วันอาทิตย์ที่ 15 มกราคม พ.ศ. 2560

[Fic] La La La EP 1 #colezra

  
TITLE :  La La La 
CHAPTER :   1
PAIRING : COLIN FARRELL x EZRA MILLER
RATE : nc-15
ps. ชื่อเรื่องมาจากการคิดเอาเองของเราว่า การหลงอยู่ในความฝันมันช่างมีความสุขจนต้องร้อง ลาลาลา

สนุกกับฟิคกันนะคะ ^^



La La La 





คุณเคยเจอใคร ที่ทำให้คุณฝันถึงตั้งแต่วันแรกที่ได้พบไหม ?


ดูเป็นความฝันเกินไปใช่หรือเปล่าล่ะ ? หรือมันอาจจะดูเหมือนกับในนิยายน้ำเน่า
แต่ผมน่ะเป็นพวกชอบอ่านหนังสือมากไม่ว่าจะประเภทไหน และไอ้ที่ร่ายมาตรงท่อนบนน่ะ มันเกิดขึ้นกับผม








"เป็นอะไรหรือเอซร่า ทำไมอยู่ดี ๆ ก็... หรือไม่สบายจ้ะ หืม?" 



คุณเจ้าของร้าน เจ้านายของผม เป็นหญิงชราแต่ใจยังสาว เธอมักจะเข้าใจวัยรุ่นอย่างผมเสมอ อย่างเช่นที่ว่าผมเอาเงินไปซื้ออะไรบ้า ๆ บอ ๆ จนหมดแล้วต้องมาทำงานหาใช้ใช้ เพราะเงินที่คุณแม่ที่อยู่ไกลจากผมเป็นพันไมล์ส่งมาให้หมดเสียก่อน เธอให้ผมมาทำงานที่นี่ เพราะเธอเข้าใจว่าวัยรุ่นแบบผมมันจำเป็นต้องใช้เงินหมดไปกับอะไรบ้า ๆ บอๆ อย่างที่ว่านั่น ตอนนี้ผมมีปัญหาใหม่มาปรึกษาเธอ


แต่ไว้เวลาเหมาะก่อน ผมถึงจะกล้าบอก



เพราะมันละเอียดอ่อนน่ะสิ




เหตุการณ์เพิ่งเกิดเมื่อไม่นานมานี้ 
เริ่มเรื่องจากเมื่อวาน จนถึงเช้าที่ผ่านมา




ผมพบกับผู้ชายคนหนึ่ง







"สวัสดีครับ" ผมทักทายกับลูกค้าทุกคนที่มาเป็นลูกค้าแก่ร้านหนังสือที่ผมทำงานอยู่ ผมเป็นทั้งเเคชเชียร์ และพนักงานร้านที่จะช่วยหาหนังสือที่ใคร ๆ ต้องการหากลูกค้าท่านใดหาไม่เจอ ผมทักทายเขา แต่ไม่ได้เงยหน้ามอง เพราะง่วนกับการหากระดาษม้วนใหม่มายัดตรงช่องใส่บิลในเครื่องคิดเงินตรงเเคชเชียร์อยู่ เงยหน้าขึ้นมาอีกที ชายคนนั้นก็หายไปจมกับชั้นหนังสือที่เรียงรายอยู่ในร้านเสียเเล้ว


เห็นหลังไว  ๆ ก็รู้แล้วว่าต้องหน้าตาดี สายตานายช่างเฉียมแหลมจริง ๆ เอซร่า เพราะเขาทั้งรูปร่างดี แต่งตัวดี เรียบหรู เพราะมีแบรนด์ที่ผมรู้จัก เสื้อตัวหนึ่งราคาสูงเท่าค่าเช่าที่ร้านในเดือนนึงแล้ว กับน้ำหอมกลิ่นที่ผมเคยผ่านไปตรงเค้าท์เตอร์แบรนด์ในห้างใหญ่ กลิ่นนี้เป็นที่นิยมสำหรับชายหนุ่มวัยผู้ใหญ่ อบอุ่นแต่แฝงความร้อนแรง อืม ผมอาจจะเป็นพวกชอบวิเคราะห์ใคร ๆ จดจำอะไรได้ไว ก็เพราะผมชอบอ่านหนังสือประเภทพวกนักสืบ จิตวิทยา หรือนิยายแนวนี้เป็นพิเศษ เอ๊ะ อนุมานเป็นเชอร์ล็อคเลยเรา



"เอซร่าจ๊ะ รบกวนมาช่วยยกกล่องนี้ไปหน่อยจ้า"  ผมไปตามเสียงเรียกของหญิงชราเจ้าของร้าน เธอยกกล่องหนังสือไม่ไหวแน่ ๆ ผมกลัวเธอจะฝืน จึงต้องรีบวิ่งไปให้ทันที่เธอจะทำแบบนั้น คนแก่ต้องนั่งเฉย ๆ รอสั่งก็พอแล้ว และผมก็ไปทัน เธอขอบคุณและผมก็เดินมาพร้อมกล่องหนังสือในอ้อมกอด กล่องสูงเท่าระดับสายตาผม ก็เกือบบังตาเสียมิด ตายล่ะ มีคุณลูกค้ารอคิดเงินค่าหนังสือ


ชายคนนั้นที่เป็นลูกค้าคนล่าสุดของร้าน คนที่น่าจะหล่อมากคนนั้น



"ครับ ได้ครับ" เขายืนท้าวศอกวางกับเคาท์เตอร์แคชเชียร์ แต่หันหลังให้ผมอยู่ ผมยังไม่เห็นหน้าเขา เขาเหมือนกำลังคุยโทรศัพท์ อืม ผมก็รีบยกกล่องหนังสือไปวางบนโต๊ะใกล้ ๆ ก่อนแล้วกัน  จากนั้น ผมก็หันมารับแขก



"สวัสดีครับ คุณลูกค้า "  


เขาหันมา อืม กลิ่นน้ำหอมเขาชวนจดจำมากเลยล่ะ



"ครับ ผมรับเล่มนี้"  





ว้าว....



นี่เป็นคำแรกที่ผมอุทานเมื่อเห็นหน้าเขา โอเค ผมแค่อุทานในใจนะ

"คะ..ครับ"


นิตยสารคลีโอเอาชายคนนี้ไปจัดอันดับหรือยัง ถ้ายังจะส่งเขาเข้าชิง


ผมรับหนังสือจากเขามา ตายล่ะ นี่มือผมสั่น เป็นไข้หรือวะเอซร่า ใจเย็น เหงื่อเริ่มออก นี่อาการอะไรครับ ใครรู้บ้าง ผมไม่มองเขาแล้ว เพราะเมื่อครู่หลังจากที่ได้เห็นหน้าเขาชัด ๆ และเผลอสบตากับเขาสองสามวิ 


ทำไมไม่รู้ล่ะ แต่จินตนาการของผมไปไกลสุดเตลิด เปิดเปิงไปแล้ว


"เรียบร้อยครับ ขอบคุณมากครับ" 
"เช่นกัน"


ผมขอบคุณเขาหลังจากเขาจ่ายเงิน และส่งหนังสือที่เขาต้องการให้เขาไป เขาซื้อหนังสือราคาแพงที่ว่าด้วยบ้านและและการจัดสวนไปเล่มหนึ่ง ผมมองตาเขาและเราสบตากัน ครู่หนึ่งผมเองเสียต่่างหากที่ต้องเบี่ยงหนี เพราะเขาไม่หยุดมอง แต่สุดท้ายผมก็หันกลับไปมองเพราะอดเสียดายไม่ได้หากไม่มองเขาจากนั้นเขาก็ตอบแทนด้วยรอยยิ้มชวนฝันนั้น และออกจากร้านไปพร้อมยิ้มที่ยังติดอยู่ที่ปาก ผมรับรองเลย ! รับรองเลยว่าสาวที่ไหนเห็นก็คงละลาย ตัวอย่างอยู่ข้าง ๆ ผม หญิงชราเจ้าของร้านก็ยังมองชายหนุ่มคนนั้นลับตา 

"หล่อดีเนอะ เอซร่า อย่างกับนายแบบ"


ผมพนักหน้าอย่างบ้าคลั่งเห็นด้วยกับความคิดของคุณเจ้าของร้าน เธอชราแต่เธอก็ยังเป็นสาวน้อยที่ใจวุ่นวายได้เมื่อพบเจอคนหล่อระดับไฮเอ็นแบบนี้ อย่าว่าแต่หญิงสาว เขาทำผม เอซร่า มิลเลอร์เหงื่อออก เพราะความร้อนแรงของเขา 



ใบหน้ารูปหล่อราวเทพกรีก ผมเคยเห็นรูปหล่อนั้นในหนังสือหมวดประวัติศาสตร์ ใบหน้ารูปหล่อหลายชิ้นหากเป็นชายก็หล่อมาก ซึ่งใบหน้าของเขาคนนั้นควรถูกนำใบหน้าไปเป็นรูปต้นแบบในการปั้นด้วยนะ วางข้างพวกรูปปั้นจากเทพกรีกนั่นล่ะ หรือเขาเป็นเทพกรีกจำแลงมากัน? (นายบ้าไปแล้วเอซร่า) ร่างกายกำยำดูแข็งแรง โอเค เขาไม่ได้สูงมากเป็นหมีใหญ่ขนาดนั้นแต่ความสูงรับกับความยาวของขา ความล่ำของกล้ามเนื้อมองแค่นี้ แม้รูปร่างสวยงามนั้นอยู่ใต้ร่มผ้า ผมก้จินตนาการได้ ผมเคยอ่านจากนหนังสือหมวดสุขภาพ ก็เป็นพวกพาร์ทที่กล่าวถึงคนที่ออกกำลังกายและฝึกฝนมาเป็นอย่างดี เขาต้องทำอย่างนั้นเเน่  เสื้อผ้าดูดี เรียบหรูราวกับไปกวาดชั้นจากงานแฟชั่นวีค โคตรดี! นั่นคือคำที่ผมจะจำกัดความการแต่งตัวนั้น ผมแต่งแบบนั้นไม่ได้แน่ เซนส์ชายคนนั้นดีมาก เขาเอาเครื่องแต่งกายทุกชิ้นมาแมชเป็นคอสตูมวันนี้ได้เยี่ยมยอดไปเลย นิตยสารพวกนั้นต้องมาเอาเขาไปลงคอลัมภ์เลยนะ ผมว่าเขาแต่งตัวดีกว่าพวกนายแบบในเล่มเสียอีกจากที่ผมเคยเปิดนิตยสารพวกนั้นมา


ผมนึกถึงตอนที่สบตาเขาหลังจากพรรณาทั้งหมดของชายคนนั้น



คุณคิดว่าไฟมันจะร้อนแรงได้แค่ไหน นั่นก็คือเขา เซ็กซี่ได้มากแค่ไหน ก็อาจจะรอให้ใครมาประเมินอยู่
แววตาเขาไม่ใช่เล่นเลย อา..หนังสือนิยายที่สอดแทรกภาพวาบหวิวชวนปั่นป่วน ผมก็เคยแอบอ่านในร้านก็อยากรู้นี่

นั่นล่ะ เขา...แบบนั้นเลย


ครับ เขาไม่ได้มีความรู้สึกอะไรกับผมไปมากกว่าคุณลูกค้าและพนักงานร้าน 
แต่แค่นั้นอ่ะ! แค่สายตาร้อนแรงนั้น ถ้าเขาจะโปรยเสน่ห์ใส่เขาหรือลองเล่นเกมส์ยั่วยวนสาวเจ้าหรือชายที่ไหน



ผมรับรองว่าดีล! 


คิดถึงรอยยิ้มเขาเมื่อครู่ที่ได้รับ
ก็บอกแล้วว่าผมกับเขาเป็นแค่ลูกค้าและพนักงาน
แต่ผมจำยิ้มหล่อเหลาชวนฝันนั้นได้ดี 
จำได้



จริง ๆ ทั้งหมดของเขาก็ชวนฝันไปหมด
กับคนที่เพิ่งจะเจอกันครั้งแรก แต่จดจำและชวนฝันขนาดนีั้












"อืม.." 
 "....เอซร่า"


ชายหนุ่มคนนั้น เขาใช้มือปะป่ายบนตัวผม วาดลวดลายร้อนแแรงทีทำให้ผมละลายเหมือนเนยเหลวบนขนมปัง ปากหยักที่ส่งรอยยิ้มให้ผมก่อนหน้า พรมจูบไปทั่วร่าง จูบทีก็สะดุ้งทีเพราะร้อนเหมือนไฟลน แตะตรงไหนก็อ่อนไหวไปหมด ยิ่งส่วนที่อ่อนไหวสุด  ๆ บนเนินอกของผม ก็ยิ่งย้ำจนทำให้ผมร้องครางสยิวออกมาได้ น้ำตาซึมเพราะความหวาบหวามในอก ปั่นป่วนที่สุด


"เอซร่าครับ"
"หืม?์"


เขาเรียกชื่อผม ผมเงยหน้ามอง โอย ตอนนี้ท่าผม..มันชวนเรท ชวนทำกิจกรรมอย่างว่าที่สุด เขาก้มโน้มมาจนใบหน้าหล่อนั้นชิด ปลายจมูกเขาชนกับปลายจมุกผม ร้อน! ไม่ใช่ผิวสัมผัส แต่แววตาเขาต่างหากที่ร้อน ผมจะทำยังไงดี รับมือไม่ได้! เขาใช้สายตานั้นมองผม ปากยกยิ้มจนผมเขินวางมือไม่ถูก 


"เอาวางตรงนี้ ตรงนี้ก็ได้ เอซร่า"



เขาใช้มือไหนซักข้างทีว่าง คว้ามือของผมที่ไม่รู้จักที่วางไปวางตรงจุดหนึ่งที่จะทำให้ผมเขินได้มากกว่านี้ อะไรก็ไม่รู้ผู้ชายคนนี้! พอได้แกล้งผม เขาก็ยิ้ม เรียกชื่อผมเหมือนกับการครางให้ได้อารมณ์ เพราะมือข้างเมื่อครู่ของเขา ที่วางไว้ทับมือผมอีกที คอยนำให้ผมขยับมือ ขยับให้เร็วขึ้นถี่ขึ้นเรื่อย ๆ จุดไหนที่มือผมไปวางแล้วจะทำให้ชายตรงหน้าที่อยู่บนตัวผมร้องครางอย่างมีความสุขขนาดนี้ล่ะ ? ผมทั้งเขินทั้งอายแต่ก็ปล่อยให้เขาแกล้งเขาทำตามใจ ซักพักหนึ่งเขาปล่อยมือผม และเปลี่ยนที่ 


"เห้ย คุณ...."
"หน่า เอซร่า "



เขาอ้อนผมแน่นอน เสียงทุ้มนั้นเซ็กซี่ขยี้ใจมาก! ใจอ่อนยวบเลยล่ะครับ เสียงของเขาทุ้มนุ่มบาดลึกถึงกลางใจเชียวล่ะ แบบว่าฟังครั้งแรก็คงจำได้ไม่ลืมว่าเป็นใคร เขาอ้อนอีกครั้งข้างหูผม ยิ่งทำให้ขนลุกชัน มือข้างเมื่อครู่ของขามาซุกซนตรงแถว ๆ หน้าท้องของผมแล้วลามปามไปข้างล่างนั้น โอย  


"อา....คุณครับ..คือ..."
"ทำตัวตามสบายครับ เอซร่า "



มือเขาซนมาจนหยุดไม่อยู่ ความซุกซนของชายหนุ่มคนนี้ไปถึงไหนก็ไม่รู้แต่ผมเห็นสวรรค์รำไร จนมีสิ่งยืนยันความสุขของผมออกมาเป็นสาย นี่แค่ช่วงแรกเท่านั้น


"มองหน้าผม เอซร่า ยิ้มหน่อย ไม่เอาเด็กดี อย่าเบ้ปากแบบนั้น (ผมเบ้ปากหรือ ไม่ใช่ว่าผมกำลังสำลักความสุขจะตายแล้วหรือ?) มามีความสุขกันเถอะ"

  

เพราะหลังจากนั้น ผมก็ถูกเขาพาไปไปสวรรค์ชั้นสูงขึ้นและสูงขึ้น ผมบอกแล้วเขาเป็นเทพกรีกได้! จนเปรอะตัวไปหมด ชายหนุ่มไม่ยั้งเลย เขาบอกว่าอยากจะมีความสุขกับผมหลาย ๆ 'รอบ' รอบเดียวตัวผมก็ระบมยันปลายเท้าแล้ว เขาทำให้ผมเสียวซ่านวูบไหวในท้อง ตัวผมบิดไปมาเร่าร้อนใต้ตัวเขาจนชายหนุ่มหัวเราะว่าผมน่ะยังเด็กจริง ๆ ก็ผมเด็กกว่าเขา และต้องโทษชายหนุ่มคนนี้อีกต่อว่าความร้อนแรงของเขานั่นล่ะ! จะทำให้ผมละลาย โดนตัวเขาที ก็สะดุ้ง หรือจังหวะที่เขาใส่แรงสอดตัวทำความสุขที่เขาว่ามาก็ไม่ยั้ง ผมร้องครั้งแล้วครั้งเล่าก็ไม่ฟังเลยว่าให้เบาหน่อย เขาแรงเยอะเหลือเกิน จนเขาพอใจ จนผมสำลักความสุขนั้นแทบตาย กวาดสายตามองรอบตัวหน่อย นี่เราไปทำสงครามมาหรือ ? ไม่มีชิ้นดีเลยจริงๆ และสุดท้ายสายตาของผมก็มาหยุดที่ชายหนุ่มเจ้าของใบหน้ารูปสลักที่โน้มรอเพื่อจูบผม

 "อืม..."

หัวใจผมหยุดไปครู่หนึ่งหรือเปล่านะ ? ผมเช็คตัวเองว่าหายใจอยู่มั้ยโดยยกมือแตะใต้จมูกตัวเอง เขาหัวเราะเพราะผมทำอะไรตลก ๆ แบบนั้น และคว้ามือผมไว้และจูบที่หลังมืออีกครั้ง 


ฮือ ผมร่ำร้องในใจ ช่วยด้วย



"เอซร่า..."
"นี่ผม..."
"หืม? "
"กำลังฝัน?"





ชายหนุ่มจุดยิ้มให้ และหัวเราะให้ชุดใหญ่พรมจูบที่มือผม เรากำลังสุขกันสุดขีดแต่รำคายจังมีแสงหวีดของอะไรบางอย่างดังขึ้นมา 










"โอ๊ย บ้าจริง ฝันหรอวะ ฝันบ้าอะไรวะเนี่ย!"  

 ผมหวีกสุดเสียงหนึ่งเพราะความรำคาญ สองเพราะความเสียดาย ว้อย! หลังจากนั้นก็ตบไอ้ต้นเหตุเสียง น่ฬิกาปลุกบนหัวเตียง มันลงไปนอนแน่นิ่งกลางพื้นห้อง สงสัยวันนี้คงต้องแวะมินิมาร์ทซื้ออันใหม่เสียแล้ว

กลับมาที่เมื่อครู่


อา....


ผมกำลังฝัน 
และผมตื่นเเล้ว





หันไปมองนาฬิกาที่ดับสนิทไป มันจ่อเวลาสุดท้ายของมันซึ่งก็คือเลยเวลาทำงานช่วงซัมเมอร์ของผมไปเเล้วหนึ่งชั่วโมง หญิงชราเธอคงไม่ดุผม เพราะผมคงมีเหตุผลข้าง ๆ คู ๆ ไปบอกเธออีกว่าทำไมถึงมาสาย ผมรีบพาตัวเองวิ่งเข้าห้องน้ำอาบน้ำให้ไว



  
"เห้ย..." ในขณะที่กำลังจะถอดกางเกงชุดนอนออก ผมสังเกตตัวเอง ใจกลางของร่างกายผม เอ่อ... ผมฝันอะไรแบบนั้น มันก็เลยเลอะกางเกงเป็นวงกว้างขนาดนี้ เปราะจนชื้น นี้ผมไปถึงไหนต่อไหนวะเนี่ย นี่ขนาดไม่ได้ดูหนังอย่างว่า หรือทำอะไรกับเจ้าใจกลางของผมเลยนะ




เเค่ชายคนนั้นเองนะ แค่ผมพบเขาเอง
แค่จดจำเขามา แค่จำเขาได้
แค่เก็บมาฝันเอง



" เอซร่า แกมันเข้าขั้นแล้ว "  ผมถอดกางเกงโยนใส่ตะกร้า พุ่งเข้าหาอ่างล้างหน้ากวักน้ำใส่หน้าตัวเองรัว ๆ มองหน้าตัวเองในกระจก 

แววตารื้นความสุขแบบนั้น อารมณ์ยังพุ่งพล่านอยู่เลย เอซร่า มองไปตรงใจกลางของตัวเอง แน่นอนมันตื่นอย่างเต็มที่ 


"โอย ไม่นะ ไปทำงานสายโด่งแน่"  ผมคงต้องจัดการกับเจ้านี่ให้มันเข้ากรุเหมือนเดิมก่อน จะให้โด่แบบนี้ไปทำงานรึไง 




แน่นอน ผมก็ยังต้องใช้จินตนาการอันกว้างไกลแบบก้าวกระโดดผมอีก  หลับตาแล้วนึกถึงหน้าเขา ชายคนนั้น ที่ทำให้ผมเก็บไปฝันจนเป็นถึงขนาดนี้



และผมยังจำฝันนั้นได้ ถ้าเขามาซื้อหนังสืออีกครั้ง ผมคงหน้าแดงใส่เขาแน่ ๆ ถ้าเกิดเผลอสบตากัน



 La La La 



"ขอโทษครับ "
"ไม่เป็นไรจ้า ดูหน้าแดงอยู่เลย ไข้ยังไม่ลดไปสินะ เดี๋ยวฉันจะให้ยาเธอไปด้วย"หญิงชราคิดว่าผมเเป็นไข้ หน้าผมยังแดงไม่หาย ก็จะเพราะอะไรล่ะ! อารมณ์พุ่งพลานนั้น มันเพิ่งสงบก่อนหน้านี้สิบนาทีก่อนผมจะบึ่งมอเตอร์ไซด์คู่ใจผมมาทำงานที่นี่ กว่าจะให้มันลงเขากรุได้ก็เล่นเอามือผมแทบลุกเป็นไฟ หน้าก็เลยยังแดงไม่เลิกแบบนี้ไง



ผมเดินไปประจำจุดทำงาน เเคชเชียร์ที่เดิม




"หืม!" ผมเหมือนนึกอะไรได้




เมื่อวานชายคนนั้นซื้อหนังสือไป ราคาเล่มนั้นแพงพอสมควร เขาเลยเลือกที่จำชำระด้วยบัตรเครดิต


ลายเซนต์!



บิลทุกงวดจะจัดส่งทุกปลายเดือน แน่นอนมันยังอยู่ในสมุดบัญชีที่เก็บไว้ในลิ้นชักนิรภัยของร้าน ไม่ได้จะขโมยนะครับ แต่แค่ขอแอบดู




"คอลิน ฟาร์เรล" ลายมืออ่านยากหน่อย แต่แกะได้แล้วล่ะ




อย่างน้อยก็มีอ้างอิงไปจินตนาการต่อได้แล้ว ในฝันเมื่อเช้า ผมไม่ได้เรียกชื่อเขาเลย เพราะไม่รู้จักชื่อแต่หน้าจดจำได้ขึ้นใจ



ก็ได้แต่พูดในใจกับตัวเองว่า ผมเป็นอะไรไปแล้ว กับแค่คนที่เพิ่งเคยเจอกันเป็นครั้งแรก
แต่เขาถูกตอกลงในฮอลออฟเฟรมในใจผมไปแล้วเรียบร้อย
สาว ๆ ครับ ไม่ต้องมาแจกขนมจีบผมแล้ว ใจผมมันไม่ว่างเสียแล้ว



สวัสดีครับ ชายในฝันของผม คุณคอลิน ฟาร์เรล






ว่าแต่...ผมอยากเจอเขาอีกจัง...
ถ้าเป็นไปได้







และมันเป็น...ไปได้
กำลังเป็นอยู่
ผมนี่แหละ กำลังเป็นบ้าอยู่
เขามาแล้ว คุณคอลิน ฟาร์เรลคนนั้น




"สวัสดีครับ"

ผมเลิกทำตัวเป็นไอ้คนที่ดูเหมือนหัวขโมยแล้วไปยืนประจำที่แคชเชียร์ดี ๆ ทักทายลูกค้าประจำวัน 



นั่นเขา




เขากำลังเดินตรงมายังร้าน ผมเห้นเขาผ่านกระจกใสที่มองทะลุไปจนถึงเขาที่ไม่นานก็จะมาถึงที่นี่แล้ว ผมยิ้มและรอเวลา ผมดูอารมณ์ดีจนคุณเจ้าของร้านเดินมาแซวเลยล่ะและแวะเอายามาให้ด้วย ผมโดนเธอแซวว่าหายป่วยแล้วหรือ เลยแกล้งป่วยต่ออีกหน่อยแต่ก็ยังยิ้ม



ชายคนนั้นแวะไผหยิบหนังสือที่ตรงใจ เหมือนวันนี้เขารู้ว่าเขาจะต้องมาซื้ออะไร จึงไมาต้องใช้เวลานาน เพียงครู่เดียว ก็เดินมาเพื่อชำระเงินที่แคชเชียร์เลย ผมรออยู่แล้วล่ะ


"ครับ เล่มนี้นะครับ"

เขาพยักหน้าและทอยิ้มชวนฝันให้เหมือนเดิม อย่างเมื่อวันที่เราพบกันครั้งแรก 


แต่แตกต่างกันตรงที่ ผมกล้าสบตาเขานานหน่อย และหน้าแดง

"ครับ ? "เขาเคาะนิ้วทำให้เกิดเสียงตรงเคาทเตอร์แล้วยกนิ้วจิ้มที่แก้มตัวเอง เพื่อสื่อว่าแก้มของผมน่ะ..

"คุณพนักงานไม่สบายหรือ?"
"ครับ" แหลสดเลยเอซร่า ผมยิ้มรับ และพยักเพยิดไปยังยาที่ยังคงวางที่เคาท์เตอร์ ผมลืมเก็บ เขาพยักหน้าเข้าใจ ก็เพราะคุณนั่นล่ะ!


ผมยิ้มรับ และส่งหนังสือให้เขาเมื่อคิดเงินเสร็จ วันนี้เขาเลือกจ่ายเป็นเงินสด เพราะหนังสือไม่แพงเท่าไหร่ ผมยิ้มส่งเขา พยายามที่สุดที่จะทำให้ตัวเองเป็นปกติ  

"จะมาใหม่นะครับ"
"จะรอนะครับ" อะไรก้ไม่รู้ที่ทำให้ผมพูดตอบกลับไปแบบนั้น แต่ดีมากที่ผลตอบแทนที่ได้เป็นแววตาที่ไม่ร้อนแรงเท่าที่พบครั้งแรกแต่ลดไฟลงมาเป็นอบอุ่นเหมือนเตาผิงในฤดูหนาว และยิ้มแถมให้เป็นของกำนัล



ผมเองก็เพิ่งจะรู้เดี๋ยวนี้ล่ะ ว่า การตกหลุมรักใครมันเกิดขึ้นได้เพียงแค่สบตา




TBC 2



talk เรื่องนี้อาจจะไม่ยาวมากนักค่ะ แต่อยู่ ๆ ฟีลเขียนก็มาเพราะฟังเพลง ๆ หนึ่งเข้า ฝากด้วยนะคะ 
เรื่องนี้ถ้าแต่งจบไว ก็จะทำฟรีเปเปอร์ไปแจกสาว ๆ ที่งานแฟนทาสติกบีสโอนลี่ด้วยค่า



1 ความคิดเห็น:

  1. เอซรา เป็นหนุ่มน้อยช่างสังเกตนี่เอง แงงง

    อาจจะเป็นเรื่องปรกติสำหรับคนๆนึงที่แอบชอบคนๆนึงอยู่ก็ได้ อารมณ์รุ่นน้องแอบมองรุ่นพี่ ฮรือออ น้องทำตัวได้น่ารักมาก //บีบแก้ม ประเด็นคือคุณอาดันไม่หยุดจ้องน้องนี่ซิ (....) คนที่แอบมองดันเขินตัวม้วนซะเอง =..=

    ชอบบุคลิกของน้องแบบนี้จัง T^T น่ารัก แถมน้องยังแอบเปิ่นอีกต่างหาก //ฮาาา

    น้องนี่แอบฝันลาามกนะเนี่ย 555 คำว่าตกหลุมรักใครสักคนจากการสบตา ถ้าจะใช้กับน้องได้ผล มีความรู้สึกว่าคุณอาเองก็น่าจะสนใจน้องอยู่ไม่น้อย ใช่มั้ยๆ เว้นแต่จะเป็นคนเจ้าชู้ชอบหว่านเสน่ห์คนอื่นไปทั่ว //โดนคุณอาชก

    มาต่อไวๆนะคะ อยากที่จะเห็นความสัมพันธ์ของสงอคนนี้ในตอยต่อไปจัง T///T ) อ่านแล้วเขินแทนน้อง

    ตอบลบ