วันอาทิตย์ที่ 11 ธันวาคม พ.ศ. 2559

[AU SF] In Your Eyes - #Gradence









“คิดยังไง ถึงได้มาสมัครงานนี้จ๊ะ   พ่อหนุ่ม”

เครเดนซ์อึกอักตอบไม่ถูก จะให้เขาเล่าอย่างไรดีล่ะ
เหตุผลนี้มันช่างงี่เง่าสิ้นดี เขาคิดว่าหากเล่าเหตุผลจริง ๆ แก่เจ้าหน้าที่บุคคลของบริษัทนี้ เขาก็คงว่าเขาแบบนั้น

เอาเป็นว่าโกหกล่ะนะ

“งานนี้เงินดีมากครับ”
“แต่...”
“นะครับ พี่สาว ผมขอร้อง”
“เออ ๆ “

เจ้าหน้าที่บุคคลตรงหน้าพยักหน้าตอบรับว่าได้ สลับกะกัน หรือกะดึกจนถึงเที่ยงคืน ตามวันเวลาที่เครเดนซ์แจ้งไป ยังไงเสีย เขาก็ทำฟรีแลนซ์อยู่แล้ว งานโปรแกรมเมอร์ที่เขาทำ ไม่มีเวลาเป็นที่ทาง เขาจะหาอาชีพเสริมหน่อยก็ไม่เลว ตอนนี้เขาเองก็อยากจะได้คอมพิวเตอร์แรง ๆ ใหม่ซักเครื่อง


แต่จริง ๆ ก็เป็นแค่ข้ออ้าง ..เหตุผลเดียวที่ทำให้เขาอยากทำงานเสริม มัน..สุดแสนประหลาด


อยากเจอใครบางคนทุกวัน แค่นั้นเอง



ย้อนไปเมื่อเดือนก่อน


“คนนั้น...ใครน่ะ คุณเจคอป”

“มิสเตอร์เกรฟส์ เพอร์ซิวัล เกรฟส์ ซีอีโอระดับมาสเตอร์ นักธุรกิจหนุ่มใหญ่ไฟแรง สุดหล่อของยุคนี้ เห็นนิ่งแบบนี้แต่ขาโหดไม่ใช่เล่น เห็นว่าขาข้างหนึ่งเหยียบอยู่ในดงมาเฟียด้วย”

“อย่างนั้นหรอครับ...”

มีเสน่ห์สุด ๆ ... นิยามจากเครเดนซ์ครั้งแรกเมื่อพบมิสเตอร์เกรฟส์

เครเดนซ์นั่งฟังพร้อมกับขนมปังเนยสดตรงหน้าที่คุณเจคอปเสิร์ฟให้พร้อมนมร้อน ๆ เมื่อครู่  ร้านเบเกอร์รี่ของคุณเจคอปเปิดตรงกันข้ามกับตึกสูงตระง่านตาของบริษัทมาคูซ่า บริษัทระดับโลกที่เป็นผู้ส่งออกสินค้าหลากหลายแขนงมีทุกอย่างที่ต้องการ และมิสเตอร์เกรฟส์ที่เครเดนซ์ถามถึงนั้น เพิ่งจะเข้ามาซื้อเบเกอร์รี่และอเมริกาโน่เข้ม ๆ ไปเมื่อครู่จากร้าน ซึ่งอีกมุมร้านของร้านของคุณเจคอปนั้นมีมิสควีนนี่ แฟนสุดสวยของคุณเจคอปชงกาแฟและยิ้มสวยแจกลูกค้าหน้าร้าน

ให้ตาย แม้แต่ยิ้มหวานหยดเหมือนน้ำตาลของมิสควีนนี่ก็ยังทำอะไรมิสเตอร์เกรฟส์ไม่ได้เลย  เครเดนซ์คิดหลังจากสังเกตชายหนุ่มคนนั้นรับกาแ ฟจากควีนนี่ไปโดยไม่สนใจยิ้มสวย ๆ จากเธอเลย แม้แต่เขาที่เคารพควีนนี่เหมือนญาติผู้ใหญ่คนหนึ่ง ก็ยังหวั่นไหวใจเต้นเลยในบางครั้ง จนคุณเจคอปต้องดุเสียบ้าง แต่เขาแม้แต่จะไม่

น่าสนใจ


ทุก ๆ วัน เครเดนซ์จะผ่านร้านคุณเจคอปทุกวัน เพราะเป็นทางผ่านไปบริษัทเล็ก ๆ ที่จ้างฟรีแลนซ์เด็กใหม่เพิ่งจบอย่างเขามาช่วยดูระบบไอทีที่บริษัท ที่แม้จะคนเยอะหน่อยแต่ก็เร็วกว่า เขาปั่นจักรยานมาทางนี้ และจะแวะรับอาหารเช้า และขนมยามเย็นไปด้วยติดมือเสมอ เผื่อน้องสาว โมเดสตี้ที่รออยู่ที่บ้านด้วย  แต่หลังมานี้ เครเดนซ์กลับบ้านช้าเป็นพิเศษ


“นายนั่งมองเขาแบบนี้ เดี๋ยวเขาก็จับได้หรอก เครเดนซ์”
“ผมยังไม่ได้ทำอะไรนอกจากแค่มองเลยนะครับ!
“แหน่ะ ! เถียงผู้ใหญ่ เขาน่ะขาโหด เครเดนซ์ ระวัง ! เดี๋ยวเขาจะหาว่านายไปมองหน้าหาเรื่องเขา ชายคนนั้นน่ะ รู้มั้ยสาว ๆนิยามเขาว่ายยังไง?”

คุณเจคอปหมุนปุ่มเสียงของตัวเองให้เบาลง จนแทบกลายเป็นกระซิบ เลยดูเชิญชวนให้ควีนนี่มาฟังด้วย

“แมงป่องพิษ”
“หวาย!” ควีนนี่ฟังแล้วก็ร้องอุทาน รู้สึกแปลกใจ แต่ในความแปลกใจของเธอนั้น ก็คิดว่าเหมาะสม เธอปรายสายตาคมกริบของเธอมองมิสเตอร์เกรฟส์คนนั้น ที่นั่งอยู่มุมร้านที่ประจำ พร้อมอ่านหนังสือในมือไปด้วย เมนูของเขาเป็นอเมริกาโน่ และบิสกิตรสคลาสสิกจานหนึ่ง เธอคิด...ใช่เลยแฮะ ขนาดเข็มเกล็ดที่ปกคอเสื้อเชิ้ตของชายหนุ่มที่ดูมากด้วยออร่าคนนั้นยังเป็นรูปแมงป่อง (เธอจำได้จากเมื่อครั้งที่ชายหนุ่มมารับกาแฟจากเธอไปเมื่อไม่นาน) สาว ๆ ในร้านมองเขาเป็นตาเดียว เป็นคนดัง คนหล่อ แต่เขาไม่สนใจใครเลยแม้แต่คนเดียว อ่านหนังสือ จดจ่อกับมัน

“ฟังดูไม่น่ากลัว แต่ก็พร้อมจะฆ่าด้วยพิษปลายหาง รักสันโดษอย่างกับอะไรดี เย็นชาอย่างกะน้ำแข็ง สาวๆ หลายคนที่มาอ่อยมิสเตอร์เกรฟส์คนนี้ ถอยกลับไปตั้งหลายคน เข้าถึงตัวไม่ได้เลย หรือถ้าถึงตัวได้ ก็ไม่ถึงหัวใจเขา”

เจคอปสาธยายทั้งหมดที่เขารู้จากหนังสือกอซซิบดาราเซเลปที่ควีนนี่ซื้อมา เขาอ่านมันอย่างออกรส เครเดนซ์มองปกหนังสือกอซซิบนี้ เป็นรูปแอบถ่ายจากมุมไหนซักมุม ก็ร้านของคุณเจคอปนี่ล่ะ

เท่ซะไม่มี เครเดนซ์คิด ตอนนี้สามคน ทำเป็นไม่สนใจ มิสเตอร์เกรฟส์ไม่ได้อยู่ในบทสนทนานี้ เพราะเขาเดินเข้ามาใกล้ และหย่อนถาดอาหารที่ใช้ยกเครื่องดื่มและขนมมาคืนที่เค้าท์เตอร์ ควีนนี่ยิ้มให้เขาอย่าสุภาพ เขาพยักหน้ารับและผลักประตูออกจากร้านไป ข้ามถนนและเดินเข้าตึกตระหง่านที่เป็นที่ทำการใหญ่ของมาคูซ่า

“ทำไมถึงสนใจเขา เครเดนซ์?”
“แล้วพวกคุณไม่สนใจเขาหรือ?”
“มันไม่เหมือนกัน หนุ่มน้อย นายก็เอาแต่ถามถึงมิสเตอร์เกรฟส์ ฉันนับได้ก็เป็นอาทิตย์ นายถามถึงเขา ทุกวัน “ เจคอปพูด แถมนับมือไปด้วย บอกจำนวนวันที่เครเดนซ์ทำอย่างที่เขาว่า

“เธอหลงรักเขาหรือ?”
“ไม่ใช่ครับ!

 มิสควีนนี่ทำเอาเครเดนซ์ตกใจ เธอยิ้มสวย ท้าวคางมองหนุ่มน้อยตรงหน้า

“คุณอย่าทำอย่างกับว่าคุณมีคาถาพินิจแบบในแฮร์รี่ พอตเตอร์ได้มั้ย มิสควีนนี่”
“ถ้าฉันมีจริง ๆ ล่ะพ่อหนุ่ม เธอจะทำอย่างไร”
“คุณไม่มีหรอก.... ใช่มั้ยล่ะครับ” ควีนนี่หัวเราะโดยยกมือป้องริมฝีปากอย่างจริตผู้หญิง ปรายสายตามองหนุ่มน้อยที่เธอเอ็นดู
“จ้า ฉันไม่มี แต่ฉันโตมาก่อนเธอ เกือบทษวรรษ และสิ่งที่เธอเป็นอยู่ ฉันแทบไม่ต้องใช้คาถาพินิจใจ ก็รู้..”
“ก็รู้ ?”
ควีนนี่ตกคำท้ายไว้ ทิ้งช่วงให้เครเดนซ์อยากรู้ จนต้องขมวดคิ้วเป็นปม เธอใช้ช้อนชาที่คว้าติดมืออยู่เคาะเบา ๆ ที่ระหว่างคิ้วของหนุ่มน้อย และหัวเราะขำกับแฟนของเธอ เจคอป ที่ยืนอยู่ข้าง ๆ อย่างเข้าใจกัน
“ผมยังไม่ได้ตกหลุมรักเขานะ!
“จ้า ๆ “
“จริง ๆ นะฮะ มันไม่...”
“กลับไปคิดดูนะจ๊ะ เครเดนซ์ เธอไม่เจอเขาซักวัน จะเป็นอะไรไหม จะขาดใจหรือเปล่า” ตอบจบก็วาดยิ้มหวานให้  ควีนนี่ตอบเครเดนซ์ไม่ตรงคำถาม แถมทิ้งให้งงกว่าเดิม




จากเหตุการณ์นั้น จนมาถึงวันนี้


ขาดใจ...เครเดนซ์ตอบคำถามนั้นสำหรับมิสควีนนี่ที่ถามเขาเมื่อก่อนหน้า... ครั้งหนึ่งมิสเตอร์เกรฟส์ไม่แวะมาที่ร้าน แม้จะไปแวะเวียนแถว ๆ ตึกมาคูซ่าก็ไม่เจอ เกือบทำ รปภ. แถวนั้นสงสัยจนจะจับเขาไปส่งตำรวจเสียแล้ว เพราะเขาทำตัวลับ ๆ ล่อ ๆเกินไป

ตึกนั้นเข้าไปไม่ง่ายเลย การรักษาความปลอดภัยอยู่ในระดับสูง จนคนทั่วไปเข้าถึงยาก หากไม่มีกิจธุระกับบริษัท
“นายมันบ้า เครเดนซ์ บ้าจริง ๆ “


หนุ่มน้อยสบถว่าตัวเองอยู่ตรงหน้าตึก หลังจากไปยื่นสมัครงานกับบริษัทขาโหด และขึ้นชื่อว่ารับพนักงานด้วยกฎและเงื่อนไขที่มากมายแม้แต่แม่บ้านก็ยังว่ายาก แต่เขาก็ทำไปแล้ว

“ถึงจะไม่ผ่านในตำแหน่งบอดี้การ์ดอย่างที่อยากก็เหอะ รปภ. ก็เอา”

บอดี้การ์ดของมิสเตอร์เกรฟส์ หรือ ผู้บริหารระดับนั้น ต้องระดับอาจารย์มาเอง ถึงจะผ่านคัดเลือกแต่เขาแค่จะตีหมาที่มาไล่กัดน้องสาวเขาเมื่อวันก่อนก็ยังกล้า ๆ กลัว ๆ

เครเดนซ์รู้สึกว่าตัวเองบ้าบอที่ต้องมาทำแบบนี้ แม้ว่าจะทำไปแล้วก็ตามก็ยังด่าตัวเองว่าบ้า ๆ ไม่เลิก
อยากเข้าใกล้เขามากขนาดไหน ถึงได้ใจกล้ามาสมัครงานที่บริษัทนี้ในตำแหน่ง บอดี้การ์ด

จะผ่านได้ไงเล่า!
บริษัทมาคูซ่า แปลกอยู่อย่างหนึ่งที่รับพนักงานตลอดไม่ปิดโอกาส แต่ก็คัดคนเลือกมากเหลือเกิน จนชนิดที่ว่าคัดทิ้งมากกว่าหลายสิบเท่าจากจำนวนคัดเข้า ตำแหน่งบอดี้การ์ดของมิสเตอร์เกรฟส์คนนั้นก็รับอยู่ แต่เงื่อนไขมากมายจนเครเดนซ์อ่านแล้วเวียนหัว สุดท้ายเขาก็โดนคัดออกจากกลุ่มใบสมัครที่ผ่าน ไปอยู่ในกองขยะ แต่อีกตำแหน่งหนึ่งที่เลือกไว้เป็นอันดับสาม คือ รปภ.

อ๋อ อันดับสอง  พ่อบ้าน คนทำความสะอาด ..ก็เขาดันสะดุดไม้ถูพื้น ตอนประเมินงานไป ใครมันจะเลือกเขาเข้าไปทำล่ะ มีหวังได้โดนเจ้านายด่า! เจ้าหน้าบุคคลเขาว่าไว้  เหลือแค่ รปภ.ที่ขาดเยอะหน่อยเพราะเปลี่ยนบ่อยมาก หาคนไว้ใจได้ลำบาก ทางเจ้าหน้าบุคคลเลยคัดเครเดนซ์มาสัมภาษณ์และในที่สุด เขาก็ได้มา

จริง ๆ เขาก็อ้อนวอนเจ้าหน้าที่ที่สัมภาษณ์ไปมากมาย ยิ้มจนแก้มเมื่อย


แม้ก่อนนี้ใจคิดว่าถ้าสมัครเข้าบริษัทด้วยความรู้ด้านไอทีของเขาก็อาจจะผ่านก็ได้ แต่เครเดนซ์ประมวลผลดูแล้ว แผนกไอทีของบริษัทอยู่คนละชั้นกับที่ทำงานมิสเตอร์เกรฟส์ (มันแน่อยู่แล้ว!) และพนักงานตำแหน่งเล็ก ๆ จะไม่มีสิทธิ์เข้าพบผู้บริหารระดับสูงเลย หากเจ้าตัวไม่มาเอง และมิสเตอร์เกรฟส์ก็ไม่ใช่พวกที่ชอบงานสังสรรค์ ได้ยินว่าเขาไม่เคยเข้าร่วมงานเลี้ยงบริษัทเลย จะไปดักเจอเขาแบบดาราเซเลปหรือ เดี๋ยวจะโดนหิ้วไปทิ้งเสีย   ไม่มีทางเข้าใกล้ได้เท่าที่อยาก และไม่มีทางได้เห็นหน้า หาเหตุผลอะไรไปก็คงโดนขัด และถูกหาว่าแปลก หรือจะรอสร้างผลงานใหญ่ ๆ รอเติบโตเป็นหัวหน้า เพื่อเข้าไปพบมิสเตอร์เกรฟส์เวลาเสนองาน นั่นก็นานไป ไม่ทันใจเขาหรอก

รปภ.นี่ล่ะ! ยังไรก็เจอตรงหน้าประตู!


“เริ่มงานอาทิตย์หน้า !

เครเดนซ์อ่านทวนประโยคที่เขียนไว้ท้ายใบรับรองการผ่านการคัดเลือกของบริษัทมาคูซ่า


เพื่อให้ได้ใกล้อีกนิดหน่อย ก็ยอมเดินเข้าไปสู่อันตรายเอง...แมงป่องพิษสินะ
ขอแค่ได้มองก็พอ เขาไม่กล้าเข้าใกล้ เหตุผลก็มีแค่ว่า เขาคงไม่เหมาะที่จะไปทำอะไรมากกว่านั้น ให้ทอดสะพานหรือ? ไม่หรอก ไม่กล้าขนาดนั้น และอีกอย่าง เขากลัวมิสเตอร์เกรฟส์ ว่าหากเข้าใกล้มากไป เขาจะทำอะไรที่ทำให้เครเดนซ์กลัว
ถ้าไม่ไปกวนใจเขา เขาคงไม่ปล่อยพิษใส่เราหรอกมั้ง  เครเดนซ์เปรียบเทียบคงตรงหน้า เป็นเหมือนกับหลาย ๆ คนเปรียบแต่ฟังแล้วเขารู้สึกขำนิด ๆ






“สะ...สวัสดีครับ....”

ดูดีเกินไป เจอใกล้ ๆ แบบนี้..ทำอะไรไม่ถูก...เครเดนซ์คิด มือเริ่มวางไม่ถูก แต่ก็ทำอย่างที่ได้รับอบรมการเป็นพนักงานรักษาความปลอดภัย หรือที่เรียกกันง่าย ๆ ว่า รปภ. หรือสั้นกว่านั้นก็ ยาม มือขาวตะเบ๊ะให้มิสเตอร์เกรฟส์ที่ถือเป็นผู้บริหารระดับสูงถือเป็นเจ้านายของเขาด้วย  ชายหนุ่มทรงเสน่ห์ตรงหน้ามองฉงน แต่ก็ยิ้มบาง ๆ ให้ ยิ่งทำให้เครเดนซ์ประหม่า

“มาใหม่หรือ ?”
“คะ..ครับ”
“ไม่ต้องเกร็ง ฉันไม่ได้ดุขนาดนั้น”
“ครับ!

ไม่ได้ดุ แต่ออร่าน่ากลัวสุด ๆ ...หนุ่มน้อยล้อผู้เป็นเจ้านายตรงหน้าในใจ แต่ก็ส่งยิ้มหน้าตึงให้ มิสเตอร์เกรฟส์เดินเข้าตึกไปแล้ว เขามองตามชายหนุ่มทรงเสน่ห์คนนั้นไป ทุกคนต่างหลีกทางให้ คำนับเขาราวกับพระเจ้า สาว ๆ หลายคนส่งสายตาให้ แต่ไหนเลยมิสเตอร์เกรฟส์ แมงป่องผู้เย็นชาจะเหลียวแล เขาเข้าลิฟต์ผู้บริหารไป สาว ๆ พวกนั้นถอนหายใจกันเป็นแทบ เหตุที่พวกเธอทอดสะพานให้ชายหนุ่มแห่งยุคคนนั้นไม่สำเร็จ

แล้วเขาชอบแบบไหนกันนะ? เครเดนซ์คิด เพราะสาว ๆ เหล่านั้นที่ทอดสะพานให้เขา ก็สวยมากเสียจนเครเดนซ์เองยังเขิน แม้แต่มิสควีนนี่ที่สวยที่สุดเท่าที่เขาเคยพบเจอผู้หญิง มิสเตอร์เกรฟส์ก็ยังไม่สนใจ เรื่องนี้เป็นประเด็นที่ติดในใจเครเดนซ์

เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าทำไมถึงสนใจมิสเตอร์เกรฟส์คนนี้

อืม ? หน้าตาหล่อเหลาประหนึ่งพระเอกฮอลลีวู้ด เพราะเสน่ห์น่าหลงไหลหรือ ? บุคลิคสุดแสนเท่ของเขา ? หรือออร่าที่ดูเหมือนจะสงบนิ่งแต่น่ากลัวของเขา ?


เครเดนซ์กาถูกหน้าทุกข้อที่เขาคิดมา
อีกอย่างที่อยากจะเขียนในหมายเหตุเอาไว้

เขาน่าสนใจ น่าดึงดูด เขาดูลึกลับ เรียกว่าอย่างไรดี ถ้าได้สบตากับเขา ก็คงจะอธิบายได้ยากแน่นอน ว่าเขาคิดอะไร

คนแบบนี้ทำให้เครเดนซ์สนใจ
จนตอนนี้ยากแล้วที่จำห้ามใจให้ไม่ให้อยากเจอเขาทุกวัน
เหมือนกำลังศึกษา วิเคราะห์ อะไรก็แล้วแต่


ก็ทำให้เขาพาตัวเองมาที่มาคูซ่า มายืนเป็นยามหน้าตึกประตูใหญ่ของที่นี่อย่างไรล่ะ


“เอ้า เครเดนซ์ อย่าอู้สิ สาวสวยคนนั้น เธอถามทางนายอยู่นานแล้ว ตอบเธอซักที “

หัวหน้ารปภ. ดุเขา เมื่อเขามัวแต่คิดเรื่องชายหนุ่มที่วนเวียนอยู่ในหัวเขามาตลอดเดือน เครเดนซ์จำต้องปฏิบัติหน้าที่ต่อไป  เมื่อครูเขาไม่ได้แทบไมได้สบตามิสเตอร์เกรฟส์คนนั้นเลย ไม่กล้าทำ เขากลัวว่า ความเงอะงะของตัวเองจะไปทำอะไรให้ระคายเคืองใจคน ๆ นั้นเขา จึงได้แค่จ้องมองแต่วางตาสายไปที่อื่น 

แต่ก็อย่างที่เขาหวังไว้ ได้มองชายหนุ่มคนนี้ ใกล้ขึ้นนิดหน่อย แถมได้สนทนากันในบางครั้งด้วย แค่สวัสดี ..ก็ถือว่าเป็นวันที่ดีของเครเดนซ์แล้ว





ทุกวัน เขาจะพบมิสเตอร์เกรฟส์วันละ สองครั้ง คือขาเข้าบริษัท และเขาจะกลับบ้านในเวลาเกือบเที่ยงคืนแทบทุกวัน และทุกวันเขาจะสั่งอาหารทุกมื้อขึ้นไปกินบนตึก โดยไม่ลงไปทานที่ไหน ยกเว้นแต่ว่าเขามีลูกค้าที่ต้องนัดเจอ เครเดนซ์ก็จะพบเจ้านายสุดหล่อของตนมากกว่าสองครั้ง ก็ถือเป็นกำไรของเขาไป และเหตุผลที่เครเดนซ์ได้มาประจำที่ประตูใหญ่ เพราะเขาขอไป และบวกกับที่เจ้าหน้าที่บุคคลบอกว่าเครเดนซ์หน้าตาดี (เขาบอกมานะ) เป็นจุดเด่นด้วย เป็นหน้าตาแก่บริษัทไม่มากก็น้อย จึงจัดมาอยู่กะหน้าประตูใหญ่กับ เพื่อนรุ่นพี่ที่เก่งที่สุดในรุ่น

“หืม ? “ เครเดนซ์และเพื่อนที่อยู่กะดึกวันนี้ รู้สึกอะไรบางอย่างแต่เขาเป็นคนอุทาน เพื่อนร่วมงานบุ้ยใบ้ทำท่าบอกว่าได้ยินหรือเปล่า ?

ตึกมาคูซ่าใหญ่ที่สุดในแถบนี้และมีบริเวณกว้างมาก และล้อมรอบไปด้วยต้นไม้อย่างร่มรื่น หากใครเข้ามาพนักงานที่ตรวจรับบัตรและรปภ.อย่างเครเดนซ์ที่อยู่หน้าประตูใหญ่จะพบเห็นก่อน  มี รปภ. ถัดไปจากจุดที่เครเดนซ์อยู่อีก จุดละสองคน แต่ถี่เสียจน ไม่ว่าใครแปลก ๆ เข้ามาก็ต้องเห็น


“แกไปดูหน่อย “
“ผม?”
“เออ แกนั่นล่ะ เจ้าเด็กใหม่ เพื่อเป็นการทดลองงานของแก”

เครเดนซ์จำต้องทำตามคำสั่งของเพื่อนรุ่นพี่ จึงเดินไปดูต้นเสียงแปลก ๆ และอะไรไหว ๆ ตรงต้นไม้ที่ล้อมรอบด้วยพุ่มไม้เตี้ย  แต่เมื่อเดินเข้าไปก็ไม่พบอะไรแปลก ๆ ที่คิดไว้

“เห้อ”


แต่พ้นเสียงถอนหายใจของเขา



อึ่ก!




“เคร..--- เครเดนซ์”  เขาฟื้นขึ้นมาอีกที และรู้สึกปวดตรงหลังคอ

“ดีนะที่มันเข้ามาในบริษัทไม่ได้ ให้ตายสิ นี่มันท้าทายมาคูซ่ามากขนาดนี้..”  เครเดนซ์ได้ยินเสียงคนคุยอยู่ไม่ไกล ลืมตาขึ้นมาพบเพื่อนรุ่นพี่โดนหัวหน้าอบรมอยู่ ตรงหน้าไม่ไกล ซ้ายก็มีทีมผู้บริหารระดับสูงบางคนคุยอะไรกันหน้าเครียด  เครเดนซ์เริ่มรู้สึกหายใจไม่ทั่วท้อง เพราะไหนจะประโยคที่เขาได้ยินเมื่อครู่

“เธอ โอเคมั้ย”

“มิสเตอร์เกรฟส์!

เสียงทีทักเขาอยู่ทางขวา ชายหนุ่มที่เครเดนซ์เฝ้ามองวันละสองครั้งนั่งอยู่ข้าง ๆ เขา และมองเขาด้วยสายตาที่อ่านไมได้ออกแต่ขอคิดว่าชายหนุ่มเป็นห่วงเขา เครเดนซ์ลุกขึ้นนั่งพรวดพราด เลยเจ็บปราดตรงจุดที่โดนทำร้าย เขายกมือกุมร้องโอยจนมิสเตอร์เกรฟส์ต้องทำหน้ากังวล

“ขอโทษครับ”
“ไม่เป็นไร เธอเองก็เด็กใหม่ แต่พวกรุ่นพี่เธอต้องโดนอบรม” ชายหนุ่มพูดเสียงเรียบ หันไปทางฝั่งที่พวกเพื่อนรุ่นพี่ทุกคนที่เป็นรปภ. กะนี้กำลังโดนหัวหน้าดุด่าอย่างหนัก

“เธอกลับบ้านไปได้แล้ว หมดเวลางานของเธอ พรุ่งนี้ฉันอนุญาตให้หยุดได้หนึ่งวัน”  มิสเตอร์เกรฟส์พูดกับเขาแค่นั้นและจากไป รวมกลุ่มกับผู้บริหาร และเข้าประเด็นเคร่งเครียด ชายหนุ่มทรงเสน่ห์อยู่ในเสื้อเชิ้ตขาวปลดกระดุมเม็ดบน พับแขนเสื้อมาไว้ตรงศอก สวมกางเกงสแลคดำ รองเท้าหนังมันวับ ทรงผมอันเดอร์คัตเข้ารับกับใบหน้าหล่อคมเข้ม 

แม้เจ็บอยู่ เครเดนซ์ก็มีเวลาสังเกตชายหนุ่มตรงหน้าและคิดอะไรบ้า ๆ  เซ็กซี่ชะมัด เครเดนซ์สะบัดไล่ความคิดนี้ ลุกขึ้นช้า ๆ โค้งให้ทุกคนที่เป็นนายของเขาตรงหน้า และกลับบ้านตามที่ถูกสั่ง 


“กลับดี ๆ “ มิสเตอร์เกรฟส์ผู้เป็นนายของเขาเห็นเครเดนซ์กำลังเดินออกจากบริเวณของมาคูซ่า ชายหนุ่มบอกกึ่งตะโกนมาหาเครเดนซ์ เครเดนซ์ยิ้มบางเบาให้เจ้านายเป็นการขอบคุณและโค้งอย่างสุภาพให้อีกครั้ง และได้รับสายตาที่เครเดนซ์ไม่เข้าใจกลับมาจากมิสเตอร์เกรฟส์






รปภ.ในกะกลางคืนหนาแน่นเป็นสองเท่า  หลังจากที่หยุดตามคำของมิสเตอร์เกรฟส์ เครเดนซ์ก็กลับมาทำงาน แต่จุดที่เขาได้ประจำการณ์นั้นไม่ใช่ที่เดิมประตูใหญ่ที่หวังว่าจะได้เห็นมิสเตอร์เกรฟส์วันละสองครั้งตามที่คิด

“คนที่บอกให้เปลี่ยน ก็มิสเตอร์เกรฟส์นั่นล่ะ นายใหญ่สั่งมา ฉันทำอะไรไม่ได้” หัวหน้าบอกเขาเมื่อไปถาม เครเดนซ์รู้สึกจุกที่อกเล็กน้อย เพราะคน ๆ นั้นสั่ง ไม่แปลกที่หัวหน้าจะปฏิบัติอย่างเคร่งครัด

เหตุผลมันก็คงไม่มีอะไรมาก เขาไม่โดนไล่ออกก็ดีเท่าไหร่ เพียงแค่เปลี่ยนจุดทำงานเป็นจุดอื่นแทนที่ไม่เสี่ยง เป็นจุดที่ไม่มีประตู แต่ใกล้กับสวนร่มรื่นของบริเวณบริษัทแทน ซึ่งอย่าว่าแต่คนเลย ตรงนี้ไร้ทางเข้าออกแม้แต่ช่องเล็ก ๆ จะแมวตัวไหนก็เข้าไม่ได้ และคนที่มาประกบกะกับเขาก็เป็นคนที่มีฝีมือแทบจะเก่งที่สุดใน รปภ. รุ่นนี้เลย

เหมือนเป็นตัวถ่วงเลย เขาคิด เครเดนซ์ใจเสียไป แต่อย่างน้อย เพื่อทำให้คำสั่งของมิสเตอร์เกรฟส์เป็นผล เขาก็ควรทำหน้าที่ให้ดี และนอกจากนั้นแล้ว การเข้ามาทำงาน ไม่ว่าจะที่ไหน แม้มาด้วยเหตุผลส่วนตัวก็ไม่ควรทิ้งความรับผิดชอบต่อส่วนรวมไป 

แต่ถ้าเขาได้ประจำจุดนี้ตลอดไป ..เขาจะไมได้เห็นมิสเตอร์เกรฟส์ทั้งวัน ตลอดไป..


เข้ากะงานก่อนเข้าตึก เช้าตรู่ และเครเดนซ์ก็มาทำงานอีกช่วงนึงของวันเป็นช่วงรอบดึก ก็ตอนที่มิสเตอร์เกรฟส์ออกจากตึก แต่จุดที่เขาอยู่เป็นจุดที่ไม่มีคนผ่านแต่ต้องมีคนเฝ้าความปลอดภัย ไม่มีประตุ และผู้บริหารไม่ผ่าน


จะหาเหตุผลไหนไปเจอเขาเล่า เครเดนซ์

แบบนี้ลาออกไปนั่งร้านคุณเจคอป ยังจะเจอเขามากกว่าเลย

แต่ในสัญญางานบอกไว้ว่าต้องผ่านสามเดือนไป ถึงจะสามารถออกได้ ถ้าไม่เช่นเขาจะถูกปรับ ค่าปรับก็มากจนเสียดายเกินกว่าจะมาเสียกับความไม่รับผิดชอบของเขา


“เฮ้อ “ หนุ่มน้อยลอบถอนใจหาย
“เป็นคนหนุ่ม ถอนหายใจแบบนั้น ไม่ดี อายุจะสั้นเอานะ” เสียงที่แม้ไม่กี่ครั้งที่เครเดนซ์จะได้ยินแค่อยู่ในความทรงจำของเขา




“สะ..สวัสดีครับ..มิสเตอร์เกรฟส์”

ชายหนุ่มยืนอยู่ตรงหน้า ใบหน้าไม่นิ่งขรึมแบบที่คิดไว้ แต่มีรอยยิ้มและหัวเราะขันวาดอยู่บนใบหน้าหล่อนั้น เพื่อนรุ่นพี่ที่อยู่กะด้วย ตะเบ๊ะทำความเคารพเจ้านาย และหันไปปฏิบัติหน้าที่อย่างตั้งใจกว่าเดิม


“เธอน่ะ หายดีแล้วหรือ”
“ครับ...”

เครเดนซ์ตอบเจ้านายไป ในใจหวาดหวั่นว่าเขาจะมาไล่ออกอย่างที่ปากบ่นไว้เมื่อครู่มั้ย ใจหนึ่งถึงจะอยากออกก็เถอะ แต่ถ้าทำงานที่มาคูซ่ามันยังแอบไปมองคุณเกรฟส์ได้ คืออย่างไรก็หาเหตุผลไปเจอได้มากกว่าไปนั่งมองอย่างกะโรคจิตอย่างที่ร้านคุณเจคอป เดี๋ยวถูกหาว่าหาเรื่องเขา จะเป็นเรื่องอื่นไปอีก


“ก็ดี อย่าทำให้ตัวเองมีอันตราย เข้าใจนะ”  มิสเตอร์เกรฟส์พูดแค่นั้น แล้วก็
“ครับ”


เมื่อมิสเตอร์เกรฟส์จากไป เครเดนซ์ถูกถามโดยเพื่อนรุ่นพี่อย่างกระตือรือร้น เขาแค่อธิบายไปว่า ครั้งที่มีคนร้ายลอบเข้ามาคูซ่าแม้โดนจัดการไปแต่ก็หลังจากที่เครเดนซ์โดนตีจนสลบ เจ้านายคนนี้แค่เป็นห่วงพนักงานเล็ก ๆ คนนี้

แค่นี้ก็ดีใจแล้ว ครั้งนี้ถือเป็นโบนัสชิ้นโตที่บริษัทมาคูซ่าให้เขาเลย





In Your Eyes 



วันนี้เครเดนซ์ได้กะดึกอีกครั้ง และความบังเอิญอย่างสุดซึ้งที่หน้าตึกประตูใหญ่นั้น ขาดคน เพราะคนเข้ากะเดิมป่วยจนมาไม่ได้  เครเดนซ์และเพื่อนรุ่นพี่อีกสองคน มาเป็นกะดึกแทน คราวนี้เพิ่มกำลังมากกว่าเดิม และเพิ่มอาวุธให้เขาด้วย

“นายใช้ปืนได้ใช้มั้ย เครเดนซ์”

“เอ่อ...ได้ครับ” โกหกคำโต เขาเคยใช้มันแค่ในเกมส์ออนไลน์แค่นั้นแหละ แต่เพื่อหน้าที่ มันคงใช้ไม่ยากใช่มั้ย เขาให้เพื่อนรุ่นพี่แสดงวิธีใช้อย่างละเอียดให้ดู ทำทีว่าทวนความจำแต่จริง ๆ คือไม่เป็นเลยแม้แค่การใส่กระสุน เมื่อเรียนรู้แบบลวก ๆ แล้ว เครเดนซ์ก็พร้อมในการปฏิบัติการงานกะดึกย่ำเที่ยงคืน


“อีกแล้ว?”  เครเดนซ์เป็นคนได้ยินเสียงคนแรก


วันก่อนเขาได้ยินว่าพวกคนไม่หวังดีแวะมาทักทายเพื่อนรุ่นพี่เขาอีกครั้ง ตอนที่เขาไม่อยู่ตรงปน้าประตูใหญ่ แต่ก็จัดการได้ นี่เป็นอีกครั้งที่พวกนั้นแวะเวียนเข้ามาหาเรื่องมาคูซ่าถึงที่

“ไม่ต้องเครเดนซ์ ฉันเอง” เพื่อนรุ่นพี่ข้าง ๆ ไปดูก่อน เขาเดินไปดูอย่างเบาฝีเท้าที่สุด และพร้อมกับคว้าจีบปืนตรงที่เก็บข้างเอวด้วย


“เห้ย!” ไม่นานการต่อสู้ก็เริ่มขึ้น


คนร้ายโผล่มาหลายทาง แถมทิ้งตัวมาจากบนตึกด้วย แต่เพราะเหตุที่ตึกมาคูซ่ามีการป้องกันอย่างแน่นหนากว่าที่พวกมันคิด จึงจำต้องตะลุยเข้าประตูหน้าอย่างเดียว  และพวกของเครเดนซ์าคือกำแพงแรกที่พวกมันต้องเจอ

“เห้ย!” อุทานรอบนี้เป็นของเครเดนซ์ เพราะมีคนร้ายโผล่มาตรงหน้าและพุ่งหมัดใส่ เมื่อไม่โดนก็กะจะฆ่ากันเลย แต่เครเดนซ์ทันปัดปืนมันตก เขาพักไปวันหนึ่งก็เรียนรู้หลักสูตรรวบรัดจากครูยูทูป จำท่าการต่อสู้แบบลวก ๆ มา และมันใช้ได้!


การต่อสู้ดำเนินไป ทั้งโซนหน้าตึกหน้าประตูใหญ่มีแต่การต่อสู้ พวกหนึ่งที่พยายามจัดการคนของมาคูซ่าแต่มาคูซ่าก็ดุดันจัดการพวกมันร่วงไปทีละคน อีกพวกพยายามตะลุยเข้าตึก แต่ไม่พ้น พวกของเครเดนซ์จัดการพวกมันแต่ไม่ถึงตายให้ร่วงไปทีละคน แต่ก็มีพวกฝีมือพระกาฬที่ยังไม่ถูกสอยให้ร่สงซักที พวกมันก็เหมือนจะมีข้อจำกัดตรง ไม่พยามฆ่าอีกฝ่ายให้ตาย ก็คงเพราะไม่อยากให้เป็นเรื่องใหญ่และสาวถึงตัว แต่เพราะเหตุผลไหนก็ช่างมัน แต่มันทั้งหมดตั้งใจจะทำให้มาคูซ่าเป็นอันตรายก็อย่าหวังว่าจะได้เข้า


“เห้ย เครเดนซ์ระวัง!

เพื่อนรุ่นพี่ที่กำลังง่วนอยู่กับคนร้ายฝีมือเก่งกาจอยู่ ก็มีอีกคนจู่โจมและกำลังจะคว้าปืนเล็งเครเดนซ์



ปัง!




“บ้าชิบ!

เสียงสบถนั้น โพล่งมาท่ามกลางความวุ่นวายทำให้โดยรอบต้องหันไปสนใจ ซีอีโอใหญ่ของมาคูซ่า


“มิสเตอร์เกรฟส์”  เครเดนซ์เอ่ยเสียงเบา ตกใจกับเหตุการณ์เมื่อครู่ ตัวเองเพิ่งรอดตาจากกระสุนที่เกือบปลิดชีวิตตัวเอง มิสเตอร์เกรฟส์เล็งปืนจากระยะไกลมาถึงคนร้ายที่อยู่ตรงหน้าเครเดนซ์เข้ากลางกะโหลก ตายสนิท เครเดนซ์เห็นภาพตรงหน้า แม้จะเคยจากในหนังสยองขวัญ ฆาตรกรรมแต่เห็นของจริงก็เข่าอ่อนได้เหมือนกัน


“เธอน่ะ! ทำไมมาอยู่ตรงนี้!” มิสเตอร์เกรฟส์รีบวิ่งเข้ามาดูอาการเครเดนซ์ และหันไปด่ากราดพวกที่เหลือ คนร้ายหลายคนที่ยังอยู่ผงักไปอครู่หนึ่ง เมื่อเจอระดับบิ๊กบอสมาเอง ซึ่งหลังจากนั้น มิสเตอร์เกรฟส์ก็ลงมือ

“เงียบก่อน” มิสเตอร์เกรฟส์โอบร่างชองเครเดนซ์ให้แนบอก เป็นกอดที่แนบแน่นจนหายใจลำบาก เพราะมิสเตอร์เกรฟส์ไม่อยากให้หนุ่มน้อยคนนี้เห็นอะไรไม่เจริญหูเจริญตา

และหลังจากนั้น เสียงปืนหลายนัดก็ดังขึ้น


“เอาล่ะ” มิสเตอร์เกรฟส์ที่โอบเขาอยู่ และรปภ. รวมทั้ง บอดี้การ์ดของมิสเตอร์เกรฟส์ทั้งหมดช่วยกันจัดการพวกคนร้ายทั้งหมด ชายหนุ่มคลายกอดให้เครเดนซ์สบายตัว แต่เขารู้ว่าเรื่องยังไม่จบ เพราะมิสเตอร์เกรฟส์ยังทำหน้าตาเคร่งเครียด


“บอสครับ ระบบด้านบน...เสียหายหนักมาก พวกมันตั้งใจมาทำลายข้อมูลของพวกเรา” บอดี้การ์ดคนสนิทของมิสเตอรืเกรฟส์ เท่าที่เครเดนซ์จำได้ รายงานผลที่เสียหาย


ทันใด เครเดนซ์ก็โพล่งอะไรที่ตัวเองไม่คาดคิดออกไป

“ผม..ผมช่วยคุณได้!



In Your Eyes 




หลังจากนั้น เครเดนซ์ก็ถูกพาไปยังห้องใหญ่ที่เป็นใจกลางศูนย์ข้อมูลของมาคูซ่า โดนทำลายเสียหาย แต่ไม่ใช่ภายนอก แต่เป็นภายใน ซึ่งคนร้ายตั้งใจมาทำลายระบบโดยไวรัสจากบริษัทคู่แข่งลักลอบมาปล่อย มิสเตอร์เกรฟส์ล่วงรู่แต่ก็สายไป ป้องกันได้แค่การทำลายอุปกรณ์ภายนอก แต่ระบบภายในโดนเล่นงานอย่างหนัก

“เครเดนซ์ แบร์โบน สินะ” มิสเตอร์เกรฟส์ทวนชื่อเครเดนซ์เต็มยศ เจ้าของชื่อหันไปสบตา
คราวนี้ได้เห็นแววตาที่เครเดนซ์อ่านออก เขาถูกฝากความหวังไว้แล้ว

“ขอผมอยู่คนเดียว”

เครเดนซ์ในโหมดเนิร์ดไอทีโดนเปิดสวิสซ์  หลังจากนั้น เครเดนซ์ไม่พูดคุยกับใครเลย และห้องระบบใจกลางข้อมูลของมาคูซ่าก็ถูกปิดสนิท มีแค่เครเดนซ์ที่อยู่ในห้องเพียงคนเดียว ภายนอกมีการตั้งกำลังรักษาความปลอดภัยอย่างแน่นหนา และดูแลเครเดนซ์ทุกเรื่องเป็นอย่างดี แต่ดูเหมือนเครเดนซ์ไม่ต้องการเท่าไหร่ นอกจากน้ำ นมและขนมจากร้านของคุณเจคอปที่เขาเรียกร้อง

“ถึงจะพูดไปแบบนั้นก็เหอะ แต่ก็ใช่ว่าจะทำได้ง่ายๆ นะ เครเดนซ์เอ๊ย หาเรื่องตายชัด ๆ “

เครเดนซ์โอดครวญแต่เมื่อมองหน้างานแล้ว เขาคิดว่าความสามารถและพลังที่จู่ๆ ไม่รู้มันมาจากไหนก็พุ่งพรวดมา


เพื่อทำให้มิสเตอร์เกรฟส์พอใจ และไม่ทำหน้าตาเคร่งเครียด เขาอยากให้ชายหนุ่มผ่อนคลาย เครเดนซ์ทำได้

“เอาล่ะ!” เครเดนซ์หมายมั่นปั้นมือว่างานนี้ต้องสำเร็จ!
“เธอน่ะทำไม..?”เครเดนซ์นั่งทำงานให้มิสเตอร์เกรฟส์ของเขาอย่างตั้งใจ แต่จู่ๆ เขาคนนั้นก็เปิดประตูขัดคำขอของเครเดนซ์  
“ครับ ?” เครเดนซ์ในโหมดเนิร์ดไอทีได้ยินคำถามแต่มันยังไม่จบ เขางงนิดหน่อย แต่สายตายังจับจ้องที่คอมพิวเตอร์ กำลังหาทางแก้ไขของที่เสียหายไป
“มาเป็นยามที่นี่ทำไม” คำถามตรง ๆ จากมิสเตอร์เกรฟส์ของเครเดนซ์ทำเอาเขาตกใจ จนต้องละสายตาจากคอมพิวเตอร์



จากฝากความหวังเป็นความไม่ไว้ใจ เครเดนซ์ตกใจ เลิกลั่ก



“เอ่อ...”
“ตอบมา”
“ผม...”
“หรือเป็นสายจากบริษัทอื่น ------
“ไม่นะครับ!

เครเดนซ์รีบปฏิเสธทั้งที่อีกคนยังพูดไม่จบประโยคด้วยซ้ำ

“ผมเข้ามาทำงานนี้เพราะ...คุณ”
“ฉัน ?”

มิสเตอร์เกรฟส์ของเขาเลิกคิ้วมองเครเดนซ์ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป


“ผมแค่อยากเจอคุณทุกวัน...แค่นั้น”

“ไอทีเธอก็ทำได้ เธอเก่งงานไอที ฉันดูประวัติมาแล้ว ทำไมกัน ทำไมต้องมาเป็นยามหน้าตึก”


เครเดนซ์ถอนหายใจ กลั้นใจตอบ
“ก็เพราะว่าเป็นไอทีก็จะไม่เจอคุณบ่อยกว่ายามหน้าตึกไง อย่างน้อยคุณก็ต้องเข้าประตูทางนั้น! ถ้าผมเป็นพนักงานไอที ตำแหน่งเล็ก ๆ มันอ้างเหตุผลไปพบคุณไมได้ จะให้ผมไปดักรอเจอคุณหรือ ผมจะยิ่งดูน่าสงสัยมากกว่าเดิมอีก เป็นยามน่ะดี อย่างน้อยก็หาเรื่องคุยกับคุณแค่สวัสดีครับ ก็โอเคแล้ว!!
เครเดนซ์พูดเร็ว ยิงใส่คนหล่อที่นั่งตรงหน้า ทำหน้าตาแบบไม่อยากจะเชื่อ เครเดนซ์ยืนยันทั้งความเขินอายว่าเป็นแบบนั้นจริง ๆ
“คุณห้ามขำผมนะ แค่นี้ผมก็อายแทบแย่”

มิสเตอร์เกรสฟ์ไม่ได้ทำตามอย่างที่เครเดนซ์ว่า เขาขำออกมาจนทำให้หนุ่มน้อยตรงหน้าอายจนยกแลปทอปตรงหน้าปิดหน้าหนีความเขิน

“ซับซ้อนดีจัง วัยรุ่นเขาเป็นอย่างนี้กันสินะ”

มิสเตอร์เกรฟส์ฟังคำอธิบายที่จากเครเดนซ์แล้ว เหมือนว่าเขาจะดูผ่อนคลายขึ้นสีหน้าเขาดีกว่าเมื่อครู่นี้มากจากที่เมื่อครู่ครั้งที่เปิดประตูเข้ามา เหมือนจะฆ่าเขาเสียให้ได้ เขากลัวจับใจเลยล่ะ

แต่เครเดนซ์ก็ถามเพื่อความสบายใจของตนอีกที เขาหวังที่สุดว่ามิสเตอร์เกรฟส์จะเชื่อที่เขาพูด ไม่มีจุดประสงค์อะไรไปมากกว่าจะอยู่ใกล้ ๆ เพื่อมองคุณได้ชัดเจนขึ้นเท่านั้น มิสเตอร์เกรฟส์
“คุณเชื่อผม...ใช่มั้ยครับ ? มิสเตอร์เกรฟส์ คุณไว้ใจผมได้”

เครเดนซ์ลุ้น สายตาของอีกฝ่ายที่มองมายังเขา และเมื่อนั้น มิสเตอร์เกรฟส์ก็พยักหน้าให้

“สายตาเธอมันบอกฉัน ฉันเชื่อใจเธอ”

แค่คำ ๆ นั้น ก็ทำให้เครเดนซ์มีพลังในการโต้รุ่งช่วยงานสำคัญของมิสเตอร์เกรฟส์ของเขาได้แล้ว

รุ่งขึ้นของอีกวัน เครเดนซ์ช่วยแก้ไขจุดเสียหาย แม้จะไม่ทั้งหมด แต่ก็กู้ข้อมูลสำคัญของมาคูซ่ามาได้เป็นส่วนมาก ทีมผู้บริหาร ขอบคุณเขาเสียงอื้ออึง ส่วนเพอร์ซิวัล เกรสฟ์ยืนมองเขาอยู่ด้านหลัง

“ไม่เป็นไรครับ อย่างน้อยมาคูซ่าก็ดูแลผมดีมาก” เครเดนซ์บอกอย่างสุภาพกับผู้ใหญ่ตรงหน้า  ทุกคนเห็นพ้องต้องกันว่าต้องรับเด็กคนนี้มาทำงานกับมาคูซ่าในแผนกไอทีของบริษัทให้ได้

เครเดนซ์บอกว่า ขอกลับไปคิดอีกที เขากลัวเขาจะทนความกดดันจากที่ทำงานไม่ได้ ไหนจะคนมากมายที่ทำงานด้วย เขากลัว เครเดนซ์เป็นคนที่ไม่ค่อยสุงสิงกับใคร ก็ทำงานแทบจะตัวคนเดียวมาตลอด ตั้งแต่สมัยเรียน จึงได้เลือกรับงานฟรีแลนซ์และนั่งอยู่กับบ้าน และไปเสนองานเมื่อบริษัทที่จ้างต้องการ

“คือมิสเตอร์เกรฟส์ เรื่องมาทำงานที่มาคูซ่าน่ะ...”
“ทำไมหรือ?”  เครเดนซ์อธิบายเหตุผลไป อีกคนผู้เป็นเจ้านายเข้าใจความกลัวนั้น จึงอาสาช่วยแก้ไขให้

เขากระซิบบอกเครเดนซ์แบบไม่ให้ใครได้ยิน ที่ว่าจะอาสาแก้ไขให้

“หา????”
“ไม่ดีหรือไง เธอจะได้นั่งมองฉันอย่างที่เธออยากได้ทั้งวัน แต่อย่างไรเธอก็ต้องทำงานกับคนอื่นด้วยนะในบางครั้ง “
 “เอ่อ..คือ ผม”
“ไม่ต้องบอกว่ากลับไปคิด ฉันไม่ให้เธอกลับไปคิดหรอก”
ตอนนี้พวกเขาเดินแยกออกมาจากกลุ่มคน เมื่อปลีกออกมาคำถามหนึ่งถูกส่งให้เครเดนซ์

 “เครเดนซ์ แค่แอบมองมันพอหรือ สำหรับเธอ

ผมมันซับซ้อน บางทีตัวผมเองยังไม่เข้าใจตัวเองเลย แต่ที่คุณถาม ผมตอบว่า สำหรับผมแค่มองก็พอแล้วครับ”

ชายหนุ่มทรงเสน่ห์อย่างเพอร์ซิวัล เกรฟส์แปลกใจจนแสดงออกทางสีหน้า เขาทำไม่บ่อย แต่เครเดนซ์เข้าใจสถานการณ์ตรงหน้า รู้ดีว่ามิสเตอร์เกรฟส์อยากรู้มากกว่านั้น
“ผมรู้สึกดีกับการมองคนอย่างคุณที่มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างประหลาด แต่ผมกลัวว่าถ้าเข้าใกล้คุณไป ..คุณก็จะทำให้ผมกลัว...และคุณก็อาจจะไม่ใช่อย่างที่ผมคาดไว้ ก็เลยคิดว่า ระยะแค่นี้ก็กำลังดีต่อผมแล้ว”


“หวังน้อยเกินไปนะเรา และ ฉันไม่ร้ายกับคนที่รักฉันแบบนั้นหรอก ถ้าเธอไม่อะไรให้ฉันหงุดหงิด”
“นั่นไง คุณเริ่มดุแล้ว” ไม่รู้ตัวเลย แต่เครเดนซ์กำลังล้อผู้ใหญ่จนผู้เป็นเจ้านายเลิกคิ้วอีกรอบ

“เอ่อ...ขอโทษครับ”


มิสเตอร์เกรสฟ์ของเขาแค่หัวเราะไม่ว่าอะไร เครเดนซ์ที่ลุ้นว่าอีกฝ่ายจะทำอะไรมั้ย ก็โล่งใจ


“ที่ฉันบอกเธอเมื่อครู่ เริ่มพรุ่งนี้เลยแล้วกัน”


“หา ??”

“อย่าปฏิเสธ เพราะถ้าเธอเป็นอะไรไปอีกรอบฉันคงไม่ให้อภัยตัวเอง”
“หืม ?” เครเดนซ์เลิกคิว้บ้าง ครั้งนี้เขาไม่เข้าใจจริง ๆ


“สายตาแบบนั้นของเธอมันกวนใจฉันนะ เครเดนซ์ น่าเอ็นดูน้อยเสียเมื่อไหร่ มันเหมือนลูกแมวที่กลัวแต่ก็อยากเล่นด้วย เข้ามาหาฉันให้ใกล้กว่าที่เธอเป็นอยู่สิ เธอจะได้เห็นทั้งหมดของฉัน มันมีดีกว่ามากกว่าที่เธอคิดและคิดกลัว”


เมื่อมิสเตอร์เกรฟส์พูดอะไรชวนให้เครเดนซ์สงสัย เขาเข้าใกล้เครเดนซ์จนหายใจติดขัดและชายหนุ่มก็คว้ามือเรียวขาวมาจูบประทับที่หลังมือให้ไออุ่นจากริมฝีปากของชายหนุ่มถ่ายทอดไปสู่เด็กน้อย ทำเอาเครเดนซ์หน้าเห่อร้อน


“ขอบคุณที่มอบสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกรักให้ฉันนะ ฉันขอรับไว้ ทั้งหมดเลย”
“รัก ?”  ชายหนุมตรงหน้าหัวเราะเครเดน์ แค่หัวเราะเบาๆ ก็ฆ่าเขาได้แล้ว เด็กหนุ่มอุทานร้องในใจ เครเดนซ์มองชายหนุ่มที่ยังคงคว้ามือข้างหนึ่งของเขาไว้ อะไรกัน เขาหัวเราะอะไร เขาแค่งง


“เธอรักฉันแล้ว เครเดนซ์ คิดว่าเป็นแค่การชอบใครซักคนหนึ่งหรือ ? มันมากกว่านั้นแล้วล่ะ เครเดนซ์ สายตาของเธอน่ะ” 

“ผมรักคุณแล้วหรือ?”
“ไม่รู้ตัวเลยใช่มั้ย?”
“แค่ไม่มั่นใจน่ะครับ ผมไม่เคยตกหลุมรักใคร”
“เชื่อฉันได้เลยว่านี่คือความรักของเธอ และหากเธอบอกว่าเธอยังไม่เคยตกหลุมรักใคร ฉันในตอนนี้ก็ได้กลายเป็นรักแรกของเธอแล้ว “

เครเดนซ์อึ้งไป กับการสรุปเรื่องราวความรู้สึกของตัวเองจากปากอีกคน ก็คือคนที่เขาคิดว่าเขากำลังตกหลุมรัก

ก็ในตอนแรกคิดว่าแค่อยากมอง อยากเจอทุกวัน ไม่มั่นใจด้วยซ้ำว่าความรักมันเป็นยังไง ในเมื่อเขาไม่เคยรักใคร แถมเป็นไอ้เนิร์ดบ้าคอม ไม่สนใจโลก นอกจากน้องสาวตัวเองที่ต้องดูแล โมเดสตี้มองเขาออกไหมนะเวลาเขาเพ้อเวลาเผลอ ๆ

“เอ่อ...”

“ฉันอนุญาตให้เธอรักฉันต่อได้ “
“อา...ครับ “


เครเดนซ์อยู่ในโหมดตื่นเต้นสุดชีวิตเปิดปุ่มหมุนสุดขีดเต็มแมกซ์ หน้าเขาคงแดงมากจนมิสเตอร์เกรฟส์สังเกตได้แน่ ๆ
“และความน่าเอ็นดูของเธอ คงทำให้ฉันตกหลุมรัก ”
เครเดนซ์ยิ้ม อย่างน้อยในวัน วันหนึ่งเขาคงมีโอกาสหากไม่มีใครขโมยหัวใจมิสเตอร์เกรฟส์ไปเสียก่อน เขาคงมีโอกาสได้มา

“ผมมีโอกาสหรือ ?”


อีกฝ่ายพยักหน้าและยิ้มให้ อย่างที่เครเดนซ์ไม่เคยเห็นจนทำให้เครเดนซ์ต้องยิ้มตามไปด้วย


“โอกาสนั้นเธอได้มันไปแล้วนะ เครเดนซ์”
“อะไรนะครับ?”

อึ้งกับประโยคนี้แล้ว เครเดนซ์ยังต้องอึ้งรอบสองกับประโยคต่อมา และพร้อมด้วยสีหน้าและแววตาของมิสเตอร์เกรฟส์ที่เปลี่ยนไป

 “รีบกลับเถอะ ก่อนที่เธอจะถูกฉันขย้ำ”
“ห๊ะ??”

พูดจบมิสเตอร์เกรฟส์ก็ส่งเขาเข้ารถที่เป็นรถที่เตรียมไว้เพื่อไปส่งเครเดน์ แต่ก่อนนั้น เขาสบตาอีกฝ่ายได้ทัน แววตาช่าง...เครเดนซ์จะอธิบายอย่างไรดี เอาเป็นว่าเขาเคยดูละครอีโรติคเรื่องหนึ่ง มันเป็นแววตาที่พระเอกใช้กับนางเอกเมื่อเวลากำลังจะทำอะไรบางอย่างที่ร้อนแรงด้วยกัน  เครเดนซ์จึงหลบตาไป แล้วไหนจะประโยคสุดท้ายก่อนหน้านั้น


เครเดนซ์กำลังวางอารมณ์ไม่ถูก แม้สายตานั่นจากมิสเตอร์เกรฟส์จะร้อนแรงมากก็ตาม แต่ก็เห็นเพียงแค่ครู่เดียว
มือราวขาวยกปิดหน้า ร้อนไปหมด ทั้งตัวเลย สายตานั้นแค่ครู่เดียวก็เถอะ ก็ดันปลุกสัญชาติญาณดิบในตัวเครเดนซ์ที่ไม่เคยคิดถึงมันเลย ภาพอีโรติคอย่างในละคร แต่ถูกแทนที่ด้วยมิสเตอร์เกรฟส์และเขาเองกำลังเวียนในอยู่หัว จินตนาการอะไรจะมากมายขนาดนั้น เครเดนซ์ หยุดนะ!


“โอ่ย เขินชะมัด”







พาร์ท - มิสเตอร์เกรฟส์



“สวัสดีครับ มิสเตอร์เกรฟส์”

เขารู้ว่าเด็กคนนี้เป็นใคร

ข้อมูลมาจากหัวหน้าพนักงานของบริษัท หลังจากที่พนักงานคนนี้ถูกทำร้ายเพอร์ซิวัลก็สอบถามประวัติเด็กหนุ่ม เธอเองก็ยังสงสัยว่าเด็กคนนี้ทำไมถึงไม่ยอมสมัครตำแหน่งงานไอที แต่เจ้าตัวบ่ายเบี่ยงไม่ตอบ

เขาไม่รู้หรอกว่าเด็กนี่มาเป็นยามหน้าตึกทำไม แต่เขาจำได้ว่าจากที่ดูประวัติแล้วนั้น

เครเดนซ์ แบร์โบน  เด็กที่ชนะได้เหรียญทองจากการแข่งขันไอทีในระดับประเทศ ฟิสิกส์เหรียญทอง

ทำไมกันนะ ? ความสามารถแบบนี้ทำไมถึงต้องเป็นยาม

เขายังรู้ด้วยนะ ว่าที่ร้านของมิสเตอร์เจคอปที่ตั้งอยู่ตรงหน้าบริษัทน่ะ เขาก็ถูกสายตาคู่นี้จ้องมองอยู่ เขาก็นั่งให้มอง แต่นานเข้า เด็กคนนี้ก็ได้แค่มองเขาไม่ทำอะไรเลย และเมื่อเขากลับมาคิดให้ดี จากที่จำได้ เด็กคนนี้ไม่เคยมองเขาด้วยสายตามุ่งร้ายอะไร ถ้ามี เขาที่เป็นมาเฟียเก่าก็ต้องรู้ในเร็ววันแน่  ๆ แต่เขาไม่รู้สึกถึงอันตรายอะไรเลยนอกจากความน่าเอ็นดู

พอมาอีกวัน เขากลับพบเด็กคนนี้หน้าตึก ชุดยูนิฟอร์มพนักงานชื่อทำให้เขารู้ชื่อของเด็กคนนี้ และเด็กคนนี้ก็ทักทายเขาทุกวัน สวัสดีครับ ราตรีสวัสดิ์ครับด้วยความกระตือรือร้น ทำอย่างนี้ทุกวัน เขาแปลกใจที่เด็กคนนี้ไม่ก้าวออกมาและทำอย่างที่คนอื่น ๆ ที่อยากทอดสะพานให้เขาทำ แต่อยู่ในจุดที่สามารถมองเขาได้อย่างสบายใจโดยไม่ให้สายตานั้นมากวนใจเขา เพอร์ซิวัลลองเล่นกับใจเด็กคนนี้ ลองไปทักก่อนหลังจากวันที่เครเดนซ์ถูกทำร้าย แต่เด็กคนนั้นก็อ้ำอึ้ง พูดไม่เก่ง ไม่ใช่พวกที่จะทอดสะพานหรือเข้าหาเข้าเลยแม้แต่น้อยแม้ว่าเขาจะเข้าไปหาก่อนถึงที่ แต่วันนั้นเขาเป็นห่วงเด็กคนนี้จริง ๆ น่ะล่ะ เพราะเป็นเด็กใหม่ แล้วยังมาพบอะไรที่น่ากลัว เขาดูเย็นชาแต่ใส่ใจกับพนักงานทุกคนในมาคูซ่าไม่เว้นตำแหน่งเล็ก ๆ ที่ห่างไกลจากเขาอย่าง รปภ.หรอก  

วันนั้นเองที่มีการโจมตีครั้งใหญ่ ยังดีที่เด็กคนนั้นยังปลอดภัย เขาเองก็ใจหายใจคว่ำ



เป็นห่วงเจ้าของสายตาเอ็นดูคู่นั้น



ก็นะ..น้ำหยดลงหินทุกวันก็ยังกร่อน นับประสาอะไรกับหัวใจคน เจอสายตาแบบนี้มองเข้าทุกวัน ความแปลกใจเพิ่ม   สนใจขึ้นเรื่อย ๆ อยากถามจริง ๆ ว่าแค่มองก็พอหรือ ? ไม่คิดจะทำให้อะไรให้ความรักของตัวเองก้าวหน้าหรือ แต่เด็กคนนี้ก็ยังทำเพียงแค่ สวัสดีครับ และ ราตรีสวัสดิ์ อย่างเดิม

กวนใจเพอร์ซิวัล เกรฟส์คนนี้มากจริง ๆ

และก็กลายเป็นเขาเสียเองที่หยุดคิดถึงสายตาที่น่าเอ็นดูนี้ไมได้

สายตาและความรู้สึกของเธอมันกวนใจฉันมากมายเหลือเกิน เพอร์ซิวัลคิด เขาเก็บความสงสัยมาจนถึงตอนนี้  รอว่าเมื่อไหร่ที่เด็กคนนี้จะทำอะไรมากกว่าแค่การมอง เพราะส่วนตัวเขาไม่ชอบไปยุ่งกับใครก่อนอยู่แล้ว

เป็นเพอร์ซิวัลที่หัวเสียและคิดเอาเองไปเรื่อย ว่าทำไมกัน
และ

หลังจากที่เด็กน้อยได้ช่วยให้บริษัทพ้นวิกฤตด้วยความสามารถอันน่าทึ่ง เขาก็ยิ่งซาบซึ้งใจต่อเด็กคนนี้ แม้เขาจะปฏิเสธไม่ได้ว่าสายตาที่เด็กคนนี้มองเขาอยู่ทุกวันจะทำให้เขาคิดเป็นอย่างอื่นมากกว่าเด็กคนนี้จะร้ายกาจถึงขั้นเป็นสายลับให้คู่แข่ง
จำได้ที่คุยกันในนั้น ในห้องศูนย์ข้อมูล แค่เพียงเขาพูดว่า เชื่อใจ  เด็กคนนั้นก็เปลี่ยนแววตาเป็นมุ่งมั่น และงานก็ออกมาดีดังคาด เขามีผลต่อเครเดนซ์มากจริง ๆ



นั่นเจ้าตัว คงจะรู้สินะ ว่าตัวเองตกหลุมรักเขาคนนี้เสียแล้วแต่ทำไมกันล่ะถึงไม่ยอมเข้าใกล้มากกว่านี้


และเมื่อสบโอกาส ก็เลยถาม

“ผมรู้สึกดีกับการมองคนอย่างคุณที่มีเสน่ห์ดึงดูดอย่างประหลาด แต่ผมกลัวว่าถ้าเข้าใกล้คุณไป ..คุณก็จะทำให้ผมกลัว...และคุณก็อาจจะไม่ใช่อย่างที่ผมคาดไว้ ก็เลยคิดว่า ระยะแค่นี้ก็กำลังดีต่อผมแล้ว”

คำตอบน่ารักน่าชังนั่นทำเขารู้สึกประหลาดในใจ  เขาอธิบายไม่ถูกแต่ชอบความรู้สึกนี้มากทีเดียว


เพอร์ซิวัลอยากมอบรางวัลตอบแทนความสายตาที่แสนน่าเอ็นดูจากเด็กคนนี้และจะสอนชีวิตการทำงานให้ด้วย จะเลี่ยงผู้คนเป็นเนิร์ด  ทำงานฟรีแลนซ์ตลอดไปไม่ได้หรอก  โดยการให้มาเป็นเจ้าหน้าทีไอที ประจำตัว ของเขาเลย ให้มานั่งในห้องทำงานของเขาเอง ให้มองเท่าที่อยากมอง จนหนำใจไปเลย แต่เด็กคนนั้นตกใจแทบแย่จนทำอะไรไม่ถูก เมื่อยื่นเงื่อนไขนี้ให้  
และยิ่งเมื่อเขาบอกว่าอนุญาตให้รักต่อไปได้ ก็ยิ่งตื่นเต้นใหญ่ และเพอร์ซิวัลเองก็ได้ให้โอกาสตัวเองด้วย โอกาสที่จะตกหลุมรักเด็กคนนี้

แต่เด็กคนนี้ร้ายนักเชียว ไม่ให้เวลาเขาเลย!  พอบอกแบบนั้น  ก็ดันทำตัวน่ารักมากจนปลุกบางอย่างในตัวเขาขึ้นมา


ฮึ

เด็กนั่นจะรู้มั้ยว่าท่าทีแบบนั้นมันปล่อยความน่ารักพร่ำเพรื่อจากเจ้าตัวโดยที่ไม่รู้ตัว อยากจะถามเครเดนซ์คืนไปว่า ตัวเขาเองรู้มั้ยว่า ว่าตัวเองเป็นคนที่น่ารังแกมาเพียงใด 


ไอ้บางอย่างนั่นก็คือสัญชาตญาณดิบของชายหนุ่ม


หมั่นเขี้ยวเหลือเกิน อยากกัดให้จมเขี้ยวเสียจริง เพอร์ซิวัลคิด ณ ขณะนั้น  และเขาก็ดันหลุดพูดแบบนั้นให้เด็กกลัวจนเลี่ยงสายตาหนีทั้งที่ชอบมองเขา เด็กคนนั้นรู้ว่าเขาคิดอะไรบางอย่าง เพอร์ซิวัลจึงรีบส่งเด็กหนุ่มเข้ารถไป ให้พนักงานของเขาขับไปส่ง  เขาไม่กล้าสู้หน้าเด็กคนนั้นได้มากกว่านี้  เพราะไม่เช่นนั้น เขาคงจับเด็กนั่นปล้ำจูบให้หนำใจอย่างที่อยาก ความน่าเอ็นดูของเด็กคนนั้น ท่าทีแบบนั้น มันมากเกินไปแล้ว มันสามารถปลุกสัญชาติญาณดิบในตัวชายหนุ่มแบบเขาได้อย่างกับเปิดสวิสต์แบบนี้อันตรายมาก  อยู่นานกว่านี้เครเดนซ์คงโดนเขาขย้ำจนระทวยคามือ





end In Your Eyes

3 ความคิดเห็น:

  1. แอร๊ยยยยย น่ารักมากเลยค่ะ เขินแทนนุ้งเคร งืออออ �� คุณอาจะโซฮอตโซพอร์นขนาดนี้ไม่ได้นะคะ เห็นใจติ่งและนุ้งเครด้วย จะละลายแล้ว �� นุ้งก็น่ารักน่าเอ็นดูเหลือเกิน อยากแปลงร่างเป็นคุณอาไปขย้ำน้อง(?) ��

    ตอบลบ
  2. ;-------;

    //ฟืดดดดดดดดดดดด *สูดกาว*
    ชอบจังเลยค่ะ เครเดนซ์นิสัยแบบเราเป๊ะ ชอบแอบมอง แต่ไม่กล้าเข้าใกล้มากกว่านั้นอ่ะ ผิดแต่เราไม่น่ารักเท่าน้องแค่นั้นเอง 555555 เขินนนนนนนน

    ตอบลบ
  3. อ่านจบแล้วต้องยิ้มมมมม เราชอบที่เครเดนซ์ทำทุกย่างกระทั่งเป็นยาม ทุ่มเทมากลูกเอ๊ยยยย แต่ก็ชนะใจคุณเกรฟใช่มั๊ยล่ะ คุณเกรฟเองก็หลงเด็กนี่นาาา อ่านแล้วไม่ทนนนนน่ารักมากๆ ชอบฟิคแบบนี้จังค่ะ

    ตอบลบ