วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

[FIC] OURSONG ~我們的歌 -- หยางเฟิง / เพลงที่1



[FIC] OURSONG ~我們的歌 -- หยางเฟิง / เพลงที่ 1
Pairing :: หยางหยาง x หลี่อี้เฟิง
Rating :: PG
Tell :: เปิดเพลงตอนอ่านด้วยเนอะ
เพลงที่อยากให้ฟังตอนอ่าน :: 

我们的歌 - Wang Leehom








*******************************************************************************



ฟิคยาวค่า และเป็นเรื่องยาวเรื่องแรกที่คิดจะแต่งให้จบด้วย 555 ฝากด้วยนะคะ

**************************************************


"วันนี้รุ่นพี่หยางหยางมีเเข่งด้วยล่ะ "
"จริง ๆหรอ อยากไปดูจังเลยแฮะะะ"
"นั่นสิ อี้เฟิง วันนี้นายเฝ้าชมรมไปนะ วันนี้พวกเราจะโดดไปดู รุ่นพี่หยางหยางแข่งเทควันโด้"
"เห ได้ไงอ่ะ วันนี้เวรพวกเธอเก็บเครื่องดนตรีด้วยนี่"
"วันก่อนนายหนีไปเล่นเกมส์ที่เกมสืเซนเตอร์ พวกฉันยังไม่คิดบัญขีเลยนะยะ!"





จบบทสนทนา ยัยปีศาจสาวน้อยพวกนั้นวิ่งไปแล้ว เห็นถือปา้ยไฟด้วย สงสัยจะเตรียมการก่อนหน้า 



ให้ตาย... หลี่อี้เฟิงคิด 



ชมรมดนตรีของมหาวิทยาลัย มีกฏอยู่ว่า ทุกวันศุกร์ขจะต้องมีการมีรวมตัวกันเพื่อซ้อมดนตรีเป็นการฝึกปรือฝีมือห้เก่งขึ้น อย่างน้อยก็วันละ 3 ชั่วโมง 



แต่ยัยผู้หญิงพวกนั้น เล่นทิ้งไปตั้งแต่ ชั่วโมงแรงก็เพราะไอ้รุ่นพี่ที่ชื่อหยางหยางอะไรนั่นน่ะ เขาก็พอรู้จักหรอกนะ เห็นว่าเป็นเดือนมหาวิทยาลัย แถมยังมีฝีมือสุดเจ๋งเป็นนักเควนักเทควันโด้แห่งชาติ แข่งระดับประเทศ ติดทีมชาติอะไรด้วย หน้าตาหรอ พวกผู้หญิงว่า เขาจะไปขัดอะไรได้ แต่ว่ากันตามตรง หมอนั่นก็หล่อจริง ๆ หล่อจนมองแล้วขนลุก อะไรหมอนั่นหน้าจะเป๊ะเข้าขั้นรูปหล่อจากมือช่างปั้นขนาดนั้น พ่อแม่เขากินอะไรเข้าไป




แต่ชมไปก็เท่านั้น ตอนนี้อี้เฟิงคิดแค้นเจ้ารุ่นพี่คนนี้ เพราะทำให้สาวๆ ในชมรมหนีแห่ไปกริ๊ดเขากันหมดไม่มีใครอยู่ซ้อมเลย เจ้าพวกเพื่อนผู้ชายของเขาที่นั่งใกล้ ๆก็ต่างพากันหมั่นไส้รุ่นพี่คนนี้กันหมด แต่เพราะเป็นถึงนักเทควันโด้ทีมชาติ แถมเเฟนคลับเต็มมหาวิทยาลัยขนาดนี้ ก็ได้แค่พูดกันในใจ ในกลุ่มของตัวเองเท่านั้นล่ะ



"งั้นอี้เฟิง ฉันไม่ซ้อมด้วยละกัน เรามาเก็บเครื่องดนตรีแล้วก็กลับกันเหอะ ชักเบื่อ"
"เออ เอางั้นแล้วกัน"



สุดท้าย เขาทั้งหมด 2ฃสิบกว่าชีวิตที่โดนเพื่อนผู้หญิงทิ้งก็ต้องมาเก็บเครื่องดนตรีของชมรมเข้าที่เดิม แต่ส่วนของอี้เฟิงเอากีตาร์ตัวโปรดตัวเก่งที่คุณแม่ของเขาซื้อเป้นของขวัญตอนเอ็นเข้ามหาลัยให้ มาเป็นประจำ ทุกครั้ง เขาจึงใช้ตัวนี้เป็นเครื่องมือทำมาหากิน ทั้งตอนโชว์ ตอนเล่น ตอนสอบก็ด้วย





อี้เฟิงที่เก็บของจนเสร็จและเเยกย้ายกับเหล่ากลุ่มเพื่อนของเขา ก็เดินกลับห้อง ทางประจำที่เดินกลับ เพราะเขาอยู่ไกล ตั้งเฉิงตู แต่เก่งจนสอบเข้ามหาลัยในเมื่องใหญ่อย่างปักกกิ่งได้ ก็ต้องย้ายมาหาหอพักที่ใกล้หมาลัย โชคดีหน่อยทีร่บ้านของเขาพอมีเงินอยู่บ้าง หอพักแบบสบายอย่างกับอยู่ที่บ้านก็สามารถเช่าอยุ่ได้แบบไม่ลำบากอะไร แต่บางทีที่อี้เฟิงไม่อยากรบกวนพ่อแม่ก็มีบ้างที่เอาเครื่องมือทำมาหากินออกมาเปิดหมวกเล่นที่สวนสาธารณะใกล้ ๆกับหอพักบ้าง 





สงสัยวันนี้ คงแข่งกันเสร็จแล้วล่ะมั้ง เทควันโด้นั่นน่ะ


เพราะเห็นสาว ๆ ที่เดินกันมาเป็นโขยง เดินออกมาบ่นกันงึมงัม เสียงระงมไปหมด แต่อี้เฟิงฟังไม่ค่อยได้ศัพท์ เห้นกลุ่มสาวๆ ทั้งมหุ่งๆ แฟนคลับ ก็เยอะพอกับกลุ่มสาวๆ จึงรีบเดินเลียงออกมา กลัวกลุ่มเพื่อนสาวจะมาเห้นเข้า ว่าเขาก็โดดชมรมเหมือนกัน จึงไปอีกทางที่ไกลกว่าหน่อย เป็นทางที่ไม่ค่อยมีใครรู้จัก แต่เดินกลับพอพักได้เหมือนกัน แถมดูร่มรื่นเพราะมีต้นไม้รายรอบทางเดินนี่ด้วย






"เอ๋ วันนี้ร้านขนมคุณป้าเปิด เสร็จฉันล่ะ"




ตากลม เหลือบไปเห็นร้านขนมเจ้าประจำที่ชอบโดดเรียนกับเพื่อน ๆเเว้บมากินบ่อยๆเปิด ร้านเป็นร้านธรรมดา เพิงไม้ที่ดูแข็งแรง ด้านหน้ามีเก้าอี้ไม้ตัวยาวให้ลูกค้าได้นั่งพอกันซักสองสามคนอยู่สามสี่ตัว พร้อมตัวเล็กๆ น่ารักที่ทำด้วยไม้ชนิิดเดียวกัน แม้เป้นร้านธรรมดาแต่ถูกสุขลักษณะมากเลยเชียว วันนี้เหมือนคุณป้าจะอยู่เย็นเป็นพิเศษด้วย เพราะปกติเวลาเย็นย่ำค่ำแบบนี้ คุณป้าจะปิดร้านไปแล้ว







"วันนี้ลูกค้าประจำเหมือนหนูอี้เฟิง เขาบอกป้าว่าให้ปิดช้าหน่อย เขาจะมาฉลองร้านป้าน่ะซี่"
"อ๋อ~~~~"


อี้เฟิงรับคำคุณป้า พร้อมกับกินขนมไปด้วย แก้มนิุ่มนิ้มป่องขึ้นเพราะขนมอร่อยในปาก เจ้าตัวชอบขนมร้านนนี้มาก เพราะหวานถูกใจ ไม่ปรุงแต่งมากเหมือนขนมสมยัใหม่ที่แต่งมากจนดูเหมือนจะกินไมไ่ด้ 


"ป้า วันนี้เอาเพลงอะไร"
"ก็แล้วแต่และกัน ป้าเองก็ไม่ค่อยรู้จักเพลงอะไรกับเขาหรอก"
"โอเค๊"




เป็นประจำที่อี้เฟิงที่กินขนมจนอิ่มท้องก็จะต้องหยิบกีตาร์คู่ใจมาเล่นเพลงขอบคุณที่ทืำนขนมอร่อย ๆให้ทานหลังจากจ่ายเงินไป วันนี้กลายเป็นเขาอีกครั้งที่เปิดรีเควสให้ตัวเองเลือกเพลงเล่นเอง



วันนี้เพลงอะไรดี ?
เพลงโปรดของฉันดีมั้ยนะ?
我们的歌 แล้วกัน




"ผมขอรีเควสเพลงแทนคุณป้าได้มั้ยครับ คุณอี้เฟิง"
"อะ เอ๋?"






อี้เฟิงหันไปตามเสียงเรียก ใครวะ เรียกชื่อเขา เเถมเรียกเพราะขนาดนั้น




"อะ..คุณ..."





นักดนตรีคนน่ารักหันไปเจอใครคนหนึ่งที่เขาเพิ่งนึกคาดโทษไปเมื่อบ่ายนี้นี้!





หยางหยาง รุ่นพี่หยางหยางคนนั้น




อี้เฟิงพยายามไม่ตกใจที่อีกคนเรียกเขา และไม่ตกใจอีกระลอดที่หมอนี่รู้จักชื่อเขาได้ยังไงวะ? ตากลม ๆพยายามมองอีกครั้งว่าไม่มีแฟนคลับตามมาเป็นขบวนนะ เดี๋ยวจะเสียอรรถรสการกินขนมแสนอร่อยซะหมด เเถมตั้งใจจะเล่นดนตรีต่อด้วย
หยางหยางนั่งอยู่ใกล้ ๆ กัน บนม้านั่งตัวยาวประมาณช่วงหนึ่งตัวกีตาร์ตัวถัดไปจากเขา เขายังอยู่ในชุดเควันโด้แต่เหมือนเปลี่ยนรองเท้ามาเป็นรองเท้าลำลองธรรมดาแล้ว ชุดนั้นเขาปลดสสายพาดที่ลำตัวออก เผยให้เห็นเสื้อขาวด้านในที่ยังชุ่มเหงื่อนิดหน่อย ข้างตัวหยางหยางมีกระเป๋าสไตล์สปอร์ตใบหนึ่งพาดด้วยผ้าขนหนูผืนเล็ก และขวดน้ำที่อาจจะเป้นเครื่องดื่มบำรุงกำลังที่บรรจุภายในนั้น

อี้เฟิงยังใช้ตากลม ๆ จ้องมองคนหล่อฝั่งตรงข้ามอย่างสงสัย 

รูปหล่อ รูปหล่อจริงๆ นะ อย่างกับรูปปั้น นี่ขนาดเหงื่อชุ่มตัว ท่าทางเหมือนเพิ่งวิ่งหนีอะไรมา แต่ก็ยังหล่อเป็นรุปปั้น นี่ฉันกำลังนั่งคุยอยุ่กับเทวดาที่ปลอมตัวลงมามั้ยวะ? อี้เฟิงคิดเพ้อเจ้อในใจไปไกลแล้วก็นั่งจ้องหยางหยางไปด้วยย อีกฝ่ายที่โดนจ้องกเริ่มยิ้มขำเสียแล้ว เพราะหน้าตาแมวสงสัยของอี้เฟิงน่ามองน้อยเสียเมื่อไหร่



"ไม่มีใครตามผมมาหรอกหน่า ผมโดดหนีออกมาได้"
"หาา"
"ก็ตามนั้น แล้วว่าแต่ ผมรึเควสเพลงได้มั้ยล่ะ?"
"ก็.."
"ให้เป็นรางวัลผมหน่อยสิ ผมชนะการแข่งมานะ"





ตอนพูดไม่ต้องทำท่าทางเหมือนกำลังพูดอยู่กับสาวน้อยแบบนั้นก็ได้มั้ยวะ.... นักดนตรีจำเป็นคิด อี้เฟิงขมวดคิ้วแล้วก็มอง! หยางหยาง รุ่นพี่ในมหาลัยของเขาคนนี้อีก เกลียดท่าทางที่สาวต้องกริ๊ดของหมอนี่ชะมัด ฉันทำแบบนี้ยัยพวกนั้นไม่เห็นมันจะกริ๊ด เอาแต่บอกว่าน่ารักๆอยู่ได้



"ก็..เอ่อ.."
"ว่าไง"
"นายรู้ชื่อฉันได้ไง ตอบก่อน จะให้รีเควสเพลง ถ้าเล่นได้"
"กีตาร์คุณ เเขววนป้ายชื่อนะครับ"


เออว่ะ....อี้เฟิงยกมือที่ถือปิ๊กกีตาร์คาอยู่ตบปั๊กเข้าที่หน้าผาก ฉันนี่มันโง่ ก็ถามไปแบบนั้นจนได้เรื่อง หน้าแตกไปอีก ฉันนี่ หยางหยางคนนั้นยิ้มขำอีกรอบแล้ว อี้เฟิงที่เริ่มไม่สบอารมณืกับยิ้มหล่อนั่น สะบัดหน้าควับใส่



"จะฟังเพลงอะไร ว่ามาสิ"
"เพลงนี้ผมมั่นใจว่าคุณเล่นได้แน่นอน"
"มั่นใจขนาดนั้น"




หยางหยางขยับจากที่นั่งเดิมเล้กน้อย จะกลางๆ ม้านั่งตัวที่นั่งอยู่ มาตรงริมม้านั่ง ซึ่งทำให้เข้าใกล้อี้เฟิงได้ระยะยหนึ่ง ซึ่งอ้ี้เฟิงคิดว่า มันใกล้เกินไแล้วเว้ย กีตาร์ของฉันมันไม่ได้ตัวใหญ่ขนาดนั้น





ใบหน้าน่ารักขมวดคิ้วอีกรอบ หยางหยางก็ยังคงยิ้มมุมปากอย่างพอใจ ไม่รู้ดีใจอะไรหนักหนาอี้เฟิงคิดก็อาจจะเป็นเพราะชนะการแข่งวันนี้ล่ะมั้ง





"我们的歌"




หือ..นักดนตรีจำเป็นอุทานในใจ เบิกตากลม ๆสดใสนั่นกว้างขึ้นอีก 




"เพลงโปรดที่ผมร้องที่คาราโอเกะเป็นประจำเลยนะครับ..."




อี้เฟิงพยักหน้ารับรู้เเกน แต่ตยังเบิกกว้างตกใจอยู่ เขาชอบเพลงเดียวกับเราเลยว่ะ เพลงนี้เพลงที่อี้เฟิงเล่นด้วยกีตาร์ตัวโปรดตัวนี้บ่อยที่สุด เป็นเพลงแรก ๆที่อี้เฟิงใช้กีตาร์ตัวนี้เล่นเลยก็ว่าได้ หวังลี่หงเป็นนักร้องที่อี้เฟิงชอบอยู่แล้ว แถมยังร้องเพลงเขาได้แทบทุกเพลง และ 我们的歌 ก็เป็นเพลงโปรดเสียด้วย



และ ที่กำลังจะบอกก็คือนี่เป็นพลงที่อี้เฟิงคิดจะเล่นโชว์คุณป้าก่อนหน้านี้ด้วย







อา... วันนี้กลายเป็นว่า มีคนรีเควสเพลงนี้สองคน ทั้งอี้เฟิง และรุ่นพี่หยางหยางคนนี้



"ก็ได้ เล่นก็ได้"
"ผมจะกินขนมรอฟังนะ"


คุณป้าเอาขนมมาเสิร์ฟคุณรุ่นพี่นี่พอดี แล้วก็บอกว่าคนนี้แหละ ลูกค้าประจำที่ป้าบอก หยางหยางคนนั้นหันมายักคิ้วให้เขาทีนึง



อา...ให้ตายใจเต้นไปวูบนึงเลย





ช่างมัน ๆความรู้สึกนั้น อี้เฟิงเอาขนมอีกชิ้นยัดเข้าปาก แล้วก็เริ่มเทสเสียงกีตาร์นิดหน่อย 



"เลิกมองได้แล้ว กินขนมไปสิรุ่นพี่"
"รู้จักผมด้วย?"
"ออกจะดัง เพื่อนๆผม สาวๆในชั้นเรียนทั้งชมรมนั่งกริ๊ดถึงคุณทั้งวัน"
"ไม่รวมคุณด้วยหรอ?"



ไอนี่....



อี้เฟิงหันควับไป ค้อนใส่ไม่รู้ตัวจนอีกคนยิ้มทะเล้นใส่ คนน่ารักก็ยิ่งเม้มปากค้อนหนักเรื่อย จนไม่ทนเห็นใบหน้าหล่อทะเล้นกวนใจนั่น ก็หันมาลงกับกีตาร์แทน 



ไอ้บ้าเอ๊ย อี้เฟิงว่าหยางหยางในใจ จนพอเคี้ยววขนมหมดก็เริ่มเล่นเพลง





มือเรียวเริ่มดีดคอร์ดเเรกของเพลง พอเริ่มเข้าเพลง อี้เฟิงเริ่มล่องลอยเหมือนเข้าไลฟ์ของตัวเอง เหมือนนั่งบนเวที เขาจะเข้าสู่การบรรเลงเพลงของตัวเองชนิดเหมือนว่าคล้ายกับตัวเองนั่งอยู่คนเดียวในห้องดนตรีที่เปิดกว้างพื้นที่สำหรับเขา ใบหน้าของอี้เฟิงตอนนี้กำลังยิ้มมีความสุข เล่นเพลงโปรดเสียด้วยก็ยิ่งทำให้มือเรียวดีดเพลงด้วยกีตาร์และริมฝีปากที่เอ่่ยท่อนเพลงคลอไปเรื่อยท่ามกลางการบรรเลงเพลงของตัวเองถนัดขึ้นและมีความสุข 



แต่ท่อนสุดท้ายมีอีกเสียงหนึ่งที่แทรกเข้ามา อี้เฟิงลืมตาขึ้นมา เพราะช่วงขณะที่อี้เฟิงเล่นและร้องนั้น เขามักจะหลับตาพริ้มซึบซับความสุข ณ ขณะนั้น 



เสียงหนึ่งนั้นไม่ได้ขัดความสุข ก็ออกจะเพราะแต่..




เสียงเขา
รุ่นพี่หยางหยาง




讓感動一輩子都記得


ท่อนสุดท้ายช่างหวานจับใจเสียด้วย
แต่สายตาของคุณรุ่นพี่หวานกว่าไปอีก



‘ ให้ความซาบซึ้งนี้ตราตรึงใจไปชั่วชีวิต’


“เอ่อ...”
“ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะ ๆ ..นะครับ”


แค่ขอบคุณก็พอ ไม่ต้องทำตัวให้หวานเป็นน้ำเชื่อมใส่ฉันขนาดนั้น 


อี้เฟิงไม่ได้แพ้สายตานั่นขนาดนั้น แต่หวั่นไหวก็มีบ้างเหมือนกัน มองขนาดนั้น ถ้าเขาเป้นขนมคงโดนจับกินไปแล้ว แต่นี่ว่าอี้เฟิงเป็นมนุษย์ แต่ไม่วายรู้สึกกลัว ๆว่าจะโดนจับกินเข้าจริง ๆ 



“หนุ่ม ๆ ขอป้าปิดร้าน ก่อนนะ ไว้วันหลังมาเปิดคอนเสิร์ต เล่นเพลงหวานๆ ให้ป้าฟังใหม่”



หวานอะไรกันเล่าป้า ขนมป้าหวานกว่าอยู่แล้วหน่า!





หลังจากนั้น บอกลาคุณป้าเจ้าของร้านขนม อี้เฟิงก็รีบเก็บข้าวของตัวเอง กะว่าจะจ้ำอ้าวให้ไกลจากรุ่นพี่ที่ชอบทำตัวน่าสงสัยคนนี้ซะ แถมยังทำให้อี้เฟิงรู้สึกแปลก ๆ ด้วย 



“กลับบ้านแล้วหรอ”
“ครับ”
“ผมก็กลับทางนี้”
“หา”


เป็นปัญหาอีกว่าตา หยางหยางคนนี้ก็กลับทางเดียวกัน และดูเหมือนเขาไมได้โกหก เพราะพอมาถึงที่หน้าหอพักที่อี้เฟิงอยู่ ก็ดันเดินเข้ามาพร้อมกัน แถมส่งเสียงทักทายพี่ยามหน้าหอพักอย่าสนิทสนม 


โอย ตายพักที่เดียวกันอีก




“คุณอยู่ห้องไหน ผมจะเดินไปส่ง”
“ไม่เป็นไร รุ่งพี่ ผมเดินไปเองได้ ไม่ได้ไกลขนาดนั้น”
“ก็ไม่เป็นไร แค่อยากขอบคุณเรื่องเพลง”
“นั่นก็ไม่เป็น จริงๆ ผมก็อยากร้องเพลงนั่นอยู่แล้ว”


ดันหลุดปากไปและหยุดไม่ทัน หยางหยางยิ้ม ดันทำให้เขารู้เสียแล้วว่าเพลงนั้นก็ตั้งใจจะร้องอยู่ก่อนหน้า ยิ้มแบบนั้นทำไม จะดีใจอะไรกัน

“ดีใจอะไรกันหนา”
“ก็เพราะว่าใจตรงกันไง”
“อย่าพูดเหมือนผมเป็นสาวน้อยที่ไหนเลยได้มั้ย”
“ครับ คุณไม่ได้เป็นเหมือนสาวน้อยพวกนั้น ก็เพราะอย่างนี้ ผมถึงได้เดินตามคุณมาต้อย ๆอย่างนี้ล่ะ กลัวใครจะลักตัวไปเสียก่อน ว่าแต่คุณทำหน้าตาแบบนี้เดินกลับบ้านทุกวันเลยรึไง”
“หน้าตายังไง”
“ก็หน้าตาน่ารัก ๆแบบนี้ แบบที่คุณทำใส่ผมอยู่นี่ไง”
“ห๊ะ?”


อีเฟิงหันไปทางที่บังเอิญมีอะไรซักอย่างที่ส่องหน้าตัวเองได้ หน้าแดงไปถึงหู บ้าไปแล้วหลี่อี้เฟิง นายเขินอะไรกับตาบ้ากวนประสาทนี่ 

ฟังหยางหยางพูดจบอี้เฟิงก็กอดกีตาร์และกระเป๋าแน่น รีบก้าวให้กว้างกว่าเดิม ให้หนีจากหมอนี่ให้ได้ก่อน ค่อยว่ากัน แต่อีกคนไม่ได้สนใจอะไรเขาเลย เดินตามมาไม่ลดละ 

“โอย ไม่ต้องตามาแล้วรุ่นพี่ ถึงห้องผมแล้ว”
“อา..แบบนี้ก็ดีเลย ห้องผมอยู่ตรงนั้น”


เขาขี้ไปทางขวาถัดจากห้องของอี้เฟิงไปหนึ่งห้อง หมายความว่าอยู่ชั้นเดียวกันแถมห้องก็ใกล้กันขนาดนี้ ห้องที่อยู่คั่นกลางระหว่างห้องเขากับรุ่นพี่หยางหยางก็เป็นห้องว่างที่ปิดซ่อมอยู่ไม่มีกำหนดเปิด



“ไว้อยากมีบอดี้การ์ดส่วนตัว แล้วเรียกผมได้เลยนะ คุณอี้เฟิง”
“ไม่มีทาง”
“จะเดินไปไหนด้วยหน้าตาน่ารักแบบนั้นไม่ได้นะ อันตราย”
“อย่ามายุ่งกับหน้าตาผมได้มั้ยเล่า!”
“จะให้ทำงั้นได้ไง คุณเป็นอะไรไป ผมก็แย่น่ะสิ”
“แล้วมันเกี่ยวอะไรกับรุ่นพี่ล่ะโว้ย”


คุณรุ่นพี่ช่างกวนประสาทที่ขนาดหันหลังไปยังห้องตัวเอง ไกลจากเขาเรื่อยๆก็ยังไม่วายทิ้งคำหยอดมาให้ ก็หยุดหันมาหาอี้เฟิง แต่แววตาทะเล้นหายไปเยอะ และตอบกลับมา


“เกี่ยวสิ หัวใจของผมทั้งดวงเลย”




อี้เฟิงได้ยินแทบปล่อยกีตาร์ลูรักร่วงลงพื้น ก็เพิ่งเคยเจอนี่แหละ คนบ้าพูดอะไรหวานๆ โดยไม่อายฟ้าดินเลยซักนิด



“หัวใจรุ่นพี่สิไม่เกี่ยวกับผม ไม่ยุ่งด้วยแล้ว”


อี้เฟิงเปิดประตูรีบวิ่งเข้าห้อง แถมโครมดัง ๆสั่นจนห้องตรงข้ามตะโกนนด่าลั่นให้หยางหยางขำเล็กน้อย 



คนอะไรน่ารักทุกเวลา ทุกแอคชั่น ก็ถามอยู่ว่าเดินกลับบ้านคนเดียวไม่อันตรายหรืออย่างไร 
หลังจากนี้ คงต้องตามใกล้ชิดกว่าเดิมจากที่เคยเป็น
ปกติไม่เคยคิดจะกล้ามาคุย แต่สัญญากว่าตัวเองไว้ว่า ถ้าชนะการแข่งขันวันนี้ที่เป็นรอบชิงชนะเลิศรอบใหญ่ของจังหวัด 
ถ้าชนะ ก็จะให้รางวัลตัวเองโดยเข้าไปคุยกับรุ่นน้องคนนี้เสียที



“เป็นรางวัลของแกแล้วกันหยางหยาง ได้นั่งจ้องหน้าน้องเขานานสองนาน วันนี้หลับฝันดีแล้ว”

















************************************************************************************************** TBC --2 *****

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น