วันเสาร์ที่ 5 มีนาคม พ.ศ. 2559

[SF] การเรียก - หยางเฟิง / ผิงเสีย (วันเกิดเทียนเจินอู๋เสีย)



ปล . วันนี้วันเกิดเทียนเจินอู๋เสีย นายน้อยของเรา อาจจะหลุดไปหน่อย แต่ขอบคุณที่อ่านค่ะ งง ๆ กันตรงไหน ก็บอกกันนะ







มืดจัง...

อี้เฟิงรู้สึกดังนั้น จึงได้พูดออกมาตามใจคิด ตอนนี้ดวงตาของเขาไม่สามารถมองเห็นอะไรได้ แต่หลังอุทานได้ไม่นาน สายตาของเขาปรับการมองเสียใหม่ ในที่สุดก็มีแสงหนึ่งจากที่ไกล ๆ และเพิ่มเติมคืออี้เฟิงรู้สึกตัวแล้วว่าตอนนี้เขาอยู่ในอิริยาบถยืน อีกทั้งยังอยู่ในที่มืด อี้เฟิงพยายามไล่ตามแสงที่อยู่ปลายทางสุดสายตา เดินไปให้ใกล้แสงนั้นแม้ว่าจะมองไม่เห็นปลายเท้าของตัวเอง เขาพยายามเดินไปอย่างเชื่องช้า กลัวว่าจะมีอะไรในความมืดที่เขาไม่รู้โผล่ออกมา แต่มันก็ไม่มีอะไรเกิดขึ้น จนในที่สุด ก็ถึงปลายเท้าที่แสงนั้นอยู่ มันจ้าจนอี้เฟิงต้องหลับตาลง และเมื่อรู้สึกว่าดวงตาคุ้นชินกับการเปลี่ยนแปลงในเรื่องแสงสว่างแล้ว เขาลืมตา ตรงหน้าไม่ไกลนั้น




“หยางหยาง...”




เป็นคนที่เขารู้จัก ผูกพันและชิดใกล้ เป็นยคนที่โหยหาและคิดถึงอยู่เสมอมา แต่ในครั้งนี้




“หยางหยาง..”



เรียกอีกครั้ง และอีกครั้ง



“หยางหยาง”




เจ้าของชื่อ นายคนนั้น ที่อยู่ตรงหน้า ไม่ยอมหันมาหา อี้เฟิงรู้ว่านั่นเป็นชื่อของคนที่ยืนอยู่ไม่ไกลตา ทั้งรูปร่างสมส่วนสูงโปร่ง หล่อเหลาจนตราตรึงทั้งตาและดวงใจ ในตอนนี้ใหบ้นาของเขาดูไร้ความรู้สึก อี้เฟิงไม่เข้าใจกับอากัปกิริยานี้ของอีกคน ทั้งที่ทุกครั้งที่อี้เฟิงเรียกชื่อ เจ้าของชื่อนี้จะต้องมีปฏิกิริยาอีกแบบหนึ่งกลับมา ไม่ใช่นิ่งสนิทแบบนี้



“หยางหยาง”



และไม่นานจากนั้น หลังจากอี้เฟิงเรียกชื่ออีกฝ่ายซ้ำ ๆ


“ทำไมนายเรียกฉันแบบนั้น”



อะไร ?



อี้เฟิงไม่เข้าใจประโยคเมื่อครู่ของคนตรงนี้


อีกฝ่ายตอบกลับอี้เฟิงมาด้วยน้ำเสียงโทนต่ำทุ้มบาดใจ แต่ไร้อารมณ์ความรู้สึกใด ๆ ไม่เหมือนคนที่หลี่อี้เฟิงเคยรู้จัก


“นาย..นี่นาย”


อี้เฟิงเริ่มขมวดคิ้ว เมื่ออีกฝ่ายทำเหมือนเขาเป็นคนแปลก



“ทำไมนายเรียกฉันแบบนั้น อู๋เสีย”




“อู๋เสีย ?”





หยางหยางเรียกเขาว่าอู๋เสีย ตรงหน้าเขา ? เมินโหยวผิงหรือ?







“นาย...จางฉี่หลิง เสี่ยวเกอ..หรือ?”



คนตรงหน้าในตอนนี้ ตอบสนองกับชื่อจางฉี่หลิงโดยการหันมาทางจุดที่อี้เฟิงยืนอยู่ มองหน้ากันจนเต็มสายตา และโดยอัตโนมัติที่อี้เฟิงได้ยินคำว่าอู๋เสีย เมื่ออีกฝ่ายเอ่ยจากปากออกมา เรียกเขา อี้เฟิงก็ไม่เข้าใจเช่นกันว่า ทำไมกันนะ ? ในตอนนี้ เขาได้ยอมรับว่าชื่อ อู๋เสีย นั้น เป็นชื่อของเขาไปเสียแล้ว

“อู๋เสีย”


เขาคือหลี่อี้เฟิง ไม่ใช่หรือ แต่เมื่อได้ฟังคน ๆ นี้เรียกเขาว่าอู๋เสีย เขากลับยิ้มให้ทันที และอีกฝ่ายที่เขาพร่ำเรียกว่า หยางหยาง หมอนั่นกลับตอบสนองเขาด้วยชื่อจางฉี่หลิง




จนเมื่อรู้สึกตัวอีกที แสงสว่างจุดเล้กที่มองเห็นกันแค่ช่วงบนของร่าง ตอนนี้มันแผ่ไป สังเกตและมองเห็นกันได้จนเต็มตา อีกฝ่ายแต่งตัวด้วยชุดฮู้ดน้ำเงิน กางเกงสีดำที่ดูทะมัดทะแมง และยังไม่รวมกับดาบดำดูหนักแต่ล้ำค่าที่พาดสะพายอยู่ด้านหลัง


ส่วนหลี่อี้เฟิงที่ยอมรับโดยดุษฏีว่าตนชื่ออู๋เสีย เมื่อมองดูตัวเอง ชุดของเขาก็เป็นชุดที่คุ้นตา แจ็คเกตดำ กางเกงสีดำเช่นกัน ดูทะมัดทะแมงแต่งตัวเหมือนคนจะไปเดินทางไกล ขึ้นเขาลงห้วยเดินป่า มีไฟฉายในมือ


อ๋อ ลำแสงที่ส่งอจนสุดปลายสายตามาจากไฟฉายกระบอกนี้ มันใหญ่ทีเดียว มือของเขาจับเต็มมือก็ยังไม่รอบดีเท่าไหร่  ยิ่งเดินเข้ามาใกล้จุดที่อยากมา แสงไฟยิ่งส่องสว่าง ไฟจากไฟฉายกระบอกนี้ในมือ ไปตกกระทบที่ร่างสูงโปร่งในชุดฮู้ดน้ำเงินกางเกงดำที่อยู่ไม่ไกล



“นาย คือ..เสี่ยวเกอ หรือ ?”
“ใช่”
 “จางฉี่หลิง ? เสี่ยวเกอ?”



เมื่อถามอีกครั้ง จางฉี่หลิงที่อี้เฟิงเรีนกเขาว่าหยางหยางแต่เจ้าตัวคนนั้นไม่สนใจ เม้มปากเชิงสงสัย คล้ายว่าทำไมจึงต้องถามเขาซ้ำ ๆ เรื่องชื่อ เหมือนคนความจำเสื่อม ก็เพราะอี้เฟิงไม่เข้าใจ เขาคือหลี่อี้เฟิง และหมอนั่นที่ยืนอยู่ตรงนี้ คือหยางหยาง แต่เขากลับตอบสนองด้วยชื่อ จางฉี่หลิง หรือจะเป็นเสี่ยวเกอ ก็ตามแต่เถอะ



นี่เราอยู่ในโลกไหน ? อี้เฟิงที่รู้ตัวว่าตนคือหลี่อี้เฟิง กลับยอมรับให้ตนชื่ออู๋เสีย
เขางง งงมาก แต่หยางหยางที่เก๊กเป็นจางฉี่หลิงอยู่ตรงนั้นกลับไม่สงสัยอะไรเลย





“อู๋เสีย “
“ฉัน ..เอ่อ..หลี่อี้เฟิง นะ”
“นาย..อู๋เสีย”
“หา?..อะ..เอ่อ”




ไม่รู้จะเถียงอย่างไร ในใจมันสับสน เขาคือหลี่อี้เฟิง ยืนยันกับตัวและดวงใจแบบนี้ แต่อู๋เสีย..เมื่ออีกฝ่ายเรียกชื่อนี้ออกมา ก็กลับตอบสนองดีไม่แพ้กัน




จะชื่ออะไรก็แค่มีคนตรงหน้า เอ่อ หยางหยางหรือ? หรือ เมินโหยวผิง แต่ดีใจที่มีเขาอยู่ด้วย


แต่ตอนนี้เขาเริ่มรู้สึกงง สงสัยว่าตนอยู่ที่ไหน




เท้าของเขาจึงเดินถอยหลังมา ขอปรับสมองและความคิดที่สับสน คิดว่าเขาจะลองดับไฟฉายในมือดู





แล้วในที่สุด จุดที่ยืนอยู่ก็มืดสนิทลง










“คุณ....ตื่นซักที”
“หา?”







ในทันทีที่  ที่นั่นมืด ไม่นานก็สว่างอีกครั้ง



เพราะอี้เฟิงลืมตา
เขาแค่ฝันประหลาด



“คุณฝันอะไรกันแน่ อี้เฟิง”
“ฉัน ?”






เมื่อปรับสมองและความสับสนในความคิดได้ เขารู้แล้วว่า นั่นคือฝัน ที่เหมือนจริงยิ่งกว่าอะไร




“ฉันพูดอะไรออกมาให้นายได้ยืนหรือเปล่า หยางหยาง”

คนที่นั่งอยู่ข้าง ๆ ตรงขอบเตียงในจุดที่เขานอน คือหยางหยาง เพราะหมอนี่ตอบรับชื่อนี้เมื่ออี้เฟิงเรียก และตอนนี้เขาคือหลี่อี้เฟิงแล้ว เขากลับมาเป็นหลี่อี้เฟิง





“คุณโอเคมั้ยน่ะ”
“ก็..เอ่อไม่เป็นไร แต่รู้สึกงง ๆ นิดหน่อย ฝันเหมือนจริงเกินไปจนงง“



หลังจากนั้นอี้เฟิงตั้งสติอยู่ครู่หนึ่งและเล่าความฝันแปลก ๆ ให้คนที่นั่งทอดมองเขาด้วยความห่วงใยอยู่ข้างเตียงฟังทุกรายละเอียด บอกว่าในฝัน หยางหยางนั้นกลายเป็นจางฉี่หลิง เก๊กหน้าตาท่าทางเรียกชื่อหยางหยางก็ไม่ยอมหัน แต่ตอบรับชื่อจางฉี่หลิง หรือเสี่ยวเกอ แถมในฝันก็ยังเรียกเขาว่าอู๋เสีย ๆ แต่แปลกเหมือนกันก็คือ อี้เฟิงในฝันที่แม้ว่าจะรู้ตัวว่าตนคือ หลี่อี้เฟิง แต่กลับตอบสนองชื่อ อู๋เสีย เมื่ออีกฝ่ายเรียกอย่างเต็มใจ




เมื่อเล่าเสร็จ หยางหยางที่นั่งอยู่ใกล้ ๆ ตรงขอบเตียงก้มลงมาให้ใกล้ใบหน้าหวาน แล้วบอกเบา ๆ ด้วยเสียงทุ้มอันทรงเสน่ห์


“คุณคิดถึงผมเกินไปแล้วอี้เฟิง”
“ห๊ะ ? อะไรกันเล่า?!

อี้เฟิงไม่เข้าใจทีเล่นที่จริงของหยางหยาง บางทีหมอนี่ก็กวนเขาเหลือเกิน
“เก็บผมไปฝันแบบนี้ใช่แน่”
“เข้าข้างตัวเองเกินไปแล้ว!


หยางหยางส่งยิ้มให้ ขยับร่างเบียดนอนลงข้าง ๆ อี้เฟิงด้วย ตอนแรกเขาไม่ได้นอนในห้องนี้ เขานอนอยู่ด้านนอก วันนี้เขาขอทีมงานมาค้างกับหวานใจเสียหน่อย แต่ก็กลัวจะไม่ได้ไปทำงานกันในวันต่อไป ก็ขออดใจไว้ หยางหยางจึงขอไปนอนด้านห้องแยกเตียงกับอี้เฟิงไปเลย ไม่เช่นนั้นพรุ่งนี้งานการก็คงไม่ต้องทำ เพราะเขาไม่ทางทางปล่อยแมวน้อยน่ารัก ๆ ให้หลุดมือข้ามคืนไปได้แน่ ๆ แต่อยู่ ๆก็ได้ยืนเสียงละเมอมาจากในห้อง หยางหยางจึงเปิดประตูเข้ามาดู


“หยางหยางบ้างล่ะ จางฉี่หลิงด้วย เสี่ยวเกออีก ยังไงทั้งหมด นั่นก็รวมแล้วเป็นผม”
“ใช่ที่ไหน!
“ตอนคุณฝัน คุณจางฉี่หลิง ในฝันของคุณใบหน้าของเขาก็เหมือนผมในใช่มั้ยล่ะ”
“ก็..เออ”


อี้เฟิงไม่เถียง เขาวิเคราะห์ความสับสนของตนเพิ่มอีกนิดหน่อย จะอย่างไรในฝันก็คือหยางหยาง เขาคิดถึงหยางหยางมากขนาดไหนเชียว ถึงได้ฝันเป็นตุเป็นตะแบบนี้

“ในฝันคุณเป็นอู๋เสียด้วยนี่”
“ก็ใช่”
“ก็นั่นล่ะครับ ไม่ว่ายังไง คุณจะเป็นใครก็ตาม สุดท้ายคุณก็คือโลกทั้งใบของผมอยู่ดี ผมเองก็เหมือนกัน โลกทั้งใบของคุณก็เป็นผมใช่มั้ย”
“ฮี๊”


กวนไปหน่อยแต่ก็หวานใช้ได้ อี้เฟิงคิด คุณอู๋เสียนี่เจ้าที่แรงใช่ย่อย เขาจำได้ว่าก่อนหน้าจะนอน เขาสไลด์โทรศัพท์ดูสองสามที ก็ผล็อยหลับไป หลังจากหยางหยางส่งเข้านอนบอกฝันดีไปแล้ว วันนี้เป็นวันเกิดของคุณอู๋เสีย ตัวละครและบทที่มีอิทธิพลที่สุดในชีวิตของหลี่อี้เฟิงคนนี้อีกตัว ที่เป็นจุดเริ่มต้นของ คนที่เป็น โลกทั้งใบ ของหลี่อี้เฟิง

“จริง ๆ มันก็ไม่ใช่ฝันร้าย แต่ก็ใจหวิว ๆ นิดหน่อย งง ๆ น่ะ เอ่อ ในฝัน เหมือนฉันจะกลายเป็นคุณอู๋เสียไปเลย ยังไงยังงั้น”


หยางหยางที่เอนลงนอนข้างอี้เฟิงแล้ว เอียงตัวพาดแขนแกร่งกอดเอวร่างนุ่มนิ่มไว้ ขยับตัวตามใจซุกที่ซอกคอ ขอสูดกลิ่นผิวหอมกลิ่นแป้งอ่อน ๆ

“ไม่ว่าคุณจะเป็นใคร ผมก็จะตามไปดูแลคุณ โลกทั้งใบ ของผม”
“อะหือ เอาไปสิบแต้ม “



เมื่อหยางหยางพูดจบประโยคนั้น อี้เฟิงนึกชอบใจในความเลี่ยนของคนที่กอดเขาอยู่เลยแจกแต้มสะสมให้ไป พร้อมกุมมือที่อีกฝ่ายกอดไว้ด้วย หยางหยางหัวเราะเบา ๆ ออกมา เขาเองก็จำได้ว่าวันนี้เป้นวันเกิดของคุณอู๋เสียก็เพราะแฟนคลับรีข้อมูลต่างในวันนี้มาให้เขาติดตามเยอะแยะ เตือนความจำเขาไปในตัว


“คุณอู๋เสียนี่ก็ของแรงเหมือนกันนะเนี่ย “
“ก็ว่างั้น ที่จริง จางฉี่หลิง บทของนายก็แรงไม่ใช่ย่อยนะ”


พูดจบก็หัวเราะกันสองคนกับความฝันที่แปลกประหลาดไปหน่อย แต่ก็ไม่ได้น่ากลัวน่า เพราะในนั้นมีหยางหยางอยู่

เอ๊ะ หรือว่า จางฉี่หลิง


แต่ช่างเถอะ จะเป็นใครก็ตาม และตัวเขาเองจะเป็นหลี่อี้เฟิง หรือ อู๋เสียก็ตาม  เราสองคนอยู่ด้วยกันก็พอแล้ว



เมื่อคิดได้ดังนั้น อี้เฟิงก็เริ่มออดอ้อนอีกฝั่งบ้าง จึงพลิกตัวไปซุกอกแกร่งร้องขอความอบอุ่นจากร่างสมส่วนนั้น อีกฝ่ายตามใจแมวน้อย หยางหยางโอบรอบเอวรั้งให้ร่างนุ่มนิ่มเข้ามาซุกแนบชิด




เขานึกประโยคเด็ดประโยคหนึ่งออก ก็จากนิยายเต้ามู่ปี้จี้นั่นล่ะ



“ฉันทบทวนดูความเกี่ยวโยงของฉันกับโลกใบนี้ ดูเหมือนเท่าที่เจอ ก็มีแต่นาย”




อี้เฟิงสัมผัสความเป็นจางฉี่หลิงได้จากหยางหยางตอนนี้ แค่หมอนี่ตอนนี้ก็แค่สวมบทบทบาท แต่เสียงที่ใฃ้พูดประโยคเมื่อครู่ ทำให้เขาคิดถึงจางฉี่หลิง เสี่ยวเกอ เมินโหยวผิงจริงๆ และอี้เฟิงเองก้เผลอคิดว่าตนคืออู๋เสียที่อยู่ในอ้อมกอดของนายเรือพ่วง


“แต่ฉันไม่ไปไหน ไม่บอกลาด้วย จะอยู่กับนาย”
“รู้แล้วจ้า รู้แล้ว เลิกเก๊กเป็นจางฉี่หลิงได้แล้ว”
“ครับ  ๆ “  หยอกล้อกันพอสนุกหัวใจ ทั้งสองก็คล้ายว่าจะง่วงกันทั้งคู่แล้วใกล้เข้าสู่นิทรา ก่อนจะผล็อยหลับไปจริง ๆ อี้เฟิงก็นึกขำว่า ทั้งเขาและหยางหยาง แล้วก็เมินโหยวผิงและนายน้อยอู๋เสีย ในเต้ามู่ปี้จี้ ก็คล้ายกันไม่น้อยเหมือนกัน


อย่างน้อยก็เรื่องความเกี่ยวโยง ที่จริงแล้วก็ไม่ได้เหมือนกันขนาดนั้น แต่ถ้าให้นึกถึงกันล่ะก็ ความเกี่ยวโยงแรกที่อี้เฟิงจะนึกถึงก็คงเป็นหยางหยาง แล้วหยางหยางเองก็คงคิดเหมือนกัน เอาเป็นว่าเขาเดาใจหยางหยางถูกแน่นอนในเรื่องนี้




ก็ลองไปเกี่ยวโยงกับใครดูสิ จะตามไปตัดให้ขาดซะให้หมดทุกเส้นเลยไอ้ความเกี่ยวโยงนั่นน่ะ 

1 ความคิดเห็น:

  1. อ่านแล้วปวดกระดองใจด้วยเรื่องที่สองคนนี้อาจไม่ได้เล่นบทนี้แล้ว พรากกกกกก ///ฟิคดีค่ะ ชอบบบบ<333

    ตอบลบ