วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤษภาคม พ.ศ. 2559

[Fic] คุณในนั้น-- You're in ตอนที่ 4 #หยางเฟิง





TITLE :   คุณในนั้น--  You're in
Chapter : 4
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG 
TELL : ยิ่งมามากตอน ยิ่งเดาทางไม่ถูก 5555




******************************************************************************************************************



“อย่างกับฝันไป”  เสียงทุ้มเอ่ยอย่างเชื่องช้า เมื่อมีแสงแดดเบาบางกระทบใบหน้าแยงตาเสียจนเขาต้องตื่นจากฝันอย่างที่เขาคิด

“โอย นี่ดื่มไปเท่าไหร่ล่ะเนี่ย”  หยางหยางยกมือลูบต้นคอไปมา เหมือนคนนอนผิดท่า ลุกขึ้นจากที่ที่ตัวเองนอนหลับช้า ๆ สอดสายตามองไปรอบ ๆ ตัว เขากึ่งหลับกึ่งอนอยู่บนเก้าอี้ตัวเก่งที่ตนเอามาวางคู่กับโต๊ะทำงานหรูหราตรงหน้าเขานั้นเป็น


“คุณหลี่อี้เฟิง” รูปวาดฝีมือดีและคนในรูปที่เขาหลงใหล



หยางหยางพบกับหลี่อี้เฟิงแล้ว พบแล้ว... ถึงเขาจะดื่มไปจนเมามาย สัมผัสได้จากกลิ่นแอลกอฮอล์จากลมหายใจของตัวเอง แต่ก็รู้ตัวว่าทำอะไรไปบ้างเมื่อคืนนี้


เขาไม่ได้ฝัน...เขา..มั่นใจ..มั่นใจว่าอย่างนั้น หยางหยางย้ำกับตัวเองว่า เมื่อคืนนั้นเขาไมได้เพ้อเจ้อมากเกินไป เพราะความบ้าของตัวเองส่วนหึ่งบวกกับฤทธิ์เหล้า เสียงหวานจับใจที่ยังวนก้องอยู่หู กลิ่นหอมตรึงใจก็ยังติดปลายจมูก





“ไม่ได้ฝันหรอก ความจริง ผมรู้คิดเอาว่า ..อืม.. ว่าคุณ..ก็สนใจผมเหมือนกัน ใช่มั้ย ? คุณหลี่อีเฟิง”






งพูดเองก็เขินเอง ที่เข้าข้างตัวเองแบบนั้น หยางหยางพลันนึกถึงเสียงหัวเราะหวานเท่าที่จำได้ เท่าที่มีความทรงจำเก็บไว้ เขายิ้มให้กับความทรงจำแสนหวานนั้น ปลายนิ้ว ชายหนุ่มยกมันแตะที่ปลายจมูกหลับตาลงเหมือนพยายามนึกและจดจำกลิ่นเครื่องหอมที่เขาได้สัมผัส เขาพยายามจดจำให้ซึมซาบถึงหัวใจ

ยิ่งคิดถึงยิ่งเพ้อเจ้อ  หยางหยางบอกตัวเอง แต่เขาหยุดไม่ได้แล้ว หลงใหล เป็นหลงรัก น่าจะเข้าขั้นหัวปักหัวปรำแล้ว แบบนี้พ่อเขาคงคิดเป็นห่วงแย่ ที่เขามาหลงรักคนในรูปวาดแบบนี้ แม้ว่าเขาจะมีตัวตนจริง แต่คนในรูปกลับอยู่กันคนละภพชาติแล้ว

มันหักห้ามใจไมได้ เหมือนต้องมนต์ แววตาในรูปเมื่อหยางหยางหันไปมองจดจ้องเข้าไปในดวงตากลมสุกใสที่ฉายอยู่ในรูป เหมือนดวงตาคู่นั้นมองตรงมายังเขา เขามองกลับไป หยางหยางก็ยิ้มให้อย่างยอมแพ้ ครู่หนึ่งเขาอยากลองทรมานใจหักห้ามความรู้สึกดู และแน่นอน เขาทำไมได้อยู่แล้ว

“ผมอยากพบคุณอีกจังเลย”









****** คุ ณ ใ น นั้ น ******










แต่คุณในนั้นก็ไม่ได้ออกมาให้หยางหยางพบบ่อยอย่างที่เขาเฝ้ารอและอยากเจอ บางวันก็ออกมาให้ได้ชื่นใจ เป็นกลิ่นเครื่อหอมแสนหอมบ้าง หรือเป็นเสียงขลุ่ยเป็นเพลงขาดเป็นห้วง ๆ แต่ก็ยังไพเพราะ หรือบางครั้งเป็นเสียงของเจ้าตัวฝั่งโน้นเอง อย่างวันก่อนที่ได้ยินเป็นคำว่ามา หาว่าหยางหยางเจ้าขู้ แต่เขาก็พอรู้ว่าตัวทำสายตาแบบไหนใส่คุณหลี่อี้เฟิงไป เขาพูดสะท้อนเสียงไปหาคุณหลี่อี้เฟิง อีกฝ่ายตอบมาบ้างไม่ตอบบ้างเป็นเสียงหัวเราะบ้าง หรือเป็นคำแก้เก้อเขินในบางที จนเมื่อเช้าเราทั้งคู่ก็จำต้องจากกัน บางครั้งก็ได้บอกลากันด้วยจะเสียงพูดคุย เสียงขลุ่ยหวานที่บรรเลงหรือกลิ่นเครื่องหอม แต่บางครั้งหยางหยางล้าเพราะไม่ได้นอน ชิงหลับไปเสียก่อนดื้อ ๆ เขานึกด่าตัวเองในใจว่าหลับไปทำไม และเมื่อตื่นขึ้นมากคุณเขาก็ไม่อยู่ตรงนั้นเสียแล้ว และต้องมานั่งลุ้นข้ามวัน ในบางครั้งที่เขาคิดถึงมากจนทนไม่ไหว ต้องมานั่งเฝ้าอยู่หน้ารูปวาดทั้งวัน นั่งมองคุณในนั้นยิ้มให้เขา หยางหยางเฝ้าอย่างเลื่อนลอย ใจไม่อยู่กับเนื้อตัว ทำงานผิดพลาดบ้างก็ยังดีที่ลูกน้องเขานำกลับมาให้เขาตรวจทานได้ พ่อของเขาก็คงจะรู้เรื่องนี้บ้างจากพวกลูกน้อง บางครั้งก็โทรมาหา บ้าง ดุด่าบ้าง แต่เพราะเขาทานหัวใจตัวเองไม่ไหว พ่อจึงสุดจะทน





“อยากทำบ้าบออะไรของแกก็ทำ อย่าให้เสียงาน และฉันเตือนแกแล้ว บ้านนั้นน่ะ ถ้ามีอะไรเกิดขึ้นกับแก ฉันคงปวดหัวจนแทบระเบิด เข้าใจมั้ย หยางหยาง”





เขารับคำพ่อ เข้าใจที่คนเป็นพ่อเป็นห่วง อย่างน้อยพ่อนี่ล่ะที่คอยดุด่า ครอบครัวเราไม่มีใครให้เป็นห่วงมากนักเท่าไหร่


ชายหนุ่มถอนหายใจ แม้ไม่อยากให้ใครเป็นห่วงไปมากกว่านี้ มันดูเหมือนเป็นคนบ้าที่มานั่งเฝ้าอะไรซักอย่างที่คาดเดาไม่ได้ เหนือธรรมชาติ และดูไม่เป็นความจริงแบบนี้ แต่เขาพบเจอแล้ว มันเป็นเรื่องจริงแน่ ๆ เรื่องมหัศจรรย์ในชีวิตที่หยางหยางได้เจอ เขาจะไม่ยอมให้มันหายไปเฉย ๆ


“ผมรอคุณอยู่นะ “ หยางหยางรำพันถึงคุณในรูป ไม่รู้ว่าอีกฝ่ายใฃ้เกณฑ์ใด ในแต่ละครั้งเพื่อมาติดต่อสื่อสารกับเขา แม้ว่าเขาจะไม่รู้ว่าอีกฝั่งจะได้ยินเขาหรือไม่ แต่ถ้าเป็นไปได้ ก็อยากให้ได้ยิน และยอมออกมาพบกันอีก อย่างน้อยเป็นแค่สายลมพัดผ่านแค่ไม่กี่เสี้ยววินาทีก็ได้






****** คุ ณ ใ น นั้ น ******







วันหนึ่งหยางหยางที่หอบเอางานมาทำที่บ้าน ก็ต้องแบ่งใจส่วนหนึ่งไปเฝ้ารออีกคนที่คงจะอยู่ที่ไหนซักแห่งผู้ที่เป็นคนในรูปวาดรุปนั้นออกมาพบกัน หลัง ๆ นี้เขาต้องออกไปเอางานเองบ้าง เพราะบางอย่างมันไม่สามารถจะเคลื่อนย้ายได้ เขาต้องออกไปดูงานนอกสถานที่ด้วย จะข้เกียจ เอาเปรียบลูกน้องก็ไมได้เดี๋ยวจะเสียศรัทธากันไป แต่ถ้าเสร็จงานเมื่อไหร่ หยางหยางก็จะรีบกลับมาเฝ้ารูปวาดคนที่เขาหลงใหล และเรียกอีกคนอยู่เสมอ




“คุณหลี่อี้เฟิง สวัสดีครับ วันนี้เราจะได้พบกันมั้ยนะ”





เเละวันนี้เองก็ต้องลุ้นอีกวันว่าวันนี้อีกฝ่ายจะมาพบเขามั้ย ? มาในรูปแบบใด ? หรือจะใจร้ายไม่ออกมาพบกันเลย โชคดีที่วันนี้เขาสะสางงานทุกอย่างเรียบร้อย วันนี้จึงหอบเอาของกินรสเลิศพร้อมไวน์ชั้นดีที่ได้จากการนัดพบลูกค้า เป้นของกำนัลติดมือมาด้วย ไวน์ก็เมาน้อยหน่อย..อย่างน้อยก็คงพอจำได้ ถ้าหากเขาดื่มไปแล้วคุณหลี่อี้เฟิงยอมมาพบเขา




พอคุยกับคุณในนั้นตรงที่หน้ารูปเสร็จเขาก็รีบจัดการตัวเอง วันนี้ผจญงานมามาก ไปหลากหลายที่ จึงขอผ่อนคลายโดยการนอนแช่น้ำอุ่น ๆ คลายกล้ามเนื้อเสียหน่อย วันก่อนเขาให้ลูกน้องพาช่างมาปรับปรุงห้องน้ำที่เรือนเล็กบ้านหลี่นี่เสียใหม่ จนมีอ่างอาบน้ำพอสำหรับชายโสดร่างสูงหนึ่งคน วันนี้เขาจึงขอผ่อนคลายตัวเองสักครูก่อนที่คุณหลี่อี้เฟิงจะออกมาหา อาบน้ำแต่งตัวหล่อ ๆ เสียหน่อย จะไปจีบเขาก็ต้องทำให้ตัวเองดูดี




ชายหนุ่มถอดเสื้อเชิ้ตออกวันนี้เขาไปคุยงานแบบกึ่งทางการจึงไม่พ่วงสูทกับไทด์ให้อึดอัดไป จึงมีเพียงแค่เชิ้ตสีเรียบและสแลคเนื้อดีบนตัว ไม่นับชั้นในด้านใน เมื่อจัดการเสื้อผ้าออกจนหมด มือใหญ่คว้าผ้าขนหนูพาดตัวมัดตรงเอวปิดบังส่วนล่างและเดินเข้าห้องน้ำไป เมื่อเห็นแล้วว่าน้ำอุ่นพอดีและปริมาณก็พอเจาะ เขาจึกกระตุกปมผ้าขนหนูตรงเอว จัดแจงตัวเองลงไปในน้ำอุ่นในอ่างอาบน้ำ



“ค่อยยังชั่ว วันนี้งานเยอะเป็นบ้า “ เขานึกไปถึงงานที่พ่อโอนถ่ายมาให้เขา ก็คงจำเป็นเพราะอยากให้เขาไม่มีเวลามานั่งคิดเรื่องคุณหลี่อี้เฟิง แต่ที่เขารีบทำจนเสร็จเคลียร์ทันก่อนจะมืดก็เพราะจะมาหาคุณเขานี่ล่ะ พ่อก็ห้ามเขาไม่ได้หรอก



“วันนี้ลมแรงจังแฮะ” หยางหยางเปิดหน้าต่างส่วนบนของห้องน้ำทิ้งไว้ เขาได้ยินเสียงลมพัดจนมีอะไรซักอย่างตก ก็คงจะเป็นอุปกรณ์ทำสวน หรืออะไรซักอย่างในสวนตกลงมาหยางหยางไม่สนใจ ตอนนี้เขาขอผ่อนคลายตัวเองซักครู่ คิดคำที่จะคุยกับคุณอี้เฟิง ตอนนี้ก็ยังพอมีเวลาอยู่ก่อนจะถึงช่วงเวลาประจำที่คุณเขาจะออกมาพบกัน





“วันนี้จะใช้มุขไหนที่จะรั้งให้เขาอยู่นาน ๆ ดี” ชายหนุ่มคิดถึงรูปวาดนั้น ใบหน้าหวานอันงดงามตราตรึงในใจหยางหยาง เสียงหวาน กลิ่นหอม ๆ ที่ติดตัวมา หยางหยางหลงรักหลี่อี้เฟิงชนิดที่ถอนตัวยาก นี่เพียงแค่พบกันเพียงกลิ่นและเสียง หากพบกันซึ่งหน้า มองตากันเขาจะรู้สึกลึกซึ้งกับคุณหลี่อี้เฟิงคนนี้ได้มากถึงเพียงไหน





แต่มันก็คงเป็นไปไมได้...หยางหยางคิด เขาควรไปให่หมอผีเพื่อช่วยให้เขามีเซนส์ในเรื่องการมองผีวิญญาณรึเปล่านะ







ชายหนุ่มจุดยิ้มมุมปาก เขาบอกตัวเองว่านี่คิดอะไรบ้าบอไปแล้ว มันเป็นไปไม่ได้ คนไม่มีเซนส์ ยังไงก็ไม่มี เท่าที่ได้รับรู้ก็อาจจะเป็นเพราะฝ่ายโน้นจงใจให้เห็น เขาคงอยากติดต่อกับใครซักคน หยางหยางได้รับรู้และสัมผัสกันเพียงแค่นี้ก็รู้สึกดีมากแล้ว เขาหวังมากไปมีแต่จะทำให้หวังเก้อและผิดหวัง





ก็อาจจะเป็นเพราะเขาไมเคยตกหลุมรักใครอย่างจังแบบนี้ ถึงจะเคยมีความรักมา แต่นี่มันมากกว่านั้น เหมือนมีอะไรตรึงเขาไว้ เหมือนมีเชือกที่มองไม่เห็นผูกอยู่






“ผมคิดเอาเองว่าคุณเป็นพรหมลิขิตของผมแล้วนะ คุณหลี่อี้เฟิง”













“หืม?! “ เขาได้ยินเหมือนเสียงอะไรบางอย่างตกจังใหญ่แต่มันอยู่ใกล้ ๆ นี้ หันไป มันเป็นขวดแชมพูและกล่องใส่ของในห้องน้ำ ก็ไม่ไกลจากตัวเขาเท่าไหร่






และไม่นานก็มีลมพัดอีกครั้ง หยางหยางนึกแปลกใจว่าลมอะไรพัดแรงนักเชียว เขาลุกขึ้นจากอ่างอาบน้ำทั้งร่างเปลือยเปล่า เพื่อจะปิดหน้าต่างบานที่เปิดอยู่ ไม่นานก็มีเสียงของอย่างอื่นหล่นอีกครั้งในห้องน้ำ คราวนี้เป้นชั้นวางหนังสือ หนังสือที่จัดวางไว้อย่างดี ล้มระเนระนาด จนเขานึกประหลาดใจ




“ทำไม ? “ เขาพูดหลังจากปิดหน้าต่างเสร็จหันหลังไปดูของทุกอย่างที่ล้มอยู่ตรงนั้น



คิดอยู่ซักพักก็รู้สึกไม่ชอบมาพากล ลมพัดแรงขนาดนั้นเลยหรือ ? แชมพู กล่องใส่ของยังพอว่า แต่นี่ชั้นวางหนังสือที่หนักออกขนาดนั้น




“เอ๋?! “ ไม่นาน..อีกหลังจากที่คิดเรื่องชั้นวางหนังสือจบ กลิ่นของบางอย่างอันคุ้นเคยก็เตะจมูกเขา







ชายหนุ่มรูปหล่อจุดยิ้มและยิ้มก็กว้างขึ้นเรื่อย ๆ แววตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มฉายแววปิดไม่มิด หยางหยางก็คิดว่าตัวเขาไม่ใช่คนเจ้าชู้อะไร แต่วันนี้ได้ใช้ความเจ้าชู้ในแบบที่ชายหนุ่มทั่วไปมีกับใครบางคนแล้ว





“คุณหลี่อี้เฟิง! คุณแอบดูผมอาบน้ำหรือ!








**** คุ ณ ใ น นั้ น *****







“ข้าเปล่า! “ ชายหนุ่มหัวเราะร่าหลังจากที่ตะโกนในห้องน้ำไปอย่างนั้น ทันควันคุณหลี่อี้เฟิงสวนกลับมาทันทีและกลิ่นเครื่องหอมก็หายไป เป็นสัญญาณว่าคุณเขาหนีไปเขินที่อื่นแล้ว หลังจากนั้นหยางหยางก็รีบอาบน้ำให้เสร็จแล้วก็รีบไปง้อคุณเขา พอมาถึงตรงหน้ารูป วันนี้คุณหลี่อี้เฟิงยอมออกมาพบเขาแล้ว เพราะสัมผัสได้ถึงกลิ่นเครื่องหอมที่เตะจมุกจนเกือบฉุนแต่หยางหยางชอบกลิ่นนี้ วันนี้พระจันทร์แม้ไม่เต็มดวงแต่ทอแสงสวย ทำให้รุปวาดอันงดงามที่ถูกแสงจันทร์ต้องงดงามมากขึ้นเท่าทวี






“คุณหลี่อี้เฟิง” หยางหยางลองเรียกดู ฝ่ายนั้นไม่รู้จะตอบมามั้ย เพราะรู้สึกได้ถึงน้ำเสียงที่ตอบกลับมาเหมือนว่าจะเขินและงอนไปแล้ว หยางหยางอยากง้อ แต่การง้อวิญญาณนี่ก็เหมือนคนใช่หรือเปล่า แต่อย่างน้อยอีกฝ่ายก็เคยเป็นเหมือนกับเขา ก็คงไม่ได้ต่างกัน





ก็ได้แต่หวังว่าจะไม่โกรธมาก เขาเองก็เขินเหมือนกัน ก็โดนแอบดูแบบนั้น



“ผมไม่ถือสาหรอก เอ่อ..นี่บ้านคุณ ผมถือวิสาสะมาอยู่เอง แต่ยังไงผมก็ซื้อบ้านต่อมานะครับ.. เอ่อ.. คุณหลี่อี้เฟิง ออกมาคุยเถอะนะ”



ครู่หนึ่งหลังจากที่พูดจบ กลิ่นเครื่องหอมประจำตัวคุณในรูปก็ยิ่งฉุนจมุก อาจจะเป็นเพราะฝ่ายนั้นเริ่มเข้ามาใกล้หยางหยางแล้ว และในที่สุด



“เจ้าคนบ้า!” พอได้คุยกันก็โดนว่าอีกแล้ว แต่หยางหยางก็ไมได้เจ็บใจตรงไหน กลับยิ้มให้เสียอีก รู้สึกเหมือนคุณในรูปอยู่ตรงหน้า หยางหยางทรุดนั่งลงตรงพื้นห้องหน้ารูปไม่สนใจเก้าอี้


“ผมแค่ไปอาบน้ำ”



ครู่หนึ่งคุณเขาตอบกลับมา




“ข้าก็..แค่..ก็แค่ผ่านไป”





“ผ่านไป ? ห้องน้ำน่ะหรือ? “ เมื่ออีกฝ่ายตอบมาได้น่ารักขนาดนั้น หยางหยางจึงขอหยอกให้หายคิดถึง

อีกครู่ก็มีเสียงแว่วหูตอบกลับมา “ก็เจ้าสร้างอะไรในห้องน้ำเรือนเล็ก ..ข้าไม่เคยเห็น..ก็เลย..”
“อยากดู ? แต่ตอนนั้นผมอาบน้ำอยู่นะ”


เงียบไปอีกครู่เสียงแว่วหวานก็ตอบกลับมาด้วยความเขินในเสียงที่สัมผัสได้หลายระดับ ทำเอาหยางหยางยิ้มร่าออกมา พอใจจนเก็บไม่ไดอยู่ ความเจ้าชู้ก็เพิ่มตามไปด้วย แววตานี้คุณหลี่อี้เฟิงไม่รู้จะมองเห็นมั้ย แต่หยางหยางรู้ดีว่า ถ้าคุณเขาอยู่ตรงหน้าเป็นรูปร่างมนุษย์ให้ได้สัมผัส เขามั่นใจว่าสัญชาติญาณชายหนุ่มของเขาจะไม่มีวันให้คุณหลี่อี้เฟิงรอดมือแน่ ๆ



“ก็เรือนข้า! ข้าจะไปไหนมาไหนก็เรื่องของข้า! “ เหมือนตะโกนให้กลบความเขินตัวเองออกมา คุณเขาคงเขินเต็มที่จนหยางหยางนึกไปถึงใบหน้าของคุณหลี่อี้เฟิงในรูป อยากยกมือหยิกแก้มกลม ๆ บนใบหน้างดงามนั้นเหลือเกิน


“แบบนี้คุณก็เห็นทุกอย่างของผมหมดแล้วล่ะสิ”


ครั้งนี้ไม่ต้องปล่อยให้รอนาน เสียงหวานตอบมาทันที พร้อมกับกลิ่นของเครื่องหอมที่หอมเตะจมูกมากเหมือนเจ้าของกลิ่นนี้อยู่ใกล้แค่เพียงเอื้อม



“ไม่เห็นอะไรทั้งนั้น! “  ได้ยินก็หัวเราะร่าออกมา เหมือนอีกฝ่ายจะฮึดฮัดน่าดูฟังจากเสียงใส ๆ นั้นแล้ว หยางหยางในตอนนี้มีความสุขจนจะเป็นบ้าตาย เขาอยากให้เป็นแบบนี้ต่อไปเรื่อย ๆ จริง ๆ




“ถือว่าเป็นของขวัญจากผมแล้วกัน รูปร่างผมดีออกนะ “
“เจ้าบ้า! “ เสียงหวานเเว่วตอบกลับมา เขินสุดกำลังแล้วล่ะสินะ เขาคิดแกมขำไปด้วย 





คิดไปแล้ว หยางหยางจินตนการเอาว่าคุณหลี่อี้เฟิงคงอยู่ใกล้เขามาก หากมองเห็นกัน

 เขาจึงอยากพูดอะไรบางอย่าง  มันมาจากใจ แต่จริง ๆ แล้วก็หวังง้อคนแสนงอนที่ภพหนึ่งด้วย






“ผมมองไม่เห็นใบหน้าคุณ แต่ผมคิดว่ามันต้องงดงามกว่าที่เห็นในรูปแน่ ผมมั่นใจ อย่าโกรธผมเลยนะครับ”





สิ้นเสียงทุ้มของหยางหยาง แต่เสียงหวานไม่ปรากฏ เขาใจหายแต่กระนั้นก็โชคดีที่คุณหลี่อี้เฟิงยังไม่หนีเขาไป กลิ่นเครื่องหอมยังอยู่ใกล้ ๆ นี้




“คุณหลี่อี้เฟิง ผมไม่รู้ว่าคุณมาไหนมาไหนหรืออยู่ตรงไหน ผมมองคุณไม่เห็น นอกจากเสียงเพลงของคุณ เสียงหวาน ๆของคุณกับกลิ่นหอม ๆที่คุณมี เท่านั้นผมถึงจะรู้ว่าคุณมา”





ก็ยังไม่มีเสียงตอบรับ เจ้าของเสียงหวานอีกภพหนึ่งไม่เอื้อนเอ่ยใด ๆ





หยางหยางถึงเอ่ยคำเผด็จศึกที่คิดว่าอีกฝ่ายต้องใจอ่อนแน่ ๆ อย่างที่เขาจินตนาการเอาไว้







“ผมคิดถึงคุณ”





“ไม่ต้องพูดแล้ว ช่างมันประไร!




ได้ผล คุณหลี่อี้เฟิงยอมตอบกลับมาแล้ว  ปลายเสียงจากฝั่งโน้นเป็นรูปแบบเสียงที่ไม่เหมือนกับการตอบโต้กับมนุษย์ปกติ เสียงคุณเขาจะก้องกังวานหน่อย  เป็นคล้ายเสียงแว่วตามลมแต่ส่งมาถึงปลายสายก็คือหยางหยาง



“ได้ครับได้ ถ้าหายงอนผมแล้ว วันนี้เรามาอยู่ด้วยกันทั้งคืนเลยนะ”





หยางหยางรู้สึกได้ว่า อีกฝ่ายอยู่ตรงหน้า และอยู่ในระยะที่เอื้อมได้ แบบไม่ต้องสุดปลายแขนก็สัมผัสกันถึง





คาดเอาจากรูปร่างที่เห็นจากในรูปแม้จะนั่งอยู่ คุณหลี่อี้เฟิงคงสูงพอ ๆ กับเขา หรือเตี้ยกว่าไม่กี่เซนติเมตร พอนั่งอยู่กับพื้นเช่นนี้ ระดับของใบหน้าก็น่าจะอยู่ในระนาบเดียวกัน หยางหยางจึงลองเสี่ยงดู





“ผมว่าเราใกล้กันมากเลยนะครับ.. ตอนนี้คุณตอบผมได้มั้ยว่า ผมคิดถูกที่ขยับเข้ามาใกล้คุณแบบนี้”  
หยางหยางขยับตามที่บอกคุณในรูปไป ชายหนุ่มขยับไปข้างหน้านิดหน่อย พร้อมเลื่อนใบหน้าหล่อเหลาเข้าไปใกล้ในระยะอย่างที่เดาเอาเองว่าใบหน้าหวานของคุณหลี่อี้เฟิงจะอยู่ตรงนั้น แววตาส่งความรู้สึกทั้งหมดของเขาออกไป จะรัก หลงใหล หรืออยากทำอะไรมากมายก็ตาม มันอยู่ในแววตาหมาป่าล่าเหยื่อแสนเจ้าเล่ห์เจ้ากลของหยางหยางแล้ว




“ว่าไงครับ ?”  เสียงทุ้มปรับโทนเสียงให้อ่อนโยน นุ่มนวล ฟังแล้วออดอ้อนใจ ฃวนละลายแก่ผู้ได้ยิน




ครู่หนึ่ง หยางหยางอดใจรออย่างมีความหวัง จนเสียงหวานตอบกลับมา



“หน้าเจ้าใกล้ข้ามาก จนจะ.. เอ่อ...”
“ครับ ? “


เหมือนได้ยินเสียงฟึดฟัดมาแว่ว ๆ ยิ้มแสนเล่ห์แสนกลของหยางหยางปรากฏขึ้นมาบนใบหน้า เขาเอียงคอพลางคิดถึงใบหน้าหวานนั้นคงน่ารักน่าเอ็นดูเวลางอน




“ใกล้มากไป ..จนจะจูบช้าได้อยู่แล้ว”





ในที่สุดก็สารภาพออกมา ด้วยน้ำเสียงตะกุกตะกัก เขินปิดไม่มิดแม้เป็นเสียงแว่วลมมาก็ฟังออก หยางหยางประสบความสำเร็จจริง ๆ ที่ทำให้คุณเขาหวั่นไหวขนาดนี้ เขาอยากรั้งให้คนในรูปอยู่กับเขาจนเวลาของเราจะหมดจนเช้า




“อยู่กับผมได้มั้ยคืนนี้ “





เสียงทุ้มนุ่มนวลเอ่ยถาม ใบหน้าของหยางหยางยังอยู่ในตำแหน่งเดิม และดูเหมือนอีกฝ่ายก็ยังไม่ไปจากที่เดิมของตัวเองด้วย คงใกล้มาก หากมองเห็นกัน คงเป็นเขาเองที่ใจละลาย








“นี่เรือนเล็กตระกูลข้า ข้าจะอยู่จะไปก็เรื่องของข้า”
“แล้วอย่างไรครับ คุณจะอยู่หรือไป ?”






ถามกลับไปอีกหนึ่งคำถาม แต่เสียงหวานไม่ตอบกลับมาทันใจแบบเคย หากว่าอีกฝ่ายเปลี่ยนแป็นเสียงขลุ่ยหวานบรรเลงให้ได้ยิน เป็นคำตอบยืนยันว่าเราจะอยู่ด้วยกันเพื่อฟังและบรรเลงเพลงนี้จะหมดเวลาของเรา










****** TCB 5






1 ความคิดเห็น:

  1. มาตอนเมาก็ยังดี อิอิ รอตอนต่อไปเลยแบบนี้ เพราะไม่งั้นคงได้ช่วยหยางหยางหาหมอผีมาเอาอี้เฟิงออกจากภาพแน่ๆ 55555

    ตอบลบ