TITLE :: SWEET PAPER
PARING :: SEHUN x LUHAN
RATE :: PG
TELL :: เรื่องที่สองของคู่นี้จากแม่แมวค่า เอนจอยจ้า
ถ้าหากมีคอมเม้นท์อะไรฝากไว้ในนี้หรือในแทกฟิค #สวีทเปเปอร์
“ตอนนี้ผมมีปัญหาอยู่ก็คือ
ผมไม่รู้ว่าผมจะทำให้คนที่ผมชอบเขาตกหลุมรักผมได้อย่างไร”
บทสัมภาษณ์ประโยคสุดท้ายหลังจากคุณนักข่าวจากชมรมของมหาวิทยาลัยได้ส่งคำถามสุดท้ายให้โอเซฮุน
เดือนคณะสุดฮอต พ่วงเดือนมหาวิทยาลัย
หล่อเหลามากถึงขนาดเดือนรุ่นใหม่ก็ยังไม่เทียบ เก่งรอบด้าน
เรียกได้ว่าเข้าใกล้คำว่า เพอร์เฟคอย่างที่ใครก็ไม่สามารถค้านได้
“ขอบคุณมากครับสำหรับบทสัมภาษณ์..เอ่อ หากลงในปักษ์ถัดไปแล้ว
ผมกับเพื่อนจะเอาหนังสือมาให้นะครับ”
“ได้ ผมจะรอนะ”
ลู่หาน
หรือคุณนักข่าวจำเป็นในวันนี้มาแทนเวรของเพื่อนที่จะต้องไปทำงานให้อาจารย์
ลู่หานที่ว่างอยู่จากการเขียนต้นฉบับ เขารับบทบาททั้งบรรณาธิการหนังสือพิมพ์มหาวิทยาลัยและคนเขียนคอลัมน์ด้วย
แต่วันนี้เขาจำต้องมารับบทคุณนักข่าวมาสัมภาษณ์เสียเองแทนที่จะส่งงานให้คนอื่นไป
ก็คนอื่นคนนั้นดันไม่ว่าง
แต่คิวสัมภาษณ์วันนี้โหดนักหนา เพราะเป็นโอเซฮุน
เดือนมหาวิทยาลัย สรรพคุณก็อย่างที่บรรยายไปข้างต้นแล้ว
ก่อนเข้ามาในห้องขมรมบาสเกตบอลที่เซฮุนนั่งรอสัมภาษณ์อยู่ก็ทำใจแล้วทำใจอีก
ไม่กล้าสู้หน้าพ่อคุณเขาเลย
ลู่หานบ่นในใจก่อนผลักประตูเข้ามาในห้องก่อนที่คนที่นั่งรอให้สัมภาษณ์อยู่จะรอนานกว่านี้
พอได้สู้หน้าหล่อ ๆ นั่น ลู่หานก็ยิ่งไปไม่เป็น แรกเริ่มเลย มือน้อย ๆ
ของลู่หานดันทำเครื่องเล่นเพลงราคาแพงของชมรมร่วมต่อหน้าคุณชายรูปหล่อตรงหน้า
เป็นสัญญาณทักทายแทนที่จะเป็นเสียงหวานของคุณนักข่าวเสียอย่างนั้น
อากัปกริยาทั้งหมดทั้งปวง ความเปิ่นของลู่หานที่เกิดขึ้นในช่วงเวลานี้เป็นเพราะลู่หานประหม่ามากเกินไป
ความประหม่านี้เกิดจากอะไรล่ะ ? ใช่แล้ว
ก็เพราะลู่หานชอบเขาน่ะสิ โอเซฮุนคนนี้น่ะ!
“เอ่อ วันนี้ ผมขอตัวก่อน ไม่รบกวนเซฮุนต่อแล้วกัน
ขอบคุณที่เสียเวลามาให้เรานะ”
“ไม่เป็นไรหรอก แค่นี้เอง จะนานกว่านี้ยังได้เลย”
พูดจบคุณชายรูปหล่อก็ส่งยิ้มสะท้านหัวใจคนที่ชอบแถมด้วยแววตาที่เหมือนจะบอกอะไรบางอย่าง
ลู่หานไม่กล้าสบตาเกิน 3 วินาที
ตาหวานกวางน้อยหลบตาเบี่ยงไปทิศอื่นแสร้งดูของในมือว่าครบหรือยัง
ก่อนโค้งหัวให้และวิ่งออกไปจากห้องชมรมบาส ฯ ซะก่อนจะหัวใจวายตาย
“โอย บ้าเอ๊ย เซฮุนนนนนนนนนนนน นายทำฉันเป็นบ้ารู้รึเปล่าวะ”
ลู่หานตะโกนในใจใส่ตัวเอง
แต่มีหลุดทำท่าทางสุดจะทนออกมาหลังวิ่งหนีเซฮุนจากห้องชมรมมาไกล
นักข่าวจำเป็นตัวเล็กยังคงก่นด่าว่าเซฮุนในใจเพราะทำให้เขาเป็นบ้าแบบนี้
ด่าไปก็บอกชอบเขาไปคำต่อคำ ปากบ่นว่าไม่ไหวแล้ว จะชอบมากกว่านี้ไม่ได้แล้วนะ
“ให้ตายเหอะ เวลาเหมาะเหลือเกิน ทำไมฉันต้องมาสัมภาษณ์เซฮุนวะ
ดีที่เมื่อกี้เก็บอาการทัน ไม่งั้นโป๊ะแตกแน่ ๆ “
ความจะบ้าตายของลู่หานยังไม่หมด
เมื่อนึกไปถึงแววตาไม่น่าไว้ใจของเซฮุนเมื่อครู่ และรอยยิ้มสุดจะหล่อเกินทนของเขา
ลู่หานเป็นคนประเภทเขินง่ายหายลำบากอยู่แล้ว ยิ่งมาอยู่ต่อหน้าคนที่ชอบเอามาก ๆ
แบบนี้ คงมีบ้างที่หลุดอะไรออกไปให้อีกฝ่ายแปลกใจเล่น ๆ ทีแรก ๆ ก็แค่มองเฉย ๆ
ก็คิดว่าหล่อดี เผลอตัวเข้าหน่อย ไม่เท่าไหร่ก็เพ้อเจ้อถึงเขา
ถึงขั้นเขียนไดอารี่น้อยตามประสาคนขีด ๆ เขียน ๆ ถึงเขาคนนี้เสียแล้ว
ลู่หานอ่านลายมือหวัด ๆ ของตัวเองในไดอารี่นั่นก็รู้สึกว่าชอบเขาเกินไปแล้ว
“เฮ้อ ลู่หานเอ๊ย “
ถึงจะได้ใกล้เขามากถึงขนาดไปนั่งสัมภาษณ์เขาเป็นชั่วโมง ๆ
แต่คำถามสุดท้ายที่ถามเซฮุนไปว่าช่วงนี้มีปัญหา และปัญหานั้นของเซฮุนก็ทำให้คนที่รอคำตอบอย่างลู่หานใจกระตุกวาบตกไปตาตุ่ม
เพราะเขาเอ่ยถึงคนที่เขาชอบต่อหน้าโดยไม่ปิดบัง จริง ๆ มันก็ไม่ใช่เรื่องที่ปิดบัง
และเท่าที่ติดตาม(และสโตรคเกอร์)นิสัยของเซฮุนก็ไม่ใช่พวกที่ชอบสร้างเรตติ้ง
เรียกความฮ็อตใส่ตัวเอง เขาจึงพูดตามตรงตามใจที่อยากบอก แต่คำตอบเฉือนใจคนถามเป็นบ้า
ใบหน้าหวานมู่ทู่และแถมถอนหายใจแรง ๆ อีกครั้ง ก่อนกลับห้องชมรม
ในระหว่างเดินแม้ในใจจะสับสนปั่นป่วน ทั้งดีใจที่ได้อยู่ใกล้ ๆคนที่ชอบ
แต่ก็ใจหายที่รู้ว่าเขามีคนที่ชอบมากขนาดนั้นแล้ว มือก็คว้าเครื่องเล่นเพลงของชมรมมากดฟังสัมภาษณ์นั้นอีกรอบ
เสียงเซฮุนนุ่มทุ้มจนเคลิบเคลิ้มไปแต่ประโยคที่ตอบเฉือนใจคนที่ชอบเซฮุนแบบลู่หานจริง
ๆ
“อยากรู้จัง ว่าเซฮุนชอบใคร”
เอ่ยกับตัวเองเสียงเบาจบ ลู่หานก็เหลือบไปเห็นที่นั่งข้าง ๆ
สวนสวยในมหาวิทยาลัย เป็นสวนที่เดินผ่านเป็นประจำหากเขาจะกลับบ้าน และเป็นที่ที่อยู่ระหว่างทางไปชมรมบาสฯและชมรมนักข่าวด้วย
เขาก็นึกขอบคุณที่ตึกชมรมของตัวเองอยู่ท้ายมหาวิทยาลัย
แม้จะเดินเข้ามาไกลจนเหนื่อยแต่เพราะโรงพลศึกษาที่เป็นที่ตั้งใจชมรมบาสฯที่เซฮุนประจำอยู่มันอยุ่ที่นี่
เขาจึงไม่อิดออดอีกเลยเมื่อคิดว่า เขาอยู่ใกล้เซฮุนไม่เท่าไหร่เอง
แต่ใกล้แค่ไหนจะใกล้ใจเขา เซฮุนมีคนที่ชอบแล้ว
ยิ่งคิดลู่หานก็รู้สึกท้ออย่างบอกไม่ถูก
“อู้งานหน่อยแล้วกัน มีบทความที่ต้องตรวจอีกไม่เท่าไหร่
นั่งกินลมตรงนี้ซักหน่อยคงไม่เป็นไร”
บอกกับตัวเองเสร็จสรรพ ตัวเล็ก ๆ ก็ทรุดนั่งตรงที่นั่งว่าง ๆ ตรงนั้น แต่นั่งไปนานเข้าหน่อยแล้วพบว่ามันร้อนไม่ใช่เล่น
แดดช่วงบ่ายยังส่องหัวเปรี้ยง ลู่หานจึงเบ้หน้าใส่ที่นั่งตรงนั้นครู่หนึ่งและเปลี่ยนไปนั่งใต้ต้นไม้แทน
ตรงสวนนี้มีต้นไม้ใหญ่ไม่กี่ต้น แต่ครอบคลุมให้ร่มไม้แก่สวนทั้งสวนได้ทีเดียว
เออ นั่งพักซักแป๊บหนึ่ง
ให้ใจหายจิ๊ดก่อน แล้วค่อยไปเขียนคอลัมภ์ทำร้ายหัวใจก็แล้วกัน
ลู่หานบอกตัวเองในใจ ปากบ่นงุบงิบไม่อยากทำเลย
เพราะจะต้องมานั่งถอดความจากเทปของคุณชายในดวงใจของตัวเองที่กำลังบอกรักคนอื่น
มันเจ็บใจชะมัด
..........
.....
...
...
“คุณจะหลับนานแค่ไหนกันเนี่ย เดี๋ยวก็ฝนตกเปียกกันหมดพอดี
ผมกลัวคุณเป็นหวัด ตัวเล็ก ๆ แค่นี้เอง”
เสียงใครวะ ... ? ลู่หานปรือตาขึ้น
เขาหลับเต็มอิ่มและตื่นแล้วในตอนนี้ คิดแว้บแรกนึกออกว่า
แค่จะมานั่งฆ่าเวลาอู้งานก่อนไปทำคอลัมน์ใหม่ของโอเซฮุน แต่สุดท้ายดันงีบหลับไปจนได้
แต่ก็มีเสียงหนึ่งบ่นหึ่ง ๆ อยู่ข้างหู เสียงคุ้น ๆ เสียด้วย
เสียงเหมือนในเครื่องเล่นเพลงที่อัดมาก่อนหน้า
“เซฮุน! โอ๊ย – อะไรว้า ตีทำไม”
“มานอนตรงนี้ อากาศก็เย็น คุณเองก็ด้วย ตัวเล็กแบบนี้
เดี๋ยวก็โดนใครอุ้มไปหรอก ผมไม่ยอมจริง ๆ ถ้าเป็นแบบนั้น”
ไม่ยอมอะไรของเขาวะ..? แต่เดี๋ยวดิ่? ลู่หานอุทานสับสนอยู่ในใจ
พร้อมแสดงสีหน้างงสุดฤทธิ์ประกอบ
ฉายให้ชายหนุ่มข้างตัวเห็นถึงความสงสัยจากลู่หานในตอนนี้
“นายมาอยู่ตรงนี้ได้ยังไงน่ะ!? “
พอตื่นเต็มตาจริง ๆ เขาตกใจ ลู่หานเพิ่งพบว่าตัวเองเอนหัวนอนหลับอยู่บนตักของโอเซฮุนอยู่ใต้ต้นไม้ที่เขามานั่ง
จำได้อยู่ว่านั่ง และ..เอ่อ หลับไปก็จริง
แต่กลายเป็นเขาเอาตักเซฮุนหนุนแทนหมอนไปได้ยังไง
“ตอนคุณหลับอยู่น่ารักดี บ่นอะไรอุบอิบให้ผมขำด้วย”
ตาย! “ ผมพูดอะไร? “ ลู่หานถามเสียงตื่น
พร้อมดันตัวเองให้ลุกมานั่งขัดสมาธิตามปกติ
หลังจากที่เพิ่งรู้ตัวว่าตัวเองนอนหนุนตักชายหนุ่มอีกคนอยู่นาน
“ก็ไม่แน่ใจ แต่ในประโยคเนื้อความนั้นมีชื่อผมด้วยล่ะนะ”
ตาย! ตายอีก! “เอ่อ... “
เซฮุนยิมมีเล่ห์มีเหลี่ยมจนลู่หานนึกหมั่นไส้ ถึงจะชอบแต่มาล้อกันแบบนี้ คงรู้แล้ว
ถึงไม่รู้ก็ต้องระแคะระคายบ้างล่ะว่า ลู่หานคิดอะไรบางอย่างกับอีกฝ่าย
คนหล่อที่นั่งตรงหน้า
ขยับมาอีกสเตปชิดใกล้กับคุณนักข่าวจำเป็นที่นั่งค้อนขวับบวกกับใจที่เต้นอย่างระทึก
“คุณบ่นว่าผมมีคนที่ชอบแล้ว คุณเจ็บใจชะมัดเลย คุณละเมอว่างั้น”
โอเซฮุนกระซิบเสียงนิ่มพร้อมกันนั้นแก้มนิ่มๆของลู่หานก็แดงเป็นลูกเบอร์รี่ต่อหน้าต่อตาเซฮุน
โชว์ให้เห็นกันไปเลยว่าอายเลเวลไหน
ตาย!ชิบ! โอย! “ เอ่อ...ลืมไปเหอะ ..คุณลืมไปเหอะ คือยังไง คือผมแบบว่า ...”
เสียงหวานตอบเสียงตะกุกตะกัก ไม่เป็นคำ ไม่รู้จะอธิบายยังไง
ลู่หานคิดเพียงแค่ว่ารู้แล้วจะมาย้ำให้ได้อะไร เขายิ่งอาย
จนตอนนี้แทรกแผ่นดินหนีให้รู้แล้วรู้รอด
หรือไม่ก็กระโดดลงสระในสวนนี้ไปดำผุดดำว่ายเล่นกับปลาในบ่อหนีหน้าคนรูปหล่อคนนี้เลยได้มั้ย
“อย่าทำหน้าเหมือนจะหนีผมแบบนั้นซี่ คุณลู่หาน ให้ผมได้บอกอะไรต่อบ้าง
คือผมว่าผมยังให้สัมภาษณ์คำถามนั้นไม่จบ คำถามสุดท้ายนั้นน่ะ..”
เสียงนุ่มทุ้มละเสียงไว้ตอนท้าย
ละให้คุณนักข่าวที่อยากรู้อยากเห็นสงสัย แต่ลู่หานไม่ขยับใกล้มากกว่านี้แล้ว
อันตรายเชียวล่ะ จากที่เขามองตาเซฮุนตอนนี้ เข้าใกล้กว่าคงจมเขี้ยวหมาป่า
เซฮุนมองใบหน้าหวานที่สงสัย คงปริ่มเต็มทน อยากรู้มากว่า
ทำไมเขาถึงบอกว่า คำถามนั้นเขายังตอบไม่จบ
“ว่าไง คุณเซฮุน ผมจะได้กดอัดใหม่ หากคุณบอกว่ามันยังไม่จบ “ มือของคุณนักข่าวจำเป็นง่วนกับการตั้งอัดเสียงใหม่
เครื่องมือเล็กๆ อยู่ในมือน้อยๆ แล้ว ลู่หานเบ้ปากหมั่นไส้กับรอยยิ้มล้อกันไม่เลิกของคุณรูปหล่อตรงหน้า
ไม่รู้ว่าทำไมตอนนี้ลู่หานถึงทำตามใจตัวไปเรื่อย ทั้งค้อนเขา
ทั้งเม้มปากเรียวแสดงท่าทีหมั่นไส้แต่แก้มอมยิ้มเขินเขาที่ยิ้มให้เสียสั่นสะท้านไปทั้งใจแบบนั้น
อีกฝ่ายไม่ใช่ย่อยเลย แววตาน่ากลัวจริง ๆ
เซฮุนที่นั่งได้ระยะดี เขามองหน้าคนสัมภาษณ์ตาหวาน
จ้องเข้าไปในดวงตากวางคู่นั้น มีบางเรื่องที่คุณเขายังฟังไม่จบ
“ครับ กรุณาฟังให้จบก่อนคุณจะเบะปากหมั่นไส้ผมอีกครั้งนะ”
พูดจบคุณนักข่าวจำเป็นก็เบะปากใส่ทันทีอย่างเอาแต่ใจ
เซฮุนไม่ว่าอะไร เขาก็ทำตามใจเหมือนกัน ก็ที่เดินออกมาหาเขาหน้าตาตื่นวิ่งออกมาเสียหมดหล่อจากที่เก๊กไว้ตั้งนานแบบนี้ก็เพื่อสิ่งที่อยากจะบอก
““ตอนนี้ผมมีปัญหาอยู่ก็คือ
ผมไม่รู้ว่าผมจะทำให้คนที่ผมชอบเขาตกหลุมรักผมได้อย่างไร ประโยคนี้คือที่ผมทิ้งท้ายไว้ใช่มั้ยครับ?”
คุณนักข่าวตาหวานพยักหน้า เบะปากเม้มปากไปมา อย่างน่ารัก
เซฮุนมองคนตรงหน้าอย่างหมั่นเขี้ยวแต่อดใจไม่ทำอะไรไปมากกว่ายิ้มให้
ลู่หานมองเห็นว่าอีกคนยิ้มให้อีกแล้ว เอ่..รุ้สึกว่าบรรยากาศมันเปลี่ยนไปไหมนะ
“ ‘ตอนนี้ผมมีปัญหาอยู่ก็คือ
ผมไม่รู้ว่าผมจะทำให้คนที่ผมชอบเขาตกหลุมรักผมได้อย่างไร’ ผมว่าตอนนี้ปัญหานี้ของผมคงหมดไปแล้วล่ะครับ
ตั้งแต่ผมรู้ว่าคุณก็ชอบผมเหมือนกัน คุณลู่หาน”
เซฮุนทวนประโยคเดิมและเพิ่มเติมคำใหม่เน้นตรง ‘คุณลู่หาน’ เสียเต็มเสียงและรอดูปฏิกิริยาจากอีกฝั่ง
และเซฮุนก็พบว่าอีกฝั่ง โคตรน่ารัก!
“หา? !”
ตาหวานของคุณนักข่าวเบิกกว้างขึ้น ก่อนที่คุณรูปหล่อตรงหน้าจะทนไม่ไหวไปมากกว่า
มือใหญ่ยกมือนั้นมาขยี้แก้มคุณนักข่าวแกมหมั่นไส้ก่อนเสหน้าไปทางอื่นแก้เขิน
โอเซฮุนก็จะตายแล้วเหมือนกันครับ!
ก็ที่วิ่งแทบตาย เสียหล่อเก๊กที่เก๊กไว้หมด ก็เพราะลู่หาน
ที่เก๊กก่อนหน้าเพราะไม่แน่ใจว่าเขาควรแสดงท่าทีแบบไหนกับคนที่ชอบ ใครจะไปรู้ว่า
คิวที่มาสัมภาษณ์เขาจะเป็นคุณลู่หาน คนน่ารักแห่งชมรมนักข่าวและหนังสือพิมพ์
เซฮุนแทบวิ่งไปเสริมหล่อแต่งตัวใหม่
ไม่ใช่มานั่งให้สัมภาษณ์ทั้งชุดนักกีฬาเหงื่อซ่กแบบนี้ แต่มันช่วยไมได้
คุณเขามายืนน่ารักตรงหน้า เก๊กหล่อเท่านั้นทีจะทำได้ในเวลานั้น โอเซฮุนตัวแข็งเก๊กสุดชีวิต
เพื่อให้สัมภาษณ์กับคุณตาหวานที่น่ารักของเขา
คำถามของคุณลู่หานไม่มีอะไรมากไปกว่าเรื่องเรียนและกิจกรรมที่เขาทำ
และคำถามสุดท้ายที่ตอบไป นั่นก็ตั้งใจจีบคุณลู่หานล้วน ๆ
แต่เหมือนเจ้าตัวจะไม่รู้อะไรเลย แววตาที่เขาส่งไป แถมเหมือนคุณเขาจะไม่ค่อยชอบใจ
รีบออกไปแบบนั้น
แต่พอซักพัก
..โอเซฮุนคนนี้คิดว่าไม่ควรให้คุณลู่หานเข้าใจผิดไปมากกว่านี้ มันไม่ชัดเจน และถ้าหากไม่ทำอะไรตอนนี้
อาจไม่มีโอกาสที่เขาจะมาพบคุณลู่หานใกล้ ๆ อีกก็ได้
เพราะการเรียนกับกิจกรรมเราไม่เคยวนมาใกล้กันเลยซักนิด
เขาวิ่งสุดชีวิตเท่าที่ทำได้
แต่คิดว่าไหนเลยคุณนักข่าวที่รักจะไปไกล แตมานอนเอนไป ๆมา ๆ ใต้ต้นไม้
พร้อมกับได้ยินเสียงละเมอหวาน ๆ บ่นอุบอิบ และที่ทำให้ใจเต้นกว่านั้น
ก็คือเรื่องราวที่คุณเขาละเมอเป็นเรื่องเกี่ยวกับโอเซฮุนคนนี้
“นายชอบใครน่ะโอเซฮุน นายน่ะชอบใคร ฉันเจ็บจิ๊ดเลยรู้มั้ย มันเจ็บใจ”
คุณลู่หานบ่นละเมอนั้นแล้วก็หลับต่อไป ตัวเล็ก ๆ เอียงไปเอนมา เพราะนั่งหลับ
เขาเลยเดินเข้าไปใกล้ ดีที่นั่งใต้ต้นไม้มันร่มหน่อย
เขาคว้าเบาให้ตัวเล็กเอนมาหนุนตัก
และรอกว่าคุณเขาจะตื่นเองแล้วกัน
อย่างน้อยก็ขอมองหน้าตาน่ารักนี่ไปพร้อมกับการฟังคุณเขาละเมอบ่นเขาไปก่อน
เสียงหวานนั่นน่าฟังน้อยซะเมื่อไหร่
“นาย..โอเซฮุน”
“คุณก็อย่ามองผมแบบนั้นสิ
ผมก็เขินเหมือนกันนะคุณ”
“ก็เอ่อ..เดี๋ยวนะไม่เข้าใจ
อะไรนาย เอ่อ.? “
“ชอบคุณ
ผมชอบคุณ โคตรชอบ คุณน่ารัก คุณนั่นล่ะ คุณลู่หาน!”
บอกไปหมดจนครบที่ตั้งใจ เซฮุนยกมือใหญ่ปิดใบหน้ากลบความเขิน
บอกตรงหน้าที่เก๊กไว้ก็หายหมด ไม่เหลืออะไรแล้ว แต่คนตรงหน้า ก็เขินน่ารักมากเหมือนกัน
มือน้อย ๆ นั้นกำแน่นไม่คลายเลย
คือ...เราจะทำอะไรกับสถานการณ์ตอนนี้ดี?
เซฮุนก็คิดว่าลู่หานคงคิดแบบนี้เหมือนกัน
ตัดไปที่ท้องฟ้า ฝนตั้งเขาจะตกลงมาแล้ว
พวกเขาต้องตัดสินใจแล้วล่ะว่าจะเขินกันจนเปียกฝนไปข้างหนึ่ง
หรือจะรีบแหวกความเขินที่มีอยู่ทั่วบรรยากาศตรงนี้แล้วทำอะไรกับมันซักอย่าง
แต่.....
จนฝนหยดเล็กหยาดลงมาล่ะ พวกเขาสองคนถึงจะจับมือวิ่งหนีฝนกันไปพร้อมกัน
โดยยิ้มอย่างกับคนบ้าไปแล้ว ไม่พูดอะไรกันซักคำ
............................
..............
.......
.
..
.
“ลู่หาน! “
ผ่านมาหลายวันหนังสือพิมพ์รายปักษ์ของมหาวิทยาลัยก็ได้ฤกษ์วางแผง
วันนี้คำว่า ‘ลู่หาน’ คงเป็นคำที่ฮิตที่สุดในมหาวิทยาลัย เพราะว่าสัมภาษณ์ของโอเซฮุนที่ตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์ปักษ์ล่าสุดที่ออกวางวันนี้
โอเซฮุนได้รับหนังสือพิมพ์ฉบับนี้พร้อมกับคำถามมากมายจนเขาต้องหนีมาพักรบที่ดาดฟ้าตึกเรียน
มือใหญ่พลิกหนังสือพิมพ์อ่านในคอลัมภ์ของตัวเองในนั้น
“คุณนี่มันขี้หวงจริง ๆ คุณลู่หาน” คนหล่อกล่าวพร้อมรอยยิ้ม
คุณนักข่าวเขาเขียนตามสัมภาษณ์ที่เขาตอบไปทุกประโยคเลยแต่ถึงจะหวงเขาก็ยอมหมดใจอยู่เเล้ว
END ---- SWEET PAPER