วันอังคารที่ 28 มีนาคม พ.ศ. 2560

[SF] YOONGI OVERLOAD - #SUGAMONSTER FEAT BANGTAN!











“ซ่อมเสื้อตัวนี้ให้ผมหน่อยได้มั้ย...คือ”


ลีดเดอร์คนเก่งแต่เป็นจอมทำลายล้างข้าวของรายรอบตัวทุกอย่างเอ่ยปากอย่างเก้อเขินกับพี่คนรองของวง คนหน้าหวานมู่ทู่และเติมต่อด้วยคำว่าอีกแล้วหรือ ? และส่ายหน้าอย่างเบื่อหน่าย แต่ที่ไหนได้ มือขาวซีดข้างหนึ่งก็ยื่นมารับเสื้อพัง ๆ ของคิมนัมจุน ยุนกิมองน้องที่เป็นลีดเดอร์ตัวทำหน้าเจี๋ยมเจี๊ยมมาให้เขาช่วยซ่อมของพังให้เป็นรอบที่ล้าน เขาได้แต่ทำหน้าเบื่อหน่ายแต่นี่ล่ะก็เป็นสิ่งที่เขา ทำให้นัมจุนได้


มินยุนกิยิ้มในใจ งานนนี้น่ะ ไม่มีใครทำได้ดีกว่าเขาไปได้หรอกหน่า


พี่คนรองหันหลังกลับไปหาอุปกรณ์ในห้องตัวเอง ซอกจินพี่ใหญ่ของวง ที่นั่งอ่านหนังสือเงยหน้าขึ้นมองน้องชายที่อมยิ้มแก้มตุ่ยแต่ในมือถือเสื้อพัง ๆที่คุ้น ๆ ว่าเป็นของนัมจุน เด็กที่เป็นหัวหน้าวงแต่ช่างทำลายของในบ้านพังเสียเหลือเกิน แต่มินยุนกิน่ะ ก็ได้แค่บ่นออกไปงั้น แต่ในจริง พอนัมจุนเอาของมาให้ซ่อมทีไร ซอกจินก็เห็นพ่อน้ำตาลนั่งยิ้มหวานทุกที ก็ดีใจที่น้องมันมาหา


“เห็นนะว่ากำลังอารมณ์ดี ยุนกิ”
“อย่ามาแซวได้มั้ย จินฮยอง”
“ก็จริงนี่ อีกนิดแก้มก็จะแตกแล้วน่ะ”


ซอกจินเผลอยิ้มตามยุนกิที่ยิ้มค้างอยู่ด้วย ต่อหน้านัมุจน ยุนกิตีหน้าขรึม ทำเป็นเข้ม หัวเราะพอให้น้องไม่กลัว แต่จริง ๆในใจแทบระเบิด 


“ขืนนายไปยิ้มให้นัมจุนเห็น แบบนี้น้องมันคงขนลุกพิลึก”
“เงียบหน่าฮยอง”


ซอกจินแค่หยักใหญ่ไม่สนใจ ก็เขาเห็นเป็นอย่างนั้นจริง ๆ ยุนกิที่แม้จะดูเย็นชาแค่ไหน ก็ตกหลุมรักใครเป็นนะ


เป็นหนักด้วย
ยุนกิตกหลุมรักนัมจุนมาตั้งนานนมแล้วล่ะ
แค่เขาเอาของมาให้ซ่อมก็ดีใจจนแทบเก็บเสื้อนัมจุนไปกอดแล้ว


“หุบยิ้มหวาน ๆ ของนายหน่อย คุณน้ำตาล เจ้าตัวแสบสามตัวนั่นแอบมาสืบราชการลับอยู่น่ะ”



ยุนกิที่เผลอเปิดประตูค้างทิ้งไว้ หันไปขวับก็เจอเจ้าสามแสบมักเน่ไลน์แอบอยู่ตรงธรณีประตู โผล่หน้ามาแค่เสี้ยว มาสืบอะไรอย่างที่ซอกจินว่าจริง ๆ นั่นล่ะ



พี่ใหญ่ของวงมอง อืม.. เขาคิด..หรือว่าจริง ๆ แล้ว ความลับนี้เป็นที่รู้กันหมด แม้กระทั่งเจ้าเด็กสามตัวนั่นที่ซนแม้จะซนจนไม่รู้อะไร แต่ก็คงสัมผัสได้เหมือนกันว่า มินซูก้า พี่คนรอง ตัวเล็ก หน้าหวาน แต่ทำเป็นเข้มคนนี้น่ะ มีบรรยากาศเปลี่ยนไปเยอะเลยล่ะ เมื่อเวลาอยู่ใกล้ ๆ กับหัวหน้าวงของตน


ก็คงจะใช่ พวกเรามันเป็นพวกไม่มีความลับใด ๆ ที่ไม่รู้กันอยู่แล้วนี่
พวกเราในที่นี้น่ะก็รวมนัมจุนด้วยนะ

"เดี๋ยวซักวันเขาก็รู้"
"ไม่รู้หรอกหน่า!" ยุนกิเหวกลับมาหาพี่ใหญ่ ดูสิ มันไม่เกรงใจกันเลย ฉันพี่นายนะ ซอกจินคิด

ฮึ..แต่ก็รอการยืนยันอีกทีจากนัมจุนเองแล้วกับ ซอกจินคิดและมองตามหลังยุนกิไป ตัวเล็ก ๆ นั้น เวลาตัวหลุมรักใครแล้วกลายเป็นคนน่ารักแบบทวีคูณอย่างไม่น่าเชื่อ จากที่ปกติเขาก็น่ารักด้วยตัวของเขาเองอยู่แล้วนะ


ว่าแต่ เจ้าสามตัวนั่นน่ะ เดี๋ยวก็โดนกินหัวหรอก ไปมองยุนกิแบบนั้น  ซอกจินเห็นแล้วก็ขำกับสามสายตาล้อเลียนพี่ชายตัวเล็กของเจ้าพวกนั้น จีมิน แทฮยอง จองกุก

“พวกผมรู้นะ!
“ไปไหนก็ไปเลยพวกแกน่ะ!








ยุนกิไล่เจ้าสามแสบนั่นออกธรณีประตูห้องไป เก็เดินออกมานอกห้องโดยมีสี่คู่สายตามองอย่างแซว ๆ แต่ไม่กล้าพูด เพราะกลัวโดนดี และเมื่อออกไปตั้งใจจะไปซ่อมเสื้อผ้าตรงห้องนั่งเล่นกลาง ก็ไปเจอด่านจองโฮซอกที่นั่งพูดคุยจนขึ้นควันอยู่กับลีดเดอร์ของวงที่เป็นเจ้าของเสื้อพัง ๆ ในมือของมินยุนกิ โฮซอกหันมาเจอยุนกิก่อนก็ยิ้มร้ายกาจใส่อย่างตั้งใจ แม้เขาจะรู้ว่าเจ้านี่ล่ะหัวโจกไอ้สามตัวแสบนั่นเลยแต่ยุนกิก็ทำได้แค่เม้มปากและสวดส่งเจ้าน้องคนนี้ เหมือนเจ้าสามตัวที่มาสืบราชการลับหน้าห้องของเขาเด๊ะ! ยุนกิเลยเบะปากใส่อย่างไม่ใยดี แล้วออกปากขับไล่ไสส่งน้อง

“อะไรกัน โฮซอกคนนี้ก็น้องของฮยองนะ”
“อย่ามาเกาะแกะฉัน!

ยุนกิผลักหน้าโฮซอกที่ชอบมาซอกแซก หมอนี่ติดสกินชิพ ยุนกิรู้ดี เขาเอากำปั้นเคาะกระโหลดโฮซอกไปทีหนึ่งแรง ๆ โฮซอกเลยปล่อยได้ซักที



มินยุนกิคนนี้ไม่ชอบถูกแกล้งต่อหน้าใครเท่านั้นล่ะ นั่นไง นัมจุนยิ้มใหญ่ขำใหญ่แล้ว



ยิ่งยิ้มแบบนั้น....อา...ยิ้มนั้นของคิมนัมจุนทำให้ยุนกิใจกระตุกวูบ



เท่โคตร





“ผมจะรอฮยองซ่อมเสื้อผมจนเสร็จนะ จะนั่งตรงนี้ล่ะ”
“อืม”


ยุนกิพยักหน้าและกรนเสียงในลำคอตอบไป จากนั้นเขาก็ก้มหน้าตั้งใจเย็บเสื้อพัง ๆ ของนัมจุนในมือของตน แต่ครู่หนึ่งก็รู้สึกว่า โซฟาข้างตัวมันยวบลงไป



“จะนั่งใกล้ ๆ พี่ตรงนี้ล่ะ”





ไม่ต้องมาใกล้ก็ได้ว้อยย



ยุนกิโอดในใจ เขารู้ตัวดีว่าเขาเป็นคนเก็บความรู้สึกเก่งและตีหน้าตายได้ แต่กับเรื่องนี้มันพูดยาก นั่นไงล่ะ! เข็มเย็บผ้าในมือกำลังสั่นใหญ่ ไม่สิ มือเขาต่างหากที่กำลังสั่น คิมนัมจุนนั่งอยู่ข้าง ๆ กัน น้ำหอมที่เขาใช้ยังคงส่งกลิ่นหอมอ่อน ๆ มาให้ติดปลายจมูกยุนกิ ให้ชวนหวั่นไหว ยุนกิสูดลมหายใจลึก ๆ แล้วตั้งใจเย็บผ้าต่อโดยพยายามไม่ใส่ใจคนข้าง ๆ


“ฮยอง”
“อือ”


มินยุนกิจะทำเป็นไม่สนใจอะไรที่คิมนัมจุนพูดทั้งนั้น..และจะลงมือเย็บเสื้อของนายต่อไปว้อยยยย ปรเปอร์ใกล้สติแตกคิดและตั้งใจแบบนั้นแต่เข็มเย็นผ้าในมือเกือบจะร่วงอยู่แล้วเมื่อร่างสูงของน้องชายคนเท่ข้าง ๆ มาอิงแอบแนบชิด นัมจุนเอียงตัวเองมาพิงร่างเล็กของยุนกิไว้ เหมือนโลกเอียงอย่างไรอย่างนั้นแล้วก็พูดเบา ๆ เพราะในระยะนี้มินยุนกิต้องได้ยินอยู่แล้ว


“ฮยอง ชอบผมใช่มั้ย”



ก็เป็นอย่างนั้นล่ะ... ความลับระหว่างพวกเราน่ะ มันมีที่ไหนกัน



“ห๊ะ ?— อะโอ๊ย” เจอคำพูดหมัดฮุ๊คน่าตกใจแบบนั้น ก็ทำเอามือไม้อ่อน เข็มเย็บชาตำเข้าที่มือของยุนกิ แรปเปอร์ร่างเล็กคิดจะตายไปตรงนั้นเลยได้มั้ย ไม่อยากตอบคำถามเลย หรือจะเป็นเจ้าหญิงนิทราดี โดนเข็มตำแล้วหลับไปเลยร้อยปี ไม่อยากเห็นหน้านัมจุนตอนนี้เลย เพราะตอนนี้เจ้านี่ต้องยิ้มอยู่แน่ ๆ



แล้วก็ไม่อยากให้นัมจุนเห็นหน้าของเขาตอนนี้ว่ามันเขินจนแดงไปถึงไหนต่อไหน


“ฮยอง ไม่ตอบ ผมเดาเองนะว่าใช่ เราทุกคน น่ะมันไม่มีความลับกันอยู่แล้วนี่เนอะ”



ยุนกิปล่อยให้เข็มเย็บผ้ามันไปตามยถากรรมของมัน เพราะมือของเขานั้นอ่อนปวกเปียกจนกำได้แค่ชายเสื้อของนัมจุนเท่านั้น เสื้อพัง ๆ ตัวนั้นของนัมจุนกลายมาเป็นที่ระบายความเขินของเขาแล้ว



“ฉะนั้น ผมเองก็มีความลับจะบอกเราทุกคนเหมือนกัน แต่จริง ๆ ผมว่านอกจากพี่แล้ว คนอื่นก็สังเกตได้กันหมด  ว่าจริง ๆ แล้วน่ะ แม้ว่าผมจะเป็นพวกบ้าที่ชอบทำของพังขนาดไหน แต่มันจะไม่มีทางพังแล้วพังอีกพัง.ซ้ำพังซาก พังจนพี่ต้องบ่นแบบนี้ นอกจากเสียว่า---...”


นัมจุนละประโยคท้ายไว้ ยุนกิโคตรอยากรู้ต่อจากนั้น แต่เขาไม่กล้าแม้จะไปมองหน้าคนพูดซักวินาทีเดียว


“มินยุนกิ เงยหน้ามามองพระเอกจะพูดอะไรดี ๆ ตอนท้ายหน่อยสิ ผมชอบฮยองนะครับ “ จะพูดเสียงดังทำไมวะก็อยู่กันแค่นี้ ยุนกิคิดทั้งเขิน

“ห๊ะ?”
“นี่ฮยองห๊ะใส่ผมเป็นรอบที่สองแล้วนะ”


ยุนกิตกใจจนพูดไม่ถูกอ้าปากเหวอโชว์ฟันสวยให้น้องที่นั่งข้าง ๆ เห็น


"ผมชอบพี่ ผมชอบมินยุนกิ ..ชอบมาก ชอบมานานแล้วด้วย แต่ผมไม่รู้นะระหว่างเราใครตกหลุมรักก่อนกัน.."




อึ้ง..ยุนกิค้างเหมือนถูกทุบด้วยค้อนแห่งความรักจากคิมนัมจุนเลยทีเดียว





“แบบนี้ต้องเลี้ยงงงงงงงงงงง” เเต่อยู่ๆ เสียงเจ้าสามแสบก็ดังทะลุปล้องขึ้นมา ยุนกิหันขวับไปแผ่รังสีอำมหิตใส่จนต้องวิ่งไปหลบซอกจินที่เดินออกมาจากห้องเเล้ว ทั้งสามคน ยุนกิหันมามองนัมจุน ประโยคเมื่อครู่ที่นัมจุนพูดเมื่อครู่นี้ดังจนเรียกแขกอย่างทุกคนในหอพักนี้มา ก็อย่างที่บอก พวกเรามันไม่มีความลับกันเท่าไหร่หรอก

“เอาจริง ๆ นะยุนกิฮยอง พวกเรารู้ว่าฮยองทั้งคู่ชอบกัน ชอบกันจะตายอยู่แล้ว นัมจุนฮยองยังรู้ว่ายุนกิฮยองชอบ ส่วนของนัมจุนฮยองน่ะ พวกเราก็สังเกตเหมือนกัน เอาใจช่วยยุนกิฮยองไง”
“ยุ่งจริง!”...ยุนกิเอ็ดเจ้าเด็กสี่มิติที่แรก ๆ เหมือนจะดูไม่รู้อะไรแต่ก็ทำมาเป็นวิเคราะห์สถานการณ์ ตอนนี้เขาก็ไม่รู้เหมือนกันว่าควรทำอารมณ์อย่างไร จริง ๆก็อยากให้เป็นความลับอยู่หรอก แต่โดนรู้ขนาดนี้....น่ะ
"ใช่! " ยุนกิหันไปเขม่นใส่เจ้าม้าโฮซอกอีกที ทีนี้ออกอาวุธด้วยเป้นหมอนอิงใบหนึ่งโยนใส่ม้าบ้าตรงนั้นไป


“ไม่ต้องถามหาเลยว่าใครบอกใคร ยุนกิ เวลานายมองนัมจุนน่ะ มันไม่เหมือนที่เราถูกนายมอง บรรยากาศมันอินเลิฟสุด ๆ แถมนายยังน่ารักขึ้นด้วย “ ซอกจินเสริมท้ายน้องเล็กจนตอนนี้ยุนกิต้องยกเสื้อพัง ๆของนัมจุนมาปิดหน้าไว้ ไม่มีที่ไหนให้หลบแล้ว


“เห็นมั้ย  จริง ๆ ด้วย ตอนนี้ฮยองโคตรน่ารัก” นัมจุนยิงหมัดเด็ด พูดให้ยุนกิได้ยิน แรปเปอร์ตัวเล็กที่นั่งเอาเสื้อพัง ๆ ปิดหน้าอยู่ถึงกับไปไม่เป็น


“ผมโคตรชอบฮยองเลย รู้มั้ย...” จะเด็ดไปถึงไหน พอแล้ว... ยุนกิคิด นัมจุน นายจะฆ่าฉันเรอะ



มินยุนกิถอนหายใจแล้ว ถอนหายใจอีก ภายใต้ใบหน้าหวานที่ถูกซ่อนใต้เสื้อของนัมจุน กลิ่นของเขายังติดอยู่ ก็ยิ่งพาลให้คิดไกลไปกันใหญ่ 

เห้อ






มันก็ดีนะที่นัมจุนชอบเขาด้วย มันก็ดีที่ทุกคนรับรู้และเข้าใจ แถมเอาใจช่วย







“แต่มันเขินนะ...” ยุนกิเอ่ยออกมาอย่างหมดทาง เสียงเบาอ้อยอิ่งชวนใจหวิว





เสียงหวาน ๆ แสนเเผ่วเบของแรปเปอร์ขาโหดของวงเล่นเอาตรงนั้นสตั๊น...เงียบไปหลายวิ






“ยุนกิฮยองโคตรน่ารักเลยว่ะ!!! นัมจุนฮยอง ขอกอดยุนกิฮยองทีเถอะ ทำไมน่ารักขนาดนี้” จีมินถึงกับทนความน่ารักของพี่ชายตัวเล็กแสนห้าวของตัวเองไม่ไหว ถึงกับกระโจนมาขอกอดให้หนำใจ และก็ตามด้วยสองแสบไลน์มักเน่ที่มาแย่งกอดยุนกิกันเหมือนลูกหมาแย่งเจ้าของกัน




หลังจากนั้นก็เป็นการตบตีแย่งชิงเพื่อกอดคนซึนที่น่ารักและขี้เขินอย่างมินยุนกิของบังทันโซนยอดัน





“สารภาพกับยุนกิฮยองแล้วก็อย่าเอาคนน่ารักแบบนี้ไปกอดคนเดียวนะ!  นัมจุนฮยอง!” จองกุกเอ่ยปากไว้ ถ้าหากเอาพี่ตัวเล็กของเขาไปซุกไว้คนเดียว จองกุกจะพังหอซะเลย







END

วันอาทิตย์ที่ 19 มีนาคม พ.ศ. 2560

[SF] CUTE! - #SUGAMONSTER






เยปอ... เยปอ.. บางอย่างตรงหน้าทำให้ผมนึกถึงท่อนหนึ่งในเพลงของวงเรา



โคตรน่ารัก....


“มองหน้าฉันทำไม มีอะไร”


เสียงห้าว ๆ ของพี่ยุนกิส่งตรงมายังผม ก็มันช่วยไม่ได้ เขาโคตรน่ารัก หน้าตาหวานๆ นั้น ปากนิดจมูกหน่อย  คุณครับ ความน่ารักอยู่ตรงหน้าขนาดนี้ ผมจะละสายตาได้อย่างไร


“คิมนัมจุน ถ้านายไม่บอกทำไมถึงมองฉันไม่เลิกด้วยสายตาแปลก ๆ ฉันจะตีนาย”


เริ่มแล้วครับ แมวขู่ฟ่อ ๆ เลยล่ะ ยิ่งแบบนี้ยิ่งน่ารัก ตอนนี้ใบหน้าผม ผมเมคมัน ตึงหน้าไว้สุดฤทธิ์ กลั้นสุด ๆ แล้วที่จะไม่แสดงออกไปมากกว่านี้ พี่โคตรน่ารักเลยครับ น่ารักจนอยากจะวิ่งไปเตะผ้าผ่มแก้เขิน หรือไม่ก็จับพี่ไปนอนใต้ผ้าห่มกับผมซะ แต่พูดออกไปแล้วคงโดนฆ่าตาย ดูสิ แค่นั่งมองหน้าอย่างเผลอตัว อีกฝั่งก็ทำหน้าตาเหมือนจะฆ่าผมอยู่แล้ว ดูหน้าหวานนั่นสิ คิ้วขมวด เริ่มเบะปากไม่พอใจ


อ๊ะ  พี่ยุนกิหูแดงด้วย!

โคตรน่ารักอ่ะ!


ทำไงดี ตอนนี้ความดีที่เริ่มสั่งสอนมามันจะโดนตัดขาดไป เพราะความน่ารักของพี่เขาตรงหน้า ตบะจะแตก จะเอื้อมไปเอาพี่ยุนกิมากอดฟัดให้สมใจ ใกล้แล้วนัมจุน ถ้าทำแบบนั้นก็เหมือนเลื่อนเวลาตายเข้ามาใกล้แกเเล้วล่ะ


ดูหน้าอีกฝ่ายแล้วท่าทางโมโหแล้วน่ะ ที่ผมไม่บอกซักทีว่าไปมองหน้าเขาทำไม เขานึกว่าผมหาเรื่องเขาหรือ เปล่าเลย จริง ๆ แล้วความน่ารักติดหน้าพี่เต็มไปหมดเลยครับ T_T


“คิมนัมจุน!


ผมเงียบไป ตั้งใจจะบอกพี่เขา “คือผม...”
“อ้ำอึ้ง ทำบ้าอะไร”
“ก็พี่อ่ะ...”


มินยุนกิถอนหายใจเฮือกใหญ่ เขาเดินมาตรงหน้าโน้มตัวลงมาตรงที่ผมนั่งให้ระดับใบหน้าหวานนั้นอยู่ในระดับที่สายตาของผมที่ทำให้ผมสัมผัสความน่ารักแบบไฮเดฟกันไปเลย จะบ้าตาย ใกล้ไปแล้วพี่ ความรับผิดชอบชั่วดีผมเริ่มน้อยลงแล้ว


“เฮ้อ..นายนี่มัน ฉันน่ารักใช่มั้ย อยากมองใช่มั้ยล่ะ มองใกล้ ๆ ก็ได้ มานั่งใกล้ ๆ กัน มองจากที่ไกล ๆ แบบนั้นมันเหมือนนายเป็นโรคจิต”

ผมฟังพี่เขาทุกคำ ชัดทุกประโยค พูดจบเขาก็เม้มปากข่มอารมณ์ หน้าแดงขึ้นตามระดับ หูแดงไม่เลิกเลยด้วย เสดวงตาเรียวเล็กไปทิศอื่นไม่สบตากับผม ผมยิ้มให้ตัวเองเหมือนตัวเองจะพ่ายแพ้คน ๆ นี้จริง ๆ พี่ยุนกิมันซังนัมจา มาพูดตรง ๆ กันไปเลย ฉันน่ารักนะ มองฉันสิ มองใกล้ ๆ ไปเลย



โอเค!

ได้!



“อือ...” ผมได้แค่ตอบพี่ยุนกิไปเพียงเท่านั้น แต่มือผมมันไม่อึกอักแบบคำพูด คว้าตัวเขามารวบไว้ ให้พี่ยุนกินั่งบนตักผมเลย พี่เขายิ้มเขินบ้าง ในขณะที่ผมวางสายตาไปยังคนน่ารักบนตัก มองใกล้ มองไม่เลิก ไม่เลิกมองด้วย


“อย่าไปมองใครแบบนี้นะ รู้มั้ย”


ผมไม่ตอบด้วยคำพูด แต่ไปกอดตัวบอบบางของพี่ยุนกิด้วยสองแขนแข็งแรงของผม


พูดขนาดนี้ สายตาของผมจะไปมองใครอีกได้ล่ะครับ


"แค่พี่เท่านั้นล่ะ"




มินยุนกิ ชนะน็อค! K.O.






END

วันอังคารที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2560

[SF] Secret Moment - Mr. Jeon Jungkook report moment #Sugamonster





สวัสดีครับ ผม จอนจองกุก มักเน่ ผู้รู้ ผู้เห็นทุกอย่าง


และตอนนี้มีความลับใหม่ที่เขาเพียงคนเดียวที่ล่วงรู้ หรือไม่แน่ใจว่าพี่ ๆ คนอื่นจะรู้แล้วหรือเปล่า แต่ตอนนี้กับตาเลยนะ!




พี่นัมจุนแอบเอาขนมวันไวท์เดย์มาให้พี่ยุนกิล่ะ!



ผมทำเป็นก้มหน้าก้มตาเล่นเกมส์ในจอมือถือไป ไม่รูไม่เห็น ผมไม่ทราบอะไรทั้งนั้น แต่จริง ๆบนหน้าจอไม่มีอะไรแล้ว นอกจากจอดำ ๆ เพราะแบตมือถือมันหมดไปแล้วน่ะสิ ตอนนี้กำลังแหลสดอยู่ พี่นัมจุนกับพี่ยุนกิ...



อา... ขนมน่ารัก ๆ ควรจะอยู่กับคนน่ารักแบบพี่ยุนกิ แต่ผมพูดแบบนี้ต่อหน้าพี่เขาไม่ได้หรอกนะ ไม่โดนตีตายก็สกายคิก ก็เลือกเอาซักอย่างหนึ่ง



ไวท์เดย์แบบนี้ คนที่รักกันเขาก็คงมีขอให้คนที่รัก ผมเองก็มี แต่รอก่อนเถอะ ให้ผมเอาคืนจากที่พี่เขาตีผมก่อน คิดว่าเล่นกล้ามแล้วจะสู้ผมได้เรอะ นี่จอนจองกุกมักเน่ทองคำเชียวนะ คนสกุลปาร์คคนนั้นน่ะไม่รอดหรอก



จะอะไรก็ตามไม่รอดทั้งที่ผมจะตีพี่เขา ทั้งที่จะไม่รอดจากการบอกรักของจอนจองกุกคนนี้หรอก




เขินแฮะ..แต่ผมขอพักเรื่องหัวใจของตัวเองไว้แป๊บหนึ่ง เพื่อมาส่องแรปเปอร์คับเปิ้ลนี้ก่อนแล้วกัน นี่มันกอซซิบระดับชาติเลยนะ



พี่นัมจุนเห็นพี่ยุนกิหลับคาโซฟาไป เขาเดินเข้าไปหาพี่ยุนกิเงียบ ๆ ผมนั่งอีกมุมนึง ทำเป็นไม่สนใจ โอเค ตอนนี้ผมแกล้งหลับต่อละ แต่จริง ๆ คือรอส่องอยู่นะครับ



หลังจากนั้น พี่นัมจุนก็เอาของขวัญเป็นถุงขนมน่ารักวางไว้บนตักพี่ยุนกิ พี่เขาตัวเล้กจริง ๆ นะ ยิ่งนอนห่อตัวกลมแบบนั้น ยิ่งน่ารักไปกันใหญ่ ผมยังคิดแบบนั้น แล้วพี่นัมจุนล่ะ ฮึ สายตาแบบนั้นหลอกผมไม่ได้หรอก พี่นันจุนชอบพี่ยุนกิมากจริง ๆ


จอนจองกุกคนนี้ มองพี่สองคนตรงนั้น ผมเห็นสายตาพี่นัมจุนยังเขินแทนพี่ยุนกิที่หลับเลย ถ้าพี่ยุนกิตื่นมาแล้วเจอสายตาที่เต็มไปด้วยความรู้สึกมากมายถึงคนตรงหน้าอย่างพี่เขาล่ะก็ ไม่เขินจนตบพี่นัมจุนหน้าแดง ก็คงหนีไปเลย เพราะพี่ยุนกิสู้กับความเขินไม่ไหว รับมือไม่ได้ ชนิดต้องโกรธข่มเลยล่ะ


“ยุนกิ..ผม..”  เสียงขาดห้วงไป เพราะพี่นัมจุนพูดเบาจนผมไมได้ยิน ก็ไม่ได้อยู่ใกล้ถึงขนาดจะได้ยินเสียงกระซิบนี่ แต่อ่านปากได้ว่า รัก.. ว้าว เขินแทนเลยฮะ มุขนี้เท่ดีจัง สมเป็นพี่นัมจุน ขอจำไว้ไปใช้กับบางคนด้วยแล้วกัน


จบโมเม้นท์ใจเต้นแทนพี่ยุนกินั้น พี่นัมจุนจุดยิ้มมุมปากเท่ ๆ อย่างที่พี่เขาถนัด เขาถอนหายใจอีกครั้งก่อนจะโน้มตัวไปหอมกลุ่มผมสีดำของพี่ยุนกิที่เป็นสีดำในรอบสามปีที่เราพบกันเลยล่ะ พี่นัมจุนดูเขินนิดหน่อยที่ทำแบบนั้น แต่เขาก็ทำมัน สายตาลีดเดอร์ของผมบอกทั้งหมดเลยเมื่อเขาอยู่กับพี่ยุนกิแค่สองคน(แม้อีกคนจะหลบใส่ก็เถอะ) ว่ารักมากเพียงใด


อบอุ่นสุด ๆ ไปเลยลีดเดอร์ แทบัค!



จบโมเมน์ใจเต้นครั้งที่สอง พี่นัมจุนก็ลุกขึ้นจากตรงนั้น และปล่อยให้คนหลับอยู่ในห้วงนิทราอย่างเป็นสุขต่อไปเพราะ สำหรับมินยุนกิ การนอนคือที่หนึ่ง ใครปลุกเอ็งตาย สโลแกนเป็นแบบนัน พี่นัมจุนเลือกวิธีที่ปลอดภัยทั้งชีวิตและปลอดภัยต่อหัวใจเขาด้วย ผมว่าการที่มาแอบให้ของขวัญหวาน ๆ กันตอนหลับ เพราะพี่เขาสองคนไม่มีโมเมนท์หวาน ๆ อะไรกันขนาดนั้น ไม่โรแมนติคใส่กัน แต่นี่มันโคตรโรแมนติคเลยนะพี่นัมจุน พี๋โคตรไอดอลของผมอ่ะ  ซักพักพี่นัมจุนก็ออกจากห้องไป และจอนจองกุกที่นั่งอีกมุมห้องก็ยังแหลสดหลับต่ออยู่



ไม่นาน ผมก็ได้เห็นอะไรดี ๆ



มินยุนกิที่เอียงตัวพิงหลับกับผนักโซฟา ลืมตามา แก้มแดงยันไปถึงใบหู  โคตรน่ารัก! พี่นัมจุนอยู่ไหน อยากให้เห็นอะ!! พี่ยุนกิเขาเขินของขวัญของพี่ใหญ่แล้ว ต้องมาเห็นนะ ! ยิ้มหวาน ๆ นี้ของแรปเปอร์ขาเรียวบางของเราจัดการความหวานของขนมตรงหน้าพี่ยุนกิที่พี่นัมจุนให้ซะอยุ่หมัดเลยล่ะ



“จอนจองกุก แกจะแอบส่องอีกนานมั้ยห๊ะ ? ฉันรู้ว่าแกแอบมองตั้งแต่นัมจุนเอาขนมมาให้ฉันแล้ว” พี่ยุนกิเขม่นใส่ผมพูดเสียงเบาข้ามฟากมา อา..ขอโทษครับ ผมยังไม่อยากตาย ผมเลยพยักหน้าขอโทษพี่เขาไป

แต่เดี๋ยวนะ ..งั้นเมื่อกี้ก็แกล้งหลับน่ะสิ..ทุกอย่างที่พี่นัมจุนทำน่ะ พี่ยุนกิรับรู้หมด ทั้งจูบบนผมสีดำของพี่เขาด้วย ทั้งคำบอกรักนั่นด้วย


โหย .. ผมถึงขั้นอยากรู้เลยล่ะ ว่าคำบอกรักของพี่นัมจุนหวานแค่ไหน


“พี่ยุนกิ คำบอกรักของพี่นัมจุนหวานมากมั้ย”
“ไปถามพ่อแกสิ !



นั่นคือคำตอบน่ะครับ ด่าผมมาเสียแรง แต่เสียงของพี่ยุนกิเบาเสียจนผมเกือบจับความไมได้ แถมหน้าแดงยังบอกความเขินได้ดีว่า ของขวัญชวนใจเต้นของพี่นัมจุนน่ะ มันสุดยอดไปเลย แทบัค ไอดอลของผม!







END





[SF] that moment in the Coffee shop - #หยางเฟิง







หนึ่งก้าว สองก้าว


โอเค หยางหยาง


หลบฉากไปก่อนแล้วกัน



ตอนนี้ผม หยางหยาง กำลังลังเลกับการทำอะไรบางอย่าง หนึ่งช็อคโกแลตในมือผมบวกกับนมขวดเท่าฝ่ามือและดอกไม้ช่อเล็ก ให้ตายสินี่ผมเลือกมาให้ผู้หญิงหน้าตาน่ารักรึไงกัน ทั้งที่คนที่ผมอยากให้น่ะเป็นผู้ชายร่างสูง เกือบ 185 แถมยังดุอย่างกะเสือถึงพี่เขาจะเป็นแมวก็เถอะ


หลี่อี้เฟิง



ผมบอกได้เลยว่าคนนี้น่ะจีบยาก ใช่ ผมจีบเขา แต่เขาไม่รู้หรอก แต่ก็ยังคงไม่รู้ต่อไป จนถึงวันนี้ไวท์เดย์ ปกติผมเคยมารู้สึกรู้สึกกับวันสำคัญพวกนี้ที่ไหนกันล่ะ


จนเมื่อมาเจอพี่เขานี่แหละ

นับจากวาเลนไทน์ ผมมันป๊อดเองที่ไม่กล้าเข้าไปคุยกับเขาตรง ๆ ให้ของเขาไป ผมก็ไม่รู้ด้วยซ้ำว่าเขาเอาไปเก็บไว้หรือโยนทิ้ง พี่เขาฮอตนะ ส่วนของ ๆ ผมก็แค่ของชิ้นหนึ่งในร้อยชิ้นที่พี่เขาได้ล่ะมั้ง


วันนี้ผมมีความตั้งใจใหม่ กับคนที่นั่งดื่มกาแฟและเล่นเกมส์อย่างเอาเป็นเอาตายอยู่ไม่ไกลจากที่ที่ผมนั่งทำอารมณ์หวาน ๆ ซึ้ง ๆ แต่คิดว่าถ้าหากโดนพี่เขาเหวกลับมา ผมก็คงหงอเป็นหมาถูกเจ้าของดุ


แค่เขาปรายตามามองอย่างเมื่อก่อนหน้านี้ ขนหัวผมก็ลุกแล้วล่ะครับ โอเค  พี่อี้เฟิงไม่ใช่ผี แต่เป็นคนน่ารักมาก ๆ คนหนึ่ง



“คาปูชิโน่ค่ะ คุณหยางหยาง”
“ขอบคุณครับ”

คุณบาทิสต้าส่งกาแฟให้ผมอีกแก้ว ผมดื่มกาแฟรสเดิม แบบเดิมเป็นแก้วที่สาม วันนี้ผมตาค้างยันสว่างแน่ ทำอารมณ์อยู่ประมาณ ครึ่งชั่วโมงได้แล้ว จากที่ตั้งใจว่าผมจะเอาของขวัญวันไวท์เดย์มาให้ อุตส่าห์สบโอกาสดี ๆ ซื้อของมาให้แล้วแท้ ๆแต่แค่เห็นหน้าพีอี้เฟิง สติผมก็ลอยหายไปกับสายลมที่พัดผ่านเข้ามาในร้านแล้วเอาความมั่นใจของผมลอยออกไปนอกหน้าต่างร้านด้วย


ให้ตายเหอะ


“ให้ตายเถอะ!

นั่นไม่ใช่เสียงผมนะครับ



เสียงพี่อี้เฟิง อยู่ๆ ดีเขาก็ตะโกนเสียงดังออกมา ผมคิดว่าเขาคงหัวเสียกับเกมส์ที่เล่นอยู่ คงแพ้ไปแล้ว โชคดีทีเดียวที่ลูกค้าในร้านกาแฟเล็ก ๆ แต่รสชาติแสนหอมหวานนนี้มีเพียงแค่ผม พี่อี้เฟิง และกลุ่มหนุ่มสาวออฟฟิศที่ตั้งใจทำงานโดยไม่สนใจรอบข้างใด ๆ นอกจากหน้าจอเครื่องมืออิเล้กทรอนิกส์ของตัวเอง


“นายน่ะ”


ใครวะ ?


ผมมองไปรอบ ๆ ยิ่งพี่เขาตะโกนทีนี้จากที่ใคร ๆที่อยู่ในร้านที่ไม่สนใจ ก็กลับเริ่มมาสนใจ แต่ในที่สุดเขาก็ละความสนใจไป เพราะเสียงพี่อี้เฟิงเงียบไป



ผมมองไปยังพี่อี้เฟิงนั่งอยู่ หน้าตาหงุดหงิดเหมือนจะกินหัวใครแต่สายตาแห่งความพิโรธโกรธเกรี้ยวนั้นส่งมาทางผม


สวดมนต์ให้หยางหยางคนนี้ด้วยครับ


ครู่หนึ่ง หลี่อี้เฟิงคนดังคนนั้นก็วางมือถือที่เล่นอยู่นาน หลังจากนั้นมือข้างที่ว่างก็คว้าแก้วนมที่พี่เขาสั่งมาดื่ม ดูดพรวดเข้าไป ท่าทางเหมือนเตรียมจะกล่าวอะไรซะอย่าง


หน้าถมึงทึงขนาดนี้


.....


“จะถือไว้อีกนานมั้ยของขวัญ นั่งรอให้นายเดินมาให้ของขวัญอยู่นานแล้วนะ ! ถ้าไม่มาซักที ฉันจะไปปล้นของขวัญวันไวท์เดย์ของนายเอง!  



ฟังพี่เขาพูดเสียงดัง เสียงหวานนั้นเจือปนด้วยความน่ารักสั่นเสียงของเขาให้เครือไปในขณะพูด ผมมองแก้มแดง ๆ นั่นที่สู้กับแดดที่ต้องใบหน้าหวานของเขา ได้ยินแบบนี้ ผมแทบจะขว้างไปให้อย่างเร็ว ถ้าไม่ติดว่าพี่เขาจะฆ่าผมเสียน่ะนะ


“ฉันชอบช็อคโกแลตยี่ห้อนั้นที่นายซื้อ!



ครับ เขาว่าแบบนั้นน่ะ :) 








วันศุกร์ที่ 10 มีนาคม พ.ศ. 2560

[Fic] SUGA® เพราะนายหวานกว่าน้ำตาล #SUGAMONSTER EP.1




[Fic] SUGA®  เพราะนายหวานกว่าน้ำตาล
#SUGAMONSTER
 ตอนที่ 1


SUGA®



ผมไม่ใช่คนชอบกินของหวาน แถมยังไม่ชอบอยู่นิ่ง ๆ หรือเอาง่าย ๆ ว่าเป็นคนที่พาตัวเองไปไหนมาไหนตลอดเวลา ที่นี่ที่นั่น หลากหลายที่ ผู้คนมากมาย ผมชอบที่จะไปเห็นมัน


แต่มีบางอย่าง  ที่ทำให้ผมต้องกระทำตรงกันข้ามกับทุกอย่างที่ผมกล่าวจากข้างต้นที่บอกไปเมื่อครู่นี้


“ลีดเดอร์ยา เมื่อไหร่จะเลิกทำตัวเป็นโรคจิต”


ไม่ใช่เสียงจากส่วนลึกดำมืดจากหัวใจของผมหรอกนะ แต่เป็นเสียงของจินฮยองที่นั่งอยู่ถัดไปอีกมุมหนึ่งของห้องที่ผมนั่งอยู่


ใช่ ผมมานั่งผิดห้อง นี่ไม่ใช่ห้องพักส่วนตัวที่ผมแชร์กับไอ้เด็กกล้ามมักเน่ซักหน่อย


“อะไรเล่า ฮยอง ผมก็แค่มอง”
“แกจะกินมันเข้าไปแล้วนะ รู้ตัวมั้ย”
“หา ?”
“สายตาแกมันบอก นัมจุน หิวก็ไปหาน้ำตาลในครัวยัดปาดเอา ไม่ใช่มาหาเอาที่นี่”

ผมยิ้มกับประโยคที่จินฮยองพูด พูดบ้าอะไรทำไมผมนึกยิ้มขึ้นมา จริง ๆ มันเป็นประโยคที่ฟังดูแล้วไม่เข้าใจ ไม่รู้เรื่อง ก็สมกับที่เป็นประโยคที่มาจากจินฮยอง  อ้อ แต่ไม่หรอกนะ คิมนัมจุนคนนี้เข้าใจ


พี่เขากำลังพูดถึงคนที่เป็นเจ้าของสายตาอันน่ากลัวของของผมในตอนนี้ต่างหาก


“น้ำตาลในครัวยังหวานไม่เท่า SUGA นอนน้ำลายยืดอยู่ตรงนี้หรอก ฮยอง” ผมพูดอะไรเลี่ยน ๆ ฟังแล้วเข็ดฟันจนจินฮยองเกือบเอาแก้วน้ำตัวเองมากระดกน้ำแกล้งว่าคำพูดของผมเนี่ย มันไม่ไหวเอาเสียเลย

ตอนนี้ผมนั่งอยู่ในห้องของจินฮยองที่แชร์ห้องร่วมกับคุณน้ำตาลที่นอนอืดอยู่บนเตียง ให้ว่างเป็นไม่ได้ ก็ต้องหาเวลามานอน มาแอบงีบตรงนี้ ในขณะที่เด็ก ๆ คนนี้เอะอะโวยวายอยู่นอกห้อง แต่ให้ตาย พี่แกก็หลับไม่รู้เรื่องอยู่บนเตียงเล็กรก ๆ ของพี่แก


“จินฮยองก็อย่าเสียงดัง จนยุนกิยาตื่นนะ”
“แกกล้าเรียกยุนกิ ผู้กำอำนาจมืดของเราแบบนั้นต่อหน้ามั้ยล่ะ”


กล้าดิ่ ถ้ายุนกิยาไม่ตบกบาลผมด้วยอะไรซักอย่างใกล้มือเขาน่ะนะ ผมส่งยิ้มให้ยุนกิฮยองที่หลับไม่รู้เรื่องอยู่ และถัดไปจากนั้นเป็นจินฮยองที่นั่งมองผมโดยไม่ทำอะไรแต่ก็ขำ เพราะผมมันเหมือนพวกแอบมองชาวบ้านตอนหลับ พวกโรคจิต จินฮยงอทำปากพูดกระซิบเบา ๆ ให้ผมรู้ เออ รู้หน่า แต่ยุนกิยาน่ารักน้อยที่ไหนล่ะ อืม บางทีผมก็ไม่อยากเรียกว่าฮยองเท่าไหร่  เพราะโดยรวมทุกอย่างของพี่เขาเอนไปทางน่ารักน่าถนอมดูแลให้เป็นน้องเสียมากกว่า อย่างแรกที่เห็นกะตาคือตัวเล็ก ๆและไหล่บอบบางนั้น แถมให้ด้วยขาเล็กเรียวที่โผล่พ้นมาจากผ้าห่มผืนหนา ยุนกิยา~~~ ไม่ระวังเลย ถ้าจินฮยองไม่อยู่ แล้วพี่อยู่กับผมแค่สองคน รู้มั้ยจะเกิดอะไรขึ้น ..อ๋อ ไม่บอกหรอก ฮึฮึ


น่ารัก... ผมคิด พลางที่มองเขาที่นอนอยู่บนเตียง กลุ่มผมสีดำสนิทที่ย้อมกลับมาแล้ว สีนี้ล่ะผมว่ามันใช่ที่สุด RIGHT! เพราะยุนกิยาขาวมากจนค่อนไปทางซีด แสงส่องที ผมแทบจะต้องส่องแว่นหาเขา(เวอร์ไปมั้ยนะ) ใบหน้าที่ดูเป็นหนุ่มดอกไม้หน้าหวาน (พูดแบบนี้ต่อหน้าเขาคงโดนต่อยเอา) ปากเล้กจมูกหน่อย อา.. ผมยิ่งมองยิ่งติดใจ ความหวานติดตาผมไปแล้วล่ะ



อา..อีกที ...ผมว่าผมเป็นเอามาก นั่นไงล่ะ จินฮยองทำหน้าหน่ายผม ลุกไป นั่งในมุมตัวเอง เปิดหนังสืออ่าน ฟังเพลงเอาหูฟังยัดหูไปแล้ว ก่อนไปก็ยังบอกว่าผมโรคจิตไม่เลิก



ฮึ ยอมรับก็ได้ ว่าผมชอบนั่งมองคนตรงหน้าผมหลับ ผมที่ทรุดนั่งที่เตียงของยุนกิยานานมากแล้ว เพราะเมื่อผมหมดมูดจากการทำงาน การเขียนเพลง หรือจากการทำอะไรที่ตั้งใจมากซักอย่างก็ตาม ผมก็มักจจะเดินตรงมาห้องนี้ (ถ้าวันนั้นเป็นวันว่างที่เราอยู่หอพักกัน) ผมจะตรงไปหาเจ้าของขุมพลังของคิมนัมจุน ร่างกายต้องการความหวาน!


Mr.SUGA ของผม มินยุนกิ คนนี้


ปากร้ายหน่อย ดุไปนิด ขี้หงุดหงิดไปบ้าง ทำตัวเป็นคนแก่บางครั้ง
 แต่โดยรวมน่ารักนะครับ


“ยุนกิยา..”  ผมทดลองเรียกเขาอย่างเบา เบาที่สุด เป็นการกระตุ้นความกล้าของตัวเองหน่อย เพราะในซักวันหนึ่ง ผมอยากเรียกเขาแบบนี้  ด้วยเสียงอันเซ็กซี่ของผม กระซิบข้างหูเขา ถ้ากล้าทำ ต้องเป็นตอนเขาตื่นด้วยนะไม่ใช่ตอนหลับแบบนี้ ผมมันขี้โกง ที่ไม่กล้าพูดกับยุนกิยาว่า ผมชอบและหลงใหลเขามากแค่ไหน เท่าไหร่ และทำไมถึงเป็นคนแบบนี้ คนที่รักมินยุนกิมาก

“ฮึ” ผมยกยิ้มหัวเราะให้ตัวเอง ผมไม่กล้าบอกยุนกิยา อย่างน้อยตอนนี้ผมก็ยังไม่อยากให้เขาลำบากใจที่จะอยู่ร่วมและทำงานในฐานะไอดอลที่แข็งแกร่งที่สุดปฐพี เราอยากอยู่ด้วยกัน


ผมอยากเห็นรอยยิ้มของเขานะ ยิ้มของยุนกิหวานก็อะไร


น้ำตาลจากที่ไหนก็สู้ไมได้ SUGA ที่นอนพลิกตัวอยู่ตรงหน้าผม อา.. ยุนกิยา ยุนกิฮยอง กางเกงขาสั้นพี่มันสั้นเกินไป หัวใจผมจะวายเอา ในที่สุดความดีในใจผมก็ชนะ ผมดึงผ้าห่มที่เขาถีบไปไหนก็ไม่รู้มาห่มท่อนล่างเขาไว้ กันความร้อนแรงจากสายตาของคิมนัมจุนคนนี้อย่างไรล่ะ


“ผมไปก่อนนะ ฮยอง” ผมพูดบอกทั้งจินฮยองที่นอนอ่านหนังสือ แล้วก็เหมือนคนใกล้จะหลับไปทุกที และบอกคนที่หลับไปแล้วอย่างยุนกิยาของผมด้วย เปลี่ยนท่าอีกแล้ว พลิกไปมา เหมือนคนไม่สบายตัว ผมเลยเดินไปอีกนิดหน่อย ยกหมอนให้พอดีกับหัวทุย ๆที่มีกลุ่มผมสีดำนี้กระจายบนหมอน เมื่อกระฃับพื้นที่ได้ หนุนหมอนในมุมทีดี พี่แกก็หลับไปไม่ขยับไปเลยล่ะ ซ้อมตายรึไง มินยุนกิ ผมได้แต่พูดคำพูดพวกนี้ในใจ


ก่อนออกไป ผมบอกฝันดีกับฮยองทั้งสอง แล้วหันไปหาแรงใจของผมอีกครั้ง ก่อนจะออกไปทำงานของตัวเองที่ตั้งใจต่อไป


“ฝันดีนะยุนกิยา”



ผมอยากให้เขาได้ยินจริง ๆ ว่าเสียงที่ผมเรียกชื่อเขาจากปากผม มันหวานไม่แพ้เขาเลย

ยุนกิยา






SUGA® TBC ... 2 


TALK :: หลงมาซะแล้ว ออกไมได้แล้วค่ะ ฝากด้วยน้า