“เฟิงเกอ”
“...”
“เฟิงเฟิง”
“...”
“หลี่อี้เฟิง!”
เสียงทุ้มนุ่มเรียกอยู่นานสองนานกว่าเจ้าของชื่อนั้นจะรู้สึกตัวก็ถูกเรียกด้วยเสียงดังขึ้นเรื่อย
ๆ หลายระดับจนดังมากที่สุดเท่าที่หยางหยางจะทำได้ในช่วงเวลาที่ยืนอยู่ตรงนี้ ก็เป็นที่สาธารณะก็ดังได้แค่ระดับเท่าที่คนสองคนได้ยินเท่านั้น
“ก็เอ่อ....คือ..”
“เฟิงเฟิงจะตอบคำถามผมได้รึยังล่ะ ที่ผมให้เกอไปหาคำตอบมา เกอน่ะ
จะว่าไง”
อี้เฟิงไม่พูดอะไร เฉไฉไปมา คำถามที่หยางหยางให้ไปหาคำตอบ มันไม่ยาก
ไม่ใฃ่โจทย์คณิตศาสตรืหรือวิชาการอะไรยากมากมายเลย
แต่อี้เฟิง ไม่อยากตอบ ไม่คิดจะตอบ
อย่างน้อยก็ไม่ใช่เร็ว ๆ นี้แน่อ่ะ มัน..มันมีเหตุผลน้าที่ไม่กล้าตอบไป
อี้เฟิงคิดกับตัวเอง
แต่วันนี้เขาก็พาลมาพบเจออีตาคนที่ทำให้เขานอนไม่หลับกับคำถามนั้นที่โดนถาม
“ไม่ตอบโว้ย”
“เกอ บ่ายเบี่ยงอีกแล้ว”
“ไม่รู้ไม่ชี้~~~~~” พูดจบคนหน้าตาน่ารักทำไม่รู้ไม่ชี้อย่างที่ว่า
เดินหลบฉากไปทางอื่นเฉย วันนี้หยางหยางและอี้เฟิง บังเอิญ(หรือเปล่าน้า)
เจอกันในสตูดิโอถ่ายแมกกาซีนใจกลางเมืองหลวงแห่งหนึ่งชื่อดังมากถึงขนาดเป็นศูนย์รวมซีนสวย
ๆ ฉากดี ๆ ไว้เพื่อถ่ายแบบ ส่วนมากดาราไอดอลดัง ๆก็จะอยู่แถวนี้
และไอ้เรื่องที่ทั้งคู่มาพบกันสองต่อสอง ไม่ต้องถามไม่ต้องสงสัยกันแล้วล่ะ
ทั้งวงการเขาก็รู้แค้ไม่พูดอะไร เพราะมันก็เป็นเรื่องส่วนตัวระหว่างสองคน คนอื่น ๆ
ก็ทำได้เพียงแต่เอาใจช่วยหรือคอยจะแช่ง ก็ตามแต่สะดวกใจ
ทีมงานของหยางหยางปล่อยให้ชายหนุ่มมาพบอี้เฟิง
อี้เฟิงที่นั่งเล่นอยู่ตรงร้านคอฟฟี่ชอปของตึกนี้นั่งเล่นโทรศัพท์อยู่ แต่พอรู้ว่าหยางหยางก็อยู่ตึกนี้ด้วย
เขากำลังจะหลบไปแท้ ๆ
แต่เจ้าหมาป่านั่นตามกลิ่นเจอซะก่อนแล้วก็มาทวงคำตอบที่ถามเขาไว้เมื่อวันก่อน
ฉันไม่ตอบหรอกโว้ย! อี้เฟิงตะโกนในใจ ตอนนี้เขาทำไม่รู้ไม่ชี้ต่อไป
แต่ยังเดินหนีไปไม่ได้ เพราะแขนถูกรั้งไว้ด้วยแขนของชายหนุ่มอายุน้อยกว่า
หน้าตาหล่อเหลา ก็หยางหยางนั่นล่ะ รั้งเขาไว้ เหมือนว่าถ้าวันนี้ไม่ไดคำตอบก็จะไม่ปล่อยให้ไปไหน
“เกอครับ ผมอยากรู้จริง ๆ นะ”
“ไม่ตอบ ยังไม่มีคำตอบให้”
“ไม่จริง เกอน่ะ มีคำตอบในใจแล้ว แค่ไม่บอกผม ขอเหตุผลได้มั้ยว่าทำไม"
"ก็ไม่อยากตอบอ้ะ!"
หยางหยางยิ้มน้อยที่มุมปาก ดูเจ้าเล่ห์จนอี้เฟิงนึกอยากหาอะไรฟาดหน้า
แต่ทำไม่ได้ เพราะรอยยิ้มนั่นทำให้อี้เฟิงหน้าร้อนขึ้นมากะทันหัน
ดวงตากลมโตหรี่เล็กลงมองอีกฝ่ายที่ทำตาทำกรุ่มกริ่ม
ทำท่าทางเจ้าเล่ห์และมองมาที่อี้เฟิง ยิ่งมองยิ่งหมั่นไส้เข้าไปใหญ่
คนน่ารักก็เลยสะบัดค้อนใส่ควับเข้าให้ นั่นทำให้หยางหยางหัวเราะให้ได้ยิน
“จะไม่ตอบจริง ๆ น่ะหรอเกอ”
“เออ!”
อี้เฟิงบ่ายเบี่ยงไม่ตอบ ไม่อยากพูด ยิ่งนึกถึงคำถามยิ่งหน้าร้อน
แดงเห่อไปทั่ว เจ้าของหน้าคิดว่าถ้าเทียบนี่ก็คงเป็นในระดับกระทะร้อนทอดไข่สุกแล้ว
คุณเทพบุตรแห่งชาติไม่คิดเลยว่าตลอดชีวิตเกือบสามสิบขวบบนโลกใบนี้จะต้องมาแพ้ทางไอ้ผู้ชายหน้าตาเจ้าเล่ห์
กับคำถามเพียงคำถามเดียวที่โดนจู่โจมจนทำให้ใจเขวเป๋ไปข้างอย่างนี้แถมตอนยโดนถามในอกวูบไหวเหมือนสาวน้อยแรกแย้มอย่างไรอย่างนั้น
“ตอบผมเถอะ นะครับเกอ ผมอยากรู้” เสียงทุ้มออดอ้อน
ไม้ขู่ไม่ได้ผลก็เลยนึกใช้ไม้อ่อน อ้อนใส่อี้เฟิงใหญ่ คนน่ารักยิ่งละเหี่ยใจ
นึกอยากเขกหัวตัวเอง แพ้! แพ้อีกแล้ว ความหยางหยาง แพ้ทุกอย่าง
แพ้ไอ้หมาป่านี่ทุกอย่าง
“อะ..เอ่อ”
“เกอครับ ..หรือว่าเกอจำคำถามไม่ได้ งั้นผมจะถามอีกรอบนะครับ
เผื่อคำถามมันยังไม่ซึมเข้าไปในหัวใจของเกอ~~"
ดูมันพูด ...อี้เฟิงคิดพร้อมกับมองหน้าตากวน ๆ แต่หล่อเหลาจนอี้เฟิงอ่อนใจ ใจอ่อนทุกครั้งที่ได้มอง
หยางหยางปล่อยแขนอี้เฟิงจากที่รั้งไว้นาน แต่อี้เฟิงไม่นึกจะหนีอีกแล้ว
กลับยืนฟังคำถามอีกครั้ง ตามที่หยางหยางบอกว่าจะถามเขาอีกรอบ
คนน่ารักถอนหายใจสองสามรอบ ไม่ใช่เบื่อหยางหยางแต่ใจเต้นกว่าเดิมจนต้องระบายให้หายตื่นเต้น ก่อนหน้าที่ถามคำถามเดียวกัน เขาก็ใจเต้นจนแทบวาย ทีมงานเกือบมาช่วยพยุงแทบไม่ทัน
แล้ววันนี้ล่ะ ? ท่าทางหมอนี่มาคาดคั้นเอาคำตอบจากเขาให้ได้ด้วย ซึ่งเป็นเดือนแล้วที่อีเฟิงเลี่ยงไม่ตอบ เหมือนกับวันนี้
อี้เฟิงจะต้องให้คำตอบกับหยางหยางแล้วล่ะ
“เห้อ” ... อี้เฟิงถอนหายใจเพิ่มอีกหนึ่งครั้ง ใครมันจะไปตอบวะ! คำถามแบบนั้น
แค่นึกก็เขินแล้ว
#หลี่อี้เฟิงกำลังจะบ้า (ขอใส่แทกให้ตัวเอง)
“ผมขอทวนคำถามนะครับ คุณหลี่อี้เฟิง ได้โปรดตอบผมด้วย”
อี้เฟิงกลืนน้ำลายลงคอ รอฟังด้วยใจเต้นรัว
จริง ๆ มันก็คือคำถามธรรมดานั่นล่ะ แต่เพราะว่าหยางหยางพูดมันเลยหวานจับใจ
“คุณหลี่อี้เฟิง ผมรักคุณ แล้วคุณล่ะครับ รักผมด้วย คิดแบบเดียวกันกับผมใช่มั้ย”
จะให้หลี่อี้เฟิงคนนี้ตอบอะไรอีก! จะให้ต้องพูดอะไรอีกวะ ?
เห็นกันอยู่ทุกครั้งที่เจอกันว่าเขินใส่ หน้าแดงไปหมด
อาการเป็นสาวแรกแย้มแบบนั้นจะให้ฉันตอบเอ็งไปทำเพื่ออะไรอีก ! แล้วอะไรน่ะ หยางหยาง
แววตาเจ้าชู้กรุ้มกริ่มใส่ฉัน เอ็งรู้อยู่แล้ว ไอบ้า! แล้วมาให้ฉันพูดคำว่า ‘รัก’
ต่อหน้านายทั้งที่รู้ว่าฉันคิดแบบเดียวกัน
คำ ๆ นั้นน่ะ ไม่พูดหรอก เก็บไปนอนฝันเลย เจ้าหมา! ฉัน
หลี่อี้เฟิงคนนี้น่ะ
คนนี้น่ะ!
เขินเกินกว่าจะพูดออกไปเว้ย!
./////////.
--- END------
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น