วันพฤหัสบดีที่ 14 มกราคม พ.ศ. 2559

[Fic] THISMAN :: HiddeN - CHAPTER : ONE



TITLE :  THISMAN :: HiddeN
CHAPTER : ONE
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG-15, NC -17 






**********************************************************************







ฉันรักนาย


อีกฝ่ายได้เอ่ยคำนั้นกับหยางหยางก่อนแยกจากกันไปทำงานขอแต่ละฝ่าย หยางหยางซึมซับคำนั้นไว้ มันเป็นคำพูดที่ลึกซึ้ง แม้อีกคนพูดด้วยน้ำเสียงธรรดมาแต่ทว่าหวานน่าฟัง จนเมื่อซึมลึกไปถึงก้นบึ้งของหัวใจ ทำให้หัวใจของซาตานผู้นี้ชุ่มฉ่ำ




แต่ทำไมการกระทำต่อหน้าคนบนโลก จึงต่างกัน กับคำที่เอ่ยออกมา





แม้เข้าใจดีอยู่กับตัวเองแล้ว แต่มันทำให้เขาอดสงสัยไม่ได้ว่าคำที่หลี่อี้เฟิงเอ่ยให้เขาฟังนั่นแค่รางวัลของความคิดถึงที่ให้ไป หรือ ตั้งใจจะมอบให้จริงๆ หรือยิ่งกว่านั้น เทพบุตรอาจจะแต่แค่สนุกที่ได้เล่นกับหัวใจซาตานอีกครั้ง




เมื่อพบกันและได้ใกล้ชิด หากแม้อยู่ต่อหน้าโลกทั้งใบ หลี่อี้เฟิงจะไม่สนใจหยางหยางทุกประการ ไม่ว่าจะอย่างไรก็ตาม เขาจะเรียกร้องสนใจบ้างแต่เทพบุตรคนนั้นไม่เคยสนใจ หากมีคนอื่นที่เป็นบุคคลที่สาม หรือจะลำดับไหนก็ตามอยู่ใกล้ ๆ และยังมีคนที่เคยเป็นศัตรูคู่แข่งหัวใจของเขา ไหนจะคนมาใหม่นั่นที่เขาไม่รู้จักดี เขาไม่รู้จะทำอย่างไรนอกจากรออีกฝ่ายด้วยใจเย็น ไม่สามารถทำอะไรได้ นอกจากยิ้มและทำงานไปอย่างตั้งใจเท่าที่จะทำได้ และหยางหยางไม่มีสิทธิ์แตะต้องเขา หากอีกฝ่ายไม่ยื่นมือมาก่อน




แต่เมื่อเทพบุตรยื่นมา ก็เหมือนน้ำหล่อเลี้ยงใจ เพียงแค่ไม่กี่วินาทีที่เขาได้รับ เขายิ้ม และเก็บความรู้สึกที่สุขจนล้นใจไว้กับตัวเอง และเพ้อเจ้อแค่เพียงผู้เดียว




หลี่อี้เฟิงไมได้เย็นชา แต่การกระทำก็ดูเหมือนไร้หัวใจในบางครั้งแต่เขาไม่ว่าอะไร เพราะรักไปแล้วมากขนาดนี้

แต่เขามีคำถามหนึ่งข้อ








เทพบุตรผู้นั้นคนลืมอ้อมอกของซาตานที่รักเขามากเสียแล้วอย่างนั้นหรือ ?









  THISMAN :: HiddeN - CHAPTER : ONE








ทำไมทำหน้าตาซึม ซาตานหงอยเหงาเป็นด้วยหรือ







อี้เฟิงแอบลอบคิดอยู่ในใจ ก่อนผินสายตาไปมองที่เขาเพิ่งบอกรักไปเมื่อไม่นาน







บอกรักไปแล้ว เขาไม่ดีใจหรอกหรือ ?






อี้เฟิงสงสัยอยู่นาน เขาบอกรักเจ้าซาตานที่เพิ่งมีหัวใจกับคนอื่นเขาบ้างก็ไม่นานนี่เอง ก่อนที่เราทั้งหมดทั้งเขา หยางหยาง และเพื่อนนักแสดงด้วยกันจะมาเล่นเกมส์ทำกิจกรรมกับทางงานที่จัดขึ้น เพื่อมอบความบันเทิงและสนุกสนานท้ายปี เขาทำหน้าที่อย่างเต็มที่และทุกคนบนเวทีก็เช่นกัน แต่เจ้าซาตานนั่นกลับแอบอู้งาน ทำหน้าที่ไม่เต็มร้อย หน้าตาขรึม ปล่อยออร่าน่ากลัวอยู่คนเดียว เขารู้ เพื่อน ๆ เขาก็รู้





อืม..มีเหว่ยถิงเกอที่เป็นเพื่อนรุ่นพี่ของเขา ..แม้จะเคยมีประเด็นกันมาบ้าง ตอนนี้ เราเป้นเพ่อนกันแล้ว และเขารู้สึกผิดกับบางอย่างที่เคยทำไว้กับอี้เฟิง และรู้ในที่สุดว่าอี้เฟิงเป็นของใคร





หยางหยาง....? อี้เฟิงเรียกชื่อซาตานผู้ภักดีในใจ และลอบมองใบหน้าหล่อเหลาดั่งปีศาจที่อยู่ไม่ใกล้ไม่ไกล






หน้าซึมสุด ๆ ไปเลย.. อี้เฟิงเห็นเหตุการณ์ดังนั้น  และเป็นมาตลอดตั้งแต่ขึ้นมาบนเวที  เป็นคนที่หวงมากเหลือเกิน อี้เฟิงก็เพิ่งเข้าใจความหวงของคนคนนี้ก็วันนี้ล่ะที่ชัดเจนที่สุด สายตาหยางหยางที่มองมา แม้ว่าจะทำเป็นเมินไม่สนใจแต่รู้สึกได้เสมอ คนคนนี้ตั้งแต่ตกหลุมรักเขาอย่างที่ได้รู้ ก็มีสายตาให้เขาไว้แต่เพียงผู้เดียวแล้ว  หลี่อี้เฟิงไมได้หลงตัวเอง และเจ้าตัวก็ยืนยันแบบนั้นมาครั้งก่อนหน้า






เขามีเพื่อนมากมาย หยางหยางก็มี ที่ทำลงไปไม่ได้จะทดสอบ หรือยั่วอารมณ์เขา แต่เทพบุตรแห่งชาติคนนี้กำลังทำงาน และที่อยู่ตรงนี้ทุกคนก็เพื่อนกันทั้งนั้น แม้ว่าจะมีคนที่เคยไม่ปรานีปราศรัยกับหยางหยางอยู่ก็ตาม และเพื่อนคนใหม่ตัวสูงของเขาที่หยางหยางสังเกตเป็นพิเศษ เพราะอีกฝ่ายไม่รู้จักมักคุ้นเท่าไหร่  เด็กคนนี้ไม่รู้เรื่อง แต่หยางหยางคงหมายมาดคาดโทษไว้มาก







ซาตานขี้หวงจริงเชียว 








อี้เฟิงคิดแบบนี้อยู่ซักพัก วนไป ๆ มา ๆ ไปพร้อมกับช่วงที่มอบความบันเทิงแกทุกคนบนเวที เขาหันไปพูดคุย สบตาและหัวเราะกับทุกคน กับหยางหยางเขาก็มีหลุดไปคุยกันเป็นบางที แต่เราสองคนรู้อยู่แล้วว่า หากเราคุยกันมากกว่าหนึ่งประโยค เราก็จะไม่สามารถปล่อยให้อีกฝ่ายหันหน้าหนีไปไหนได้อีกแล้ว และความรู้สึกของเราทั้งคู่ก็มากเกินไป แสดงออกมากไปกว่านี้ไม่ได้ ทุกคนต่างจับจ้อง ทั้งกล้องทุกตัวที่อยู่รอบตัว แบบนั้นจะจบสิ้นถ้าหากโลกใบนี้รับรู้







เขาไม่ได้อยากให้ทุกอย่างจบและพังทลาย นั่นหมายความว่า อี้เฟิงจะเสียหยางหยางไป





หากเราใกล้กันมากกว่านี้ หากเราบังเอิญส่งสายตากันจนทุกคนรับรู้ความรักของเรา หากเป็นแบบนั้น



.. ฉันจะเสียนายไป..... อี้เฟิงให้คำตอบตัวเองในใจ





พอให้คำตอบกับตัวเองจบ อี้เฟิงพยายามอดทนไม่มองหยางหยางอยู่ร่ำไป เพราะหยางหยางมีเสน่ห์ดึงดูดในตัวเขาเองมากมาย ใบหน้าหล่อเหลานั่น แววตาแม้ดุดันแต่ดึงดูด พลันนึกไปถึงยามเราอยู่ในอ้อมกอดกันและกัน อี้เฟิงจำได้แน่นอนอยู่แล้ว ว่าอ้อมกอดของเขาสำคัญกับอี้เฟิงขนาดไหน ในตอนนี้




และนั่นทำให้อี้เฟิงจำต้องอดทน เพื่อให้เราได้ใกล้กัน ภายหลังจากไร้ผู้คนและเราสองอยู่ด้วยกันลำพัง




คนรอบตัวเราไม่ยินดีด้วยหรอกนะ หากเราจะแสดงอะไรออกไปมากกว่าที่เป็นอยู่ ทำได้แค่นี้ หยางหยางเองก็ถูกกำชับหนักหนาแต่สายตาและท่าทางเขาปิดไม่มิด คิดว่าเขาคงจะถูกดุอีกมาก  อี้เฟิงพยายามทำส่วนของตัวเขาให้ดี แต่ก็มีเผลอหลุดออกไปบ้างตามประสาคนที่รักเขาเช่นกัน





แม้มีช่วงหนึ่งที่ได้มอบความสุขเล็ก ๆ ให้กับซาตานที่บอกรักเขาซ้ำ ๆ ซาก ๆ แต่ก็ยังแสดงท่าทีและอารมณ์เช่นเดิม 




กลัวว่าหยางหยางจะค้างอารมณ์ไม่ดีแบบนี้อีกนาน ไม่รู้เขาและหยางหยางจะได้เจอกันอีกเมื่อไหร่ แถมหลังจากนี้เขากับรุ่นพี่ก็จะต้องอยู่ทำงานต่อด้วยกันอีก มองอีกทีหยางหยางไอเหมือนคนไม่สบายมาครู่ใหญ่ อาจจะเป็นเพราะอากาศวันนี้ หนาวไม่ใช่เล่น



ไม่กี่นาทีช่วงเวลาทำงานที่เราได้มีโอกาสอยู่ใกล้กัน กำลังจะหมดลง อี้เฟิงสังเกตว่าอีกฝ่ายไม่ได้ลอบมองเขาเหมือนตอนต้นแล้ว แต่สายตาของอี้เฟิงต่างหากที่เปลี่ยี่ที่มอง กลายเป็นว่าอี้เฟิงแอบมองเขาแทน สลับกัน





จนเมื่อเวลาทำงาน ณ ขณะนั้นผ่านไป เราก็แยกทางกันเดินแล้ว








ให้ตายเถอะ เจ้าซาตานบ้านี่












แต่ไม่เป็นไรหรอก เพราะไม่นาน เราก็จะพบกัน








  THISMAN :: HiddeN - CHAPTER : ONE








หยางหยางรีบเดินออกมาจากเวที เพราะรู้ว่าอารมณ์ของเขาตอนนี้ไม่คงที่มากนัก และรู้ว่าตัวเองเป็นคนควบคุมอารมณ์ได้ไม่ดีเท่าไหร่ เขามาพบผู้จัดการที่ห้องพักหลังเวที และเตรียมตัวกลับทันที เพราะนอกจากอารมณ์ไม่คงที่แล้ว เขาเพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองก็มีไข้นิดหน่อย อาจจะเป็นเพราะเหตุนี้เลยพลอยทำให้อารมณ์ขุ่นมัวแบบนี้








ไม่แน่ใจว่าอีกฝ่ายจะใส่ใจเขาหรือไม่ แต่ดีใจมากแล้วที่วันนี้ได้พบหน้า ได้สบตา และได้สัมผัสแม้ไม่มาก ก็พอต่อยอดความสุขเล็ก ๆ ในใจและเก็บไปฝันได้






แค่ครั้งเดียว ก็พอกับหัวใจแล้ว เพราะรักของเราช่างยากเหลือเกิน








หากเราใกล้กันก็จะอึดอัด แต่หากไกลกันเกินไปก็จะไม่เห็นกัน หากแสดงออกมาก็จะทำให้คนอื่นรับรู้ถึงเรื่องราวของเรา แต่หากไม่แสดงอะไรเลยก็จะไม่สามารถบ่งบอกสถานะว่าเราเป็นคนสำคัญของกันและกัน และจะกลายเป็นเพียงสถานที่เรียกว่าเพื่อนเท่านั้น คำพิเศษไหน ๆ ก็ใช้ไมได้ หากเราเป็นเพื่อนกัน







แค่การเรียกชื่อก็ไม่มีความหมาย








สุดท้าย ผมก็จะเสียคุณไป .... คิดไปคิดมา หยางหยางตอบตัวเองด้วยประโยคสั้น ๆ นี้และหลับตาลง ดับอารมณ์ ทำให้ใจเย็นลงบ้าง และจำเป็นต้องกลับที่พักแล้ว เพราะเขาเองก็ไม่มีหน้าที่อะไรที่จะอยู่ที่นี่ต่ออีกแล้ว แต่อี้เฟิงยังมีงานต่อ หากรอกัน ก็เหมือนจะแสดงความพิเศษต่ออีกคน เขาไม่แน่ใจว่ามีใครรู้กันบ้างหรือยัง นอกจากทีมงานของทั้งสองฝั่ง แต่เขาก็ไม่ควรทำตัวเองให้คนอื่นรู้มากไปกว่านี้ แค่บนเวที หยางหยางรู้ตัวเองดีว่าเขาแสดงอาการหวงอีกฝ่ายไปมากเพียงใด ควรจะพอแล้ว







ฉันรักนาย  หยางหยางจำเสียงหวานที่เอื้อนเอ่ยได้ดี เขารื้อมันมาจากความทรงจำอีกครั้ง ก่อนจากสถานทีทำงานในวันนี้กลับที่พักไป ก่อนออกจากตึก ซาตานหันมองไปยังทางที่จากมา







“หวังว่าจะคิดถึงกันบ้างนะ คุณเทพบุตรของผม”




   

  THISMAN :: HiddeN - CHAPTER : ONE







แต่เมื่อกลับมาที่ห้องพัก เขาก็ต้องแปลกใจ เพราะมีสัมภาระของใครบางคนกองวางไว้หยาบ ๆ บนเตียง กลิ่นน้ำหอม สไตล์เสื้อผ้า ของใช้หลายชิ้น








ของหลี่อี้เฟิง...ทั้งหมด





“พี่ครับ ? “






หยางหยางหันหน้าไปมองผู้จัดการสาวใจดีของเขา เธอไม่พูดอะไร แค่ยิ้มรับหน้าตาเฉยและเดินปิดประตูห้อง ไม่มีความกระจ่างใด ๆ ให้หยางหยางทั้งสิ้น ตอนนี้เขาทำได้แค่รอเวลา ว่าทั้งหมดนี้มันคืออะไร ก่อนหน้านี้มันทั้งหมดนี้ยังไม่มีอยู่ในห้องของเขา ก่อนหน้าที่หยางหยางจะไปสถานที่ทำงานในวันนี้ จำได้ว่าเขาไปถึงก่อนอี้เฟิง เขาคิดว่าอีกฝ่ายคงไปแวะทักทายกับใครหลายคนในวงการ ก็ตามประสาและนิสัยของเขาและทีมงานที่แนะนำให้ไป ที่ไปงานสายกว่าที่ควรจะเป็น เกี่ยวกับเรื่องของ ๆ อี้เฟิงในห้องเขาด้วยหรือเปล่า






หยางหยางเอนตัวลงคิดบนเตียง โดยข้าง ๆ มีสัมภาระทั้งหมดของเทพบุตรของตัวเองอยู่ด้วย หยางหยางชอบน้ำหอมกลิ่นนี้เพราะอยู่กับเขาและเหมาะกับภาพลักษณ์ของอี้เฟิงทั้งในสาตาของโลกและสายตาของเขาเอง มือใหญ่คว้าผ้าเช็ดหน้าผืนเล็กที่แอบอยู่ใต้เสื้อยืดกองหนึ่งที่ยังคาอยู่ในกระเป๋าใบหรูของอี้เฟิงที่วางอยู่บนเตียง






ขอขโมยหน่อยแล้วกัน... หยางหยางถือวิสาสะหยิบผ้าเช็ดหน้าผืนนั้นมา ขอจดจำกลิ่นนี้ไว้โดยการจรดจมูกโด่งที่ผ้าผืนนี้สูดกลิ่นคุ้นเคยและเก็บมันไว้ในกระเป๋าใบเล็กของตัวเองที่วางอยู่ไม่ไกลมือ






ใบหน้าหล่อเหลายิ้ม ทั้งกลิ่นที่ชอบที่คุ้นเคยและใบหน้าน่ารักที่วนเวียนอยู่ในความคิดเขาเสมอ










คืนนี้เขาต้องหลับฝันดีแน่ ๆ  ถ้าสิ่งที่เขาจินตนการไว้เป็นจริง 





















“หยางหยาง ทำไมไม่ลุกไปอาบน้ำเล่า นอนจมฝุ่นจมควันแบบนี้ ไม่นอนใกล้ ๆ ด้วยหรอกนะ หยางหยาง อย่าขี้เซา ตื่นได้แล้ว”








เหมือนได้ยินเสียงรบกวน ซาตานรูปหล่อจึงขยับตัว เขาเผลอหลับไปเพราะพิษไข้และความเหนื่อย พอได้หลับก็ดีขึ้นแต่เมื่อถูกปลุก และไม่ใช่แค่เสียงเขายังถูกเขย่าตัวด้วยแรงจากใครซักคนจนรู้สึกเจ็บ เขารู้ว่าเสียงอี้เฟิง แต่คนคนนั้นจะมาอยู่ในห้องนี้หรือ แม้สัมภาระจะอยู่ตรงนี้ ไม่เข้าใจอะไรซักอย่าง แต่ก็ไม่อยากเข้าข้างตัวเองอยู่ว่าวันนี้เขาจะนอนฝันดี








“อี้เฟิง คุณ..”
“เออ ฉันเอง ไปอาบน้ำเดี๋ยวเลย”







หยางหยางลืมตาทั้งยังนอนเอนอยู่บนเตียง ใบหน้าหวานของเทพบุตรคนน่ารักกำลังก้มลงมองเขาอยู่ คิ้วหมุ่นอยู่บนใบหน้าแสดงความไม่พอใจ ปลุกหยางหยางเท่าไหร่ก็ไม่ตื่นเสียที







“จะนอนไปถึงไหน ยิ้มทำไม เลิกยิ้ม ไปอาบน้ำ”
“สั่งผมใหญ่เลย”
“ก็เออสิ”
“ผมคิดถึงเสียงคุณนะ”






พูดจบอี้เฟิงงับปากลงทันที ไม่เอ่ยอะไรแล้ว แววตาที่เอื้อนประโยคนั้นออกมาชาย่อยเสียเมื่อไหร่ วิบวับจนน่าตีนักเชียว อี้เฟิงเดินหันหลังถอยออกมาไปนั่งอีกฝั่งเตียงที่มีสัมภาระของตัวเองวางอยู่ และลงมือเก็บข้าวของ






“คุณจะกลับหรือ ? ไม่ได้ตั้งใจมาหากันหรอกหรือ ?”
“ไม่อยากนอนกับคนสกปรก ”





อี้เฟิงพูดไปพลางก้มหน้าก้มตาจัดของ ทำเป็นไม่สนใจหยางหยางที่แอบหัวเราะขำเขา แต่ก็เชื่อฟังลุกเร็ว เดินทันท่วงทีไปคว้าผ้าเช็ดตัวผืนใหญ่ แต่ก่อนจะเข้าห้องน้ำ ก็แอบเดินเลี้ยวมาหาอี้เฟิงอีกฝั่งเตียงและขอขโมยความเนียนนุ่มและกลิ่นหอมอ่อน ๆ จากน้ำหอมกลิ่นชวนเย้ายวนนั้นเสียบนแก้มของเทพบุตรซักที อี้เฟิงส่งเสียงด่าลั่นห้อง แต่หยางหยางกลับหัวเราะสวนมา





“บ้าจริงเชียว “  พอด่าเขาเสร็จ คุณเทพบุตรก็ขำเสียเอง 









ตอนนี้เราสามารถแสดงอะไรออกมา โดยไม่ต้องกลัวว่าจะเห็น เพราะเราสองอยู่กันเพียงลำพัง ในที่ของเรา








  THISMAN :: HiddeN - CHAPTER : ONE








อี้เฟิงต่อคิวอาบน้ำจากหยางหยาง หลังจากอีกคนอาบเสร็จ คุณเทพบุตรรีบวิ่งเข้าห้องน้ำ เพราะเจ้าซาตาน เริ่มกลายร่างเป็นหมาป่าไล่ล่าแมวน้อย แถมยังทำตัวเลอะเทอะไม่ใส่เสื้อให้ดี มีแค่กางเกงขายาวสีดำตัวเดียว รู้ทั้งรู้ว่าอี้เฟิงทนมองร่างกายอันงดงามของซาตานผู้นี้ไม่ไหว พลางจะเขินขึ้นสีหน้าแสดงให้เห็น แต่ก็ไม่วายถูกแกล้ง พออาบเสร็จ อี้เฟิงแต่งตัวเรียบร้อยกว่าปกติ ก็ยังเห็นตาบ้าคนที่อยู่ร่วมห้องทำตัวเหมือนไม่มีใครอยู่ด้วย







“ทำไมไม่ใส่เสื้อให้ดี นายเหมือนไม่สบายอยู่ไม่ใช่หรือ?”
“ก็เดี๋ยวต้องถอดอยู่ดี คุณนั่นล่ะ แต่งตัวออกมาทำไม ส่วนไม่สบายน่ะช่างเถอะ เดี๋ยวก็ตัวอุ่นขึ้นอยู่เเล้ว จริงมั้ยครับ ? ”







อี้เฟิงอ้าปากค้าง ตาโตเบิกกว้าง และรู้ว่าตอนนี้ใบหน้าและหูคงลามแดงเพราะความอาย เจ้าซาตานบ้านี่พูดไม่อายปากกันเลย ถึงจะบอกว่าเรื่องแบบนั้นเราก็เคยกันมา แต่ไม่ได้พูดอะไรให้มันโจ่งครึ่มแบบนี้






“นายนี่มัน”
“หรือว่าที่คุณมาหาผมวันนี้ มาเพื่อนอนใกล้ ๆ ให้ผมกอดแค่เพียงอย่างเดียวหรือ”
“ก็..”






อี้เฟิงอยากปฏิเสธแต่ขัดแย้งกับหัวใจตัวเองเหลือเกิน เพราะในใจร้องลั่นว่าอยากสัมผัสเชาและอยากให้เขาสัมผัสอีกครั้ง ไม่ใช่ว่าไม่คิดถึงกันเสียหน่อย แววตาหยางหยางที่ถามต่อมาเมื่อซักครู่ เหมือนกระตุ้นอารมณ์บางอย่างในตัวของอี้เฟิง แววตาวิบวับแบบนั้น เป็นสาวที่ไหนก็ยอมอยู่ใกล้ ยอมอยู่ใต้อาณัติเขาแล้ว และอี้เฟิงก็เหมือนสาว ๆ พวกนั้น ยอมแพ้ไปแล้ว







“ก็อะไรครับ ? “






อี้เฟิงเบะปากใส่ไม่ตอบ และเดินถอยหลังไปเรื่อย ในอ้อมกอดยังกอดผ้าเช็ดตัวที่เพิ่งใช้เมื่อตอนอาบน้ำไว้กับอกแน่น และหยางหยางก็เดินย่างสามขุมเข้ามาใกล้ เพราะตั้งใจจะต้อนให้จนมุม และก็เป็นอย่างนั้นจริง ๆ





“อี้เฟิง”





หยางหยางต้อนแมวน้อยจนชิดผนังห้อง ข้าง ๆ นั้นก็เป็นเตียงแล้ว ไม่มีทางพ้นหรอก อี้เฟิง
แต่จริง ๆ แล้ว วันนี้อี้เฟิงก็ตั้งใจมาให้เขาทำมากกว่ากอด ก็เป็นอย่างที่หยางหยางอยากทำ ตามดังใจ....








  THISMAN :: HiddeN - CHAPTER : ONE









อี้เฟิงไม่ทันได้พิงหลังสัมผัสกับผนังห้องนานนัก ก็ถูกอุ้มจนตัวลอยมาอยู่บนเตียงเพียงไม่กี่อึดใจ ร่างกายแข็งแรงก็ทาบลงมา สายตาร้อนแรงเท่าทวีจนอี้เฟิงเหมือจะละลายไปในอ้อมกอดเขา จึงไม่กล้าสบตา เทพบุตรน้อยหลับตาลงไม่มองซาตานที่ทาบอยู่บนร่างให้ละลายเป็นขี้ผึ้งลนไฟไปมากกว่านี้







“ไม่มองผมหน่อยหรือ ? ไม่คิดถึงกันหรือครับ? "





ทั้งที่ยังหลับตาคุณเทพบุตรก็ยังงับปากไม่ยอมพูดอะไรเลย ..หยางหยางยิ้มมุมปาก ชอบใจอากัปกริยาแบบนี้ของเทพบุตรน้อยของเขา น่ารักจนต้องรักให้หมดหัวใจ หากมีซักร้อยดวงก็คงมอบให้หมด





“ผมจะบอกคุณทุกครั้งหากเราจะทำอะไรแบบนี้กัน ผมจะถนอมคุณเท่าที่ผมจะทำได้”




หยางหยางเอ่ยบอกไป และรอดูท่าทีและสายตา คุณเทพบุตรก็ยังไม่กล้าสบตามองเขาเสียทีแม้จะกล้าลืมตาขึ้นมาแล้ว มือเรียวสวยสองข้างกำผ้าขนหนูไว้แน่น สำหรับหยางหยางตอนนี้ดูเกะกะเป็นบ้า ไหนจะเสื้อผ้ามิดชิดบนเรือนร่างสวยผิวเนียนอีก





“นายเลิกมองฉันด้วยสายตาแบบนั้นได้มั้ย ฉันจะไม่กล้าทำอะไร ๆ กับนายเพราะสายตาแบบนั้นน่ะล่ะ”





หยางหยางยิ้มกว้างเพิ่มองศาบนริมฝีปาก อี้เฟิงมองแล้วใจสั่น เพราะยิ้มนั้นเป็นของเขา มือเรียวสวยกำผ้าขนหนูแน่นขึ้นอีก ก่อนจะรวบรวมกำลังใจเอาผ้าปาใส่หน้าคุณซาตานเสียเลย






อีกทีหัวเราะลั่นเสียงดัง แต่หลังจากเสียงหัวเราะก็กลายเป็นเสียงหวานของอี้เฟิงแทน ภายหลังไม่กี่นาที


















“อื้อ.. “





มือซุกซนของซาตานเริ่มละลามไปตั้งแต่คนน่ารักใต้ร่างตั้งใจจะแกล้งปาผ้าขนหนูใส่หน้าเขาแล้ว มือใหญ่ไต้ระดับเข้าไปใต้ร่มผ้าแบบไม่เว้นเวลาให้ตื่นเต้น แต่ตรงเข้าสู่จุดสำคัญ ๆ หลายที่ ทั้งเรียวขาเนียนสวย ไปจนถึงบั้นท้ายงอนงาม มือใหญ่ที่คุ้นเคยกับเรือนร่างนี้มากจัดการอะไรรวดเร็ว เสื้อผ้าท่อนล่างของอี้เฟิงลงไปกองอยู่ข้างเตียงเรียบร้อยและ ก่อนจะใช้มืออีกข้างหนึ่งแตะต้องสัมผัสแก้มเนียนสวย บอกว่าเขากำลังจะเริ่ม และย้ำชัดด้วยสายตา อี้เฟิงมีความกลัวอยู่นิดหน่อย





“หากคุณไม่อยากจริงๆ ผมจะไม่ทำ ผมแค่แกล้งคุณเล่นเท่านั้น ถ้าไม่ผมจะนอนกอดคุณไว้แน่นๆ เท่านั้น”






อี้เฟิงช่างใจฟังคำพูดประโยคนั้นของหยางหยางจนคำสุดท้ายจนจบ บอกใจตัวเองว่าก่อนมาถึงห้องหยางหยาง ว่าตั้งใจมาให้เขาสัมผัสและอี้เฟิงเองก็คิดถึงสัมผัสและหยางหยางมากแท้ ๆ แต่เมื่อถึงเวลาจริงกลับหวั่นใจว่าจะเป็นความสัมพันธ์และได้สัมผัสความสุขแค่ช่วงครู่ ความไม่แน่ใจถ่าโถมเหมือนคลื่น





แต่มือเรียวที่ว่างเปล่า ก็ทำตามใจส่วนใจลึก ๆ ไล้ไปตามผิวกายชายหนุ่มสุดหล่อที่เอนทาบร่างกายของตัวเองอยู่ไปจนถึงขอบกางเกงขายาวที่สวมอยู่บนตัวเขา แค่นี้ก็เป็นสัญญาณตอบตกลงกับอีกคนไปแล้วว่าอี้เฟิงอยากได้สัมผัสจากอีกคนมากแค่ไหน





แม้จะกลัว







“คุณรักผม ผมได้ยินที่คุณพูดแล้ว แม้เสียงคุณจะเบาหวิว ผมรักคุณเหมือนกัน คุณได้ยินผมมั้ย อี้เฟิง ได้โปรดแน่ใจในตัวผมเถอะ ว่าผมจะไม่มีวันทำให้คุณเสียใจ “






จบประโยคนั้นหยางหยางคว้ามือเรียวสวยที่แตะของกางเกงขายาวของเขาเมื่อครู่มาจูบซับ และพร้อมมองใบหน้าหวานอันเป็นที่รัก อี้เฟิงคนเก่งของเขา น้ำตาเอ่อ ซึ่งปกติหลี่อี้เฟิงไม่ใช่คนที่จะร้องไห้ง่าย ๆ น้ำตาของหลี่อี้เฟิงมีค่านับพันล้านสำหรับหยางหยาง เขาจึงตกใจ..แต่ทำได้เพียงแค่ใช้มือข้างหนึ่งเช็ดมันไม่ให้เปื้อนใบหน้าของอีกคน






“มันออกมาเอง ยังไงดี ฉันไม่เคยแน่ใจอะไรเลย ไม่กล้าแม้จะพูด จะคิด อะไรทุกอย่าง แต่เราก็มาอยู่ด้วยกันตรงนี้แล้ว .. อืม ฉันควรทำอย่างไรกับความรู้สึกนี้ดี”





แม้จะเช็ดน้ำตานั้นหมดไป แต่อี้เฟิงก็เอ่อน้ำตาหยกใสออกมาอีกครั้ง หยางหยางไม่เบื่อที่จะคอยซับน้ำตาให้ คราวนี้เขาเปลี่ยนเป็นจูบซับน้ำตาแทน และขยับตัวให้แนบชิด ใบหน้ารูปหล่อใกล้อี้เฟิงมากขึ้น อยากให้อี้เฟิงมองเห็นความตั้งใจในแววตาของเขา ว่าสิ่งบอกไปเมื่อครู่มันคือความจริง






“แม้คุณจะกลัว ความรักของคุณจะยังไม่บานเต็มที่แต่ผมจะหมั่นรดน้ำมัน ทุกครั้งที่เราได้มีโอกาสพบกันไม่ว่าจะทางไหน ผมจะทำให้มันเติบโตในใจคุณ”




อีกคนยังร้องไห้ไม่มีเสียง น้ำตาเอ่อไม่หยุด หยางหยางจูบตรงหางตาอีกครั้งซับน้ำตาอีกรอบ และยิ้มทอให้ไป อี้เฟิงเม้มปากไม่พูดอะไรอยู่ครู่ใหญ่ ปลายเท้าขยับเล็กน้อย คล้ายหนาวงเพราะอากาศในห้องหยาง หยางกระชับผ้าห่มที่อยู่บนเตียงมาห่มให้อีกคน เพราะเขาได้ถอดเสื้อผ้าท่อนล่างของร่างนี้ไปหมดแล้ว




“เรารักกัน..ใช่มั้ย”
“ถึงตอนนี้เเล้ว เรารักกันครับ”





หยางหยางไม่อยากให้อีกคนเอ่อน้ำตาหยกสวยออกมาอีกครั้ง เขาเสียดายมัน มันมีค่ามากกว่าอะไรทั้งปวง หลังจากพูดจบ คำสั้น ๆแต่สำคัญ เขาประทับจูบช้า ๆ แต่เนิ่นนานให้อี้เฟิง เทพบุตรเอียงรับจูบไว้และต่างเก็บความหอมหวานที่ไมได้พบกันเสียนาน คุ้นเคยดีอยู่และคิดถึงมากด้วย จูบนี้จึงยาวนานกว่าที่คิด เมื่อถอนจูบออกมา ทั้งคู่หอบโยนหน้าแดงกันไปหมด






มือใหญ่คว้าผ้าห่ม ที่เพิ่งห่มใหอี้เฟิงเมื่อครู่ออกไป และไล้ผิวสวยไปตามแนวเรียวขายาว เสียงหวานร้องครางตามจังหวะมือที่ไล้ไปตามส่วนสำคัญที่กระตุ้นอารมณ์และถึงจุดที่อยากสัมผัสมากที่สุด อี้เฟิงที่เริ่มมีอารมณ์จุดอยู่ในใจบ้างแล้ว เมื่อได้รับสัมผัสก็ยิ่งลุกโชนขึ้นเรื่อย ๆ มือใหญ่สร้างอารมณ์เพิ่มทวีคูณ ปลายยอดเริ่มฉ่ำน้ำขุ่นสีสวย มือของหยางหยางก้ช่างซุกซนเหมือนนิสัยเขา แตะไปลูบไปเรื่อย ๆ  อี้เฟิงในตอนแรกที่กลั้นเสียงเพราะไม่ได้เปล่งมานาน ไม่ได้ทำอะไรแบบนี้กับใคร เว้นกับตัวเองเวลาคิดถึงหยางหยาง ตอนนี้มีตัวจริงมาอยู่บนร่างตรงหน้า ห้ามกันไมได้ ในที่สุดก็หลุดออกมา






“อ๊ะ.. อื้อ.. ฮึ่ก”



หยางหยางพอใจที่คนใจแข็งปล่อยเสียงหวาน ๆ ออกมาให้ได้ยินชัด ๆ เสียที ก่อนหน้านี้ได้ยินเป็นคำ ๆ มันยังไม่ได้ยินอย่างที่หยางหยางพอใจ ตอนนี้เขาเหมือนจะกลายเป็นซาตานอีกรอบ เพราะโหยหิวความหวานจากร่างเทพบุตรตรงหน้า แต่สาบานกับเขาไปแล้วว่าจะถนอมให้ดีที่สุด เพราะรักเขามาก เขาจึงลดความตะกละตระกรามของตัวเองลงให้มาก



ยังไม่พอใจ มือของหยางหยางยังวนเวียนอยู่ที่ส่วนอ่อนไหวที่เดิม ทั้งรูดรั้ง ทั้งไล้ลูบเป็นจังหวะ ที่สุดอี้เฟิงก็ปลดปล่อยออกมาดังใจ เสียงครางหวานดังเป็นระยะ กลั้นทันบ้างไม่ทันบ้าง ริมฝีปากที่กัดกลั้นเสียงไว้แดงเห่อจากทั้งที่จูบก่อนหน้านี้แล้ว ก็ยิ่งแดงมากกว่าเดิม



“อย่ากลั้นเสียงสิคุณ”
“ไม่ได้..เอ่อ...ก็มันไม่เคยมานานก็..อาย”



ความเหนียมอสยอย่างน่ารักตามประสาของหลี่อี้เฟิง มันทำให้หยางหยางห้ามใจไม่ไหว กดจมูกโด่งหอมแก้มเนียนใสลงไปให้หายอยาก มือใหญ่ละจากส่วนล่างมาปลดของเกะกะบนร่างสวยออกไป สายตาฉ่ำเชื่อมของอี้เฟิงมองตาม อารมณ์ถูกจุดขึ้นไปเรื่อย ๆ แม้อยากขัดขืนแต่ก็ทำได้พอเป็นพิธีให้ดูน่ารัก สุดท้ายก็แทบจะวิ่งตามซาตานไปอยู่แล้ว



ใบหน้าหล่อก้มโน้มลงมาจูบทุกส่วนบนใบหน้า เน้นตรงริมฝีปากชัดเจนที่สุด และไล่ลงมาตามเรือนร่างสวย ลำคอ หัวไหล่ แขนที่เจ้าเนื้อหน่อยจนหยางหยางอดใจไม่ไหวจึงจมเขี้ยวของเขาลงไป อี้เฟิงร้องโอดให้ได้ยินแถมยกมือตีเขาเพราะรู้สึกเจ็บและอยากดุว่าเล่นอะไรไม่เข้าเรื่องจริง ๆ พอโดนดุก็ลดความกระหายลงอีกนิดหน่อย และตั้งใจทำให้คนใต้ร่างพอใจ



“อ๊ะ.. หยางหยาง..มัน... อ๊ะ..ฮึ่ก”



เพราะห่างไปนาน อี้เฟิงไม่ได้ทำอะไรแบบนี้กับใคร ก็จะไปกล้าทำกับใคร ถ้าหยางหยางสืบรู้และเขารู้แน่ ๆ อี้เฟิงคงถุกซาตานขย้ำเข้าซักวันและเขาไม่มีทางไปทำอะไรแบบนั้นกับใครด้วย ทำได้อย่างไรกัน ก็เพราะมีแค่คนเดียวที่อี้เฟิงจะยอมให้มาทาบทามอยู่บนร่างแล้วเขาจะไม่ดิ้นหนี



“หยางหยาง..”
“หืม ?”




ดวงตาหวานเชื่อมเพราะความปรารถนาสบตาอีกคนที่หวานไม่แพ้กันแต่ร้องแรงกว่ามาก เขาละจากการจูบพรมไปทั่วร่างของอี้เฟิง ไม่แน่ใจว่าร่องรอยที่หยางหยางสร้างไว้จะตีตราเขาไปทุกตารางนิ้วแล้วหรือยัง กวาดตาไปมองเมื่อครู่ เขาง่วนอยู่กับสร้างร่องรอยตรงหน้าท้องของอี้เฟิง หลังจากวุ่นวายตรงยอดอกสีสวยของเขาอยู่นานนัก ดูสนุกและดูเป็นหมาป่ากระหายไม่น้อย อี้เฟิงรู้สึกตื่นเต้นกับคนคนี้เสมอ แม้จะเป็นช่วงที่เกลียดกันแต่เรื่องบนเตียงซาตาผู้นี้ทั้งน่ากลัว ทั้งตื่นเต้น หลากหลายมากมาย จะมีรอยอะไรก็ช่างมันแล้ว อี้เฟิงไม่สนใจ  จะทำก็ทำไป เพราะยอมให้เขาไปหมดแล้ว แต่แค่ตอนนี้อี้เฟิงมีเรื่องจะถาม





“ทำไมนายถึงชอบบอกรักฉัน”
“เพราะคุณจะได้ยินมันซักวัน หากผมตั้งใจบอกคุณเรื่อย ๆ “
“ไม่คิดว่าถ้านายบอกฉันไปเรื่อยๆ ฉันจะคิดว่ามันไร้ค่าหรือ ?”
“นั่นก็แล้วแต่คุณจะกรุณาผมเถอะ ตอนนี้เพราะผมได้มากกว่าที่ผมหวังไว้ แต่ที่จริงแล้ว แค่คุณยอมให้ผมแตะต้องคุณได้ นี่ก็กรุณาผมมากแล้ว”



อี้เฟิงพ่นลมออกจมูก หยางหยางน่าจะตอบคำถามไม่เป็นที่น่าพอใจแก่เทพบุตรน้อย ร่างสวยเบี่ยงออกเล็กน้อยเหมือนเลี่ยงไม่ให้หยางหยางแตะต้อง เขาพลาดไปหรือ



“พอฉันกรุณานายให้นายแตะต้องฉันแต่รู้ว่าไม่คู่ควรกับฉัน ได้ฉันแค่นั้นก็จะปล่อยฉันไปงั้นหรือ ?” สายตาเคืองโกรธเผยออกมานิดหน่อย แต่ยังอยู่ภายใต้สายตาจุดอารมณ์เย้ายวน หยางหยางมองตาอีกคนก็รู้แล้วว่าไม่พอใจ เขาขอโทษทางสายตา ก้มโน้มชิดใกล้ใบหน้าหวาน




“ไม่มีวัน คนที่แตะต้องคุณได้มีแค่ผมคนเดียว”
“ถ้าเช่นนั้นแค่วันนี้วันเดียว นายจะทำอย่างที่นายชอบทำกับฉัน หวงฉันมาก ๆ เข้าไว้ หากฉันไม่กรุณานายเมื่อไหร่ ฉันจะวิ่งหนีนายไป”



สายตานั่นไม่ใช่เล่น เหมือนถูกอีกฝ่ายท้าทาย หยางหยางมองสบตา อี้เฟิงคงมีความคับข้องใจบางอย่างแต่เขาไม่นึกจะรู้ แค่ทำตามที่เทพบุตรสั่งก็พอ




“ผมจะไม่มีวันปล่อยคุณไป”
“ดี”






หลังจากนั้นไฟอารมณ์ก็ลุกโชนขึ้นอีกครั้ง เมื่อครู่ก็ดูนุ่มนวลแต่เมื่อกระตุ้นซาตานเข้าหน่อย หยางหยางจึงกระหายมากขึ้น เหมือนหมาป่าหิวโหย




เพราะหยางหยางชอบน้อยใจ คิดมาก ก็ไม่ใช่แค่เจ้าซาตานบ้านี่คนเดียว อี้เฟิงก็ซับซ้อนไม่แพ้กันหรอก กังวลไปต่าง ๆนานา หากว่าหยางหยางพูดไปให้หวานหูแต่มันเป็นแค่ลมปากคนคนหนึ่ง หัวใจของอี้เฟิงจะทำอย่างไรไม่ให้เจ็บล่ะ ถ้าหยางหยางหมดรักเขาในซักวัน เพราะรักเรามันเป็นไปได้ยากเหลือกเกิน ทุกอย่างดูไม่เป็นใจให้กันเลย แล้วถ้าสุดท้ายแล้วเราจะต้องปล่อยมือกันไปล่ะ





อี้เฟิงจึงต้องปลุกใจซาตานเสียหน่อย อีกคนเป็นคนอย่างไร อี้เฟิงที่รู้จักนิสัยของหยางหยางไม่น้อย คิดว่ารู้จักดีกว่าใคร ๆ ด้วยซ้ำ คน ๆ นี้หวงของ และมีความจริงที่ยังไม่เคยบอกหยางหยาง ..อี้เฟิงก็หวงหยาง หยางมากเหมือนกัน





ทั้งความหล่อเหลาดั่งปีศาจ เสน่ห์เหลือร้าย เสียงทุ้มชวนละลายใจ รอยยิ้มที่เย้ายวน ทั้งหมดนั้น..อี้เฟิงหวงสุดหัวใจ





มารักเขาแล้วก็จะต้องดูแลสิ และทุกอย่างของหยางหยางก็จะต้องเป็นของเขาด้วย





“นายเป็นของฉัน”





เป็นเสียงกระซิบเบา ๆ ก่อนที่จะเริ่มขึ้นสู่สวรรค์











  THISMAN :: HiddeN - CHAPTER : ONE





เมื่อได้ยินเสียงกระซิบแผ่วเบา อยากจะตอบคืนไป แต่ติดที่หยางหยางมีอารมณืทำอย่างอื่นมากกว่า เขาได้ยินเสียงหวานสะดุดนิดหน่อย เพราะเขาเริ่มกระทำย่ามใจแล้ว เขาถอดเสื้อผ้าบนตัว กางเกงขายาวที่เจ้าของร่างสวยอยากถอดมันออกก่อนหน้า เขากองมันไว้กับเสื้อผ้าของอี้เฟิงข้างเตียง คว้าส่วนนั้นของตัวเองและกระตุ้นด้วยมือเล็กน้อย อี้เฟิงที่ดูกล้าขึ้นนิดหน่อยก็ยังไม่กล้ามองเขาในช่วงเวลาร้อนแรงนี้อยู่ดี หยางหยางเห็นสีหน้าน่ารักนั้นจึงอยากมอบจูบดูดวิญญาณให้อีกหลายครั้ง ๆ



“อ๊ะ ..ฮึ่ก ..เจ็บ..”



เพราะไม่ทำอะไรแบบนี้มานาน เหตุว่าเราไม่ได้ใกล้กัน หยางหยางจึงได้ยินเสียงร้องนั้น เขาผ่อนแรงและทำให้อี้เฟิงผ่อนคลาย จูบย้ำที่ขมับ แก้มเนียนและริมฝีปากอิ่มที่บวมเห่อเพาะการจูบหลายต่อหลายครั้ง


“คุณโอเคนะ”
“อื้อ”



ครั้งนี้ตอบรับง่ายดาย อี้เฟิงเหมือนได้กลับไปสู่ความสุขร้อนแรงที่เคยลิ้มลองกับซาตานตนนี้ แม้ในครั้งก่อนนี้มาจะไม่ปรารถนาแต่ตอนนี้ เขาต้องการหยางหยาง



“ผมจะไปแล้ว”




ไม่ทันพยักหน้าตอบ หยางหยางก็เริ่มขยับตัวเป็นจังหวะ เสียงหวานครางสอดรับกับจังหวะที่ขยับ เสียงผิวเนื้อที่กระทบกันดังอยู่ในหูจนอี้เฟิงต้องหลับตากลั้นเขิน ที่ทำใจกล้าให้เขาหวงสุดท้ายล้มเหลวเสียแล้ว อี้เฟิงเขินก็ส่งให้หน้าที่แดงเพราะอารมณ์รักอยู่แล้วยิ่งแดงเห่อจนสังเกตได้ชัด ซาตานผู้เห็นเหตุการณ์ทั้งหมดลอบยิ้มออกมาเมื่ออีกคนหลับตา เป็นการร่วมรักที่น่ารักชวนใจเต้นอะไรเช่นนี้ เหมือนเราเพิ่งจะทำอะไรแบบนี้กันเป็นครั้งแรกอย่างนั้นล่ะ อาจจะเพราะว่าเราไม่พบกันเลย






“อ๊ะ.. อื้อ...”





เมื่อคนบนร่างยิ่งเร่งให้ถึงฝั่งเร็ว ๆ อี้เฟิงก็ยิ่งบิดเรือนร่างสวยไปมาอย่างสุขสมใจ พร้อมส่งเสียงเปล่งออกมา มือสองข้างอยู่ไม่เป็นที่ ย้ายไปมา ล่าสุดมือเรียวสวยจิกอยู่บนหลังแกร่งของหยางหยาง ข่วนจนเป็นรอยไปแล้วแน่  ๆ จนใกล้แล้ว หยางหยางส่งเสียงสุขสมออกมาบ้าง อี้เฟิงได้ยินเสียงทุ้มนั้นใกล้ ๆ ยิ่งเขินจนละลายหัวใจมือไม้อ่อนไปหมด หยดน้ำตาหยาดลงหางตาทั้งเพราะสุขสมทังเพราะเจ็บนิดหน่อยทั้งอารมณ์มากมายหลากหลายก่อนหน้านี้ยังไม่หมดไป รวมกันเป็นหยาดน้ำตาหลายหยดนี้






“น้ำตาคุณมีค่านะ อี้เฟิง “





เขาจูบซับน้ำตาอีกครั้งพร่ำบอกถึงความล้ำค่าของหยาดใสจากนัยน์อีกฝ่าย และเร่งจังหวะด้านล่าง ให้ไปถึงสวรรค์กันเพราะตอนนี้เขาแทบจะทนไม่ไหว อี้เฟิงก็บิดร่างไปมา ครางหวานไม่เป็นภาษาให้ได้ยิน แบบนี้ก็คงจะอยู่ในระยะเดียวกัน  หยางหยางจึงช่วยส่งให้ความปรารถนาไปถึงไว ๆ






“อ๊ะ..อ๊า ฮึ่ก..ร้อน..”
“อา..”






หยางหยางไม่ถามอีกฝ่ายใต้ร่าง เหมือนครั้งก่อน ๆ แต่ปลดปล่อยในตัวอี้เฟิงไปจนเสร็จสิ้น เขาค่อย ๆ ถอนกายออก และฟุบลงซบที่ไหล่ของอี้เฟิง เมื่อถึงสวรรค์รำไร ใบหน้าหล่อหันไปหาแก้มใสเนียนและขโมยความหอมอีกครั้ง มีเหงื่อซับที่ไรผม หยางหยางก็พรมจูบให้อี้เฟิงหายเหนื่อย เสียงหวานที่เปล่งเสียงหวานหลังจากถูกเขาปลดปล่อยในร่างไป รู้สึกถึงน้ำอุ่น ๆ ที่ไหลย้อนออกมา เขาคงจะต้องช่วยอี้เฟิงทำความสะอาดตัวเองเสียหน่อย เพราะมันลำบากไม่น้อยเรื่องจะเอาสิ่งนั้นออกจากร่างกายและเผลอ ๆ เขาอาจจะได้กำไรจากช่วงนั้นก็ได้




“อื้อ..ฮึ่ก”



ของเหลวจากหยางหยางที่ถูกปลดปล่อยในตัวของอี้เฟิงไหลย้อนออกไปด้านนอก มันมากมายไม่น้อย ของเหลวพวกนี้ทำให้อี้เฟิงรู้สึกหวาบหวามในอกไม่มีที่สิ้นสุด และอี้เฟิงก็ปลดปล่อยตามหยางหยางไปติด ๆ ปลายยอดของอี้เฟิงยังแตะส่วนหน้าท้องของคนบนร่าง เขินจนทำอะไรไม่ถูก แต่เพราะอีกฝ่ายยังนอนทับตัวเขา น้ำสีขาวนั้นจึงเปรอะหน้าท้องที่เต็มไปด้วยมัดกล้ามนั้นไปทั่ว อี้เฟิงไม่มองมันเมื่อเจ้าซาตานบ้านี่พยายามแตะมือใหญ่ละเลียดส่วนหนึ่งของน้ำสีขาวมาชิมรส เขาจะเป็นบ้าตายถ้าได้เห็นภาพที่หยางหยางทำอยู่เต็มตา



“นายนี่มัน..”
“คุณก็ยังหวานไม่เปลี่ยน”
“อย่าพูดอะไรแบบนั้นได้มั้ย”
“กลัวจะต่ออีกรึไง”
“ฉันเหนื่อยแล้วนะ นายเองก็ไม่สบายอยู่ไม่ใช่รึไง”
"หายเเล้วหน่า ก็ออกแรงไปก็เยอะ จริง ๆ ต่ออีกก็ได้"
"หยุดเลยนะ ไอ้บ้านี่


เถียงกันจนเหนื่อย ทูนหัวของหยางหยางงับปากหลังกจาด่าเสร็จ หยางหยางแค่แกล้งเท่านั้น ไม่คิดจะต่ออยู่เเล้ว ที่จริงก็รู้สึกเหนื่อยนิดหน่อยก็คงเพราะทั้งเพลียจากการออกแรง ทั้งพิษไข้ กลัวอีกคนจะติดหวัดไปด้วยเชียว แต่ก็ทำอะไรกันไปแล้ว คนข้าง ๆ ขยับตัวขลุกขลักนิดหน่อย เหมือนไม่สบายตัว หยางหยางก็คิดออกว่านอนทับเขาเกือบจะทั้งร่าง ตอนทิ้งตัวไปเพราะเหนื่อยหอบจากกิจกรรม จึงขยับลงจากร่างของอี้เฟิง น้ำขุ่นขาวที่ยังเปรอะอยู่เล็กน้อยบนหน้าท้องเขาคิดว่าไว้จัดการทีหลัง และของเหลวในร่างอี้เฟิงก็ด้วย ทั้งที่ไหลย้อนออกมาภายนอกอีกก็ค่อยว่ากัน แต่ตอนนี้เขาขอกอดร่างข้างกายไว้จนเช้า






อาจจะเป็นคืนเดียวที่เราจะได้ใกล้กัน โอกาสมันมีค่าที่สุดเสมอ







และเมือหยางหยางเกี่ยวเอวอี้เฟิงรั้งร่างสวยมากอดไว้ ไม่นานมือเรียวสวยก็กอดตอบร่างแกร่งแข็งแรงเหมือนกัน คุณซาตานดูประหลาดใจแต่มีความสุขมากกว่ามาก ใบหน้าหล่อเหลาเอียงซบกลุ่มผมนุ่มและลอบลักเอาความหอมไปอีก



“หืม ?”



อี้เฟิงนอนนิ่งในอ้อมกอดหยางหยาง พลางรอว่าเขาจะทำอะไรบ้าง เมื่อกอดเขา ครั้งนี้เจ้าซาตานบ้าทำให้เขาประหลาดใจ มือใหญ่โอบร่างอี้เฟิงแน่นขึ้นนิดหน่อยและพยายามให้เราใกล้ชิดที่สุด เขาฮัมเพลงอะไรซักอย่างออกมา ซักครุ่หนึ่งถึงได้ฟังรู้ว่าเป็นเพลงของอี้เฟิงเองที่เพิ่งร้องไปเมื่องานก่อนหน้านี้



“ผมชอบเพลงนี้ ไว้ร้องให้ผมฟังทางโทรศัพท์บ้างนะ”
“นายไม่คิดว่าฉันจะร้องไห้เพลงนั้นให้นายบ้างหรือ ? “
“แต่มันก็เกี่ยวกับเนื้อหาหนังของคุณ ผมไม่กล้าคิดเข้าข้างตัวเองขนาดนั้นหรอก”



เรียวปากอิ่มสวยยิ้มแย้ม และเก็บบางอย่างไว้ในใจ ดวงตากลมโตพริ้มหลับ รับฟังเสียงฮัมเพลงของตัวเอง ก็เพราะไปอีกแบบเสียงทุ้มของหยางหยางละลายอี้เฟิงเท่าไหร่ต่อเท่าไหร่แล้ว



“หืม? “


คราวนี้เป็นเสียงอุทานในลำคอจากหยางหยางบ้าง เมื่อคนน่ารักในอ้อมกอดก็หัวเราะคิกออกมา เสียงใสน่าฟัง หยุดเพลงที่เขาฮัมออกมาได้ คนรูปหล่อแปลกใจซักครู่ แต่ก่อนถามเขาอยากจะมอบจูบให้กับความน่ารักนี้ก่อน


“ฉันมีความสุข”
“มีความสุขจนต้องหัวเราะออกมา ?”
“อือ”
“ขอบคุณครับ”
“เช่นกัน”




เหมือนจะเป็นบทสนทนาที่ดูไม่ต่อเนื่องกันซักเท่าไหร่ แต่อี้เฟิงก็พอใจที่ได้ยิน หลังจากนั้นคนน่ารักก็ขดตัวเป็นแมวน้อยซุกอกแกร่งของอีกคน หยางหยางในครั้งนี้หัวเราะออกมาบ้าง เพราะขำที่อีกคนทำอะไรช่างอ้อนแบบนี้กับเขาก็ได้ จะให้เขาหลงรักทั้งหวงให้มากกว่าที่เป็นอยู่สินะ




เพราะอาจจะเป็นครั้งเดียว... อี้เฟิงคิดในใจ  จะอ้อนเขาซักหน่อยก็คงไม่เป็นไร









มือใหญ่กระชับให้อ้อมกอดแนบชิดที่สุด เหมือนอี้เฟิงจะหลับคาอกเขาไปแล้ว ที่น้อยใจว่าอีกฝ่ายลืมกอดของเขา ท่าทางหยางหยางจะคิดไปเอง







ในใจเขา ภาวนาให้มีอีกครั้ง แม้จะไม่กี่วินาที ก็ขอให้เราพบกัน








แต่อย่างน้อยวันนี้เขาก็นอนหลับฝันดี ..ไปอีกวัน









  THISMAN :: HiddeN - CHAPTER : ONE







เช้ามานี้ แม้จะไม่อยากคลายกอดแต่จำต้องลุกไป หยางหยางมอบจูบให้อี้เฟิงเป็นมอร์นิ่งคิส และอีกฝ่ายแม้เขินอายอยู่หน่อย ๆ แต่ก็มอบมันกลับคืนมาเช่นกัน เกือบเลยเถิดไปอีกรอบเมื่อถึงช่วงเวลาแมวอาบน้ำเพราะหยางหยางยืนยันจะช่วยอาบน้ำและจัดการของภายในตัวอี้เฟิง เกือบจะโดดงานกันไปอีกทั้งคู่ ถ้าไม่มีโทรศัพท์ของอี้เฟิงดังเตือนสติ หลังจากนั้น ต่างคนต่างจัดข้าวของของตัวเอง ผู้จัดการของอี้เฟิงโทรมาปลุกตั้งแต่เช้าโทรมาย้ำเวลาอีกครั้ง และเมื่อใกล้เวลา เธอจะมารับ ส่วนผู้จัดการของหยางหยางที่ไม่กล้าเข้ามาส่งข้อความมาแจ้งเวลางานวันนี้





“ต้องไปแล้ว”
“ครับ”


ใบหน้าหล่อดูขรึมลง เพราะต้องคุมอารมณ์เอาไว้ ถ้าแสดงออกไป เขากลัวว่าจะทำให้อีกฝ่ายต้องกังวล


อี้เฟิงก็ไม่แพ้กันที่ยิ้มตอบรับ ว่าเราต้องจากกันแล้ว เขายืนอยู่หน้าประตูทางออก หยางหยางลงมาส่งเขาที่ล็อบบี้โรงแรมที่ปลอดคนเพราะยังอยู่ในช่วงเช้ามืด เพราะไม่ใช่ที่ของเราสองคน จึงทำได้เพียงแค่ยิ้มให้กัน





จนเมื่อมีรถมาจอดเทียบประตูโรงแรม หยางหยางจำต้องส่งอี้เฟิงด้วยรอยยิ้มแม้ไม่อยากให้อีกคนไป



เราได้กอดกันแค่ในใจ





“ยิ้มไว้ เราจะได้เจอกันอีก “


เป็นคำบอกลาที่น่ารักสมเป็นเทพบุตรน้อยมีตะโกนไล่หลัง เขายังเป็นห่วงหยางหยางเรื่องอาการไข้ทั้งที่ก็ทำอะไร ๆ กันจนดูเหมือนจะหายแล้วด้วยซ้ำ รอยยิ้มสดใสที่ถูกส่งมาให้ มันไมได้เย็นชาแบบบนเวที หรือที่ไหนที่มีผู้คนรายรอบ



“ผมจะพยายามเอง พยายามเพื่อให้ได้พบคุณ “



เขาส่งเสียงบอกไปก่อนอี้เฟิงปิดประตูรถ และเห็นรอยยิ้มแต่งแต้มบนใบหน้าหวานนั่นเมื่อได้ยินประโยคที่เขาพูด



ไม่นานที่หยางหยางเดินกลับถึงที่พักก็ได้รับช้อความจากหลี่อี้เฟิง เป็นข้อความชวนให้ยิ้มได้ และแสดงถึงความสัมพันธ์ของสองเรา





“บางครั้งฉันก็กลัวจะเสียนายไป ฉะนั้นเราจะต้องหลอกคนทั้งโลก ว่าเราก็แค่คนที่ยืนข้าง ๆ กันเพียงเท่านั้น”




ก็ใช่ว่าเขาจะไม่มีหัวใจเสียหน่อย เทพบุตรน้อยคนนั้น
ถึงคราวเขาจะต้องใช้ผ้าเช็ดหน้าที่ขโมยมาจากอี้เฟิงเสียแล้ว










ที่ทำเย็นชาแบบนั้นก็ไม่ใช่ว่าจะไม่มีหัวใจเสียหน่อย...





อี้เฟิงส่งข้อความที่ดูปวดร้าวไปหน่อยแต่ตรงใจที่สุด หวังว่าอีกฝ่ายจะเข้าใจ เขาส่งอีโมติค่อนรูปหน้ายิ้มมาให้ เข้าใจจริง ๆ หรือเปล่า แต่ต่างคนต่างต้องยิ้มรับกับสถานะของเราทั้งคู่





เราจะเสียกันและกันไปไม่ได้เลยจริง  ๆ










เขาคิดพลางกอดหมวกใบหนึ่ง เขาหยิบมันติดมือมาจากสัมภาระของหยางหยาง ก็ถือว่าขโมยกันนี่ล่ะ ก็ผ้าเช็ดหน้าของเขาหายไปเหมือนกัน











END------------------THISMAN :: HiddeN - CHAPTER : ONE------------------










ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น