วันอาทิตย์ที่ 26 กรกฎาคม พ.ศ. 2558

[FIC] OURSONG ~我們的歌 -- หยางเฟิง / เพลงที่ 3





[FIC] OURSONG ~我們的歌 -- หยางเฟิง / เพลงที่ 3
Pairing :: หยางหยาง x หลี่อี้เฟิง
Rating :: PG
Tell :: เปิดเพลงตอนอ่านด้วยเนอะ
เพลงที่อยากให้ฟังตอนอ่าน :: 

TopCombine (至上励合) - Cotton Candy (棉花糖 )







*******************************************************************************


"โครตบังเอิญ!"



หยางหยางอุทานแม้จะเสียงเบาแต่ทำเอาแมวที่เดินผ่านมาอย่างบังเอิญตกใจวิ่งผ่านหนีหยางหยางไปทันที จากที่ก้าวอย่างอิดออดเพราะค่อนข้างเหนื่อยจากการซ้อมเทควันโด้อย่างหนักหน่วง เพราะทั้งต้องซ้อมให้รุ่นน้องที่เพิ่งเข้าชมรมมามากมาย แถมยังเป็นพวกที่สมัครเข้ามาเพราะเขาอีก ทั้งต้องซ้อมเพื่อตัวเอง ในการแข่งขันในฤดุกาลต่อไปที่จะมาถึง เหนื่อยแทบขาดใจ




แต่ตอนนี้ไม่ขาดแล้ว หัวใจของเขาได้รับการเยียวยา



น้องอี้เฟิงสุดที่รักของหยางหยางคนนี้ยืนอยู่ตรงหน้าไม่เกิน 10 เมตร





ก้าวแรก หยางหยางมั่นใจ อยากจะเข้าไปทักรุ่นน้องคนน่ารักจนแทบลอยไปหาอีกฝ่าย
แต่ก้าวที่สองชักเริ่มไม่มั่นใจ อาการประหม่าเริ่มมากขึ้นเมื่อเริ่มก้าวที่สามสี่เป็นต้นไป
สุดท้ายหยางหยางก้าวถอยมายืนที่เดิม



เขาเป็นคนที่มั่นใจในหน้าตา และคารมตัวเองไม่น้อย แต่ก็ไม่ได้ใช้มันพร่ำเพรื่อกับใคร จนมาเจอหลี่อี้เฟิงคนนี้ ในช่วงก่อนหน้าที่เจอกัน หยางหยางได้ใช้ของดีในตัว ใช้จนเเทบหมดพลัง ดูน้องเขาหวั่นไหวเล็กน้อย แต่จากการประมาณการ น้องอี้เฟิงดูจะกลัวเขานิดหน่อย เพราะจู่โจมทันทีที่มีโอกาส ทุกช่องที่อี้เฟิงเผลอ เขาถึงรู้สึกว่า การจู่โจมแมวน่ารัก ๆ  เป็นการทำการใหญ่ ซึ่งต้องใจเย็น



หมาป่าเฝ้ารอเหยื่อโอชะอยู่นาน กว่าจะเข้าจู่โจม และถึงคราวจู่โจมก็อยู่หมัด เหยื่อนั้นอยู่ในกำมือ เป็นของโอชะสมกับที่รอ




นั่นล่ะ เขาต้องอย่างนั้น แต่คิดว่าเขาคงเปรียบตัวเองน่ากลัวไปหน่อย หยางหยางไม่ใช่คนน่ากลัวเเบบหมาป่าขนาดนั้น แม้เพื่อนสนิทจะเคยบอกมาบ้างก็เถอะ




" เอ้า "


หยางหยางร้องอุทานอีกครั้ง เมือเห็นร่างเพรียวของอี้เฟิงรี่วิ่งไปพร้อมแบกกีตาร์ตัวโปรดออกไปที่ถนนใหญ่ พ้นรั้วมหาวิทยาลัยเเล้ว รุ่นพี่ที่แอบตามน้องที่รักรีบสาวก้าวตามไป แต่ทิ้งห่างให้อีกคนไม่รู้ตัว จนเมื่อมาพบสาเหตุที่ทำให้อี้เฟิงถลันออกไปเร็วขนาดนั้น ก็เพราะไปดักทางเพื่ื่อนอีกกลุ่มหนึ่งของเขาที่อยู่รั้วมหาวิทยาลัย คุยอะไรกันดูเครียด ๆ นิดหน่อย หลังจากนั้นก็หัวเราะขำกัน ดูย้อนแย่งแต่ก็คงไม่มีอะไรเครียด หยางหยางมองภาพนั้นอยู่ซักพัก ก็รู้สึกว่าตัวเองยืนผิดที่ไปหน่อย เลยหลบเข้ามุมซักนิด เพราะเหมือนจะได้ยินเสียงสาวน้อยหลายคนร้องทักเขาแล้ว แบบนี้น้องอี้เฟิงก็รู้กันหมดพอดีว่าเขากำลังเดินตามอยู่ ไม่ใช่สโตรคเกอร์ ้แค่อยากตามดูแลห่าง ๆ เปลี่ยนคำให้หรูว่าเป็นบอดี้การ์ดลับ ๆ แล้วกัน




ก็บอกไปก่อนหน้าที่เจอกันแล้ว ว่าจะเป็นบอดี้การ์ด ถึงน้องอี้เฟิงจะไม่อนุญาตในตอนนี้ก็ขอเป็นแอบ ๆ แบบนี้ไปก่อน



อย่างน้อยก็ขอให้หยางหยางทำอะไรแบบนี้ เพื่อหัวใจของตัวเอง ขอแค่ได้เห็นหน้าน้องอี้เฟิง ให้ไปวิ่งรอบมหาลัยเป็นร้อยรอบก็ทำได้



"เอ้า" อีกครั้งที่อุทาน อี้เฟิงเดินออกจากทีเ่ดิมไปแล้ว เหมือนจะตรงไปทางป้ายรถเมล์ วันนี้เขาอาจจะออกนอกเส้นทางไปที่อื่น หยางหยางกำลังสองจิตสองใจว่าจะตามไปดีมั้ย เพราะดูเหมือนจะก้าวก่ายชีวิตน้องเขา เป็นสโตรคเกอร์ไปจริง ๆ แต่อีกใจนึงก็อยากตามไปดูแล จริง ๆ อ้างไปอย่างนั้น หยางหยางแค่อยากมองใบหน้าน่ารักนั้นให้มากกว่าเดิม แค่ นาทีเดียวก็ยังดี





"เอาวะ!"

ถือซะว่าจะได้ส่งน้องเขากลับหอด้วย ก็บอกไปว่ากลับหอทางเดียวกัน ถ้าบังเอิญเจอะหน้ากัน หยางหยางคิด

หยางหยางทิ้งภาพคนหล่อระดับเดือนมหาวิทยาลัยและนายแบบ เดินสะกดรอยก้าวตามหนุ่มน้อยน่ารักที่แบกกีตาร์ ตอนนี้ร่างนั้นพาตัวเองขึ้นรถเมล์ไปแล้ว หยางหยางรีบสาวเท้าก้าวให้ทันที่รถเมล์จะทิ้งสถานีไป และทันพอดี เขาขึ้นรถมาทัน และเห็นอี้เฟิงยืนอยู่อีกฝั่ง หยางหยางยืนอยู่ที่ท้ายรถ ส่วนอี้เฟิงยืนอยู่ส่วนหน้าของรถ เหมือนแทรกตัวไปให้เจอที่ว่างพอที่ร่างเพรียวพร้อมกีตาร์ยืนได้พอดีและหยางหยางก็เห็นว่าต่อไปจะเริ่มไม่พอดีเพราะเริ่มมีนักเรียนจากโรงเรียนที่เพิ่งเลิกเรียนก็เริ่มขึ้นรถมาเรื่อย ๆ เเละไม่ทันที่อี้เฟิงจะนั่งที่ไหน ที่นั่งก็ถูกจับจองไปเสียหมดแล้ว เห็นอีกคนเบ้หน้า ดูหงุดหงิดเล็ก ๆ หยางหยางอมยิ้มเล็กน้อยเพราะดูน่ารักไม่หยอก ไม่ว่าอี้เฟิงจะทำหน้าตาแบบไหน แต่คิดว่าไม่ใช่ช่วงเวลาขำ แต่ควรหาทางช่วยให้น้องเขายืนได้สบายจนกว่าจะลงป้ายที่เขาต้องการ แต่ตอนนี้ยังไม่มีใครลงและลุกขึ้น ก็ยังหาที่นั่งไม่ได้ไปซักพักใหญ่




" เอ้า "



และอีกครั้งเป็นรอบที่สาม  หลังจากรถเมล์ขับเคลื่อนไปได้พักใหญ่ เขาสองคนไม่แม้จะได้นั่ง หยางหยาง ไม่ทันตั้งตัว อี้เฟิงก็พรวดลงจากรถ หลังจากจ่ายเงินค่ารถเมล์เรียบร้อย ร่างของอี้เฟิง รีบสาวเท้ากึ่งเดินกึ่งวิ่ง พลางดูนาฬิกาที่ข้อมือ ดูรีบเร่งจากเดิมมากขึ้น น้องเขาอาจมีธุระ หยางหยางคิด รุ่นพี่ในชุดวอร์มของชมรมกระชับแจ็คเกตเล็กน้อย และพากกระเป๋าบนไหล่ให้พอดี แล้วรีบสาวเท้าตามอี้เฟิงไป ไม่ติดขนาดนั้นแต่ทิ้งห่างให้อีกคนไม่รู้ตัวเช่นเดิม ก็ให้สมกับเป็นบอดี้การ์ดในคราบสโตรคเกอรฺ์ในวันนี้หน่อย



"โรงพยาบาล?"



เขากำลังแปลกใจที่อี้เฟิงมุ่งตรงมาที่โรงพยาบาล ซึ่งเป้นโรงพยาบาลเล็ก ๆ ซึ่งเป็นโรงพยาบาลเด็กเสียด้วย มีตึกแค่สองสามตึก เมื่อผ่านเข้ามาในตึกก็เห็นป้ายบุคลากรในโรงพยาบาบมีไม่ถึง 30 คนด้วยซ้ำ รุ่นน้องรีบวิ่งไปที่เค้าท์เตอร์ประชาสัมพันธ์ มีใครในครอบครัวของน่้องเข้าเป็นอะไรหรือ หยางหยางเริ่มรู้สึกเป็นห่วงมากขึ้น แต่ก่อนที่ความเป็นห่วงนั้นจะเพิ่มขึ้นเป็นสองสาม



"ตายล่ะ"




อี้เฟิงเดินหันหลังกลับมา หยางหยางแทบหลบไม่ทัน เขาวิ่งหลบไปอีกทาง รุ่นน้องเดินผ่านจุดทีเขาหลบอยู่ออกไปทางหลังโรงพยาบาล




แต่ยังไม่ทันจะเลยไปเกินสิบก้าว



"รุ่นพี่ ไหน ๆก็ตามมาถึงนี่แล้ว ก็มาช่วยกันมั้ยล่ะ ? "




ตายล่ะ.....




คิดว่าถ้าเขาจะสะกดรอยใครคงทำไม่ได้ ยิ่งเป็นหลี่อี้เฟิงคนนี้ยิ่งทำไม่ได้ อาจเป็นเพราะความห่วงหาจากเขามีเยอะเกินไปจนน้องเขารู้สึกได้



"รุ่นพี่ตามผมมาทำไม"
"เอ่อ..."
"เห็นตั้งแตเมือ่ไหร่"
"หน้ามหาลัย เพื่อนชี้ให้ดู บนรถก็หงุดหงิดรุ่นพี่น่ะล่ะ เล่นตามมาด้วยแบบนั้น"
"ขอโทษนะครับ"
"ช่างเถอะ รุ่นพี่มีธุระอะไรกับผม "


หยางหยางออกจากที่ซ่อนมา ยืนตรงหน้าอี้เฟิงอย่างยอมรับผิด คิดว่าถ้าเป็นสาวเจ้าคนอื่นเขาคงใช้คารมบวกใบหน้าสู้เอาได้ แต่คนนี้แตกต่างออกไป ทำไม่ได้


"บอดี้การ์ด"
"หา?"
"ก็คราวที่เเล้วที่เจอกัน ก็บอกแล้วไงว่าจะเป็นบอดี้การ์ด"


อี้เฟิงขมวดคิ้วพร้อมส่ายหัวไม่เห็นด้วย ก้าวไปหารุ่นพี่อีกก้าว


"แบบนี้ผมเรียกว่าสโตรคเกอร์"
"ขอโทษด้วยนะ จริง ๆ ผิดไปแล้ว แต่ผมแค่สงสัยว่าคุณไปไหน ทั้งที่มันคนละทางกับหอพัก"
"เป็นห่วงเพื่อนบ้านข้างห้องขึ้นมา ? "
"นั่นเป็นประเด็นหลักเลยล่ะ"

ตอบอย่างไม่หลบเลี่ยง จนอี้เฟิงยกยิ้มขำ ไม่รู้จะเอายังไงกับสถานการณ์นี้ แต่ตอนนี้ยังทำอะไรไม่ได้


"ผมต้องรีบไปที่ที่หนึ่ง ไหน ๆ พี่ก็มาแล้ว ก็มาช่วยทำงานหน่อย "



พูดจบรุ่นน้องก็รีบดึงมือเขาไป หยางหยางรู้สึกตกใจเล็กน้อย แน่นอนเขาไม่มีทางขัดขืนอยู่แล้ว จะจับก็จับเลย เขาอยากให้ทำมากกว่าด้วยซ้ำแต่ก็ได้แค่คิด



"เพื่อนผมกับผมมีนัดจะมาเล่นดนตรีที่นี่กัน แต่เจ้าเพื่อนเวรมันดันโดดไป แต่มันก็จำเป็น ที่บ้านมีเรื่องนิดหน่อย ผมเลยจะต้องมารับมือกับเด็ก ๆ 30 คน อยู่คนเดียว"



อี้เฟิงหยุดเดิน และหยุดกึ่งลากหยางหยาง มาหยุดที่หน้าห้องโถงเล็ก ๆ ห้องหนึ่ง มีคุณพยาประมาณห้าคนพร้อมเด็ก ๆ อีกประมาณสามสิบ กำลังน่ารักและอยู่ในวัยซนเเสบ เสียงดังเจี๊ยวจ๊าว มีคุณพยาบาลคนหนึ่งประกาศว่าจะมีพี่ชายมาเล่นดนตรีให้ฟัง อี้เฟิงก็ผลันผลักประตูไปทันที่คุณพยาบาลประกาศ



"อ้าว หนูอี้เฟิงมาคนเดียวเหรอ ? "
"ก็มีรุ่นพี่มาด้วยน่ะครับ แต่ไม่มั่นใจว่าพี่เขาจะเล่นดนตรีเป็นมั้ย"



หมายถึงเขาสินะ ?


หยางหยางรีบก้าวเข้าไปในโถงเล็ก ๆ นั่น พร้อมกับวางกระเป๋าข้าง ๆ สาวน้อยวัยกระเตาะเข้ามารุมล้อมหยางหยางที่คนละคนสอง ร้องถามชื่อ


"พี่ชายชื่ออะไรคะ?"
"พี่ชายหล่อจังเลย"


อี้เฟิงตวัดสายตามามองอย่างนึกค้อน หยางหยางที่ทันหันไปเห็นก็บอกด้วยสีหน้าว่า ไม่รู้จะทำำอย่างไร แกมยิ้มเเหยส่งกลับ คนเป็นรุ่นน้องงอนสะบัดหน้าหนีกลับไปแล้ว เขาจึงได้แค่ถอนใจ คิดว่าเดี๋ยวจะหาขนมเเพคใหญ่ไปง้อแล้วกัน



"ผมเล่นเปียโนได้ครับ เปียโนหลังนั้นใช้ได้ใช่มั้ย?"



คุณพยาบาลพยักหน้าและตอบว่าเมื่ออาทิตย์ที่แล้วก็มีคุณหมอเวรที่อยู่ประจำมาเล่นให้เด็ก ๆ ฟัง แล้วก็แอบเเซวว่าวันนี้จะมีคนหล่อขนาดเด็กรุมล้อมขนาดนี้มาเล่นให้ฟัง คงเพราะไม่แพ้กัน อี้เฟิงส่งเสียงงอนบอกว่าจะกลับแล้วให้หยางหยางเล่นคนเดียวไปเลย


"หนูอี้เฟิง อย่างอนไปเลย รุ่นพี่หนูเขาหล่อแต่หนูน่ารักสดใส คนละสายกัน พี่ๆ กับเด็ก ๆ มาชมยังไงก็คุ้ม "


อี้เฟิงพยักหน้ายิ้มแกมขำ ก็ไม่รู้จะทำหน้าอย่างไรแต่คำว่าน่ารัก เขาได้ยินจนชินแล้ว ก็แล้วกันไป จบคำ สายตาแมวดุพุ่งมาหาหยางหยางและบอกว่าให้ไปเตรียมเล่นเปียโนได้แล้ว



"รุ่นพี่เล่นเพลงอะไรได้บ้าง "



หยางหยางเงียบไปครู่หนึ่ง ขอใช้เวลาคิด เขาเล่นได้เยอะเพลงเพราะคุณแม่ให้เรียนไว้บ้างตั้งแต่ประถม แต่ก็จำโน๊ตไม่เยอะนัก




"วันนี้ขนมเป็นสายไหมนะจ๊ะเด็ก ๆแต่ทานแล้วอย่าลืมแปรงฟันด้วยน้า"

ได้ยินคุณพยาบาลประกาศเช่นนั้น หยางหยางก็นึกออกมาหนึ่งเพลงที่ฟังบ่อย ๆ ในเครื่องเล่นเพลงของเขาก็มี โน๊ตก็ไม่ยากมากและเด็ก ๆ ก็พอฟังได้ไม่ใช่เพลงรักที่หวานเกินไป






"棉花糖   พอเล่นได้ไหม "
"อ๋า รู้จักล่ะ ชอบเลยด้วย เพลงนี้ก็ได้ รุ่นพี่เล่นเปียโน ผมก็กีตาร์ งั้นเรามาซ้อมกันแป๊บนึงแล้วกัน"




อี้เฟิงรีบวิ่งไปคว้ากีตาร์ตัวโปรดมา ลากเก้าอี้มานั่งใกล้กับเปียโน นั่งลงข้างๆ หยางหยางที่เตรียมจะเล่นเปียโนแล้วเหมือนกัน ก่อนนั้นอี้เฟิงบอกคุณพยาบาลว่าขอ 10 นาทีให้เด็ก ๆ เล่นเกมส์กันก่อน เพื่อให้เขาสองคนได้เตรียมตัว




"รุ่นพี่หยางหยาง เดี๋ยวพี่เริ่มเล่น เดี๋ยวผมจะต่อจากรุ่นพี่ แล้วจะประสานกันจนจบเนอะ"
"ครับ แบบนั้นก็ได้ แต่มีอะไรจะขอซักอย่าง ได้ไหม"



อี้เฟิงประหลาดใจกับคำขออันเร่งด่วน เงยหน้าจากกีตาร์มามองรุ่นพี่ เห็นสายตาแน่วแน่ ท่าทางจะตั้งใจขอจริงๆ เขาเลยลองรับฟัง


"เปลี่ยนจากรุ่นพี่ เป็น หยางเกอ แทนได้มั้ย จะตั้งใจเล่นเลย"
"หา?"


รุ่นน้องประหลาดใจคูณสองเมื่อได้ยินคำขอ

"เหตุผล ? "
"เรียกรุ่นพี่ดูห่างเหิน"
"แต่ผมก็ไม่ได้สนิทกับพี่ขนาดนั้น แถมครั้งนี้ รุ่นพี่สโตรคเกอร์ผม ตามผมมา ผมจับได้ ต้องลงโทษ"
"ยอมให้ลงโทษแล้วไงครับ แต่ถือว่าเป็นคำขอของนักโทษ..นะ"



หยางหยางพูดอ้อนวอน หันใบหน้ามาพยายามมองดวงตาสดใสของอี้เฟิง แต่อีกฝ่ายเสหลบได้ทัน แต่แว้บหนึงที่เขาเห็นสายตาสดใสคู่นั้นวูบไหว ทำให้หยางหยางคิดว่ารอยยิ้มและคำอ้อนวอนเขาอาจจะเป้นผล



"ที่สำคัญกว่านั้น รุ่นพี่คนนี้อยากสนิทกับรุ่นน้องคนนี้ด้วย เรามาเปลี่ยนสรรพนามให้สนิทกันกว่าเดิมนะ อย่างหยางหยางเกอเกอ หยางเกอ ผมก็จะเรียกคุณว่าน้องอี้เฟิง อี้เฟิง ทำนองนี้ ดีมั้ย"
"นักโทษขอเยอะจัง ไม่ให้ได้มั้ย"


หยางหยางยิ้มขำ ท่าทางอีกคนพูดหยอกแถมดูไม่สนใจคำขอเขาเท่าไหร่ ไม่เป็นไร งั้นค่อยไปทีละขั้นก็ได้ และวันนี้เขาผิดที่แอบตามอีกฝ่ายมาด้วย



"โอเค..ยอมแล้ว " หยางหยางยกมือยอมแพ้ไม่ขอต่อรอง อี้เฟิงก็ยักไหล่เม้มปากยิ้มพอใจ ก่อนก้มไปเล่นกีตาร์ซ้อมเพลง 棉花糖 ต่อ รื้อฟื้นความจำ



หยางหยางก็หันกลับมารื้อโน๊ตเพลงนี้เช่นกัน


"หยางเกอ เราจะเริ่มเล่นตั้งแต่ต้นเพลงเลยนะ แต่พอจบเราก็วนท่อนฮุ๊คซักรอบหนึ่งยืดต่อ เพื่อให้เพื่อนผมมาทันรอบต่อไป"


"โอเคครับ.."



ห๊ะ?



"เมื่อกี้..."
"อะไรกัน ตัวเองขอเองแท้ ๆ "



อี้เฟิงพูดในขณะที่ใบหน้าก้มง่วนอยู่กับกีตาร์ไม่ได้มองใบหน้าของหยางหยางที่ยิ้มกว้างใกล้เป้นคนบ้าเต็มที แต่ก่อนจะเป้นบ้าจริง ๆเขารีบเรียกสติกลับคืน เรียกความคูลคืนมาด้วย จริง ๆวันนี้ต้องเท่ แต่เขาหลุดไปหลายครั้ง ก็เพราะเจอน้องอี้เฟิงใกล้ ๆ นี่ล่ะ



"แล้วที่บอกตะกี้น่ะเข้าใจรึยังครับ หยางเกอ?"
"เข้าใจแล้วครับ ...น้องอี่้เฟิง"



อี้เฟิงขมวดคิ้วทั้งที่ยังคงก้มง่วนกับกีตาร์เช่นเดิม หยางหยางสังเกตเห็นและนอกจากนั้น ยังเห็นแก้มที่น่าจะนุ่มนิ่มของน้องอี้เฟิงของเขาอมยิ้มแก้มตุ่ยน่ารักเสียด้วย





พอแล้ว หยางหยาง วันนี้แกได้ความหวานกลับไปนอนกอดมากเกินไปแล้ว
หวานยิ่งกว่าชื่อเพลงที่จะเล่นวันนี้เสียอีก




"หนุ่ม ๆ พร้อมกันรึยัง แฟนเพลงตัวน้อยพร้อมจะฟังแล้วจ้า"




แฟนเพลงตัวน้อยมองตาแป๋ว ในขณะที่พี่ชายคนหล่อคนน่ารักกำลังเตรียมเครื่องดนตรี ลองซ้อมกันไปสามสี่รอบ ก็เข้ากันได้อย่างรวดเร็ว อี้เฟิงเอ่ยชมหยางหยางว่าเล่นเปียโนใช้ได้เลย แม้จะเป้นพวกเล่นกีฬา ทำเอาหยางยิ้มพอใจจนอี้เฟิงนึกหมั่นไส้ ส่งสายไหมมาให้จนแทบจะทิ่มใบหน้าเขา



"เอาไปกินก่อนเลย เกอยิ้มจนจะเหมือนคนบ้าแล้ว จะดีใจอะไร เกอพอใจอะไรนักหนา"



หยางหยางรับสายไหมจากมือรุ่นน้องมากินสองสามคำก็หมด เพราะเป็นก้านเล้็ก ๆ ที่ทำไว้สำหรับเด็ก ๆ พอหมดก็หันไปยิ้มให้จนอีกฝ่ายหมั่นไส้ลงมือทำร้ายร่างกายนักโทษจนได้ โดยการหยิกให้หายหมั่นไส้


"โอ๊ย อี้เฟิง"
"หมั่นไส้อะ ยิ้มอะไรนักหนาเนี่ย"
"แต่เกอคนนี้มีความสุข ยิ้มแล้วผิดอะไรล่ะ"
"ผิดทุกประตูเพราะหมั่นไส้มากกกกก"


พูดลากเสียงยาวแล้วก็เดินหนีไปเตรียมตัวเล่นกีตาร์ซะเเล้ว ดูเหมือนอีกฝ่ายจะเขินเขาอยู่ไม่มากก็น้อย หยางหยางขำกับตัวเเองเสียงเบา เขารู้ว่าวันนี้ตัวเองกำไรสุด ๆ แล้ว เข้าใกล้อีกฝ่ายอย่างที่ไม่เคยเป็นมาก่อนขนาดนี้ เวลาเช่นนี้ไม่ได้หาได้ง่าย ๆ และหยางหยางก็ไม่คิดว่าเขาจะโชคดีแบบนี้ไปทุกครั้ง ซึ่งหมายความว่า



วันนี้เขาต้องความหวานยิ่งกว่าสายไหมในวันนี้ไปเต็มอิ่ม เป็นเบาหวานตายก็ยอม






หลังจากนั้นก็เป็นบรรยากาศความหวานจากเพลง 棉花糖 เพลงตันฉบับนั้นเป็นเพลงที่ฟังง่าย สบายๆ แต่หวานเหมือนชื่อเพลง ความหมายก็ใส ๆ หวานในระดับที่เด็กน้อยเข้าใจได้แต่ผู้ใหญ่ก็เขินได้เหมือนกัน ส่วนทั้งหยางหยางและอี้เฟิงที่กลายเป็นดูโอ้จำเป็นต่างบรรเลงเพลงนี้ด้วยเครื่องดนตรีที่ตัวเองถนัด โดยมีอี้เฟิงเป็นคนร้องเพลง เนื้อเพลงกำลังหวานพอดีทั้งสำหรับแฟนตัวน้อยและเขาสองคน ให้ยิ้มไปกับทุกประโยคที่อี้เฟิงกำลังร้อง แฟนคลับตัวน้อยมีโบกมือ โยกตัวตามด้วย  เมื่ออี้เฟิงโยกเป็นจังหวะตามที่เขาเล่นกีตาร์เล่นร้องเพลง สาวน้อยคนหนึ่งเดินมายืนใกล้ ๆ อี้เฟิง แล้วยืนโยกตัวใกล้ๆ พี่ชายคนน่ารักของเธอ มีอีกคนนมายืนใกล้หยางหยาง แล้วก็ทำอย่างเพื่อนสาวน้อยของเธอ จนจบเพลง เด็กน้อยทุกคนปรบมือขอบคุณ และมีของตอบแทนให้เป็นสายไหมคนละไม้คนละสีให้พี่ชายคนน่ารักกับคนหล่อ



"พี่คนหล่อต้องสีฟ้านะ ส่วนพี่อี้เฟิงหนูให้ชมพู"
"อ้าว ทำไมล่ะ?"
"พี่น่ารักเหมือนตุ๊กตาที่ห้องหนูเลย"


เด็กน้อยพูดจบล้วก็ยิ้มกับเพื่อน และก็ไปวิ่งเล่นตามประสาเด็ก ที่คิดไวทำไวไปไวเหลือเกิน วิ่งไปโน่นและทิ้งให้พี่ชายสองคนยืนมองหน้าแล้วก็เขินกันไปเอง และงับสายไหมกันคนละคนสองคำ จนหมดไม้แก้เก้อกันไป





สายไหมหวานสู้บรรยากาศของหยางหยางและอี้เฟิงตอนนี้ได้มั้ย ?













"ดีนะที่เจ้าพวกนั้นมาทันการแสดงดนตรีอีกรอบ ไม่งั้นโดนเอ็ดแน่ เป็นโปรเจคของชมรมซะด้วย"



เพราะชมรมมีการทำสัญญาไว้เป็นโปรเจคของชมรมว่าจะมีการเล่นดนตรีการกุศลวนไปในที่ที่สามารถไปเล่นได้ วันนี้เป้นคิวของโรงพยาบาลเด็กในแถบนี้ แต่เพื่อนของอี้เฟิงติดภารกิจที่บ้านกันหมด จึงกลายเป็นอี้เฟิงต้องมารับหน้าและเพื่อนเหล่านั้นก็จะมาสลับกันอี้เฟิงในรอบหลัง ทดแทนกันไปและหยางหยางนั้นก็เป็นผู้โชคดีหรือที่อี้เฟิงเรียกว่านักโทษในวันนี้ได้เป็นนักดนตรีจำเป็นมาเล่นคู่กับอี้เฟิงอย่างบังเอิญ







จะว่าบังเอิญก็ดี หรือตั้งใจก็ดี แต่วันนี้ของหยางหยางหวานกว่าใคร ๆ เสียแล้ว






"รุ่นพี่--"
"อ๊ะ "
"หยางเกอ"
"ครับ "
"ผมโครตหมั่นไส้พี่เลยตอนนี้ แค่เรียกว่าหยางเกอจะดีใจขนาดนั้นรึไง"
"เพราะมันลดระยะห่างระหว่างเกอกับอี้เฟิงไปเยอะเลยน่ะสิ"
"จ้า ตามใจเลย จะเรียกจะเเทนตัวเองยังไงก็ เอาที่สบายใจ"
"แล้วก็นะ หยางเกอ เข้าใจเลือกเพลงดีนะ"
"คิดสดได้ตอนนั้นน่ะครับ ก็เห็นสายไหมพอดี"
"ง่ายเกินไปแล้ว"

อี้เฟิงหัวเราะแกมขำ ก่อนยักไหล่เดินนำหยางหยางไป
จริง ๆ พอสัมผัสได้อยู่ว่าสรรพนามที่เพิ่งเปลี่ยนใหม่เหมาะกับทั้งสองคนไม่เลวเลย



หยางหยางและอี้เฟิงในระหว่างทางกลับหอพัก ตอนนี้ทั้งสองคนอยู่บนรถเมล์สายเดิมที่มา รู้สึกว่ารถจะขับช้ากว่าขามา เพราะตอนนี้ท้องฟ้าเริ่มมืด และคนเริ่มน้อยจึงลดความเร็วลง หยางหยางอาสาเป็นคนถือกีตาร์ จริงๆ เขาอาสาทุกอย่าง อยากให้ลดความผิดเรื่องที่สโตรคเกอร์ตามอี้เฟิงมา ให้ทำอะไรก็ยอมได้หมด แค่อีกฝ่ายไม่กลัวและผวารุ่นพี่คนนี้เป็นพอ



ไม่สิตอนนี้เป็นหยางหยางเกอเกอของน้องอี้เฟิงแล้วนี่



"เกอตามผมมา นี่ถามจริง ไอ้เรื่องบอดี้การ์ดนี่จริงจังหรอ ?"
"จริงจัง แต่แค่อี้เฟิงอยากให้เกอจริงจังด้วยมั้ย ?"
"เรื่องบอดี้การ์ดนี่น่ะนะ?
"เปล่า ทุกเรื่องเลย "


หยางหยางพูดมีความนัยอีกเเล้ว อี้เฟิงยู่คิ้วไม่ตอบแล้วหันไปอีกทางออกหน้าต่างไป เพราะรุ่นน้องคนน่ารักนั่งชิดหน้าต่างเลยเฉไฉออกมองไปทางอื่นง่าย เห็นว่าไปแอบอมยิ้มกับต้นไม้ริมทางที่รถเมล์วิ่งผ่านเมื่อครู่นี้ แต่หยางหยางทำไม่ได้ เพราะเบาะที่เขานั่งอยู่ ฝั่งข้าง ๆ กันมีคุณตาคุณยายจ้องหน้าอยู่ แถมยิ้ม ๆ หันมาซุบซิบทางพวกเขาอีกด้วย


"น้องอี้เฟิง ขอคำตอบด้วยครับ"
"ไม่ตอบ คิดเอาเองแล้วกันนะ หยางหยางเกอเกอ"



เรียกซะเต็มยศแต่เสียงกวนคนเป็นรุ่นพี่เต็มที่ หยางหยางยื่นหน้าไปมองรุ่นน้องที่รัก พวกเขาสองคนไม่ได้นั่งเบาะที่นั่งเดียวกันแต่ หยางหยางนั่งหลังถัดจากอี้เฟิงมา ที่นั่งแม้จะนั่งสองคนได้โดยไม่คับแคบอะไรแต่ หยางหยางอยากเว้นระยะห่าง รุกรุ่นน้องที่รักมาขนาดนี้ วันนี้เขาคงพอ ให้อีกฝ่ายได้หายใจหายคอบ้าง


ก่อนหน้านี้เคยให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัย หยางหยางนึกไปถึงคำถามนั้นว่า 'ถ้ามีคนที่ชอบ เขาจะทำอย่างไร' ตอนนี้ก็อย่างที่เห็น เขารุก ลุยเต็มที่ เพราะแน่ใจว่าคนนี้ตรงใจและใช่ที่สุดแล้ว และกลัวจะคว้าเขาไว้ไม่ทัน จึงติดสปีดรุกแล้ว เพราะก่อนหน้านี้เขาแทบจะไมไ่ด้คุยเลยหลังจากเจอว่าหลี่อี้เฟิงคนนี้ล่ะใช่เลย เมื่อไม่กี่เดือนก่อนหน้า และหยางหยางก็ให้รางวัลกับตัวเองไว้ว่า ถ้าชนะการแข่งซึ่งก็คือการแข่งก่อนหน้านี้ก็จะเข้ามาทำความรู้จักหรือคุยกับน้องเขาเป็นรางวัล เขาทำเต็มที่และขนะ และนี่คือของรางวัล




ได้มาเเล้ว และได้มากกว่าที่หวังไว้ ใกล้กว่าที่คิดและตั้งใจไว้มาก





เขาอาจจะมีโอกาสในความรักครั้งนี้ก็ได้






"ขอบคุณนะที่อุตส่าห์มาช่วย"
"ครับ ได้เสมออยู่แล้ว"



หยางหยางมองแค่ช่วงต้นคอที่โผล่พ้นเบาะที่นั่งผู้โดยสารมา เพระาหยางหยางนั่งเบาะหลัง อยากจะมองหน้าก็ไม่ถนัดนอกจากอีกฝ่ายจะหันมาหาเองเท่านั้น



และก็..




"กินสายไหมมั้ย เกอ ผมได้รับจากเด็ก ๆ มา แต่เหลือไม้เดียวแล้ว"
"ถ้าอี้เฟิงจะกินก็ไม่เป็นไร"
"ชวนแล้ว มากินด้วยกัน"
"งั้นป้อนเกอหน่อยสิ"



อี้เฟิงแทบลุกไปฟาดด้วยมือถือในมือ เรื่องช่างเต๊าะช่างหยอด รุ่นพี่คนนี้ได้ใจนัก อี้เฟิงถอนหายใจและส่ายหัวไม่โอเคกับมุกเมื่อกี้ของหยางหยางเลย


แต่

หยางหยางก็ต้องเบิกตาประหลาดใจ อี้เฟิงยกตัวเองขึ้นหันหลังคุกเข่าลงบนเบาะทีนั่งหันหน้ามาหารุ่นพี่ที่นั่งอยู่ข้างหลังตัวเอง ส่งสายไหมมาให้ทั้งที่อยู่ในมือ



"กินมั้ย ? "
"เอ่อ..."
"หนึ่ง สอง..--- "



รู้ดีว่าอีกฝ่ายจากดึงมือคืนไปถ้าครบสาม หยางหยางยื่นหน้างับสายไหมหนึงคำจากมือรุ่นน้องไป และขอแถมอีกคำเพราะความหวานเป็นพิเศษจากมือคนที่ชอบ หยางหยางลองมองขึ้นไปอยากมองหน้าตอนนี้ ว่าอี้เฟิงจะทำหน้าตาน่ารักแบบไหน




หยางหยางยู่คิ้วคิดเสียดาย อีกฝ่ายยกกระเป๋าเป้สะพายข้างบังหน้าตัวเองไว้ ไม่รู้ว่าอี้เฟิง จำทำหน้าตาอย่างไร แต่ดูจากท่าทางน่าจะเขินอยู่เหมือนกัน ก็เล่นป้อนสายไหมให้ขนาดนี้




"พอแล้ว เอาไปกินเอง"



อี้เฟิงดึงมือตัวเองกลับ และบอกให้คุณรุ่นพี่มารับสายไหมไปกินเอง หยางหยางรับมาแบบงง ๆ แต่ก็ทำตาม รุ่นน้องหันกลับไปนั่งแบบเดิม และไม่พูดไม่จากับหยางหยางอีกเลย



แต่แค่นี้หยางหยางก็แทบลอยได้แล้ว ความรักช่างมีอนุภาพรุนแรงจริง ๆ คนรูปหล่อส่ายหน้าไล่ความเขินไปเรื่อย ๆจนปากงับสายไหมก้านนี้หมด







รถเมล์ขับฃ้าเหลือเกิน หยางหยางคิด แต่นี่ก็ดีที่ทำให้เขาและอี้เฟิงได้อยู่ด้วยกันไปอีกซักพัก







"หลับไม่รู้เรื่องเลย เด็กคนนี้"




รุ่นพี่เห็นอี้เฟิงหลับลึกพอสมควร เพราะอี้เฟิงเงียบไปและดูร่างกายไม่ยุกยิกเหมือนก่อนหน้า เว้นแค่ส่วนหัวที่คล้อยไปตามขับเคลื่อนของรถซ้ายทีขวาทีดูน่ารักแต่คงเมื่อยไม่น้อย  หัวแทบจะโขกชนกับขอบกระจกอยู่แล้ว มือแกร่งจึงยื่นไปรองรับก่อนที่รุ่นน้องเอาหัวไปโขกกับขอบนั้นหัวปูดไปเสียก่อน และดูเหมือนอี้เฟิงจะไม่ตื่นมาง่ายๆ จนกว่าจะถึงปลายทาง หยางหยางจึงใช้มือของเขารองหัวอี้เฟิงที่โยกไปมาแทนต่างหมอนให้คนน่ารักไปก่อนแล้วกัน




" เดี๋ยวจะหาว่าบอดี้การ์ดไม่ดูแลเสียอีก"







และตลอดทางคุณบอดี้การ์ดก็ฮัมเพลง 棉花糖 ไปตลอดทาง แต่ความหวานของบรรยากาศของเราสองคนอย่างไร หยางหยางเชื่อว่าสายไหมยอมแพ้เเน่นอน






******************************************************************TBC--4



talk

เอาซะหน่อย จริง ๆ ก็มีเหตุผลอยู่นะคะที่ใช้คำว่า เกอ แทนที่จะเป็น พี่ แทนในเรื่องนี้น่ะ
และเพลงน่ารักมากน่อว์







[FIC] OURSONG ~我們的歌 -- หยางเฟิง / เพลงที่ 2



[FIC] OURSONG ~我們的歌 -- หยางเฟิง / เพลงที่ 2
Pairing :: หยางหยาง x หลี่อี้เฟิง
Rating :: PG
Tell :: เปิดเพลงตอนอ่านด้วยเนอะ
เพลงที่อยากให้ฟังตอนอ่าน :: 

Bruno Mars - Just The Way You Are





*****************************************************************************************************************************

หวังว่าวันนี้จะไม่เจอไอรุ่นพี่บ้านั่นน่ะ วันหยุดพักผ่อน พักสมอง--- "



พักหัวใจด้วย





จริง ๆ เมื่อวานนี้น่ะ ก็ใช้งานหัวใจหนักไปมาก




ไม่เข้าใจตัวเองว่า พอหลังจากกลับมาถึงห้องพอปิดประตูไล่หลังรุ่นพี่นั่นไป เหมือนจะได้ยินใครตะโกนด่ามาด้วย ก็ช่วยไม่ได้ มันเขิน







เออ เขินจริง ๆ 





อี้เฟิงเขินรุ่นพี่คนนนั้นจริง ๆ นั่นล่ะ




"เห้อ"






ร่างของอี้เฟิงกลิ้งหลุน ๆบนเตียงอย่างขี้เกียจเพราะวันนี้เป็นหยุดที่ได้หยุดจริงๆ ไม่มีซ้อมหนักๆ เรียนชดเชย หรือซ้อมสเเตนอะไร ได้หยุดแบบที่นักศึกษาเขาได้หยุดพักสมองกัน แต่อี้เฟิงก็อยากพักหัวใจด้วย



อยู่ใกล้รุ่นพี่หยางหยางนั่นใจเต้นแรงเป็นบ้า






สารภาพกับตัวเองอย่างไม่โกหก เพราะไม่รู้จะโกหกตัวเองไปทำไม แต่ประเด็นก็คือไม่เข้าใจว่าจะไปใจเต้นกับรุ่นพี่บ้านั่นทำไมวะ หรือก็เพราะหมอนั่นอาจจะใช้คำพูดคำจาเหมือนเราเป็นสาวน้อย ? แล้วเออฉันเป็นสาวน้อยเหรอวะเนี่ย



"โอ๊ย เลิกคิด พอเลยยยย"



อี้เฟิงพูดกับตัวเองเบา ๆ ก่อนจะผลุงขึ้นนั่ง เพราะเมื่อเหลือบไปเห็นนาฬิกาบนเตียงก็พบว่านี่มันจะเที่ยงแล้ว เขาไม่สามารถนอนกินบ้านกินเมืองได้ไปมากกว่านี้อีก คิดถึงหน้าแม่ที่สอนตัวเองมาก็ชักสงสารแม่ อี้เฟิงลุกขึ้นจากเตียงหลังคิดได้ ไปเปิดทีวีให้ห้องครึกครื้นเสียหน่อย




"ป๊าด"




เปิดเจอข่าวช่วงเที่ยง เหมือนจะมาถึงช่วงข่าวกีฬาพอดี ฉายให้ดูข่าวเทควันโด้เหมือนจะมีแข่งอะไรซักอย่าง แล้วเขาก็เจอคนคุ้นหน้าข้างห้อง หยางหยาง รุ่นพี่คนนั้น แชมป์ระดับมณฑล เก่งเวอร์ แถมรอพบกับแชมป์คนเก่าอาทิตย์หน้า ซึ่งเป็นรอบชิงชนะเลิศ แล้วในข่าวก็ยังเบาว่ารุ่นพี่คนนี้ติดทีมชาติชุดเยาวชนมาก่อนด้วย
กล่าวไปจนถึงเรื่องเรียนที่ก็เก่งระดับทอปของชั้นเรียน ดนตรีก็เก่งอีกด้วย ไหนจะบ้านร่ำรวย หน้าหล่อหยั่งกะไอดอล นี่มันเทพมาเกิด



"วู้ อะไรจะเพอร์เฟคเหมือนเสกมาได้แบบนั้น คนเรา"


อี้เฟิงเอ่ยเหน็บแนมรุ่นพี่เข้านิดหน่อยแม้จะนึกค่อนขอด แต่ก็รู้สึกทึ่งและยกย่องความสามารถรอบด้านของคนหนึ่ง ๆ ทุกอย่างรอบตัวเขาคงไม่ธรรมดาซักอย่าง อี้เฟิงคิดว่าชีวิตที่มีอะไร ๆ ไม่ธรรมดาทุกอย่างคงตื่นเต้นทุกวัน แต่อี้เฟิงไม่ใช่คนกระตือรือร้นขนาดนั้นมีอะไรให้ตื่นเต้น ไม่ธรรมดาทุกวัน ประสาทเสียกันพอดี อะไรง่าๆย นั่งดีดกีตาร์ กินขนม นั่งตากลมที่ริบระเบียงชิล ๆนี่เเหละมันใช่ 




"ว่าแล้วก็ไปชิล ๆ ดีกว่า"






หลังจากจัดการกิจกรรมยามไม่ที่เช้าแถมเลยเที่ยงแล้ววด้วย จนหมดทุกอย่างก็กิจกรรมเด็กหอทั่วไป อาบน้ำ กินข้าวพออิ่มเผื่อกินขนม เอาผ้าไปส่งซัก ล้างจาน ทำความสะอาดห่้องหน่อย ก็มาถึงเวลาชิล 




"วันนี้ขอให้ยัยป้าข้างห้องไม่อยู่ทีเห๊อะ" 



วันก่อนที่อี้เฟิงนึกชิลมานั่งดีดกีตาร์กินลมหลังห้องริมระเบียง แต่บังเอิญยัยป้าข้างห้องทะเลาะกับสามี พอได้ยินกีตาร์กิ๊งแรกของอี้เฟิงก็ออกมาด่าเป็นชุดใหญ่ฉอด ๆอี้เฟิงไม่ยอมโดนด่าฟรี ก็สวนกลับด้วยกีตาร์เมททัลร๊อค จัดการเสียบสายแล้วโซโล่ลั่นสะเทือนเพดานจนยัยป้านั่นอกเเทบแตก แม้จะผิด โดนป้าเจ้าของบ้างแต่อี้เฟิงก็สะใจไม่ใช่น้อย แต่หากวันนี้เขาไม่อยากเมททัลก็ขอเวลาเงียบๆ นิ่งๆ ชิล ๆแบบคลาสสิคแล้วกัน





"เอาล่ะนะ"








วันนี้นักดนตรีน้อยจัดเพลงชิล ๆ และเพราะบังเอิญเห็นสาวน่ารักคนหนึ่งห้องชั้นล่างที่แอบมองอยู่บ่อย ๆเพราะน่ารักดี เดินออกจากหอกับเพื่อนไป ก็เลยขอเล่นจีบเขาไกล ๆแล้วกัน




Just the way you are แล้วกัน วันนั้นเล่นโชว์ที่ชมรมก็ยังพอจำคอร์ดได้






อี้เฟิงเริ่มเล่นเพลงที่ต้องการ ขึ้นท่อนเเรก เขาก็เขินเองซะแล้ว เพลงคุณเค้าหวานเหลือเกิน แต่ก็เริ่มคิดได้ว่านี่ต้องเล่นให้สาวเขิน ไม่ใช่เล่นเองแล้วก็มาจินตนาการเขินเองเหมือนคนอื่นเล่นให้แบบนี้


เพลงนี้ท่อนที่ชอบที่สุดก็น่าจะไม่พ้นท่อนฮุ๊ค เขาคิดเอาว่า ถ้าเขาเป็นผู้หญิง ใครมาร้องเพลงนี้ให้ฟัง ก็คงเขินเป็นบ้าเป็นหลังจนต้องลุกขึ้นตีให้เเก้เก้อเขินเสียซักที



"นี่ถ้าเป็นผุ้หญิงใครเล่นเพลงให้คงเขินม้วนไปเลยนะเนี่ย เพลงหวานขนาดนี้"




just the way you are~~~~~




จนจบท่อนสุดท้าย อี้เฟิงลากยาวประหนึ่งโชว์นี้มีคนฟัง ทั้ง ๆ ที่ก็มีแค่น้องตุ๊กตาแมวที่คุณแม่ให้มานั่งแหมะตรงหน้าเขาที่เอามาวางไว้เอง คิดเอาว่าเป็นผู้ชมคอนเสิร์ตของเขา ทุกครั้งที่ไม่มั่นใจก็จะให้น้องแมวตัวนี้มานั่งฟัง ไม่ได้ช่วยอะไรมากแต่ก็ซ้อมไว้ให้หายเครียด



"จะว่าไป แกยังไม่มีชื่อเลยเนอะ น้องแมว"

























"ไว้ผมจะคิดชิื่อดี ๆ ไปให้นะอี้เฟิง"






เป็นเด็กที่น่ารักจริง ๆคิดตั้งชื่อตุ๊กตาให้ด้วย เขาดันแอบไปได้ยินเข้าซะอีก เป็นหน้าที่อีกหนึ่งที่ต้องคิดชื่อน้องแมวน่ารักเหมือนเข้าของตัวนั้นไปให้ด้วย แล้วก็จะแถมฝึกกีตาร์ให้เก่งกว่านี้หรือไวโอลินคอร์ดใหม่ไปสู้กับน้องเขาเพลง Just The Way You Are นี่เเหละ ได้ยินว่าถ้าได้ยินใครเล่นให้แล้วจะเขินแม้น้องเขาไม่ใช่ผู้หญิงแต่ก็น่าจะแอทคแทคได้บ้างไม่มากก็น้อย คิดไปเรื่อยๆหยางหยางก็ยิ้มอารมณ์ดี



"วันนี้วันดี วันนี้วันดี.."



มีคนหน้าตาน่ารักคนนั้นมาให้มองจนฉ่ำตาฉ่ำใจ นั่งอยู่นานเลย จนเขานั่งเล่นเพลงจนเบื่อ ลงไปนอนกลิ้งบนเสื่อที่ปูไว้ตรงระเบียง จนหลับไปหนึ่งตื่น ขึ้นมานั่งกินขนมจุกจิก เล่นเพลงด้วยกีตาร์นั่นอีกรอบ และเพลงที่จับใจก็คงไม่เกินเพลง just the way you are ของบรูโน่เพลงโปรดของเขาเช่นกัน




เขาไหน ? 






เขา...หยางหยาง รุ่นพี่น่าเบื่อของน้องอี้เฟิง ตอนนี้ก็ทำการนั่งมองรุ่นน้องที่ช่างไม่รู้ตัวอะไรเลย ว่าโดนมองมาเป็นชั่วโมง ๆ แบบนี้ ถ้าเขาเป็นคนคิดร้าย ป่านนี้น้องอี้เฟิงคนนี้คงโดนอุ้มไปแล้ว หรือบางทีหยางหยางอาจจะเป็นคนร้ายเสียเอง เพราะทนมองความน่ารักนี้ไม่ไหว ขออุ้มกลับมากอดที่ห้องซักคืนก็ไม่เลว

"เฮ้อ"


หยางหยางส่ายหัวเบา ๆ กับความคิดตลก ๆ ที่คิดวนอยู่ เขานั่งอยุ่ตรงริมระเบียงเช่นกัน แต่มาก่อนอีกคนนานอยุ่ เพราะเขานั่งอยุ่ตั้งแต่เช้า ออกมาบริหารร่างกายตอนเช้า เสร็จก็กลับไปอาบน้ำอาบท่ามาทบทวนบทเรียนเสียหน่อย พอล้าก็พักสายตาหาอะไรมอง 




ก็ไม่คิดว่ามองไป ยังไม่ทันเกินขอบตึกก็เจอสิ่งสวยงามน่ารักยิ่งกว่าอะไรทั้งหมด

วันนี้วันดี วันนี้ดีวันดี




น้องอี้เฟิงคนน่ารักนั่งทำหน้าตาแมวน้อยเหมือนตุ๊กตาอยู่ตรงระเบียง ยังมาพร้อมกีตาร์ตัวโปรดที่เขาพาไปไหนมาไหนบ่อย ๆ กำไรยิ่งกว่าการจ้องน้องเขาผ่านรั้วริมระเบียงข้ามห้องถัดไปแค่เพียง 1 ห้อง ก็คือการได้ฟังเพลงเพราะ ๆจากน้องเขา ประหนึ่งเปิดคอนเสิร์ต มีเพี้ยนบ้างตามประสาร้องชิล ๆ แต่เสียงน้องเขาเหมือนแมวแง้ว ๆฟังแล้วก็ทั้งน่ารักเอ็นดูและปนขำไปด้วย หยางหยางตอนนี้ยิ้มเหมือนคนบ้าไปแล้ว




และที่ถูกใจก็ just the way you are ที่อี้เฟิงร้องมา ดูตั้งใจร้องเป็นพิเศษ อาจจะเป็นเพราะเพลงแรกที่เริ่มเล่นเลยไม่เพี้ยนแถมยังเพราะมากในแบบฉบับของเขา สำเนียงอังกฤษก็ไม่เลวเลย แถมยังเป็นเพลงโปรดภาษาอังกฤษของหยางหยางด้วย ทำไมน้องคนนี้ถึงทำอะไรโดนใจเขาอยู่เรื่อย 



หลงจนไม่รู้ทางออกแล้ว
หรือจริง ๆ พอเริ่มเข้าปากทางหัวใจน้องเขา หยางหยางก็หาทรายมาถมทางนั่นเสียเอง ไม่อยากเลิกหลงน้องอี้เฟิงเลย







ก็มีคำเดียวที่นึกออก เเละเป็นคำที่ทำให้หยางหยางหลงทาง ชอบอี้เฟิงอย่างถอนตัวลำบาก 




น่ารัก









แค่นั้นจริง ๆ







"โอ๊ย "




หยางหยางที่เผลอคิดโน่นนี่ไม่ทันระวัง เขาเขินกับความคิดของตัวเองมากไปหน่อยก็ต้องโทษน้องอี้เฟิง ดันเอนหลังเกินองศาไปจนหัวไปกระแทกกับผนังห้องก็ตรงริมระเบียงนั่นล่ะ อี้เฟิงหันมาตามเสียง เล่นเอาหลบไม่ทัน







เกือบไปเเล้ว 







ถ้าน้องอี้เฟิงเห็นเขา ก็คงค้อนใส่ ทำหน้างอนตุ๊บป่องเข้าห้องไปเสียอีก เสียดายแย่ 






โชคดีที่อี้เฟิงไม่ขวัญอ่อนขนาดนั้น และเสียงหยางหยางคงไม่ดังมาก น้องอี้เฟิงของหยางหยางก็ยังคงนั่งตากลมตากลมอยู่ตรงริมระเบียงห้องเขาที่เดิม แบบนี้ต่อให้ยันเช้าก็นั่งอยู่ตรงนี้ได้ แต่เว้นเสียแต่ว่าน้องเขาจะนั่งตรงนั้นให้มองอยุ่รึเปล่า







แต่วันหยุดนี้หยางหยางก็ออกกำลังกายหนักอีกเช่นเดคย แต่วันนี้ไปการออกกำลังกายหนักตรงหัวใจ เต้นจนเหมือนเขาไปวิ่งรอบสนามมหาวิทยาลัยมาร้อยรอบ หัวใจแทบหยุดเต้นเพราะถูกใช้งานหนัก ถ้าเป็นแบบนั้นจริงล่ะก็นะ


หยางหยางจุดยิ้มหันไปมองคนน่ารักตรงนั้นเสียไม่กี่วินาทีก็ทำเอาเขาต้องยกมือปิดหน้า บางทีความคิดของหยางหยางเองก็ไม่ได้ใสสะอาดซักทุกอย่างยิ่งเป็นเรื่องของอี้เฟิงด้วยแล้ว


ให้ตาย



มารับผิดชอบหัวใจรุ่นพี่คนนี้ด้วยนะ รุ่นน้องอี้เฟิง






















"นี่อะไรเนี่ย.."


มีขนมถุงใหญ่มากแขวนอยู่ตรงลูกบิดประตูหน้าห้อง หลังจากที่อี้เฟิงเปิดประตูออกจากห้องมาบ้าง เพราะหมกอยู่ในห้องนานไปแล้ว แต่ก็มาบิงโกเจอขนมชั้นดี น่ากินเสียด้วยแขวนอยู่นี่




เขาก็คิดเอาเล่นๆ ว่าต้องเป็นสาวที่แอบชอบเขาและรู้เลขห้องแน่ ๆเลยเอามาแขวนไว้




"จิ๊"




ถ้าไม่เห็นโน๊ตลายมือสวยๆแบบโบราณนี่ซะก่อน หมั่นไส้นัก เขียนหนังสือก็ยังสวย




"ขอบคุณสำหรับเพลงเพราะ ๆ นะครับ"


เอ๋?




มีปล อีกแหน่ะ



"วันหลังจะปาจรวดกระดาษไปขอเพลงนะ"





ไม่ให้ขอเว้ย นี่คอนเสิร์ตส่วนตัว




สรุปว่าวันนี้เขาไม่โดนยัยป้ามหาประลัยข้างห้องด่าเพราะเขาเล่นกีตาร์ แต่มีรุ่นพี่หน้าหล่อกวนบาทามาแอบฟังแทน เขาควรหนักใจอันไหนมากกว่ากัน






มีอีกปล?






น้องแมวชื่อ หยางเฟิง เป็นไง ?



"ดันได้ยินตอนเราพูดอีก ตอนนั้นฉันพูดเสียงดังขนาดนั้นเชียว"

อี้เฟิงปาค้อนใส่กระดาษโน๊ตสีเรียบกับลายมือสวยๆบนนั้น เหมือนเจอตัวจริงเสียงจริงของหยางหยางซะเอง ตอนนี้เขาเข้าห้องมาแล้ว จัดการวางกระดาษบนโต๊ะแล้วก็แก้แค้นแก้โกรธรุ่นพี่น่าเบื่อนั่นด้วยการกินขนมแบบแมททัลร๊อคให้หมดซะเลย! ช่วยไม่ได้ซื้อมาให้เอง เสียดายเงินไปแล้วกันนะ ท่าทางจะแพงด้วย 


แล้วก็อีกอย่าง หยางเฟิงน่ะ ชื่อนี้ไม่ผ่านโว้ย ไม่อนุญาตให้มาตั้งชื่อน้องแมวของคนอื่นตามใจชอบนะ!




เอาอีกแล้วอี้เฟิง เอาอีกแล้ว








เพราะรู้ว่าเป็นขนมของรุ่นพี่หยางหยาง อี้เฟิง กินขนมไปก็ใจเต้นไปอีกตามเคย





******************************************************* TBC --3