วันอาทิตย์ที่ 28 สิงหาคม พ.ศ. 2559

[SFic] แค่คิดถึง ::ตุลย์ ภากร x อิน สาริน ( #Tul_pakorn x #inpitar)



[SFic] : แค่คิดถึง
Paring : ตุลย์ ภากร x อิน สาริน (Tul_pakorn x Inn Sarin)

แค่อยากเขียน
แค่มโนของเราเองด้วยค่ะ
แค่ฟีลเตอร์ของเราคนเดียว
แค่เราชอบคู่นี้มากแค่นั้นเอง ฮือ
แค่เราคือ #ทีมตุลย์อิน

(ไม่ชอบวาย อย่ากดมาเน้)





***************************************


ที่จริงผมกับอินน่ะ


“ไม่มีอะไร ก็พี่น้องเล่นกัน คู่จิ้นไงพี่ เนอะอิน”
“อื้อ ใช่ครับ เนอะพี่ตุลย์เนอะ”

วันก่อนเราสองคนที่ได้ออกงานออกสื่อด้วยกัน  เป็นอีเว้นท์เดียวกันที่ได้ออก เป็นหนึ่งไม่กี่งานที่เราจะได้เจอกัน เราเจอคำถามคล้ายเดิมแบบที่เราจะเจอพี่ๆ สื่อ และทีมงานเขาถาม หรือแซวบ้างตามโอกาส


“เราสองคนเป็นอะไรกัน ?”


โดนถามบ่อยครับ  และคำตอบของผมและอินก็เป็นไปตามไดอาล็อกที่คิดไว้และตกลงกับพี่ผู้จัดการของเรา ๆ แล้วว่ามันโอเค เราสามารถตอบแบบนี้ได้

แต่รู้ไหม ผมไม่ได้อยากตอบแบบนั้นเลยแม้แต่นิดเดียว



“ผมจะไปเรียนที่เกาหลีเทอมนึงนะพี่ตุลย์”


เจ้าตัวแสบของผม รุ่นน้องที่กวนใจผมที่สุด
หรือจะให้เรียกกันตรง ๆ ไปเลยว่า คนที่ผมคิดถึงบ่อยที่สุดรองจากครอบครัว

อิน สาริน หรืออินพิต้าของทุกคน


เจ้านี่มันมีคนรายรอบ ล้อมตัวมัน อินเป็นเด็กเฟรนลี่ ร่าเริงและสดใส มาพร้อมรอยยิ้มที่ใคร ๆ ก็บอกว่าน่ารักและหวานสมกับที่มีบางคนบอกว่าเจ้านี่ยิ้มหวานจริง ๆ

เจ้าอินบอกผมว่า มันกำลังจะไปเรียนไปแลกเปลี่ยนที่เกาหลี มันก็เหมือนที่ผมเคยไปตอนสมัยเรียน เดี๋ยวก็กลับมา ไม่กี่เดือนเอง


แต่ไม่กี่เดือนนั่น ผมจะไม่เห็นหน้ากวน ๆ ของอินมัน ไม่ได้ยินเสียงใส ๆ ที่ไม่ต้องผ่านเครื่องมืออิเล้กทรอนิกส์ ไม่ได้พบรอยยิ้มหวานสดใสนั่นด้วยสายตาตัวเอง ถ้าอินไปผมก็ทำได้เพียงแค่มองอินมันผ่านจอโทรศัพท์เท่านั้น


มันไปทำหน้าที่ของมัน จะห้ามได้อย่างไรกันล่ะ เรื่องเรียนเป็นเรื่องสำคัญ
แต่ผมเป็นห่วงมัน
และอีกอย่างหนึ่ง มันเป็นความเห็นแก่ตัวของผมเอง
คือ ผมต้องคิดถึงอินมากแน่ ๆ

หลังจากที่อินบอกเรื่องไปเรียนที่เกาหลีนี่ ผมก็เงียบไปครู่หนึ่ง อินบอกผมผ่านโทรศัพท์เพราะเราแทบไม่มีช่วงเวลาได้พบกันเลย จังหวะเราไม่ค่อยตรงกัน จะมาตรงกันก็ไอ้ตอนที่



“พี่ตุลย์..”


ผมต้องมาส่งอินมันไปเกาหลีเสียแล้ว


“เอ้า ให้” วันไปส่งอิน ผมไม่ค่อยได้คุยกับอินหรอก อินมีทั้งครอบครัว เพื่อนฝูง แฟนคลับมากมาย มารอส่งมันด้วยความรักและห่วงใย ผมทำได้แค่เพียงรอก่อน ให้ของไปแล้วตะกี้ ฝากพี่ผู้จัดการไว้ ผมหันไปโน่นนี่ มองไปรอบ ๆ ตัวเองมีแฟนคลับอินเรียกผม ถามว่า

“มาส่งอินหรอ~~~~~
ถามด้วยน้ำเสียงล้อกันเห็น ๆ ผมอยากจะเขกกะโหลกเจ้าเด็กบางคน แต่ทั้งหมดนี่ก็ทำให้ผมยิ้มนะ ที่ล้อลี่เพราะเก่งเอกมโน โทจินตนาการ หรือเห็นว่าแววตาของผมถึงเจ้าอินมันมีความหมายอะไรซ่อนอยู่กันแน่



หลังจากที่ทักทายเพื่อน ถ่ายรูปกันจนหนำใจ มีชฃ่วงที่ผมได้ไปถ่ายรูปกับมันด้วยนะ
อินเรียกผมไป

"พี่ มาเซลฟี่"

อินโอบไหล่ผมด้วยความพยายามและความสูงที่มีแต่ก็ไม่รอบเทาไหร่
อินตัวหอมดีว่ะวันนี้

ผมที่เกือบเบนหน้าตัวเองเอาจมูกไปจรดที่แก้มที่น่าจะนิ่มมากของอินอยู่เเล้วแต่ก็ห้ามใจทัน 
เป็นการเซลฟี่ที่แสนจะธรรมดา หลังจากนั้นผมกับอินก็แยกย้ายไป อินไปหาเพื่อน ผมไปอยู่กับกลุ่มทีมเมเนเจอร์ของอิน
แต่ผมยังคงมองอินอยู่เนือง ๆ 
เหมือนเจ้าตัวน่ารักก็แอบ ๆ มองผมอยู่เหมือนกันแต่ก็เม้าท์กับเพื่อนไปด้วย





“ทุกคนไปแล้วนะ บ๊ายบ่าย” 

อินโบกมือให้ทุกคนที่อยู่รอส่งมัน รวมถึงผม และก็โค้งสวัสดีทุกคนที่แก่กว่ามัน ก็รวมถึงผมด้วยอีก
อินชะงักตรงหน้าผมเพียงเสี้ยววินาที และพอจังหวะที่จะหันมายกมือไหว้ผมด้วย ผมก็พยักหน้าให้ ยิ้มให้อิน ยิ้มส่งให้น้องไปเรียนไปตั้งใจทำหน้าที่ของตัวเอง

 “อืม”

อินหันหลังไป จะเข้าเกตอยู่แล้ว


รู้อะไรไหมคุณ ผมโคตรอยากเข้าไปกระชากอินมันมากอดให้จมอกผมไปเลย มันตัวเล็กกว่าผม ถึงส่วนสูงจะต่างกันไม่เท่าไหร่แต่ก็ผอมกว่า บางกว่ามากอยู่ กล้ามผมก็คงเท่าแขนมันสองข้างล่ะ ฮึ 

แต่ทำได้ที่ไหนกันล่ะ ที่นี่มันที่ไหน รอบข้างจะมองอย่างไร แม้แฟน ๆ จะฟินกัน แต่หลังจากนั้น มันไม่สวยแน่


ผมจึงเก็บมันไว้ แค่กอดอินในใจก็พอ
ผมเคยกอดมัน ยังพอจำความนิ่มของตัวมันได้ ความหอมจากตัวอินที่ชอบใช้อะไรให้คนได้กลิ่นจากอินมันเคลิ้มเสมอ  แม้กระทั่งอุณหภูมิ ความอบอุ่นของอิน ผมยังจำได้...


เรื่องอะไรจะลืมล่ะ ไหนจะความน่ารักของรอยยิ้มของอิน
มันน่ารักจริง ๆ นะ อินน่ะ

ผมเลยรักมันไง


แล้วเจอกันใหม่นะ อิน  อีกไม่กี่เดือน พี่ก็จะได้พบอิน
พี่จะรอ


“หือ ?”


ผมที่กำลังออกมาจากสนามบิน หลังจากที่พูดคุยกับแฟนคลับของอินที่ยังไม่กลับ ร่วมถ่ายรูปกัน เมื่อปลีกตัวมาได้ ก็รู้สึกถึงความสั่นน้อย ๆ ที่มาจากโทรศัพท์ของผม


“ฮึ รู้ใจกันเกินไปแล้ว สาริน”


ไอ้เด็กตัวแสบที่อ่อนกว่าผมสามปีที่วนเวียนอยู่ในความคิดผมอยู่บ่อย ๆ ส่งข้อความก่อนขึ้นเครื่องบินลัดฟ้าข้ามประเทศไกลจากผม

น่าตีจริง ๆ


ผมอ่านข้อความนั้นของอินเสร็จ พูดกับตัวเองแล้วก็เก็บโทรศัพท์ไว้ที่เดิม ก่อนยิ้มร่าออกไป เหมือนคนบ้า ตอนนี้ผมทำได้ก็คงอยากไปดักกัปตันแล้วบอกว่าขอไอ้ตัวน่ารักที่ชื่อ สาริน รณเกียรติ มาให้ผมฟัดซักที แล้วจะปล่อยให้ไป


ไว้ทำตอนกลับมาก็ได้ จะฟัดให้เท่ากับความน่ารักที่มันมีเลย
แล้วก็คงมีอะไรอยากจะบอกมันด้วย
เพราะความรู้สึกของผมมันเริ่มชัดเจนขึ้นมาแล้ว ความรู้สึกที่พองคับหัวใจของผม

อยากเป็นแฟนกับมันว่ะ ฮึ มันจะเล่นด้วยมั้ยนะ เฮ้อ

แต่ข้อความที่มันส่งมา ผมเข้าข้างตัวเองไปเลยแบบไม่ต้องคิดเผื่ออินว่าอินกับผมก็คงมีความรู้สึกบางอย่างที่ตรงกัน

ก็รู้ใจกันขนาดนี้นี่ 



ข้อความนั้นหรือ ? ผมเก็บมือถือไปแล้ว ไม่อ่านซ้ำหรอก 
เขินน่ะ





แต่ข้อความนั้นมันบ่งบอกว่า ผมกับอินมีความสัมพันธ์แบบ
 แค่มองตาผมที่สอดประสานกับมันเมื่อครู่ก่อนมันจะเดินเข้าเกต แค่ครู่เดียว มันก็รู้ว่าผมอยากกอดมันมากแค่ไหน




“รีบกลับมาล่ะ อิน “ ผมพูดกับตัวเอง แต่เอ่ยชื่ออีกคนที่คิดถึง




END






talk : โคตรชอบคู่นี้ โคตรดี โคตรงาม โคตรน่ารัก ขอให้ลงเอยกันได้มั้ยคู้นี้ ฮา555
แต่เป็นคู่ที่เคมีระดับอลังการเจ็ดล้านดาวจริง ๆ ค่ะ
ทีมตุลย์อินจงเจริญ


1 ความคิดเห็น: