วันจันทร์ที่ 13 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2560

[SF] TexT #หยางเฟิง (for Valentine's Day 2017)




ปกติไม่เขียนฟิคช่วงเทศกาลเลยค่ะ แต่ด้วยรักและคิดถึงหยางเฟิง 
แม่แมว





วันวาเลนไทน์ทั้งที มีอะไรให้คนที่รักบ้างก็ดีนะ


หยางหยางหันไปมองป้ายโฆษณาที่ส่องแสงวิบวับตามท้องถนน ข้อความนี้เป็นข้อความหนึ่งที่เขาไล่สายตาอ่านทัน ขณะที่เขากำลังขับรถกลับคอนโดเพื่อพักผ่อนจากงาน หลังแยกย้ายกับทีมงานคนสนิททั้งหลาย ทุกคนไม่ถามอะไรหยางหยาง เพียงแต่บอกลาแล้วก็ให้ขับรถดี  ๆ


ไม่มีใครพูดถึงหลี่อี้เฟิงให้หยางหยางได้ยิน ไม่มีใครเอ่ยถาม


ก็เพราะว่าหยางหยางกับหลี่อี้เฟิงไม่ได้คุยกันมานานแล้วน่ะสิ



ความสัมพันธ์ของนักแสดงรุ่นพี่และรุ่นน้องที่แสนจะซับซ้อนแต่มันก็ไม่มีอะไรมากขนาดนั้นหรอก มันไม่ได้ซับซ้อนอะไรขนาดนั้น เขาแค่มีความรู้สึกหนึ่งถึงอี้เฟิง

เขารักหลี่อี้เฟิงมากแค่ไหน ใคร ๆ เขาก็รู้

 แต่อี้เฟิงไม่เคยแสดงออกกับเขา ไม่มีอะไรให้เขาคาดเดาได้เลย อี้เฟิงไม่เคยเปิดโอกาสให้ เพราะอะไรน่ะหรือ ?


บอกให้ได้เลยว่าหลี่อี้เฟิงคนนั้นไม่ใช่คนเห็นแก่ตัว ไม่ใช่คนเอาแต่ใจ ไม่ใช่คนไม่ดี แต่เป็นห่วงเขามากกว่าใครต่างหาก



ความสัมพันธ์ของเราถึงได้เป็นแบบ ค้าง ๆ คา ๆ จนถึงทุกวันนี้ แต่บอกได้เลยว่าหยางหยางไม่เคยเปลี่ยนใจไปรักใครอยู่แล้ว


หยางหยางไม่ได้รีบไปไหนอยู่แล้ว เขายังอยู่ตรงนี้เสมอ อี้เฟิงมองเห็นเขาเสมอ เราต่างก็มองเห็นกัน เขายังมีอี้เฟิงเสมอ ข่าวอะไรที่ออกไปทางสื่อโซเชี่ยล หยางหยางคนนี้ขอให้ชื่อเสียงเป็นประกันเลยว่า โกหกทั้งเพ


มาถามเขาสิ ถ้าเขาตอบได้โดยที่ประธานบริษัทไม่ฆ่าฝังกลบเขา เขาก็จะตอบว่าหลี่อี้เฟิง


“อืม”  หยางหยางขับมาจนถึงสีแยกใหญ่ใจกลางเมืองเศรษฐกิจของประเทศ  เป็นสแควร์ที่มีแสงสีมากมาย เขาจำได้ว่าช่วงวันเกิดของเขาจะมีข้อความอวยพรวันเกิดของแฟนคลับที่ซื้อเวลาไว้มาฉายอวยพรให้ เขาก็มายืนอ่านแล้วถ่ายรูปอยู่ยกใหญ่ ปลื้มใจล่ะ เพราะสแควร์นี้เป็นสแควร์ดังของเมือง มีคนผ่านไปมานับแสนคนต่อวัน นั่นทำให้ชื่อของหยางหยางถูกเสิจเพิ่มขึ้นอีกหลังจากวันเกิด


ไว้วันเกิดของอี้เฟิงปีหน้าเขาจะโอนเงินเข้าร่วมทุนอวยพรวันเกิดในกลุ่มแฟนคลับอี้เฟิงดีกว่า เหมืนแอคเคาท์โซเชี่ยลดังก็ยังมีอยู่ สร้างเอาแอบส่องหลี่อี้เฟิงและแฟนคลับโดยเฉพาะ


“ชักคิดถึงแมวอ้วนแล้วสิ” แมวอ้วนเป็นฉายาที่เขาไว้เรียกอี้เฟิงเมื่อช่วงเวลาที่เรายังอยู่กับตามลำพังได้ ช่วงที่เราพบกันบ่อย ๆ ช่วงนั้นล่ะที่หยางหยางมีความสุขที่สุด กำลังหวานเข้าขั้นเลย ส่วนอี้เฟิงเองก็เรียกเขาว่าไอ้หมาบ้า ใช่ เวลาเขาอยู่กับอี้เฟิงแล้วก็มักจะมีความสุขเกินไปจนเหมือนคนเป็นบ้า อี้เฟิงเลยเรียกเขาแบบนั้น



ไฟแดงตรงนี้นานไปหน่อย


ใกล้วาเลนไทน์แบบนี้ ใครหลายคนก็มีความพิเศษมอบให้กับคนที่รัก แต่หยางหยางยังไม่มี เขายังคิดไม่ออกว่าจะส่งข้อความอะไรไปหาอี้เฟิง ก็ใช้ช่วงเวลาติดไฟแดงนี้คิดเอาแล้วกัน ระหว่างนี้หยางหยางก็ยกโทรศัพท์มาเลื่อนหาไอเดียดี ๆ เผื่อก็อปไปใช้จากเหวยบ๋อเอา


อี้เฟิงอัพเหวยบ๋อ ?


นานทีเขาก็จะอัพ แต่ก็เป็นข้อความถึงวันวาเลนไทน์ซึ่งเขาก็เขียนส่งให้แฟนคลับ อืม หยางหยางก็เป็นนะ งั้นเขาจะถือว่าเขาขอแบ่งความรักนี้จากอี้เฟิงด้วยแล้วกัน


“เอ๋?” คุ้น ๆ ?แฮะ ข้อความนั้น


เงยหน้าจากโทรศัพท์ไม่กี่วินาทีนั้น ก็เจอข้อความที่เขียนแทบเป็นข้อความเดียวกัน บนจอใหญ่กลางสแควร์ พร้อมลงท้ายชื่อผู้รับ และผู้ส่งข้อความ



หยางหยางจุดยิ้มทันที เมื่ออ่านจบ


และมือถือของเขาก็มีเสียงเตือนว่า มีคนโทรเข้ามานะ



“ร้อยวันพันปี คุณไม่เห็นจะโทรมาหาผม หลี่อี้เฟิง”


“นี่ไงก็ครบพันปีแล้ว ฉันถึงโทรมาหานาย และมีเวลาแค่สามนาที ก่อนที่ใครจะพบว่าฉันแอบกระซิบอยู่กับใคร “


หยางหยางหัวเราะขำ อีกปลายสายเหวใส่ ดุว่าอะไรจะมาหัวเราะให้เปลืองเวลาทำไม มีอะไรจะพูดมั้ย


“คุณรู้ได้ยังไง ว่าผมจะผ่านสแควร์ตอนเวลานี้”
“ก็ฉันเพิ่งโทรถามบอดี้การ์ดของนาย”
“ทำไมคุณกล้าขนาดนี้เนี่ย”
“เงินเลย หนาพอ ๆ กับหนังสือเรียกประวัติศาสตร์เลยล่ะ”


หยางหยางเงยหน้ามอง ข้อความที่ปรากฏตรงหน้ายังไม่หายไป เขาเลยเอ่ยเสียงกับปลายสาย คือหลี่อี้เฟิงต่อ

“แพงมากมั้ย”
“เงินหนาพอ ๆ หนังสือประวัติศาสตร์สามเล่ม”

คำลงท้ายที่เป็นชื่อที่ไว้เรียกกันเพียงสองคน แมวอ้วน หมาบ้า และก็มีชื่อแอคเคาท์ลับของทั้งเขาและอี้เฟิง แน่นอนล่ะ เขารู้อยู่แล้วว่าแอคเคาท์ของอี้เฟิงชื่ออะไร ก็เหมือนกับที่อีกฝ่ายรู้เรื่องราวของเขาดี


“คุณให้เงินพี่บอดีการ์ดของผมไป เดี๋ยวผมจะไปใช้คืนก็แล้วกัน”


ปลายสายหัวเราะกลับมา แต่ก็ยังเหมือนเสียงกระซิบ

“ไวท์เดย์สิ ขอข้อความถึงฉันแบบหวาน ๆ แล้วส่งไปลงจอตรงสแควร์นั้น แบบที่ฉันทำ ลงท้ายชื่อด้วยนะ ฉันจะรีบไปอ่านแล้วถ่ายเก็บไว้”
“ทำไมต้องทำอะไรอลังการแบบนี้ หืม อี้เฟิง”


อีกฝั่งหัวเราะอีกแล้ว ทีนี้เหมือนจะเสียงดังขึ้น เพราะชอบใจ ที่ทำอะไรให้หยางหยางประหลาดใจได้ ก็น้ำเสียงของหยางหยางระหว่างที่คุยอยู่นี้ ดูเหมือนคนที่เพิ่งถูกบอกรักใหม่ ตื่นเต้นจนแอบซ่อนไม่อยู่


“ถามมากจัง ที่ฉันไม่เคยบอกอะไรกับนายเลย ก็เก็บไว้ มาบอกเอาวันนี้แหละ ถือว่าแทนกันได้ เพราะคำบอกรักของฉันใหญ่โตเท่าบ้านเลยนะ บนจอนั่นละน่ะ”



โอเค เขาไม่ถามอะไรอี้เฟิงแล้ว ใก้ล้เวลาที่ต้องวางสายจริง ๆ ปลายสายหัวเราะอีกสองสามวิ แล้วก็บอกว่า ดูแลตัวเองด้วย

หยางหยางรับคำ แล้วต่างเงียบไปกันอีกสามสี่วินาที เพื่อฟังเสียงลมหายใจกันและกัน แล้วก็วางสายไป


บอกอีกอย่างว่า หลี่อี้เฟิงไม่ชอบบอกความรู้สึกของตัวเองด้วยริมฝีปากช่างจ้อนั้น เขาชอบสื่อผ่านการกระทำ โอเค ก็อย่างเช่นเขียนบอกเขาคำโต ๆ บนจอกลางสแควร์นั้น ซึ่งเป้นข้อความเดียวกับที่เขาเขียนบอกแฟนคลับ อะใช่ แต่ของเขาพิเศษกว่านิดหน่อย


อี้เฟิงเขียนบอกแฟน ๆ ว่า “ผมรักพวกคุณ”
ส่วนบนจอกลางสแควร์นั้น เป็นข้อความของเขาคนเดียว

“ผมรักคุณ ไม่มีวันเปลี่ยนใจ”


หยางหยางถือกับต้องจอดรถใกล้ ๆ สแควร์นั้น แล้วนั่งดูข้อความนั้นฉายอยู่นานจนหมดเวลาของมันไป เขาถ่ายรูปไว้ประมาณแสนรูปได้ล่ะมั้ง จนตอนนี้เขายังหุบยิ้มไมได้เลย


การกระทำของหลี่อี้เฟิงใหญ่อลังการสมเป็นเทพบุตรแห่งชาติจริง ๆ

คำบอกรักของเขาก็เช่นกัน

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น