TITLE : beauty smile and hidden Beast
CHAPTER : 1
PAIRING : COLIN FARRELL x EZRA MILLER
RATE : PG (แค่ตอนนี้ก่อน 55)
RATE : PG (แค่ตอนนี้ก่อน 55)
*******************************************************************************
เด็กคนนั้น ทำไมถึงมีกลิ่นเย้ายวนข้าได้ขนาดนี้
คอลินเอ่ยในใจกับตัวเองด้วยสรรพนามแทนตัวโบราณ
เขาอยู่มาเนิ่นนานหลายศตวรรษ เป็นผู้แข็งแกร่งท่ามกลางเผ่าพันธุ์ของตน
และมีแค่ไม่กี่ตนที่จะอยู่ยงเหมือนเช่นเขา
เผ่าพันธุ์แวมไพร์ที่ใกล้ที่สูญสิ้น
แน่ล่ะ เขามาได้แยแสอะไรหรอกที่ไอ้เจ้าแวมไพร์สตนอื่น ๆ จะบอกว่า
จะทำให้เผ่าพันธุ์ของตนเป็นใหญ่ ครองโลกอะไรทำนองนั้น
แต่กับแสงแดดก็สู้ไม่ได้
แต่เขาสู้แสงแดดได้ ด้วยความแก่กล้าในพลังและวิชาของตน แต่ได้แค่ข้ามวัน
หากตะวันฉายขึ้นมาใหม่ เขาเองก็ออกจะล้าเหมือนกัน
ขนาดเขา เขาที่เป็นถึงแวมไพร์เผ่าพันธุ์เก่าแก่
ที่แกร่งที่สุดในบรรดาพันธุ์ไหนทั้งหมด ก็ยังเป็นเช่นนี้
เจาพวกตนไหนอื่นเลยจะสู้มนุษย์ เรามีน้อยกว่าพวกนั้นเป็นไหน ๆ
แวมไพร์หนุ่มใหญ่มองเด็กร่าเริงที่วิ่งเล่นอยู่กับครอบครัวหน้าบ้านของตน
อืม ? เด็กผู้หญิงงั้นหรือ ก็อาจจะใช่แต่งตัวเหมือนเช่นเด็กผู้ชาย ช่างตรงนั้นก่อน
ที่เขาสงสัยคือ หนึ่ง กลิ่นหอมเย้ายวนจากเด็กคนนี้ สอง
ทำไมเขาจึงมาสนใจกลิ่นเย้ายวนนี้
คอลินย้ายเมืองมาหลากหลายเมือง เปลี่ยนที่อยู่ไปตามใจต้องการ
เขาอยู่มาในหลายศตวรรษเห็นการเปลี่ยนแปลงของมวลมนุษย์ที่พัฒนาตัวเอง
แต่ก็จมมืดอยู่กับความแก่งแย่ง เอาตัวรอดบนโลกใบนี้ เขาไม่มีความสัมพันธ์ใด ๆ
กับมนุษย์ นอกจากเพียงเปลือกนอกที่จำต้องสนทนากับพวกนั้น
เพื่อให้ได้มาซึ่งสิ่งที่ต้องการ คือ เลือดของพวกนั้น
หนึ่งคน แวมไพร์อย่างคอลินสามารถมีชีวิตอยู่ได้เกือบหนึ่งอาทิตย์
หากเขาไม่ต้องไปสู้รบกับแวมไพร์หรือใครที่ไหน เมื่อก่อนที่ยังมีสงคราม เขาต้องสู้
ทำให้วัน ๆ หนึ่งต้องฆ่ามนุษย์ดูดเลือดไปเป็นอาหารมากกว่าหนึ่งคน
เมื่อก่อนมีแวมไพร์มาก สัดส่วนเทียบเท่ามนุษย์กันเลยทีเดียว แต่เพราะเราโดนล่า
ไหนจะฆ่ากันเองเพื่อแย่งอาหารและความเป็นใหญ่ นั่นบ้าบอสิ้นดี
พวกแวมไพร์ที่รอดมาได้ก็ถือว่าดีแล้ว อยู่อย่างเงียบ ๆไปก็สงบดี
มนุษย์ที่อยู่บนดินพวกนั้นพัฒนาตน แม้แวมไพร์จะมีพลังและวิชาศาสตร์มนต์ดำเสริมแล้ว
ก็ยังสู้มนุษย์ที่พัฒนาและมีมากกว่าไม่ได้อยู่ดี พวกนั้นพอกลัวเข้าก็ปลุกระดม
กวาดล้าง จนพวกแวมไพร์แทบไม่เหลือ
จากที่อยู่ได้แต่ถ้ามนุษย์รู้ว่าเรามีอยู่ก็โดนล่าจนหมดสิ้น
ก็เหมือนพวกแม่มดที่โดนล่าอย่างไรอย่างนั้น
และอีกอย่างที่ทำให้แวมไพร์อ่อนแอ ก็อย่างที่ใครหลายคนรู้กัน
ซึ่งมันเป็นเรื่องจริง แสงแดด ต่อให้เราแกร่งแค่ไหน แวมไพร์ก็ไม่สามารถสู้แสงแดดได้
ทนได้ก็แค่ไม่นาน ก็จะโดนแผดเผาไป หากยิ่งเข้าใกล้
คอลินกลับมาที่เหตุการณ์ปัจจุบันตรงหน้า จากที่ความคิดลอยไปไกล
เขาย้ายมาอยู่แถบชานเมืองใหญ่ได้พักหนึ่ง มีครอบครัวใหม่ย้ายเข้ามา
เด็กคนนี้ทำให้เขาต้องหันหลังกลับมาเพื่อพินิจอะไรที่ค้างคาใจบางอย่าง
แค่ไม่กี่ขวบปี กลิ่นนี้มันอะไร
นานมาแล้ว มนุษย์ก็น่าแปลกแม้ไม่กี่คน
จะมีกลิ่นที่ผิดแปลกไปจากมนุษย์คนอื่น ๆ
โดยกลิ่นนี้ดึงดูดความมืดมิดและความน่ากลัวเข้าสู่ตน
กลิ่นหอมเย้ายวนนั้นมีผลกับมนุษย์โดยทำให้เป็นที่รักใคร่ของผู้อื่นอย่างง่ายดาย
แต่กับพวกที่อยู่ในความมืดมิดอย่าง ผี ปีศาจ ซาตาน และแวมไพร์อย่างพวกเขา
มันเย้ายวนชวนให้เป็นเหยื่อโอชะของพวกเราจริง ๆ
ลองได้ชิมแล้วพลังจากที่ไม่มีก็จะกลับมาเป็นจอมพลัง
จากที่เป็นจองพลังก็จะเป็นยิ่งกว่านั้น มนุษย์พวกนี้มีน้อยแต่ก็มีคนอยากได้
จนล่าตั้งไปค่าหัว แต่ก็ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆ ต้องมีพลังมากหน่อย
ถึงจะมีเซนส์ที่ดีหาจนเจอ กินพวกนี้ไป อยุ่ได้เป็นปี ๆ
ซึ่งเขาเจอเด็กคนนี้
แต่น่าแปลกจริง ๆ ที่เขากลับไม่กางกรงเล็บปีศาจลงมือฆ่าเสียทันที
ในเมื่อเด็กคนนี้อยู่ตรงหน้าคอลินแล้ว
“ว่าไง ไอ้หนู”
คอลินที่เดินทางกลับจากร้านสะดวกซื้อ
เขาก็ทำตัวเป็นมนุษย์แฝงตัวให้อยู่ในโลกของพวกที่มากกว่าอย่างสงบ
แต่จะไม่สงบ็เพราะไอ้เด็กนี่ล่ะ
ยิ่งเข้าใกล้ ยิ่งหอมเย้ายวนใจจริง ๆ
“คุณอาฮะ อันนี้มันมีของแถมเป็นของเล่นให้ผมนะ”
“เอซร่า!”
เด็กน้อยเอ่ยออกมาอย่างใสบริสุทธิ์จนเขาหลุดขำออกมา
แต่หากไม่นานก็มีพี่สาวของเด็กน้อยมาขอโทษขอโพยแล้วอุ้มเด็กน้อยออกไป
แต่เขาก็ให้ของเล่นที่แถมมากับขนม คอลินก็ไม่ทันสังเกต
เขาชอบเจ้าขนมนี่โดยได้รับการแนะนำจากเด็กน้อยในร้านสะดวกซื้อว่ามันอร่อยจึงซื้อมา
และเจ้าเด็กตัวหอมคนนี้ก็ดันเห็นแล้วมาขอ
หลังจากให้เด็กคนนั้นไล่หลังไป ..อืม.. มองชัด ๆ
แล้วเป็นเด็กผู้ชายอย่างที่คาด แต่หน้าตาหวานหยดเป็นในแบบสาวน้อย ตากลมโดสดใสสุกสกาว
และรอยยิ้มที่น่าประทับเมื่อออดอ้อนขอสิ่งที่อยากได้ ยิ้มนั้นช่างอันตรายยิ่งกว่าแสงแดดแผดจ้า
มุมหนึ่งของหัวใจที่เย็นชาแบบแวมไพร์ของคอลินได้ถูกรอยยิ้มนั้นแผดเผาไปแล้ว
แม้แค่เพียงนิด
ไว้เจอกันใหม่เด็กน้อย ....สายตาของคอลินมองตามเด็กคนนั้นที่ถูกครอบครัวอุ้มกลับไป
ยังมีหันมาโบกมือให้เขา ตะโกนขอบคุณกลับมา เขายิ้มระบายตอบเด็กไป เด็กคนนั้น อา.. เอซร่าสินะ
ยิ้มร่าเริงให้เขาใหญ่ คอลินสูดจมูกตามกลิ่นเด็กน้อยครั้งหนึ่ง
หอมหวานจนอยากชิมซะเดี๋ยวนี้ แต่นั่นล่ะ เขาทำไมได้
เพราะอะไรนั้น ก็ตอบได้แค่ว่า รอยยิ้มของเด็กคนนั้นทำให้เขาเสียศูนย์เลยทีเดียว
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น