วันจันทร์ที่ 28 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[SF] little - ( #EzraColin / #colezra / #Gradence ) #FANTASTICBEASTS FICTION


[SF] little - #Gradence  

#FANTASTICBEASTS FICTION



"อีกแล้วหรือ ?"


เพอร์ซิวัลกลับเข้าบ้านของตนเอง  เขาเหน็ดเหนื่อยพอสมควร แต่ก็แวะดูตู้จดหมายหน้าบ้านตนเหมือนอย่างที่เคย เผื่อว่าจะมีเอกสารจากทางการหรืองานอื่นๆส่งมาถึงบ้าน หรืออาจจะมีเอกสารส่วนตัว เขามาเช็คเพื่อความแน่ใจ เขารับราชการ งานเขาเยอะ แต่ตำรวจก็ต้องมีเวลาพักผ่อนบ้างเหมือนอย่างวันนี้อย่างน้อยก็สามชั่วโมงก่อนไปเขางานอีก วันนี้เป็นวัน ที่เขาออกตรวจตราพื้นที่และความเรียบร้อย อยู่เวรเป็นวัน ๆ งานเข้ามากมาย จนเขาเกือบลืมคำว่านอนและสนิทสนมกับกาแฟไปเรียบร้อยแล้ว

"อะไรกันเจ้าคนคนส่งจดหมายนี่น่ะ"

 จดหมายน้อยที่เขาได้รับมาทุกวัน มันจะถูกเอามาหย่อนไว้ จำได้ว่าเป็นเดือนแล้วที่เขาได้รับจดหมายนี้ นับได้ก็อาทิตย์หนึ่ง เปิดอ่านออกมาก็เป็นข้อความคล้ายๆ เดิม แต่ลายมือแย่เหมือนเด็กเพิ่งตั้งเขียน และมักจะแนบขนมชิ้นหนึ่งมาให้เสมอไม่ซ้ำกัน ลูกอมบ้าง ไข่ช็อคโกแลตบ้างคัพเค้กน่ารักๆบ้าง ทุกอย่างล้วนน่ารักไม่ซ้ำกัน

ข้อความก็อย่างเช่น

คุณเท่มาก คุณหล่อ คุณดูแข็งแกร่งมาก คุณคือซุปเปอร์ฮีโร่ คุณทำงานในมาร์เวลอ๊ะป่าว?(อันนี้เขาอ่านแล้วขำนิดหน่อย) คุณบลา ๆ  ๆ อีกมากมายตามจำนวนวันที่เจ้าของจดหมายส่งมา


คนสมัยนี้ไว้ใจไม่ได้และมีมากมายหลากหลายแบบ เขาเดาใจไม่ถูกหรอกว่า ไอ้คนเขียนมันเป็นคนประเภทไหน แต่จากการคาดเดา และสำนวนการเขียน


อืม? เด็กหรือ? แต่บางทีคน ๆ นี้อาจจะส่งมาก่อกวนเขา หรืออาจจะเป็นสาวน้อยที่หลบไหลเขาอยู่ก็เป็นได้ ก็ดีเหมือนกัน เขาเองก็ยังไม่มีใคร แต่ถ้าคิดอีกแง่การปลอมลายมือ ปลอมทุกอย่างให้เขาเขว สมัยนี้อะไรก็เป็นไปได้ เอาง่าย ๆว่าเขาไม่ไว้ใจเจ้าจดหมายนี่นัก


ถึงจะเก็บเอาไว้ทุกวันก็เถอะ แต่ขนมน่ะเขาไม่กล้ากินหรอกนะ เผื่อใส่อะไรมา เขาจะตายเสียเปล่า เสียแรงที่เป็นตำรวจ แต่สุดท้ายก็ไม่มีเวลามานั่งหาไอ้ตัวคนส่ง ก็ได้แค่เก็บไว้ เพราะอย่างมันมันก็ยังไม่มีอันตรายมากไปกว่าสร้างความสงสัยและกังขา


วันต่อมา เพอร์ซิวัลก็ยังได้รับจดหมายเช่นเดิม เขากลับมาจากเข้าเวร ก่อนหน้านี้ก็คิดเดาเอาว่าจะได้รับมันอีกมั้ย เอาจริงๆ ถ้าทุกวันนี้ไม่มีมันก็เหมือนจะขาดอะไรไป เขาลองเอาไปเช็คและตรวจสอบ ทุกอย่างที่ได้รับมาเป็นอาทิตย์ ๆ นี้ มันไม่มีสารอันตรายอะไร เป็นจดหมายจริง และขนมจริงๆ วันนี้เขาอาจดักเจ้าคนส่งนี่ได้ นี้มี รปภ. แต่เขาไม่ได้นั่งโซน


วันนี้เขาไม่มีเวร และเป็นหยุดพักน่ะสิ เขามีเวลามาจัดการกับเรื่องนี้แล้ว


เอาล่ะ มาดูกันซิว่า เจ้าจดหมายน้อยนี่มาจากใคร เเละไอ้ใครที่ว่านี่เเละมีจุดประสงค์อะไร




เพอร์ซิวัลไม่รู้เวลาส่งที่แน่นอน แต่กะเอาจากทุก ๆ วันว่าเป็นช่วงเวลาก่อนเขากลับบ้าน หลังเลิกงาน อย่างน้อยเลยก็ห้าโมงเย็น

เขาดักรอแถวๆใต้ต้นไม้ถัดจากบ้านเขาไปแค่หนึ่งบล็อก เห็นชัดเชียวล่ะหากจะมีคนมาส่งจดหมายที่หน้าบ้านเขาโดยเขาปลอมตัวมีหมวกสวมปิดใบหน้าเสียครึ่ง เอาหนังสือพิมพ์บังหน้าอีกต่อกันไว้


"คุณอานิวท์ฮะ ผมขอแวะตรงนี้แป๊บนึงสิ"
"หืม ?"
"ขอเล่นกับเจ้าครุเเชงค์ของคุณป้าเฮอร์ไมโอนี่หน่อยน้า~~~ นะฮะ~~~"


แว่ว ๆ เสียงเป็นเจ้าเด็กน้อยและผู้ปกครองของตนที่มาหยุดอยู่ตรงแถวๆหน้าบ้านเขา ก็ดูไม่มีอะไร ก็คงบังเอิญมาหยุด แต่นี่ได้เวลาแล้ว....



"อย่านานนะ เดี๋ยวทีน่าดุไม่รู้ด้วย"
"ฮ๊าบบบ~"


เด็กน้อยน่ารักคนนั้น ทำเอาเพอร์ซิวัลหลงมองอยู่นาน ช่างเปล่งประกายสดใสอะไรเช่นนี้ นี่แหละหนาความน่ารักของวัยเด็ก ดูแล้วยังไม่เกินสิบขวบดีด้วยซ้ำ


"เอ๋?"



แต่คล้อยหลังผู้ปกครองคนนั้นไป เจ้าเด็กน้อยนั่นไม่ไปเล่นกับครุแชงค์ที่ว่าแล้วหรือ


เพอร์ซิวัลมองเด็กคนนั้นทุก ๆ การกระทำ เจ้าเด็กน้อยหัวเห็ดกำลังทำอะไรที่หน้าบ้านเขา


"หืม?" เจ้าเด็กรื้อกระเป๋าออกมาลวก  ๆ คว้าได้ เอากระดาษลายๆ ออกมาพร้อมกับดินสอแท่งนึง  ก้มหน้าลงเขียนมันทั้งบนพื้นฟุตบาทหน้าบ้านเขาอย่างนั้นล่ะ แล้วพับ ๆ กระดาษเป็นแผ่นเล็ก ๆ หลังจากนั้นเจ้าหนูก็หยิบอมยิ้มสีหวานออกมาจากกระเป๋า ตามด้วยซองจดหมายลาย ๆ อีกซิง เอากระดาษที่เขียนเมื่อครู่ใส่ซอง มือหนึ่งถือจดหมาย มือหนึ่งถืออมยิ้มสีหวาน



และหย่อนใส่ตู้จดหมายหน้าบ้านของเขา!



"เห้ย !" เพอร์ซิวัลเผลออุทานดัง เพราะไม่คิดว่าจะเป็นเจ้าเด็กน้อยคนนี้เป็นเจ้าของจดหมายน้อยรายวันที่ส่งมาอย่างเป็นปริศนา แต่เสียงเห้ยของเพอร์ซิวัลคงดังไปเลยทำให้เด็กน้อยตกใจกลัว อ้อ ใช่ เขายังหลบอยู่ที่ใต้ต้นไม้ที่เดิมอยู่นะ


เจ้าเด็กนี่ ทำฉันกังวลแทบทุกวัน
เขาอาจจะใช้นิสัยเสีย ๆ ของตัวเองก็คราวนี้


"เจ้าหนูน้อย มาทำอะไรหน้าบ้านคนอื่นเขาน่ะหา!"

เพอร์ซิวัลเอ็ดเสียวดังข้ามต้นไม้มา พร้อมด้วยหน้าตาถมึงทึงพร้อมกินหัวเด็กได้ทันที เจ้าหนูน้อยที่ยืนตัวสั่นตรงหน้าเขาตกใจเสียขวัญหนีหมดแล้ว ใบหน้าหวาน ดวงตากลมๆ และทรงผมเห็ดน้อย เพอร์ซิวัล มองยังไงก็เด็กน้อย เด็กชัด ๆ ใช่แน่หรอวะ ไอ้คนที่ส่งจดหมาย แต่คิดๆ ไป ประโยคเหล่านั้นในจดหมาย ลายมือโย้ๆเอียงๆ คำง่ายๆที่ใข้ ไหนจะขนมอีก

"ผม.. ฮึก ผม คือ .." เด็กน้อยถอยกรูดไปหลบหลังตู้จดหมาย เพอร์ซิวัลใจเขวไปนิดหน่อย เด็กคนนี้กลัวเขามากเลย ปี่จะแตกแล้วน่ะ


"ผมอะไร พูดออกมา ฉันเป็นตำรวจนะ ฉันจับเธอได้ ข้อหาก่อกวน"แกล้งเด็กไปอย่างนั้น แต่เด็กนี่ทำแบบนั้นจริง ๆ  แต่เพอร์ซิวัลไม่บอกหรอกนะว่าก่อกวนจุดไหนของเขาน่ะ


"ฮือออออออ แงงงงงงงงงงงงงงง" เอ้า ปี่แตกไปแล้ว เพอร์ซิวัลกุมขมับ คนผ่านไปมาเริ่มมองเขาเเล้ว ควรทำอย่างไร? เขาต้องปลอบเด็กน้อยหัวเห็ดนี่สินะ

เพอร์ซิวัลไม่รู้ควรทำยังไง ปกติหน้าแบบเขา แค่เดินเข้าไปหาเด็กก็ร้องแล้ว ไหนจะหนวดเคราที่ไม่ยอมโกนๆออกไปเสียที เด้กก็ยิ่งพาลจะกลัว เด็กนี่ทนเห็นหน้าตาเข้มๆของเขาได้จนมาปี่แตกตอนเขาดุก็เก่งแล้ว


"คุณ ฮึก ฮือ คุณ.."
"เออ ไม่ต้องพูด ขอโทษ ไม่ต้องร้อง ฉันปลอบเด็กไม่เก่ง น่ะ! อย่าร้องนะ หยุด เด็กผู้ชายเขาไม่ร้องไห้กัน"
"ฮึก"

เด็กน้อยหุบปากฉับเมื่อโดนสั่ง เพอร์ซิวัลเดินเข้าไปหาเด็กน้อยใกล้ๆ ทรุดตัวคุกเข่าลงตรงหน้าเด็กน้อย ความสูงอยู่ในระดับสบตาใสๆนัานพอดี


ตายล่ะ เด็กนี่ดันน่ารักมากซะด้วย จะไปดุยังไงลงวะ โถ่ เพอร์ซิวัลเอ๊ย


"เล่ามา ทำไมทำแบบนี้" เขาพยายามใช้น้ำเสียงนุ่มนวลที่สุดคุยกับเด็อน้อยที่ยังสะอื้นอยู่ น้ำมูกจะหยดใส่เสื้ออยู่รอมร่อ เพอร์ซิวัลคว้าเอาผ้าเช็ดหน้าในกระเป๋าเสื้อตนปาดจมูกนั่นก่อนมันจะหยดเปื้อนเสื้อตัวเล็ก


"ผม..ฮึก ชื่อ เครเดนซ์ แบร์โบนฮะ อยู่บ้านเยื้องๆ กับคุณฮะ คุณเกรฟส์ ผมชอบคุณฮะ"
"หา?!" เพอร์ซิวัลงงกับคำของเด็กน้อย


"รู้มั้ยชอบเนี่ย มันหมายความยังไงฮึเจ้าหนู"
"รู้สิฮะ ชอบก็คือ การที่ผมอยากให้ขนมใครคนนึงทุกวันเลย นิวท์บอกผม"

ผู้ปกครองเด็กสอนอะไรวะเนี่ย เพอร์ซิวัลกุมขมับอีกรอบ แต่เพราะคำเล่านี้ของหนูน้อยทำเอาเขายิ้มออก


   สอนอะไรให้เด็กแบบนี้ เด็กคนนี้ก็น่ารักอะไรขนาดนี้


"เเล้วเจอฉันได้ยังไง"
"ก็คุณเกรฟส์  จับผู้ร้ายในทีวี เท๊เท่ ! ผมเคยดูคุณตอนคุณออกทีวี นิวท์บอกว่าคุณอยู่แถวนี้ ผมชอบคุณฮะ เลยเอาขนมมาให้"


เพอร์ซิวัลจำได้ว่าเขาออกทีวีอยู่หลายครั้งเหมือนกันก็เพราะคดีที่เขาทำมันก็มีคดีใหญ่ๆ ที่จะต้องให้ข้อมูลกับสื่อ บางทีเป็นเหตุการณ์สดตอนมีเหตุเกิด เขาเป็นผู้ดูแลเรื่อง จึงไม่วายที่ผู้สื่อข่าวต้องจับภาพเขาออกข่าว


"งั้นหรือ ฮึๆ"
"ชอบคุณเกรฟส์ ไม่ได้หรอฮะ" เด็กน้อยเครเดนซ์ตาใสหยุดร้องไห้แล้ว  และหันมาสบตาทำคุณเกรฟส์ของตนตรงหน้าแทน


แล้วเขาจะทำอย่างไรได้เล่า นอกจากบอกหนูเครเดนซ์นี่ไปว่า



"ได้ซี่ แต่วันหลังไม่ต้องแอบแล้ว เอามาให้ตรงๆเลย"

เด็กน้อยส่ายหัว

"นิวท์บอกว่าต้องแอบให้ฮะ เซอร์ไพร์สกว่า !"
"ฮึ ให้มันได้อย่างนี้สิ"


เพอร์ซิวัลทนเอ็นดูเด็กน้อยเครเดนซ์ไม่ไหว ขอขยำตัวนิ่มๆ ทีเถอะ เขาคว้าตัวเล็กๆของเครเดนซ์มากอดให้หายหมั่นเขี้ยว แล้วแกล้งจั๊กจี๋เด็กน้อยให้หัวเราะจนบ่นปวดท้อง


"เครเดนซ์"
"ฮะ?"

เพอร์ซิวัลเลิกแกล้งน้องหนูแล้วสบตา แววตาจริงจังของเขามาเมื่อไหร่กัน เครเดนซ์พาลจริงจังไปด้วย เด้กน้อยจ้องเขากลับกุมสายสะพายกระเป๋าแน่นทั้งสองข้าง


มีแฟนคลับแบบนี้ก็ต้องเซอร์วิสหน่อย เพอร์ซิวัลเห็นแววตาใส ๆ ของเครเดนซ์ ให้ตาย เขาเขินเด็ก!


"อย่าเลิกชอบฉันนะ"
"แน่นอนเล๊ย!


เด็กน้อยตอบทันที เพอร์ซิวัลจึงมอบกอดและหอมแก้มเด็กน้อยตอบแทนความน่ารักแบบทันทีทันใดของเครเดนซ์ไปอีกต่อ เเต่เด็กน้อยบ่นว่าไม่ชอบหนวดคุณเกรฟส์เลย มันจั๊กจี้พิลึก




SPE





"เฮ้ คุณ นั่นหลานผม! ทำอะไรน่ะ!"

ขณะที่เขากำลังแกล้งเด็กน้อยอยู่ เพอร์ซิวัลมองไปยังอีกฝั่ง ผู้ปกครองของเครเดนซ์ที่ชื่อนิวท์คนที่สอนอะไรแปลกๆ วิ่งมาโน่น ตามมาด้วยสาวที่ดูทะมัดทะแมงอีกคน ซึ่งอาจจะเป็นทีน่าจากบทสนทนาก่อนหน้า ทั้งสองตรงมาทางนี้



"วันนี้ขอเป็นผู้ร้าย ลักพาตัวเด็กหน่อยแล้วกัน " เพอร์ซิวัลขำกับตัวเอง ก่อนจะอุ้มเครเดนซ์ตัวน้อยวิ่งหนีสองผู้ปกครองไป พร้อมเสียงหัวเราะสนุกสนานที่เด็กน้อยคิดว่าผู้ใหญ่เขาเล่นกัน ไล่หลังด้วยเสียงของนิวท์และทีน่าตะโกนบอกให้เพอร์ซิวัลหยุด







end ...- little -








[sf] Can Call - #fantasticbeasts fiction #granewt





เจ้านิฟเฟลอร์ตัวแสบจอมซนทำเรื่องเข้าให้ซะแล้ว

นิวท์ สคามันเดอร์กำลังกุมขมับ ลูกตัวแสบแสนรักของเขา นิฟเฟลอร์ดันวิ่งตามแสงระยิบระยับของเข็มกลัดของคน ๆ หนึ่งเขาเข้าให้ สุดท้ายแล้วก็ไปขโมยของเขามา แต่เจ้าตัวเขาจับได้ซะก่อน

"นายนี่น้า" นิวท์ อุทานใส่เจ้าตัวแสบที่หน้าหงอทำท่ากลัวแล้วจ้า~อยู่ในอุ้งมือของอีกคนตรงหน้า

"มิสเตอร์เกรฟส์ ขอโทษด้วยนะครับ เจ้านี่เห็นอะไรระยิบระยับเป็นไม่ได้เลยล่ะ.."

เพอร์ซิวัลมองเจ้าของสัตว์วิเศษตัวนี้สลับกับเจ้าตัวแสบในมือที่นิวท์บอกว่าเป๋นลูกของเขา หลังจากเกิดเรื่องราวมากมาย นิวท์กลับมานิวยอร์คอีกครั้งด้วยเรื่องงาน และมาทำงานร่วมกับมาคูซ่า ซึ่งเขากับนิวท์ได้พบเจอกันด้วยเรื่องงานบ่อยครั้ง

แต่ครั้งนี้สร้างความวุ่นวายให้เขานิดหน่อย ก็เพราะเข็มกลัดอันโปรดหายไปเสียอย่างนั้น เจ้านิฟเฟลอร์แสนซนตัวนี้ เขากับนิวท์ไล่จับกันจนเหนื่อย แต่ในที่สุดก็คว้าตัวได้ คนเป็นเจ้าของก็หน้าหงอพอกันกับเจ้าที่อยู่ในมือเพอร์ซิวัล

"แต่คุณอย่าทำร้ายมันนะครับ อย่าถือสา"
"งั้นเอาเรื่องกับคุณแทนได้มั้ย"
"เอ่อคือ... ผม"

นิวท์หดหน้าเหลือแค่นิ้วได้กระมัง เพอร์ซิวัลนึกขำในใจ เขาไม่ได้จะว่าอะไร แต่อยากแกล้งเท่านั้น

"หืม?"

เจ้านิฟเฟลอร์ในมือของเพอร์ซิวัลเริ่มดิ้น เขาไม่ส่วคืนนิวท์ซักทีทเจ้านี่เริ่มงอแงอยากกลับไปหาเจ้าของมัน นิวท์มองลูกชายหัวแก้วหัวแหวนอย่างอาลัยอาวรณ์

"โอ๋ ๆ ไม่ต้องกลัว มิสเตอร์เกรฟส์เขาไม่ทำอะไรหรอก แม่อยู่นี่นะ ไม่ต้องกลัวนะ"

เพอร์ซิวัลต้องอึ้งไปครู่หนึ่งเมื่อคำพูดน่ารักน่าชังทั้งหมดออกมาจากนิวท์ เขาทวนประโยคนั้นในหัวเขาอีกครั้ง และก็ต้องพบว่าตัวเองยิ้มออกมา เมื่อทวนเสร็จ

ให้มันได้อย่างนี้ คุณสคามันเดอร์คุณนี่มันเหลือเกินจริง ๆ


"โอ๋ ๆ แม่อยู่นี่ ไม่งอแงนะ"
เพอร์ซิวัลมองนิฟเฟลอร์ในอ้อมกอดเขา เขาเปลี่ยนท่าให้มันนิดหน่อย พิจารณาครู่หนึ่งก่อนมองอีกคน

"เจ้านิฟเฟอลร์ แกกำพร้าพ่อหรือ ฉันเป็นพ่อให้ได้นะ"

จบประโยค นิวท์รีบมาชิงตัวลูกรักไปทันที พร้อมกันนั้นเสียงหัวเราะของเพอร์ซิวัลก็ดังขึ่น นิวท์มองอย่างคาดโทษก่อนตะโกนออกมา และจ้ำอ้าวหนีจากมือปราบมารคนดังแสนทรงเสน่ห์

"เด็กเขารู้เรื่องที่ไหนกัน ! มิสเตอร์เกรฟ คนโมเม!"

นิวท์คิดว่าเขาต้องรีบพาลลูกๆเขาหนีไปก่อนที่จะถูกมิสเตอร์เกรฟคนนี้เหมาเอาเป็นพ่อของลูกๆของตนไปหมด

'ก่อนไปเป็นพ่อของลูกก็ควรมาถามแม่อย่างเขาก่อนซี่


นิวท์คิดต่อพลางเม้มปากแต้มด้วยรอยยิ้ม

วันอาทิตย์ที่ 27 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[SF] A CHILD's CALL - ( #EzraColin / #colezra / #Gradence ) #FANTASTICBEASTS FICTION






"คุณอา"

เสียงหนึ่งร้องเรียกใครคนหนึ่งที่เป็นเจ้าของสรรพนาม คอลินรู้ตัวดีว่าสรรพนามนี้เขานั่นเองที่เป็นเจ้าของ แต่หวังว่าถ้าเขาถามเจ้าเด็กซนของกองถ่ายเรา เอซร่า มิลเลอร์จะบอกนะว่าทำไมถึงเรียกเขาแบบนั้น

"คุณอา ?"
"อื้อ คุณอา"
"ทำไมต้องคุณอา รู้มั้ย เอซร่า ว่าเรียกฉันแบบนั้น จะทำให้ฉันรู้สึกยังไง"

เอซร่าเลิกคิ้วมองคุณอาที่เขาเรียก คุณอามองเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่งแบบที่ทำปกติ คุณอาคอลินเขาก็เป็นคนเวียบ ๆ ขรึม ๆ คูล ๆ ตามสไตล์และลุคของคุณอาอยู่แล้ว แต่ก็ใจดีกับทุกคนแม้ว่าหลาย ๆ คนจะเกรงใจเขามากก็ตาม

"อายุ บุคลิคและนิสัยคูล ๆ ของคุณไง"
"ฮึๆ "

คอลินมองเด็กหนุ่มที่กำลังมองเขาอยู่เหมือนกัน หลังจากอธิบายสรรพนามที่คอลินสงสัยจนหมดสิ้นแล้ว เอซร่ามองคุณอา คุณอาของเขายังคงขรึมและนิ่งอยู่อย่างนั้น

"เอซร่า ลองเรียกใหม่ดูซิ"
"หืม ?"
"คุณอา .. แบบเสียงที่เธอเรียก"

เอซร่าเบิกตากว้างเล็กน้อยเม้มปากเรียกอย่างที่คนแก่กว่าบอก

"คุณ.. เอ่อ คุณอาฮะ"

"ฮึ.."

เว้นว่างได้ครู่หนึ่งคอลินกระแอ่มเสียงนั้นออกมาเป็นการหัวเราะเบา ๆ ที่เซ็กซี่ชะมัดในสายตาของเอซร่า ทั้งเสียงนั่น ทั้งบุคลิคชวนละลายใจหากได้เห็นอย่างที่เอซร่าเห็นเมื่อครู่ คุณอาเอานิ้วชี้เเตะปาก หัวเราะเบา ๆ เอียงศีรษะได้องศาเท่เป๊ะ ๆ เขาระบายยิ้มมุมปาก สายตาของคอลินมองตรงที่ยังเอซร่า ทำเอาเอซร่าอึกอักไม่สบตาตอบ

"ให้มันได้อย่างนี้ซี่ เอซร่า รู้ไหม คุณอาของเธอเขินกับสรรพนามที่เธอเรียกเสียแล้ว"

คอลินบอกตามตรง

"คุณอา"
"อื้ม เรียกอีกซี่"
"คุณอาฮะ...~"
"เรียกซี่ เรียกอีก ถ้าเป็นเธอจะเรียกอีกกี่ครั้งก็ได้"
"คุณ..เอ่อ.คุณอา. ."

 เอซร่าเม้มปากข่มอารมณ์ ไหนบอกคุณอาเขินไง ไหนล่ะ ไหนที่บอกว่าเขิน นี่ไม่ใช่ว่า เขาเขินแทนหรือ ดูสิ ดูสายตาคุณอามองกลับมาสิ เหลือเกิน!

"คุณอาคอลิน! คุณแกล้งผมหรอ!"
"เปล่านี่เด็กน้อยของอา อาจะเเกล้งเธอทำไม"
"คุณอาคอลิน!"
"ฮึ ๆ ขอโทษ ฉันไม่ว่าอะไร เรียกได้ ฉันอนุญาต"

เอซร่ามองคุณอาอย่างคาดโทษแต่ก็อมยิ้มแก้เขิน คุณอาจ้องกลับไม่หลบตาเหมือนกัน สุดท้ายแล้วเด็กน้อยก็แพ้

"คุณโอเคใช่มั้ย ที่เรียกคุณแบบนี้"


คอลินเอียงคอมองคนตรงหน้า ใครจะว่าลงกันเล่า ก็เพราะตอนเรียกเขาว่า คุณอย่างนั้น คุณอาอย่างนี้ สายตาเอซร่าอ้อนเขาอย่างกะอะไรดี เรียกไปเลย เรียกจนฉันหัวใจวายตายเพราะหมั่นเขี้ยวเธอไปเลยก็ได้เอซร่า

สรรพนามไม่แก่ไม่เด็ก กึ่งๆกลางๆแบบนี้ มันสั่นไหวหัวใจคน(เกือบ)แก่อย่างเขานักเชียว


"ชอบมาก จะเรียกตลอดไปเลยก็ได้"

คอลินตอบเอซร่า พร้อมรอยยิ้มสะท้านใจหลานอา
มาซี่ อาคนนี้จะดูแลเด็กน้อยเอง




วันเสาร์ที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[SF] TRY - ( #NEWTDENCe ) #FANTASTICBEASTS FICTION






'เครเดนซ์ ไม่ต้องกลัวนะ ให้ผมได้เข้าไปใกล้ ๆคุณนะ"

เครเดนซ์ได้ยินเสียงแหบแต่นุ่มนวล ดูใจดี เมื่อมองใบหน้าของเจ้าของเสียง เขาเห็นใบหนาของชายผิวขาว มีกระบนใบหน้า สำเนียงอังกฤษที่ฟังก็ไม่ใข่คนแถวนี้เป็นแน่ เขาข้ามน้ำข้ามทะเลมา แต่ทำไมถึงใจดีกับเขาเหลือเกิน

'เครเดนซ์ ผม นิวท์ สคามันเดอร์ ให้ผมไปอยู่ใกล้ ๆ คุณได้มั้ย'


เครเดนซ์อยากเอ่ยออกไป แต่ก้อนสะอื้นจุกที่คอ เขาไม่กล้าเอื้อนเอ่ยแม้แค่เสียง หากเขาคนนี้หักหลังเหมือนอย่างเช่นคนอื่น ๆ ที่เชื่อใจล่ะ

คนนั้น ๆ เจ็บใจ แค้นใจ แต่ก็คงสาแก่ใจคนทำแล้ว

'เครเดนซ์ ..'

เสียงแปร่งแบบบริติชเรียกชื่อเขาอีกครั้ง เครเดนซืผินหน้าไปมองเจ้าของเสียง นิวท์ สคามันเดอร์ยิ้มและมองเขาด้วยสายตาห่วงใย เอื้ออาทร ประหนึ่งแสงที่อบอุ่นสาดส่องมายังความมืดมิดที่หนาวเหน็บเช่นเขา


อยากไปอยู่ใกล้ ๆ คุณคนนี้จัง


คนฝั่งตรงข้ามนิวท์ สคามันเดอร์ยิ้มปรายบนใบหน้าอีกครั้ง แววตาใจดีประดุจเขาสามารถมอบอ้อมกอดให้ใครก็ได้ทุกเมื่อ เครเดนซ์มองเขา


'แม่อยู่นี่ ไม่เป็นไรนะ'


เสียงคนชาวเกาะอังกฤษเปล่งออกมา เครเดนซ์ได้ยิน

เครเดนซ์น้ำตาไหลอาบแก้ม

เครเดนซ์พยายามอ้าปากและ


เอ่ย





'แม่..

วันศุกร์ที่ 25 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[SF] KITTEN - ( #EzraColin / #colezra / #Gradence ) #FANTASTICBEASTS FICTION


[SF] KITTEN -
( #EzraColin / #colezra / #Gradence )
#FANTASTICBEASTS FICTION



---------------------------------------------------------------------------------------------




เป็นความรู้สึกอย่างหนึ่งที่บอกได้ยาก อธิบายออกมาเป็นคำพูดลำบาก

อยากลูบหัวเจ้าเด็กนั่นจังเลยแฮะ


คิดอะไรอยู่วะเรา

ไม่แน่ใจว่าตัวเขารู้สึก หรือมีอารมณ์ประมาณไหนอยู่ ที่จู่ ๆ ก็เห็นเจ้าเด็กร่าเริง ที่วิ่งไป ๆ มา ๆ ซนกับเด็กคนอื่น ๆ ในกองทั้งที่ตัวเองก็โตกว่าเขาควรปรามน้องบ้าง อย่างเจ้าเด็กเอซร่า มิลเลอร์ เหมือนสิ่งมีชีวิตน่ารักน่าชังที่ไม่ค่อยเข้ากับเขาเท่าไหร่นักอย่าง

“มีแมวเข้ามาในกองด้วยล่ะะะะะะะะะะ” เอซร่าที่ยืนอยู่ฝั่งตรงกันข้าม รายล้อมด้วยเด็ก ๆ ที่เป็นตัวแสดงประกอบในกองด้วย กำลังมะรุมมะตุ้ม เจ้าสิ่งมีชีวิตตัวเล็กขนปุยสีขาวล้วนที่เดินหลงมาจากไหนก็ไม่รู้ นำทีมโดยเอซร่าที่ตื่นเต้นกว่าใครเพื่อนร้องบอกคนในกองให้ดูเจ้าสิ่งมีชีวิตนี้ด้วยใบหน้าและเสียงร่าเริงสุด ๆ

ดีใจอย่างกับเจอเพื่อนคอลินเงยหน้าจากบทหนังเล่มหนาของตน ไปมองตามเสียงของเอซร่าที่ดังจนเหมือนจะแทบตะโกนอยู่แล้ว แว้บแรกเขานึกอยากดุเด็กคนนั้น แต่พอเงยหน้ามาเจอรอยยิ้มจัง ๆ บนใบหน้าหวานกึ่งหล่อเหล่แบบวัยหนุ่มของเอซร่าก็เล่นเอาเอ็ดไม่ลง


น่า..มันน่านัก มันน่านัก ในความหมายของคอลินนั้น เขาเองก็นิยามให้แคบลงไม่ได้แต่เอาเป็นว่า มันน่านักเชียว


คอลินมองเด็กโตอย่างเอซร่าและเด็ก ๆ ตัวน้อยในกองรุมลูบ ๆ คลำ ๆ แมวน้อยที่หลงมาอยู่พักหนึ่งแล้วก็ละสายตามา เขายิ้มกับตัวเองบอกว่า มีอะไรน่ารัก ๆ ในกองแบบนี้ให้ชื่นใจคนแก่ก็ดีเหมือนกัน

เจอยิ้มน่ารักแบบนั้นก็ทำให้หัวใจคนแก่ชุ่มชื่นขึ้นมาเหมือนเป็นคนหนุ่มขึ้นมาเชียวล่ะ


เด็กนั่นก็น่ารักไม่แพ้แมวนั่นเลยล่ะนะ




SPE





“คุณอา ดูแมวนี่สิ!
“คุณอา ?”
“จะให้เรียกว่าพี่มั้ยฮะ ?”
“ฮึ  ๆ ไม่ได้หรอกมั้ง ฉันแก่กว่าเธอตั้งเท่าไหร่”
“งั้นคุณอาลูบแมวนี่ดูสิฮะ”

คอลินทำตามที่เอซร่าเรียกร้อง


“นั่นหัวผมนะ ไม่ใช่หัวแมวซะหน่อย!” 

'หน้าบึ้งก็เหมือนแมว' คอลินคิด

วันจันทร์ที่ 7 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559

[FIC] B E T W E E N - #หยางเฟิง : CASE 2


TITLE : B E T W E E N
CHAPTER :   CASE  2
PAIRING : YANGYANG x LIYIFENG
RATE : PG
TALK :: ถ้ายังจำกันได้ อันนี้ตอนที่สองแล้วนะ ห่างกับตอนแรก 1 ปีกว่า ๆ 555




***********************************************************************




เริ่มเคสก็มีปัญหาซะแล้ว...

อี้เฟิงคิดไม่ตกว่าจะเอายังไงกับทีมอีกทีมหนึ่งที่จะต้องมาทำงานร่วมกันในวันนี้ ซึ่งวันนี้ก็คือวันแรกที่เริ่มทำคดีที่ได้รับมอบหมายจากผู้บังคับบัญชามา

จะเอาเรื่องกันตั้งแต่วันแรกเลยเหรอวะ มันจะทำอะไรให้มันเป็นผู้เป็นคนหน่อยไม่ได้รึไง อี้เฟิงสวดด่าอีกทีมในใจ ผู้กองผู้เถรตรงและเจ้าระเบียบอย่างอี้เฟิงเป็นที่รู้กันดีว่า หากใครเข้าประชุมสาย ไม่เตรียมข้อมูลเมื่อเข้าประชุม หรือแค่เพียงงีบหลับในที่ประชุมก็จะโดนเขม่นอย่างไม่ปิดปัง

“นี่คุณ!” อี้เฟิงทนไม่ไหว โพล่งออกไปหนึ่งคำใส่หัวหน้าชุดอีกทีมหนึ่งที่ไม่มีเค้าว่าจะตั้งใจเขาเลยซักนิด เหมือนกันเลย ลูกน้องอีกสามคนก็เอาหูไปฟังโน่น เอาตาไปมองนั่น ลูกน้องของอี้เฟิงสามคน เสี่ยวเอิน อี้ชิง และ จิ้งฝู หันไปมองหัวหน้าชุดของตนด้วยความเกรงและเกร็ง ผู้กองหลี่เวลาโมใช่ย่อยซะทีไหน ถ้าระดับพีคเข้า ห้องเละไปทุกที

“คร๊าบ ผู้กองหลี่” จากคำตอบและท่าทางของหัวหน้าชุดที่จะต้องมาร่วมงานกับอี้เฟิงอย่างหยางหยางจะไม่แทบไม่ได้ฟังข้อมูลที่อี้เฟิงแจกแจงไปอย่างละเอียด เขาพูดจนแสบคอเป็นชั่วโมง แต่ไอ้หมอนี่กับลูกทีมทำอะไร ? ฟังเพลง ดูคลิปโป๊ ? อ่านการ์ตูน ส่วนไอ้หมอนี่ ก็เอาแต่นั่งพับเครื่องบินกระดาษร่อนในห้อง

“จะมากไปแล้วนะ!” อี้เฟิงยังไม่ขึ้นเสียงเขียวใส่ ประโยคนี้ยังอยู่ในระดับเสียงโทนที่ยังถือว่าให้เกียรติกันอยู่มากหากเทียบกับมารยาทในห้องประชุมของหยางหยางและทีมนั่น มันใช้ไม่ได้เลย!

“อะไรละคุณ จะพูด ก็พูดไปสิ ผมก็นะ ถ้าอยากฟังก็จะฟัง ถ้าไม่ก็จะ....” หยางหยางพูดจบก็เอาเครื่องบินที่พับจากกระดาษรีไซเคิลที่หยิบคว้ามาจากกล่องกระดาษใต้โต๊ะส่งแรงร่อนตรงไปหาคนที่เปิดประชุมอย่างอี้เฟิง และเครื่องบินนั้นก็ร่อนชนปลายจมูกของอี้เฟิงและลงจอดที่สมุดบันทึกตรงหน้าที่วางอยู่บนโต๊ะห้องประชุม อี้เฟิงมองตามมัน บนเครื่องบินกระดาษนั่นเหมือนมีอะไรเขียนไว้


ตอนดุหน้าอย่างกะแมว เมี๊ยว ๆ เดี๋ยวพี่ชายจะให้อาหารนะ

อี้เฟิงทนอ่านมันจนจบพลางเม้มปากข่ มอารมณ์ทำให้ตัวเองเป็นผู้ใหญ่มากที่สุด และสุขุมมากทีก่อนที่จะเงยหน้ามองทุกคนในห้อง รวมทั้งเขาเองด้วย ทั้งหมด 8 ชีวิต ฝั่งหนึ่งทีมของเขาเอง หน้าซีดเผือก เพราะทุกคนรู้ดี หากผู้กองหลี่อี้เฟิงโมโห เรื่องราวต่อจากนี้จะเป็นเช่นไร มีใครจะรอดชีวิตบ้างมั้ยนะ ? อีกฝั่งหนึ่งนะหรือ ? ชุดของผู้กองหยางหยางแต่ละคนกวนได้ใจ ทั้งยิ้มขำ ทำท่าทางไม่สมกับการเข้าประชุมเรื่องเครียด ๆ อย่างคดีหนักที่เราทั้งหมดกำลังร่วมลงเรือลำเดียวกัน

“นั่นไง พวกนาย จริง ๆ  ด้วย อย่างที่ฉันบอก อย่างกะแมว แมวดุ “ ไม่พอ เขียนในกระดาษก็ยังไม่พอ อี้เฟิงเริ่มยั๊วะหนักมากขึ้น ความไม่เป็นผู้ใหญ่อี้เฟิงเริ่มน้อยลง และคิดว่าคงจะเท่ากับไอ้หมาบ้าที่นั่งยิ้มกวนเบื้องล่างเขาที่นั่งอยู่เยื้องจุดที่อี้เฟิงยืน

เชี่ยเอ๊ย
ผู้กองหลี่สบถในใจ ก่อนยิ้มเยือกเย็นที่สุดออกมา


“อย่าใช้วิธีเด็ก ๆ มาทำให้ฉันหมดความอดทน พวกแก อย่าทำมาเป็นรู้จุดอ่อนฉัน ไอ้พวกหมาบ้าเวร เงียบ ๆ ตั้งใจฟัง แล้วหุบปากซะ ไอ้เด็กบ้าตรงนั้นน่ะ! ที่อ่านการ์ตูนอยู่ อย่าคิดว่าผู้กองแกค้ำหัวแล้วจะทำห่าอะไรก็ได้ วางลง ส่วนแกจะให้ฉันเอาเท้าเหยียบโทรศัพท์แก หรือแกจะวางมันลงดี ๆ ที่เหลือ หยุดทำตาเหลือก แล้วฟังงานที่ฉันจะแจงให้ “


ทุกคนไม่ค่อยได้เห็นอี้เฟิงใช้คำหยาบเท่าไหร่ แต่ละคำออกมาด้วยน้ำเสียงและท่าทางเฉือดเฉือนจนหน้าสั่น แม้แต่เด็กในทีมของหยางหยางยังต้องทำอย่างที่อี้เฟิงขู่ไว้ อย่างน้อยอี้เฟิงก็ยศสูงกว่า อายุมากกว่า และสั่งโทษได้อีกทั้งยังมีเส้นสายใหญ่ในกรม พวกเขาขัดไปก็มีแต่จะซวย แต่ก่อนหน้านั้น เด็ก ๆ ทีมหยางหยางก็ผันหน้ามองหัวหน้าทีมก่อน


ตาเหลือกไปแล้วเหมือนกัน ...


หยางหยางอึ้งที่คนสุภาพที่สุดอย่างอี้เฟิงจะใช้คำหยาบ เพราะเอาจริง ๆ จากที่เคยพูดคุย หลี่อี้เฟิงมาจากตระกูลใหญ่ มีชื่อเสียง และเป็นคนสุภาพมากเท่าที่มนุษย์ทุกคนจะสุภาพได้ แม้ว่าจะเข้ามาในวงการตำรวจที่แสนจะดำมืด ก็ยังคงตัวตนเดิม (อย่างน้อยหยางหยางก็ต้องสืบเรืองผู้กองตัวท็อปคู่แข่งเขาบ้าง) วันนี้ได้มาฟังอะไรแปลกหูจากอี้เฟิง


“เอ้า ด่าขนาดนี้จะยอมฟัง “
“ขอบใจ แล้วนายก็ช่วยเลิกยิ้มแบบนั้น และก็เลิกพับเครื่องบินได้แล้วว้อย รำคาญเนี่ย!
อี้เฟิงทิ้งเสียงดังจนแทบตะโกนใส่หยางหยาง ก่อนจะทุ่มเอกสารรายละเอียดคดีทั้งหมดใส่หน้าผู้กองตัวแสบคู่ปรับของตน หลังจากนั้น เขาหันไปคุมอารมณ์ตัวเอง และกลับมาด้วยใบหน้าอันเรียนบสนิทอย่างที่ควรจะมีในห้องประชุม


“เอาล่ะ คดีนี้ก็หนักหน่อย สำหรับทีมแค่นี้ แม้จะได้คนมาสนับสนุนบ้าง แต่ก็ใช่ว่าจะใช้ได้  ไอ้พวกที่เราจะไปจับมันก็ร้ายไม่ใช่เล่น ระวังชีวิตของพวกนายไว้แล้วกัน “

อี้เฟิงเปิดเรื่องมาน่าสนใจ สำหรับหยางหยาง ด่ากันขนาดทำให้เขาตาเหลือกตกใจได้ ก็ฟังหน่อยแล้วกัน ถึงแม้ว่า ไอ้แฟ้มเอกสารบ้าบอทั้งหมดนี้น่ะ เขาจะอ่านมาหมดแล้วภายในคืนเดียวก็ตาม



B  E T W E E N


หลังจากที่คุยงานกันอย่างคร่าว ๆ ในวันแรก หนักเอาการ หยางหยางพาทีมออกมาก่อนอี้เฟิงจะเขม่นใส่อีกรอบ

“ดุใช่เล่นเลย ผู้กองหยาง ผู้กองหลี่น่ะ”
“เออ ก็เคยบอกไปแล้ว”
หลี่อี้เฟิงกับเขามันต่างกันสุดขั้ว ตั้งแต่ตัวตนยันทัศนคติ และการทำงาน ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าร่วมงานกันครั้งนี้จะอยู่ไปตลอดรอดฝั่งหรือเปล่า หรือจะพลั้งพลาดกันไปทั้งคู่ เพราะคดีที่ทำนี่

ไม่ใช่เล่นเลย

หยางหยางก้มอ่านแฟ้มของตนเอง รายละเอียดด้านในก็เหมือนกับที่อี้เฟิงโยนใส่หน้าเขามา แต่เขาก็มีอีกแฟ้มหนึ่งของตัวเอง และโน้ตทุกอย่างที่น่าสนใจ ไฮไลท์ส่วนที่สงสัย และไปคิดต่อ อนุมานบางอย่างที่จะเป็นไปได้


คดีของเถื่อน ขโมยของจากสุสาน


ถึงแม้ว่าเขากับอี้เฟิงจะเคยทำคดีหนัก ๆ คดีดังมาหลายอย่าง แต่นี่ระดับแดง 5 ดาว ความยากมันพีคถึงระดับนั้น เพราะถ้าหากจะว่ากันจริง ๆ เมื่อสาวไปแล้วก็ไปเจอตอใหญ่ที่ยากจะจัดการเหมือนกัน แต่ในส่วนแรกเขาก็ต้องสืบเรื่องราวขั้นต้นเสียก่อน จริงๆ ก็เคยมีคนทำคดีนี้ แต่ก็โดนตัดตอนกันไปหมด จนในที่สุดคนที่มาทำคดีชุดใหม่ก็ต้องสรุปคดีอย่างลวก ๆ ไป และรอให้หมดอายุความ แต่เพราะหัวหน้าของทั้งเขาและอี้เฟิงยังติดใจ และสงสัยอยู่มาก หัวหน้าของเขานั้นเป็นพวกตรงฉิน พูดจาเฉือดเฉือน และยุติธรรมที่สุด ในเมื่อได้มีอำนาจมาอยู่ในส่วนนี้แล้ว ก็ขอเอาซะหน่อยเถอะ

แผนกสืบ 0 ที่ตอนนี้มีแค่ทีมเขา และอี้เฟิง และทีมของหัวหน้าที่มีลูกทีมแค่เพียงเล็กน้อย


ชุดพิเศษนี้ ไม่ได้เพิ่งจะมี แต่มีมานาน แต่ผลงานไม่เป็นที่น่าประทับใจ คนก็เลยโยกย้ายไปโน่นนี่บ้าง เขากับอี้เฟิง มาจากคนละแผนกกัน แต่บางงานก็ได้เจอกันบ้าง คดีไม่ค่อยใกล้กันเท่าไหร่หรอก ถ้าอี้เฟิงทำงานสืบคดีอยู่ใกล้ ๆ ของหยางหยางก็จะห่างออกไป คนละพื้นที่กัน คือทางผู้บังคับบัญหาคนก่อนก็เห็นว่าไม่ถูกกันจึงจับแยก

แต่ในเมื่อตอนนี้ก็ดันมาอยู่แผนกพิเศษใหม่แล้ว ก็ยังไงล่ะ นอกจากเสียแต่ว่าต้องทำงานด้วยกัน


แผนกนี้ก็ได้มีผู้บังคับบัญชาให้เหตุผล

ให้พวกนายที่เป็นหัวกะทิของเรา ทำงานยากกันหน่อย


ท่านเล็งเห็นว่าเราจะได้เป็นตัวอย่างแก่ตำรวจทั่วทั้งกรมที่จะได้เห็นเราทำคดียาก ๆ และเมื่อสำเร็จก็ถือว่าเป็นแรงผลักดันตำรวจเหล่านั้น มาจุดนี้ในแผนกสืบสวน 0 คดีอะไรที่อยู่ในความสนใจ หรือเหนือความสามารถจะถูกมอบมาที่นี่


แผนก 0 ก็จะทำต่อไป ไม่แน่ใจว่า แผนก 0 หรือแผนกขยะกันแน่  แต่ที่แน่ ๆ มีแต่คดียากที่ปิดยังไงก็ไม่ลง และอายุความแทบจะสุดเส้นแดง หัวหน้าของเขาปวดกบาล เมื่อเข้าในที่ทำการของแผนก 0 วันแรก ลมแทบจับ นายเหนือหัวเราขึ้นไปกว่านั้น ตบบ่าให้กำลังใจ ก่อนยิ้มให้ เดินจากไปด้วยแววตาที่ดูมีความหวัง

“ผู้ใหญ่เหนือเรา เค้าจะให้เราทำอะไรกันแน่ “ หัวหน้าของหยางหยางและอี้เฟิงในตอนนี้พูดเช่นนั้น ก่อนจะเดินเข้าไปจมกองสำนวนมหาศาลในห้องและไม่ออกมาอีกเลย

จนวันนี้ก็โยนคดีมาให้ทั้งทีมของเขาและอี้เฟิง เปิดเคสแรกก็ปวดกบาลแล้ว เริ่มตั้งแต่ความเข้ากันไมได้เลยของทีมเขาและอี้เฟิง

ก็จะให้ทำยังไง ในเมื่อไลน์การทำงาน ต่างกันขนาดนี้ แต่ก็มีแค่ต้องปรับหากันเท่านั้นล่ะ  ยกเว้นว่าจะลาออกไปกันเสียก่อน


“เฮ้อ ให้ตายเหอะ”
หยางหยางยืดตัวผ่อนคลายตัวเองหน่อย ตอนนี้เขาอยู่ในห้องทำงานส่วนตัวที่พอมีที่นั่งให้บ้าง นอกจากสำนวนหลาย ๆอย่างที่กองเป็นตั้ง ๆ ห้องนี้เป็นส่วนตัวสำหรับผู้กองอย่างเขาที่เป็นหนึ่งในหัวหน้าชุดทำงาน ข้าง ๆ เป็นห้องอี้เฟิง ที่เห็นผ่านกระจกว่ากำลังอ่านแฟ้มคดีแรกอยู่คร่ำเคร่ง ส่วนลูกทีมของเขา นั่งกันอยู่ตรงโต๊ะรวมใหญ่ในโถงที่ทำการ

แหม่ ที่นี่ก็บอกเป็นแผนก 0 แผนกเทพที่เทพอยู่ อย่างไรกันล่ะ เหมือนที่เก็บขยะชะมัด


ทั้งรก ฝุ่นเยอะ ก็นะ เป็นที่ที่รวมของยาก ของแรร์ ไม่มีใครอยากแตะ


ได้ข่าวว่ามีอาถรรพ์แผนกนี้อยู่ด้วย


จะต้องมีคนตายอย่างค่ำ3 จาก 5 ถ้ามีมากกว่า 5 ให้นับสัดส่วน


แล้วจะเหลือกันกี่คนละนี่ ถ้าหากเป็นจริงดังที่เขาลือ ๆ กัน
อันที่จริงก็ไม่ได้แค่ลือ มันก็เกิดขึ้นจริงตามที่วากันมานั่นล่ะ คนเลยย้ายหนีกันหมด เพราะกลัวตัดตอนตาย และพวกเขาคือเซตต่อไป นี่เหมือนเอาพวกเขามาสังเวยอะไรซักอย่าง


ก็หวังแค่ว่าจะไม่มีใครตาย สงสัยจะต้องไปหาอะไรมาคุ้มหัวกันหน่อย ที่ไหนมีของขลังกันบ้างมั้ย ที่เมืองไทยอาจจะมี ไว้มีเวลาว่างจะบินไปดู หาแจกทุกคนในแผนก แน่นอน สำหรับทีมผู้กองหลี่คนนั้นด้วยเหมือนกัน

ถึงแม้จะไม่ค่อยชอบขี้หน้าแล้วก็หมั่นไส้ก็เถอะ

“จะเริ่มยังไงดีวะ “ อ่านแฟ้มทั้งหมดไป ๆ มา ๆ ก็อยากจะเริ่มทำตั้งแต่สเตปแรกที่ไปเดินสืบหาตามร้าน หรือปลอมตัวเข้าไป แต่ท่าทางจะงานยาก เพราะเคยมีคนไปทำแล้วก็เป็นศพกลับมา เพราะพวกนั้นดันรู้ว่าเป็นสายตำรวจ หรือเป็นตำรวจเข้าไปหาเรื่องตาย


คงต้องหาวิธีใหม่ที่แยบยล แต่วิธีดั้งเดิมแบบนี้ยังคงต้องเก็บไว้อยู่ เป็นทางเลือกสุดท้าย ก็ปลอมให้มันเนียน ๆ แล้วกัน หากจะใช้
 “เสี่ยวอิง ขอกาแฟฉันแก้วนึง” หยางหยางตะโกนออกไปนอกห้องหลังเมื่อเปิดประตูออกไปที่โถงที่ทำการของแผนก เสี่ยวอิงลูกทีมของหยางหยาง สาวน้อยหนึ่งในสองคนจากในทีมสองทีมบวกกัน ตอบรับและเดินไปชงกาแฟตามที่ผู้บังคับบัญชาสั่ง

คล้อยหลังจากนั้นหยางหยางเดินมานั่งที่เดิม คิดหาวิธีด้วยใจที่นิ่งสงบ แม้จะร้อนรุ่มด้วยไฟการทำงาน เขาคิดว่ามันต้องมีวิธีดี ๆ และผู้กองหลี่ก็เหมือนกัน ก็ต้องแข่งกันล่ะในการประชุมคัรั้งหน้า ซึ่งหัวหน้าของพวกเราจะเข้าด้วย วิธีของใครจะเข้าวิน เมื่อครู่ตอนเปิดประตูออกไป เขายังเห็นอี้เฟิงหน้านิ่วเป็นแมวอึไม่ออกอยู่ ก็คงยังจนใจแบบเขา

“ขอบคุณ” เสี่ยวอิงเอากาแฟมาให้ และยิ้มให้กำลังใจหัวหน้าของตน เธอแถมขนมที่เธอซื้อมาให้ด้วยบอกว่าเผื่อสมองจะได้แล่น


หยางหยางพยักหน้าและเอ่ยขอบคุณซ้ำ และเธอก็ผลักออกจากห้องไป หยางหยางซดกาแฟรวดเดียวโดยไม่แตะขนมเลยซักนิด ตอนนี้ยังไม่มีอารมณืกินของหวานเท่าไหร่

มือเรียวของหยางหยางคว้ากระดาษรีไซเคิลที่อยู่ในกล่องแถวเครื่องปริ้นท์มาแผ่นหนึ่ง และลงมือพับตามใจ ก็ออกมาเป็นเครื่องบินกระดาษอีกนั่นล่ะ ก่อนร่อนมันออกจากห้องลอดช่องหน้าต่างที่เขาเปิดทิ้งไว้รับลม ม่านสีฟ้าปลิวไสวลู่ไปกับแรวลมที่พัดมาเอื่อย ๆ ผู้กองหมาป่ามองตามเครื่องบินกระดาษลำนั้นออกไป



ปัง!




“เสียงอะไร!” คนแรกที่โผล่พรวดเข้ามในห้องทำงานของหยางหยางเหนือความคาดหมายนิดหน่อบ


“เอ่อ ไม่มีอะไรผู้กองหลี่”
“เสียงปืนน่ะนะ ไม่มีอะไร!
“ผมน่ะไม่ แต่เครื่องบินกระดาษของผมลำนั้นน่ะที่เป็น”

หยางหยางชี้โบ้ยไปทางหน้าต่าง แต่ไม่ให้อี้เฟิงก้มโผล่หน้าออกไปนอกหน้าต่าง โดยกันตัวอี้เฟิงไม่ให้เข้าใกล้ริมหน้าต่าง แต่เขายืนตรงนั้นเสียเอง แต่อี้เฟิงก็เห็นว่าเครื่องบินกระดาษที่ลู่ลมอยู่ดี ๆ นั้นก็ตกลงพื้นแบบกะทันหันก็เพราะกระสุนนัดหนึ่งทะลุบินเครื่องบิน เล็งยิงอย่างแม่นยำ มันเลยมีจุดจบไม่สวยเท่าไหร่นัก


“ใคร”
“ผมจะรู้มั้ย”
“เราจะต้องลงไปดูวิถีกระสุน”
“รู้ แต่ยังไม่ใช่ตอนนี้”
“เดี๋ยวมันก็หายไปหรอก”
“มันยังอยู่แถวนี้”
“ก็แล้วไง ถ้าปล่อยนานมันก็จะหนีไปนะว้อย”
“ถ้าออกไป และมันยังอยู่ คุณอาจจะเป็นรายต่อไปที่จะโดนยิงแบบเครื่องบินกระดาษลำนั้น”
“ผู้กองหยาง ถ้านายกลัวก็รอตรงนี้”
“ผู้กองหลี่ คุณใจเย็น ๆ หน่อยได้มั้ย ผมที่เป็นคนบ้าบิ่นตอนนี้ ใจเย็นกว่าคุณเสียอีก”

เท่านั้นอี้เฟิงจึงรู้สึกตัว  มือเขาสั่นเล็กน้อย แรงโกรธ แรงตกใจ แรงประหลาดใจ
เพราะไม่มีใครมาลอบทำร้ายกันใกล้ขนาดนี้ และนี่เพิ่งจะเริ่มคดีด้วยซ้ำ


“ของนายแน่ ๆ คนเกลียดนายเยอะแยะ นายชอบตัวอย่างกะว่าเก่งนักหนา”
“เอ้า ไม่คิดว่ามันจะเป็นของคุณบ้างหรือ ?  คุณก็อวดดีไปทั่ว หมั่นไส้เรื่องพ่อคุณก็มีเยอะนะ”

แต่ไม่วายหาเรื่องมาแขวะกันจนได้


หยางหยางก้มมองเครื่องบินกระดาษที่น่าสงสารลำนั้น อี้เฟิงขมวดคิ้วอยู่ใกล้ ๆ ด้วยสัญชาตญาณ มันรู้ดีกันอยู่แล้ว ทั้งคู่นั่นล่ะ ว่านี่เป็นการเริ่มต้นที่ไม่ง่ายเหมือนคดีที่เคยทำทั่วไป วันแรกก็ต้อนรับกันขนาดนี้ เตือนกันอย่างโจ่งแจ้ง สาดกระสุนรับชวัญกันแบบไม่เกรงใจฟ้า


เออ ก็ดี ! จะได้รู้กัน


ทั้งสองคนต่างไม่รู้กันและกันว่า พวกเขาต่อให้ดูหวาดหวั่นเล็กน้อยและตกใจกับเหตุการณ์ตรงหน้า แต่เนื้อตัวพวกเขาสั่นไปหมดเพราะความท้าทายใหม่






------------------------------------------------------------------------------------------tbc case 3

ps. เป็นตำรวจแล้ว แต่งง่ายขึ้นหน่อยค่ะ 555555555555