TITLE : Stay,Still ..Stand 'เราที่รักกัน'
Part :STAY
CHAPTER : 4
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : NC-15
RATE : NC-15
TELL : แต่งตอนนี้เเล้วหน่วงทีเดียวค่ะ
“ผมจะขอลาหยุด”
พี่สาวผู้จัดการไม่ได้แปลกใจเมื่อผมขอไปแบบนั้น
ทั้งที่ตาตางของเราแทบจะปลีกตัวไปไหนไม่ได้อยู่แล้ว
เพราะพี่สาวเขาเห็นบางอย่างที่อยู่บนร่างกายของผม เรือนร่างของผมเอง
ที่ให้คนอื่นมายุ่งย่ามนอกจากหยางหยาง
“แบบนั้น..ถ้าฉันปล่อยให้นายไปทำงาน
ฉันคงบ้า ไป กลับไปห้องพัก เห็นหน้าเธอตอนนี้แล้วฉันอยากจะบ้าจริง ๆ”
ผมกลับไปห้องตามที่เธอสั่ง
ด้วยใบหน้าเรียบเฉยไร้อารมณ์ไม่สะทกสะท้านต่อคำดุด่าของเธอไม่ว่าจะอะไร
ผมน่ะมันโดนดุจนชิน เพราะเป็นคนดื้อพอตัว โดยเฉพาะช่วงนี้ที่ผมทั้งดื้อ ทั้งดึง
ทั้งบ้า
อืม...บ้า ผมว่าตัวเองอาจจะเป็นแบบนั้น ต้องการอะไรมากขนาดนั้น
หรือมันอัดอั้นมานาน จนถึงจุดที่เรียกว่า ต้องปลดปล่อยมันออกมาบ้าง
พอมีเวลามาทีก็ใส่ไม่ยั้งจนทำให้ตัวเอง..เป็นแบบนี้
“อา...” หลังจากกลับห้อง
ผมก็กลับอาบน้ำหลังไปเผชิญกับมลภาวะของเมืองใหญ่มา กลิ่นควันรถ กลิ่นฝุ่น
กลิ่นอาหาร และอีกมากมาย..
อื้ม..แล้วก็กลิ่นกายของคนอื่นที่ผมรู้สึกว่ามันติดมา
หลังจากนั้น..ที่ผมเริ่มทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ กลิ่นกายของคนอื่นนอกจากหยางหยาง
“ทั่วตัวเลย..” ผมมองดูเรือนร่างของตัวเอง ที่คนอื่นทำร่องรอยเอาไว้
ตอนนั้นที่เริ่มกิจกรรมกัน
ผมไม่ได้สนใจอะไรไปมากกว่าความเห็นแก่ตัวที่อยากเติมเต็มให้ตัวเอง
จิตใจที่หมกมุ่นในเรื่องนั้นเสียแล้ว
และความอัดอั้นในหลากหลายอารมณ์ที่มากกว่าอารมณ์สวาท ผมยอมให้รุ่นพี่แตะต้องได้ตามใจ
ตรงงไหนก็ได้ที่เขาอยากแตะ ทำอะไรก็ได้ อยากทำให้ผมเจ็บหรือสะท้านตรงไหนก็เชิญ
แค่ให้หัวใจของผมไม่มีช่องโหว่เป็นพอ
แล้วเมื่อชายสองคนที่เริ่มมีอารมณ์แบบนั้นมาอยู่ด้วยกัน ใครมันจะไปหยุดได้
เขาเองก็จัดใสผมไม่ยั้งมือเหมือนกัน
ปรากฏผลงานของเขาเป็นร่องรอยทั่วตัวจนผมไม่เห็นว่าตรงไหนที่จะไม่มีสีแดงกุหลาบอยู่บนร่างกายตัวเอง
และเพื่อให้เห็นชัด ผมเดินไปอีกนิด เพื่อไปส่องกระจกในห้องน้ำ
ทีนี้ก็เห็นสีกุหลาบนั้นทั้งตัว ผมไล่ปลายนิ้วมือแตะตัวไปตามสีกุหลาบทีละตำแหน่ง
ไล่ไปเรื่อย ๆ จนหมด รุ่นพี่คนนี้อารมณ์มากมายเหลือเกิน
ร่องรอยที่ปรากฏบนร่างของผมไม่น้อย ไม่ใช่เล่นเลย
“อืม..”
มีอารมณ์อยากทำขึ้นมาอีกแล้ว... ผมคิดกับตัวเอง
ช่วงนี้มาง่ายเหลือเกิน ก็อย่างว่า ผมมันจิตหมกมุ่นไปแล้วนี่
และผมก็ไม่อายตัวเอง อยากก็ทำ
เป็นเรื่องธรรมดาของผู้ชายที่เกิดความต้องการโดยง่าย จะ ยืนหน้ากระจกก็ช่างมันเหอะ
มือข้างที่ผมใช้ไล่ตำแหน่งสีกุหลาบที่ปรากฏบนตัวทำโดยรุ่นพี่คนนั้น
ผมใช้มือข้างนั้นล่ะ กระทำกิจกรรมอัน หฤหรรษ์ของตัวเองต่อ
“อา...”
มือที่กำเอาส่วนอ่อนไหวของตัวเองไว้รอบ
มันเริ่มขยายใหญ่ขึ้นเรื่อยตามอารมณ์และชันขึ้นตามความต้องการ ยิ่งอยากมากเท่าไหร่
มันก็ยิ่งเพิ่มขนาด ผมเริ่มทึ่งกับตัวเองนิดหน่อย แต่แม้แค่คิดเรื่องบ้า ๆ บอ ๆ
ลามกนิดหน่อยก็จุดอารมณ์กรุ่นในตัวเองได้แล้ว
ผมโทษหยางหยางแล้วกัน
ยังจำได้ดีเลยล่ะ กับสิ่งที่เชาทำกับผมไว้ ตอนนั้นผมทรมาณแค่ไหน
คุณรู้ไหมว่ามันเหมือนยาเสพติดเลยนะ เรื่องแบบนี้น่ะ
หยางหยางทำให้ผมเสพติด เพราะเขานั่นล่ะ
ให้ผมเป็นเครื่องระบายของเขา แต่เมื่อผมต้องการบ้าง
เขาก็ทำให้ผมไม่ได้ ในตอนนั้นผมทรมาณมาก ๆ ก็ต้องจัดการตัวเอง
ผมอายที่จะไปให้ใครช่วย ในตอนนั้นผมทั้งเกลียด ทั้งกลัวตัวเอง ร้องไห้หนักแค่ไหน
แต่เมื่อได้เจอหยางหยางอีกครั้ง ผมก็ดีใจ มันเติมเต็มแล้ว ทั้งกายทั้งใจ
หยางหยางคนนั้นทำให้ผมไม่รู้สึกถึงความว่างเปล่า
และตอนนี้เราก็ถูกแยกกันอีก ด้วยเพราะเหตุผลต่าง ๆ นานาบนโลก ผมเบื่อ
แต่ผมแข็งแกร่งขึ้น และไม่อายตัวเองแล้ว
ผมจึงกล้าที่จะให้คนอื่นมาช่วยผม ผมเลือกให้คนอื่นที่ไม่ใช่หยางหยางช่วย
ผมพบหยางหยางไม่ได้ เหมือนทุกคนบนโลกจดจ้องเราอยู่เสมอ
หากเราพบกันทุกอย่างจะกลับตาลปัตรไปในทางร้ายเสมอ อย่างกับผมทำความผิดอะไรมากมาย
ไม่ใช่ผมไม่เคยพยายาม ไม่ใช่เรานิ่งเฉย เราฝ่ากระแสต่าง ๆ
จนได้พบกันก็มี แต่หลังจากที่พบกัน เราก็เหมือนทำผิดมหันต์ไปเสียทุกครั้ง
บางครั้งผมถูกดุด่าจนร้องไห้ หยางหยางก็โดยหนักไม่ต่างกัน เราต่างก็มีชื่อเสียง
มีความฝันที่ต้องไขว่คว้า และนั่นเป็นกลายเป็นอุปสรรคสำหรับเราสองคน
“อา..อืม... หยางหยาง”
ฮึ สุดท้ายเวลาผมคิดเรื่องลามกขึ้นมา ก็มีแค่หยางหยาง
มีแค่เขาที่ผมคิดถึง และคิดถึงเป็นคนแรก
ระหว่างที่คิดไปเรื่อยเปื่อย มือของผมก็รูดรั้งส่วนนั้นของตัวเอง
ทำเอาเข่าอ่อนจนต้องเกาะขอบอ่างล้างหน้า ยิ่งรูดรั้งยิ่งพลังสูญ
ผมเลยกระโจนให้ตัวเองไปนั่งบนนั้นแทน หลังชนกับกระจก เพราะเริ่มอายใบหน้าแดง ๆ
ของตัวเองที่สะท้านบนนั้นแล้วล่ะ
“อื้อ...”
น้ำแรกออกมาแล้ว เลอะเปราะไปหมด คิดว่าคงต้องอาบน้ำใหม่
แต่ไม่ใช่ตอนนี้หรอก ผมยังอยากอยู่
มือที่ยังคาอยู่ที่เดิม ผมรูดมืออีกรอบให้หมดหยาดสุดท้ายของน้ำแรก
และกำลังจะเริ่มครั้งที่สอง
“อื้ม..อะ ฮึก” ครั้งที่สองผมพุ่งทะยานขึ้นมากกกว่าเดิม
ความต้องการพุ่งขึ้นสูงอย่างรวดเร็ว เพราะความต้องการที่มีอยู่เดิมแล้ว
มันทำให้ผมวาบที่ท้องน้อยเสียวสะท้านมากเป็นเท่าทวี เพิ่งสังเกตท่านั่งของตัวเองที่ถ้าหากอยู่บนเตียงคงเย้ายวนใจไม่น้อย
หลังที่หันชนกับกระจกตรงอ่างล้างหน้า หัวพิงกระจกไว้อีกที
มันมีพื้นที่ข้างอ่างที่พอสำหรับหนึ่งคนนั่ง กระจกที่กว้างคลอบคลุมพื้นที่
ผมนั่งชันเข่า เรียวขาแยกกว้างพอสมควรที่จะทำอะไร ๆ ได้สะดวก
และมือที่ยังไม่หยุดเติมเต็มความต้องการ
“อะ..อ๊ะ... หยาง...หยาง”
ใกล้เข้ามาอีกครั้ง สำหรับครั้งสอง ผมหลับตาปี๋รอให้มันมาถึง
“เอ๊ะ!”
ผมอุทานทั้งที่หลับตาอยู่
เพราะความแปลกใหม่ที่ได้สัมผัส
ส่วนนั้นของผมมมีอะไรมาขวางกั้นความต้องการที่กำลังจะสุดทาง
คีบเค้นจนผมทรมาณเพราะไม่ได้ปลดปล่อย จึงลืมตาขึ้นเมื่อผมสุดแสนจนโมโห
“..นาย...”
.เมื่อลืมตาขึ้นมา ผมก็ยิ่งตกตะลึงมากกว่าเดิม
อารมณ์ต้องการหายวับไปทันตา แม้จะไม่กี่วินาทีก็ตาม
“อยากขนาดไหน ถึงต้องทำหน้าตาแบบนั้น
รอยนี่มันอะไรทำมาถึงมากมายทั่วตัวแบบนี้ เเล้วมือนี่..ฮึ ดูเก่งขึ้นนะ “
คนที่ผมเอ่ยชื่อไปเมื่อครู่..เขานั่นล่ะที่กำลังต่อว่าผมอยู่ตอนนี้
เขาไม่เคยว่าผมแรง ๆ แบบนี้ แววตานั่นก็ไม่ใช่ ไม่... เขาที่พูดจาหวานหูกับผมทุกครั้งแม้จะโมโหผมสุดหัวใจก็ตาม แค่ได้เห็นหน้า
แค่ได้ยินเสียงก็พาลน้ำตาไหล
ริมฝีปากของผมเบะออกเป็นสัญญาณว่าจะร้องไห้ให้เขาเห็นแล้วนะ
แต่คนตรงหน้าที่สกัดกั้นอารมณ์ของผมกลับดูเหมือนไม่แยแสน้ำตาผมเลย
“รังเกียจกันแล้วหรอ..” ผมเอ่ยทะลุก้อนสะอื้นที่จุกตรงลำคอ
มือนั้นที่ยังคาอยู่ที่ส่วนอ่อนไหวของผมเริ่มช่วยขยับ
แต่พลังนั้นรุนแรงสร้างความเจ็บให้มากโข
แต่ก็ยังไม่เท่าความต้องการที่ถูกจุดมาใหม่ มันมาไว และปลดปล่อยได้ตามต้องการแล้ว
ผมหอบอยู่ตรงหน้าเขาหลังจากได้ปล่อยให้ความต้องการนั้นออกไป
สายตาคนตรงหน้าผมนิ่งเรียบเฉย ผมไม่พบเขานานแบบนี้ แววตาเขาเป็นแบบนี้แล้วหรือ
แววตาที่ส่งให้ผมกลับกลายเป็นแบบนี้แล้วหรือ
“ทำไมมองแบบนั้น ฉันไม่ชอบสายตาแบบนี้ของนายเลย” ผมพูด
อีกคนไมได้สนใจหันมาทางที่ผมพูด เขากลับไปล้างคราบขาวที่ติดที่มือ
หลังจากที่ผมปลดปล่อยใส่มือของเขาไป
ผมขึ้นกับเลิกคิ้วที่เห็นเขาของของผมออกล้างออก
จากที่เคยเห็นเขาแทบกลืนกินทั้งหมดนั้นไปด้วยซ้ำ
“จะกลับแล้ว” เขาบอก หลังจากล้างมือเสร็จเขาหันหลังไม่กลับมามองผมด้วยซ้ำหลังจากที่บอกแบบนั้น ผมไม่รั้งไว้ด้วย ทั้งที่อยากเจอเขามากขนาดนี้
แต่ผมกลับไม่รั้งตัวเขาไว้เลย คน ๆ นั้นหันหลัง ปิดประตูโครมใหญ่กลับไปแล้ว
ผมไม่รู้หรอกว่าเขาเข้ามาในห้องผมได้ยังไง แต่มาเพื่ออะไรกันล่ะ ?
ดูสภาพที่น่าสมเพชของเทพบุตรแห่งชาติงั้นหรือ?
นี่หลี่อี้เฟิง..นี่แกยังกล้าเรียกว่าตัวเองเป็นเทพบุตรอีกหรือ..ฮึ
ผมขยับเข่าเข้ามาใกล้ตัว และกอดไว้ เอาแขนรวบเข่าตัวเองและนั่งซุกใบหน้าที่เปื้อนน้ำตาทั้งสภาพเปลือยแบบนั้น
ฮึ นายเข้ามาถูกจังหวะจริง ๆ มาเห็นฉันตอนน่าสมเพช ทำอะไรน่าอาย
“ฮึก..” หลังจากนั้นผมก็ปล่อยน้ำตาออกมา
ปล่อยเสียงร้องไห้โฮเสียงดังชนิดที่ใครเข้ามาคงได้ยินตั้งแต่หน้าประตู
ผมช่างมันแล้ว ผมเป็นบ้าอะไรก็ไม่รู้ แต่แค่อยากร้องไห้
อยากระบายอะไรซักอย่างที่ตันอยู่ในหัวใจออกมา
น้ำตาทั้งหมดนี้ผมได้แต่หวังว่ามันจะทำให้ผมดีขึ้นหลังจากได้เอาอารมณ์ที่อัดอั้นในหัวใจใส่น้ำตาแต่ละหยดและปล่อยให้ไหลรินทิ้งไป
รู้ไหมว่า ถ้าเราสองคนเจอกัน มันเหมือนมีกระแสไฟฟ้าลัดผ่านพวกเรา แค่ปลายนิ้วสัมผัสก็เลยเถิดไปไกล วันนี้เขาแทบไม่ทำอะไรแบบนั้นด้วยซ้ำ นอกจากมาคว้าส่วนนั้นของผม เหมือนจะแกล้งกัน ช่วยผมเพียงแค่ไม่นาน ก็กลับไปอย่างไม่สนในใยดี ...
เเละก่อนเขาไป ผมยังจำแววตาสุดท้ายที่เขาทิ้งไว้ บอกไม่ถูกจริง ๆ นั่นทำให้ผมร้องไห้เสียงดังกว่าเดิม
หัวใจแม่งหน่วงชะมัด
ขนาดอยู่ใกล้กันตั้งขนาดนั้นแล้ว ผมแทบคว้าเขามากอดได้
แต่มือไม่ขยับเลย เพราะผมมัวแต่คิดว่าต่อให้อยู่ใกล้ขนาดนี้ ผมก็กอดเขาไว้ไม่ได้
เอื้อมไปไม่ถึงอยู่ดี
“ฉัน...หยางหยาง..ฉัน..”
พูดอะไรไม่ออกเลย..ผมไม่คิดว่าตัวเองจะมีสิทธิ์พูดอะไรได้แล้ว เราที่รักกันแบบไหน ?แบบไหนกัน ?
ผมไม่รู้ว่าผมรักเขาไหม ? หรือแค่เสพติดความต้องการจากหยางหยาง ?
เสพติดไม่เท่ากับรักหรอกนะอี้เฟิง รู้ไหม ? รักเป็นแบบไหนกันล่ะ ?
รักมันก็รวมเรื่องเซ็กซ์ไปด้วยไม่ใช่หรือ ? แต่มันมากไปแล้วไม่ใช่รึไง
แค่คิดถึงความอยากก็มาแล้วนี่ นายน่ะ ? งั้นความรักที่แท้จริงเป็นอย่างไรล่ะ ?
คำถามทุกอย่างวนในหัวผมจนสับสน
นั่นสิ..รักเป็นแบบไหนล่ะ ?
ที่เป็นอยู่ตอนนี้ผมยังไม่รู้เลยว่าผมรักเขา หรือแค่อ่อนไหวกับอารมณ์ที่พาไป พร้อมคำหวานจากหยางหยางที่ได้ฟัง
นั่นสิ..ผมนี่มันยิ่งกว่าเด็กเสียอีก ไม่รู้จักอะไรเลย แม้แต่ใจตัวเอง
TBC 5
น่าจะ 12 ตอนจบนะ
เราจะทนไปได้อีกสักกี่ตอนกันTT ฮืออ สงสารหยางหยาง อ่านไปใจก็เจ็บจี๊ดๆไป ><
ตอบลบ