วันพฤหัสบดีที่ 19 มกราคม พ.ศ. 2560

[Fic] La La La EP.3 #colezra




TITLE :  La La La 
CHAPTER :   3
PAIRING : COLIN FARRELL x EZRA MILLER

Ps มาแล้วค่ะ มีเกสต์ด้วยนะ 




La La La



เขามากับผู้หญิงคนหนึ่ง




ผมช็อคไปครู่หนึ่ง เป็นความช็อคครั้งใหญ่ที่ทำให้หูอื้อตาลาย และทำให้ยืนไม่ติดพื้น กลายเป็นคนก้มเก็บอะไรตกซักอย่าง ตอนนี้ผมทรุดไปคุกเข่ากับพื้นเยี่ยงคนกำลังจะออกตัววิ่ง แต่ต้องหลับตารวบรวมพลังและฝืนยืนขึ้นมาทำหน้าที่ลูกจ้างของร้านที่ดี แต่ก็ต้องทนเห็นภาพตรงหน้าที่ผมอยากเบือนหน้าหนีแต่ก็อยากรู้ความเป็นไปในเหตุการณ์


ว่ามันคืออะไร...





มึนไปหมด


คอลิน ฟาร์เรลคนนั้น ที่เพิ่ง! ขโมย! จูบ ! ผมไปนะว้อย



แล้วเขามากับใคร



คุณคอลินคนนั้นเดินเข้ามาในร้านหนังสือพร้อมคนสวยที่ควงแขนมาด้วยกัน ผมมองเขาจากหลังเคาท์เตอร์แคชเชียร์ สาวสวยคนนั้นตัวสูงเกือบเท่าคุณคอลิน สวมชุดสีสวยร้อนแรง รองเท้าส้นสูงทำให้เธอดูมั่นใจในตัวเอง และสง่างาม ในขณะที่เธอสนทนากับคุณคอลิน เธอยิ้มออกมาในระหว่างบทสนทนา เธอยิ้มสวย คุณเห็นไหม ? ผมยังไม่หยุดพูดถึงเธอเลย เพราะเธอคนนั้น สวย และมีเสน่ห์มาก จนผมยังละสายตาไม่ได้


แล้วคุณคอลินมีหรือจะไม่สนใจ เธอสวยมาก เหมือนรูปสลักเทพธิดาในกรีกโบราณ ใบหน้าที่งดงามราวกับภาพวาดในสมัยอดีตกาล ...


คงมาจากยุคเดียวกับคุณคอลินกระมัง ความสวยระดับนี้ เทพกรีกที่ผมเคยเปรียบเทียบ ..เธอคนนั้นก็งามราวกับเทพธิดากรีก



เหมาะสม.... คำนี้ผุดจากความคิดผมขึ้นมา เหมือนรายการสุ่มคำแล้ว หาคำที่ใช่ที่สุด คำนี้ล่ะ...



ผมไม่กล้ายืนมองทั้งสองคนจากตรงนี้แล้ว



เจ็บ ผมเจ็บ เจ็บเท้าน่ะ เพราะผมเผลอถอยหลังเหยียบเท้าตัวเอง ร้องโอยในใจทีหนึ่ง แล้วผมก็บอกคุณเจ้าของร้าน

“ขอเข้าห้องน้ำครับ”

เธออนุญาตโดยดีและผมก็เดินออกมา ทั้งที่คุณคอลินกำลังจะมาที่เคาท์เตอร์เพื่อชำระค่าหนังสือ แต่วันนี้คนที่คิดเงินให้เขาเป็นคุณเจ้าของร้านเอง ผมที่เป็นคนทำหน้าที่นั้น กลับมายืนหลังร้านและแอบมองเขาจนหลังร้าน โดยลอบมอบจะช่องม่านกั้นหลังและหน้าร้าน เขาไม่เห็นผม แต่ผมมองเห็นคุณคอลิน และเพราะผมไม่อยากเห็นว่าเขายืนควงคู่อยู่กับใครจึงเปิดช่องไว้เพียงแค่ดวงตาข้างหนึ่งมองได้ชัด เป็นมุมที่เห็นแค่คุณคอลินยืนอยู่ที่ยืนจ่ายเงินค่าหนังสือตรงนั้น คุณคอลินสนทนากับคุณคนสวยสง่าคนนั้น เธอยิ้มสวย ผมรู้แม้ว่าผมเห็นเธอเพียงแค่เสี้ยวหน้า เพราะผมตั้งใจจะเปิดช่องเพียงมองแค่คุณคอลิน

ก็มันเจ็บใจนี่ มองเขาที่เราชอบ มากับคนของเขา คงจะเป็นคนที่เขามาซื้อนิยายให้ แต่เขามาทำบ้าบอ ก็ที่มาจูบผมแล้วทิ้งความหวานอันเจ็บปวดไว้และจากไป วันนั้นเขาไม่ได้เอานิยายที่อยากได้ไปด้วย วันนี้คงพาเธอที่อยากได้ ผมคิดว่าคงใช่ วันนี้ควงคู่มาซื้อด้วยกัน คงไม่ลืมอีกแน่นอน


อืม...
..

เขาจ่ายเงินเรียบร้อย แต่ยังไม่จากไป เหมือนกำลังคุยเรื่องอะไรต่อกับคุณเจ้าของร้าน เหมือนเธอใจดีตอบคำถามอย่างไม่อิดออด และคุณคอลินก็พยักหน้าทีหนึ่ง ผมสังเกตเขาหมดทุกท่วงท่านั่นแหละ เพราะเขางดงามมากจริง ๆ ชายคนนั้น ผมไม่อยากรู้เลยนะว่าเขาถามอะไรคุณเจ้าของร้าน ที่ทำหน้าที่แทนผมที่มาอู้อยู่ตรงนี้ ไม่อยากรู้เลย แต่..สุดท้ายในในใจหวังอยู่ลึก ๆ ว่าเขาจะถามไถ่ถึงผมบ้าง

แต่ไม่เป็นไรหรอก แม้เขาจะไม่คิดถึงผม เพราะจริง ๆ แล้ว ผมเป็นเพียงแค่พนักงานร้านหนังสือที่เขามาซื้อหนังสือและเผลอตัว จูบ ผม เขาคงจะคิดถึงแฟนมาก แต่คุณคนสวยไม่อยู่ใกล้ ๆ แต่ความคิดถึงนั้นดันมาลงที่ผม


อา....จินตนาการของผม...ผมนี่เก่งเรื่องแบบนี้เหลือเกิน น่าจะไปเขียนนิยายขายนะเอซร่า ไหน ๆ นายก็ทำงานร้านหนังสือแล้วจะได้เอาหนังสือของตัวเองวางโปรโมตได้เต็มที่โดยใช้อภิสิทธิ์พนักงานร้าน


ซักครู่หนึ่ง เขาช่างใจเหมือนยังไม่อยากไป เห้ย เขามองมาทางม่านที่แอบอยู่ด้านหลัง ดีนะม่านนี้หนาและยาวพอที่จะปิดจนถึงปลายรองเท้าผม ยืนแอบเหมือนพวกถ้ำมองยังไงไม่รู้ ไม่นานเขาก็หันไป เขามีสีหน้าที่ผมอ่านไม่ออกครู่หนึ่ง สุดท้ายคุณคนสวยก็ควงคุณคอลินออกไป

และทั้งคู่ก็ยังยิ้มให้เหมือนกันอย่างที่ผมเห็นตอนแรกที่เขาควงคู่เข้ามาในร้านนี้

คุณคอลินกลับไปแล้ว...เฮ้อ ผมถอนหายใจเฮือกใหญ่ อยากเห็นหน้า อยากเจอเขามากแท้ ๆ เพราะผมไม่พบเขาหลายวัน จินตนาการแม้โลดแล่นแต่ก็ต้องการน้ำมันเพื่อเดิน เครื่องจินตนาการของผมต่อ การพบเขามันช่วยทำให้หัวใจของผม เอซร่า มิลเลอร์ชุ่มชื้นขึ้นได้


เขายังดูดีเหมือนทุกครั้งที่ผมเจอ ผมเอ่ยชมทุกครั้งที่พบกับเขา
แต่วันนี้ขอชมความดูดีของเขาและแถมคำให้อีกประโยค ไอบ้าเอ๊ย


แต่เหตุการณ์วันนี้ มันไม่..ไม่ใช่


“เฮ้อ ให้ตายเหอะ เอซร่า พอเถอะ เรียกสติตัวเองกลับมาว้อย!” ผมเอาหัวโขกผนังห้องปั๊กใหญ่อย่างลืมตัว โอ๊ย บ้าจริง ผมบ้า  จะมาทำตัวเองเจ็บตัวทำไมวะ ใจเย็นเอซร่า


อกหักไม่ตาย สู้!


แต่คุณ..น่ะ คุณคอลิน ฟาร์เรล คุณทำให้ผมหัวใจปั่นป่วนขนาดนี้ คุณทำให้ผมจินตนาการไปไกลมากขนาดนี้


ผมชอบคุณมากจริง ๆ นะ



แต่ดูเหมือนจะเป็นไปไม่ได้แล้ว


ผมคิดทั้งหมดนี้ในขณะลอบมองเขาจากตรงนี้ หลังร้านที่เขาไม่รู้ว่าผมมาซ่อนอยู่ เพื่อมองเขาจากที่ไกล ๆ ผมชอบคุณมากเลย แต่ผมมีคุณอยู่เคียงข้างได้แค่ในฝันของผม



ผมทำได้แค่ร้องเพลงเพ้อพก ลา ลา ลา ในฝันของผม ในจินตนาการเพียงคนเดียวเท่านั้นเอง


ผมขอบคุณคุณมากเลย
ลา ลา ลา



ผมจะพยายามคิดว่าคุณเป็นเพียงแค่จินตนการของผม ผมจะพยายามให้ใจของผม รักคุณเพียงในความฝัน


เพราะผมรู้อยู่แล้วว่าความจริง มันเป็นอย่างไร จากทั้งหมดที่ผมเห็นด้วยตาและอยู่ตรงหน้า





LA LA LA



ผมกลับบ้านมาแล้ว หลังเลิกงาน นอนกลิ้งไปกลิ้งมาและคิดถึงคำพูดช่วงสุดท้ายก่อนลาคุณเจ้าของร้านกลับ




“ชอบเขาต่อไปไม่เป็นไรเลย เอซร่า ไม่เป็นไร”เธอบอก
“เขาถามถึงผมบ้างมั้ย...” ผมที่ยังไม่เข็ด ยังจะถามถึงเรื่องที่เขาจะคิดถึงผมบ้างหรือไม่
“ถาม แต่เธอหนีหน้าเขา” เธอบอกผม สำหรับสิ่งที่ผมทำ โดดงานไปยืนแอบมองเขาจากที่ไกล ๆ
“ผมคิดว่า ผมรับมือกับความรู้สึกตรงนั้นไม่ได้ หากผมยืนตรงนั้น...” ผมบอกเธอ เธอพยักหน้าเบา ๆ และยิ้มให้
“เอซร่า ความจริงก็สำคัญ มันเป็นสิ่งไม่ตาย แต่จินตนาการก็ไม่ตายเหมือนกัน ตราบใดที่หัวใจเธอไม่ตาย เธอคิดถึงเขาได้ คิดถึงเขาเถอะเอซร่า ” เธอทิ้งประโยคดี ๆ ให้กำลังใจผม และกอดผมด้วยอ้อมกอดอุ่น ๆ แถมขนมที่เพิ่งอบใหม่ ๆร้อน ๆ ให้ด้วย
“ขอบคุณครับ ..” น้ำตาผมจะเอ่อแล้ว


“แต่เอซร่า เธอน่ะ คิดถึงได้ คิดถึงเถอะ ชอบเขาไปเถอะ ชอบเขาต่อไปได้ เพราะมันเป็นจินตนาการของเธอ”


เธอยิ้มและโบกมือให้ผมไล่หลัง ในขณะที่ผมกำลังติดเครื่องมอเตอร์ไซด์คู่ใจ


“จินตนาการของเธอ ใกล้เคียงความจริงนะ”




ผมคิดมากนะว้อย ประโยคหลังน่ะ แต่เหมือนจะปะติดปะต่ออะไรไม่ได้ นอกจากมโนอันสมบูรณ์แบบของผม มันจะเป็นอะไรไปได้ล่ะวะ ความจริงก็คือผมอกหัก จินตนาการของผม แม้สวยงาม หวานหอมและเรทนิด..นิดหน่อย แต่ในนั้น ก็ไม่ได้บอกว่า ผมจะสมหวังนะ ในฝันผมกับเขา โอเค ขึ้นเตียงกัน แต่

ผมยังไม่ได้ยินคำว่ารักจากปากคุณคอลินในฝันของผมเลย
ขนาดในฝัน เขายังไม่พูด ขนาดเป็นฝันของผม เขายังไม่เป็นไปตามใจที่ปรารถนาให้เป็น

และสำหรับความจริง ผมอกหักไง


ผมชอบคุณมากจริง ๆนะ ...ผมบอกชอบเขากับตัวเองมากครั้งจนเหนื่อยจะพูด


นอนเถอะเอซร่า













“อา...ไม่..ผม...อื้ม...ไม่”
“นิ่งซะคนดี “


เขาเปลี่ยนคำเรียกผมว่า คนดี ผมถูกเขากอดไว้ในอ้อมกอดที่แน่นด้วยมัดกล้ามของเขา ตัวเราเปลือยเปล่าทั้งคู่โดยมีผ้าห่มผืนหนาคลุมอยู่บนตัวเรา เราแอบอิงแนบชิดจนได้ยินเสียงหัวใจ และรอบห้องดูเหมือนไปผ่านสงครามกันมา คราบสีขาวขุ่นโดยบางอย่างที่คงมาจากการทำสงคราม เราสองคน รอบห้อง บ้าไปแล้ว อะไรจะรุนแรงกันขนาดนี้วะ ผมหมกหมุ่นขนาดไหนเนี่ย!  


“เจ็บครับ ผมเจ็บ” ผมเจ็บ ในฝันผมเจ็บอะไร ตรงไหนวะ?  ระหว่างร่างกายที่ผ่านสงครามมาหรือหัวใจ ผมน้ำตาซึมตรงหางตาและในฝันพูดกับเขาด้วยเสียงอู้อี้ ปากชิดอกเขา คุณคอลินในฝันของผมก็ยังคงฮอตโคตร ๆ  เหมือนอย่างเคย แววตา ท่าทาง และรอยยิ้มติดมุมปากที่เขาชอบทำทั้งหมดทำให้ผมเขิน เขาก้มลงมองตาผมครู่ใหญ่ เหมือนตั้งใจจะบอกทั้งหมดด้วยแววตาคู่นั้น มันสื่อถึงผม


บอกรัก... ผมอ่านออก แต่มันเหมือนกันเดาข้อสอบ เดาเอาเอง อาจารย์จะให้ถูกรึเปล่าก็ไม่รู้



“เอซร่า รักฉันบ้างมั้ย”


ดูสิ ถามกันมาได้!  เขาถามผม นี่คุณ ! ให้'ทำ'ตั้งขนาดนี้แล้ว  เขาพลิกตัวมาอยู่บนร่างเปลือยของผม ยันตัวเองด้วยมือข้างหนึ่งไว้กับเตียง อีกมือไล้ไปตามโครงหน้าของผม สายตากรุ้มกริ่มเหลือทนเหลือเกิน!  ผมไม่กล้าสบตาเขาตรง ๆ  เลย แม้อยากเห็นดวงตาสีน้ำตาลของเขามากก็ตาม


“คือ..”
“รัก..ใช่มั้ย?”
“เราแลกกันได้มั้ยครับ คำตอบของเรา”



เขายิ้ม และ...จูบ จูบอีกแล้ว! และเขาก็ไม่ยอมพูดแม้บอกว่าให้เราแลกกันแบบแฟร์ ๆ  ปากหนัก


เขาไม่ยอมพูดอะไร และหลังจากจูบนั้น ความฝันอันสุดเรทสิบแปดบวกของเอซร่า มิลเลอร์ก็ดำเนินต่อไป ไม่ว่าจะตรงไหน บนร่างกายของผมก็เป็นของคุณคอลิน เพราะเขาตีตราด้วยริมฝีปากร้อน ทิ้งรอยสีเหมือนกุหลาบที่วางอยู่บนหัวเตียง มือเขาไม่มีทางนิ่งอยู่แล้ว ป่ายโน่นจับนี่ ทำให้ผมเสียวสะท้านอยู่ร่ำไป และส่วนนั้นของผม ก็พร้อมที่จะปลดปล่อยความสุขที่เขาพาผมไปถึง เขาเองก็พร้อมสำคัญความสุขนั้น โดยการรวมเป็นหนึ่งเดียวกันกับผม ด้วยความร้อนแรงของเราทั้งคู่จะพาเราไปสู่สวรรค์ที่มีเพียงแค่เราเท่านั้น


“อา...เอซร่า..”
เขาร้องครางชื่อของผมออกมา เสียงเซ็กซี่เร่าร้อนนั้นทำให้ใจผมกระตุกแทบหยุดเต้น

“คุณคอลิน..”

“หืม ?”

“ผมรักคุณ”  ผมบอกรักเขาในฝันแล้ว และเขาเพียงยิ้มรับและจูบผมอีกครั้ง เหมือนย้ำว่าจูบนี้คือคำบอกรักเขา แต่นั่นล่ะ ก็เหมือนการทำข้อสอบ ผมเดาเอาอีกแล้วว่ามันคือการบอกรักตามประสาของคุณคอลิน..ที่อยู่ในฝันของผม ซึ่งฝันอันแสนหวานเรทสิบแปดบวก ในห้องที่เละอย่างกับผ่านสงครามมา เสื้ออยู่ทางกางเกงอยู่อีกทาง ชั้นในปลิวหายไปไหนก็ไม่รู้ และตัวเราสองคนที่ฟัดกันอยู่บนเตียงนอนอุ่น ๆ นี้



ทั้งหมดนี้เป็นโลเคชั่นจากห้องนอนในอพาร์ทเม้นท์ของผมเอง






La La La



ผู้ชายวัยเจริญพันธุ์อย่างผมก็เป็นแบบนี้แหละ อารมณ์ตามสัญชาตญาณของผู้ชายมันตื่น ง่าย เช้าวันนี้ก็เหมือนอย่างที่ผ่านมา กางเกงเปียกชื้นอาการทุกเช้าของชายหนุ่มทั่วไปและผมที่ดูเหมือนช่วงนี้หมกหมุ่นเป็นพิเศษ เพียงเพราะชายคนเดียวที่ทำให้ผมเป็นได้ถึงขนาดนี้


ผมพยายามไม่คิดถึงเขาแล้วนะ แม้ในฝันจะหวานแม้ แต่ความจริงเขาไม่ใช่คนที่ผมจะไปขึ้นเตียงและทำสงครามฟัดกันนัวแบบในฝันได้ แม้ว่าจะมีโอกาสจูบกันแต่มันก็คงแค่อารมณ์ชั่ววูบ


วันนี้ผมก็มาทำงานอย่างทุกวัน หิ้ว กรีนทีเฟรบเป้เพิ่มวิปปิ้งครีมและเค้กมะพร้าวมาด้วย เป็นเมนูจากร้านกาแฟชื่อดังตรงข้ามร้านเรา เป็นเมนูที่ไม่รู้สิ ไม่ได้บอกว่าโปรดนะ แต่คิดอะไรไม่ออก็สั่งแบบนี้ จนพนักงานหน้าที่อยู่ประจำจำหน้าและเมนูของผมที่เป็นเจ้าประจำขึ้นใจ (ถึงแม้ว่าช่วงนี้จะไม่ได้มาซื้อถี่ เพราะมันแพงน่ะสิ) แต่เธอไม่ลืมหน้าลูกค้าที่มาบ่อยอย่างผมหรอก


ผมทานให้เสร็จหน้าร้านก่อนเข้ามา ก่อนอื่นเลยสวัสดีคุณเจ้าของร้านและบอกว่าขนมของเธอที่ให้ไปเมื่อวานอร่อยมาก ผมกินมันหมดแทนข้าวเย็นก่อนหลับไปทำสงครามกับคุณคอลินในฝัน ไม่นานผมก็เข้าประจำที่ทำงานของตัวเอง หลังจากเปิดประตูร้านเรียบร้อย


เขาจะมามั้ยนะ? ผมอยากให้มา เอ๊ย ไม่ต้อง แต่ไม่มาก็ดี



ไม่อยากให้มา แต่ก็คิดถึงมากเลย แต่เพราะความคาดหวังหลังจากที่ได้จูบกับเขา ว่าผมอาจจะมีโอกาส แต่โอกาสนั้นของผม ถูกพังเพราะเขาควงคุณคนสวยมาด้วย




!!





“คอลิน! ดูนี่สิ!







เสียงที่ไม่คุ้นเคย แต่ชื่อนั้นผมจำขึ้นใจ





“สวัสดีครับ” ผมจำใจต้องทักคุณลูกค้าคนโปรดของผมที่มาพร้อมกับคุณคนสวยอีกแล้ว




หัวใจผมพังมากกว่านี้ไม่ได้แล้วครับคุณคอลิน...




“คอลิน! ดูสิ ! หนูคนนี้ ตายจริง น่ารัก! น่ารักสุดจะทน ขอหยิกแก้มทีได้มั้ยจ๊ะ! “ เอ่อ...




ห๊ะ?


ผมตามไม่ค่อยทัน คุณคนสวยคนนั้น วิ่งปรี่มาทางผมที่กำลังจะไปยืนประจำที่ของตัวเองหลังเคาท์เตอร์แคชเชียร์ แบบว่า วันนี้เธอกับคุณคอลินมาซื้อหนังสือจริง ๆ หรือเปล่านะ



“ลิลี่! “ คุณคอลินเรียกเธอเสียงเข้มหน้าดุ อา ชื่อเธอหรือ? น่ารักสมกับเธอเลย

“ยินดีที่ได้รู้จักจ้า เธอ.. เอซร่าหรือ? น่ารัก! ฉันพูดกับคอลินหลังเห็นหน้าเธอไม่รู้กี่ร้อยรอบว่าเธอน่ารักมาก ฉัน ลิลี่ เอลบ์ จ้า พ่อหนูน้อย”



เธอแนะนำตัวกับผม เธอรู้ชื่อผมจากป้ายชื่อที่ติดบนอกเสื้อของพนักงานร้าน ผมยื่นมือไปทักทายเธอแต่เธอกลับเอามือไปหยิกแก้มผมซะงั้น



ผมตามไม่ทัน แบบว่า ทิ้งห่างมาก ...



“ลิลี่ พอได้แล้ว พอ!
“คอลิน  เอซร่าคนนี้ของเธอผิวสวยมาก ยิ่งกว่าฉันอีก หนูได้โดนแดดบ้างมั้ยจ๊ะเนี่ย โอย คอลิน น่ารัก ให้ฉันเถอะ”
“ลิลี่! กลับไปเลย ไปทำงานของเธอ”
“คอลิน นายพลาดแล้ว นายพาฉันมาเอง”
“เธอน่ะ กระโดดขึ้นรถฉันมา!



โอเค ผมตามผู้ใหญ่ตรงหน้าทั้งคู่ไม่ทัน อะไรกัน บทสนทนาค่อนข้างประหลาด


“ลิลี่ กลับไปเลย! ไม่มีทางเด็ดขาด”
“เด็กคนนี้ตรงคอนเซ็ปงานของฉันมานะคอลิน ขอร้อง ได้โปรด นะ!
“ไม่ได้ ฉันไม่ให้เธอแตะต้องเขาแน่ ไปหาคนอื่น”
“ไม่ได้หรอกคอลิน ฉันมาที่นี่ ยังไงให้ตาย ตาหมีร้อยเก้าสิบคนนั้นต้องรู้และมาตื้อหนูเอซร่าด้วยแน่ ฉันต้องได้หนูคนนี้ไปทำงานกับฉัน”
“ลิลี่ !
“คอลิน เขาน่ารักขนาดนี้ เธอเห็น น่ารักมาก คว่ามน่ารักนี้ต้องขยายนะ!
“ก็เพราะว่าน่ารักมากไง ฉันถึงบอกว่าไม่ได้”



เอ่อ....เขาเถียงกันจริงจังมากตรงหน้าผม ผมงง เกิดอะไรขึ้นหรือ? ทั้งคู่ ..ไม่สิ ใจความหลักคือ คุณลิลี่คนสวยจะชวนผมไปทำงานด้วย แต่เอ่..คุณคอลินดูไม่โอเคนะ แต่เธอตื้อมากเลยล่ะ อยากได้ผมไปทำงาน เฮ้ ผมมีงานทำแล้วนะ ก็ร้านที่คุณยืนเถียงกันตรงนี้ไง แล้วอะไรนะ คุณคอลินว่ายังไงนะ


“ก็เพราะว่าน่ารักมากไง ฉันถึงบอกว่าไม่ได้”  เขาพูดประโยคนั้นด้วยอารมณ์ข่มใจ และข่มอารมณ์ ดูเขาหน่ายเธอคนสวยมาก



ประโยคนี้หมายถึงผมรึเปล่า





เฮ้ ! ไม่เข้าใจ


“เฮ้ เดี๋ยวครับ!” ผม ในที่สุดก็พูดออกไป สองคนมองหน้าผม และผมมองหน้าเขาและเขาสองคนก็มองหน้ากัน ผู้ใหญ่สองคนนี้เขามาเถียงอะไรกันต่อหน้าผม เป็นแฟนกันก็เจ็บใจพอแล้ว อย่ามาแสดงความสนิทกันมากต่อหน้าผมอีกเลย เอาค้อนมาทุบหัวใจผมเลยก็ได้นะ



คุณคอลินถอนหายใจเฮือกใหญ่และพาคุณลิลี่ออกจากร้านไปเลย ดึงแขนออกไป อีกแล้ว เขาไปแบบนี้โดยไม่อธิบายอะไรให้ผมเข้าใจ มาทำให้ผมปวดใจแล้วก็ทิ้งให้ผมเป็นซากแบบนี้ ใจร้ายชะมัด แต่ผมจะพูดอะไรได้ล่ะ



เออ ไปเลย ..ให้ตาย ยิ่งทำแบบนี้ ผมยิ่งหมดแรง ผมงงกับพวกเขานะ แต่ผมก็เหนื่อยที่จะคิดถึงมัน ผมชอบเขานะ แล้วทำไมถึง.......




ในขณะที่ผมบ่นในใจเรื่องเขา โอดครวญหนัก เขารักกันและมาแสดงความรักกันต่อหน้า แม้จะเถียงกันเอาเป็นเอาตายแต่เขาดูสนิทกันมาก ผมอยู่ฟังทำไมกันนะ ผมหนีไปได้แต่ไปไม่ได้ ทั้งอยากรู้ทั้งอยากเจอคุณคอลิน ผมคิดถึงเขานี่แต่เขามากับแฟน ผมสับสนเป็นไปหมดแล้ว




เอ่อ..



“ทำไม..เอ่อ... มีอะไรรึเปล่าครับ?”  คุณคอลินก็กลับมา ทำไม?



“ผม...”
“เอ่อ?”
ผมอ้ำอึ้ง กลับมาทำไม คุณหักอกผมนะ ผมโอดครวญโทษเขาแบบไม่มีเหตุผลสีหน้าคงออกไปหมดแล้วล่ะ ช่างมันแล้วว้อย 
“ผม คือ เอ่อ ขอโทษเรื่องลิลี่ เธอมักจะเป็นแบบนี้ เห็นใครแบบคุณไม่ได้ก็พุ่งเข้าใส่ แล้วตื่นเต้นออกหน้าออกตาไปหน่อย เพราะคุณพนักงานดันไปตรงคอนเซ็ปงานของลิลี่พอดี”
“งาน?”


คุณคอลินเดินเข้ามาใกล้ผมอีกหน่อยแต่ยังทิ้งระยะกัน เขาดูเหมือนไม่แน่ใจ ยั้งฝีเท้าไว้ และก้าวเท้าเพียงแค่ก้าวหนึ่งเพื่อใกล้ผมมากขึ้น


“งานของเธอ แบรนด์น้ำหอม ลิลี่เป็นเจ้าของแบรนด์น้ำหอมนั้นที่เคยบอก ผมพลาดเอง ขอโทษนะ”

เขาสารภาพ พลาด พลาดอย่างไร ผมขมวดคิ้ว เขาจึงเดินมาใกล้นิดสอสามก้าว ทีนี้เขาไม่ยั้งฝีเท้าและก้าวมาอย่างมั่นใจขึ้น คว้ามือถือของเขาและเปิดรูปหนึ่งยื่นให้ผมดู ดูจนชัดแจ้งเขาจึงเก็บเข้ากระเป๋ากางเกงที่เดิม

“ผมนี่?” คุณคอลินเป็นเซเลปและนักธุรกิจชื่อดังของวงการเลยก็ว่าได้ โดนแอบถ่ายรูปไม่ใช่เรื่องแปลกเลย แถมรูปก็เท่มากเสียจนไม่ใช่การแอบถ่าย และในรูปมีผมคนนี้ไปพร็อบในการแอบถูกถ่ายรูปที่เหมือนการถ่ายแบบนี้


“ขอโทษจริง ๆ ที่พวกปาปารัซซี่ที่คอยตามผม ดันถ่ายรูปคุณติดไปด้วย รูปนี้มันแพร่ในโซเชี่ยล มันเป็นปกติของผม แต่สำหรับ ขอโทษจริงๆ คุณพนักงาน—“
“เอซร่า มิลเลอร์ครับ ถ้าจะกรุณา คุณน่าจะเห็นป้ายชื่อแล้ว” ผมขุ่นข้องหมองใจจริง ๆ ที่เขาเรียกผมแบบนั้นอยู่ได้ จึงแนะนำตัวเองไปเลย อย่างเผลอตัว
“เรียกได้หรือ ..ชื่อคุณ? “เขาดูไม่เชื่อหูตัวเองและไม่เชื่อผม จนผมพยักหน้าคอนเฟิร์มจึงเปลี่ยนสรรพนามเรียกผมใหม่

“คุณเอซร่า”
“ผมเด็กกว่าคุณมากนะฮะ”
“โอเค เอซร่า”
“ครับ” ผมต้องตึงเสียง ใส่ความเข้ม เพราะเขาสุภาพจัง ! เด็กกว่าตั้งเท่าไหร่ ไม่ต้องสุภาพมากก็ได้ ผมอยากสนิทกับเขา..เห้อ แม้แฟนเขาจะอยู่แถว ๆ นี้ก็เถอะ


“ลิลี่เธออยากได้คุณไปเป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอมตัวใหม่น่ะ พอเห็นรูปปาปารัซซี่เซตนี้ของผม เธอไม่ค่อยเปิดดูหรอก รูปพวกนี้แต่มีพนักงานของเธอไปตื่นเต้นใส่เธอใหญ่ เอ่อ...เรื่องผม แต่เธอตาดีเห็นคุณในรูปน่ะเอซร่า”


โอเค ..เรื่องราวเป็นอย่างนี้ แฟนคุณคอลินอยากได้ผมไปเป็นพรีเซนเตอร์น้ำหอมตัวใหม่ ให้ตาย ผมจะเป็นเซเลป!



แต่ผมไม่ชอบการอยู่ในวงการแบบนั้น ไม่ชอบเป็นจุดสนใจ  ไม่ถูกกับกล้องด้วย ผมเขิน ๆ กับการถ่ายรูปแต่ชอบถ่ายรูปอย่างอื่นนะ และไม่ถูกกับคนเยอะ ๆเลย ผมจึงหลบมาทำงานร้านหนังสือ ให้หนังสือเป็นเพื่อน ซึ่งร้านหนังสือนี้ ผมเลือกแล้วนะว่า ลูกค้าไม่เยอะมากจนล้นร้านและเงียบสงบที่สุดในย่านนี้ ผมไม่ถูกกับฝูงชน หมู่คน และกลุ่มคนที่เบียดเสียด ความติสก็ว่าได้



“ผมบอกลิลี่แล้วเเต่ ..มันอยู่ที่คุณ เอซร่า”
“อย่าสุภาพกับผมนักเลย แล้วก็ ผม..ขอปฏิเสธดีกว่าครับ ผมไม่ชอบเป็นจุดสนใจ ขอโทษด้วย กรุณาไปบอกเธอแบบนั้น ต้องขอโทษแฟนคุณด้วยที่ผมช่วยเธอไม่ได้”



“หา ?” คุณคอลินเผลอตัวร้องอุทานคำใหญ่


ผมพูดอะไรผิดหรือ ? หรือ ตกใจที่ผมปฏิเสธงานใหญ่เงินเยอะ แถมได้เป็นเซเลปอย่างนี้แล้วเขาประหลาดใจจนต้องร้องอุทาน


“ครับ ?”
“เดี๋ยวสิ เอซร่า คุณเข้าใจผิด “
“ครับ ? เอ่อ ตรงจุดไหน” ผมเข้าใจผิดหรือไม่ใช่งานที่จะดังหรือได้เงินเยอะหรือ ? แต่ยังไงผมก็ไม่รับหรอก งานที่จะต้องเป็นจุดสนใจและไปโพสท่าให้เขินต่อหน้าผู้คน หน้ากล้องแบบนั้น


“แฟน ? ลิลี่น่ะหรือ?”

เขาย้อนมาถามผม อ้าว แฟนคุณแล้วผมจะย้อนถามใคร


“แฟน ? ไม่ เอซร่า เข้าใจผิดแล้วครับ ลิลี่เป็นเพื่อนสนิทมากที่สุดในชีวิตของผมตั้งแต่สมัยผมเรียนโรงเรียนประจำชายล้วน นานมากแล้วเเต่เราก็สนิทกันไม่เคยเปลี่ยนเลย เธอน่ารักนะ”



คุณคอลินอธิบายยาวเหยียดให้ผมฟัง ผมพยักหน้ารัว ๆ ผมฟังไปเรื่อย ๆ เรื่องนี้..ทั้งหมดเลย! ด้วยหัวใจที่เริ่มพองโตและชุ่มชื่นเหมือนเอาแม่น้ำทั้งสายมารดหัวใจผม



แต่เดี๋ยวนะ เหมือนจะมีท่อนหนึ่งที่สะดุด




“เธอ ? แต่โรงเรียนชายล้วน???” ผมประหลาดใจตรงนี้
คุณคอลินยิ้มขำมองผมด้วยแววตาหยอกล้อ ทำไม? “เธอน่ารัก และผมมั่นใจว่าลิลี่เป็นผู้ชายที่สวยที่สุดในโลกเท่าที่ผมเคยเห็นเลย” ประกอบการอธิบาย เขาหยิบมือถือที่มีรูปตอนที่คุณลิลี่เป็นผู้ชาย! ซึ่งถ่ายคู่กับคุณคอลิน ให้ตายหล่อชะมัด แต่งแบบไหนก็ดีไปหมด

เธอ? สวย? โอ๊ย หล่อก็หล่อ ให้ตาย เธอเป็นคนสวยมากเลยนะ ผมอึ้งมาก ผมชอบเธอมา มองเธอ คุณลิลี่คนนั้นไม่ละสายตาเลย แต่เธอเป็นเพศเดียวกับผม


“ลิลี่เธอน่ารัก และผมหวังว่าคุณจะไม่---“
“ไม่ ๆ ผมชอบเธอ เธอน่ารักมาก”


ผู้หญิงข้ามเพศแต่สวยขนาดนี้ ผมก็เพิ่งจะเคยเห็น แม้ผมจะมีเพื่อนเป็นผู้หญิงข้ามเพศหรือชายข้ามเพศมากมาย แต่เธอ! สวยมาก

“คุณบอกชอบเธอแบบนี้ ผมหวังว่าเธอคงจะไม่มาเป็นคู่แข่งผมนะ”


คุณคอลินพูดกับผม เขามองตาผม แววตาแบบนี้เหมือน...


ในฝัน!



ให้ตาย!



ไม่จริงมั้งเนี่ย





“คุณเอซร่า คุณโอเคนะ?”  ผม  โอเคกับผี! ผมถึงขั้นต้องหันหลังไปตบหน้าตัวเอง เช็คลมหายใจโดยการแตะเช็คใต้จมูกตัวเอง แล้วหันกลับมา และคิดว่าผมหน้าร้อนและคงหน้าแดงหราโชว์ความเด๋อด๋าต่อหน้าเขาแล้ว



“ครับ” ไม่โอเคเท่าไหร่ครับ แต่ไม่กล้าบอก ก็เขายืนใกล้ ตรงหน้าและยิ้มให้แบบนี้ น่ารัก! โอย คุณคอลินและคุณลิลี่ไม่ใช่แฟนกัน แต่สวยขนาดนั้น เขาไม่ชอบบ้างหรือ


“เธอน่ารัก แต่เราเพื่อนกัน และทุกคนรอบตัวผมก็เป็นเพื่อนกันหมด เหลือแค่คุณ เอซร่า”



เขาพูดอะไรเข้าใจยาก แต่เขาทำให้ผมเข้าใจโดยการกระทำอย่างอื่นที่ต่อมาจากนั้น










ร้านหนังสือในช่วงเวลาสาย ๆ แบบนี้ เพราะมันเป็นเวลาทำงานจึงยังไม่มีใครมาเป็นลูกค้ามากนัก ยิ่งร้านหนังสือที่ไม่ใหญ่ไม่เล็ก ลูกค้ามักจะแวะมาในช่วงเวลาว่าง


ตอนนี้ลูกค้าของผมมีแค่คุณคอลิน




“อื้อ”


ผมถูกดันหลังเข้าซอกในสุดของชั้นหนังสือ มุมอับในการมองเห็น และเขาจูบผม ..อีกครั้ง



ครั้งนี้ไม่เหมือนครั้งที่แล้วเลย ครั้งนี้มันมากกว่า..ความหวานมันล้นอกเลย เพราะเขาใช้วิชาการจูบอันล้ำลึกดูดพลังกรีนทีเฟรบเป้วิปปิ้งครีมและเค้กมะพร้าวผมไปหมดแล้ว เหลือเพียงเสียงเต้นของหัวใจที่ระรัวเป็นกลองชุดของผม ครู่ใหญ่จนผมใกล้หมดลม เขาถึงจะถอนจูบละริมฝีปากของเขาออกมาให้ผมรับอากาศหายใจเข้าไปบ้าง ผมหอบตัวโยนโดยมือสองข้างเกาะเสื้อเชิ้ตของเขาจนยับยู่เหมือนลูกแมวกลัวตกจากอ้อมกอดของเจ้าของ

“เฮ้ เอซร่า คุณน่ารักมาก ยิ่งตอนนี้” เขา...คุณคอลิน เหมือนเปลี่ยนนิดหน่อย จากคนที่ดูนิ่งและคูล กลายเป็นซาตานล่าความรักจากผมไปแล้ว ยิ้มที่ดูเจ้าเล่ห์ แววตากรุ้มกริ่มแบบนี้ และริมฝีปากของเขาที่เพิ่งละจากริมฝีปากของผมไป ก็กลับมาวนเวียนอยู่ใกล้ ๆ ริมฝีปากของผมอีก เพียงแค่แตะจูบให้รู้สึกว่าอยู่ใกล้กันขนาดนี้แล้วนะ เขายิ้มน้อยยิ้มใหญ่เหมือนแกล้งให้ผมเขิน ผมขยำมือบนเสื้อเขา มันต้องยับมากจนต้องรีดใหม่แน่ ผมไม่แม้แต่มองหน้าเขา เขิน


“คุณน่ารัก”
”ค-ครับ”
“ผมไม่มีทางให้คุณไปถ่ายแบบกับลิลี่แน่”
“ครับ ?”
“ความน่ารักของคุณต้องมีแค่ผมเท่านั้นที่เห็นมัน”



เจ้าเล่ห์! ผมค่อนขอดคุณเขาในใจ แต่ปากผมนี่สิ คลี่ยิ้มออกมาที่เล็กน้อย เขินที่เขาบอกผมว่าน่ารักและอายที่เขาบอกว่าจะไม่ใครเห็นความน่ารักของผม



“ลิลี่นี่ไม่ไหวเลย” เขาว่าเพื่อนตัวเองอยู่นะ แต่เหมือนแค่พูดไปอย่างนั้น คุณคอลินจุดยิ้มมุมปาก พร้อมกับโคลงหัวเบา ๆ เขาเองก็เขิน เรายืนอยู่ตรงชั้นหนังสือล็อคในสุดมุมอับของร้าน ยากที่ใครจะมองเห็นจากด้านนอกหรือแม้เข้าร้านมาแล้วก็ตามก็ยังต้องค้นหา ผมที่อยู่ในวงแขนของเขา เขากางกั้นไม่ให้ผมออกไปไหน ใครจะอยากออกไป ผมอยากตายคาอกคุณไปเลย คุณคอลิน




ในขณะที่ผมยิ้มออกมาอย่างเขินอาย คุณคอลินก็ยิ้มด้วยความรู้สึกนั้นเหมือนกัน ผมเหลือบมองเขาครู่หนึ่ง เขาทันได้สบตากับผม ก่อนจะไล่จูบเหมือนหยอกกันเล่น วนไปแถว ๆ ริมฝีปากผม ผมยังยิ้มอยู่เลยแล้วเขาก็เหมือนกันทั้งเขินทั้งขำกัน และเขาก็ยังพรมจูบผมอยู่นั่น ผมเมาจูบเขาแล้ว!

“พอ..แล้วครับ”


คุณคอลินเอียงใบหน้าออกมา ทั้งที่ริมฝีปากยังวนอยู่ใกล้ ๆ ผม “โอเค” เขาบอก เสียงเซ็กซี่ของคุณคอลินกระเซ่าฟังแล้วชวนจั๊กจี้ ผมอยากหยุดเพราะเขินจนเหนื่อยแต่แล้วก็ขออีกซักทีสิหน่า เขาจูบผมจนเกิดเสียงดังน่าอายอีกครั้งจนเขาพอใจ ถึงถอนริมฝีปากออกมา


พอได้ทีก็คิดอยากถามบางอย่าง



“คุณชอบผมหรือ ?” ผมถามเขาตรง ๆ ลองจูบกันขนาดนี้ มันจะต้องเสี่ยงกันบ้าง






ข้อสอบยากมาก ก็ต้องลองลงมือทำดู





“คุณน่ารัก” คุณคอลินตอบผม นั่นคือคำตอบจากเขาหรือ ? ไม่ตรงกับคำถามของผมเลยนะ ปากหนัก แต่อย่างน้อย ตอนนี้ ผมก็ได้เห็นอะไรดี ๆ และไม่ใช่แค่ผมที่เขิน เขาก็เขินผมมากจนหูแดงไปหมดแล้ว











TBC La La La 4 


5 ความคิดเห็น:

  1. ความคิดเห็นนี้ถูกผู้เขียนลบ

    ตอบลบ
  2. อร้ายยยยยย คุณอ๊า!!!
    นึกว่าจะฉวยโอกาสน้องแล้วหนีซะแล้ว อ๋อยยยยย
    น่ารักมากๆเลยค่ะ อ่านแล้วยิ้ม (///v///)/

    ตอบลบ
  3. คุณอ๊าาาาาาาาาาาาาาาา จะมาดันน้องเข้าซอกตลอดไม่ได้นะคะ เดี๋ยวซอกตึกเดี๋ยวซอกชั้นหนังสือ อ่านไปนั่งยิ้มไปจนจะเป็นบ้าละค่ะ แล้วก็น้องเอซลูกกก จินตนาการหนูไม่น่าจะเรตนิดหน่อยมั้ยคะ
    ป.ล.อยากรู้ความรู้สึกผ่านมุมมองคุณอาบ้างจังคะว่าสดุดตาน้องตอนไหนอะไรยังไง

    ตอบลบ
  4. น่าร้ากกกก
    ฮืออ พอเห็นชื่อลิลลี่แล้วเดาได้เลยว่าน้องจะไม่ต้องหงอยแล้ววว ใช่แน่ๆ
    แต่คุณอายังอุส่าห์ปากหนักได้อีกนะ ลวนลามเขาขนาดนั้นแล้ว ฮา

    ตอบลบ
  5. น้องเขิน คุณอาเขิน
    คนอ่านก็เขินค่า

    แอร๊ยยยยยยยย ><

    ตอบลบ