TITLE : B E T W E E N
CHAPTER : CASE 2
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG
TALK :: ถ้ายังจำกันได้ อันนี้ตอนที่สองแล้วนะ ห่างกับตอนแรก 1 ปีกว่า ๆ 555
***********************************************************************
เริ่มเคสก็มีปัญหาซะแล้ว...
อี้เฟิงคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงกับทีมอีกทีมหนึ่งที่จะต้องมาทำงานร่วมกันในวันนี้
ซึ่งวันนี้ก็คือวันแรกที่เริ่มทำคดีที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชามา
จะเอาเรื่องกันตั้งแต่วันแรกเลยเหรอวะ มันจะทำอะไรให้มันเป็นผู้เป็นคนหน่อยไม่ได้รึไง
อี้เฟิงสวดด่าอีกทีมในใจ
ผู้กองผู้เถรตรงและเจ้าระเบียบอย่างอี้เฟิงเป็นที่รู้กันดีว่า หากใครเข้าประชุมสาย
ไม่เตรียมข้อมูลเมื่อเข้าประชุม
หรือแค่เพียงงีบหลับในที่ประชุมก็จะโดนเขม่นอย่างไม่ปิดปัง
“นี่คุณ!” อี้เฟิงทนไม่ไหว
โพล่งออกไปหนึ่งคำใส่หัวหน้าชุดอีกทีมหนึ่งที่ไม่มีเค้าว่าจะตั้งใจเขาเลยซักนิด
เหมือนกันเลย ลูกน้องอีกสามคนก็เอาหูไปฟังโน่น เอาตาไปมองนั่น
ลูกน้องของอี้เฟิงสามคน เสี่ยวเอิน อี้ชิง และ จิ้งฝู
หันไปมองหัวหน้าชุดของตนด้วยความเกรงและเกร็ง ผู้กองหลี่เวลาโมใช่ย่อยซะทีไหน
ถ้าระดับพีคเข้า ห้องเละไปทุกที
“คร๊าบ ผู้กองหลี่”
จากคำตอบและท่าทางของหัวหน้าชุดที่จะต้องมาร่วมงานกับอี้เฟิงอย่างหยางหยางจะไม่แทบไม่ได้ฟังข้อมูลที่อี้เฟิงแจกแจงไปอย่างละเอียด
เขาพูดจนแสบคอเป็นชั่วโมง แต่ไอ้หมอนี่กับลูกทีมทำอะไร ? ฟังเพลง ดูคลิปโป๊ ?
อ่านการ์ตูน ส่วนไอ้หมอนี่ ก็เอาแต่นั่งพับเครื่องบินกระดาษร่อนในห้อง
“จะมากไปแล้วนะ!” อี้เฟิงยังไม่ขึ้นเสียงเขียวใส่
ประโยคนี้ยังอยู่ในระดับเสียงโทนที่ยังถือว่าให้เกียรติกันอยู่มากหากเทียบกับมารยาทในห้องประชุมของหยางหยางและทีมนั่น
มันใช้ไม่ได้เลย!
“อะไรละคุณ จะพูด ก็พูดไปสิ ผมก็นะ ถ้าอยากฟังก็จะฟัง ถ้าไม่ก็จะ....”
หยางหยางพูดจบก็เอาเครื่องบินที่พับจากกระดาษรีไซเคิลที่หยิบคว้ามาจากกล่องกระดาษใต้โต๊ะส่งแรงร่อนตรงไปหาคนที่เปิดประชุมอย่างอี้เฟิง
และเครื่องบินนั้นก็ร่อนชนปลายจมูกของอี้เฟิงและลงจอดที่สมุดบันทึกตรงหน้าที่วางอยู่บนโต๊ะห้องประชุม
อี้เฟิงมองตามมัน บนเครื่องบินกระดาษนั่นเหมือนมีอะไรเขียนไว้
‘ตอนดุหน้าอย่างกะแมว เมี๊ยว ๆ
เดี๋ยวพี่ชายจะให้อาหารนะ’
อี้เฟิงทนอ่านมันจนจบพลางเม้มปากข่
มอารมณ์ทำให้ตัวเองเป็นผู้ใหญ่มากที่สุด และสุขุมมากทีก่อนที่จะเงยหน้ามองทุกคนในห้อง
รวมทั้งเขาเองด้วย ทั้งหมด 8 ชีวิต ฝั่งหนึ่งทีมของเขาเอง หน้าซีดเผือก
เพราะทุกคนรู้ดี หากผู้กองหลี่อี้เฟิงโมโห เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร
มีใครจะรอดชีวิตบ้างมั้ยนะ ? อีกฝั่งหนึ่งนะหรือ ?
ชุดของผู้กองหยางหยางแต่ละคนกวนได้ใจ ทั้งยิ้มขำ
ทำท่าทางไม่สมกับการเข้าประชุมเรื่องเครียด ๆ
อย่างคดีหนักที่เราทั้งหมดกำลังร่วมลงเรือลำเดียวกัน
“นั่นไง พวกนาย จริง ๆ ด้วย
อย่างที่ฉันบอก อย่างกะแมว แมวดุ “ ไม่พอ เขียนในกระดาษก็ยังไม่พอ
อี้เฟิงเริ่มยั๊วะหนักมากขึ้น ความไม่เป็นผู้ใหญ่อี้เฟิงเริ่มน้อยลง
และคิดว่าคงจะเท่ากับไอ้หมาบ้าที่นั่งยิ้มกวนเบื้องล่างเขาที่นั่งอยู่เยื้องจุดที่อี้เฟิงยืน
‘เชี่ยเอ๊ย ‘
ผู้กองหลี่สบถในใจ ก่อนยิ้มเยือกเย็นที่สุดออกมา
“อย่าใช้วิธีเด็ก ๆ มาทำให้ฉันหมดความอดทน พวกแก อย่าทำมาเป็นรู้จุดอ่อนฉัน
ไอ้พวกหมาบ้าเวร เงียบ ๆ ตั้งใจฟัง แล้วหุบปากซะ ไอ้เด็กบ้าตรงนั้นน่ะ!
ที่อ่านการ์ตูนอยู่ อย่าคิดว่าผู้กองแกค้ำหัวแล้วจะทำห่าอะไรก็ได้ วางลง
ส่วนแกจะให้ฉันเอาเท้าเหยียบโทรศัพท์แก หรือแกจะวางมันลงดี ๆ ที่เหลือ
หยุดทำตาเหลือก แล้วฟังงานที่ฉันจะแจงให้ “
ทุกคนไม่ค่อยได้เห็นอี้เฟิงใช้คำหยาบเท่าไหร่
แต่ละคำออกมาด้วยน้ำเสียงและท่าทางเฉือดเฉือนจนหน้าสั่น
แม้แต่เด็กในทีมของหยางหยางยังต้องทำอย่างที่อี้เฟิงขู่ไว้
อย่างน้อยอี้เฟิงก็ยศสูงกว่า อายุมากกว่า
และสั่งโทษได้อีกทั้งยังมีเส้นสายใหญ่ในกรม พวกเขาขัดไปก็มีแต่จะซวย
แต่ก่อนหน้านั้น เด็ก ๆ ทีมหยางหยางก็ผันหน้ามองหัวหน้าทีมก่อน
ตาเหลือกไปแล้วเหมือนกัน ...
หยางหยางอึ้งที่คนสุภาพที่สุดอย่างอี้เฟิงจะใช้คำหยาบ เพราะเอาจริง ๆ
จากที่เคยพูดคุย หลี่อี้เฟิงมาจากตระกูลใหญ่ มีชื่อเสียง
และเป็นคนสุภาพมากเท่าที่มนุษย์ทุกคนจะสุภาพได้
แม้ว่าจะเข้ามาในวงการตำรวจที่แสนจะดำมืด ก็ยังคงตัวตนเดิม
(อย่างน้อยหยางหยางก็ต้องสืบเรืองผู้กองตัวท็อปคู่แข่งเขาบ้าง)
วันนี้ได้มาฟังอะไรแปลกหูจากอี้เฟิง
“เอ้า ด่าขนาดนี้จะยอมฟัง “
“ขอบใจ แล้วนายก็ช่วยเลิกยิ้มแบบนั้น และก็เลิกพับเครื่องบินได้แล้วว้อย
รำคาญเนี่ย!”
อี้เฟิงทิ้งเสียงดังจนแทบตะโกนใส่หยางหยาง
ก่อนจะทุ่มเอกสารรายละเอียดคดีทั้งหมดใส่หน้าผู้กองตัวแสบคู่ปรับของตน หลังจากนั้น
เขาหันไปคุมอารมณ์ตัวเอง
และกลับมาด้วยใบหน้าอันเรียนบสนิทอย่างที่ควรจะมีในห้องประชุม
“เอาล่ะ คดีนี้ก็หนักหน่อย สำหรับทีมแค่นี้ แม้จะได้คนมาสนับสนุนบ้าง
แต่ก็ใช่ว่าจะใช้ได้
ไอ้พวกที่เราจะไปจับมันก็ร้ายไม่ใช่เล่น ระวังชีวิตของพวกนายไว้แล้วกัน “
อี้เฟิงเปิดเรื่องมาน่าสนใจ สำหรับหยางหยาง
ด่ากันขนาดทำให้เขาตาเหลือกตกใจได้ ก็ฟังหน่อยแล้วกัน ถึงแม้ว่า
ไอ้แฟ้มเอกสารบ้าบอทั้งหมดนี้น่ะ เขาจะอ่านมาหมดแล้วภายในคืนเดียวก็ตาม
B E T W E E N
หลังจากที่คุยงานกันอย่างคร่าว ๆ ในวันแรก หนักเอาการ
หยางหยางพาทีมออกมาก่อนอี้เฟิงจะเขม่นใส่อีกรอบ
“ดุใช่เล่นเลย ผู้กองหยาง ผู้กองหลี่น่ะ”
“เออ ก็เคยบอกไปแล้ว”
หลี่อี้เฟิงกับเขามันต่างกันสุดขั้ว ตั้งแต่ตัวตนยันทัศนคติ
และการทำงาน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าร่วมงานกันครั้งนี้จะอยู่ไปตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า
หรือจะพลั้งพลาดกันไปทั้งคู่ เพราะคดีที่ทำนี่
ไม่ใช่เล่นเลย
หยางหยางก้มอ่านแฟ้มของตนเอง
รายละเอียดด้านในก็เหมือนกับที่อี้เฟิงโยนใส่หน้าเขามา
แต่เขาก็มีอีกแฟ้มหนึ่งของตัวเอง และโน้ตทุกอย่างที่น่าสนใจ ไฮไลท์ส่วนที่สงสัย
และไปคิดต่อ อนุมานบางอย่างที่จะเป็นไปได้
คดีของเถื่อน ขโมยของจากสุสาน
ถึงแม้ว่าเขากับอี้เฟิงจะเคยทำคดีหนัก ๆ คดีดังมาหลายอย่าง
แต่นี่ระดับแดง 5 ดาว ความยากมันพีคถึงระดับนั้น เพราะถ้าหากจะว่ากันจริง ๆ
เมื่อสาวไปแล้วก็ไปเจอตอใหญ่ที่ยากจะจัดการเหมือนกัน
แต่ในส่วนแรกเขาก็ต้องสืบเรื่องราวขั้นต้นเสียก่อน จริงๆ ก็เคยมีคนทำคดีนี้
แต่ก็โดนตัดตอนกันไปหมด จนในที่สุดคนที่มาทำคดีชุดใหม่ก็ต้องสรุปคดีอย่างลวก ๆ ไป
และรอให้หมดอายุความ แต่เพราะหัวหน้าของทั้งเขาและอี้เฟิงยังติดใจ และสงสัยอยู่มาก
หัวหน้าของเขานั้นเป็นพวกตรงฉิน พูดจาเฉือดเฉือน และยุติธรรมที่สุด
ในเมื่อได้มีอำนาจมาอยู่ในส่วนนี้แล้ว ก็ขอเอาซะหน่อยเถอะ
แผนกสืบ 0 ที่ตอนนี้มีแค่ทีมเขา และอี้เฟิง
และทีมของหัวหน้าที่มีลูกทีมแค่เพียงเล็กน้อย
ชุดพิเศษนี้ ไม่ได้เพิ่งจะมี แต่มีมานาน
แต่ผลงานไม่เป็นที่น่าประทับใจ คนก็เลยโยกย้ายไปโน่นนี่บ้าง เขากับอี้เฟิง
มาจากคนละแผนกกัน แต่บางงานก็ได้เจอกันบ้าง คดีไม่ค่อยใกล้กันเท่าไหร่หรอก
ถ้าอี้เฟิงทำงานสืบคดีอยู่ใกล้ ๆ ของหยางหยางก็จะห่างออกไป คนละพื้นที่กัน
คือทางผู้บังคับบัญหาคนก่อนก็เห็นว่าไม่ถูกกันจึงจับแยก
แต่ในเมื่อตอนนี้ก็ดันมาอยู่แผนกพิเศษใหม่แล้ว ก็ยังไงล่ะ
นอกจากเสียแต่ว่าต้องทำงานด้วยกัน
แผนกนี้ก็ได้มีผู้บังคับบัญชาให้เหตุผล
‘ให้พวกนายที่เป็นหัวกะทิของเรา ทำงานยากกันหน่อย’
ท่านเล็งเห็นว่าเราจะได้เป็นตัวอย่างแก่ตำรวจทั่วทั้งกรมที่จะได้เห็นเราทำคดียาก
ๆ และเมื่อสำเร็จก็ถือว่าเป็นแรงผลักดันตำรวจเหล่านั้น มาจุดนี้ในแผนกสืบสวน 0
คดีอะไรที่อยู่ในความสนใจ หรือเหนือความสามารถจะถูกมอบมาที่นี่
แผนก 0 ก็จะทำต่อไป ไม่แน่ใจว่า แผนก 0 หรือแผนกขยะกันแน่ แต่ที่แน่ ๆ มีแต่คดียากที่ปิดยังไงก็ไม่ลง
และอายุความแทบจะสุดเส้นแดง หัวหน้าของเขาปวดกบาล เมื่อเข้าในที่ทำการของแผนก 0
วันแรก ลมแทบจับ นายเหนือหัวเราขึ้นไปกว่านั้น ตบบ่าให้กำลังใจ ก่อนยิ้มให้
เดินจากไปด้วยแววตาที่ดูมีความหวัง
“ผู้ใหญ่เหนือเรา เค้าจะให้เราทำอะไรกันแน่ “
หัวหน้าของหยางหยางและอี้เฟิงในตอนนี้พูดเช่นนั้น
ก่อนจะเดินเข้าไปจมกองสำนวนมหาศาลในห้องและไม่ออกมาอีกเลย
จนวันนี้ก็โยนคดีมาให้ทั้งทีมของเขาและอี้เฟิง
เปิดเคสแรกก็ปวดกบาลแล้ว เริ่มตั้งแต่ความเข้ากันไมได้เลยของทีมเขาและอี้เฟิง
ก็จะให้ทำยังไง ในเมื่อไลน์การทำงาน ต่างกันขนาดนี้
แต่ก็มีแค่ต้องปรับหากันเท่านั้นล่ะ
ยกเว้นว่าจะลาออกไปกันเสียก่อน
“เฮ้อ ให้ตายเหอะ”
หยางหยางยืดตัวผ่อนคลายตัวเองหน่อย
ตอนนี้เขาอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวที่พอมีที่นั่งให้บ้าง นอกจากสำนวนหลาย
ๆอย่างที่กองเป็นตั้ง ๆ
ห้องนี้เป็นส่วนตัวสำหรับผู้กองอย่างเขาที่เป็นหนึ่งในหัวหน้าชุดทำงาน ข้าง ๆ
เป็นห้องอี้เฟิง ที่เห็นผ่านกระจกว่ากำลังอ่านแฟ้มคดีแรกอยู่คร่ำเคร่ง
ส่วนลูกทีมของเขา นั่งกันอยู่ตรงโต๊ะรวมใหญ่ในโถงที่ทำการ
แหม่ ที่นี่ก็บอกเป็นแผนก 0 แผนกเทพที่เทพอยู่ อย่างไรกันล่ะ
เหมือนที่เก็บขยะชะมัด
ทั้งรก ฝุ่นเยอะ ก็นะ เป็นที่ที่รวมของยาก ของแรร์ ไม่มีใครอยากแตะ
ได้ข่าวว่ามีอาถรรพ์แผนกนี้อยู่ด้วย
จะต้องมีคนตายอย่างค่ำ3 จาก 5 ถ้ามีมากกว่า 5 ให้นับสัดส่วน
แล้วจะเหลือกันกี่คนละนี่ ถ้าหากเป็นจริงดังที่เขาลือ ๆ กัน
อันที่จริงก็ไม่ได้แค่ลือ มันก็เกิดขึ้นจริงตามที่วากันมานั่นล่ะ
คนเลยย้ายหนีกันหมด เพราะกลัวตัดตอนตาย และพวกเขาคือเซตต่อไป นี่เหมือนเอาพวกเขามาสังเวยอะไรซักอย่าง
ก็หวังแค่ว่าจะไม่มีใครตาย สงสัยจะต้องไปหาอะไรมาคุ้มหัวกันหน่อย
ที่ไหนมีของขลังกันบ้างมั้ย ที่เมืองไทยอาจจะมี ไว้มีเวลาว่างจะบินไปดู
หาแจกทุกคนในแผนก แน่นอน สำหรับทีมผู้กองหลี่คนนั้นด้วยเหมือนกัน
ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าแล้วก็หมั่นไส้ก็เถอะ
“จะเริ่มยังไงดีวะ “ อ่านแฟ้มทั้งหมดไป ๆ มา ๆ
ก็อยากจะเริ่มทำตั้งแต่สเตปแรกที่ไปเดินสืบหาตามร้าน หรือปลอมตัวเข้าไป
แต่ท่าทางจะงานยาก เพราะเคยมีคนไปทำแล้วก็เป็นศพกลับมา
เพราะพวกนั้นดันรู้ว่าเป็นสายตำรวจ หรือเป็นตำรวจเข้าไปหาเรื่องตาย
คงต้องหาวิธีใหม่ที่แยบยล แต่วิธีดั้งเดิมแบบนี้ยังคงต้องเก็บไว้อยู่
เป็นทางเลือกสุดท้าย ก็ปลอมให้มันเนียน ๆ แล้วกัน หากจะใช้
“เสี่ยวอิง ขอกาแฟฉันแก้วนึง”
หยางหยางตะโกนออกไปนอกห้องหลังเมื่อเปิดประตูออกไปที่โถงที่ทำการของแผนก
เสี่ยวอิงลูกทีมของหยางหยาง สาวน้อยหนึ่งในสองคนจากในทีมสองทีมบวกกัน
ตอบรับและเดินไปชงกาแฟตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่ง
คล้อยหลังจากนั้นหยางหยางเดินมานั่งที่เดิม คิดหาวิธีด้วยใจที่นิ่งสงบ
แม้จะร้อนรุ่มด้วยไฟการทำงาน เขาคิดว่ามันต้องมีวิธีดี ๆ และผู้กองหลี่ก็เหมือนกัน
ก็ต้องแข่งกันล่ะในการประชุมคัรั้งหน้า ซึ่งหัวหน้าของพวกเราจะเข้าด้วย
วิธีของใครจะเข้าวิน เมื่อครู่ตอนเปิดประตูออกไป
เขายังเห็นอี้เฟิงหน้านิ่วเป็นแมวอึไม่ออกอยู่ ก็คงยังจนใจแบบเขา
“ขอบคุณ” เสี่ยวอิงเอากาแฟมาให้ และยิ้มให้กำลังใจหัวหน้าของตน
เธอแถมขนมที่เธอซื้อมาให้ด้วยบอกว่าเผื่อสมองจะได้แล่น
หยางหยางพยักหน้าและเอ่ยขอบคุณซ้ำ และเธอก็ผลักออกจากห้องไป
หยางหยางซดกาแฟรวดเดียวโดยไม่แตะขนมเลยซักนิด
ตอนนี้ยังไม่มีอารมณืกินของหวานเท่าไหร่
มือเรียวของหยางหยางคว้ากระดาษรีไซเคิลที่อยู่ในกล่องแถวเครื่องปริ้นท์มาแผ่นหนึ่ง
และลงมือพับตามใจ ก็ออกมาเป็นเครื่องบินกระดาษอีกนั่นล่ะ
ก่อนร่อนมันออกจากห้องลอดช่องหน้าต่างที่เขาเปิดทิ้งไว้รับลม
ม่านสีฟ้าปลิวไสวลู่ไปกับแรวลมที่พัดมาเอื่อย ๆ
ผู้กองหมาป่ามองตามเครื่องบินกระดาษลำนั้นออกไป
ปัง!
“เสียงอะไร!” คนแรกที่โผล่พรวดเข้ามในห้องทำงานของหยางหยางเหนือความคาดหมายนิดหน่อบ
“เอ่อ ไม่มีอะไรผู้กองหลี่”
“เสียงปืนน่ะนะ ไม่มีอะไร!”
“ผมน่ะไม่ แต่เครื่องบินกระดาษของผมลำนั้นน่ะที่เป็น”
หยางหยางชี้โบ้ยไปทางหน้าต่าง
แต่ไม่ให้อี้เฟิงก้มโผล่หน้าออกไปนอกหน้าต่าง
โดยกันตัวอี้เฟิงไม่ให้เข้าใกล้ริมหน้าต่าง แต่เขายืนตรงนั้นเสียเอง
แต่อี้เฟิงก็เห็นว่าเครื่องบินกระดาษที่ลู่ลมอยู่ดี ๆ
นั้นก็ตกลงพื้นแบบกะทันหันก็เพราะกระสุนนัดหนึ่งทะลุบินเครื่องบิน
เล็งยิงอย่างแม่นยำ มันเลยมีจุดจบไม่สวยเท่าไหร่นัก
“ใคร”
“ผมจะรู้มั้ย”
“เราจะต้องลงไปดูวิถีกระสุน”
“รู้ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“เดี๋ยวมันก็หายไปหรอก”
“มันยังอยู่แถวนี้”
“ก็แล้วไง ถ้าปล่อยนานมันก็จะหนีไปนะว้อย”
“ถ้าออกไป และมันยังอยู่
คุณอาจจะเป็นรายต่อไปที่จะโดนยิงแบบเครื่องบินกระดาษลำนั้น”
“ผู้กองหยาง ถ้านายกลัวก็รอตรงนี้”
“ผู้กองหลี่ คุณใจเย็น ๆ หน่อยได้มั้ย ผมที่เป็นคนบ้าบิ่นตอนนี้
ใจเย็นกว่าคุณเสียอีก”
เท่านั้นอี้เฟิงจึงรู้สึกตัว
มือเขาสั่นเล็กน้อย แรงโกรธ แรงตกใจ แรงประหลาดใจ
เพราะไม่มีใครมาลอบทำร้ายกันใกล้ขนาดนี้ และนี่เพิ่งจะเริ่มคดีด้วยซ้ำ
“ของนายแน่ ๆ คนเกลียดนายเยอะแยะ นายชอบตัวอย่างกะว่าเก่งนักหนา”
“เอ้า ไม่คิดว่ามันจะเป็นของคุณบ้างหรือ ? คุณก็อวดดีไปทั่ว
หมั่นไส้เรื่องพ่อคุณก็มีเยอะนะ”
แต่ไม่วายหาเรื่องมาแขวะกันจนได้
หยางหยางก้มมองเครื่องบินกระดาษที่น่าสงสารลำนั้น
อี้เฟิงขมวดคิ้วอยู่ใกล้ ๆ ด้วยสัญชาตญาณ มันรู้ดีกันอยู่แล้ว ทั้งคู่นั่นล่ะ
ว่านี่เป็นการเริ่มต้นที่ไม่ง่ายเหมือนคดีที่เคยทำทั่วไป วันแรกก็ต้อนรับกันขนาดนี้
เตือนกันอย่างโจ่งแจ้ง สาดกระสุนรับชวัญกันแบบไม่เกรงใจฟ้า
เออ ก็ดี ! จะได้รู้กัน
ทั้งสองคนต่างไม่รู้กันและกันว่า พวกเขาต่อให้ดูหวาดหวั่นเล็กน้อยและตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า
แต่เนื้อตัวพวกเขาสั่นไปหมดเพราะความท้าทายใหม่
รอตอนต่อไปนะคะ ดูตอนนี้ยังไม่ค่อยมีอะไร เปิดตัวมากกว่านะคะ ตอนต่อไปคงเข้มข้นแน่ๆ เลย
ตอบลบปล.คิดถึงกิจการหลังบ้านจังคะแม่แมว