วันอาทิตย์ที่ 3 กรกฎาคม พ.ศ. 2559

[Fic] คุณในนั้น-- You're in ตอนที่ 6 #หยางเฟิง




TITLE :   คุณในนั้น--  You're in
Chapter : 6
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG 
TELL : มาเเล้ว~~~

************************************************************************************************************************






“คุณ..หลี่อี้เฟิง!
“เจ้าจะตะโกนทำไมกัน!


หยางหยางเรียกอีกคนที่อยู่บนบก ตรงริบน้ำเสียงดัง แต่เจ้าตัวตกใจเสียเหมือนกลัวราวกบัว่าใครจะได้ยินเสียง สายตาคมกริบลองหมุนตัวสังเกตไปรอบตัว

เหมือนเดิม ..แต่เปลี่ยนไป


ทุกอย่างอยู่ในสภาพเดิม แต่หยางหยางรู้สึกว่ามันไม่ใช่ที่ที่เขาเคยอยู่



ทุกอย่างอยู่ที่เดิม บ่อน้ำนี่ก็คือบ่อที่เขาตกลงไป
แต่บรรยากาศที่เปลี่ยนไป และบางอย่างที่เขารู้จากจิตใต้สำนึกว่ามันไม่ใช่
ยิ่งคนตรงหน้า! ยิ่งไม่ใช่กันเข้าไปใหญ่


“คุณ..หลีอี้เฟิง จริง ๆ น่ะหรือ ?”. หยางหยางเอ่ยเสียงเบา ราวกับว่า ถ้ายิ่งดัง คนตรงหน้าจะสลายไปเพราะตกใจเสียงทุ้ม แต่เจ้าของหน้าตาน่ารักในชุดจีนโบราณตีหน้าขึงขังถือขลุ่ยด้ามสวยพร้อมหยกปลายขลุ่ยยชี้มาตรงหน้าคนรูปหล่อในบ่อน้ำ


“ก็ข้าน่ะสิ จะใคร แล้วเจ้าน่ะเป็นใคร ทำไมมาตกน้ำอยู่ในบ่อน้ำบ้านข้า ขโมยรึ!?” อี้เฟิงพูดเสียงเบาลงอีกหนึ่งระดับเหมือนให้ได้ยินกันสองคน แววตาสู้คนแต่ตัดผ่านด้วยความกังวลและกลัว...หยางหยางมองเห็นว่าคนตรงหน้ามีความกลัวต่อเขา



ตอนนี้หยางหยางงงไปหมด นี่มันอะไรกัน แล้วทำไมคุณในนั้น คุณที่หยางหยางเฝ้าฝันอยากเจอที่อยู่ในรูปกลายเป็นตัวจริที่เขาสามารถสัมผัสได้



“เห้ย ๆ .. เจ้าน่ะ..กะ..ใกล้ข้าไปแล้ว”  ไม่รู้ตัวเลย...ไม่รู้ตั้งแต่เมื่อไหร่ หยางหยางปืนข้ามขอบบ่อมาถึงตัวของอี้เฟิง ใช้เวลาไม่นานแต่เขาไม่รู้ตัวว่าเขาเข้าใกล้อี้เฟิงได้ขนาดนี้ตั้งแต่เมื่อไหร่ อี้เฟิงไมได้ถอยห่างไปไกล ทั้งกลัวทั้งสงสัย ชยัชนะแห่ความสงสัยมีมากกว่านัก อี้เฟิงรอว่าคนแปลกตรงหน้าจะทำอะไรเขา หยางหยางที่รู้ตัวแล้วว่าตนเข้าใกล้ร่างสวยงามตรงหน้ามากเกินไปแล้ว พอรับรู้ถึงระยะ จึงหยุด



ใกล้ระยะไหน วัดกันได้แค่ปลายขลุ่ยที่ชี้มาตรงสันจมูกหยางหยาง หากขยับเข้าไปอีกซักคืบ ก็คงโดนปลายขลุ่ยฟาดสันสวย ๆ นี่เข้าให้

เขาปีนขึ้นมาจากบ่อ มันไม่ได้สูงมากขนาดเกินความพยายาม ดวงตาคาสวยที่เต็มไปด้วยความทึ่งปนตกใจ จดจ้องเขาไม่วางตาและหยางหยางมั่นใจว่าดวงตาของเขาเองก็สะกดเจ้าตัวเจ้าของดวงตาคู่สวยนั้นอยู่หมัดเช่นกัน เพราะไม่เช่นนั้นก็คงรู้ตัว ยามที่เขาเข้าไปใกล้ขนาดนี้

“ผมแค่อยากมองหน้าคุณให้ชัด..คุณ...จริง ๆ ด้วย “


หยางหยางพูดเหมือนล่องลอยในฝัน ในที่สุดเขาก็ได้มองใบหน้าหวานที่เฝ้าคิดถึงได้ซักที แต่ตอนนี้เขาอยู่ไหนน่ะหรือ ? ในฝัน หรือจมน้ำตายไปแล้ว ...



“ในเมืองนี้ มีคนประหลาดแบบเจ้า..ดะ..ด้วยหรือไง “  อี้เฟิงพูดโพล่งขึ้นมา เมื่อสายตาคมกริบจับจ้องไม่ขาด ยิ่งมองจ้งมา ยิ่งทำให้หน้าขึ้นสี รู้สึกขวยเขินขึ้นมาเสียอย่างนั้น



อี้เฟิงสังเกตเห็นตั้งแต่แรกแล้ว



เขาที่นั่งเป่าขลุ่ยทอดอารมณ์เบื่ออยู่ริมบ่อน้ำบ้านตัวเอง อยู่ ๆ ก็มีบางอย่างที่ไม่น่าเชื่อเกิดขึ้น



ราวกับเทพบุตร... อี้เฟิงให้นิยามเมื่อครั้งแรกที่ได้พบหยางหยาง



มันแปลก ที่จู่ ๆจะมีคน ๆ หนึ่งโผล่ขึ้นมาจากน้ำ บ้าเสียจริง  อี้เฟิงขยี้ตาแล้วขยี้ตาอีก นึกว่าเขาคงง่วงจนละเมอไปแล้ว จึงเห็นคนโผล่มาจากใต้น้ำ แต่ไม่ใช่ คนจริง ๆ เป็นมนุษย์หรือเทพบุตรก็ไม่รู้แน่ได้ แค่รับทราบได้จากสายตาของเขาเองว่า รูปร่างตรงหน้านี้ช่างน่ามอง ใบหน้าที่ราวกับรูปสลักสวรรค์ ความหล่อเหลาหาใครเทียบ ดวงตาดำขลับนิ่ง คมกริบดุจกระบี่กระบี่เชือดเฉือนใจ รูปร่างที่ดี เป็นสัดส่วนทองคำ มองจนครบก็รู้ได้ว่าดูแลรุปร่างของตนมาเป็นอย่างดี ความแข็งแรงนี้ไม่ใช่เรื่องโป้ปด ยามที่สายตาของชายหนุ่มตรงหน้าอี้เฟิงจับจ้องมาทางเขา ก็เหมือนโลกเปลี่ยนไป ชายนหุ่มตรงหน้าตาหวานใส่อี้เฟิงเหลือเกินจนต้องเบือนหน้าหนี พอหันกลับไป เพราะความอยากรู้ ก็ยังคงมองอยู่ไม่วางตา และในที่สุดความอยากรู้ของอี้เฟิงก็ขนะ ก็สู้สายตาชายหนุ่มตรงหน้านี้เสียเลย อีกฝ่ายเองก็กำลังขยับเข้ามาใกล้อี้เฟิงแล้วเช่นกัน

ระยะเราของเราใกล้กันมากจนอี้เฟิงหายใจติดขัด เขาขึ้นมาจากน้ำตั้งแต่เมื่อไหร่ไม่รู้ เพราะสายตาของอี้เฟิงโดนสะกดไว้กับใบหน้าหล่อเหลาดั่งรูปสลักนั้น จนไม่สังเกตเลยว่าอีกฝ่ายเข้ามาใกล้เพียงใด และเมื่อเข้ามาใกล้ได้ก็พร่ำกับเขาว่าได้พบซักที


“พบคุณแล้ว คุณในนั้นของผม”




เสียงทุ้มชวนฝันพูดดังนั้น ..และไม่นานนัก




ชายผู้นั้นที่มากับผิดแปลพิสดาร ก็รุกเข้ามาใกล้ขึ้น และใกล้มากจนได้ยินเสียงหายใจ ไม่ทันไรก็จู่โจมจนใกล้เสียขนาดนี้

ได้ซักครู่ก็สบตากัน  หลังจากนั้นไม่นานนัก.....


และชายหนุ่มแปลกหน้าผู้นี้ก็ได้ขโมยจูบแรกของหลี่อี้เฟิงไปแล้ว


*** คุ ณ ใ น นั้ น ***


“นั่งตรงนั้นเลย!” เสียงหวานเอ่ยสั่งไม่ให้ร่างชองชายหนุ่มแปลหน้าขยับออกจากพื้นที่ที่สั่งได้ อี้เฟิงยังหน้าแดงไม่ตกสี  ทั้งพวงแก้ม ทั้งใบหู ลามไปจนถึงจมูกได้รูปสวย แดงเป็นลูกตะลึงดูน่ารักน่าชัง จนหยางหยางมองไม่วางตา อี้เฟิงคนน่ารักคาดโทษให้แล้ว


“เจ้านี่มันบ้า”
“คุณน่ารัก”
“ยังจะมาพูด!
“ก็คุณน่ารักจริง ๆ “
“ข้าไม่ชอบให้พูดกับข้าแบบนั้น”
“คุณน่ารัก”



อี้เฟิงแทบจะเขวี้ยงขลุ่ยใส่จมูกโด่ง ๆ นั่น ถ้าไม่ติดว่าเป็นของหวงของตน หลังจากจูบกัน เพียงริมฝีปากสัมผัส คล้ายกับว่าหยางหยางอยากรู้ว่า คนตรงหน้าเป็นความจริงหรือแค่ฝัน ได้ได้รับรู้แล้วจึงละจูบออกมา และยิ้มพราวให้จนอี้เฟิงตาลายไปหมด และไม่นาน ก็ได้ยินเสียงโหวกเหวกของคนรับใช้ภายในบ้าน ก็คงเพราะเสียงของเขาที่ตกใจโวยวายไปก่อนหน้า และเหมือนอี้เฟิงคุยกับใครอยู่ ในเรือนนี้ นอกจากอี้เฟิงก็ไม่มีใครแล้ว จะมีก็แต่เรือนหลังใหญ่ถัดไปอีกไกล คนรับใช้จึงคิดห่วงเข้ามาดูเจ้านายอย่างอี้เฟิง อี้เฟิงจึงต้องพาชายแปลหน้าหลบฉากเข้าห้องปิดประตูลงกลอน และเมื่อคนรับใช้ตะโกนเข้ามาไถ่ถามก็เพียงแต่บอกไปว่า ไม่มีอะไร ข้าละเมอ ข้าจะนอน และดับเปลวไฟปลายเทียน





ทีนี้ก็เหลือเพียงแค่เขาและชายหนุ่มแปลกหน้าแล้ว
..




“คุณ...เอ่อ ...”  ชายหนุ่มรูปสลักสวรรค์เอ่ยพูดกับอี้เฟิง ดวงตากลมโตชายตาไปมองดู แม้คาดทาไว้อยู่เต็มหน้าผากเขา แต่ก็อยากรู้ว่าเขาจะพูดอะไร


“ผม..เอ่อ ..หนาวน่ะ มีเสื้อผ้าให้เปลี่ยนหน่อยมั้ย”


ริมฝีปากอิ่มคลี่ยิ้มออก..ลอบขำคน ๆ นั้น หนาวก็เป็นด้วย คนประหลาดก็หนาวเป็น
 ใบหน้าชายหนุ่มตรงหน้า อี้เฟิงเห็นไม่ถนัดนัก เพราะมีเพียงแค่แสงจันทร์จากท้องฟ้ายามค่ำคืนส่องมา แต่รับรู้ได้ว่าแววตาคมกริบยังมองมาไม่เลิก

อี้เฟิงเดินไปหยิบเสื้อผ้าของตนที่ชั้นวาง เมื่อครบชิ้นก็คลำทางไปถึงตัวชายแปลกหน้า ส่งให้เขาไป แต่ยังระวัง กลัวจะโดนทำอะไรอีก จึงไม่เข้าไปใกล้มากนัก

“ผมไม่จูบคุณแล้วหน่า”
“ฮึ!


แม้อี้เฟิงจะแปลกใจกับคำพูดบางคำ และสรรพนามไม่คุ้นหู แต่แปลกใจตัวเองเหมือนกันที่เข้าใจที่ชายแปลกหน้าพูดทุกคำ

“ข้าถามได้ไหม ? เจ้ามาจากไหน?”
“ผมเองก็ยังไม่รู้เลย ว่าตอนนี้ ผมอยู่ที่ไหน”
“เรือนบ้านหลี่ ใจกลางเมืองค้าแห่งจีนแผ่นดินใหญ่”
“แต่ทำไมผม..รู้สึกว่ามันเหมือนไม่ใช่”
“ทำไมจะไม่ใช่”
“มันพูดยาก”

หลังเอ่ยจบ ทิ้งปริศนาให้คนน่ารักงง หยางหยางมองไปรอบตัว หาจุดที่มีแสง อยากรู้ว่าจริง ๆ แล้วเขาอยู่ที่ไหน และกำลังทำบ้าอะไรอยู่กันแน่ แม้ตอนนี้เขาจะพอเข้าใจสถานการณ์ ปะติดปะต่อได้ แต่ก็ยังไม่ปักใจเชื่ออยู่ดี


ว่าเขาข้ามเวลาจากปัจจุบันมาสู่อดีตแล้ว



และมาพบกับหลี่อี้เฟิงตัวจริง  นี่เป็นเพียงสิ่งเดียวที่ทำให้เขารู้ว่าที่นี่ไม่ใช่ที่ที่เขาอยู่เดิม เหมือนเวลามันเปลียนไป ..


ชายหนุ่มที่ได้รับเสื้อผ้ามาแล้ว จึงถอดเปลี่ยนเสียตรงนั้น ชุดเดิม กางเกงสแลช เสื้อเชิ้ตเรียบหรูที่ใส่มา เขาถอดทิ้งวางไว้ตรงเก้าอี้ตัวข้าง ๆ อี้เฟิงรีบหันหน้าหนีไปทางอื่น เหมือนไม่ชินที่มีคนเปลี่ยนผ้า ถอดกันตรงหน้า ริมฝีปากเรียวยิ้มเหยียดออกมา  หยางหยางนึกอยากแกล้งนัก



“คุณอี้เฟิง”
“อะ..อือ”


หยางหยางรู้สึกขอบคุณที่อี้เฟิงดับเทียน ทำให้แสงเหลือแค่เพียงความสลัวจากจันทร์สวย และทำให้เขารู้สึกไม่กระดากตอนถอดกางเกงเปลี่ยนเป็นผ้าเบาสบายแบบชุดโบราณ เหลือก็เพียงเสื้อท่อนบนที่หยางหยางไม่ยอมใส่มันซักที


“คุณอี้เฟิง”
“ใส่เสื้อก่อนสิเจ้าน่ะ!
“ตอนนี้ผมก็เริ่มไม่หนาวเท่าไหร่แล้ว”
“เออ !.. แต่เจ้าก็ควร..ปะ..ไปใส่เสื้อ!


ออกปากไล่ขนาดนี้ หลบหน้า ตัวสั่นขนาดนี้ หยางหยางจึงไม่แกล้งแล้ว ถ้าแสงพอ เขาคงเห็นแก้มน่ารักขึ้นสีอีกเป็นแน่ ชายหนุ่มใส่เสื้อผ้า ให้เรียบร้อย โชคดีที่ชุดมันเข้าใจง่ายหน่อย ไม่ได้แปลกมาอย่างที่เคยคิด สมใส่ง่ายแค่เพียงผูกให้แน่น หยางหยางจัดการกับเสื้อผ้าเรียบร้อย ก็เดินไปรอบห้องอย่างหมาป่าดมกลิ่นหาเหยื่อ  ตอนนี้เขาอยากรู้ว่าสิ่งที่เขาคิดมันจริงหรือไม่


มีหนังสือเล่มหนึ่ง เปิดค้างไว้บนโต๊ะใกล้ ๆ นี้ หยางหยางรีบเดินเข้าไปเปิดดู
“ไม่ได้นะ!


คล้ายเป็นบันทึกประจำวัน .เจ้าของห้องรีบถลาเข้ามาแย่งเข้าไปไว้ในอ้อมอก เม้มปากคาดโทษแปะไว้ที่หน้าผากของ หยางหยางอีกอัน แต่ก่อนที่คนน่ารักจะแย่งไป เขามองเห็นข้อความที่อยู่ในนั้นก่อนแล้ว


วันเดือนปีที่บันทึกในสมุดเล่มนั้น....



เป็นไปไม่ได้...แต่มันก็เป็นไปแล้ว ..เขายืนอยู่ในห้วงเวลาที่เป็นไปไม่ได้ ...วันเดือนปีมันผิดเพี้ยน ไม่ใช่ช่วงเวลาที่ควรมีคนอย่างหยางหยางคนนี้อยู่



เขาข้ามเวลามาจริง ๆ 
เคยอ่านเจอแต่ในนิยาย แต่ไม่อยากเชื่อว่า ช่วงชีวิตหนึ่งจะมาอยู่ในจุดนี้
เรื่องมหัศจรรย์เช่นนี้ เขาเองก็แปลกใจที่มันเกิดขึ้นกับเขา


“เจ้า...มาจากไหน เจ้ายังไม่ตอบข้า”
หยางหยางเงยหน้า เมื่อได้ยินคำถามที่เสียงใสสงสัย ชายหนุ่มยิ้มละไมส่งให้ เขาส่ายหน้า ไม่ใช่ไม่รู้ เขาไม่ใช่คนไม่ยอมรับความจริงหรือเข้าใจอะไรยาก แต่ไม่อยากจะเชื่อเลยต่างหาก





“ผม..มาจากโลกอนาคต คุณ..ท่านสินะ ท่านจะเชื่อมั้ย หลี่อี้เฟิง” 
แน่นอน แววตาตรงหน้า วาวโรจน์เหมือนดวงตาแมวตอนกลางคืน แสงจันทร์ตกกระทบใบหน้าหวานนั่นพอดีมุม เลยทำให้มองเห็นสีหน้าตกใจจนเกือบหลุดมาดคุณชายผู้สง่างาม จนในที่สุดกลับเข้าสภาพอารมณ์เดิม อี้เฟิงที่ยังแปลกใจก็ถามกลับมา


“โลกอนาคต...เจ้าว่าอย่างนั้นหรือ”
“ใช่ ผมมาจากที่นั่น ผมบอกแบบนี้แล้ว คุณ..ไม่สิ ท่าน ตกใจหรือเปล่า”


หยางหยางคงยิ้มหล่อเหลาไว้ พอได้อยู่ใกล้อี้เฟิง อารมณ์ช่างไม่เชื่อฟัง  มันพาให้หยางหยางต้องทำอะไรอย่างที่ใจต้องการ บังคับไม่ได้ ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ อี้เฟิงที่วิ่งเข้ามาใกล้ หยางหยางสืบเท้าเข้าไปอีกระยะ เพื่อให้ใกล้ยิ่งกว่า มือชองหยางหยางรุกไปสัมผัสแก้มเนียนนั่นแล้ว แต่ผิดที่อี้เฟิงไม่ขยับออกไป

“เจ้า..” เสียงหวานเอ่ยเบาหวิว

แววตากลมสุกใส มองจ้องมาทางหยางหยาง หยางหยางก็จดจ้องกลับไป สื่อความทางสายตา ไม่อยากเชื่อว่าคนตรงหน้าจะมาเป็นตัวตนที่มีอยู่จริงตรงหน้าเขาได้ หยางหยางดีใจและประหลาดใจ เขาคิดว่าเรื่องแบบนี้คงมีแค่เขาเพียงผู้เดียวที่ได้ประสบ



“ไม่น่าเชื่อ...จะมาจากไหนก็แล้วแต่ แต่เจ้าก็มาแล้ว ดั่งคำทำนาย”....


อี้เฟิงเอ่ยเหมือนตัวล่องลอยจากฝัน คำทำนายทายทักที่เมื่อก่อนอี้เฟิงไม่เคยสนใจ แม้ท่านแม้จะพยายามแค่ไหนที่จะให้อี้เฟิงไปรับม้วนกระดาเก่า ๆ ยับยู่ยี่มาจากที่ไกล ๆ อี้เฟิงแค่อ่านและโยนมันทิ้งไปหลังตู้เก็บหนังสือ


แต่คำทำนายน่าเหลือเชื่อที่สุดเท่าที่เคยอ่านมาในชีวิต มันช่างน่าขันที่มันเป็นจริงทั้งที่มันไม่น่าจะเป็นจริงมากที่สุด



“เจ้า...” แม้ไม่แน่ใจ แต่อี้เฟิงรู้สึกถึงอะไรบางอย่างในอก ทำให้วูบโหวงผิดแผกแปลกประหลาด ความรู้สึกนี้ทำให้รู้สึกทั้งขันและเขินตัวเอง ริมฝีปากน่ารักเม้มเข้าหากันอย่างใช้ความคิดหนัก

“ผมมาแล้ว...แล้วมันทำไมหรือ” อี้เฟิงได้ยินอีกคนถาม รู้อยู่ว่ามีคนมือซนเอามือใหญ่มาไล้ไล่เกลี่ยนแก้มตน แต่อี้เฟิงก็ไม่สนใจ หากไม่มากไปกว่านี้ เขามองใบหน้ารูปสลักตรงหน้า ในตอนแรกก็แทบปักใจเชื่อแล้วเชียวว่าคน ๆ นี้ไม่ใช่มนุษย์แต่เป็นสิ่งที่ประทานมาจากฟากฟ้าที่ตกน้ำลงมาจริง ๆ ด้วยความรูปงามมากจนน่าตกใจ แต่พอเจอจูบนั่นบวกแววตาวิบวับน่าอายที่ส่งมา ก็รู้ว่าเจ้านี่มันเป็นมนุษย์ไม่ใช่อะไรอื่น



แต่หากว่าเป็นมนุษย์ที่เสมือนเทพบุตรจริง ๆ 

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น