วันพุธที่ 16 ธันวาคม พ.ศ. 2558

[Fic] THISMAN :: HiddeN - CHAPTER : TELL



TITLE :  THISMAN :: HiddeN
CHAPTER : TELL 
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG - 13






***********************************************************************









ย้อนกลับในวันที่เจอกันครั้งแรก สายตาคู่นั้น  เราต่างจดจำกันได้ดี










“สวัสดีครับ ผม หยางหยาง ยินดีที่ได้ร่วมงานกับทุกคนนะครับ”
“สวัสดีครับ ผม หลี่อี้เฟิง ยินดีที่ได้ร่วมงาน ฝากเนื้อฝากตัวด้วยนะครับ”










วันเวลาเหล่านั้น ที่หยางหยางได้พบกับอีกคนหนึ่ง เขาเป็นรุ่นพี่ที่อยู่ร่วมค่ายเดียวกันมาตั้งแต่ไหนแต่ไร และเราสองคนก็วนกลับมาเจอกันในละครจากนิยายเรื่องดังอีกครั้ง โดยการจัดการของทีมงานของเราสองคนทั้งสองฝั่ง













แต่เรื่องราวทุกอย่างมันกลับตาลปัตรไปมากขึ้น เมื่อหยางหยางคนนี้ กลายเป็นซาตานของอีกคน














และอีกคน...หลี่อี้เฟิง คนนั้น เทพบุตรของทุกคน ได้กลายเป็นเครื่องมือที่ไว้บำเรอความเจ็บปวดของเขาภายในใจที่อัดอั้นไว้ เพราะร้ายกาจที่งอกขึ้นมาโดยมันถูกเลี้ยงดูมาอย่างดี ท่ามกลางความเกลียดชังของคนรอบข้างเราทั้งสองฝ่าย แก่งแย่งกัน ตามประสาความเป็นธุรกิจและกระแสเม็ดเงิน
















จนในที่สุด เราเกลียดกันจนสุดหัวใจ แต่ยิ่งเกลียดกันมากเพียงไร  เมื่อได้รักกันยิ่งนับได้เท่าทวี








ก่อนที่เราจะได้พูดคุยกัน ยิ้มให้กันและมีโอกาสเราก็กอดก่ายกันได้ ใกล้ชิดหัวใจกันมากขนาดนี้ เราผ่านความเจ็บปวดในช่วงนั้นมาไม่น้อย...ที่จริงๆ เขาเป็นคนทำร้ายเทพบุตรของเขากับมือด้วยซ่ำ








ซาตานผู้โง่เขลาหลงรักเทพบุตรจนหมดหัวใจแล้ว เรียกได้ว่าเเทบตกเป็นทาส











แต่อย่างไรแล้ว...เพื่อรอยยิ้มของเขา หลี่อี้เฟิงคนนั้น เทพบุตรที่อยู่สูงเทียมฟ้า ...
หยางหยางคนนี้ไม่คิดเลยจริง ๆ ว่าเหตุการณ์ที่ผ่านมา ทั้งหมด มากมายนานนับปี จะทำให้เราสองคนมาลงเอย กับคำว่า หัวใจตรงกัน













และเรารักกันได้









ที่จริงหยางหยางอยากได้ความรักของอีกคนมากกว่านี้ เพราะอีกคนแทบไม่แสดงออกอะไรมากมาย เขาเป็นซาตานผู้โลภมาก แต่แค่นี้ก็ถือว่ามากแล้ว 









ได้รอยยิ้มแค่นี้ก็มากพอ และกับการที่อีกฝ่ายรับฟังคำบอกรักของเขาที่ไม่ยอมรู้จักจบสิ้น เท่านี้ก็พอเเล้ว หากหวังมากกว่านี้ เขากลัวว่าจะต้องสูญเสียกันไปตลอดกาล











และได้เวลาอีกครั้งที่หยางหยางจะพร่ำบอกเทพบุตรด้วยถ้อยคำเดิม ๆ 
























“อี้เฟิง  ผมรักคุณ”









THISMAN : HIDDEN  - TELL-















“นายบอกฉันนับครั้งไม่ถ้วนแล้ว”












อี้เฟิงรับคำนั้นผ่านการติดต่ออนไลน์ของเทคโนโลยีสมัยใหม่ บนจอมือถือของเขา ฉายภาพเป็นหนุ่มหล่อรุ่นน้องที่ตอนนี้เขาสองคนมีหัวใจที่ใกล้ชิดกันมากกว่าใคร









เรารักกัน










“ผมอยากบอกคุณซ้ำ ๆ ทดแทนกับที่ผม...”
“ยังจะขุดมาพูดกันอีก”
“ผมสำนึกผิดตลอดเวลากับสิ่งที่ผมทำลงไปนะ”
“ฉันไม่เคยให้อภัยนาย ในอดีตที่นายเคยทำกับฉัน ฉันไม่เคยรักหยางหยางคนนั้น”









เมื่อพูดไปดังนั้นแล้ว  ใบหน้าของหยางหยางบนหน้าจอของเขาเปลี่ยนไป แม้จะฟังถ้อยคำบอกรักหลายครั้ง ที่หยางหยางพูดออกมา อี้เฟิงไมได้เบื่อมันแต่อย่างใด แต่กลัวอีกฝ่ายจะเหนื่อยที่จะต้องย้ำเตือนถึงความรักกับอี้เฟิงตลอดเวลา หัวใจของเขายังแกว่งมา เพราะซาตานที่ยังไม่สงบ










“ผม...ผมรู้”












อี้เฟิงถอนหายใจ ใบหน้าคนรักที่อี้เฟิงสามารถเรียกเขาได้เต็มปากด้วยคำนั้นเปลี่ยนสีไป เพราะเขาพูดตามตรงตามที่ใจคิดอยู่นาน และวันนี้เขาก็พูดไปแล้ว หลังจากที่ไม่ได้คุยกันมานานหลายวัน ไม่ได้เห็นหน้าค่าตากันชัด ๆ นอกจากการพบกันแบบต่างคนต่างเจอ อย่างการมองภาพของกันและกันในสื่อออนไลน์ เพียงแค่นั้น  ผู้จัดการของพวกเขาสองฝั่งแม้ไม่ห้ามก็ใฃช่ว่าจะให้คุยกับต่อหน้าต่อตาให้เห็น จนไม่พอใจกันได้












“แต่ถ้าเป็นหยางหยางคนนี้ ปัจจุบันที่ฉันคุยอยู่ ฉันไม่เกี่ยงหรอกนะ .... ฉันสามารถให้ความรู้สึกกับเขาได้”








พอพูดดังนั้นไป  เจ้าเด็กอ่อนกว่าสี่ปีที่ตอนนี้หลงรักหลี่อี้เฟิงผู้นี้อย่างถอนตัวไม่ขึ้นก็พลันส่งยิ้มละลายหัวใจอี้เฟิงมาผ่านสื่อออนไลน์ที่เห็นกันได้บนจอโทรศัพท์  ยิ้มนั้นทำให้เขาเขินตามไป จนอี้เฟิงต้องคว่ำจอโทรศัพท์หนีหยางหยางไป อีกฝ่ายร้องเห้ยหลุดจากปลายสายมา เรียกให้อี้เฟิงกลับไปคุยกันอีกครั้ง







“วางสายไปเลย”
“เขินผมใช่มั้ย”
“อย่ามาล้อกัน”
“อี้เฟิง”







อี้เฟิงฟังน้ำเสียงออดอ้อนของหยางหยางผ่านปลายสายออกมาจากลำโพงโทรศัพท์ก็ยิ่งไม่อยากคุยด้วย เขามักจะแสดงอาการจนอีกฝ่ายล้ออยู่เป็นประจำ ครั้งนี้ก็อีกแล้ว เพราะเมื่อเขินหรืออาย อี้เฟิงไม่เคบเก็บไว้ได้ มันฉายออกมาหมด และซาตานเจ้าเล่ห์ที่ดูเหมือนจะสิ้นฤทธิ์ก็ดูออก และแผลงฤทธิ ให้เขาเขินอยู่เรื่อย







“หยางหยางคนนี้ที่อยู่ตรงหน้าคุณ จะทำให้คุณรักจนหมดหัวใจ โปรดเชื่อ...นะครับ”








น้ำเสียงออดอ้อนอีกครั้งส่งผ่านปลายสายมา ด้วยประโยคนั้น แม้ออดอ้อนก็จริง แต่หากว่าความจริงจังที่ฝังอยู่ในนั้นหนักแน่น และมั่นคง แม้เป็นเพียงถ้อยคำผ่านสื่อก็สัมผัสถึงมันได้







“อือ..”







อี้เฟิงตอบกลับหยางหยางไปแค่นี้ และอีกฝ่ายรู้นิสัยของอี้เฟิงดีอยู่แล้ว จึงไม่คิดเซ้าซี้ต่อ และบอกราตรีสวัสดิ์ วางสายกันไป แต่ก็มีแอบแถมคำพูดหวานๆ รอยยิ้ม และสายตาแพรวพราวตามนิสัยส่งให้อี้เฟิง มีย้ำว่าเขาทำแบบนี้กับเทพบุตรของเขาคนเดียว จนอี้เฟิงต้องไล่ให้ไปนอน เพราะทนมองสายตาหมาป่าเจ้าเล่ห์นั่นไม่ไหวแล้ว









“เจ้าบ้านี่”





เมื่อวางสายกันไป อี้เฟิงก็กลับมาสู่ช่วงเวลาที่ได้อยู่กับตัวเองอีกครั้ง เขาคิดทบทวนเมื่อครั้งที่ได้พบกันในครั้งแรกกับรุ่นน้องคนนี้ มันนานมากแล้ว จนเกือบลืมเลือนเหตุการณื แต่ความรู้สึกมันยังฝังอยู่ในใจ









ผีเสื้อตัวนั้นยังคงบินวนอยู่ในท้องของอี้เฟิงจริง ๆ ด้วย











เมื่อคิดถึงรอยยิ้มเมื่อแรกพบกับหยางหยาง ก็จะรู้สึกเหมือนมีผีเสื้อบินวนในท้องทุกครั้ง และอี้เฟิงจะเผลอหน้าแดงออกมาอย่างไม่รู้ตัว










ตอนนี้อี้เฟิงสัมผัสได้ว่า ความรู้สึกนั้นกลับมาอีกครั้งเท่ากับที่รู้สึกในครั้งแรก











เมื่อครู่ที่ได้เห็นรอยยิ้มของหยางหยางผ่านจอโทรศัพท์ รอยยิ้มนั้น ...มาจากคนที่เคยเป็นซาตานผู้ทำร้ายเขาอย่างแสนสาหัสจริง ๆ น่ะหรือ












หรือว่าซาตานผู้นั้นเป็นเพียงแค่ความฝันที่เลือนหายไปเท่านั้น















แต่หากว่าความเจ็บปวดนั้นยังคงอยู่ ไม่ใช่ลืมไป แผลนั้นยังคงอยู่ ยังจำความเจ็บปวดตอนนั้นได้ด้วยซ้ำ














หากว่าเมื่อนึกกลับมาถึงตอนนี้ ผู้ที่ทอรอยยิ้มสดใสให้เขาเมื่อครู่ นคนนั้นของหลี่อี้เฟิง ที่เคยส่งยิ้มให้จนทำให้อี้เฟิงมีผีเสื้อบินวนในท้องและทำให้ดอกไม้ในใจของอี้เฟิงเบ่งบาน 







เขาคืนกลับมาแล้ว














แม้ว่าท้องฟ้าจะปลอดโปร่งในยามค่ำคืน แต่เทพบุตรคนนี้รู้สึกเหมือนมีฝนตกตรงที่นัยน์ตา











"ทำไมความรักมันยุ่งยากแบบนี้..."























ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น