วันเสาร์ที่ 16 มกราคม พ.ศ. 2559

PROJECT SWEET :: [SF] SWEET WORD - หยางเฟิง














“อี้เฟิง ... คุณ”








น้ำเสียงทุ้มหล่อออกอาการตกใจเมื่อเรียกชื่อ ชายหนุ่มคนนั้นเปิดประตูออกมารับเสียงเคาะประตูยามราตรี หลังเขาเลิกงานซึ่งไม่ควรจะมีใครคนไหนมาทักทายเขาในยามนี้อีกแล้ว เพราะชายหนุ่มรูปหล่อเพิ่งละจากการพูดคุยกับคนสนิทที่ทำงานด้วย เมื่อพูดคุยในงานของเช้าวันต่อไปจนเข้าใจ พวกเขากลับไปครู่ใหญ่และเสียงเคาะประตูก็ดังขึ้น






“เอ่อ...หยางหยาง”








แม้จะรู้ว่าอีกคนคงจะอยากพักผ่อน เขาเองก็เหมือนกันล่ะหน่า ไม่ใช่ไม่อยากพักให้หายเหนื่อย แต่เพราะมีเรื่องคาใจอยู่ และบวกกับความรู้สึกบางอย่างที่อี้เฟิงไม่อยากอธิบายและไม่อยากยอมรับเลย ซึ่งมันอยู่ในใจลึก ๆ





“คุณคิดถึงผมหรือ”
“ไม่.. เอ่อ..ไม่”
“แต่คุณก็มาตรงนี้แล้ว..”








หยางหยางคาคำพูดไว้แค่นั้นและรวบตัวดึงอี้เฟิงเข้าไปกอดไว้กับอก และปิดประตูห้องก่อนที่จะมีใครมาเห็นเสียก่อน เมื่ออีกคนมาอยู่ในอ้อมกอดเขา มือใหญ่ย้ำแรงให้ศีรษะของอี้เฟิงแนบอกไว้ ที่จริงนี่เป็นอีกนัยหนึ่งในการบอกว่าหยางหยางตื่นเต้นขนาดไหนที่อีกคนพยายามมาพบเขาทั้งที่มีคนรายล้อมเต็มไปหมด เสี่ยงมากมายมหาศาล แต่ความกล้าของคน ๆ นี้ก็ทำให้เขาพบกับอะไรไม่คาดฝัน ชายหนุ่มโอบกอดร่างในกอดให้แน่นขึ้น ถอนหายใจเล็กน้อย เมื่อพลันคิดต่อไปว่า โชคดีแค่ไหนที่ไม่มีนักข่าวหรือแฟนคลับพบเห็นจนต้องมีเรื่องโวยวายเสียงดัง หรือเป็นข่าวใหญ่ลงอินเตอร์เนต ซักพักหนึ่งคนในอ้อมกอดดิ้นขลุกขลัก เอ่ยว่า หายใจไม่ออกเสียแล้ว








“ทำไมคุณถึงทำอะไรเสี่ยง ๆ แบบนี้กัน หืม “
“มัน..แบบว่า”






อี้เฟิงหาที่ลงให้คำตอบไม่ได้ ไม่กล้าบอก ไม่กล้ายอมรับว่าในใจรู้สึกเช่นไร แม้ว่าโรงแรมของทั้งคู่จะอยู่นละแวกเดียวกัน ในเมืองใหญ่แต่ไม่ใช่เรื่องง่ายและเป็นเรื่องใหญ่แน่ หากมีใครรู้ว่า ดาราดังสองคนที่มีข่าวด้านลยต่อกันมากมายอย่างเช่นเขาสองคนมาพบกันแบบนี้ นักข่าวคงมีอะไรเอาไปเขียนสกู๊ปอีกหลายวัน







แค่เราสองคนกอดกันก็อาจจะเป็นหน้าหนึ่งได้แล้ว










“ไม่บอกก็ไม่เป็นไร ผมดีใจที่คุณมากหา คุณกล้าที่จะทำ ทั้ง ๆ ที่ผมไม่..”
“เอาเหอะหน่า มันไม่สำคัญหนิ ว่าใครจะไปหาใครก่อน ฉันแค่มาก่อน ถ้าทิ้งเวลาไว้ สุดท้ายคนที่ทนไม่ไหวก็อาจจะเป็นนาย ..”






อี้เฟิงขืนกอดของหยางหยางและเงยหน้ามาสบตาให้คนที่กอดเขาอยู่เนินนาน ด้วยแววตามุ่งมั่นและมากมายด้วยความรู้สึก หยางหยางที่มักจะทำให้อี้เฟิงเขินอยู่เป็นประจำกลับหน้าแดงแทนขึ้นมาและหลบสายตาที่แสนซื่อตรงของอี้เฟิงไปเสียอย่างนั้น








ทำไมหลี่อี้เฟิงถึงเป็นคนซื่อขนาดนี้ รักเขามากแค่ไหนก็แสดงออกมาทางแววตาซุกวนนั้นหมดเลย ..หยางหยางคิด แทนที่จะเป็นเรื่องปกติที่เขาจะต้องทำอะไรให้คนน่ารักตรงหน้าเขินซักอย่างสองอย่าง เมื่อเวลาพบกัน แต่วันนี้กลับกัน แค่แววตาซุกซน บวกความซื่อตรงจากความรู้สึกที่แท้จริง สื่อผ่านมาว่ารักเขาเพียงใด แค่นี้ก็ทำให้หยางหยางเขินคนน่ารักของเขาได้แล้ว ไม่เป็นไรหรอกที่อี้เฟิงจะไม่พูดให้หยางหยางได้ยิน เขาจะพูด..พูดแทนอี้เฟิงเอง เขารับรู้ว่าอี้เฟิงรักเขามาก เพียงแค่มองตาคู่นั้นที่น่ารักและสดใสก็รู้หมดหัวใจ






“ผมรักคุณ”







คนถูกมองตากลับเริ่มตั้งต้นเขิน อี้เฟิงผงักไปครู่หนึ่งเมื่อคนของเขาบอกรัก เจ้าคนหล่อนี่จะเล่นอะไรอีก อี้เฟิงขมวดคิ้ว เอียงหัวเล็กน้อยใช้ความคิด และนึกขึ้นได้ ว่าครั้นเมื่อมองตาอีกคนตรงหน้าที่ชอบกอดเขานักหนา แววตาของของที่ส่งไปคงบอกอะไรไปหมดหัวใจแล้วกระมังว่ารู้สึกและรักเขามากมายเช่นไร แอบเห็นคนรูปหล่อหน้าแดงเขินเสียด้วย ก็น่าจะเป็นอย่างนั้น และเพิ่มเติมจากคำบอกรักหวานหู







คุณเทพบุตรแห่งชาติยิ้มกระหย่องได้ใจ แม้เป็นยิ้มที่ตั้งใจให้เห้นถึงความเจ้าเล่ห์เจ้ากลของอี้เฟิง แต่หยางหยางกลับมองว่ารอยยิ้มนี้น่ารักกว่าใคร









หยางหยางลากพามือของอี้เฟิงมานั่งที่ริมเตียง ห้องพักของโรงแรมนี้ก็ไมได้กว้างใหญ่อะไรขนาดนั้น แต่ตรงที่หยางหยางนั่งมีวิวสวยของเมืองใหญ่ยามราตรี เขาทรุดลงนั่งใกล้อี้เฟิง ใม่ใช่บนเตียงที่อี้เฟิงนั่งอยู่ แต่เป็นพื้นที่ว่างตรงหน้าที่อี้เฟิงนั่ง คนน่ารักเบิกตาไม่เข้าใจ ว่าจะลงไปนั่งตรงนั้นทำไม จนเมื่อผ่านไปไม่กี่วินาทีถึงจะรู้






เขาถูกอ้อนเสียแล้ว








“วันนี้ผมหลับฝันดีแน่ ๆ”
“ก็คงอย่างนั้นล่ะนะ”







หยางหยางตั้งใจทรุดนั่งตรงพื้นที่ว่างตรงหน้าอี้เฟิง เขาเอนร่างแข็งแรงซบที่ขาของอี้เฟิง พลางดึงมืออี้เฟิงมากอบกุมไว้ หลับตาและเอนพิงเหมือนตั้งใจจะฝันดีตรงนี้ เหมือนลูกหมาขี้อ้อนตัวหนึ่ง หยางหยางไม่ใช่คนจำพวกที่มีนิสัยออดอ้อนใคร แต่ยกเว้นกับคน ๆ นี้ หลี่อี้เฟิง  จะให้เขาทำอะไรก็ได เพื่อให้คน ๆ นี้รักเขามากขึ้น หยางหยางจะยอมทำทุกอย่าง






มือใหญ่สองข้างขอมือของอี้เฟิงมาสัมผัส ทั้งกอบกุม ทั้งยกมือนิ่มข้างนั้นมาจูบและก็ไม่ปล่อยคืนเจ้าของง่าย ๆ เขารั้งมืออี้เฟิงไว้อย่างนั้น และเอนหลับพิงขาอี้เฟิงไป เหมือนสุนัขผู้ภักดีต่อเจ้าของของมัน






“หยางหยาง”
“ครับ”






เหมือนอี้เฟิงเริ่มจะเอ่ยบางอย่าง ที่น่าจะเป็นจุดประสงค์หลักที่ทำให้หลี่อี้เฟิงมาหาหยางหยางถึงห้องในวันนี้ คนรูปหล่อที่นั่งต่ำกว่าเงยหน้ามามองสบตาอีกฝ่ายและรับฟัง แววตาซุกซนเปลี่ยนไปเล็กน้อย เขาเขินอายและดูไม่อยากเอื้อนเอ่ยคำถาม แต่อาจจะคาใจคนน่ารักอยู่นานแล้ว







“อย่าหาว่างี่เง่าเลยนะหยางหยาง แต่ ..เอ่อ คนเราต่อให้รู้ใจ รู้ความรู้สึกกัน แต่ฉันเป็นพวกคิดมาก”
“ครับ”






“หยางหยางเผยยิ้มพิฆาตใจ ยิ่งทำให้อี้เฟิงยิ่งเอ่ยออกมายาก ใช้มืออีกข้างที่หยางหยางเว้นว่างไว้ให้ปิดหน้าปิดตาเท่าที่ทำได้ สุดท้ายก็ทำใจและพูดออกมาสำเร็จ









“คือ..นายกับผู้หญิงคนนั้น ดาราที่มีข่าวด้วยน่ะ...ยังไงดี ฉันไมได้มาคาดคั้นนะ แต่ถ้ามีอะไรก็บอกได้นะ เอ่อ..แบบว่า—อ๊ะ”





อี้เฟิงยังพูดไม่จบประโยคดี คนที่นั่งอยู่ด้านล่างเปลี่ยนที่เปลี่ยนทางเมื่อไหร่ก็ไม่รู้ อาจเป็นเพราะอี้เฟิงมัวแต่เขิน เอาอารมณืตัวเองยอยู่ฝ่ายเดียว เพราะหยางหยางตอนนี้ไมได้นั่งอยู่ตรงพื้นนั่น แต่เป็นคร่อมอยู่ตัวตัวอี้เฟิงแทน เขาถูกกดไหล่ให้เอนนอนไปกับพื้นเตียงอย่างรวดเร็ว แรงของหยางหยางไม่ใช่น้อย ตัวอี้เฟิงแทบจะจมลงไปกับความนุ่มของเตียงหรูหราของโรงแรม คนน่ารักเบิกตาตกใจ และไม่ทันไรใบหน้าหล่อก็อยู่ใกล้เพียงแค่ปลายจมูกแตะกัน






“ขอโทษนะคุณ แต่เพราะความเผลอของผมเอง คุณมันน่ารักเสียแบบนี้ นี่ผมกำลังพยายาม..อืม ..พยายามอดทนอยู่นะ”








คนน่ารักใต้ร่างมองใบหน้าและสายตาของคนที่ทับคร่อมตัวเองอยู่ แค่แว้บเดียวก็รู้แล้วว่าความอดทนของหยางหยางมีไว้ใช้กับอะไร  คิดแล้วก็พลันหน้าแดงขึ้นมานั่นทำให้ความอดทนของหยางหยางลดลงอีกหน่อย ฉกกฉวยโอกาสหอมแก้มที่แดงก่ำเป็นลูกเชอร์รี่ เมื่อหายอยากก็กลับมามองใบหน้าที่ตกใจและตื่นเต้นของอี้เฟิง  และพบว่าเขาถูกงอนอีกตามเคย







“อี้เฟิง เรื่องข่าวอะไรทั้งหมด มันไม่มีอะไรเลย แต่ให้ผมสรุปกับคุณคร่าว ๆ เพราะเวลาเราน้อยเหลือเกิน อย่าไปเชื่อมัน ทั้งหมด และผมไม่ได้บอกให้คุณเชื่อในตอนนี้จากความรู้สึกของผมทั้งหมด ผมมองให้คุณแล้ว ผมรักคุณ นั่นคือสิ่งที่ผมอยากให้คุณเข้าใจมันซักวันหนึ่ง”







อี้เฟิงอยากพยักหน้าว่ารู้แล้ว เข้าใจตั้งนานแล้ว แต่เพราะค้างคาใจ เพราะอี้เฟิงเปิดหน้าอินเตอร์เนตกดโน่นกดนี่ไปจนเจอ มันมีมากมาย จนทนอ่านไม่ไหวในที่สุดก็กลับมานั่งเครียดเอง ทั้งที่หยางหยางก็ย้ำคำว่ารักกับเขาทุกวันก็ไม่เคยมั่นใจซักครั้ง 






“ผมไม่ขอให้อี้เฟิงเชื่อใจผม เดี๋ยวนี้เวลานี้ แต่ขอให้พยายามด้วยกันกับผมซักครั้งนะ”







คนน่ารักใต้ร่างไม่ตอบรับอะไรเลย จนหยางหยางใจเสีย ยังหลบตาหลุบต่ำไม่มีปฏิกิริยาอะไร นิ่งไปเสียอย่างนั้น หยางหยางจึงคิดว่าเขาควรปล่อยคนใต้ร่างจากพันธนาการเสียดีกว่า เพราะเราควรเว้นระยะให้กัน เพื่อคิดทบทวน.. บางทีเขาอาจจะเร่งเร้าอี้เฟิงเกินไป และเขามันไม่น่าไว้ใจก็เป็นแบบนั้นจริง ๆ หยางหยางไม่นึกตำหนิอี้เฟิงแต่เขาตำหนิตัวเองที่ไม่มีอะไรทำให้อี้เฟิงนึกอยากเชื่อได้ซักอย่าง อี้เฟิงไม่ใช่คนคิดมากแต่เพียงอี้เฟิงรักเขาและอยากได้อะไรยืนยันว่าเขาจะรักอี้เฟิงเหมือนที่อีกฝ่ายรัก










“เห้ย”



แต่ไม่ทันได้ปล่อยมือขาดกันเกินสามวินาที ร่างของหยางหยางก็เปลี่ยนตำแหน่ง ทีนี้คนรูปหล่อตกใจจริง ๆ เพราะกลายเป็นว่าร่างเขาถูกกดให้เอนนอนไปกับเตียง แรงนั้นน้อยกว่าคนที่แข็งแรงและออกกำลังกายเช่นเขา แต่ก็เล่นเอาตกใจไม่น้อย ในที่สุดคนที่อยู่ด้านล่างนอนเอนสบตาคนด้านบนก็เป็นหยางหยางเสียเอง คนที่อยู่บนตัวเขาไม่คร่อมตัวเขาแบบที่เขาทำกับอีกฝ่ายอย่างเมื่อครู่ แต่เนนอนทับแนบอกมาเลย ส่งเสียงหัวเราะชอบใจ





“อี้เฟิง ทำไมเล่นแบบนี้เนี่ย”
“ก็นายทำหน้าตาแบบนั้นนี่”
“แบบไหน”
“คิ้วขมวด คิดมากแบบที่ฉันทำบ่อย ๆ ปล่อยใหฉันเป็นคนเดียวก็พอหน่า”





คนน่ารักที่อิงแนบอกพูดเป็นต่อยหอยจบแล้วก็แอบขำอีกพักใหญ่ หยางหยางก็เลยพลอยยกยิ้มขำไปกับเสียงใส ๆ นั่นด้วย มือใหญ่โอบรอบเอวคอดสวย และขอกอดอี้เฟิงไว้แน่น ๆ แบบนี้อีกตราบนานเท่านาน





“ฉันเป็นคนคิดมาก หยางหยาง เพราะว่าความรู้สึกถึงนายมันมีมากเกินไป และที่มาหานายที่นี่ก็เพราะความรู้สึกทั้งหมดพามาหานาย”




อี้เฟิงยกขืนตัวเองขึ้นมา เอาแบนยันอกแกร่งไว้  และได้สบสายตาคมกริบของหยางหยางที่จ้องมองการกระทำของอี้เฟิงอยู่ก่อนแล้วทุกจังหวะ จนเมื่อมาสบตากัน สอดประสานความรู้สึก คนน่ารักอมยิ้มแก้มตุ่ย ก่อนบอก







“ฉันคิดถึงนาย”






คำสั้น ๆ เล่นเอาคนรูปหล่อใต้ร่างอี้เฟิงเขินจนหน้าแดงเป็นรอบที่สอง เขาเบนหน้าไม่สบตาอี้เฟิงหลังจากคำนั้นจนอี้เฟิงล้อไปอีกยกใหญ่ เสียงใสหัวเราะชอบใจ ทำให้หยางหยางนึกอยากแกล้งคนตัวนิ่มในอ้อมกอด อยากฟัดลูกแมวช่างแกล้ง จึงใข้แรงโอบร่างอี้เฟิงหมุนเปลี่ยนตำแหน่งให้อี้เฟิงมาอยู่ใต้ร่างเขาอีกกครั้ง แต่มีหรือที่อี้เฟิงจะยอมง่าย ๆ แรงมีน้อยกว่าคนแข็งแรงแบบหยางหยางก็จริงแต่ก็มีลูดฮึดสู้ไม่ถอย





“โอ๊ย หยางหยางไม่เล่นแล้วนะ”
“คุณแกล้งผมทำไมล่ะ”
“ก็เห็นหน้านายแบบนั้นอ่ะ น่าแกล้งจะตายไป”
“แบบนี้ต้องลงโทษ”



ตอบโต้กันไปแบบนั้นได้ซักพักก็ยังเล่นกันเป็นเด็ก ๆ อยู่บนเตียงไปเรื่อย ๆ จนเหนื่อยกันไปเองและไม่แน่ใจว่าเวลานานเท่าไหร่ ในที่สุดทั้งคู่ก็ผล็อยหลับไปเพราะความเหนื่อยจากงานและการเล่นอะไรเป็นเด็ก ๆ อย่างที่ไม่ค่อยได้ทำเท่าไหร่



แต่ก่อนหน้าจะนิ่งหลับกันไปทั้งคู่ หยางหยางยังทิ้งคำหวานไว้ให้คนน่ารักค้อนใส่เล่น ๆ อี้เฟิงส่งสายตางอนให้ เพราะ หยางหยางมักจะชอบพูดอะไรชวนใจเต้นแกล้งกันอยู่เรื่อย









“ผมรักคุณมากนะ รู้มั้ย”











แค่นี้ก็หวานมากพอสำหรับสองเราแล้ว











ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น