ตอนนี้หมอใหญ่ประจำบ้านก็คือท่านแม่หรือฮูหยินใหญ่เพียงหนึ่งเดียวของหลี่อี้เฟิง
และชื่อเสียงของบ้านหลี่ที่โด่งดังไม่แพ้ฝีมือการรักษาก็คือความงดงามไม่ว่าจะเป็นเพศไหนของชาวสกุลหลี่
โดยที่เลื่องลือที่สุดก็คงจะเป็นทายาทเพียงคนเดียวของตระกูล คุณชายน้อยที่เป็นลูกคนเดียวของบ้านคนนี้
แม้เป็นชายแต่ร่ำลือกันว่างดงามเยี่ยงเทพธิดา จนบางทีสาวที่ใดก็ไม่สู้หน้า
สกุลไหนที่อยากจะดองก็ล้วนถูกปฏิเสธ
เพราะคุณชายน้อยของบ้านงดงามกว่าสาวเจ้าเสียอีก
“แล้วคุณชายรูปงามท่านนี้แซ่อะไรหรือ”
“หยางครับ”.. ความเงียบเข้าปกคลุม เพราะหยางหยางใช้คำพูด
สำเนียงแปลกกว่าใครเขา หยางหยางรู้ตัวแล้วว่ายุคนี้เขามันแปลก แถมไม่เข้าพวก
ทั้งบุคลิคตัวตน หน้าผม คนอื่นเขาผมยาวกันแม้เป็นผู้ชาย แต่ในสมัยที่หยางหยางจากมา
เขาตัดผมสั้นเพื่อง่ายต่อการใช้ชีวิต เขาควรจะบอกออย่างไร
“ผมไปเรียนต่างประเทศ เลยได้อิทธิพลมาค่อนข้างเยอะ คงจะทำให้คุณ— เอ่อ
ท่านฮูหยินใหญ่สกุลหลี่รำคาญใจ”
“คำทำนาย...”
ฮูหยินสกุลหลี่หรี่ตามองชายหนุ่มรูปงามราวกับเทพบุตรตรงหน้าไม่สนใจคำบอกของหยางหยาง
หาใครได้เชื่อได้ไม่ หากเขาไม่มายืนตรงหน้าเอง
ผู้เป็นแม่ที่แรกเห็นชายหนุ่มนามหยางหยางคนนี้ตกตะลึง
ความรูปงามมากถึงเพียงนี้หาจากแผ่นดินนี้ได้หรือ เขาคงตกสวรรค์ลงมาจริง ๆ
ฮูหยินใหญ่พินิจมองคุณชายหยางท่านนี้มากแล้วมากเล่า
เธอสรุปคำตอบว่าให้คุณชายที่อ้างตนว่าเป็นเพื่อนอี้เฟิงให้พักที่บ้านตระกูหลี่ต่อได้
ฮึ..อี้เฟิงมีเพื่อนที่ไหนกัน เพื่อนผู้ชาย หรือ ?
ก็มีแต่มาหยามหน้ากันเพราะว่าหน้าสวยเหมือนแม่มัน
หรืออีกส่วนก็มาตามเกี้ยวอี้เฟิงจนอี้เฟิงโมโหเกรี้ยวกราด ส่วนเพื่อนผู้หญิงก็มีแค่สองคน
เธอรู้จักดีอยู่แล้ว คือยัยหนูเยี่ยน สกุลถังบ้านตรงกันข้ามที่ค้าขายกันมานาน
และคุณหนูบ้านสกุลเซี่ย หนูฮวาฮวาที่อยู่ในตรอกถัดไป
บ้านไมได้เป็นตระกูลใหญ่แต่เป็นคนดีและถือเอาความเป็นมิตรที่ดีต่อกันมานานตั้งแต่สมัยต้นตระกูลเป็นสำคัญ
คุณหนูบ้านนั้น เธอก็เคยคิดจะให้มาดองแต่งกับอี้เฟิง แต่ที่ไหนได้
คุณหนูเซี่ยกลับจับอี้เฟิงแต่งสวยไปอวดหนุ่มทั่วเมืองจนบ้านหลี่ต้องวุ่นกันไปหมด
แล้วมาถึงคุณชายปริศนานามหยางหยางคนนี้
“เชิญตามสบายคุณชายหยาง เพื่อนลูกชายข้า ก็เหมือนแขกของข้าด้วย”
ฮูหยินใหญ่ผู้ครองบ้านตระกูลหลี่หนึ่งเดียวแห่งเมืองนี้
มิกล้าคิดหรอกว่า
ชายหนุ่มที่รูปงามราวกับเทพบุตรคนนี้จะเป็นไปดั่งทำนายที่เคยได้รับ
เธอยังไมได้กล่าวถึงคุณหนูเยี่ยนบ้านถัง
เธอเป็นนักทำนาย และมักจะมีคำนายแปลก ๆ
และความแปลกของการทำนายจากตัวคุณหนูบ้านถังเอง ซึ่งหากกล่าวถึงใจของฮูหยินใหญ่หลี่จริง
ๆ เธอไม่รู้ด้วยซ้ำว่าถังเยี่ยน แท้จริงแล้วเป็นยายแก่หรือหญิงสาว หรือจริง
ๆเป็นอมตะ
แต่แค่ลูกชายเธอไม่ระแคะระคายตรงนี้ก็เพียงพอ และส่วนคุณชายหยางคนนี้
เธอเลือกจะเก็บเอาไว้ข้างตัว นอกจากฮูหยินใหญ่บ้านหลี่จะเก่งในเรื่องวิชารักษาแล้วก็ยังมีสัมผัสที่หกที่ล้ำเลิศแม้ไม่ใช่ผู้ที่เห็นได้ทุกสิ่งแต่สังหรณ์เธอก็แม่นยำจนบ้านถังชื่นชมเลยทีเดียว
หากเป็นไปตามคำทำนายนั้น เขาคือผู้ที่เป็นไปไมได้ที่มายังช่วงเวลานี้
ผู้ที่จะมาเปลี่ยนตระกูลหลี่และชีวิตของลูกชาย จุดเด่นแรกที่ควรดูคือ
รูปงามผิดมนุษย์ หยางหยางคนนี้แรกเห็นคือถูกต้องตามนั้นซึ่งคนผู้นี้คือ
เขาผู้ที่จะมาเป็นพรหมลิขิตของหลี่อีเฟิง
------- คุณ ใน นั้น ------
อี้เฟิงให้หยางหยางเข้ามาพักในห้องของแขกซึ่งบ้านหลี่ไม่ได้มีบริเวณกว้างขวางขนาดนั้น
แต่พอให้คนงานในบ้านจำนวนหนึ่ง ผู้ช่วยให้การรักษา
นอกจากนั้นก็มีเรือนเล็กของอี้เฟิงและเรือนใหญ่ของท่านแม่เท่านั้น
โตแล้วก็แค่ขอท่านแม่ให้แยกเรือนมาอยู่ส่าวนตัวบ้าง
สุดท้ายก็ยังส่งสาวใช้มาให้จนได้ และตบท้ายว่า เจ้าจะทำอะไรเป็น นอกจากวาดรูป
เป่าขลุ่ย และวิ่งเล่น
จะบอกว่าเขาเป็นตระกูลหลี่ที่ทำตระกูลเสื่อมเสียหรือไง
อี้เฟิงรู้ตัวดีว่าตัวเองไม่เอาไหนเรื่องการรักษา เรื่องที่ท่านแม่ทำ อี้เฟิงไม่สามารถทำได้ดีอย่างที่ตั้งใจจนต้องถอยกลับมาตั้งหลักใหม่
แต่พอตั้งหลักนานไปหน่อย
มันกลับไม่มีความรู้สึกอยากกลับไปจับงานประจำของบ้านหลี่เสียแล้ว
จึงทอดทิ้งให้มันเป็นหนามตำใจอี้เฟิง
แม้ท่านแม่ดุด่าว่าไม่ยออมฝึกฝนแต่ท่านแม่ของเขาก็ไม่เคยบังคับหรอกนะ (แต่ช่วงหลังก็เริ่มมีพูดขึ้นมาบ้างแล้ว
ก็แม่นมอี้ชอบบ่นให้ท่านแม่ของอี้เฟิงฟัง ว่าลูกชายท่านเอาแต่ซน
แล้วรักษาตัวเองไม่หายเสียที)
ทั้งเขาทั้งท่านแม่ต่างก็ตกตะลึงเหมือนกันนั่นล่ะ
กับการมาของชายผู้นั้น หยางหยาง
เขา..กับการมาที่แปลกพิสดาร คนอะไรจะโผล่มาจากน้ำ
กับรูปงามดั่งมนุษย์ที่ไม่มีในความจริง บุคลิคและท่าทางแตกต่างราวกับมาจากอีกโลก
และความรู้สึกของชายหนุ่มที่ส่งมาถึงใจของอี้เฟิง
อี้เฟิงกุมขมับ
ผู้ชายที่ไหนจะได้ผู้ชายที่แปลกพิสดารและประหลาดมาเป็นคู่ เป็นพรหมลิขิต บ้า
คำทำนายบ้านถังแม่นมากเสียด้วยซี่ อี้เฟิงโอด คุณชายน้อยไม่คิดว่าถังถังจะทำนายผิด
เพราะมันไม่เคยมี และคำทำนายของถังถังนั้น นานทีจะออกมาสู่ผู้คน
เลยทำให้เป็นที่สนใจมากมาย แม้ว่าจะล่วงรู้ได้ไม่ได้ ก็อยากจะรู้ เอาเป็นว่าคำทำนายนั้น
มีบางคนนอกจากคนในบ้านหลี่รู้และแน่นอนว่าคำทำนายแม่นที่สุดทั่วทั้งแผ่นดินจากบ้านถัง
ใคร ๆ ก็อยากรู้
มันก็เหมือนหมอดูชื่อดังที่ออกมาทำนายใครซักคนแล้วจะมีคนเฝ้าดูว่ามันจะเป็นไปตามนั้นหรือไม่
อี้เฟิงจำคำในกระดาษทำนายเก่า ๆ
ไม่ได้แม่นยำนักแต่ใจความประมาณหนึ่งก็ว่าไว้
ผู้ที่เป็นไปไม่ได้ ตั้งแต่รูปกายที่งดงามจนเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นมนุษย์
และผู้นี้จะมาด้วยหนทางและเวลาที่เป็นไปไม่ได้ และความเป็นไปไม่ได้เหลือคณานับ แต่ผู้นั้นจะเป็นคนที่เคียงข้างไปจนสุดท้าย
และชีวิตที่เป็นไปไม่ได้ของเจ้านั้นจะเริ่มต้นขึ้น ณ บัดนั้น เปลี่ยนชีวิตเจ้าไปตลอดตราบเถ้าธุลีเจ้าสูญสิ้นแต่แม้ว่าเจ้าสูญไปแต่ความรักไม่สูญ
ยังคงอยู่กระพันเยี่ยงต้นไม้ที่ข้ามห้วงเวลา
สุดท้ายนี้ ทั้งหมด คนผู้นี้คือพรหมลิขิตของเจ้า
นั่นเป็นคำทำนายใหญ่ในกระดาษทำนายที่มีเฉพาะสกุลถังเท่านั้นถึงจะเขียนมันติด
น้ำหมึกบ้านไหนก็เขียนในกระดาษนั้นไมได้ มันจะไม่ปรากฏตัวหนังสือใด ๆ หากไม่ใช่นน้ำหมึกและผู้เขียนจากบ้านถัง
หลังจากนั้นถังถังก็ยังทำนายเรื่องคู่ให้เขาภายหลังหนึ่งวันที่ครบวันเกิด อายุ 18
ปี ของหลี่อี้เฟิง
“ ชีวิตเจ้ากับคำทำนายที่แปลกประหลาดนั่นจะผูกติดไปตลอดกาล
แต่ข้าบอกเลยว่า ข้าไม่เคยเขียนคำทำนายที่แปลกมากเท่านั้นมาก่อน
ตระกูลข้าก็ไม่เคยมีคำทำนายแปลกเช่นนั้นเลยเหมือนกัน”
ทำนองนี้ เหมือนจะไม่ครบแต่รวมความก็ได้เท่านี้ อย่างไรแล้ว
ความเป็นไม่ได้ นั่นคือใจความสำคัญ
เป็นคำสำคัญของทำนายทั้งหมด
“แปลกสิ แปลกมาก” อี้เฟิงรำพึงอยู่คนเดียวในห้อง
หยางหยางคนนั้นพักอยู่ห้องถัดไป ห้องเขาก็เงียบเช่นกัน อี้เฟิงจึงมีเวลาตั้งใจคิดอะไรคนเดียว
หลังจากที่อยู่กับเจ้าประหลาดทั้งวัน อย่างแรกคือ เวลาอยู่ใกล้ชายคนนั้นหัวใจอี้เฟิงจะเต้นด้วยจังหวะที่แปลกไป
ท่านแม่บอกว่าเขาไม่เป็นไร แค่ไม่สบาย
แต่บางทีท่านแม่ก็ถอนหายใจแล้วก็พูดอย่างปลงตกว่า บ้านข้าจะต้องมีลูกเขยอย่างนั้นหรือ
บ้านข้ามีลูกชายแต่ดันไม่มีทายาทสืบสกุลหรือ
ท่านแม่!
อี้เฟิงไม่สามารถพูดอะไรได้ แม่เขาแค่แกล้งเท่านั้นแท้ที่จริงท่านแม่ของอี้เฟิงก็คงทำใจตั้งแต่เห็นหน้าชายคนนั้นและบวกกับทำนายจากระดาษบ้านถัง
แม่เขาเชื่อคำทำนายบ้านนี้มาก เพราะมาทุกครั้งก็ถูกทุกครั้ง
บ้านเราได้มีโอกาสได้ทำนายทายทักกับบ้านถังบ่อยครั้งเหตุเพราะสนิทกัน
และแน่นอนแม่เชื่อสนิทใจ เพราะทุกครั้งที่ได้รับคำทำนาย
หากท่านแม่ของอี้เฟิงมีเรื่องไปปรึกษา มันจะเป็นไปตามนั้น
อย่างแท้จริงไม่มีพลิกเลย บ้านถังถือว่าได้รับพลังแห่งเทพเจ้ามาจริง ๆ
“เรื่องนี้เองก็ด้วย”
ถังเยี่ยนเคยบอกกับอี้เฟิงว่า อย่างไรเสีย ชะตาเลี่ยงไมได้
แต่เราเลือกที่จะมีความสุข
จะมีคู่เป็นผู้ชายนี่ก็เป็นไปไม่ได้อยู่แล้ว
คนทั้งเมืองจะแห่กันมาปาของหน้าบ้าน เหตุเพราะผิดผีผิดเพศ
สมัยนี้มีกันหรือชายกับชายหญิงกับหญิง หรือจะอะไรก็แล้วแต่ อี้เฟิงก็รู้ตัวเองดี
ใบหน้าของเขาได้ท่านแม่มาเต็ม ๆ แม้ตอนนี้ท่านแม่อายุมากแล้วก็ยังงดงามจับตาเช่นนั้น
และทุกคนก็บอกว่าเขาเหมือนแม่ คำว่างดงามอี้เฟิงได้ยินจนแทบสำลักออกมา
แต่เขาเป็นชาย!
แค่นี้ก็ถูกตราว่าเป็นสกุลหลี่ของแปลกอยู่แล้ว
ถ้ามีหยางหยางคนนั้นเป็นไปตามคำทำนายจริง ๆ สกุลหลี่จะเอาหน้าไปไว้ที่ไหน
“คำทำนายของบ้านถังฉบับนี้อย่าแม่นซักครั้งจะได้มั้ย”
พอได้รับคำทำนายก็ดันฝันประหลาด ว่ามีใครมายืนอยู่ตรงหน้าตัวเองตลอด
จนในที่สุดก็เจอกับ หยางหยาง
“เฮ้อ” อี้เฟิงพ่นลมหายใจใส่จมูกตัวเองหลายครั้งแล้ว
ระทมในใจเป็นที่สุด หากมันมีอะไรที่แปลกประหลาดและเป็นไปไม่ได้
ไม่ควรเป็นมากขนาดนี้มาเกิดกับเขา เขาควรไปอยู่ในหมู่บ้านไกล ๆ บ้านเล็ก
ๆไร้ชื่อไม่ใช่อยู่ท่ามกลางคนมากมายที่รู้จัก มันน่าอายจริง ๆ
คำทำนายนั้น
แม้จะออกมานานพอดูแต่ไม่นานขนาดนั้น (แต่เขียนบนกระดาษเก่าเก็บก็เถิด)
ใครจะไปคิดว่ามันจะจริง
ทั้งที่มันน่าขำจะตายไป มีความเป็นไปไม่ได้ไหนกันที่เป็นไปได้
แต่มันกลับเกิดขึ้นกับเขาแล้ว
สกุลหลี่ที่แปลกที่สุด
“คุณหลี่อี้เฟิง”
ความเป็นไปไม่ได้ของหลี่อี้เฟิงยืนเคาะประตูเรียกเขาอยู่ตรงหน้าห้องนอน
อี้เฟิงสะดุ้งตัวเองจากภวังค์ความคิดและมองทอดบานประตู
เขาจะเปิดรับความเป็นไปไม่ได้นี่ได้หรือไม่ หรือแท้จริงแล้ว เป็นความคิดไปเองของอี้เฟิงที่บอกว่าเจ้าผู้นี้เป็นไปไม่ได้
ทั้งที่เจ้าผู้นี้อาจจะโกหกโป้ปดเขา เพื่อหวัง..
จะหวังอะไร จูบเขาหรือ ? หรืออย่างอื่น ใครจะไปรู้กัน
มันผู้นี้อาจจะลอบรู้คำทำนายแล้วมาแอบอ้าง
ความคิดตีพันกันยุ่งเหยิง แต่ในใจอี้เฟิงคิดอย่างไร รู้ไหม ? ความรู้สึก
และจิตใต้สำนึกเป็นอย่างไรรู้ไหม ?
มาแล้ว เขาคนนี้.. ความเป็นไปไม่ได้ที่แท้จริงอย่างคำทำนาย
แต่แค่อี้เฟิงยังต่อต้าน ทั้งที่ใช้ใจสัมผัสแล้วว่าใช่
แต่เพราะความยุ่งเหยิงในใจแล้ว เมือคิดดังนั้น อี้เฟิงก็จู่ๆ
ผลุดลุกจากเก้าอี้ไม้ที่นั่งอยู่ตั้งอยู่กลางห้องของตน
ไปหน้าบานประตูแล้วเตรียมขลุ่ยประจำตัวในมือ
ง้างจะตีอีกคนอีกฝั่งประตู
“เจ้าน่ะ !” อี้เฟิงถาม
หยางหยางตกใจอย่างแน่นอนก็เขาถูกอีกฝ่ายประทุษร้ายอีกแล้ว โกรธเขาเรื่องอะไรหรือ
“คุณ..คุณชายอี้เฟิง โกรธอะไรผม เอ๊ย ข้าหรือ”
สรรพนามที่ไม่คุ้นปากเอาเสียเลย หยางหยางที่กลับไปห้องพักที่บ้านหลี่ตระเตรียมไว้ให้
เขาเปลี่ยนชุดให้เป็นคนสมัยนี้หน่อย
แม้จะไม่เข้ากับทรงผมสั้นแบบผู้ชายสมัยที่จากมาก็ตามแต่ก็พอถูไถ
หากเอาผ้าโพกหัวไว้ ชุดก็โปร่งสบายดี ผ้าเนื้อดี
และเขาก็ฝึกพูดสรรพนามใหม่สำหรับเขาแต่เก่าของยุคนี้อยู่ ก็พอคุ้นปากแล้ว
และมาว่ากันเรื่องตรงหน้านี้
“เจ้า! เจ้าน่ะ! ไปแอบอยู่ในสระน้ำบ้านข้าตั้งแต่เมื่อไหร่”
“บ้าหรือคุณ ใครจะทำ ผมไม่ใช่ปลา
ตายก่อนพอดี”
“บ้า! เจ้าล่ะบ้า! ใครใช้ให้เจ้ามาที่นี่ มาทำไม”
“เอ้า ผมตั้งใจมาหรือ ผมไม่รู้ว่าผมจะสามารถมาที่นี่ได้ มาเจอคุณทั้งที่ผมแค่ได้แต่ฝันด้วยซ้ำว่าคุณมีจริง”
อี้เฟิงเลิกคิ้ว หยางหยางตอบตามจริง มันก็จริง คุยกันในรูป
มีแค่วิญญาณ มันเป็นไปไม่ได้ แล้วคน ๆ
นี้ก็คงไม่รู้หรอกว่าทำไมตัวเองไปอยู่ในรูปนั้น แล้วคน ๆ
นี้จะรู้มั้ยว่าทำไมในช่วงเวลาที่หยางหยางจากมา ทำไมยังดูเศร้านักทั้งที่เวลาผ่านมาขนาดนั้น
ที่เอ่ยมาทั้งหมด
อี้เฟิงตรงหน้าเขายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่าจะเกิดขึ้น
แต่หยางหยางก็ไม่รู้เหมือนกันว่ามันจะเกิดอะไรขึ้น
ช่วงเวลาที่หยางหยางอยู่เป็นช่วงก่อนที่จะเกิด เพราะคน ๆ
นี้ยังมีชีวิตและจับต้องได้ หยางหยางมองเห็นอี้เฟิง ไม่เหมือนช่วงเวลาที่หยางหยางจากมา
เขาได้ยินแค่เสียง เหมือนเป็นวิญญาณ
ถ้าอย่างนั้น ระหว่างนี้
หยางหยางจะได้รู้ว่าเกิดอะไรขึ้นกับหลี่อี้เฟิง คุณในนั้นของเขา
แต่ที่หยางหยางครุ่นคิดหนักก็คือ ทำไมเขาถึงมาที่นี่
ทั้งที่เขาไม่ควรจะอยู่ที่นี่ มันไม่ใช่ช่วงเวลาที่หยางหยางควรมีชีวิตอยู่
มันบิดเบี้ยวและผิดเวลา
“ผมไม่รู้ว่าทำไม ผมถึงมา แต่เมื่อมาแล้ว ผมก็อยาก..อยู่กับคุณ
เพราะ..จะว่ายังไงดี คุณเป็นคนเดียวที่ผมรู้จัก...มาจากอีกช่วงเวลาหนึ่ง”
อย่างไรสิ่งที่หยางหยางพูดมันก็เชื่อไม่ได้ มาจากอีกเวลา อืม..ใช่
ใครจะเชื่อลง อี้เฟิงมองเขาคิ้วขมวดผูกปมคลายออกคลายเข้าจนเขานึกขำ
จะจดจ้องอะไรหนักหนา
“ความจริงแล้ว ข้าเองก็ไม่อยากเชื่อ แต่เรื่องจริงมันอยู่ตรงหน้าข้า
เจ้าคงไม่รู้หรอก รู้ไหมว่าข้าเชื่อหมดใจว่าเจ้ามาจากอีกเวลา ข้าเชื่อหมดใจเลย
ข้าก็ประหลาดใจตัวเองที่ทำไมไม่กังชาในตัวเจ้าว่าโกหกซักนิด“
อี้เฟิงทำใจและเล่าคำทำนายให้อีกคนฟังและบอกว่ามันหมายถึงเขา
“ผม ? ผมหรือ ?” ก็ใช่ เพราะนี่มันเป็นเรื่องบ้าและมหัศจรรย์
จะมีกี่คนที่มีเรื่องราวสุดแสนพิลึก
ข้ามเวลาจากอนาคตมาอดีตในอีกเวลาที่ไม่ควรมีตัวตนเขาอยู่บนโลกเวลานั้น
คนที่ลิขิตไว้ ต้องการให้เขามาทำอะไรทีนี่
“คุณชายไม่อยากรู้หรือ ว่าทำไมเขาถึงลิขิตให้ผมมาที่นี่
ในเวลาที่ผมไม่ควรมีชีวิตอยู่” พอพูดแบบนั้น อี้เฟิงก็หน้างอ
พูดแบบนั้นแล้วดูหดหู่ใจอย่างไรไม่รู้
เหมือนว่าหยางหยางที่ยืนอยู่ตรงหน้าเขาที่เกือบจะใช้อารมณ์เอาขลุ่ยฟาดใบหน้างดงามนี่เป็นคนที่ไม่มีอยู่จริง
“ผมมีอยู่จริง แต่ที่นี่ไม่จริงสำหรับผม ถูกมั้ย คุณว่ามั้ยล่ะ ?
ผมมีอะไรที่จะต้องมาที่นี่ หรือเพราะบังเอิญตกบ่อน้ำแล้วหลงยุคมา ?
ผมว่าทุกอย่างมีที่มาที่ไปและมีเหตุผลในตัวมัน”
ยิ่งพูดยิ่งทำให้อี้เฟิงหน้างอ ไม่เข้าใจ สับสน
ทำไมชายคนนี้พูดอะไรที่ดู...ปลงตก
ราวกับว่าเขาทำใจรับได้แล้วที่จะต้องมาอยู่ในที่ที่ตัวเองไม่คาดคิดและไม่ควรคิดว่าจะมาได้
“เจ้าไม่กลัวหรือ ? ที่นี่คือที่ไหนเจ้าเองก็ยังสับสนอยู่”
กลายเป็นว่าอี้เฟิงเป็นห่วงชายหนุ่มตรงหน้าไปแล้ว ก็..เอ่อ..ถังถังทำนายว่าคนที่มากับความเป็นไปไม่ได้
เขาไม่ประหวั่นอะไรเลยแม้ซักนิด
แววตามั่นคงและแข็งแกร่งดั่งเช่นไม้ตระง่างรากฐานมั่นคงนั้นคืออะไร
“ ฮึ “ หยางหยางไม่ตอบคำถามแรกนั้น “คุณอยู่ตรงหน้าผมแล้ว
ผมยังไม่ได้บอกคุณหรือ ? ว่าในโลกของผม ผมเจอคุณที่ไหน” อี้เฟิงมองอีกคนที่พูดอะไรทำให้งง
หยางหยางยิ้ม พูดต่อ
“รูปวาดเหมือนจริงของคุณ ซึ่งน่าจะวาดจากยุคที่คุณอยู่..ตอนนี้
มันอยู่ในบ้านหลังที่ผมได้มา ซึ่งก็คือหลังนี้ หลังที่เราอยู่ในตอนนี้
นี่มันพรหมลิขิตมากเลยนะ”
“ยังจะมาพูดเล่น!” หน้าสิ่งหน้าขวาน กลัวบ้างก็ได้เจ้านี่
อี้เฟิงเอ็ดในใจ
“แต่ความกลัวในตอนแรกของผมหมดไปแล้วตั้งแต่ได้จูบคุณที่ริมบ่อ
มันเหมือนยืนยันว่าผมยังมีชีวิต ไม่ได้ตายไปอยู่ที่ไหน
และคุณตรงหน้าผมก็เป็นคนจริง ๆ “
“โอ๊ย” คนบ้าตรงหน้าอี้เฟิงยกมือดึงแก้มเนียนจนเป็นริ้วขึ้นสี
อี้เฟิงร้องอุทานตกใจแล้วเอามือฟาดต้นแขนหยางหยางก็เป็นริ้วสีแบบเดียวกันกับบนแก้มอี้เฟิง
หยางหยางดีใจที่คนตรงหน้าเปลี่ยนสีหน้าเป็นอย่างอื่นบ้าง นอกจากความกังวล
ใบหน้าน่ารักขนาดนี้ จะมีความหม่นหมองอยู่บนใบหน้าได้อย่างไร กล้ามากจริงๆ
เจ้าความหม่นหมอง
“อย่ากังวลแทนผมเลย คุณไม่รู้สึกหรือว่าคุณเป็นห่วงผมเป็นพิเศษ
ก็เพราะเราที่แท้จริงแล้วเป็นคู่กันไงล่ะ”หยางหยางคิดเองไปแล้วว่าการมาที่นี่ของเขามันคือพรหมลิขิค
ฮึ...แท้จริงแล้ว เขากลัวมากต่างหาก หยางหยางก็กลัวที่บอกอี้เฟิงน่ะโกหก
ไม่อยากให้คุณชายน้อยต้องกังวลแทน เขาจิตใจดีที่เป็นห่วงคนแปลกหน้าอย่างหยางหยาง
บ้านคนเป็นหมอก็ขี้ห่วงคน เดินดูรอบบ้าน ตระกูลคือหมอที่แท้จริง
รักษาคนด้วยความรู้และความเชี่ชาญจนได้รับการไว้วางใจและใจดีกับทุกคน
แม้กระทั่งคนที่ไม่มีที่มาที่ไปแบบเขา หยางหยาง คิดแล้วคิดอีกว่าทำไมถึงเป็นแบบนี้และเขามาที่นี่ได้อย่างไร
มันเหมือนฝัน มันเหมือนความบ้าบอ ความเป็นไปไม่ได้บ้าบอนี่คืออะไร เขามาอยู่อีกโลก
แต่ตอนนี้มันเป็นความจริงไงล่ะ เขาต้องยอมรับมันแล้ว จะมามัวหลอกตัวเองไมได้หรอก
ว่าตัวเองฝันไป
ก่อนหน้าจะมาหาอี้เฟิง
เขาก็แอบคิดว่าเขาควรแทงตัวตายในโลกที่ยืนอยู่ตอนนี้ดีมั้ย
เผื่อตื่นไปเจอโลกความจริง
แต่หยางหยางนึกเสียดาย
เขาได้เจออี้เฟิงตรงหน้าเลยนะ ทั้งที่ได้คิดฝันเอาอยู่ได้ตั้งนาน
ถ้ามันเป็นความฝันจริง ๆ ก็ขออยู่นานกว่านี้หน่อยเถอะ
แต่ถ้าเป็นความจริง มันโหดร้ายนะ เพราะว่าเขาไม่รู้ว่าสุดท้ายแล้ว เรื่องที่ไม่คาดคิดและเป็นไปไม่ได้อย่างการข้ามภพชาติมานี้มันจะจบอย่างไร
มัน...นี่เขาคิดเอาเอง ...หยางหยางคิดว่า ตัวเขาเอง
อาจจะเกี่ยวกับรูปคุณในนั้น ที่หยางหยางตั้งชื่อก็ได้
รูปของอี้เฟิงที่เขาเจอในบ้าน
ซึ่งก็คือรูปวาดเหมือนจริงของคนตรงหน้าที่เขาจ้องมองตอนนี้
จะดูอย่างไร ในรูปว่าน่ารักงดงาม ตัวจริงยิ่งกว่าเป็นสิบเท่า
จับใจหยางหยางที่สุด
“เจ้ามองหน้าข้านานไปแล้ว”
“ความจริงหรือความฝันสำหรับผมมันก็ดีแล้วล่ะ ที่ได้เจอคุณ”
หยางหยางพยายามพุดประโยคประหลาดให้คนตรงหน้างง
แต่ไม่ดูเป็นไปในทางร้ายจนอีกคนกังวล อี้เฟิงมองหยางหยางเหมือนคิดอะไร
แต่ไม่ถาม เพราะเจ้านี่คงไม่ตอบแน่นอน อี้เฟิงคิด มือของเจ้านี่ไม่สั่นไม่ดูเหมือนคนกลัว
แต่ดูเหมือนเตรียมใจที่จะเผชิญแต่ประหวั่น ..คำนี้อาจจะใกล้กว่า
เพราะมาในที่ในเวลาที่ไม่ควรอยู่ ผิดที่ผิดทิศผิดทางไปหมด มันคาดเดาชีวิตตัวเองไม่ได้
คนๆ หนึ่งที่ถูกส่งมาที่นี่ ?เขามาทำไม ? มาทำอะไร ? หรือต้องมาทำอะไรที่นี่
? หรือแค่บังเอิญ ?แล้วที่หยางหยางบอกว่าเจอเขาในรูปเหมือนของเขาเอง รูปเหมือนหรือ
? มันมีความหมายอะไร ? แล้วคำทำนายนั่นล่ะ ? ชายตรงหน้าอี้เฟิง ไม่รู้อะไรเลย
แต่เขาก็ไม่แสดงความกลัวต่อความไม่รู้อันมาก ก็เก่งมากแล้ว
ถึงดูเหมือนจะไม่มีอะไร เหมือนฟ้าบังเอิญ แต่จริง ๆ ก็คือจงใจ
ดูมีอะไรเชื่อมโยงกันไปทุกอย่าง แต่หาเหตุผลให้ฟ้าที่จงใจทำให้เป็นแบบนี้ไม่ได้เลย
อี้เฟิงก็งงเหมือนกัน และถ้าอี้เฟิงเป็นหยางหยางเป็นอี้เฟิงก็คงตีหน้าเคร่งแบบนี้
ถึงแม้ตอนนี้หยางหยางจะจะยิ้มให้และลอบจับมือเขาก็ตาม
แล้วไหนจะความเอาแต่ใจหลังจากนี้ ไม่เกรงใจกันเลย แต่เพราะเจ้านี่ทำหน้าตาเหมือนต้นไม้ขาดน้ำเลยจำใจ
ไม่นานก็คงปล่อยกระมัง แต่จริง ๆ อี้เฟิงคิดผิด
“ขอกอดซักทีได้มั้ย “ เผื่อผมจะดีขึ้น หยางหยางเลือกเก็บไว้ในใจ ตอนที่พบกับฮูหยินบ้านนี้ หยางหยางได้ยินเธอรำพึงว่า คำทำนาย
มันอาจจะเป็นเหตุหรือสามารถอธิบายการมาอย่างมหัศจรรย์ของหยางหยางก็ได้ เขาคิด
แต่ตอนนี้เขาขอพักและกอดร่างตรงหน้าให้ชื่นใจก่อนเถอะ
TBC 8
TALK
หลาย ๆ คนยังเข้ามาอ่านหยาเงฟิงของเรากัน เราดีใจมาก ๆ เลยค่ะ ที่ยังไม่ลืมฟิคแม่แมวที่แม้จะไปเรืออื่น ก็ยังแวะมาหยางเฟิงบ้าง แต่ไม่แต่งอะไรต่อเลยซักเรื่อง 5555 แต่วันนี้มีฟีลแต่งเรื่องนี เลยองค์ลงแต่งซะเลย เพราะเรื่องนี้เป็นเรื่องที่อยากเขียนต่อมากที่สุดของเราเลยค่ะ อ่านต่อเรื่อยๆ ไปพร้อมเราที่เขียนไปเรื่อย ๆ นะคะ คุณเซอร์ไพร์ส์ เราก็เหมือนกัน ^^
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น