วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[FIC] B E T W E E N - #หยางเฟิง : CASE 2


TITLE : B E T W E E N
CHAPTER :   CASE  2
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG
TALK :: ถ้ายังจำกันได้ อันนี้ตอนที่สองแล้วนะ ห่างกับตอนแรก 1 ปีกว่า ๆ 555




***********************************************************************




เริ่มเคสก็มีปัญหาซะแล้ว...

อี้เฟิงคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงกับทีมอีกทีมหนึ่งที่จะต้องมาทำงานร่วมกันในวันนี้ ซึ่งวันนี้ก็คือวันแรกที่เริ่มทำคดีที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชามา

จะเอาเรื่องกันตั้งแต่วันแรกเลยเหรอวะ มันจะทำอะไรให้มันเป็นผู้เป็นคนหน่อยไม่ได้รึไง อี้เฟิงสวดด่าอีกทีมในใจ ผู้กองผู้เถรตรงและเจ้าระเบียบอย่างอี้เฟิงเป็นที่รู้กันดีว่า หากใครเข้าประชุมสาย ไม่เตรียมข้อมูลเมื่อเข้าประชุม หรือแค่เพียงงีบหลับในที่ประชุมก็จะโดนเขม่นอย่างไม่ปิดปัง

“นี่คุณ!” อี้เฟิงทนไม่ไหว โพล่งออกไปหนึ่งคำใส่หัวหน้าชุดอีกทีมหนึ่งที่ไม่มีเค้าว่าจะตั้งใจเขาเลยซักนิด เหมือนกันเลย ลูกน้องอีกสามคนก็เอาหูไปฟังโน่น เอาตาไปมองนั่น ลูกน้องของอี้เฟิงสามคน เสี่ยวเอิน อี้ชิง และ จิ้งฝู หันไปมองหัวหน้าชุดของตนด้วยความเกรงและเกร็ง ผู้กองหลี่เวลาโมใช่ย่อยซะทีไหน ถ้าระดับพีคเข้า ห้องเละไปทุกที

“คร๊าบ ผู้กองหลี่” จากคำตอบและท่าทางของหัวหน้าชุดที่จะต้องมาร่วมงานกับอี้เฟิงอย่างหยางหยางจะไม่แทบไม่ได้ฟังข้อมูลที่อี้เฟิงแจกแจงไปอย่างละเอียด เขาพูดจนแสบคอเป็นชั่วโมง แต่ไอ้หมอนี่กับลูกทีมทำอะไร ? ฟังเพลง ดูคลิปโป๊ ? อ่านการ์ตูน ส่วนไอ้หมอนี่ ก็เอาแต่นั่งพับเครื่องบินกระดาษร่อนในห้อง

“จะมากไปแล้วนะ!” อี้เฟิงยังไม่ขึ้นเสียงเขียวใส่ ประโยคนี้ยังอยู่ในระดับเสียงโทนที่ยังถือว่าให้เกียรติกันอยู่มากหากเทียบกับมารยาทในห้องประชุมของหยางหยางและทีมนั่น มันใช้ไม่ได้เลย!

“อะไรละคุณ จะพูด ก็พูดไปสิ ผมก็นะ ถ้าอยากฟังก็จะฟัง ถ้าไม่ก็จะ....” หยางหยางพูดจบก็เอาเครื่องบินที่พับจากกระดาษรีไซเคิลที่หยิบคว้ามาจากกล่องกระดาษใต้โต๊ะส่งแรงร่อนตรงไปหาคนที่เปิดประชุมอย่างอี้เฟิง และเครื่องบินนั้นก็ร่อนชนปลายจมูกของอี้เฟิงและลงจอดที่สมุดบันทึกตรงหน้าที่วางอยู่บนโต๊ะห้องประชุม อี้เฟิงมองตามมัน บนเครื่องบินกระดาษนั่นเหมือนมีอะไรเขียนไว้


ตอนดุหน้าอย่างกะแมว เมี๊ยว ๆ เดี๋ยวพี่ชายจะให้อาหารนะ

อี้เฟิงทนอ่านมันจนจบพลางเม้มปากข่ มอารมณ์ทำให้ตัวเองเป็นผู้ใหญ่มากที่สุด และสุขุมมากทีก่อนที่จะเงยหน้ามองทุกคนในห้อง รวมทั้งเขาเองด้วย ทั้งหมด 8 ชีวิต ฝั่งหนึ่งทีมของเขาเอง หน้าซีดเผือก เพราะทุกคนรู้ดี หากผู้กองหลี่อี้เฟิงโมโห เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร มีใครจะรอดชีวิตบ้างมั้ยนะ ? อีกฝั่งหนึ่งนะหรือ ? ชุดของผู้กองหยางหยางแต่ละคนกวนได้ใจ ทั้งยิ้มขำ ทำท่าทางไม่สมกับการเข้าประชุมเรื่องเครียด ๆ อย่างคดีหนักที่เราทั้งหมดกำลังร่วมลงเรือลำเดียวกัน

“นั่นไง พวกนาย จริง ๆ  ด้วย อย่างที่ฉันบอก อย่างกะแมว แมวดุ “ ไม่พอ เขียนในกระดาษก็ยังไม่พอ อี้เฟิงเริ่มยั๊วะหนักมากขึ้น ความไม่เป็นผู้ใหญ่อี้เฟิงเริ่มน้อยลง และคิดว่าคงจะเท่ากับไอ้หมาบ้าที่นั่งยิ้มกวนเบื้องล่างเขาที่นั่งอยู่เยื้องจุดที่อี้เฟิงยืน

เชี่ยเอ๊ย
ผู้กองหลี่สบถในใจ ก่อนยิ้มเยือกเย็นที่สุดออกมา


“อย่าใช้วิธีเด็ก ๆ มาทำให้ฉันหมดความอดทน พวกแก อย่าทำมาเป็นรู้จุดอ่อนฉัน ไอ้พวกหมาบ้าเวร เงียบ ๆ ตั้งใจฟัง แล้วหุบปากซะ ไอ้เด็กบ้าตรงนั้นน่ะ! ที่อ่านการ์ตูนอยู่ อย่าคิดว่าผู้กองแกค้ำหัวแล้วจะทำห่าอะไรก็ได้ วางลง ส่วนแกจะให้ฉันเอาเท้าเหยียบโทรศัพท์แก หรือแกจะวางมันลงดี ๆ ที่เหลือ หยุดทำตาเหลือก แล้วฟังงานที่ฉันจะแจงให้ “


ทุกคนไม่ค่อยได้เห็นอี้เฟิงใช้คำหยาบเท่าไหร่ แต่ละคำออกมาด้วยน้ำเสียงและท่าทางเฉือดเฉือนจนหน้าสั่น แม้แต่เด็กในทีมของหยางหยางยังต้องทำอย่างที่อี้เฟิงขู่ไว้ อย่างน้อยอี้เฟิงก็ยศสูงกว่า อายุมากกว่า และสั่งโทษได้อีกทั้งยังมีเส้นสายใหญ่ในกรม พวกเขาขัดไปก็มีแต่จะซวย แต่ก่อนหน้านั้น เด็ก ๆ ทีมหยางหยางก็ผันหน้ามองหัวหน้าทีมก่อน


ตาเหลือกไปแล้วเหมือนกัน ...


หยางหยางอึ้งที่คนสุภาพที่สุดอย่างอี้เฟิงจะใช้คำหยาบ เพราะเอาจริง ๆ จากที่เคยพูดคุย หลี่อี้เฟิงมาจากตระกูลใหญ่ มีชื่อเสียง และเป็นคนสุภาพมากเท่าที่มนุษย์ทุกคนจะสุภาพได้ แม้ว่าจะเข้ามาในวงการตำรวจที่แสนจะดำมืด ก็ยังคงตัวตนเดิม (อย่างน้อยหยางหยางก็ต้องสืบเรืองผู้กองตัวท็อปคู่แข่งเขาบ้าง) วันนี้ได้มาฟังอะไรแปลกหูจากอี้เฟิง


“เอ้า ด่าขนาดนี้จะยอมฟัง “
“ขอบใจ แล้วนายก็ช่วยเลิกยิ้มแบบนั้น และก็เลิกพับเครื่องบินได้แล้วว้อย รำคาญเนี่ย!
อี้เฟิงทิ้งเสียงดังจนแทบตะโกนใส่หยางหยาง ก่อนจะทุ่มเอกสารรายละเอียดคดีทั้งหมดใส่หน้าผู้กองตัวแสบคู่ปรับของตน หลังจากนั้น เขาหันไปคุมอารมณ์ตัวเอง และกลับมาด้วยใบหน้าอันเรียนบสนิทอย่างที่ควรจะมีในห้องประชุม


“เอาล่ะ คดีนี้ก็หนักหน่อย สำหรับทีมแค่นี้ แม้จะได้คนมาสนับสนุนบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะใช้ได้  ไอ้พวกที่เราจะไปจับมันก็ร้ายไม่ใช่เล่น ระวังชีวิตของพวกนายไว้แล้วกัน “

อี้เฟิงเปิดเรื่องมาน่าสนใจ สำหรับหยางหยาง ด่ากันขนาดทำให้เขาตาเหลือกตกใจได้ ก็ฟังหน่อยแล้วกัน ถึงแม้ว่า ไอ้แฟ้มเอกสารบ้าบอทั้งหมดนี้น่ะ เขาจะอ่านมาหมดแล้วภายในคืนเดียวก็ตาม



B  E T W E E N


หลังจากที่คุยงานกันอย่างคร่าว ๆ ในวันแรก หนักเอาการ หยางหยางพาทีมออกมาก่อนอี้เฟิงจะเขม่นใส่อีกรอบ

“ดุใช่เล่นเลย ผู้กองหยาง ผู้กองหลี่น่ะ”
“เออ ก็เคยบอกไปแล้ว”
หลี่อี้เฟิงกับเขามันต่างกันสุดขั้ว ตั้งแต่ตัวตนยันทัศนคติ และการทำงาน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าร่วมงานกันครั้งนี้จะอยู่ไปตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า หรือจะพลั้งพลาดกันไปทั้งคู่ เพราะคดีที่ทำนี่

ไม่ใช่เล่นเลย

หยางหยางก้มอ่านแฟ้มของตนเอง รายละเอียดด้านในก็เหมือนกับที่อี้เฟิงโยนใส่หน้าเขามา แต่เขาก็มีอีกแฟ้มหนึ่งของตัวเอง และโน้ตทุกอย่างที่น่าสนใจ ไฮไลท์ส่วนที่สงสัย และไปคิดต่อ อนุมานบางอย่างที่จะเป็นไปได้


คดีของเถื่อน ขโมยของจากสุสาน


ถึงแม้ว่าเขากับอี้เฟิงจะเคยทำคดีหนัก ๆ คดีดังมาหลายอย่าง แต่นี่ระดับแดง 5 ดาว ความยากมันพีคถึงระดับนั้น เพราะถ้าหากจะว่ากันจริง ๆ เมื่อสาวไปแล้วก็ไปเจอตอใหญ่ที่ยากจะจัดการเหมือนกัน แต่ในส่วนแรกเขาก็ต้องสืบเรื่องราวขั้นต้นเสียก่อน จริงๆ ก็เคยมีคนทำคดีนี้ แต่ก็โดนตัดตอนกันไปหมด จนในที่สุดคนที่มาทำคดีชุดใหม่ก็ต้องสรุปคดีอย่างลวก ๆ ไป และรอให้หมดอายุความ แต่เพราะหัวหน้าของทั้งเขาและอี้เฟิงยังติดใจ และสงสัยอยู่มาก หัวหน้าของเขานั้นเป็นพวกตรงฉิน พูดจาเฉือดเฉือน และยุติธรรมที่สุด ในเมื่อได้มีอำนาจมาอยู่ในส่วนนี้แล้ว ก็ขอเอาซะหน่อยเถอะ

แผนกสืบ 0 ที่ตอนนี้มีแค่ทีมเขา และอี้เฟิง และทีมของหัวหน้าที่มีลูกทีมแค่เพียงเล็กน้อย


ชุดพิเศษนี้ ไม่ได้เพิ่งจะมี แต่มีมานาน แต่ผลงานไม่เป็นที่น่าประทับใจ คนก็เลยโยกย้ายไปโน่นนี่บ้าง เขากับอี้เฟิง มาจากคนละแผนกกัน แต่บางงานก็ได้เจอกันบ้าง คดีไม่ค่อยใกล้กันเท่าไหร่หรอก ถ้าอี้เฟิงทำงานสืบคดีอยู่ใกล้ ๆ ของหยางหยางก็จะห่างออกไป คนละพื้นที่กัน คือทางผู้บังคับบัญหาคนก่อนก็เห็นว่าไม่ถูกกันจึงจับแยก

แต่ในเมื่อตอนนี้ก็ดันมาอยู่แผนกพิเศษใหม่แล้ว ก็ยังไงล่ะ นอกจากเสียแต่ว่าต้องทำงานด้วยกัน


แผนกนี้ก็ได้มีผู้บังคับบัญชาให้เหตุผล

ให้พวกนายที่เป็นหัวกะทิของเรา ทำงานยากกันหน่อย


ท่านเล็งเห็นว่าเราจะได้เป็นตัวอย่างแก่ตำรวจทั่วทั้งกรมที่จะได้เห็นเราทำคดียาก ๆ และเมื่อสำเร็จก็ถือว่าเป็นแรงผลักดันตำรวจเหล่านั้น มาจุดนี้ในแผนกสืบสวน 0 คดีอะไรที่อยู่ในความสนใจ หรือเหนือความสามารถจะถูกมอบมาที่นี่


แผนก 0 ก็จะทำต่อไป ไม่แน่ใจว่า แผนก 0 หรือแผนกขยะกันแน่  แต่ที่แน่ ๆ มีแต่คดียากที่ปิดยังไงก็ไม่ลง และอายุความแทบจะสุดเส้นแดง หัวหน้าของเขาปวดกบาล เมื่อเข้าในที่ทำการของแผนก 0 วันแรก ลมแทบจับ นายเหนือหัวเราขึ้นไปกว่านั้น ตบบ่าให้กำลังใจ ก่อนยิ้มให้ เดินจากไปด้วยแววตาที่ดูมีความหวัง

“ผู้ใหญ่เหนือเรา เค้าจะให้เราทำอะไรกันแน่ “ หัวหน้าของหยางหยางและอี้เฟิงในตอนนี้พูดเช่นนั้น ก่อนจะเดินเข้าไปจมกองสำนวนมหาศาลในห้องและไม่ออกมาอีกเลย

จนวันนี้ก็โยนคดีมาให้ทั้งทีมของเขาและอี้เฟิง เปิดเคสแรกก็ปวดกบาลแล้ว เริ่มตั้งแต่ความเข้ากันไมได้เลยของทีมเขาและอี้เฟิง

ก็จะให้ทำยังไง ในเมื่อไลน์การทำงาน ต่างกันขนาดนี้ แต่ก็มีแค่ต้องปรับหากันเท่านั้นล่ะ  ยกเว้นว่าจะลาออกไปกันเสียก่อน


“เฮ้อ ให้ตายเหอะ”
หยางหยางยืดตัวผ่อนคลายตัวเองหน่อย ตอนนี้เขาอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวที่พอมีที่นั่งให้บ้าง นอกจากสำนวนหลาย ๆอย่างที่กองเป็นตั้ง ๆ ห้องนี้เป็นส่วนตัวสำหรับผู้กองอย่างเขาที่เป็นหนึ่งในหัวหน้าชุดทำงาน ข้าง ๆ เป็นห้องอี้เฟิง ที่เห็นผ่านกระจกว่ากำลังอ่านแฟ้มคดีแรกอยู่คร่ำเคร่ง ส่วนลูกทีมของเขา นั่งกันอยู่ตรงโต๊ะรวมใหญ่ในโถงที่ทำการ

แหม่ ที่นี่ก็บอกเป็นแผนก 0 แผนกเทพที่เทพอยู่ อย่างไรกันล่ะ เหมือนที่เก็บขยะชะมัด


ทั้งรก ฝุ่นเยอะ ก็นะ เป็นที่ที่รวมของยาก ของแรร์ ไม่มีใครอยากแตะ


ได้ข่าวว่ามีอาถรรพ์แผนกนี้อยู่ด้วย


จะต้องมีคนตายอย่างค่ำ3 จาก 5 ถ้ามีมากกว่า 5 ให้นับสัดส่วน


แล้วจะเหลือกันกี่คนละนี่ ถ้าหากเป็นจริงดังที่เขาลือ ๆ กัน
อันที่จริงก็ไม่ได้แค่ลือ มันก็เกิดขึ้นจริงตามที่วากันมานั่นล่ะ คนเลยย้ายหนีกันหมด เพราะกลัวตัดตอนตาย และพวกเขาคือเซตต่อไป นี่เหมือนเอาพวกเขามาสังเวยอะไรซักอย่าง


ก็หวังแค่ว่าจะไม่มีใครตาย สงสัยจะต้องไปหาอะไรมาคุ้มหัวกันหน่อย ที่ไหนมีของขลังกันบ้างมั้ย ที่เมืองไทยอาจจะมี ไว้มีเวลาว่างจะบินไปดู หาแจกทุกคนในแผนก แน่นอน สำหรับทีมผู้กองหลี่คนนั้นด้วยเหมือนกัน

ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าแล้วก็หมั่นไส้ก็เถอะ

“จะเริ่มยังไงดีวะ “ อ่านแฟ้มทั้งหมดไป ๆ มา ๆ ก็อยากจะเริ่มทำตั้งแต่สเตปแรกที่ไปเดินสืบหาตามร้าน หรือปลอมตัวเข้าไป แต่ท่าทางจะงานยาก เพราะเคยมีคนไปทำแล้วก็เป็นศพกลับมา เพราะพวกนั้นดันรู้ว่าเป็นสายตำรวจ หรือเป็นตำรวจเข้าไปหาเรื่องตาย


คงต้องหาวิธีใหม่ที่แยบยล แต่วิธีดั้งเดิมแบบนี้ยังคงต้องเก็บไว้อยู่ เป็นทางเลือกสุดท้าย ก็ปลอมให้มันเนียน ๆ แล้วกัน หากจะใช้
 “เสี่ยวอิง ขอกาแฟฉันแก้วนึง” หยางหยางตะโกนออกไปนอกห้องหลังเมื่อเปิดประตูออกไปที่โถงที่ทำการของแผนก เสี่ยวอิงลูกทีมของหยางหยาง สาวน้อยหนึ่งในสองคนจากในทีมสองทีมบวกกัน ตอบรับและเดินไปชงกาแฟตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่ง

คล้อยหลังจากนั้นหยางหยางเดินมานั่งที่เดิม คิดหาวิธีด้วยใจที่นิ่งสงบ แม้จะร้อนรุ่มด้วยไฟการทำงาน เขาคิดว่ามันต้องมีวิธีดี ๆ และผู้กองหลี่ก็เหมือนกัน ก็ต้องแข่งกันล่ะในการประชุมคัรั้งหน้า ซึ่งหัวหน้าของพวกเราจะเข้าด้วย วิธีของใครจะเข้าวิน เมื่อครู่ตอนเปิดประตูออกไป เขายังเห็นอี้เฟิงหน้านิ่วเป็นแมวอึไม่ออกอยู่ ก็คงยังจนใจแบบเขา

“ขอบคุณ” เสี่ยวอิงเอากาแฟมาให้ และยิ้มให้กำลังใจหัวหน้าของตน เธอแถมขนมที่เธอซื้อมาให้ด้วยบอกว่าเผื่อสมองจะได้แล่น


หยางหยางพยักหน้าและเอ่ยขอบคุณซ้ำ และเธอก็ผลักออกจากห้องไป หยางหยางซดกาแฟรวดเดียวโดยไม่แตะขนมเลยซักนิด ตอนนี้ยังไม่มีอารมณืกินของหวานเท่าไหร่

มือเรียวของหยางหยางคว้ากระดาษรีไซเคิลที่อยู่ในกล่องแถวเครื่องปริ้นท์มาแผ่นหนึ่ง และลงมือพับตามใจ ก็ออกมาเป็นเครื่องบินกระดาษอีกนั่นล่ะ ก่อนร่อนมันออกจากห้องลอดช่องหน้าต่างที่เขาเปิดทิ้งไว้รับลม ม่านสีฟ้าปลิวไสวลู่ไปกับแรวลมที่พัดมาเอื่อย ๆ ผู้กองหมาป่ามองตามเครื่องบินกระดาษลำนั้นออกไป



ปัง!




“เสียงอะไร!” คนแรกที่โผล่พรวดเข้ามในห้องทำงานของหยางหยางเหนือความคาดหมายนิดหน่อบ


“เอ่อ ไม่มีอะไรผู้กองหลี่”
“เสียงปืนน่ะนะ ไม่มีอะไร!
“ผมน่ะไม่ แต่เครื่องบินกระดาษของผมลำนั้นน่ะที่เป็น”

หยางหยางชี้โบ้ยไปทางหน้าต่าง แต่ไม่ให้อี้เฟิงก้มโผล่หน้าออกไปนอกหน้าต่าง โดยกันตัวอี้เฟิงไม่ให้เข้าใกล้ริมหน้าต่าง แต่เขายืนตรงนั้นเสียเอง แต่อี้เฟิงก็เห็นว่าเครื่องบินกระดาษที่ลู่ลมอยู่ดี ๆ นั้นก็ตกลงพื้นแบบกะทันหันก็เพราะกระสุนนัดหนึ่งทะลุบินเครื่องบิน เล็งยิงอย่างแม่นยำ มันเลยมีจุดจบไม่สวยเท่าไหร่นัก


“ใคร”
“ผมจะรู้มั้ย”
“เราจะต้องลงไปดูวิถีกระสุน”
“รู้ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“เดี๋ยวมันก็หายไปหรอก”
“มันยังอยู่แถวนี้”
“ก็แล้วไง ถ้าปล่อยนานมันก็จะหนีไปนะว้อย”
“ถ้าออกไป และมันยังอยู่ คุณอาจจะเป็นรายต่อไปที่จะโดนยิงแบบเครื่องบินกระดาษลำนั้น”
“ผู้กองหยาง ถ้านายกลัวก็รอตรงนี้”
“ผู้กองหลี่ คุณใจเย็น ๆ หน่อยได้มั้ย ผมที่เป็นคนบ้าบิ่นตอนนี้ ใจเย็นกว่าคุณเสียอีก”

เท่านั้นอี้เฟิงจึงรู้สึกตัว  มือเขาสั่นเล็กน้อย แรงโกรธ แรงตกใจ แรงประหลาดใจ
เพราะไม่มีใครมาลอบทำร้ายกันใกล้ขนาดนี้ และนี่เพิ่งจะเริ่มคดีด้วยซ้ำ


“ของนายแน่ ๆ คนเกลียดนายเยอะแยะ นายชอบตัวอย่างกะว่าเก่งนักหนา”
“เอ้า ไม่คิดว่ามันจะเป็นของคุณบ้างหรือ ?  คุณก็อวดดีไปทั่ว หมั่นไส้เรื่องพ่อคุณก็มีเยอะนะ”

แต่ไม่วายหาเรื่องมาแขวะกันจนได้


หยางหยางก้มมองเครื่องบินกระดาษที่น่าสงสารลำนั้น อี้เฟิงขมวดคิ้วอยู่ใกล้ ๆ ด้วยสัญชาตญาณ มันรู้ดีกันอยู่แล้ว ทั้งคู่นั่นล่ะ ว่านี่เป็นการเริ่มต้นที่ไม่ง่ายเหมือนคดีที่เคยทำทั่วไป วันแรกก็ต้อนรับกันขนาดนี้ เตือนกันอย่างโจ่งแจ้ง สาดกระสุนรับชวัญกันแบบไม่เกรงใจฟ้า


เออ ก็ดี ! จะได้รู้กัน


ทั้งสองคนต่างไม่รู้กันและกันว่า พวกเขาต่อให้ดูหวาดหวั่นเล็กน้อยและตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า แต่เนื้อตัวพวกเขาสั่นไปหมดเพราะความท้าทายใหม่






------------------------------------------------------------------------------------------tbc case 3

ps. เป็นตำรวจแล้ว แต่งง่ายขึ้นหน่อยค่ะ 555555555555


1 ความคิดเห็น:

  1. รอตอนต่อไปนะคะ ดูตอนนี้ยังไม่ค่อยมีอะไร เปิดตัวมากกว่านะคะ ตอนต่อไปคงเข้มข้นแน่ๆ เลย
    ปล.คิดถึงกิจการหลังบ้านจังคะแม่แมว

    ตอบลบ