วันศุกร์ที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2559

[Fic] THISMAN :: HiddeN - CHAPTER : TRUTH





TITLE :  THISMAN :: HiddeN
CHAPTER : TRUTH
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG - 13




ps. ยังไงก็ต้องมีดิสแมนตอนพิเศาเนอะ โมเม้นท์มาขนาดนี้เเล้ว บันไซ หยางเฟิง ไชโย ๆๆๆๆๆๆ




***********************************************************************************






“พี่ครับ..ผมขอเวลาซักครู่”







หยางหยางได้ยินเสียงอีกฝั่งผ้าม่านดำกั้น เสียงหวานที่ไม่เคยลืมนั้นเป็นของเทพบุตรน้อยของเขา หลี่อี้เฟิง ที่วันนี้เป็นความปรารถนาของช่องผู้มีพระคุณที่จัดห้องพักให้เขากับอี้เฟิงเพียงแค่ผ้าม่านกั้น อย่างน้อยก็ใกล้กันมากที่สุดเท่าที่ทำได้แล้ว แม้จะยังมีอะไรขวางกั้นอยู่








จนเมื่อรุ่นน้องรูปหล่อได้ยินเสียงฝีเท้าของอีกคนเดินเข้ามาใกล้ ๆ ผ้าม่าน หยางหยางยืนรออี้เฟิงอยู่ก่อนแล้ว แต่ก็ยืนอยู่หลังผ้าม่านดำในฝั่งของหยางหยางเอง รอ..เผื่อจะมีโอกาสซักครั้งบ้าง แม้บางทีเทพบุตรของเขาตั้งใจที่จะปฏิเสธการให้โอกาสหยางหยางคนนี้หลายครั้ง







แต่เขาจะมาท้อได้อย่างไร  และในที่สุดการรอคอยของเขาก็มีค่าและเป็นผล








“อี้เฟิง”
“อือ”





เสียงทุ้มชัดเจนส่งผ่านไปยังอีกฝั่งผ้าม่านดำ ส่วนพื้นที่ของอี้เฟิง ตอนนี้ผู้จัดการและทีมงานของทั้งสองฝ่าย เข้าใจกันดีว่าว่าควรให้เวลาส่วนตัวพวกเขาซักหน่อย ที่จริงแล้วทั้งสองคนก็น่าสงสารที่ทำอะไรไม่ได้เลย ตอนนี้ก็ถือว่าเป็นของขวัญปีใหม่ให้พวกเขา ได้พูดคุยกันได้ยินเสียงกันชัด ๆ ใบหน้าที่เลือนรางหลังผ้าม่านแต่ก็ยังได้สบตากันบ้าง





“คุณ..กินข้าวครบทุกมื้อมั้ย”
“เรื่องแบบนี้ฉันไม่พลาดอยู่แล้วหน่า”






คำถามแปลก ๆ ถูกส่งมาหาอี้เฟิง เขายิ้มกลบความรู้สึกบางอย่างในใจ และยังก้มหน้างุดไม่กล้าสบตาอีกฝ่ายที่จ้องมองเขาอยู่ก่อนหน้านี้นานแล้ว หลังผ้าม่านกั้นห้องสีดำนี้ มันบางเสียจนมองเห็นใบหน้าอันเลือนรางของอีกฝ่ายได้ไม่ถนัดตาแต่รู้ว่าเขาแสดงอารมณ์เช่นใด








หยางหยางเศร้าเหลือเกิน









อี้เฟิงกำหมัดแน่นแต่รวบผ้าม่านสีดำเข้าหมัดไปด้วย เหมือนแค้นมันมาจากไหน หยางหยางจึงเอื้อมมือมาช้า ๆ รวบและกอบกุมมืออี้เฟิงผ่านผ้าม่านด้านตัวเองอีกที ดูเป็นการสัมผัสกันที่น่าเศร้า แม้อยากกุมมือกันก็ต้องมีอะไรขวางกั้น








“นายอย่าตีสีหน้าแบบนั้น เรากำลังจะขึ้นแสดงกันอยู่แล้ว”
“ผมคิดถึงคุณ คุณรู้ใช่มั้ย”






อี้เฟิงกำหมัดแน่นขึ้นแล้วเอาอีกมือหนึ่งยกตีหน้าหยางหยางที่กุมมือเขาไว้ เชิงให้ปล่อยได้แล้ว และตอบเขาไปพร้อมทั้งเงยหน้ามามองกันและกันเสียที







“นายรู้ใจฉันที่สุดอยู่แล้ว”
“ขอบคุณครับ”






ไม่รุ้หยางหยางจะขอบคุณเขาเรื่องอะไร แต่น้ำเสียงทุ้มนุ่มที่อี้เฟิงหลงใหลกลับเศร้าเสียจนอยากหลั่งน้ำตาให้ แต่จะมาร้องไห้ก่อนทำงานคงไม่ดี แต่เศร้าไหม เขาตอบได้เพียงว่า





“หยางหยาง ยิ้มให้ดูหน่อยนะ”







มือข้างที่ยกตีมือหยางหยางเมื่อซักครู่ถูกส่งแรงยกสูงให้ถึงระดับใบหน้าหล่อเหลา อี้เฟิงสบตากับอีกฝ่ายได้ ผ้าม่านดำนี่ บางเหลือเกินแต่ก็ยังขวางกั้นสองเรา และเราไม่กล้ายกมันให้พ้นทาง ทั้งสองคนกลัวว่า ยิ่งเข้าหากันมากขึ้น เราก็จะสูญเสียอีกคนไป
มือเรียวสวยของเทพบุตรคู่นั้น แตะต้องใบหน้าหล่อเหลาได้ผ่านผ้าม่านกั้นสีดำนี้ นิ้วเรียวลากไล้ไปตามแก้ม ไปพร้อมกับยิ้มน่ารักที่เผยกว้างขึ้นทีละน้อย เหมือนช่วยลุ้นให้อีกคนยิ้มตามกันไป








และหยางหยางก็เชื่อฟังเทพบุตรของเขาสุดหัวใจ








“ครับ”







เสียงทุ้มตอบรับและยิ้มออกมาจนได้ นั่นทำให้อี้เฟิงพอใจ ใบหล่อหล่อไร้ที่ติเช่นนี้เหมาะกับรอยยิ้มมากกว่าจะตีสีหน้าเศร้าเป็นไหน ๆ  เทพบุตรน้อยพอใจแล้วก็ละมือออกจากใบหน้ารูปสลักนั้น  แต่ยังไม่เดินออกจากจุดเดิมหลังผ้าม่านกั้นตรงหน้าเขา ที่มีหยางหยางยืนอยู่อีกฝั่ง






“ผมรักคุณเหลือเกินอี้เฟิง”
“รู้อยู่แก่ใจแล้ว”






อี้เฟิงได้ยินคำนี้ซ้ำ ๆ จากหยางหยางเป็นรอบที่เท่าไหร่ เขารู้เรื่องนี้ดีที่สุด เขาถึงได้มายืนตรงหน้าหยางหยาง และพยายามเท่าที่ทำได้ ให้เราได้สัมผัสกันจะทางไหน ใกล้ที่สุดเท่าที่เราทำได้ เพื่อความสัมพันธ์อันรวดร้าวใจที่แสนหวานของเรานี้ หยางหยางรักอี้เฟิงมากแค่ไหนต่างรู้กัน อี้เฟิงเริ่มรักหยางหยางแล้วก็รู้ดี









ยืนนิ่งกันอยู่ซักพัก หยางหยางก้มหน้าลงมองพื้นไปครู่ใหญ่ เขาข่มใจไม่ให้คว้าอีกคนมากอดให้ได้ เพราะว่าถ้าหากทำ เขาจะกอดอีกฝ่ายไม่ปล่อยให้ห่างไป ก็ห้ามใจเสียตั้งแต่เริ่ม ปัญหาจะได้ไม่เกิด









“หยางหยาง”
“ครับ”
“ฉันมีของขวัญปีใหม่ให้นาย”








ใบหน้ารูปหล่อเงยขึ้นมาสบตาคุณเทพบุตรลอดผ่านผ้าม่านอีกครั้ง อีกฝ่ายสูดลมหายใจเข้าออกและหลับตาเหมือนพยายามจะตั้งใจทำอะไรซักอย่าง








“ขยับเข้ามาอีกซักนิด”





เสียงหวานบอกเช่นนั้น หยางหยางขยับเพียงปลายเท้าเข้าไปให้ชิดกว่าเดิมไม่เท่าไหร่ เขาก็ได้ยิน











“ฉันรักนาย”











จบสิ้นคำนั้น ผู้จัดการของอี้เฟิงก็ตะโกนมาจากหน้าประตูห้องว่าต้องไปเตรียมพร้อมสำหรับการแสดงแล้ว เมื่อต่างคนต่างเงยหน้ามาสบตากันอีกครั้ง ถือว่าเป็นครั้งสุดท้ายก่อนจากกันตรงนี้  แววตาหม่านเล้กน้อยจากตากลมโตสดใสของอี้เฟิงถูกส่งมาหาหยางหยาง










“ไม่ได้บอกเพราะสงสารนายนะ นั่นเป็นความจริงที่อยากจะบอกนาย..จริง ๆ นายเชื่อฉันมั้ย"อี้เฟิงส่งน้ำหนักหนักแน่นมาให้หยางหยางชุ่มชื้นหัวใจ ใบหน้าดูเหมือนจะเป็นเช่นนั้นจริง ๆ 






แต่







หยางหยางเพียงแค่ยิ้มให้เทพบุตรตัวน้อยของเขาไป









เอาไปเลย ทั้งร่างกายและหัวใจ ซาตานผู้นี้พร้อมเป็นทาสคุณแล้ว













อี้เฟิงขมวดคิ้วเพราะหยางหยางไม่ให้คำตอบในคำถามที่เขาตั้งไป จนจำต้องเดินออกจากหลังผ้าม่านดำ คนน่ารักมองแบบคาดโทษเอาไว้ หยางหยางคิดว่าคงโดนเอาคืนทีหลังทางไหนซักทาง









เขาเพียงดีใจจนล้นออกมา ความรู้สึกตื้นต้นที่เก็บไม่อยู่
กลัวจะร้องไห้โชว์คุณเทพบุตรไปต่างหาก





ใบหน้านี้จึงปล่อยอารมณ์ความรู้สึกออกมา ภายหลังที่เทพบุตรน้อยอี้เฟิงออกจากห้องพักไปเพื่อเตรียมตัวทำงาน หยางหยางก้มหน้าลงจนคางแทบชิดหน้าอก มือใหญ่กุมตรงหน้าผาก เหมือนกำลังปรับระดับอารมณ์อย่างใหญ่หลวง









ประมวลผลได้ แล้วเมื่อความคิดเข้าที่ เขายิ้มน้อยๆออกมาและพูดเบา ๆกับตัวเองแต่นั่นก็คือการให้คำตอบกับอี้เฟิง แม้เจ้าตัวไมได้ยินกับหูและไม่เห็นรอยยิ้มของซาตานผู้มีความสุขเป็นล้นพันคนนี้










“ผมเชื่อคุณหมดหัวใจ หลี่อี้เฟิง”









----------------END THISMAN :: HiddeN - CHAPTER : TRUTH-----------------






ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น